ขอแก้ข่าวครับพี่ พอดีผมก็เคยทำงานเป็นผู้จัดการคลังที่วังน้อยแต่ออกไปก่อนน้ำท่วม1-2เดือนครับ
ของขาดตลาดผมได้คำตอบจากทางรัฐว่าไงรู้ไหมครับ
"คลังสินค้าของห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่สองเจ้าอยู่ในเขต วังน้อย อยุธยา น้ำท่วม
ของเลยขาดตลาด" เวรกรรมจริงๆที่ผมอยู่ใกล้ไอ้คลังสินค้าสองเจ้าที่ทางรัฐอ้างถึง
แต่พนักงานหนีกลับบ้านกันไปหมดแล้ว
น้องๆบอกว่าหนีไปตั้งหลัก ไม่ได้หนีกลับบ้านครับ เค้าย้ายศูยน์กระจายสินค้าไปอยู่ชลบุรี
แน่นอนว่าการเดินทางจากที่นั่นกระจายไปตามห้างค้าปลีกที่น้ำท่วมใช้เวลามากกกกกกกก
แต่เข้าใจความหายที่พี่บอก คือรัฐบาลคิดอะไรไม่ได้ก็อ้างว่าเพราะศูนย์กระจายสินค้าถูกน้ำท่วม
แต่ก็ไม่มีปัญญาที่จะแก้ปัญหาในเรื่องกระจายของไปยังผู้ประสพภัย
เรื่องพนักงานคลังสินค้าหนีไป เหตุที่ผมบอกว่าหนีไปเพราะ เจอรถขนพนักงานของคลัง
สินค้า ค้าปลีกยักษ์ใหญ่เจ้าหนึ่งกำลังขนพนักงานเต็มคัน ผมเลยถามว่าไปไหนกัน
เข้าใจว่าไปตั้งหลักตามศูนย์อพยพ น้องๆในรถตอบกลับมาว่า กลับบ้านไปก่อน ค่อยว่ากัน
ทำให้ผมเข้าใจว่าในขณะนั้นคลังสินค้าที่ทางรัฐอ้างถึงพนักงานหนีกลับบ้านหมดแล้ว
ตอนนั้นผมยังพอจ่ายค่าสมาชิกทรูวิชั่นได้ ก็เลยได้ดูข่าวว่าเขาจะย้ายไปขนส่งสินค้าทางอากาศ
(แอบนินทาอีกครั้งทรู งกจริงๆ ขนาดน้ำท่วมไม่สามารถไปจ่ายบิลได้ ดันมาตัดสัญญาณซะงั้น
แถมพอน้ำลด จะกลับมาดูต่อเหมือนเดิม ดันบอกให้เราไปแจ้งความว่ากล่องหาย
จากเหตุน้ำท่วม งง ดิครับ เราก็มอบอำนาจแจ้งความตามมันบอก ก็เลยมาเปลี่ยนกล่อง
ให้ใหม่เป็น HD พอมาเจอปรากฎการณ์จอดำ และคำว่า
"ลองไม่จ่ายค่าสมาชิกสักเดือน ก็ตัดสัญญาณแล้ว" ของคุณ ธนา GMMZ ก็ถึงกับบางอ้อ
ความจริงจานดาวเทียมทุกจานไปไม่ควรตัดสิทธิพื้นฐานในการรับชมฟรีทีวีนะครับ
ถึงแม้เขาไม่จ่ายค่าสมาชิก หรือ มีเหตุให้จ่ายไม่ได้ก็ตาม เพราะข่าวสารเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ
ในยามวิกฤต)
นอกเรื่องไปไกลแล้ว กลับมาต่อมีเพื่อนสมาชิกบางท่านมาหลังไมค์ชี้แจ้งเช่นเดียว
กับคุณ darkknight เรื่องการย้ายฐานไปชลบุรี ขอบคุณมากๆครับ
สำหรับข้อมูล จริงๆผมไม่โทษความผิดคลังสินค้าหรอกครับ ถ้าภาครัฐบริหารจัดการดี
คงไม่มีเรื่องขาดแคลนสินค้า หรือ เกิดอุปทานความกลัวขึ้นในพื้นที่ที่น้ำยังท่วมไม่ถึง
จนกักตุนสินค้า เป็นเหตุให้พื้นที่ที่น้ำท่วมต้องขาดแคลนสินค้า แม้กระทั่งบริเวณใกล้เคียง
เช่น สระบุรี แป๊ปซี่ หากินไม่ได้นานเลยหลังจากน้ำท่วม หรือ ลิปตัน ไอซ์ที
ผมเป็นคนติดไอซ์ที คนหนึ่งเลยสังเกตุเรื่องหยุมหยิมแบบนี้
ถ้าท่วมอีกทีบอกตรงๆว่า ไม่กลัวแล้ว เหตุที่ไม่กลัว ไม่ใช่เชื่อมั่นในรัฐบาลหรือฝีมือการบริหาร
ของภาครัฐ แต่มาจากปัจจัยต่างๆเหล่านี้
1. ตอนนี้ผมก็ป้องกันเต็มรูปแบบ แบบที่ทุกๆนิคมอุตสาหกรรมทำ โดยคณะผู้ออกแบบ
หรือพูดตรงๆว่า "คณะอาจารย์วิศวกร" ผมเรียกทุกๆท่านว่า "อาจารย์" เพราะได้ความรู้
จากท่านเหล่านี้ไม่น้อยในการป้องกันพื้นที่ของเรา ท่านคำนวนการป้องกันโดย
ใช้เกณฑ์สมมุติว่าถ้าปล่อยน้ำจากเขื่อนภูมิพล และ เขื่อนสิริกิติ์ ทั้งหมดแล้วพื้นที่จะรอดไหม
ทุกๆนิคมใช้เกณฑ์สมมุติเดียวนี้กับผมทั้งหมด เลยทำให้พอมั่นใจ แต่ผมยังกังวลกับ
ทฤษฎีหนึ่งที่บอกว่า ถ้าทุกๆนิคมกั้นน้ำหมด รวมถึงโรงงานและสถานที่อื่นๆ
จะเกิดปรากฎการณ์น้ำเอ่อล้น น้ำเท่าเดิมแต่ปริมาณสูงกว่าเดิม
เนื่องจากพื้นที่เหล่านั้นที่เคยรับน้ำไว้ ทำการ "ป้องกันตัวเอง" กันหมด
2. จากการผ่านประสบการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา ทำให้ผมและทุกๆคนรับสภาพ
และเตรียมพร้อมรับมือได้ทุกเมื่อ เพราะเรากลายเป็น "ผู้มีประสบการณ์" มาแล้ว
(จริงๆตอนนี้ถ้าน้ำท่วมนิคมไหนอีก ผมน่าจะจัดทีมไปรับประมูลงานกู้โรงงานได้เลยนะ)
3. อันนี้สำคัญที่สุด และมีค่ามากคือ "น้ำใจคนไทยด้วยกัน"
ที่ผมเห็นมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ผมลองพูดให้ทุกๆท่านนึกภาพตาม
ในชนบทสหรัฐเราสามารถโบกรถขอติดรถไปไหนก็ได้บนไฮเวย์
แต่ที่เมืองไทยไม่มีเรื่องแบบนั้นในยามปกติ แต่กลับกันพอเวลาน้ำท่วม
ลองไปขอโบกรถใครตามทางก็ได้ เขายินดีช่วยเราทั้งนั้นไม่ว่าระยะทางใกล้ไกล
เราสามารถติดรถเขาไปได้ในจุดที่ทั้งสองฝ่ายสะดวก ผมเองยังรู้เป็นหนุ่มขึ้นก็เพราะ
โหนรถกับเขานี่แหละ รถสิบล้อ รถบรรทุก ท้ายปิกอัพ ขอเขาขึ้นได้หมดครับ
แม้กระทั่งขนมอเตอร์ไซค์ ผมเห็นเจ้าของปิคอัพคันหนึ่งจอดรถลงมาให้ความช่วยเหลือ
เจ้าของมอเตอร์ไซค์ที่พยายามขี่ลุยน้ำมาแต่ไปต่อไม่ได้ เพราะน้ำเชี่ยวมากๆ
ถนนพหลโยธินเป็นถนนวิบัติไปเลยครับเมื่อเจอกองทัพน้ำ เอารถใหญ่ไปกินหลายคันแล้ว
ผมเห็นจากรถบรรทุกจำนวนมากที่เจ้าของทิ้งไว้ เนื่องจากเจอน้องน้ำโจมตีจนตกข้างทาง
น้ำใจจากทหาร และ พระสงฆ์ก็ไม่แพ้กัน ทหารเอารถมาคอยรับคนในขณะที่ต้องกลับไป
ขนสิ่งของช่วยเหลือในกรุงเทพ ทำภารกิจได้เกินงบประมาณที่รัฐบาลให้แล้วกัน
อย่าไปตัดงบทหารเลย ถ้าจะต้องใช้งบซ่อมแซ่มยุทธโธปกรณ์เหล่านั้น เพราะช่วยคน
มาแล้วจำนวนมากจริงๆ พระสงฆ์ที่ใส่เสื้อชูชีพถือโทรโข่ง มือถือวิทยุสื่อสาร
จะมีครั้งไหนที่จะได้เห็นภาพแบบนี้ พระมาคอยโบกรถที่ผ่านไปมา แล้ว
คอยถามเจ้าของรถว่าไปไหน และขอให้คนเดือดร้อนขึ้นรถไปด้วย
และแจกข้าวกล่องระหว่างผู้คนคอยรถกัน
นี่เป็นหลายๆเรื่องที่เพื่อนๆสมาชิกหาอ่านไม่ได้จากสื่อทั่วไป เพราะบางสื่อ(ส่วนใหญ่)
เดี๋ยวนี้เน้นทำข่าวทางอากาศ และ รายงานภาพพอเป็นพิธี