เราคนไทยสามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อประเทศ ?
#1
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 17:52
ผมจำได้ว่าตอนปี 1 ผมเรียนกฏหมายมหาชน อาจารย์บอกว่า รัฐธรรมนูญ คือกฏหมายที่สูงสุดของประเทศ
ทุกคนในประเทศอยู่ภายใต้กฏหมายรัฐธรรมนูญ และจะมีกฏหมายอื่นใดมาขัดมิได้ ขณะนั้นคือของปี 40
ปีถัดมาผมขึ้นปี 2 เกิดการปฏิวัติ และฉีกรัฐธรรมนูญ ...กฏหมายที่สูงที่สุด
เหมือนความเชื่อ และ หัวใจของผมโดนฉีกไปด้วย พร้อมคำถามในใจว่า
" ไอ้*** ในเมื่อ รัฐธรรมนูญ เป็นกฏหมายสูงสุดแล้วทำไมคนแค่กลุ่มเดียว***ฉีกได้วะ "
ผมเกลียดทหารนับจากนั้น ... โดยเฉพาะทหารบกเพราะเป็นเหล่าเดียวที่มักจะปฎิวัติและทำสำเร็จ
ต่อมา ผมก็ตามติดเรื่องการเมือง ตามข่าวอ่านหนังสือ จนเรียนจบ ผมได้ไปศึกษาต่อที่อเมริกา 2 ปี
ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า ประเทศของเรา ไม่ใช่เพราะทหาร ไม่ใช่เพราะนักการเมือง ไม่ใช่พรรคไหนหรอกที่ผิด
สิ่งที่ทำให้พวกเราเป็นในแบบทุกวันนี้คือ ... ความคิดของพวกเราต่างหาก ความคิดที่เห็นแก่ตัวของพวกเรา
ยกตัวอย่างเช่นการจราจรที่ติดทุกวันนี้ ....ผมเคยโดนใบสั่งที่เมกา เรื่อง speeding ผมอ้างกับตำรวจว่าต้องรีบไปสอบ
เพราะรถมันติด ผมก็เลยแซงๆ ตามปกติวิสัยที่ทำได้แบบตอนอยู่เมืองไทย !
ตำรวจพูดว่า งั้นทำไมคุณไม่ตื่นให้เร็วขึ้นอีก 1 ชม.ละ .......มันสะท้อนให้เห็นว่า แทนที่คุณจะเปลี่ยนระบบ
ทำไมเราไม่เสียสละมาเปลี่ยนที่ตัวเราเองละ ....
คนไทยในตอนนี้ อีโก้ สูง และทุกคนมีความเชื่อมั่นในความคิดตัวเองอย่างแรงกล้า เรียกได้ว่าน้ำเต็มแก้ว
ผมได้เดินทางกลับมาประเทศไทยและทำธุรกิจส่วนตัวของที่บ้าน พร้อมงานสายกฎหมาย ด้วยความรู้สึกที่ปลงชีวิต
ทุกวันนี้ไฟ และอุดมการณ์ทางการเมืองของผมดับ พร้อมกับความคิดที่ว่า ไม่ว่าใครจะมีอำนาจอย่างไร
ผมก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี นอกจากยอมรับความเปลี่ยนแปลงและปรับตัวไปกับมัน
จึงเกิดคำถามที่ตั้งตาม topic ว่า เราคนไทยสามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อประเทศ ? เพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ ทุกคนคิดว่ายังไงครับ ........
ปล. วันนี้มีพี่คนนึงชวนผมมาบอร์ดนี้เพราะเค้าบอกว่ามีสาระ และตรรกะ ที่สูงกว่าพันทิพย์ ที่โดนครอบงำไปแล้ว
ผมเลยสมัครมาเป็นสมาชิกที่นี่ ยังไงก็ขอฝากตัวด้วยนะครับ กับกระทู้แรกของผมกระทู้นี้ ^_________________^
#2
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:01
แต่อยากถามย้อนขึ้นสักหน่อยว่า ที่คุณเคยมีคำถามในใจว่า
" ไอ้*** ในเมื่อ รัฐธรรมนูญ เป็นกฏหมายสูงสุดแล้วทำไมคนแค่กลุ่มเดียว***ฉีกได้วะ "
อยากทราบว่า ตอนนั้นคุณเคยถามย้อนขึ้นไปอีกหรือเปล่า ว่า "เพราะอะไร ทหารถึงปฏิวัติ" และคุณมีคำตอบว่ายังไง
#3
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:02
โดยเฉพาะไอ้ตัวที่ไปยืนกุมไข่ให้เผด็จการลูบหัวเหมือนหมานี่ยิ่ง***เลย
#4
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:06
แน่นอนว่า ผมพอเข้าใจถึงการคอรัปชั่น พอสมควรนะครับ และก้ไม่ได้เห็นด้วยเลย
แต่สิ่งที่มันแย่กว่าคือ ประชาธิปไตย สามารถฉีกได้ด้วยการปฏิวิติ ของทหาร .... มันไม่ควรน่ะครับ
ในเมื่อมันสร้างมาโดยประชาชน .... จุดจบมันก็ควรมาจากประชาชนไม่ใช่เหรอครับ ???/
#5
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:09
ที่นี่พูดได้ทุกเรื่องทุกประเด็น ยกเว้น ห้ามวิพากษ์วิจารณ์ใดๆในทางลบต่อสถาบันฯในบอร์ดนี้
สื่งที่ผมทำได้เพื่อประเทศคงมีน้อยมาก
ได้แต่ตั้งมั่นว่า จะต่อต้านคนชั่วจนกว่าหมดแรง(ตาย)ไปเอง
แม้สู้คนเลวหมู่มากไม่ได้ แต่จะไม่ยอมสยบเพียงเพราะคำว่า"เสียงข้างมากถูกทุกอย่าง"
#6
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:17
ผมเคยทำรายงานเรื่อง การคอรัปชั่นเชิงนโยบาย เกี่ยวกับรัฐบาลคุณทักสิน
แน่นอนว่า ผมพอเข้าใจถึงการคอรัปชั่น พอสมควรนะครับ และก้ไม่ได้เห็นด้วยเลย
แต่สิ่งที่มันแย่กว่าคือ ประชาธิปไตย สามารถฉีกได้ด้วยการปฏิวิติ ของทหาร .... มันไม่ควรน่ะครับ
ในเมื่อมันสร้างมาโดยประชาชน .... จุดจบมันก็ควรมาจากประชาชนไม่ใช่เหรอครับ ???/
ผมชอบ ตรงนี้ละคับ ผมว่า จริง มากๆ
แต่หน้าที่ ของทหาร คือ ปกป้องประชาชน ดูแลประเทศชาติ
#7
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:23
ทุกอาชีพมีทั้งคนดี และ คนไม่ดี ทหารก็มีทั้งดี และ ไม่ดี
หมอ ทนาย ครูอาจารย์ ก้อเช่นกันครับ ^^
ปล. อยากให้เด็กไทยสมัยนี้ได้ อ่านมานี มานะ ปิติ ชูใจ เหมือนในยุคผมจริงๆ
#8
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:26
สนุกๆ นะครับ ไม่ต้องเคร่งเครียด
แต่เคร่งครัดกับกติกา มารยาท ก็พอ
ฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
#9
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:27
โดยความเห็นส่วนตัว ผมไม่ได้มองว่า ทุกสิ่งดีหรือเลว 100% ผมเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติโดยดูเป็นครั้ง ๆ ไปจากการพิจารณาถึงสาเหตุ และใครได้กระทำอะไรไว้ ในการปฏิวัติ เมื่อ ก.ย. 49 ผมคิดว่าเมื่อมองรวมทุกอย่างแล้ว ประเทศไทยไม่ได้มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าผมเคยทำรายงานเรื่อง การคอรัปชั่นเชิงนโยบาย เกี่ยวกับรัฐบาลคุณทักสิน
แน่นอนว่า ผมพอเข้าใจถึงการคอรัปชั่น พอสมควรนะครับ และก้ไม่ได้เห็นด้วยเลย
แต่สิ่งที่มันแย่กว่าคือ ประชาธิปไตย สามารถฉีกได้ด้วยการปฏิวิติ ของทหาร .... มันไม่ควรน่ะครับ
ในเมื่อมันสร้างมาโดยประชาชน .... จุดจบมันก็ควรมาจากประชาชนไม่ใช่เหรอครับ ???/
ถึงแม้ผลจากการปฏิวัติในครั้งนั้นอาจนำมาผลที่ไม่พึงปรารถนาตามมาภายหลัง แต่ผมก็ไม่ได้นึกเสียใจต่อการปฏิวัติครั้งนั้น เพราะมันมี "เหตุ" ซึ่งนำมาซึ่ง "ผล" ถ้าจะเอาให้ชัดก็คือ "ไอ่เหลี่ยม" คือ เหตุที่นำมาซึ่ง "การปฏิวัติ" หากใครจะชอบไม่ชอบยังไง ต้องโทษ "ไอ่เหลี่ยม" ครับ
#10
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:29
#11
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:33
ถ้าทหารปฏิวัติเพื่อป้องกันประเทศชาติ มันก็เป็นการทำหน้าที่อย่างหนึ่งของทหาร
ถ้าประชาชนออกมาเรียกร้องทางการเมือง ออกมาต่อสู้กับผู้นำที่ฉ่อฉล ซึ่งมีทุน มีสื่อ มีอำนาจบริหาร
แล้วผู้นำคนนั้น สั่งให้ทหารออกมาต่อสู้กับประชาชน นั่นเป็นการทรยศต่อหน้าที่ของทหาร
ในมุมกลับกันประชาชนออกมาเรียกร้องทางการเมือง ต่อสู้กับผู้นำที่ฉ่อฉล เหมือนข้างบน
ทหารได้ก่อการเพื่อกำจัดผู้นำชั่ว เพื่อไม่ให้เกิดการต่อสู้ของฝ่ายรัฐบาลที่ฉ่อฉลกับประชาชน
"นั่นคือการปฏิบัติหน้าที่ของทหาร คือการปกป้องประชาชน" ไม่ใช่เหรอครับ
และแน่นอน ย้อนกลับไป
รัฐธรรมนูญฉบับแรกของประเทศไทย ก็ไม่ได้เขียนโดยประชาชน
เพราะเขียนขึ้นโดยผู้ก่อการไม่กี่คน ที่อ้างประชาชน เพื่อก่อการขึ้นมาเท่านั้น
ประชาชนไม่ได้มีบทบาทในการสร้างรัฐธรรมนูญฉบับแรกเลย แม้แต่นิดเดียว
เทียบกับรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550
ประชาชนยังมีบทบาทมากกว่า ฉบับอื่นๆ เพราะอย่างน้อย
เป็นรัฐธรรมนูญที่ประชาชนทุกคนต้องลงคะแนน เพื่อนำมาใช้เป็นกฏหมายสูงสุดของประเทศ
#12
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:38
เพราะถ้าพวกเราเมินเฉยต่อการปฏิวัติดังเช่นว่า ถ้าทำเพื่อปราบคนชั่วเพียงคนเดียว ก็ยอมให้ฉีกรัฐธรรมนูญได้เลย ? เหรอครับ
แต่อย่างว่าอ่ะครับ ประเทศของเราใครมีอำนาจก้อแก้กฏหมายกันเป็นว่าเล่นก้อไม่ต่างอะไรกับการฉีกทิ้งเลย
แค่ทำเลวตามกติกาเท่านั้นเอง
นี่ละมั้งครับ ที่ทำให้ผมปลงกับระบบที่เน่าเฟะที่เป็นมาเนิ่นนาน และเชื่อว่ามีอีกหลายคนที่ปลงแบบผม..... เฮ้อออออออ
#13
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:41
ปฏิวัติ คือการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจากระบอบหนึ่งไปสุ่อีกระบอบหนึ่งเช่น การเปลี่ยนจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ไปเป็นระบอบประชาธิปไตย
ส่วน รัฐประหารคือการเปลี่ยนอำนาจในการปกครองของฝ่ายบริหาร จึงเห้นได้ว่า ความหมายต่างกันพอสมควร ไม่ควรที่จะเอามาใช้ปนกัน
กลับมาที่คำถามของคุณ การที่คุณจะทำอะไรเพื่อประเทศชาติได้ก็ง่ายๆ อาจจะไม่ถึงขั้นเป็นผู้นำ นักวิชาการ หรือคนมีชื่อเสียงในสังคมที่เป็นหน้าเป็นตาของประเทศ แต่ขอให้เป็นผู้ประพฤติดี มีศีลธรรม มีสัมมาทิฏฐิ เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะช่วยให้ประเทศขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้
ไหนๆก็มาแล้ว ขอเจ๊ถามสักข้อนะคะ "รัฐธรรมนูญที่ถูกฉีกโดยคณะรัฐประหาร" กับ "รัฐธรรมนูญที่ถูกทำลายความศักดิ์โดยระบบเผด็จการรัฐสภา" คุณว่าเลวร้ายเหมือนกันหรือเปล่า ประเทศชาติ ผลประโยชน์สาธารณะ และประชาชน จะเสียหายอย่างไรกับกรณีทั้งสองอย่างข้างต้น
#14
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:45
แค่ทำตัวเป็นพลเมืองดี ไม่เป็นภาระหรือสร้างความเดือดร้อนให้ประเทศ ก็ถือว่าได้ทำความดีเพื่อประเทศแล้วครับ
ผมว่ายังไม่พอครับ ประเทศเราก็ยังโดนสู่เส้นทางแห่งการล่มสลาย อยู่ดี เพราะสังคมมันเลว ไม่ใช่เพราะคนดีท้อแท้ แต่เพราะว่าคนดีไม่อยากเปลืองตัว
ที่แย่กว่านั้น สิ่งที่คุณคิดว่าเป็นปัญหา มันไม่ใช่กลุ่มคน คณะบุคคลหนึ่งบุคคลใด แต่กลับ ขนบธรรมเนียมและค่านิยม ของสังคม ต่างหาก ต่อให้คุณควักปืนไปยิงหัวคนที่คิดว่ามันเป็นต้นเหตุแห่งความเสื่อมทั้งปวงได้ แต่ตราบใดที่ ขนบธรรมเนียมและค่านิยมของคนยังไม่เปลี่ยน เรื่องแบบนี้ก็จะเกิดขึ้นอีกครับ
แต่ก็ยังง่ายกว่าสมัยก่อน ที่คนเราไม่สามารถนำเสนอความคิดของตัวเองได้เลย ต่างกับสมัยนี้ที่เรายังมีสื่อต่างๆที่สามารถเป็นกระบอกเสียงพอให้เราแพร่กระจายความคิดของเราในวงกว้างได้"บ้าง" ที่สามารถจะทำให้เราเป็น"บุคคล"สาธารณะ เป็นผู้นำมวลชนได้ด้วย
แต่เรื่องราวบัดซบมันยังไม่จบครับ การเป็นบุคคลสาธารณะที่สามารถขับเคลื่อนมวลชนได้มันก็เหมือนดาบสองคมครับ คือถ้าคุณเป็นบุคคลสาธารณะ"คุณก็ต้องเตรียมใจรับการถูกการตรวจสอบและวิพากษ์วิจารณ์" จากฝ่ายที่เสียผลประโยชน์จากตัวคุณ อีกอย่างคือ"คุณจะรักษาตัวตนของคุณไว้ได้หรือเปล่าถ้าคุณเกิดมีอำนาจขึ้นมา" นี่คือสืิ่งที่ฝากให้คุณไปคิดครับ
ส่วนตัวผมแล้ว ตอนนี้สิ่งที่สมควรทำเป็นอย่างยิ่งคือ"การตรวจสอบโดยภาคประชาชนอย่างเป็นระบบ"ครับ โดยมี สื่อจำพวกโซเชียลเน็ทเวริคเป็นเครื่องมือ ครับ น่าจะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ของจขกท ได้มากที่สุดครับ
ในประวัติศาสตร์ ภาพเครื่องบินล่าสัตว์ตกที่ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรเคยสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แก่ประเทศไทยมาแล้วครับ
แต่โจทย์ที่ยากกว่าคือ
1.คุณต้องเป็นleader มากกว่าคนแชร์ เป็น uploader มากกว่าคนfollower มันถึงจะมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้เป็นไปตามคุณต้องการได้ ซึ่งแน่ล่ะคุณก็ต้องลงพื้นที่จริง เก็บข้อมูลจริง เปลืองตัวจริง เจ็บจริง ตายจริง ผมเชื่อแน่ๆว่า แทบทุกคนมีข้อมูลสิ่งผิดกฏหมายของเมืองไทยอยู่ในมือ ไม่ว่าจะเซ็กส์ ยาเสพติด ความรุนแรงต่างๆ แต่คุณกล้าที่จะเอา"หลักฐาน"ของการมีอยู่ของสิ่งเหล่านี้มาบน"สื่อ"หรือเปล่า
ผมเห็นการมีอยู่ของโซเชียลเน็ทเวรคมากมายที่มีเป้าหมายเกี่ยวกับการต้านคอรัปชั่น แต่กลับทำได้แค่"แชร์"ข้อมูลต่างๆที่มาจากสื่อกระแสหลัก เท่านั้น ซึ่งทำให้ผมรู้สึกเฟลนิดหน่อย แต่เอาล่ะ นี่คงจะเป็นการเริ่มต้น
2.ความแม่นยำของข้อมูล
-คุณคิดว่าคุณเก็บข้อมูลได้ครอบคลุกทุกประเด็นหรือเปล่า เพราะถ้าคุณเปิดช่องฝ่ายที่เสียประโยชน์จากการทำงานของคุณก็จะนำมา"แถ"ได้ทันที และงานของคุณจะเปล่าประโยชน์
-คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าคุณไม่ได้ใส่ bias ของคุณลงในเนื้องาน
-ในกรณีที่คุณเริ่มเป็น"สื่อหรือบุคคลสาธารณะ"ขึ้นมาแล้ว มีคนมากมายติดตามคุณ หลายๆครั้งเขาก็เป็น uploader หาข้อมูลให้คุณด้วย คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าข้อมูลที่ได้มาจากคนที่ติดตามคุณไม่มีช่องโหว่และ bias
3.สุดท้ายแล้ว ถ้าคุณเป็น"สื่อหรือบุคคลสาธารณะ"ขึ้นมา หลายสิ่งหลายอย่างจะประดังประเดเข้าหาตัวคุณ อำนาจ ผลประโยชน์ การคุกคาม อิทธิพล คุณคิดว่าจะรักษาตัวตนของคุณไว้ได้หรือเปล่าครับ??????
ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นคนอย่างไร
แต่เท่าที่ศึกษามาคนจำพวก"รัฐบุรุษ"จะมีหลักๆสองไทป์ แบบแรกคือพวกสไตล์"นักปฏิวัติ"คนจำพวกนี้ยึดอุดมการณ์เป็นหลัก เลือกที่จะขโยกอุดมการณ์ไปจนสุดซอย จะเจ็บจะตายก็ช่างขอให้ได้เดินทางตามเส้นทางที่กุเชื่อว่าถูก (และพวกนี้ตายไปแล้วเยอะมากๆในยุคสมัยสายลมแสงแดด) คนจำพวกนี้ความถูกต้องและดีงามมีเพียงหนึ่งเดียว ไม่อาจเปลี่ยนได้ ข้อเสียของสไตล์นี้คือเปลืองตัวมาก แต่ก็มีดีคืออิทธิพลมากเช่นกัน
อีกกลุ่มคือสไตล์"เซลล์แมน"ที่ค้าขายช่ั่งน้ำหนักแลกเปลี่ยนความดีและความชั่ว บางครั้งก็ยอมทำหรือจับมือกับคนที่ผิดไปจากอุดมการณ์ตัวเอง เพื่อบรรลุไปสู่เป้าหมาย ข้อดีคือไม่เปลืองตัวมากนัก แต่ก็โอกาสสูญเสียตัวตนของตัวเองไปไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อมก็มีมากเช่นกัน
ที่เหลือก็แล้วแต่จขกทแล้วครับ พร้อมจะเปลืองตัวหรือยังครับ
#15
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:49
แค่ทำตัวเป็นพลเมืองดี ไม่เป็นภาระหรือสร้างความเดือดร้อนให้ประเทศ ก็ถือว่าได้ทำความดีเพื่อประเทศแล้วครับ
ผมว่ายังไม่พอครับ ประเทศเราก็ยังโดนสู่เส้นทางแห่งการล่มสลาย อยู่ดี เพราะสังคมมันเลว ไม่ใช่เพราะคนดีท้อแท้ แต่เพราะว่าคนดีไม่อยากเปลืองตัว
ที่แย่กว่านั้น ....
ก็ว่ากันไปครับ แต่มีสุภาษิตบทหนึ่งที่ผมจำขึ้นใจครับว่า "หากอยากเปลี่ยนแปลงโลก ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน"
#16
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:50
แต่เมื่อใดที่ประชาชนรู้จักคำว่า "พอเพียง" ตามที่ในหลวงทรงตรัสไว้ ทุกคนในชาติทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม มากกว่าประโยชน์ส่วนตน เมื่อนั้นประเทศของเรา จะพัฒนาไปกว่านี้อีกมาก
ป.ล. เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
ป.ล. ผมได้อ่านเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่าน ผมน้ำตาไแทบจะหล
#17
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:50
หากไม่เกิดจากภาคทหาร ก็ต้องเกิดขึ้นจากภาคประชาชน
ซึ่งการโค่นล้มอำนาจรัฐที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากทหาร เกือบทุกที่ ที่ก่อการโดยภาคประชาชน
นอกจากประชาชนต้องต่อสู้กับอำนาจเงิน อำนาจสื่อ แล้วยังต้องต่อสู้กับอำนาจปืน
ซึ่งมาจากภาคทหารที่ฉ่อฉลด้วย
และภาคประชาชน แทบไม่มีกำลังพอที่จะต่อสู้กับภาคทหาร
ต้องพึ่งอาวุธจากนอกประเทศ เพื่อมาต่อสู้กับกองกำลังประเทศตัวเอง
สิ่งที่ตามมา เมื่อทำการโค่นล้มรัฐบาลที่ฉ่อฉลสำเร็จ
ต่างชาติที่เข้ามาให้อาวุธ ย่อมต้องเรียกร้อง หรือย่อมต้องการผลประโยชน์แน่นอน
นอกจากบ้านเมืองเสียหาย ประชาชนล้มตาย
ยังต้องเสียผลประโยชน์ต่างๆให้ต่างประเทศอีกด้วย
ผมจึงไม่เคยมองว่า การกระทำจากฝ่ายทหารที่ท่านเรียกว่าฉีกรัฐธรรมนูญ
ไม่เป็นการกระทำเพื่อประเทศชาติ และเป็นการทำลายหน้าที่ สิทธิ ของประชาชน
#18
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:50
ผมเคยทำรายงานเรื่อง การคอรัปชั่นเชิงนโยบาย เกี่ยวกับรัฐบาลคุณทักสิน
แน่นอนว่า ผมพอเข้าใจถึงการคอรัปชั่น พอสมควรนะครับ และก้ไม่ได้เห็นด้วยเลย
แต่สิ่งที่มันแย่กว่าคือ ประชาธิปไตย สามารถฉีกได้ด้วยการปฏิวิติ ของทหาร .... มันไม่ควรน่ะครับ
ในเมื่อมันสร้างมาโดยประชาชน .... จุดจบมันก็ควรมาจากประชาชนไม่ใช่เหรอครับ ???/
ยินดีต้อนรับครับคุณ bsnk
ผมเป็นคนนึงที่รักอิสระ เสรี และนิยมสังคมประชาธิปไตย แต่บังเอิญผมโชคดีที่ได้เกิดและอยู่ในแผ่นดินที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของประเทศ ผมจึงโชคดีสองเด้ง คือได้อยู่ในประเทศที่บริการปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข น้อยคนน้อยสังคมประเทศนักที่จะมีโอกาสได้อยู่ในแผ่นดินสองมิติ คืออยู่ในราชอาณาจักรด้วยและอยู่ภายใต้การบริบาลของรัฐไทยในระบอบประชาธิปไตย เห็นหรือยังครับ ผมและเพื่อนหรือเรานั้นโชคดีสองเด้ง
ส่วนกรณีทหารนั้น ผมก็ไม่เห็นเขาปฏิวัติอะไรนะ แม้ในอดีตเคยมีการใช้คำประกอบเหตุการณ์ว่าปฏิวัติ แต่จริงแล้วก็ไม่ใช่การปฏิวัติ มันเป็นเพียงการยึดอำนาจฝ่ายบริหารรัฐไทย หรือรัฐบาลไทยนั่นเอง ยึดอำนาจมาเพื่อหยุดอะไรบางอย่าง แล้วก็รีบจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพียงแต่จะดูว่านานในสมัยที่เรามีกฏหมายรัฐธรรมนูญที่ไม่ได้ระบุกำกับไว้ว่า นายยกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง จึงมีกระบวนการสรรหาบุคคลมาเป็นนายกรัฐมนตรีหลังจากมีการเลือกตั้งแล้ว เป็นที่รับทราบชัดเจนแล้วว่าฝ่ายไหนพรรคไหนจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หากพรรคนั่นๆหรือพรรคร่วมเห็นว่า ควรจะให้ใครมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็เสนอและชักชวน เชิญมาเป็นนายกรัฐมนตรี และช่วงเวลานั้นๆอาจจะนานหลายสมัยที่มีนายกรัฐมนตรีท่านนั้นอยู่ท่านเดียวมาตลอด เราจึงมองว่ามีประชาธิปไตยอยู่ครึ่งใบ จนสุดท้ายเราก็ได้แก้ไขรัฐธรรมนูญให้นายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง และก็ยอมรับว่าการที่นายกรัฐมนตรีมาจากไหนก็ได้นั้นมันเปราะบาง เสี่ยงต่อการยึดอำนาจรัฐ หรือบางที่นายกรัฐมนตรีไม่เลือกวิธีลาออก ไม่เลือกวิธียุบสภา แต่กลับเลือกวิธียึดอำนาจบริหารของตัวเองก็มี แต่กรณีเช่นนี้มันมีมานาโขแล้ว คงเป็นสมัยจอมพล ป. จอมพล.ถนอม จอมพลสฤษดิ์ พล.เอก.เกรียงศักดิ์ อะไรเทือกเก่านั้น แต่ไม่ว่าจะครั้งไหน ก็ล้วนแต่เป็นการยึดอำนาจฝ่ายบริหาร ในส่วนของรัฐไทย หรือรัฐาลไทย ไม่เคยมีการยึดอำนาจคนไทยทั้งประเทศ และไม่ได้ปฏิวัติประเทศนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้แต่ 2475 ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบและลักษณะการปกครองเท่านั้น คือจากราชอาณาจักรไทย แตกให้เป็น ราชอาณาจักรไทย + รัฐไทย โดยฝ่ายราชอาณาจักรไทยใช้อำนาจปกครองผ่านรัฐสภาตามอำนาจของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย จึงเรียกว่า ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่ก็อาจจะมีคำถามว่า แล้วการยึดอำนาจบริหารทุกครั้ง ใครเป็นผู้ยึดอำนาจ แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร สุดท้ายเมื่อแก้ไขอะไรบางอย่างได้แล้ว ก็จัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
#19
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:51
เจ๊ม้ามครับ ผมให้คำตอบเจ๊ไม่ได้ครับเจ๊อยากให้ใช้คำให้ถูกนะคะ ระหว่างคำว่า "ปฏิวัติ" กับ "รัฐประหาร" ความหมายจริงๆแล้วไม่เหมือนกัน แต่ทุกวันนี้กลับใช้คำแรกซะเยอะมาก ซึ่งความหมายของมันดูรุนแรงกว่าคำที่สองมากนัก
ปฏิวัติ คือการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจากระบอบหนึ่งไปสุ่อีกระบอบหนึ่งเช่น การเปลี่ยนจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ไปเป็นระบอบประชาธิปไตย
ส่วน รัฐประหารคือการเปลี่ยนอำนาจในการปกครองของฝ่ายบริหาร จึงเห้นได้ว่า ความหมายต่างกันพอสมควร ไม่ควรที่จะเอามาใช้ปนกัน
กลับมาที่คำถามของคุณ การที่คุณจะทำอะไรเพื่อประเทศชาติได้ก็ง่ายๆ อาจจะไม่ถึงขั้นเป็นผู้นำ นักวิชาการ หรือคนมีชื่อเสียงในสังคมที่เป็นหน้าเป็นตาของประเทศ แต่ขอให้เป็นผู้ประพฤติดี มีศีลธรรม มีสัมมาทิฏฐิ เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะช่วยให้ประเทศขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้
ไหนๆก็มาแล้ว ขอเจ๊ถามสักข้อนะคะ "รัฐธรรมนูญที่ถูกฉีกโดยคณะรัฐประหาร" กับ "รัฐธรรมนูญที่ถูกทำลายความศักดิ์โดยระบบเผด็จการรัฐสภา" คุณว่าเลวร้ายเหมือนกันหรือเปล่า ประเทศชาติ ผลประโยชน์สาธารณะ และประชาชน จะเสียหายอย่างไรกับกรณีทั้งสองอย่างข้างต้น
เพราะผมคิดว่า ผู้ที่จะตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุด คือเสียงของประชาชนน่ะครับ
แม้ว่าประชาชนการศึกษาจะไม่เท่าเทียมกันก็ตาม
ผมเคยคิดว่าทำไม เราไม่แยกประเทศไทยออกเป็น state ไปเลย จะได้เห็นภาพว่า state ไหนมันจะเจริญ ผู้ว่าการรัฐ จะได้รับผิดชอบไป
แต่ ก็กัวกำปัญหาภาคใต้ และความมั่นคงของประเทศ .....เอวัง
#20
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:53
ผมก็เป็นคนนึงที่ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร
แต่เรื่องมันผ่านมาแล้วก็ช่างมัน
ผมมานั่งอ่านรัฐธรรมนูญใหม่ ผมก็ไม่ได้มองอะไรที่มันเสียหาย แต่ผมมองแค่ว่า เกิดการรัฐประหารเป็นสิ่งที่ไม่ดี
พรรคการเมือง
ส่วนพรรคการเมือง พรรคไหนผิดหรือเปล่า ผมตอบไม่ได้
แต่ประชานิยมมันต่างกัน
ถ้าชาวบ้านชอบสบาย มีสวัสดิการช่วยมากมาย ทำงานน้อยแต่ได้ผลตอบแทนมาก = เพื่อไทย (ยกเลิกหนี้ เว้นหนี้)
ถ้าชาวบ้านชอบเอาภาษีตัวเองเก็บใส่ประเป๋ามากกว่า และจ่ายตามค่าใช้จ่ายจริงๆ = ปชป
เพื่อไทย คนจนได้ประโยชน์มาก แต่ข้อเสียคือ มันทำให้คนเราขี้เกียจมากขึ้น และทำให้คนโง่มากขึ้นด้วย (มันก็มีข้อดีที่ทำให้เรามีแรงงานใช้ตลอด)
สิ่งที่เราจะทำให้ประเทศได้
แค่เลือกคนดี ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ใช้เหตุผล ไม่เข้าข้างคนผิด แค่นั้นก็พอ
ปล. ใครมีอำนาจประชาชนก็เจ้งอยู่ดีตามที่คุณคิด มันเกิดจากคนไม่มีความรู้ในประเทศเราเยอะ
#21
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:05
มันจะทำให้เราคิดก่อนพูดได้ดีขึ้น เมื่อเชื่อว่าคำพูดที่ออกไปเหล่านั้นคือคำที่เราจะได้ยินเองในอนาคต
และถ้าเราจะทำดีได้มากขึ้น เมื่อเชื่อว่าเราจะได้เจอสิ่งดีๆในอนาคต
แม้ว่าวันนี้เราจะยังไม่เห็นว่ามันดีอย่างไรแต่อย่างน้อยทำให้เราผ่านวันนี้ไปได้อย่างราบรื่น
#22
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:11
แห่ะๆ เห็นรูปคุณอาแล้วตกใจ หน้าเหมือพ่อผมเลย = ____=
ผมเคยทำรายงานเรื่อง การคอรัปชั่นเชิงนโยบาย เกี่ยวกับรัฐบาลคุณทักสิน
แน่นอนว่า ผมพอเข้าใจถึงการคอรัปชั่น พอสมควรนะครับ และก้ไม่ได้เห็นด้วยเลย
แต่สิ่งที่มันแย่กว่าคือ ประชาธิปไตย สามารถฉีกได้ด้วยการปฏิวิติ ของทหาร .... มันไม่ควรน่ะครับ
ในเมื่อมันสร้างมาโดยประชาชน .... จุดจบมันก็ควรมาจากประชาชนไม่ใช่เหรอครับ ???/
ยินดีต้อนรับครับคุณ bsnk
ผมเป็นคนนึงที่รักอิสระ เสรี และนิยมสังคมประชาธิปไตย แต่บังเอิญผมโชคดีที่ได้เกิดและอยู่ในแผ่นดินที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของประเทศ ผมจึงโชคดีสองเด้ง คือได้อยู่ในประเทศที่บริการปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข น้อยคนน้อยสังคมประเทศนักที่จะมีโอกาสได้อยู่ในแผ่นดินสองมิติ คืออยู่ในราชอาณาจักรด้วยและอยู่ภายใต้การบริบาลของรัฐไทยในระบอบประชาธิปไตย เห็นหรือยังครับ ผมและเพื่อนหรือเรานั้นโชคดีสองเด้ง
ส่วนกรณีทหารนั้น ผมก็ไม่เห็นเขาปฏิวัติอะไรนะ แม้ในอดีตเคยมีการใช้คำประกอบเหตุการณ์ว่าปฏิวัติ แต่จริงแล้วก็ไม่ใช่การปฏิวัติ มันเป็นเพียงการยึดอำนาจฝ่ายบริหารรัฐไทย หรือรัฐบาลไทยนั่นเอง ยึดอำนาจมาเพื่อหยุดอะไรบางอย่าง แล้วก็รีบจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพียงแต่จะดูว่านานในสมัยที่เรามีกฏหมายรัฐธรรมนูญที่ไม่ได้ระบุกำกับไว้ว่า นายยกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง จึงมีกระบวนการสรรหาบุคคลมาเป็นนายกรัฐมนตรีหลังจากมีการเลือกตั้งแล้ว เป็นที่รับทราบชัดเจนแล้วว่าฝ่ายไหนพรรคไหนจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หากพรรคนั่นๆหรือพรรคร่วมเห็นว่า ควรจะให้ใครมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็เสนอและชักชวน เชิญมาเป็นนายกรัฐมนตรี และช่วงเวลานั้นๆอาจจะนานหลายสมัยที่มีนายกรัฐมนตรีท่านนั้นอยู่ท่านเดียวมาตลอด เราจึงมองว่ามีประชาธิปไตยอยู่ครึ่งใบ จนสุดท้ายเราก็ได้แก้ไขรัฐธรรมนูญให้นายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง และก็ยอมรับว่าการที่นายกรัฐมนตรีมาจากไหนก็ได้นั้นมันเปราะบาง เสี่ยงต่อการยึดอำนาจรัฐ หรือบางที่นายกรัฐมนตรีไม่เลือกวิธีลาออก ไม่เลือกวิธียุบสภา แต่กลับเลือกวิธียึดอำนาจบริหารของตัวเองก็มี แต่กรณีเช่นนี้มันมีมานาโขแล้ว คงเป็นสมัยจอมพล ป. จอมพล.ถนอม จอมพลสฤษดิ์ พล.เอก.เกรียงศักดิ์ อะไรเทือกเก่านั้น แต่ไม่ว่าจะครั้งไหน ก็ล้วนแต่เป็นการยึดอำนาจฝ่ายบริหาร ในส่วนของรัฐไทย หรือรัฐาลไทย ไม่เคยมีการยึดอำนาจคนไทยทั้งประเทศ และไม่ได้ปฏิวัติประเทศนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้แต่ 2475 ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบและลักษณะการปกครองเท่านั้น คือจากราชอาณาจักรไทย แตกให้เป็น ราชอาณาจักรไทย + รัฐไทย โดยฝ่ายราชอาณาจักรไทยใช้อำนาจปกครองผ่านรัฐสภาตามอำนาจของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย จึงเรียกว่า ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่ก็อาจจะมีคำถามว่า แล้วการยึดอำนาจบริหารทุกครั้ง ใครเป็นผู้ยึดอำนาจ แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร สุดท้ายเมื่อแก้ไขอะไรบางอย่างได้แล้ว ก็จัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ก่อนอื่นผมขอออกตัวก่อนเลยว่าผมไม่ได้ชอบใคร ฝ่ายไหน พรรคใดเป็นพิเศษ
และผมคิดเสมอว่า การที่จะเปลี่ยนขั้วอำนาจฝ่ายบริหาร ก็ควรจะทำตามกติกาจากระบบ ที่เราใช้เป็นหลักปฏิบัติในการปกครองน่ะครับ
การรัฐประหาร เหมือนเป็นการแทรกแซง ระบบ ที่ได้ดำเนินมา แม้จะรู้ว่า ฝ่ายใดดี หรือไม่ดีก้อตาม
ในเมื่อเค้าเข้ามาในระบบได้ ก็มีวิธีให้เค้าออกตามกติกาได้จริงไม๊ครับ
เราอาจจะคิดว่ายังมีประชาชนที่ด้อยการศึกษาอยู่อีกเยอะซึ่งเป็นคนหมู่มากของประเทศซะด้วย
แต่วันนึง ถ้าเค้าได้ทราบ ได้รู้ถึงการทุจริตของฝ่ายบริหาร เค้าย่อมตาสว่าง และลุกฮือมาต่อต้านครับ ( ผมไม่รุ้เหมือนกันว่าอีกนานแค่ไหน )
และผมเชื่อว่า คนๆเดียว มีอายุแค่ ไม่เกิน 80 ปี อาจจะโกงกินได้ไม่นานเท่าไรสุดท้ายเค้าก้อต้องตาย
ผมเคยคิดว่า ถ้าเราปล่อยไปตามกติกา เราจะเจริญเหมือน สิงคโปร์ หรือว่า จะลงเหว เหมือน กรีซ กันนะ ....... ก็ยังอยากรู้อ่ะครับ ^___^
#23
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:12
#24
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:14
ส่วนตัวผม ใช้ชีวิตในเมืองไทยมาตลอด พบเห็น และเคยชินกับรูปแบบชีวิตความเป็นอยู่
วิถีเหล่านี้ มันเป็นวิถีที่เปนอยู่มานานพอสมควร จนจะสามารถเรียกได้ว่า มันคือความเป็นไทย
เรามีกฏหมาย เรามีรัฐธรรมนูญ ที่ไม่ว่าจะโดยคณะปฏิวัติ คณะรัฐประหาร หรือจากคณะร่างฯ
หรือประชาชน
ผมว่า สิ่งเหล่านี้ มันเป็นเพียงเงื่อนไขที่เขียนออกมา เพื่อควบคุม ดูแล และกำหนดพฤติกรรมบางอย่าง
เพื่อให้เราสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันมีเงื่อนไขอย่างอื่นเข้ามาประกอบ เช่น ยุคสมัย เทคโนโลยี หรืออะไรตามกาลเวลา
เราไม่สามารถบ่งชี้ได้ ว่าอะไรดีที่สุด อะไรควรที่สุดเสมอไป
ผมยังพอจำอารมณ์ผู้คนกลุ่มหนึ่ง แสดงความดีอกดีใจ หลังจากรัฐธรรมนูญปี 40 ออกมา
เพราะเป็นรัฐธรรมนูญฉบับของประชาชน ที่คิดและทำโดยประชาชนจริงๆ
ข้อดีมากมายครับ ที่ได้รับการแก้ไขปรับปรุงมา เรามองว่า มันเป็นฉบับที่ดีที่สุดแล้ว ในขณะนั้น
แต่เวลาผ่านไป เราเริ่มพบข้อบกพร่อง รูรั่ว (อันนี้ ผมไม่ทราบรายละเอียดในแง่กฏหมายนะครับ
ฟังเค้ามาอีกที แหะๆ) เพราะเอื้อต่อการทุจริตบางด้าน ซึ่งเป็นวิธีทุจริตรูปแบบใหม่ๆ
จนเกิดการรัฐประหาร และเขียนรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 ขึ้นมาใหม่
ฉบับนี้ นักวิชาการหลายท่าน ก็มีทั้งออกมาชื่นชม หรือตัดค้าน หรือแม้แต่ก่นด่า
รวมถึงที่มา ที่ฝ่ายหนึ่ง อ้างว่า มาจากความคิดของคณะรัฐประหาร
แต่อีกฝ่าย อ้างว่ามาจากการลงคะแนนของคนทั้งประเทศ ก็ว่ากันไปนะครับ
ลองมาคิดดู เราจะพบว่า มันไม่มีอะไรสมบูรณ์เลยสักครั้ง สักอันเลยหรือ
เรามีรัฐธรรมนูญ ที่ไม่แน่ใจว่ามากฉบับที่สุดในโลกไปแล้วหรือไม่
ในขณะที่หลายๆ ประเทศ มีน้อยฉบับกว่าเรา เช่น อเมริกา หรืออังกฤษ
เพราะรัฐธรรมนูญเราไม่ดีหรือไม่
ส่วนตัว อย่างที่ผมบอกว่า ผมไม่รู้ในแง่ “กฏหมาย” แต่ผมรู้ในแง่ “กฏของกู”
เราไปหวังพึ่งพากับตัวอักษร ข้อบังคับ เงื่อนไขการปฏิบัติ
แต่เราลืมดูตัวเอง เราไม่ได้เคารพเงื่อนไขการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นอย่างพอเพียง
เราเห็นแก่ตัว เราเห็นแก่ได้ ถือเอาใจชอบ ถือเอาความพอใจตนเองเป็นหลัก
นี่ต่างหากครับ ที่ทำให้รัฐธรรมนูญฉบับไหนๆ ก็ไม่เคยดีพอ
ที่ไม่ดีพอ ก็เพราะเราเองต่างหากครับ
ดังนั้น ไม่ว่ารัฐธรรมนญนั้นมาจากไหน ใครฉีกไป หรือเขียนขึ้นมาโดยเด็ก
แต่หากได้รับความเคารพ และยึดถือปฏิบัติร่วมกันอย่างเคร่งครัดเพียงพอ
ผมเชื่อว่า เราจะใช้ชีวิตร่วมกันได้ดี และฉบับนั้นๆ ก็จะเป็นฉบับที่ดีที่สุดครับ
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
#25
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:16
มองโลกสวยไปหรือเปล่าครับ คุณ bsnk ผลโพลเกือบ 70% เห็นด้วยกับการ โกงแต่ทำงาน นะครับแห่ะๆ เห็นรูปคุณอาแล้วตกใจ หน้าเหมือพ่อผมเลย = ____=
ผมเคยทำรายงานเรื่อง การคอรัปชั่นเชิงนโยบาย เกี่ยวกับรัฐบาลคุณทักสิน
แน่นอนว่า ผมพอเข้าใจถึงการคอรัปชั่น พอสมควรนะครับ และก้ไม่ได้เห็นด้วยเลย
แต่สิ่งที่มันแย่กว่าคือ ประชาธิปไตย สามารถฉีกได้ด้วยการปฏิวิติ ของทหาร .... มันไม่ควรน่ะครับ
ในเมื่อมันสร้างมาโดยประชาชน .... จุดจบมันก็ควรมาจากประชาชนไม่ใช่เหรอครับ ???/
ยินดีต้อนรับครับคุณ bsnk
ผมเป็นคนนึงที่รักอิสระ เสรี และนิยมสังคมประชาธิปไตย แต่บังเอิญผมโชคดีที่ได้เกิดและอยู่ในแผ่นดินที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของประเทศ ผมจึงโชคดีสองเด้ง คือได้อยู่ในประเทศที่บริการปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข น้อยคนน้อยสังคมประเทศนักที่จะมีโอกาสได้อยู่ในแผ่นดินสองมิติ คืออยู่ในราชอาณาจักรด้วยและอยู่ภายใต้การบริบาลของรัฐไทยในระบอบประชาธิปไตย เห็นหรือยังครับ ผมและเพื่อนหรือเรานั้นโชคดีสองเด้ง
ส่วนกรณีทหารนั้น ผมก็ไม่เห็นเขาปฏิวัติอะไรนะ แม้ในอดีตเคยมีการใช้คำประกอบเหตุการณ์ว่าปฏิวัติ แต่จริงแล้วก็ไม่ใช่การปฏิวัติ มันเป็นเพียงการยึดอำนาจฝ่ายบริหารรัฐไทย หรือรัฐบาลไทยนั่นเอง ยึดอำนาจมาเพื่อหยุดอะไรบางอย่าง แล้วก็รีบจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพียงแต่จะดูว่านานในสมัยที่เรามีกฏหมายรัฐธรรมนูญที่ไม่ได้ระบุกำกับไว้ว่า นายยกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง จึงมีกระบวนการสรรหาบุคคลมาเป็นนายกรัฐมนตรีหลังจากมีการเลือกตั้งแล้ว เป็นที่รับทราบชัดเจนแล้วว่าฝ่ายไหนพรรคไหนจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หากพรรคนั่นๆหรือพรรคร่วมเห็นว่า ควรจะให้ใครมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็เสนอและชักชวน เชิญมาเป็นนายกรัฐมนตรี และช่วงเวลานั้นๆอาจจะนานหลายสมัยที่มีนายกรัฐมนตรีท่านนั้นอยู่ท่านเดียวมาตลอด เราจึงมองว่ามีประชาธิปไตยอยู่ครึ่งใบ จนสุดท้ายเราก็ได้แก้ไขรัฐธรรมนูญให้นายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง และก็ยอมรับว่าการที่นายกรัฐมนตรีมาจากไหนก็ได้นั้นมันเปราะบาง เสี่ยงต่อการยึดอำนาจรัฐ หรือบางที่นายกรัฐมนตรีไม่เลือกวิธีลาออก ไม่เลือกวิธียุบสภา แต่กลับเลือกวิธียึดอำนาจบริหารของตัวเองก็มี แต่กรณีเช่นนี้มันมีมานาโขแล้ว คงเป็นสมัยจอมพล ป. จอมพล.ถนอม จอมพลสฤษดิ์ พล.เอก.เกรียงศักดิ์ อะไรเทือกเก่านั้น แต่ไม่ว่าจะครั้งไหน ก็ล้วนแต่เป็นการยึดอำนาจฝ่ายบริหาร ในส่วนของรัฐไทย หรือรัฐาลไทย ไม่เคยมีการยึดอำนาจคนไทยทั้งประเทศ และไม่ได้ปฏิวัติประเทศนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้แต่ 2475 ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบและลักษณะการปกครองเท่านั้น คือจากราชอาณาจักรไทย แตกให้เป็น ราชอาณาจักรไทย + รัฐไทย โดยฝ่ายราชอาณาจักรไทยใช้อำนาจปกครองผ่านรัฐสภาตามอำนาจของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย จึงเรียกว่า ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่ก็อาจจะมีคำถามว่า แล้วการยึดอำนาจบริหารทุกครั้ง ใครเป็นผู้ยึดอำนาจ แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร สุดท้ายเมื่อแก้ไขอะไรบางอย่างได้แล้ว ก็จัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ก่อนอื่นผมขอออกตัวก่อนเลยว่าผมไม่ได้ชอบใคร ฝ่ายไหน พรรคใดเป็นพิเศษ
และผมคิดเสมอว่า การที่จะเปลี่ยนขั้วอำนาจฝ่ายบริหาร ก็ควรจะทำตามกติกาจากระบบ ที่เราใช้เป็นหลักปฏิบัติในการปกครองน่ะครับ
การรัฐประหาร เหมือนเป็นการแทรกแซง ระบบ ที่ได้ดำเนินมา แม้จะรู้ว่า ฝ่ายใดดี หรือไม่ดีก้อตาม
ในเมื่อเค้าเข้ามาในระบบได้ ก็มีวิธีให้เค้าออกตามกติกาได้จริงไม๊ครับ
เราอาจจะคิดว่ายังมีประชาชนที่ด้อยการศึกษาอยู่อีกเยอะซึ่งเป็นคนหมู่มากของประเทศซะด้วย
แต่วันนึง ถ้าเค้าได้ทราบ ได้รู้ถึงการทุจริตของฝ่ายบริหาร เค้าย่อมตาสว่าง และลุกฮือมาต่อต้านครับ ( ผมไม่รุ้เหมือนกันว่าอีกนานแค่ไหน )
และผมเชื่อว่า คนๆเดียว มีอายุแค่ ไม่เกิน 80 ปี อาจจะโกงกินได้ไม่นานเท่าไรสุดท้ายเค้าก้อต้องตาย
ผมเคยคิดว่า ถ้าเราปล่อยไปตามกติกา เราจะเจริญเหมือน สิงคโปร์ หรือว่า จะลงเหว เหมือน กรีซ กันนะ ....... ก็ยังอยากรู้อ่ะครับ ^___^
มีหลายคนทีเดียวที่ผมคุยด้วย โกงแต่ทำประโยชน์ให้ชาติ ศาลลงโทษให้ติดคุกทำไม ข้อแ้ก้ตัว ของกลุ่มคนเหล่านี้ ใครๆ ก็โกง
#26
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:20
"หากอยากเปลี่ยนแปลงโลก ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน"
ด้วยความเคารพครับ สุภาษิตบทนี้มันไว้สำหรับวิจารณ์คนทีเรียกร้องอยากให้โลกเปลี่ยน แต่ตัวเองไม่ยอมเปลี่ยนเท่านั้นครับ แต่ไม่ได้มีไว้สำหรับคนที่"เปลี่ยนแล้ว"
และก็ไม่ได้บอกด้วยว่า"วิธีเปลี่ยนโลกต้องทำอย่างไร"
#27
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:22
"หากอยากเปลี่ยนแปลงโลก ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน"
ด้วยความเคารพครับ สุภาษิตบทนี้มันไว้สำหรับวิจารณ์คนทีเรียกร้องอยากให้โลกเปลี่ยน แต่ตัวเองไม่ยอมเปลี่ยนเท่านั้นครับ แต่ไม่ได้มีไว้สำหรับคนที่"เปลี่ยนแล้ว"
และก็ไม่ได้บอกด้วยว่า"วิธีเปลี่ยนโลกต้องทำอย่างไร"
แล้วแต่คุณคิดครับ ผมไม่มีความเห็นเพิ่ม
#28
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:26
แน่ใจได้ไง ว่าจะไม่ฉีกรัฐธรรมนูญ ? ? ?
#29
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:27
เพราะสุดท้าย ผมก้อยังต้องทำงาน ใช้ชีวิตประจำวันผมต่อไป = = ข้าวของจะแพงขึ้น
ถ้าจำเป็นต้องซื้อต้องกินต้องใช้ ผมก็ต้องยอมรับ และปรับตัวกับมันน่ะครับ
แต่ผมยังมีความภูมิใจที่ว่า ผมไม่เคยไปคดโกงใคร มีกินมีใช้ อยู่กับครอบครัว
ผมก็ happy แล้ว เคยสังสัยไม๊ครับว่าพวกนักการเมืองจะอยากรวย อยากมีอำนาจไปทำไม
ในเมื่อได้มาแล้วก็เป็นทุกข์ ที่จะต้องเก็บรักษามัน
ปล. ผมว่าการมองโลกในแง่ดี แบ่งปันรอยยิ้ม นอกจากเราจะมีความสุข
คนอื่นก็จะมีความสุขด้วยน่ะครับ ^_____^ โลกสวยด้วยรอยยิ้ม อิอิ
#30
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:31
ในเมื่อเค้าเข้ามาในระบบได้ ก็มีวิธีให้เค้าออกตามกติกาได้จริงไม๊ครับ
รบกวนช่วยชี้แจงวิธีเอาออกแบบตามกติกาหน่อยครับ เอาแบบที่ไม่กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้น่ะครับ
#31
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:36
นักการเมือง อยากรวย อยากมีอำนาจทำไม เงินซื้อคนได้ครับ อำนาจใช้ข่มเหงคนได้ครับ ทำอะไรก็ไม่ผิดผมก็มองโลกสวยนะครับ ^^ เพราะ ผมได้บอกแล้วว่า ที่ผมไม่ได้ชอบใคร พรรคไหนเป็นพิเศษ
เพราะสุดท้าย ผมก้อยังต้องทำงาน ใช้ชีวิตประจำวันผมต่อไป = = ข้าวของจะแพงขึ้น
ถ้าจำเป็นต้องซื้อต้องกินต้องใช้ ผมก็ต้องยอมรับ และปรับตัวกับมันน่ะครับ
แต่ผมยังมีความภูมิใจที่ว่า ผมไม่เคยไปคดโกงใคร มีกินมีใช้ อยู่กับครอบครัว
ผมก็ happy แล้ว เคยสังสัยไม๊ครับว่าพวกนักการเมืองจะอยากรวย อยากมีอำนาจไปทำไม
ในเมื่อได้มาแล้วก็เป็นทุกข์ ที่จะต้องเก็บรักษามัน
ปล. ผมว่าการมองโลกในแง่ดี แบ่งปันรอยยิ้ม นอกจากเราจะมีความสุข
คนอื่นก็จะมีความสุขด้วยน่ะครับ ^_____^ โลกสวยด้วยรอยยิ้ม อิอิ
#32
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:37
แห่ะๆ เห็นรูปคุณอาแล้วตกใจ หน้าเหมือพ่อผมเลย = ____=
ผมเคยทำรายงานเรื่อง การคอรัปชั่นเชิงนโยบาย เกี่ยวกับรัฐบาลคุณทักสิน
แน่นอนว่า ผมพอเข้าใจถึงการคอรัปชั่น พอสมควรนะครับ และก้ไม่ได้เห็นด้วยเลย
แต่สิ่งที่มันแย่กว่าคือ ประชาธิปไตย สามารถฉีกได้ด้วยการปฏิวิติ ของทหาร .... มันไม่ควรน่ะครับ
ในเมื่อมันสร้างมาโดยประชาชน .... จุดจบมันก็ควรมาจากประชาชนไม่ใช่เหรอครับ ???/
ยินดีต้อนรับครับคุณ bsnk
ผมเป็นคนนึงที่รักอิสระ เสรี และนิยมสังคมประชาธิปไตย แต่บังเอิญผมโชคดีที่ได้เกิดและอยู่ในแผ่นดินที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของประเทศ ผมจึงโชคดีสองเด้ง คือได้อยู่ในประเทศที่บริการปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข น้อยคนน้อยสังคมประเทศนักที่จะมีโอกาสได้อยู่ในแผ่นดินสองมิติ คืออยู่ในราชอาณาจักรด้วยและอยู่ภายใต้การบริบาลของรัฐไทยในระบอบประชาธิปไตย เห็นหรือยังครับ ผมและเพื่อนหรือเรานั้นโชคดีสองเด้ง
ส่วนกรณีทหารนั้น ผมก็ไม่เห็นเขาปฏิวัติอะไรนะ แม้ในอดีตเคยมีการใช้คำประกอบเหตุการณ์ว่าปฏิวัติ แต่จริงแล้วก็ไม่ใช่การปฏิวัติ มันเป็นเพียงการยึดอำนาจฝ่ายบริหารรัฐไทย หรือรัฐบาลไทยนั่นเอง ยึดอำนาจมาเพื่อหยุดอะไรบางอย่าง แล้วก็รีบจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพียงแต่จะดูว่านานในสมัยที่เรามีกฏหมายรัฐธรรมนูญที่ไม่ได้ระบุกำกับไว้ว่า นายยกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง จึงมีกระบวนการสรรหาบุคคลมาเป็นนายกรัฐมนตรีหลังจากมีการเลือกตั้งแล้ว เป็นที่รับทราบชัดเจนแล้วว่าฝ่ายไหนพรรคไหนจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หากพรรคนั่นๆหรือพรรคร่วมเห็นว่า ควรจะให้ใครมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็เสนอและชักชวน เชิญมาเป็นนายกรัฐมนตรี และช่วงเวลานั้นๆอาจจะนานหลายสมัยที่มีนายกรัฐมนตรีท่านนั้นอยู่ท่านเดียวมาตลอด เราจึงมองว่ามีประชาธิปไตยอยู่ครึ่งใบ จนสุดท้ายเราก็ได้แก้ไขรัฐธรรมนูญให้นายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง และก็ยอมรับว่าการที่นายกรัฐมนตรีมาจากไหนก็ได้นั้นมันเปราะบาง เสี่ยงต่อการยึดอำนาจรัฐ หรือบางที่นายกรัฐมนตรีไม่เลือกวิธีลาออก ไม่เลือกวิธียุบสภา แต่กลับเลือกวิธียึดอำนาจบริหารของตัวเองก็มี แต่กรณีเช่นนี้มันมีมานาโขแล้ว คงเป็นสมัยจอมพล ป. จอมพล.ถนอม จอมพลสฤษดิ์ พล.เอก.เกรียงศักดิ์ อะไรเทือกเก่านั้น แต่ไม่ว่าจะครั้งไหน ก็ล้วนแต่เป็นการยึดอำนาจฝ่ายบริหาร ในส่วนของรัฐไทย หรือรัฐาลไทย ไม่เคยมีการยึดอำนาจคนไทยทั้งประเทศ และไม่ได้ปฏิวัติประเทศนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้แต่ 2475 ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบและลักษณะการปกครองเท่านั้น คือจากราชอาณาจักรไทย แตกให้เป็น ราชอาณาจักรไทย + รัฐไทย โดยฝ่ายราชอาณาจักรไทยใช้อำนาจปกครองผ่านรัฐสภาตามอำนาจของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย จึงเรียกว่า ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่ก็อาจจะมีคำถามว่า แล้วการยึดอำนาจบริหารทุกครั้ง ใครเป็นผู้ยึดอำนาจ แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร สุดท้ายเมื่อแก้ไขอะไรบางอย่างได้แล้ว ก็จัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ก่อนอื่นผมขอออกตัวก่อนเลยว่าผมไม่ได้ชอบใคร ฝ่ายไหน พรรคใดเป็นพิเศษ
และผมคิดเสมอว่า การที่จะเปลี่ยนขั้วอำนาจฝ่ายบริหาร ก็ควรจะทำตามกติกาจากระบบ ที่เราใช้เป็นหลักปฏิบัติในการปกครองน่ะครับ
การรัฐประหาร เหมือนเป็นการแทรกแซง ระบบ ที่ได้ดำเนินมา แม้จะรู้ว่า ฝ่ายใดดี หรือไม่ดีก้อตาม
ในเมื่อเค้าเข้ามาในระบบได้ ก็มีวิธีให้เค้าออกตามกติกาได้จริงไม๊ครับ
เราอาจจะคิดว่ายังมีประชาชนที่ด้อยการศึกษาอยู่อีกเยอะซึ่งเป็นคนหมู่มากของประเทศซะด้วย
แต่วันนึง ถ้าเค้าได้ทราบ ได้รู้ถึงการทุจริตของฝ่ายบริหาร เค้าย่อมตาสว่าง และลุกฮือมาต่อต้านครับ ( ผมไม่รุ้เหมือนกันว่าอีกนานแค่ไหน )
และผมเชื่อว่า คนๆเดียว มีอายุแค่ ไม่เกิน 80 ปี อาจจะโกงกินได้ไม่นานเท่าไรสุดท้ายเค้าก้อต้องตาย
ผมเคยคิดว่า ถ้าเราปล่อยไปตามกติกา เราจะเจริญเหมือน สิงคโปร์ หรือว่า จะลงเหว เหมือน กรีซ กันนะ ....... ก็ยังอยากรู้อ่ะครับ ^___^
80 ปี นี่มันเป็นชาติหน้าของเราๆท่านๆอีกหลายคนเลยนะครับ ถ้าเห็นการโกงชัดๆ จับไม่ได้ ไล่ไม่ทัน ก็ขวางซะเป็นบางครั้งก็ไม่เป็นไหรหรอก ให้เราได้มีโอกาสเห็นการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการเป็นช่วงๆ บ่อยๆหน่อย จะได้ชื้นใจว่าชาติหน้าจะได้เกิดอยู่บนแผ่นดินที่เจริญขึ้นแล้ว ไม่ใช่ว่าเกิดชาติหน้า พ่อแม่ต้องไปลงทะเบียนซื้อผ้าอ้อมอนามัยตาบละ 200 แล้วมีโลโก้นายยกติดอยู่ข้างแก้มตูดเราเวลาคลาน แถมยังหากใช้เกินวันละสองตาบก็ให้เก็บภาษีเพิ่ม และหากไม่ใช้ผ้าอ้อมอนามัยตราหน้าเหลี่ยม ไม่ให้เข้าเรียน ป.ขี้ไก่ ไม่ได้กระดานชนวนปัญญาอ่อน อะไรทำนอง
อย่าให้นานเลยครับ โกงปุ๊บก็ยึดอำนาจมันปั๊บ อย่างนี้สิคือชานพักประชาธิปไตย ไปไม่ได้ โกง ก็หยุดไปก่อน ที่ชานพักและให้คนอื่นเดินต่อไป เมื่อเลือกตั้งแล้ว โกงอีก ก็ยันมันลงชานพักอีก ผมว่าดีนะ ผมชอบ
#33
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:42
นักการเมือง อยากรวย อยากมีอำนาจทำไม เงินซื้อคนได้ครับ อำนาจใช้ข่มเหงคนได้ครับ ทำอะไรก็ไม่ผิด
ผมก็มองโลกสวยนะครับ ^^ เพราะ ผมได้บอกแล้วว่า ที่ผมไม่ได้ชอบใคร พรรคไหนเป็นพิเศษ
เพราะสุดท้าย ผมก้อยังต้องทำงาน ใช้ชีวิตประจำวันผมต่อไป = = ข้าวของจะแพงขึ้น
ถ้าจำเป็นต้องซื้อต้องกินต้องใช้ ผมก็ต้องยอมรับ และปรับตัวกับมันน่ะครับ
แต่ผมยังมีความภูมิใจที่ว่า ผมไม่เคยไปคดโกงใคร มีกินมีใช้ อยู่กับครอบครัว
ผมก็ happy แล้ว เคยสังสัยไม๊ครับว่าพวกนักการเมืองจะอยากรวย อยากมีอำนาจไปทำไม
ในเมื่อได้มาแล้วก็เป็นทุกข์ ที่จะต้องเก็บรักษามัน
ปล. ผมว่าการมองโลกในแง่ดี แบ่งปันรอยยิ้ม นอกจากเราจะมีความสุข
คนอื่นก็จะมีความสุขด้วยน่ะครับ ^_____^ โลกสวยด้วยรอยยิ้ม อิอิ
555+ ตอนผมทำงาน พาทไทม์ ที่อเมริกา ที่ร้านอาหารน่ะครับ
คนไม่รวยชอบ จุกจิก ขอนั่นขอนี่ ใช้ภาษาไม่เป็นทางการ แต่งตัวโอ้อวดคุยโว
แต่ผมเจอ ลูกค้าท่านนึง ใส่ขาสั้นธรรมดา พูดเพราะมาก สุภาพมาก friendly มาก
จ่ายเงินด้วยบัตร Amex ดำ ทิป 30 เปอเซนต์
นั่นแปลว่าคนจนและคนรวยแต่ละประเทศต่างกันใช่ไม๊ครับ
ปล. คนไทยในตปท. จะรู้ว่า คนรวยมักจะพูดสุภาพ และ nice มากครับ พวกฝรั่งอ่านะครับ ^^
#34
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:44
กระผมขอมาเก็บความรู้ จากทุกๆคนครับ
#35
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:44
ผมก็มองโลกสวยนะครับ ^^ เพราะ ผมได้บอกแล้วว่า ที่ผมไม่ได้ชอบใคร พรรคไหนเป็นพิเศษ
เพราะสุดท้าย ผมก้อยังต้องทำงาน ใช้ชีวิตประจำวันผมต่อไป = = ข้าวของจะแพงขึ้น
ถ้าจำเป็นต้องซื้อต้องกินต้องใช้ ผมก็ต้องยอมรับ และปรับตัวกับมันน่ะครับ
แต่ผมยังมีความภูมิใจที่ว่า ผมไม่เคยไปคดโกงใคร มีกินมีใช้ อยู่กับครอบครัว
ผมก็ happy แล้ว เคยสังสัยไม๊ครับว่าพวกนักการเมืองจะอยากรวย อยากมีอำนาจไปทำไม
ในเมื่อได้มาแล้วก็เป็นทุกข์ ที่จะต้องเก็บรักษามัน
ปล. ผมว่าการมองโลกในแง่ดี แบ่งปันรอยยิ้ม นอกจากเราจะมีความสุข
คนอื่นก็จะมีความสุขด้วยน่ะครับ ^_____^ โลกสวยด้วยรอยยิ้ม อิอิ
เห็นด้วยที่สุดเลยจ้ะ เราไม่สังกัดพรรคไหน
แต่เราเกลียดเสื้อแดง เผาเมือง ทำทุกอย่างแล้วเรียกร้องประชาธิปไตย
ที่สำคัญทมันจาบจ้วงในหลวง พ่อของคนไทย
เกลียดไอ่แม้วที่มันทำลายชาติจ้ะ
คนเราคิดต่างได้ แต่อย่าคิดชั่ว
ไม่ว่าจะมุมนี้หรือมุมไหน ถ้ามันเป็นเรื่องงี่เง่าไม่ขอเสียเวลามองว่ะ
#36
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:44
#37
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:50
#38
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:51
ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า ประเทศของเรา ไม่ใช่เพราะทหาร ไม่ใช่เพราะนักการเมือง ไม่ใช่พรรคไหนหรอกที่ผิด
สิ่งที่ทำให้พวกเราเป็นในแบบทุกวันนี้คือ ... ความคิดของพวกเราต่างหาก ความคิดที่เห็นแก่ตัวของพวกเรา
สิ่งที่คุณพูดมาทั้งหมดตรงกับความคิดผมทั้งหมดเลย เพียงแต่ผมไม่สามารถเรียงร้อยออกมาเป็นข้อความที่เข้าใจง่ายได้ ส่วนใหญ่ที่บอกมาทั้งหมดนั้น มันมาจากความเห็นแก่ตัวของเราจริงๆครับ ทุกวันที่เราเดือดร้อนกันอยู่ก็เพราะความเห็นแก่ตัว ตอนนี้เราเอาความสะดวกสบายผลประโยชน์ของตัวเราเป็นหลักมากกว่าความเดือดร้อนของชาติ เช่น ใครให้ประโยชน์หรือทำอะไรที่เป็นบุญคุณต่อเรา ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนไม่ดี แม้เราก็รู้แต่เราก็ยังเลือกที่จะนับถือ โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องครับ สรุปง่ายๆคือ "คนปัจจุบัน คิดถึงความถูกใจ มากกว่าความถูกต้อง" ครับ
"ดีใดไม่มีโทษ ดีนั้นชื่อว่าดีเลิศ" - หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
"คนเราสามารถเปลี่ยนต้นไม้ประหลาด ให้เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เปลี่ยนคนผิดให้เป็นพระเจ้า เปลี่ยนสีขาวให้เป็นสีดำ เพียงเพราะความเชื่อของตัวเองเพียงเท่านั้น"
#39
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:52
ถ้าเกิดบอกว่ารัฐบาลที่เลือกมาโดยประชาชนก็ควรไปโดยประชาชน การขับไล่ก็มีสองแบบคือการชุมนุมแสดงออกทางรัฐธรรมนูญอย่างสงบ หรือการไม่เลือกนักการเมืองที่เราไม่ชอบเข้ามาอีก แต่จะทำยังไงได้ครับถ้าเกิดการซื้อเสียงยังมีอยู่ ชาวบ้านในระบบอุปถัมป์ก็ยังเลือกเข้ามาอีกด้วยเหตุผลว่าถึงเขาเลวต่อสังคมหรือทุจริตต่อหน้าที่ แต่เขาก็ยังดีกับเราเพราะเราได้ผลประโยชน์
ชาวบ้านที่มีความรู้และสามารถวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลเขาก็รู้ดีว่าใครมีพฤติกรรมอย่างไร อาจจะมีการแสดงออกในรูปแบบต่างๆ กันซึ่งเป็นเรื่องปกติของสังคมประชาธิปไตย แต่รัฐบาลก็ยังหาทางปิดปากชาวบ้านโดยยกกฎหมายหมิ่นประมาทหรือกฎหมายคอมพิวเตอร์ขึ้นมา ชาวบ้านเมื่อไม่มีทางออกแล้วบวกกับความแค้นก็อาจแสดงมาในรูปแบบต่างๆ กัน ถึงขนาดเรียกร้องให้มีการรัฐประหาร การที่ทหารทำเช่นนั้นผิดหรือถูกมันขึ้นอยู่กับแว่นตาที่เราสวมแล้วมองผ่านแว่นนั้น ผมคงไม่สามารถบอกได้ว่าทหารทำถูกแล้วเมื่อปี 49 เพราะแต่ละคนมีความเห็นไม่เหมือนกัน แต่บอกได้อย่างหนึ่งว่ามันมีเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดรัฐประหารขึ้น ทุกวันนี้มันมีแต่การตัดตอนประวัติศาสตร์เป็นท่อนๆ แล้วแต่ละฝ่ายก็พยายามหาเหตุผลมาสนับสนุนประวัติศาสตร์ท่อนที่ตนยกมา
ถ้าเราอยากให้สังคมดีขึ้น แต่ละคน แต่ละหน่วย แต่ละองค์กรซึ่งเป็นองคาพยพของสังคมควรปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด อย่าละเว้นการกระทำหรือเล่นพรรคเล่นพวกเพื่อประโยชน์ของกลุ่มตน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือกระบวนการยุติธรรม ผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าตำรวจ อัยการ ทนายความ ศาลยุติธรรมก็ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีจริยธรรมและตามที่กฎหมายกำหนด องค์กรอิสระก็ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐเช่นกันว่าเป็นไปตามกฎหมายกำหนดหรือไม่ นักการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ที่ประพฤติมิชอบก็ควรได้รับโทษ สิ่งเหล่านี้ก็น่าจะมีส่วนที่ไม่ทำให้การเมืองลงถนนได้
ผมเองก็จบกฎหมายและทำงานด้านกฎหมายเช่นกัน จากประสบการณ์ในการทำงานพบว่าคนบางจำพวกมุ่งแต่จะหาช่องโหว่ของกฎหมาย หรือการเล่นพรรคเล่นพวกทำให้ตนเองได้ประโยชน์ แต่สุดท้ายข้อเท็จจริงมันยังอยู่และกาลเวลาจะช่วยตัดสินว่าการกระทำเช่นนั้นมันถูกต้องหรือไม่
#40
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:53
ป.ล. เป็นมุมมองส่วนตัวของผมเองนะครับ
#41
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:54
คุณว่าไอ้เหลิม และลูกๆ มันถ่อยมั้ยครับ
นักการเมือง อยากรวย อยากมีอำนาจทำไม เงินซื้อคนได้ครับ อำนาจใช้ข่มเหงคนได้ครับ ทำอะไรก็ไม่ผิด
ผมก็มองโลกสวยนะครับ ^^ เพราะ ผมได้บอกแล้วว่า ที่ผมไม่ได้ชอบใคร พรรคไหนเป็นพิเศษ
เพราะสุดท้าย ผมก้อยังต้องทำงาน ใช้ชีวิตประจำวันผมต่อไป = = ข้าวของจะแพงขึ้น
ถ้าจำเป็นต้องซื้อต้องกินต้องใช้ ผมก็ต้องยอมรับ และปรับตัวกับมันน่ะครับ
แต่ผมยังมีความภูมิใจที่ว่า ผมไม่เคยไปคดโกงใคร มีกินมีใช้ อยู่กับครอบครัว
ผมก็ happy แล้ว เคยสังสัยไม๊ครับว่าพวกนักการเมืองจะอยากรวย อยากมีอำนาจไปทำไม
ในเมื่อได้มาแล้วก็เป็นทุกข์ ที่จะต้องเก็บรักษามัน
ปล. ผมว่าการมองโลกในแง่ดี แบ่งปันรอยยิ้ม นอกจากเราจะมีความสุข
คนอื่นก็จะมีความสุขด้วยน่ะครับ ^_____^ โลกสวยด้วยรอยยิ้ม อิอิ
555+ ตอนผมทำงาน พาทไทม์ ที่อเมริกา ที่ร้านอาหารน่ะครับ
คนไม่รวยชอบ จุกจิก ขอนั่นขอนี่ ใช้ภาษาไม่เป็นทางการ แต่งตัวโอ้อวดคุยโว
แต่ผมเจอ ลูกค้าท่านนึง ใส่ขาสั้นธรรมดา พูดเพราะมาก สุภาพมาก friendly มาก
จ่ายเงินด้วยบัตร Amex ดำ ทิป 30 เปอเซนต์
นั่นแปลว่าคนจนและคนรวยแต่ละประเทศต่างกันใช่ไม๊ครับ
ปล. คนไทยในตปท. จะรู้ว่า คนรวยมักจะพูดสุภาพ และ nice มากครับ พวกฝรั่งอ่านะครับ ^^
#42
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:56
รัฐบาลที่แล้วไม่เห็น โปกจะพูดแบบนี้เลย เห็นเผาบ้านเผาเมือง ปิดถนนแหล่งทำมาหากินของคนอื่นล่าสุดตอนนี้ที่ทำได้คือ การมีน้ำใจให้กันและกันในยามทุกข์ยากแบบนี้ครับ
#43
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 20:02
คุณมองประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ก่อนเถอะ เข้าใจที่คุณคุยกันกี่มากน้อย
ตอนนี้ฉันไม่โทษ ทักษิณ แล้ว แม้แต่คนเลว ก็ไม่โทษ เพราะคนที่เลือกมันขึ้นมาคือ คนไทยส่วนมาก
ฉันอพยพย้ายกลับมา เพราะเชื่อในจิตใต้สำนึกของคนไทยในการมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อ 2- 3 ปีที่ผ่านมาได้เยอะ
เลือกอะไรเข้ามา ก็รับกรรมกันไปละกัน คนที่เลือกทำดี ก็รับกรรมดีไป คนที่เลือกทำเลว ก็รับความเลวไป ทหารเลิกยุ่งได้แล้ว ทหารจะรักชาติ หรือประชาชนยังไง แต่ถ้ารักเค้าข้างเดียว ก็เจ็บตัวเปล่า
พูดแล้ว ของขึ้น ลงดีกว่า...เครียด ไม่รู้***อพยพกลับมาทำไม
#44
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 20:05
ลองเดินไปถามชาวบ้านบนท้องถนน ว่า
เกลียดการคอรัปชั่น โกงกิน ไหม?
แล้ว ถามชาวบ้านคนเดิมต่อ ว่า หากโดนตำรวจจราจร จับ แล้วจะทำอย่างไร?
#45
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 20:13
ทางออกที่เราทำได้ในการแก้ไขระบบคือ ปลูกฝังเด็กๆ ในวันนี้ให้ดี
แล้วรอเวลา 30-50 ปี ให้ผู้ใหญ่ ในวันนี้ ที่ยังยึดติดระบบคอรัปชั่น ทั้งหลายทั้งปวง ....ตายไปจากระบบ
วันนั้น บ้านเมืองเราจะคงดีกว่านี้แน่นอน นั่นแหละครับดีที่สุด
ปรับระบบการศึกษา แล้วรอเวลา
ระหว่างนี้ก็เหมือนเราติดตามดูละครกันไป บางตอนอาจถูกใจไม่ถูกใจ ก็ว่ากัน 555
#46
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 20:27
รัฐบาลที่แล้วไม่เห็น โปกจะพูดแบบนี้เลย เห็นเผาบ้านเผาเมือง ปิดถนนแหล่งทำมาหากินของคนอื่น
ล่าสุดตอนนี้ที่ทำได้คือ การมีน้ำใจให้กันและกันในยามทุกข์ยากแบบนี้ครับ
ฮ่า ฮ่า ปุ๊กไม่เลยกระทู้โลกสวยกำลังไปได้ดี คนที่ชอบเอาข่าว คอลั่มด่าฝ่ายตรงข้ามอย่างปุ๊กไม่น่าเข้าข่ายโลกสวยน้า
เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<
#47
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 20:47
ปล.ผมไม่เคยหนุนปฎิวัตินะผมต่อต้านแต่ผมพูดในแง่ของความอันตรายต่อชาติเท่านั้น
#48
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 20:49
แล้วรอเวลา 30-50 ปี ให้ผู้ใหญ่ ในวันนี้ ที่ยังยึดติดระบบคอรัปชั่น ทั้งหลายทั้งปวง ....ตายไปจากระบบ
คุณคงลืมไปกระมังว่า ผู้ใหญ่ ในวันนี้ ที่ยังยึดติดระบบคอรัปชั่น ทั้งหลายทั้งปวง เขาก็สามารถสอนลูกสอนหลานขาให้ยึดติดกับระบบคอรัปชั่นเป็นเหมือนกันนะครับ
#49
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 20:54
แล้วรอเวลา 30-50 ปี ให้ผู้ใหญ่ ในวันนี้ ที่ยังยึดติดระบบคอรัปชั่น ทั้งหลายทั้งปวง ....ตายไปจากระบบ
คุณคงลืมไปกระมังว่า ผู้ใหญ่ ในวันนี้ ที่ยังยึดติดระบบคอรัปชั่น ทั้งหลายทั้งปวง เขาก็สามารถสอนลูกสอนหลานขาให้ยึดติดกับระบบคอรัปชั่นเป็นเหมือนกันนะครับ
เอ่อผมพิมว่าไว้
ทางออกที่เราทำได้ในการแก้ไขระบบคือ ปลูกฝังเด็กๆ ในวันนี้ให้ดี
แล้วรอเวลา 30-50 ปี ให้ผู้ใหญ่ ในวันนี้ ที่ยังยึดติดระบบคอรัปชั่น ทั้งหลายทั้งปวง ....ตายไปจากระบบ
วันนั้น บ้านเมืองเราจะคงดีกว่านี้แน่นอน นั่นแหละครับดีที่สุด
... ยกมาไม่ครบ ใจความจะไม่ครบน่ะครับ ^ ^ อย่ากัวที่จะเริ่มต้นคิดครับ
เหมือนจะปลูกต้นไม้อ่ะคับ ยังไม่ันปลูกเลยจะรู้ได้ว่า ต้นไหนจะเป็นโรค ต้นไหนจะดี จะเน่า ^^ จริงไม๊ครับ
#50
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 21:04