ปีศาจหน้าหล่อ

เป็นคลิปของ AP

จะๆ เลยครับ อยู่ใต้บันใด ฝั่งไอทีสแควร์ ยิงแบบไม่เล็งเป้า 

ไม่แปลกใจที่ฝั่ง กปปส. มีคนมาช่วยและ ผู้ชุนนุมต้องยิงสวนปกป้องตัวเอง

ปี52 น้ำมันราดถังแก๊ส ทอดไข่เจียว ปี 53 ลากถังแก๊ส ทำผัดกระเพรา 

ปี 57 จุดเทียน เตรียมก่อไฟหุงข้าว แหม้ กว่าจะครบสำรับ

ตั้งไปเหอะครับ ต่อให้ อเมริกา ช่วยด้วยเอ้า

คนไทย เรา ถ้าได้ปฏิรูป การเมือง

ลดการโกง กระจายอำนาจ

ทำให้ข้าราชการ ไม่ผูกติด กับ รัฐบาล

ทุกคน มีอิสระ ในการทำงาน

เอาความดี ความสามารถ เป็นที่ตั้ง

ผมอยากทราบ จริง ๆ ว่า ถ้า

มีการเปลี่ยนแปลง ในทางที่ดี เกิดขึ้น

ประชาชน สามารถ ทำมาค้าขาย

ได้โดยไม่ต้อง จ่ายส่วย

ชาวนา ขายข้าว ได้ เพราะผู้ส่งออก

ไม่ต้องพะวง กับราคาข้าว ที่ขึ้น ๆ ลง ๆ

การค้าเป็นไปตาม กลไกตลาด

ท้องถิ่น สามารถ บริหาร งบประมาณ ส่วนใหญ่

ได้เอง การ พัฒนาท้องถิ่น เกิดขึ้น

เพราะการแข่งขัน กันจะเป็น แหล่งสร้างงาน

เพื่อให้ได้ เก็บภาษี เพื่อนำไปบริหารเอง ได้มากขึ้น

ถ้าประเทศ พัฒนาไปอย่างที่ควรจะเป็น

ผมไม่มีความเห็น ว่าเราต้องไปกลัว รัฐบาล พลัดถิ่น

ตรงไหน รัฐมนตรี ขี้โกง จะอยากไปบริหาร

ในอเมริกา ก็ให้อเมริกา ลองดู ว่า

พวกนั้น สามารถ ทำงาน แบบซื่อตรง ได้ไหม

อย่ากลัวที่จะ ขจัด สิ่งเลวร้าย

ครับ ทำไปเถอะ อะไรที่สร้างสรรค์

กลัว ภาพเสือ เราก็เป็นได้ แค่วัว

ถ้า ปราศจากความกลัว เราก็เป็น สิงห์ ได้

ทำไมระเบิด กระสุน วางเพลิง...

ถึงต้องเกิดกับฝ่ายต่อต้านแม้วและปูทุกครั้ง?

ทั้งแกนนำฝ่ายต้าน สส.ปชป. อดีตนายกคู่แข่งไอ้แม้ว

ทำไมระเบิดไม่เคยลงบ้านอีปูเลย?

ทำไมบ้านแกนนำเสื้อแดงไม่เคยถูกลอบวางระเบิด?

และทำไมบริเวณชุมนุมของเสื้อแดงไม่เคยโดนอะไรเลย?

ขอแชร์ประสบการณ์จริง

มีญาติที่ดองกันเป็นคนอีสาน ในถิ่นที่อดีตเคยมีคอมมิวนิสต์เยอะแยะมากมาย

แถบนี้จังหวัดที่ติดกันทุกจังหวัดเลือกเพื่อไทยยกจังหวัดกันทั้งนั้น

คนแถวนี้ 90% เค้าไม่คุยการเมืองหรอก

เรื่องไกลตัวเกินไป ยิ่งลักษณ์ กปปส อะไรนั่น

สิ่งที่ใกล้ตัวคือ ใครลงสมัคร อบต อบจ สส

จะให้ค่าตอบแทนเท่าไหร่

เค้าไม่รู้สึกผิดที่รับเงินจากผู้สมัคร

เค้าคิดว่ามันคือประเพณีที่ต้องตอบแทนกัน

คุณอยากได้คะแนนเสียง คุณก็ต้องลงทุน ต้องทุมเทจริงจัง

ญาติเราลงสมัคร อบต

เป็นคนที่ชาวบ้านนับถือมาตลอดชีวิต

ใครขาดเหลืออะไร ก็มาบอกกล่าว ขอร้องให้ไปช่วย

ลูกชาวบ้านจะบวช ไม่มีเครื่องไฟ เครื่องเสียงจัดงาน  ก็มาขอยืม

ลุงแกก็ให้ยืมฟรีๆ ไปคุมเครื่องให้ด้วย  เพราะเห็นเป็นคนบ้านเดียวกัน

ใครจะต่อเติม ก่อสร้างบ้านนิดๆหน่อยๆ ซึ่งถ้าไปจ้างผู้รับเหมาก็จะแพงมาก

แกก็จะลงแีรงช่วยเหลือ ให้ยืมอุปกรณ์ก่อสร้างด้วย

แล้วแกก็ไม่ได้ลงทุนช่วยเหลือชาวบ้านเพื่อหวังผลประโยชน์

แกทำแบบนี้มาเป็นสิบๆปี

พูดถึงความรู้ ความสามารถ ลุงแกก็เป็นข้าราชการบำนาญ

ไม่น้อยหน้าใครถ้าจะเป็น อบต

นิสัยก็ขยันทำมาหากิน ทำสวนทำไร่ประกอบกับรับราชการ จนซื้อที่ดินขยายออกไปกว้างขวาง

ตอนลุงแกลงสมัคร  อบต ญาติๆบอกแกว่า แน่ใจหรือว่าจะได้

ผู้สมัครคนอื่นแจกตั้ง 2000 ส่วนแกไม่แจกเงินเลย แล้วจะไปได้ได้ยังไง

ลงุแกมั่นใจในความมีคุณธรรมของชาวบ้าน

คนดีก็ต้องเลือกคนดี

ผลการเลือก อบต น่ะหรือ

แกแพ้คนที่แจกเงินเยอะที่สุดนั่นแหละ

ไม่กี่วันต่อมา มีคนแถวนั้นจะจัดงานอะไรซักอย่าง

มาขอยืมเครื่องไฟ เครื่องเสียงตามเคย

ลุงแกไม่อยู่ คนที่มายืมเลยคุยกับลูกๆของลุง

ลูกลุงต่อว่าต่อขานว่า ทำไมไม่ไปยืมกับ อบต ล่ะ

มายืมลุงแกทำไม

คนมายืมบอกให้ช้ำใจหนักเข้าไปอีกว่า

"เห็นไม่แจกเงินเหมือนคนอื่น เลยคิดว่าลงเล่นๆขำๆ"

สรุป ชาวบ้าน เห็นความตั้งใจจริงของผู้สมัคร ตรงที่การแจกเงิน

ถ้าแจกเงินแสดงว่าตั้งใจจริง ทุ่มเทจริงที่จะเป็น อบต ให้ได้

ตั้งแต่บัดนั้น ลุงแกหนีเข้าสวนลึกๆไปเลย เข้าสวนโน้น ออกไร่นี้

ใครจะมาหยิบยืมอะไร ก็ไม่เจอตัวแกหรอก

ส่วนพี่เมียของลุง ซึ่งเป็นอดีตครูใหญ่ รร รัฐบาลละแวกนั้น ข้าราชการบำนาญเหมือนกันกับลุง

เพราะความเป็นครูที่ทุกคนเกรงใจ

คนที่ลงสมัคร อบต อบจ สส ก็รับรู้ว่านี่คือครูที่สั่งสอนเรื่องคุณธรรม จริยธรรม

เลยไม่เคยมีใครมาซื้อเสียงตรงๆกับแกเลย

เพิ่งมีครั้งล่าสุดนี่แหละ ที่มีการเลือกตั้ง ท้องถิ่น

ป้าแกได้ มา 1500 ด้วยความงุนงง

เพราะผู้สมัครนับจำนวนคนในบ้าน แล้วให้เงินมายกครัว

ป้าแกรู้อีกที ตอนที่น้องสาวอีกคนบอกว่า หัวคะแนนเอามาแจก

อีกเรื่อง คนรู้จักกัน อยู่อีสานใต้

แม่เรียกร้องให้ลูกๆที่ทำงานกรุงเทพฯ  2 คน กลับไปเลือก อบต ให้ได้

เพราะแม่แกรับเงินจากหัวคะแนนมาแล้วเบ็ดเสร็จทั้งบ้าน 6 คน 9000 บาท!!

ลูกต้องซิ่งรถกระบะกลับบ้าน

ระหว่างทางรถติดมาก

(คงจำกันได้ ช่วงออกพรรษาปีที่แล้ว ที่รถออกเมืองมุ่งหน้าอีสานติดสาหัสสากรรจ์ เพราะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นกันแทบทุกจังหวัด)

ใครๆก็อยากกลับบ้านไปเลือกตั้งกันทั้งนั้น ประชาธิปไตยเบ่งบานเป็นสีเทา สีม่วง ชาวบ้านรู้จักหน้าที่กันดีมากกกกกก

สองคนนี่กลับไปไม่ทันเลือกตั้ง ปิดหีบไปซะก่อน

แม่เครียด เพราะเอาเงินไปใช้หมดแล้ว ต้องหาเงินมาคืนหัวคะแนน

แล้วยังกลัวมองหน้ากันไม่ติด

ลูกๆเซ็งมาก เสียเงินค่าน้ำมันรถเปล่าๆ ขาดรายได้วันนั้น เหนื่อยที่ต้องตีรถไปตีรถกลับในวันเดียว

แถมยังต้องเสียเงินให้แม่ไปคืนหัวคะแนนอีก

แถมอีกเรื่อง

คนข้างบ้าน ทะเบียนบ้านอยู่สุพรรณ

เลือกตั้งทุกครั้งต้องกลับไปเลือกตั้งทุกที

ได้มาครั้งละพัน

หักค่ารถประจำทางปรับอากาศแล้วได้กำไรเห็นๆ

คนนำข้อมูลมาเสนอ อย่างน้อยก็ควรอ้างอิงแหล่งที่มาได้ บางทีเจอพวกป่วนซะผมก็มึนเหมือนกัน 

ถ้าคุณพ่อไอ้ตอม คิดว่าข้อมูลไหน ที่่คนในนี้เอามาลงแบบผิดๆ ก็ติเตียนกันได้ครับ ชี้แจงให้ทราบว่าข้อมูลมันไ่ม่จริง คนอื่นที่ไม่รู้เค้าจะได้รู้ด้วยว่ามันผิด ผมเชื่อว่าคนในนี้พร้อมจะแก้ไข และคงไม่นำข้อมูลผิดๆ นั้นไปส่งต่ออีกแน่นอน 

หนักนิดเบาหน่อยภาพจริงภาพล้อขำๆ ก็ว่ากันไป แต่เห็นช่วงไม่ก่ีวันนี้ มีปรากฏการณ์อย่างหนึ่ง

คือไม่สนความถูกต้องของข้อมูลที่เอามาลง ไม่ต้องสกรีน ข้อความไม่ตรงต้นทางก็ไม่ต้องเช็ค 

ถ้าเป็นพวกป่วนก็ไม่เท่าไร แจ้งลบ  แต่นี่หลังๆเป็นเราๆกันเอง

มีทั้งภาพเฟสปลอม ข่าวก็ดังว่ามันปลอมนะ ก็เอามาลง

บิดข้อความ เอามาผสมความเห็นส่วนตัวจน สื่อมาคนละเรื่อง 

ข่าวปล่อยเขาเล่าว่า  บางทีเป็นข่าวนานแล้วมาเสริมโน่นนั่นนี่

ถ้าตำรวจไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ เราคนไทยก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ยอมรับการใช้กฎหมายของตำรวจ และเมื่อถึงวันนั้นที่พวกกรรู ประกาศไม่จ่ายภาษี มาจับพวกกรรูเข้าคุก วันนั้นตำรวจต้องมีกำลังมากกว่าประชาชนนะ ไม่งั้นเมมมิงเละแน่ ไอ้ตะกวด 

เป็นพรรคการเมือง แล้ว ต้องลง เลือกตั้ง

ทุกครั้ง อย่างนั้น หรือครับ

การทำการเมือง จำเป็น ต้องเป็น สส ตลอด

งั้นหรือ ถ้าอย่างนั้น นักการเมือง

ที่ไม่ได้เป็น สส ก็อยู่บ้าน เฉย ๆ

ทำธุรกิจ ส่วนตัว ไป หรือเปล่า

ไม่เอาน่า การทำงานการเมือง

คือการ เข้าถึง ประชาชน

ไม่ใช่ เข้าถึง เฉพาะ ตอนไปหาเสียง นี่นา

การไปแวะ เยี่ยมเยียน สอบถาม ทุกข์สุข

มันก็งาน ของนักการเมือง

ที่ผ่านมา ปชป เอง ก็ไม่ค่อย

ได้ เข้าถึง มวลชน ที่คิดในแนวทาง

เดียวกันเลย มันเลยเกิดช่องว่าง

ระหว่างพรรคการเมือง กับประชาชน

เดี๋ยวนี้ ที่เห็น คือ เข้าใจ ประชาชน

ที่คิดในแนวทางเดียวกัน ได้มากขึ้น

ใครจะมอง อภิสิทธิ์ ฮาร์ดคอร์ มากขึ้น

สำหรับผม ผมว่า มันต้อง พูดกันตรง ๆ แบบนี้

เข้าถึง กันจริง ๆ แบบนี้

ไปทำอย่าง รุ่นเก่า ๆ ปชป

พอเืรื่องดี เอาด้วย พอเสียชื่อ ถอยฉาก

เค้าเรียก เอาแต่ได้ ถ่ายเดียว

ซึ่งแน่นอน นี่คือการ เปลี่ยนแปลง

เสื้อแดง จะมอง ไม่ดี ก็แน่นอน

เราไม่เคยคิดอย่างเดียวกัน อยู่แล้ว

แต่ผมถามเสื้อแดง ตรง ๆ นะ

เวลาที่ สส เพื่อไทย มาหาคุณ

เฉพาะ ตอนเลือกตั้ง พอเป็น สส

ก็หายหัว จะมา อีกที ก็ตอน อยากได้

พวกคุณ ไปแสดงพลัง ปกป้อง เพือไทย

แล้วคุณชอบ พวกเขาไหม

ผมเห็นหลายคน ใน บ้านราษฎร

จะรักพวก สส แกนนำ นปช

เพราะเหมือน จะอยู่ข้างเดียวกัน

ตลอด แต่ สส กลุ่ม เจ๊แดง นายหญิง

ก็ดูเหมือน คิดว่า พวกนี้ ลอยตัว

เวลาเสื้อแดง มีปัญหา ก็เรียกหา ไม่เจอ

แบบนั้น ด้วย นี่นา

เค้าเรียกว่า ถ้ามี นักการเมือง

ที่หาตัวไม่เจอ หรือ ไม่้มี จิตใจ

เป็นน้ำหนึ่งเดียวกัน กับ ประชาชน (อย่างน้อย ก็ฝั่งตน)

แต่เป็นพวก เอาแต่คำชม ไม่เอา เรื่องเสียหาย

เป็นพวกใจไม่ถึง พึ่งไม่ได้

ไม่ร่วมหัว จมท้าย

ผมถามจริง ๆ เสื้อแดง ชอบ

ที่จะเห็น นักการเมือง เพื่อไทย เป็นแบบนี้ไหม

หัวมันหงอกเต็มกระบาลเลย แต่สติปัญญาไม่ได้เพิ่มตามหัวทีหงอก 

ก่อนอื่นต้องเข้าใจระบบศาลบ้านเราก่อนว่า เป็นระบบกล่าวหา แล้วให้แต่ละคนสู้ด้วยพยานหลักฐาน
โดยถือว่าจำเลยบริสุทธิ์ ตามหลักสากล จนกว่าจะจำนนด้วยหลักฐาน และเปิดโอกาสให้สู้คดีในอีก 2 ศาล

กรณี ตายายขี่มอไซค์ไปเก็บเห็ด บังเอิญว่าไปอยุ่ในบริเวณที่เค้าลักลอบตัดไม้ แล้วพอเค้าหนี ก็หนีตามกลัวโดนจับไปด้วย แต่เนื่องด้วยว่าดันจอดมอไซค์ทิ้งไว้ เลยโดนหมายจับ และมาโดนทนายหลอกให้เซ็นต์ยอมรับ ก็เสมือนจำเลยรับผิดเอง ตอนนี้กรมคุ้มครองสิทธิ์พยายามช่วยอยู่
(http://www.rlpd.moj....-11-07-08-18-59)

กรณีเมียเซ็น ผัวติดคุก เนื้อหาก็คือ ผัวที่มีฐานะ นายกฯ ไปเซ็นค้ำประกันซื้อที่ดินของรัฐ ผิดกฎหมายอาญานักการเมือง  (ถ้าลาออกทำงานเอกชนแล้วมาเซ็น ไม่ติดคุกหรอก)
(http://hilight.kapook.com/view/30132)

กรณีแพรวา  ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้คนอื่นเสียชีวิต โทษติดคุก แต่เนื่องจากเป็นเยาวชน (ไม่เกี่ยวกับรวยจน) ก็ให้รอลงอาญา (ทุกประเทศ) แต่ทางแพ่งต้องจ่ายค่าเสียหายแก่ญาติผู้เสียชีวิต
(http://news.mthai.co...ews/187402.html)

กรณีลูกเฉลิมยิงดาบยิ้ม ถูกยกฟ้องด้วยความสามารถของทนายว่า แสงไฟสลัวมองไม่ชัดว่าใครยิง กับผลชันสูตรไม่ตรงกับพยานโจทย์บอก (แต่ช่วงที่ดวงเฉลิมหลบหนี ไม่รู้มีการข่มขุ่พยาน หรือแปลงหลักฐานหรือเปล่า) ฝ่ายโจทย์ไม่มีการอุธรณ์ คดีเลยจบไป
(http://www.manager.c...127949&TabID=3)

กรณี อดีตอาจารย์ นิด้าตีหัวภรรยาตาย เป็นการสารภาพจำเลยฝ่ายเดียว ไม่มีพยาน จำเลยไม่หนี และมีการไกล่เกลี่ยญาติผู้เสียชีวิตก่อนขึ้นศาลฎีกา (ถ้ามีกล้องวงจรปิด คดีอาจมีพลิก)

( http://news.sanook.c...crime_16873.php )

กรณีเขายายเที่ยงที่ยกฟ้อง บริเวณนั้น ก่อนจะประกาศเป็นป่าสงวน เดิมมีชาวไร่ชาวนาจนๆอยู่ เมื่อประกาศ กรมป่าไม้ได้ออกใบอนุญาตครอบครองที่ดินครอบครัวละ 15 ไร่แต่ไม่ให้กรรมสิทธิ์ที่ดิน(2520) ซึ่งนายเบ้าได้ขายที่ดินส่วนนึงให้คนอื่นหลายทอด จนมาถึง สุรยุทธ์ (2546)

 (http://www.manager.c...D=9530000002631 )

กรณีป่าสงวนเขาแพง ศาลเพิ่งตรวจพลักฐาน 11 พย. 56
(http://www.dailynews...ารณาศาลเกาะสมุย)

ปล.เห็นบางคนด่าศาล อยากให้ใช้สมองดูสำนวนคดีนิดนึง บางคดีโดนบิดเบือนยังไม่รุ้เลย
ศาลไม่ได้ตัดสินจากคนรวยคนจน มันอยู่ที่ ตำรวจ อัยการ จะทำคดีให้ถูกต้องแค่ไหน

คนรวยได้เปรียบ ที่มีเส้นสายตำรวจ จนถึงอัยการ และจ้างทนายเก่งๆ แต่ก็ใช่ว่าชนะ

อย่างคดีเมียเซ็น ผัวติดคุก รวยแค่ไหน หลักฐานชัดเจน ก็ไม่รอด ถึงขนาดส่งทนายยัดสินบน แต่ศาลไม่รับและสั่งฟ้อง แต่ทว่าอัยการกลับไม่สั่งฟ้องซะงั้น

เขียนผิดพลาดประการใด แจ้งแก้ไขด้วยยยย

คุณปู จิตกร บุษบา ช่างสรรค์หาคำและตัวอย่าง

มาแสดงให้เห็นภาพอยู่เสียเรื่อยเชียว.... 

รัฐบาลซึ่งไว้ใจเรื่องการใช้เงินงบประมาณก็ไม่ได้ ไว้ใจเรื่องการออกกฎหมายก็ไม่ได้ ไว้ใจเรื่องการใช้อำนาจก็ไม่ได้ ยังสมควรเป็นรัฐบาลรักษาการ ใช้งบประมาณ ใช้อำนาจ และดูแลจัดการการเลือกตั้ง โดยที่ตัวเองก็ลงแข่งขันด้วยอย่างนั้นหรือ เราเอานักกีฬาที่ขี้โกง มาเป็นทั้งกรรมการและผู้เข้าแข่งขันเสียเลยอย่างนั้นหรือ

 

https://www.facebook...korn?ref=stream

ปาก “ประชาธิปไตย” แต่ใจมัน “ตอแหล” !!

นอกเหนือจากคำว่า “อีโง่” ที่พิมพ์ลงไปในระบบการค้นหาของ “กูเกิ้ล” แล้วเจอรูปนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โผล่ขึ้นมาเป็นจำนวนมากแล้ว ผมกับเพื่อนกำลังถกเถียงกันว่า ยิ่งลักษณ์อาจมีสถิติใหม่ที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นอีกอย่างคือ เธออาจเป็นผู้หญิงที่ถูกด่าว่า “ตอแหล”มากที่สุดในโลกก็เป็นได้ ว่างๆก็อยากให้ อ.สุขุม เฉลยทรัพย์ ลองสำรวจดู

                โดยเฉพาะเวลานี้ ซึ่งควรเป็นเวลาของการสำนึกผิด เวลาของการขอโทษ และเปิดทางให้บ้านเมืองได้เกิดการปฏิรูป แต่นางยิ่งลักษณ์ยังคงเดินหน้า“แสร้งว่าไม่เข้าใจ”หรือพูดง่ายๆ ว่า “ตอแหล” ต่อไป อย่างไม่ลด ละ เลิก  เช่น

                1) เมื่อเวลา 11.00 น.ของวันอังคารที่ 17 ธันวาคม 2556 ที่สโมสรทหารบก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีที่กลุ่ม กปปส.เรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรักษาการว่า ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญถือเป็นความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีที่ต้องบริหารประเทศจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ ไม่ใช่ว่าจะลาออกได้เลย ซึ่งต้องรับหน้าที่ไปจนกว่าจะมีผู้ที่มารับตำแหน่งใหม่ตามกลไกรัฐธรรมนูญสำหรับการเลือกตั้งมีพระราชกฤษฎีกา(พร.ฎ.)การเลือกตั้งขึ้นมาแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องทำให้การเลือกตั้งดำเนินไปตาม พ.ร.ฎ.ดังกล่าว ตามที่ประกาศไว้ คือวันที่ 2 ก.พ. 2557

                ตอบนางยิ่งลักษณ์ : นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานรัฐสภาและประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ตอบคำถามในเว็บไซต์“มีชัยดอทคอม” เกี่ยวกับข้อสงสัยทางกฎหมายว่า นายกรัฐมนตรีลาออกในระหว่างรักษาการได้หรือไม่ โดยมีรายละเอียดของคำถามและคำตอบดังนี้

                “คำถาม - เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 คืออะไร - มาตรา 7 จะใช้ได้เมื่อได้ และขอบเขตการใช้อยู่ที่สถานการณ์ หรือบริบทแบบไหน พระราชดำรัส 25 เม.ย.2549 จะเป็นบรรทัดฐานของการใช้หรือไม่ใช้ มาตรา 7 ไหม

                คำตอบ - มาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญเขียนไว้สำหรับกรณีที่เกิดเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่ไม่มีบทบัญญัติเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญว่าจะให้ทำอย่างไร ก็ให้ทำไปตามประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เช่น ในกรณีมีการยุบสภา รัฐธรรมนูญมีบทบัญญัติรองรับไว้ว่า จะต้องทำอย่างไรกันต่อไป กล่าวคือ กำหนดให้คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งให้อยู่รักษาการต่อไป ก็ต้องรักษาการต่อไป จะไปใช้มาตรา7 ก็ไม่ได้ เพราะเป็นกรณีที่มีบทบัญญัติไว้แล้วในรัฐธรรมนูญ แต่ถ้านายกรัฐมนตรีเกิดตายไป หรือง่อยเปลี้ยเสียขา หรือเบื่อขี้หน้าเต็มทีไม่อยากอยู่รักษาการต่อไป ลาออกเสียดื้อๆ ก็มีกฎหมายรองรับว่า รองนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งก็ขึ้นรักษาการต่อไป อย่างนี้ก็นำมาตรา 7 มาใช้บังคับไม่ได้อีก

                แต่ถ้านายกรัฐมนตรี ตาย หรือง่อยเปลี้ยเสียขา หรือเบื่อขี้หน้าขึ้นมาพร้อมๆ กับรัฐมนตรีคนอื่นๆ จนไม่มีใครเหลืออยู่ สภาผู้แทนก็ไม่มีแล้ว เพราะยุบไปแล้ว อย่างนี้ก็จะเห็นได้ว่า ไม่มีบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตราใดบอกไว้ว่าจะต้องทำอย่างไร แต่ตามประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข บ้านเมืองจะต้องมีคณะรัฐมนตรีเพื่อบริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง ก็ต้องหาทางตั้งคณะรัฐมนตรีขึ้นมาบริหารประเทศให้จงได้ เหลือองค์กรอำนาจอะไร ก็ต้องใช้องค์กรอำนาจนั้นเท่าที่มีอยู่เพื่อให้บ้านเมืองเดินต่อไปได้  ที่มีคนบอกว่าในระหว่างรักษาการนั้นลาออกไม่ได้น่ะ น่าจะเข้าใจผิดอะไรบางอย่าง

                การลาออกเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ถ้าไม่อยากอยู่ในตำแหน่งอะไร ก็ไม่มีใครบังคับให้ต้องอยู่ต่อไปได้ ขนาดคนเป็นข้าราชการตำแหน่งเล็กๆ น้อยๆ วันดีคืนดีไม่อยากเป็นข้าราชการต่อไปจะลาออกเสียเมื่อไรก็ได้ อย่างมากที่ทางราชการจะทำได้ ก็คือ การยับยั้ง ซึ่งก็ทำได้เพียงชั่วคราวไม่เกินสามเดือน หลังจากนั้นก็ต้องยอมให้เขาออกไป แต่ตำแหน่งรัฐมนตรีไม่มีกฎหมายอะไรบังคับไว้ว่าใครจะยับยั้งได้ บทบัญญัติที่ให้รักษาการกันอยู่ต่อไปน่ะ ใช้เฉพาะกรณีพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะเท่านั้น ไม่ได้ใช้กับกรณีที่ต่างคนต่างทยอยลาออกหรือล้มหายตายจากไป อย่าว่าแต่เรื่องลาออกเลย ถ้าในระหว่างรักษาการ เกิดมีรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งทำทุจริตคิดมิชอบเสียจนรับต่อไปไม่ได้ หรือเกิดเบื่อขี้หน้าขึ้นมา  นายกฯ ก็ยังมีอำนาจกราบบังคมทูลเพื่อเอาออกจากตำแหน่งเสียได้ มิใช่หรือ

                ก็ทีรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ในมาตรา 126 ชัดๆ ว่า “คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล และองค์กรอื่นของรัฐ” ยังมีรัฐมนตรีออกมาแถลงอย่างโจ่งแจ้งว่าไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้ แล้วพอมาตรา181 บัญญัติว่า “คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่ง ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป” ถึงกับจะยอมผูกมัดจนแปลไปว่าลาออกก็ไม่ได้ทีเดียวหรือ”   

 

                2) นางยิ่งลักษณ์กล่าวอีกว่า ต้องเรียนว่า ตนมาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา หากจะขอไปก็ขอไปโดยกระบวนการของการเลือกตั้ง และเชิญชวนทุกคนให้ใช้กติกาการเลือกตั้ง ที่ถือเป็นกติกาที่ทุกคนและนานาประเทศยอมรับในการตัดสินผู้ที่จะมาเป็นผู้นำรัฐบาล ส่วนผู้ที่จะมานำเรื่องการปฏิรูปประเทศ ก็มีกลไกอยู่ และอยากเชิญชวนทุกคนว่ากลไกนี้ เป็นกลไกที่ได้รับการยอมรับ จึงขอความเห็นใจว่า เรามาจากการเลือกตั้ง อยากให้การเลือกตั้งเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ

                ตอบนางยิ่งลักษณ์ : ไม่เคยมีใครปฏิเสธเลยว่า นางยิ่งลักษณ์และพวก “เข้าสู่อำนาจ” อย่างถูกต้อง ผ่านกระบวนการการเลือกตั้ง และได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนให้เป็นเสียงส่วนใหญ่ จึงได้สิทธิในการจัดตั้งรัฐบาล ภายหลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรส่วนใหญ่เลือกให้เธอเป็นนายกฯ

                แต่เมื่อได้อำนาจมาแล้ว  เธอ“ใช้อำนาจ”นั้น อย่างมีธรรมาภิบาล อย่างมีนิติธรรม อย่างซื่อตรงต่อหลักการประชาธิปไตย และอย่างมียางอายหรือไม่     

                เธอออกคำสั่งโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนสี อย่างไม่เป็นธรรม  จนกระทั่งศาลปกครองมีคำสั่งให้คืนเก้าอี้เลขาฯ สมช. ให้แก่นายถวิล  จนบัดนี้เธอก็ยังไม่ได้ทำ และนายถวิลยังคงได้รับความอยุติธรรมจากนางยิ่งลักษณ์และพวกต่อไป

                เธอใช้อำนาจนายกฯและรัฐบาลทุ่มงบประมาณแผ่นดินลงไปกับโครงการรับจำนำข้าว แต่เพิกเฉย ใช้อีกมาตรฐานหนึ่งกับเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน หลังจากนั้นก็ไปช่วยเหลือผู้ปลูกข้าวโพดได้ เสมือนที่ช่วยชาวนา เงินงบประมาณที่ทุ่มลงไป ไม่เคยเปิดเผยตัวเลขการใช้จ่ายให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องและประชาชนผู้เป็นเจ้าของเงินตรวจสอบได้เลยว่า ซื้อข้าวมาเท่าไหร่ ขายไปเท่าไหร่ มีผลกำไร เท่าทุน หรือขาดทุนอย่างไร ขณะนี้เก็บข้าวไว้รอวันเสื่อมสภาพอีกเท่าไหร่ เป็นหนี้เท่าไหร่ มีการคดโกงกันไปเท่าไหร่ ชาวนาจริงๆได้เท่าไหร่ ธ.ก.ส.จะเจ๊งหรือไม่  ชาวนาที่กำลังประท้วงอยู่เวลานี้ จะได้เงินวันไหน

                เธอ, ผู้คนในพรรคและในคณะรัฐบาลของเธอ ผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งเป็นกฎหมายที่แสนชั่วชาติ  เป็นการเอาอำนาจของประชาชนไปออกกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่โจร ซึ่งเป็นคนในครอบครัวของผู้นำรัฐบาล และตัวนางสาวยิ่งลักษณ์เอง ก็จะพลอยได้ประโยชน์จากกฎหมายฉบับดังกล่าวด้วย หากกฎหมายมีผลนิรโทษกรรมแก่คดีทุจริตของทักษิณ ชินวัตร ยิ่งลักษณ์ซึ่งร้องสอดไว้ในศาลว่าทรัพย์ส่วนหนึ่งในคดี เป็นทรัพย์ของเธอ ยังไม่รวมขี้ข้าบริวารและผู้รับใช้ของเธอ ที่ก่อการปลุกปั่น ยั่วยุประชาชนให้ใช้ความรุนแรง บุกโรงพยาบาล เผาห้าง เผาโรงหนัง เผาร้านค้า เผาศาลากลาง ซึ่งควรได้รับโทษตามกฎหมาย หากศาลพิจารณาและพิพากษาออกมา  แต่กฎหมายดังกล่าวก็ไปทำลายอำนาจฝ่ายตุลาการ ซึ่งบางคดีศาลตัดสินไปแล้ว(คดีที่ดินรัชดา, คดีร่ำรวยผิดปกติของทักษิณ) เป็นกฎหมายที่ทำลายหลักการถ่วงดุลอำนาจฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติและตุลาการ ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งไม่ใช่พฤติกรรมของ “คนที่เคารพประชาธิปไตย” ยังจะหน้าด้าน แอบอ้างความเป็นประชาธิปไตยอย่างไม่กระดากอาย

                และยิ่งลักษณ์กับพวกมิใช่หรือ ที่สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยที่มาของ ส.ว. ซึ่งศาลได้วินิจฉัยแล้วว่า เป็นการแสวงหาอำนาจ ซึ่งไม่เป็นไปตามวิถีทางที่กฎหมายบัญญัติ  ไม่เคารพหลักการประชาธิปไตย เพราะไปตัดสิทธิ์เสียงข้างน้อยไม่ให้ได้อภิปราย ไม่ให้ได้ทำหน้าที่แทนปวงชนชาวไทยอีกส่วนหนึ่ง และใช้วิธีการ “ทุจริต” ทุกขั้นตอน คือ ปลอมแปลงสับเปลี่ยนเอกสารที่นำเข้าสู่การพิจารณาของสภา  คดโกงในการนับวันแปรญัติ และทุจริตในการลงมติ ด้วยการกดบัตรแสดงตนแทนกันและลงมติแทนคนที่ไม่ได้อยู่ในที่ประชุมด้วย  ต่อมา ยังออกแถลงการณ์ไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเท่ากับไม่ยอมอยู่ภายใต้กฎหมายสูงสุดของราชอาณาจักร  อย่างนี้ ยังจะอ้างความชอบธรรม อ้างกฎหมาย อ้างความเป็นประชาธิปไตยอย่างหน้าหนาๆ อยู่ได้อย่างไร ช่างหน้าไม่อายจริงๆ

                ก็เพราะพฤติกรรมเลวชาติ ขาดความเป็นประชาธิปไตย ขาดความน่าเชื่อถือ ขาดความเคารพกฎหมาย แสวงหาแต่อำนาจและประโยชน์เข้าตัวอย่างนี้ไม่ใช่หรือ  ประชาชนเขาจึงออกมาเดินขบวนกันเป็นล้านๆ คน เพื่อให้ออกไปจากอำนาจ เปิดทางให้มีการปฏิรูป ซึ่งไม่ใช่การปฏิรูปโดย “รัฐบาลที่เป็นโมฆะ” ประกาศตนอยู่เหนือกฎหมาย

                คนเขาไม่ได้รังเกียจการเลือกตั้ง  แต่เราจะเลือกตั้งกันไปทำไมในเวลานี้ ที่รัฐบาลที่ทำผิดกฎหมาย ไม่มีจิตใจประชาธิปไตย ไม่มีธรรมาภิบาล ยังไม่ได้แสดงความรับผิดชอบอะไรเลยสักอย่างในสิ่งที่ตนกระทำ  ทั้งความล้มเหลวในการบริหาร ขับเคลื่อนนโยบาย การใช้อำนาจโยกย้ายข้าราชการอย่างไม่เป็นธรรม การออกกฎหมายที่ขัดกับรัฐธรรมนูญและมุ่งให้ได้มาซึ่งอำนาจ  รัฐบาลสันดานแบบนี้หรือ ที่คนเขาจะวางใจให้เป็นผู้อยู่จัดการเลือกตั้ง

                นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง สร้างความเสียหาย  และนักการเมืองชุดเดียวกันนั้น บอกว่าไม่เป็นไร ฉันยุบสภาแล้วไปเลือกตั้งใหม่กันดีกว่า  ถามว่า มันเกิดการแก้ไขปัญหา และลงโทษต่อคนที่ต้องรับผิดชอบอย่างไรบ้างล่ะครับ   

 

                3) เมื่อถามต่อว่า ในฐานะที่เป็นรัฐบาลรักษาการ จะทำอย่างไรให้การจัดการเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์และยุติธรรม นายกรัฐมนตรีรักษาการกล่าวว่า ในที่ประชุม ครม.ได้มีการขอความร่วมมือ เพราะรัฐบาลต้องประสานกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ซึ่งรัฐบาลยินดีให้ความร่วมมือในการจัดการเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม และโปร่งใส อีกทั้งขอเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งให้ผลการเลือกตั้ง เป็นที่ยอมรับของทุกคน

                ตอบนางยิ่งลักษณ์ : พูดถึงความรับผิดชอบทั้งหลายก่อนดีไหม นักศึกษารามถูกปิดมหาวิทยาลัย ไล่ฆ่าทั้งวันทั้งคืน มีนายกฯประเทศไหนเขาหน้าด้านอยู่โดยไม่รับผิดชอบบ้าง จำนำข้าวสร้างความหายนะ ฉิบหายวายป่วงไปทุกกระบวนการ มีนายกฯประเทศไหนเขาหน้าด้าน ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้บ้าง ปฏิเสธอำนาจศาล ออกกฎหมายช่วยโจร ฯลฯ เหล่านี้จะรับผิดชอบอย่างไรคะ นักข่าวก็ไม่(***) ถามแทนประชาชนซะด้วย

                รัฐบาลซึ่งไว้ใจเรื่องการใช้เงินงบประมาณก็ไม่ได้ ไว้ใจเรื่องการออกกฎหมายก็ไม่ได้  ไว้ใจเรื่องการใช้อำนาจก็ไม่ได้  ยังสมควรเป็นรัฐบาลรักษาการ ใช้งบประมาณ ใช้อำนาจ และดูแลจัดการการเลือกตั้ง  โดยที่ตัวเองก็ลงแข่งขันด้วยอย่างนั้นหรือ  เราเอานักกีฬาที่ขี้โกง มาเป็นทั้งกรรมการและผู้เข้าแข่งขันเสียเลยอย่างนั้นหรือ  

 

                4) เมื่อถามว่า ถ้ามีโอกาส อยากจะกลับมาทำงานบริหารประเทศและแก้ปัญหาให้กับประชาชนอีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องรอให้มีการเลือกตั้งก่อน ยังไม่ขอพูดประเด็นนี้ ส่วนตัวสนับสนุนให้มีการปฏิรูป เพราะเราได้เสนอให้มีเวทีปฏิรูปมาก่อนหน้านี้แล้ว

                “ต้องเรียนว่าดิฉันเป็นคนไทย เกิดบนแผ่นดินไทย ก็อยากทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน น้อมรับในทุกบทบาทที่พี่น้องประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินให้ดิฉัน และจะขอยืนเคียงข้างรับใช้พี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทไหน”

                ตอบนางยิ่งลักษณ์ : ก็ถ้ารักประเทศไทยจริงๆ ประชาชนเขาขอโอกาสปฏิรูปประเทศ โดยประชาชน ไม่ใช่โดยคุณ ซึ่งเป็นผู้ทำลายหลักการของประเทศ ทำไมคุณไม่ให้เขาล่ะ

                ขอย้ำคำเดิมนะครับคุณยิ่งลักษณ์ครับ  กรุณา “ลดความตอแหลลง และเพิ่มความรับผิดชอบต่อแผ่นดินถิ่นเกิดของคุณซะ”  อย่าให้คนเขาเกลียดชังคุณมากไปกว่านี้เลย  อย่ารับใช้พี่ชายจนทำลายชีวิตของคุณให้มากไปกว่านี้เลย

http://www.naewna.co...columnist/10138

เสริมอีกหน่อย

อย่าเชื่อในสิ่งที่ชอบครับ

ต้องเชื่อในสิ่งที่ตรวจสอบได้เท่านั้น