Tom PR

มีแนวโน้มจะถูกปิดอีกไหมครับ

ประเทศร่ำรวยจากการมีคนขยัน ทำงานสร้างสิ่งของที่มีความต้องการสูง

ประเทศไม่ได้ร่ำรวย จากการที่รัฐบาลพิมพ์ธนบัตรออกมามากๆ เอามาให้แจกคนปลูกข้าว ในแง่เศรษศาสตร์ผลของการกระทำแบบนี้คงมีแต่เพียงทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ สิ่งที่คสช ทำในมุมมองของผมเป็นเพียงการทำความสะอาดขี้ เยี่ยวที่รัฐบาลก่อนทำทิ้งไว้แล้วไม่เก็บกวาด

ส่วนที่หอการค้าบอกว่า ทำให้จีดีพีปีนี้มีโอกาสโต 3% นั่นคือการตีความอนาคตระยะสั้นโดยใช้ มุมมองของนักเศรษฐศาสตร์สำนักเคนส์ เพียงอย่างเดียวครับ

นักการเมืองสมัยปัจจุบันทั่วโลก นิยมใช้มุมมองของนักเศรษฐศาสตร์สำนักเคนส์ในการบริหารเศรษฐกิจของประเทศ เกล่าคือเขาเชื่อและต้องการให้ผู้อื่นเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงปริมาณของเงินในระบบเศรษฐกิจจะไม่ส่งผลโดยตรงต่อราคาสินค้า ราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากแรงกดดันในทางเศรษฐกิจ ดังนั้นจะพิมพ์เงินออกมาแจกมากขนาดไหนก็ได้ ถ้าคนมีเงินเยอะ คนจะใช้เงินมากๆ ทำให้คนอยากผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นเอง ส่งผลทำให้ GDP สุงขึ้น เราจึงเห็นว่านักการเมืองส่วนใหญ่ในโลกนี้เกือบ 100 ทั้งร้อยชอบบริหารเศรษฐกิจของประเทศโดยใช้มุมมองของนักเศรษฐศาสตร์สำนักเคนส์ เพราะการใช้เงินของรัฐบาล ในมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์สำนักเคนส์เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่ม GDP

แต่ในความเป็นจริงนั้น การพิมพ์เงินออกมาแจกมากๆ หรือใช้ซื้อสินค้าในราคาที่สูงกว่าท้องตลาด ย่อมที่จะต้องส่งผลแน่นอนคือทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ

ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางแล้วว่าทฤษฎีปริมาณเงิน (quantity theory of money) เป็น ทฤษฎีที่สามารถใช้อธิบายและคาดการณ์รูปแบบของเงินเฟ้อในระยะยาวได้ดีสุด ดังนั้นข้อตกลงในหมู่นักเศรษฐศาสตร์เกี่ยวกับเงินเฟ้อก็คือ อัตราเงินเฟ้อในระยะยาวจะขึ้นอยู่กับอัตราการขยายตัวของปริมาณเงิน

1 แสนล้านเข้าตลาด ก็รอรับภาวะสินค้าขึ้นราคาได้เลยครับ (ในระยะยาว)

น่าจะประมาณเดียวกับอี้แทนคุณและอภิสิทธิ์ครับ

เพียงแต่คนที่เหลือเขาไม่พูดมากเท่านี้

ขอวิจารณ์ในเชิงเศรษฐศาสตร์ เท่านั้นครับ ประเด็นที่ผู้เขียนมีแค่

1 Thailand risks financial markets taking fright, cutting it off from international capital.

2 The cost of the country’s political crisis and lack of economic direction is fast becoming clear

หมายถึง ไทยมีความเสี่ยงที่ตลาดเงินจะไม่มีคนมาลงทุนจากต่างประเทศ ค่าความเสียหายจากความยุ่งเหยิงทางการเมืองและการไม่มีความชัดเจนทางนโยบายทางเศรษฐกิจเริ่มที่จะชัดเจนมากขึ้น ซึ่ง 2 หัวข้อนี่ง่ายต่อการคาดเดา หลังจากนั้นผู้เขียนร่ายยาวไปเรื่อย ว่าอะไรเป็นตัวแปรที่จะบอกอนาคตของประเทศ แต่ถูกหรือเปล่าไม่มีใครรู้

2 หัวข้อนี้ไม่ยากต่อการแก้ไขครับ ขึ้นอยู่กับว่าจะแก้หรืิอเปล่า

การลงทุน ถ้าคุ้ม มีประกันว่าเขาไม่น่าขาดทุน (ความเสี่ยงต่ำ) เงินก็เข้า

ส่วนโยบายทางเศรษฐกิจ เน้นกลไกตลาดเสรี แค่นี้เขา (ตปท) ก็เลิกเชียทักษินแล้ว

นักการเมืองคือแหล่งปัรหาของการพัฒนาประเทศ  แหล่งของการคอรัปชั่น

 

อีกมากมาย

 

 

  ตอนนี้อยากให้ ผบทบ. บริหารประเทสไปก่อน

คนบริหารประเทศมิใช่นักการเมืองหรืิอท่าน