เป็นกระทู้แรกของผมครับ อยากทราบความเห็นของชาวเสรีไทยว่า มีทางไหนที่บ้านเมืองเราจะเลิกแบ่งสี เลิกแบ่งแยก เราควรยึดมั่นในสิ่งใดครับ
#151
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 08:34
ทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง เลิกส่งท่อน้ำเลี้ยง เงินทอง ทุกอย่างจบ!!!!!
และกำหนดให้ "คดีความทุจริตคอร์รัปชั่นทั้งหมด เป็นคดีที่ไม่มีอายุความ
สามารถลงโทษ หรือ ยึดทรัพย์ ภายหลังได้ถ้าพบการกระทำผิด"
#152
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 08:47
2..มองให้รอบด้านครับ อย่ามองแค่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า ที่สำคัญ ลดEGOยอมรับความเป็นจริง
ทุกวันนี้ปัญหามันมาจากนักการเมืองเข้าทำงานเพื่อตัวเองครับ ไม่ไช่เพื่อประชาชนอย่างที่พูด
Edited by ริวมะคุง, 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 08:49.
#153
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 08:53
เอ่อ...ท่านอาจารย์คะ
ผมคิดว่าการให้อภัยซึ่งกันและกันสำคัญที่สุด ณ ขณะนี้ครับ
สมมุตินะครับ...
ถ้านักเรียนของอาจารย์ต่อยกัน.. นะครับ...
อาจารย์จับแยกแล้วบอกว่า...
"ใครจะผิดใครจะถูกยังไงก็ชั่ง แต่พวกเธอต้องให้อภัยกันนะ"...
อาจารย์คิดว่าผลมันจะเป็นยังไงต่อไปครับ ?
คุณยกตัวอย่างได้ดีครับ ถ้าลูกศิษของผมมีเรื่องชกต่อยกัน ผมคงต้องสอบสวนว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน ทำอย่างนั้นเพราะอะไร ใช้เหตุใช้ผล และลงโทษผู้ที่กระทำผิด จากนั้นผมจะให้เค้าทั้งสองอภัยให้กันและกัน ปรับความเข้าใจกัน เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
แล้วสมมุติว่า ดิฉันนั่งหลังห้อง แล้วไปตบ กะบาลเพื่อนข้างหน้า เหตุผลเพราะ มันชอบบัง นี่เข้าใจว่า ดิฉันผิดค่ะ แล้วอาจารย์ทำโทษ สั่งสอนว่า ไม่ดี อย่าทำอีก แล้วถ้ามันบังอีก ดิฉันจะตบมันอีกได้กี่ทีคะ เพราะดิฉันตบไม่อั้นด้วย เพราะทุกครั้งอาจารย์ให้มันให้อภัยดิฉันแล้วนี่ เพียงเพราะดิฉันขอโทษ
แล้วอาจารย์จะถามมันสักนิดมั๊ยคะว่า มันทำไมบังบ่อยอย่างนั้น เจตนารึเปล่า และจะให้มันขอโทษดิฉันบ้างมั๊ยคะว่า บังดิฉัน
#154
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 09:00
#155
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 09:05
ไอ้ปลายอ้อ มันไปตั้งกระทู้ลวงโลก ด่าสำนักข่าวเขาเสียๆหายๆ
ตอนนี้ เขา ชี้แจงยืนยันมาแล้ว ครับ
ปลายอ้อ ตอแหลอีกแล้วครับ อาจารย์
เอาข้อมูลมั่วซั่ว มาใส่ร้ายเขาอีกแล้วครับ
อาจารย์ต้องตีไอ้เวรนี้นะครับ
ไม่งั้นไม่หลาบจำ
เชิญผู้ปกครองมาด้วยครับ
ไม่รู้มีหรือเปล่า
ถ้ามีต้องลงโทษด้วยครับ ฐานเลี้ยงคนออกมาไม่เป็นคน
ดี ดี อย่างชาวบ้านเขา
อาจารย์ต้องทำนะครับ
ไม่งั้นผมไม่ยอม ไม่ย้อมมมมม
แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ทั้งกษัตริย์ยังทรงคุณธรรมอันสูงส่ง
จำคำนี้ไว้ไปบอกยมบาลเวลาเจ้าลงนรกก็แล้วกัน
#156
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 09:09
ไม่ว่าคุณจะใหญ่โตแค่ไหน ในระบอบประชาธิปไตยคุณมีเพียงหนึ่งสิทธิเท่ากับประชาชนคนอื่น
ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ทางหลังไมค์ครับ
อย่าโทษใครเลยครับ ผมเองก็มีส่วนผิดอยู่ด้วยเหมือนกัน
ผมเชื่อว่าพวกเราทุกคนจะร่วมกันฟันฝ่าปัญหานี้ไปได้ด้วยกัน
#157
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 09:10
ระบอบประชาธิปไำตย คือการตัดสินปัญหาโดยการใช้เสียงส่วนมากของประชาชนภายในประเทศ หนึ่งคนมีหนึ่งสิทธิเท่าเทียมกันทุกคน
ไม่ว่าคุณจะใหญ่โตแค่ไหน ในระบอบประชาธิปไตยคุณมีเพียงหนึ่งสิทธิเท่ากับประชาชนคนอื่น
และทั้งหมดต้องอยู่ ภายใต้กฎหมาย มิใช่กฎหมู่
ใช่ไหมครับท่าน Jaidee20
- เบื่อดราม่าอันหาสาระมิได้ likes this
The most valuable things in life are not measured in monetary terms.
The really important things are not houses and lands, stocks and bonds, automobiles and real estate,
but friendships, trust, confidence, empathy, mercy, love and faith.
#158
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 09:13
และควรจะหันกลับไปถามพวกตัวเองให้เลิกแบ่งแยก เลิกแบ่งสีกันได้แล้ว บ้านเมืองจะถึงกาลแตกสลายแล้ว
เช่น ปชป จะเดินทางไปที่ภาคใดของประเทศก็ได้ จะปราศรัย จะทำกิจกรรมการเมือง แสดงความคิดเห็นทางการเมืองได้อย่างอิสระ
คนต่างความคิดสามารถแสดงความคิดเห็นภายใต้กฎหมายได้ไม่มีการมาเข้าทำร้ายทำลายกัน เคารพกัน
และให้แกนนำเสื้อแดงเลิกสุมไฟ อยู่เฉยๆ ไม่ทำร้ายทำลายกันเอง ไม่ทำตัวเป็นตัวถ่วงความเจริญ เคารพกฎหมายก็น่าจะพอ
เราๆท่านๆ ก็รู้ว่าเราจะอยู่ร่วมกันยังไงให้ได้ บางทีได้แค่พูด แต่การปฏิบัติต้องทำด้วย
อันนี้อาจารย์ จขกท ต้องปฏิบัติให้ดูเป็นตัวอย่างให้กับนักเรียน ก็คิดว่าสังคมเล็กๆ ต้องหล่อหลอมรวมกันเป็นประเทศไทยได้
คุณต้องลงมือ จึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลง "คานธี"
กฏของเสียงข้างมาก จะใช้กับเรื่องของมโนธรรมไม่ได้ "คานธี"
#159
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 09:14
ระบอบประชาธิปไำตย คือการตัดสินปัญหาโดยการใช้เสียงส่วนมากของประชาชนภายในประเทศ หนึ่งคนมีหนึ่งสิทธิเท่าเทียมกันทุกคน
ไม่ว่าคุณจะใหญ่โตแค่ไหน ในระบอบประชาธิปไตยคุณมีเพียงหนึ่งสิทธิเท่ากับประชาชนคนอื่น
และทั้งหมดต้องอยู่ ภายใต้กฎหมาย มิใช่กฎหมู่
ใช่ไหมครับท่าน Jaidee20
การปฏิวัติคือการละเมิดกฎหมาย ละเมิดประชาธิปไตย นี่คือต้นตอของปัญหาในบ้านในเมืองนี้
ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ทางหลังไมค์ครับ
อย่าโทษใครเลยครับ ผมเองก็มีส่วนผิดอยู่ด้วยเหมือนกัน
ผมเชื่อว่าพวกเราทุกคนจะร่วมกันฟันฝ่าปัญหานี้ไปได้ด้วยกัน
#160
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 09:19
ระบอบประชาธิปไำตย คือการตัดสินปัญหาโดยการใช้เสียงส่วนมากของประชาชนภายในประเทศ หนึ่งคนมีหนึ่งสิทธิเท่าเทียมกันทุกคน
ไม่ว่าคุณจะใหญ่โตแค่ไหน ในระบอบประชาธิปไตยคุณมีเพียงหนึ่งสิทธิเท่ากับประชาชนคนอื่น
และทั้งหมดต้องอยู่ ภายใต้กฎหมาย มิใช่กฎหมู่
ใช่ไหมครับท่าน Jaidee20
การปฏิวัติคือการละเมิดกฎหมาย ละเมิดประชาธิปไตย นี่คือต้นตอของปัญหาในบ้านในเมืองนี้
เหรอ..... ใจดีเพิ่งเกิดเหรอ
#161
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 09:19
ระบอบประชาธิปไำตย คือการตัดสินปัญหาโดยการใช้เสียงส่วนมากของประชาชนภายในประเทศ หนึ่งคนมีหนึ่งสิทธิเท่าเทียมกันทุกคน
ไม่ว่าคุณจะใหญ่โตแค่ไหน ในระบอบประชาธิปไตยคุณมีเพียงหนึ่งสิทธิเท่ากับประชาชนคนอื่น
และทั้งหมดต้องอยู่ ภายใต้กฎหมาย มิใช่กฎหมู่
ใช่ไหมครับท่าน Jaidee20
การปฏิวัติคือการละเมิดกฎหมาย ละเมิดประชาธิปไตย นี่คือต้นตอของปัญหาในบ้านในเมืองนี้
ออกไปเรื่องปฎิวัติซะงั้น..ผมอยู่บนโลกปัจจุบันนะ ไม่ใช่โลกในอดีต
จะให้ย้อนไป 2475 เลยหรอไงกัน ผู้นำคณะปฎิวัติครั้งล่าสุด ก็สนิทสนมกับรัฐบาลชุดนี้เป็นอย่างดี
ทุกวันนี้รัฐบาลก็มาจากการเลือกตั้งมิใช่รึ .. ก็ถูกแล้วที่ทุกอย่างเป็นไปตามสิทธิ์ตามเสียง
และผมก็เข้าใจว่าท่าน Jaidee20 ก็เห็นด้วยกับผมที่ว่า
ทั้งหมดต้องอยู่ ภายใต้กฎหมาย มิใช่กฎหมู่
ใช่ไหมครับท่าน Jaidee20
The most valuable things in life are not measured in monetary terms.
The really important things are not houses and lands, stocks and bonds, automobiles and real estate,
but friendships, trust, confidence, empathy, mercy, love and faith.
#162
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 09:22
อาจารย์ครับมาตอบกระทู้หน่อยเพราะกระทู้นี้มีเดิมพัน ครับจารย์อาจารย์ครับ
ผมเข้าใจความเป็นครูบาอาจารย์
และผมก็เชื่อว่าเป็นอาจารย์สอนนักเรียนจริง
คำว่า "ให้อภัย" ทีอาจารย์พูด ผมก็เข้าใจ
และเชื่อว่าอาจารย์ไม่ได้ถามแค่บอร์ดนี้บอร์ดเดียว
อาจารย์คงไปถามในพันทิป ในบ้านราด ในประชาทอล็คด้วยเหมือนกัน
แต่คนที่นี้ เขารับไม่ได้กับคำๆนี้ครับ อภัย ปรองดอง สามัคคี หรือคำพูดอะไรๆที่มันทำให้บ้านเมืองสงบ
เขารับไม่ได้หรอกครับ
อาจารย์อย่าเปลืองตัวเลยครับ
ยิ่งอาจารย์พูด เขายิ่งจะหาว่าอาจารย์เป็นพวกเสื้อแดง
เดี๋ยวก็ด่าอาจารย์..ผมทายไม่ผิดหรอกครับ
เอาเท้าเหยียบหน้าผมได้เลย
พวกเขาเป็นกันแบบนี้
เขามองว่าตัวเองถูก คนอื่นผิด...
#163
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 09:25
#164
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 09:32
ระบอบประชาธิปไำตย คือการตัดสินปัญหาโดยการใช้เสียงส่วนมากของประชาชนภายในประเทศ หนึ่งคนมีหนึ่งสิทธิเท่าเทียมกันทุกคน
ไม่ว่าคุณจะใหญ่โตแค่ไหน ในระบอบประชาธิปไตยคุณมีเพียงหนึ่งสิทธิเท่ากับประชาชนคนอื่น
จะบ้าเหรอตัดสินปัญหา เขาใช้กฎหมาย ต่างหาก
เสียงส่วนมากที่ใช้เพราะ เป็นการเมืองระบบตัวแทน
ไม่ใช่เอาเสียงส่วนมากมาใช้ทุกเรื่อง เข้าใจอะไรผิดแล้ว
#165
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 09:35
ระบอบประชาธิปไำตย คือการตัดสินปัญหาโดยการใช้เสียงส่วนมากของประชาชนภายในประเทศ หนึ่งคนมีหนึ่งสิทธิเท่าเทียมกันทุกคน
ไม่ว่าคุณจะใหญ่โตแค่ไหน ในระบอบประชาธิปไตยคุณมีเพียงหนึ่งสิทธิเท่ากับประชาชนคนอื่น
และทั้งหมดต้องอยู่ ภายใต้กฎหมาย มิใช่กฎหมู่
ใช่ไหมครับท่าน Jaidee20
การปฏิวัติคือการละเมิดกฎหมาย ละเมิดประชาธิปไตย นี่คือต้นตอของปัญหาในบ้านในเมืองนี้
ประชาธิปไตย ที่มาจากการยึดอำนาจพระมหากษัตริย์ แล้วเอาพวกเห่อหยอยมาบริหารราชการ
คือต้นตอของปัญหาในบ้านในเมืองนี้มาตั้งแต่ 2475 แล้ว ไอ้โง่ว
Edited by hinotori, 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 09:36.
- voodoo and จูกัดขงเบ้ง like this
#166
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 09:36
/me มองหา
เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<
#167
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 09:40
ระบอบประชาธิปไำตย คือการตัดสินปัญหาโดยการใช้เสียงส่วนมากของประชาชนภายในประเทศ หนึ่งคนมีหนึ่งสิทธิเท่าเทียมกันทุกคน
ไม่ว่าคุณจะใหญ่โตแค่ไหน ในระบอบประชาธิปไตยคุณมีเพียงหนึ่งสิทธิเท่ากับประชาชนคนอื่น
ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นจากคนที่นิยมประชาธิปไตย
#168
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 09:59
อ้าววววววว
ระบอบประชาธิปไำตย คือการตัดสินปัญหาโดยการใช้เสียงส่วนมากของประชาชนภายในประเทศ หนึ่งคนมีหนึ่งสิทธิเท่าเทียมกันทุกคน
ไม่ว่าคุณจะใหญ่โตแค่ไหน ในระบอบประชาธิปไตยคุณมีเพียงหนึ่งสิทธิเท่ากับประชาชนคนอื่น
และทั้งหมดต้องอยู่ ภายใต้กฎหมาย มิใช่กฎหมู่
ใช่ไหมครับท่าน Jaidee20
การปฏิวัติคือการละเมิดกฎหมาย ละเมิดประชาธิปไตย นี่คือต้นตอของปัญหาในบ้านในเมืองนี้
ใจดีมองไม่เห็น หรือแกล้งไม่รับรู้
ว่า การทุจริต คอรัปชั่น และ ผลประโยชน์ทับซ้อน ต่างหาก ที่เป็นต้นตอของปัญหาเรื้อรังในบ้านเมืองนี้
หรือว่า หัวหน้าสายของใจดี ไม่ได้ตั้งโปรแกรมมาให้ใจดีพูด????
ลืมไป ใจดีรู้แค่ว่า
2+2=5
ต้องเชื่ออย่างเดียว!!!!!
แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ทั้งกษัตริย์ยังทรงคุณธรรมอันสูงส่ง
จำคำนี้ไว้ไปบอกยมบาลเวลาเจ้าลงนรกก็แล้วกัน
#169
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 10:25
ระบอบประชาธิปไำตย คือการตัดสินปัญหาโดยการใช้เสียงส่วนมากของประชาชนภายในประเทศ หนึ่งคนมีหนึ่งสิทธิเท่าเทียมกันทุกคน
ไม่ว่าคุณจะใหญ่โตแค่ไหน ในระบอบประชาธิปไตยคุณมีเพียงหนึ่งสิทธิเท่ากับประชาชนคนอื่น
jaidee20 เองยังไม่เคารพ เสียงส่วนมาก ในนี้เลย
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด
#170
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 10:36
มากมาย แต่กลัวตกขอบ เลยพูดซ๊ะหน่อย
คืองี้ ( ต้นเหตุ มันอยู่ตรงไหน ) ก็จัดการ-
ที่ตรงนั้น.. เรียบร้อย..สาวหาเหตุแล้วแก้...
ที่ต้นเหตุ......นะโยม...เจริญพร...
#171
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 10:42
เอ้า เอากระจกไปส่องหน้าเอ็งซะ ไอ้ปลายดอ ควายแดง ทุกวันนี้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ เพราะมีควายแดงออกมาเผาบ้านเผาเมือง ด้วยความโง่ ทำชั่วแล้วอยากจะปรองดอง ทุกวันนี้ คำตัดสินของศาล ถ้าไม่ถูกใจพวกควายแดง ก็ออกมาจะจับตุลาการ ลามไปถึงลูกเมียเค้า
อาจารย์ ก็ลองศึกษาควายแดงปลายดอตัวนี้ดู ว่าที่มันโพสต์แต่ละกระทู้ มีแต่บิดเบือนใส่ร้ายคนอื่น แล้วมันจะหาความปรองดองกับคนแบบปลายดอได้ไง อภัยผมให้ได้นะ แต่ผมทนไม่ได้ กับคนไม่รู้สำนึกผิด ไม่รู้สำนึกผิด แล้วยังทำผิดซ้ำซาก
บ้านเมืองลุกเป็นไฟ เพราะอะไร ?
เพราะคนหย่อมหนึ่งในสังคม คิดว่าตนเองเป็นเสียงส่วนน้อย ต้องปกครองประเทศ
เสียงส่วนใหญ่ต้องทำตามเสียงส่วนน้อย..ไม่งั้นพัง
ไปกระชากประธานสภาลงจากเก้าอี้
แย่งเก้าอีประธานสภา
เอาของขว้างใส่ประะานสภา
ยุให้คนบุกเข้าไปทำร้าย สส.ในสภา
แล้วก็ไปเที่ยวยุยงให้ชาวบ้านต่อต้านรัฐาล ..สักวันเอ็งจะโดนข้อหากบฎ
พวกเอ็งไม่ยอมรับ ปั่นป่วนประเทศ สร้างแต่ความเสียหาย
พอให้เป็นรัฐบาล..ก็ไม่มีปัญญาบริหารประเทศ สร้างแต่ศัตรู จ้องจับแต่ทักษิณ
สร้างแต่หายนะให้ประเทศ ..
ยังมีหน้ามาว่าคนอื่นเลว..
คนเลว..ที่คนทั่วโลกเขาต้องการว่ะ
คนดี..ที่ไม่มีใครคบ..
นึกอนาถใจพวกเดียวกันบ้างมั๊ยครับ
เฉิดหน้าชูคอว่ากรรรูดี กรรูฉลาด ..
เคยเอา "จุดยืน"ลูบหน้าตัวเองบ้างไหม..บุ๊คม๋าร์ หือม์ !
ปล่าว เพราะคนเลว มันเข้าไปเป็นเผด็จการรัฐสภา ไม่ยอมรับการตรวจสอบ...
เลื่อกตั้ง ก็โกงขนาดให้เค้าจับได้ ยุบ ถึง 2 พรรค...
พอถูกศาลตัดสินว่าผิด ก็สร้างวาทะกรรม..ก็ปลุกปั่นควายแดง ออกมาเผาเมือง..
ลองคิดดู ถ้าคนไทยทั้งหมด ทำผิดแล้วไม่ต้องรับโทษ ประเทศชาติจะอยู่ยังไง..
หรือจะยกเว้น เฉพาะ โจรที่เป็นนักการเมือง..บ้านเมืองจึงไม่ลุกเป็นไฟ..
#172
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 10:58
กรุงโรม ไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียวครับ !
แต่ เซ็นทรัลเวิร์ล กรุงเทพฯ และศาลากลางจังหวัดต่างๆ ถูกเผาเสร็จในวันเดียวครับ !
เสื้อแดงไม่ได้เผาเองได้โดยฝ่ายเดียว
มีท่านเทือกและพวกพ้อง ร่วมด้วยช่วยเผาด้วยครับ
ขอบคุณจริงๆในความกรุณา ..
ดีเอสไอ เริ่มจะได้หลักฐานอีกแล้วครับ เพราะก่อนไหม้ ทหารเข้าไปคุมพื้นที่หมดแล้วครับ
ไม่นานเกินรอ..อิอิ
อ๋าย จะบอกว่าท่านเทือกกับพวกพ้องเป็นเสื้อแดงเหรอ
ขอบคุณจริงๆในความกรุณา ..
ปลายอ้อ ตอบแบบใช้หลักฐาน หรือ ใช้ความเชื่อครับ
กี่กระทู้แล้ว ที่หายไปโดยไร้ความรับผิดชอบครับ
แล้วคิดว่าเราควร ปรองดอง กับพวกเผาเมือง หรือไม่ครับ
หรือควรจะลากคอมันออก มา ประจานให้ทั่วโลกรับรู้ แล้วให้มันทรมานตายอยู่ในคุกดี
จนป่านนี้ คุณ HiddenMan ยังไม่เข้าใจอีกหรือครับ
ณ พันดริฟ เค้าใช้ความเชื่อจากปากแกนนำเป็นหลักฐานครับ
ไม่ต้องพิสูจน์ความจริงในชั้นศาล
ไม่ต้องมีหลักฐานคลิปหรืออะไรทั้งสิ้น
หรือแม้จะมีหลักฐานจากฝ่ายตรงข้ามชัดเจนอย่างไร
แต่คำพูดของแกนนำบนเวทีน่าเชื่อถือกว่าพันเปอร์เซ็นต์
นี่ระดับชั้นอ๋องของพันดริฟ ยังขนาดนี้
ไม่ต้องนับลูกกระจ๊อกนะครับ
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
- HiddenMan and จูกัดขงเบ้ง like this
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
#173
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 12:14
แล้วอยุ่เงียบ ๆ ไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวอีก
เมื่อทักษิณหยุด แกนนำเสื้อแดงหรือพรรคเพื่อไทยทั้งหลายก็ ไม่ีมีอะไรต้องทำ เพื่อคน ๆ นี้อีก
ทุกวันนี้ หมุ่บ้านเสื้อแดง เกิดเพราะทักษิณ แก้รัฐธรรมนูญ และ พรบ.ปรองดอง ก็เพื่อทักษิณ
#174
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 12:34
ผมว่า ถ้ายัง สะกดคำว่า อภัย หรือ ลืมๆกันไป ไม่เป็น...
ก็คงต้องเป็นแบบนี้ต่อไป... ประเทศเราไม่ใช่ที่แรก... และที่สุดท้าย...
ศัพท์ คำว่า สันติภาพในโลกนี้ คงไม่เกิดขึน ถ้า ทุกคนในโลกนี้ ยังเจ้าคิดเจ้าแค้น...
ข้าอยู่ข้างถูกเองผิด เองทำผิดกฏหมาย เองทำผิดจริยธรรม โน่นนี่นั่น..
"เองยิงเมืองข้าพัง... ทหารข้าตาย ต้องชดใช้หรือสำนึก ก่อน ... ไม่งั้นไม่สงบศึก..."
ตัวอย่าง การแถประจำ ของผ่ายที่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องสงบศึกคือ...
ถ้า A (พวกโลกสวย แต่ไม่ให้อภัยถ้าไม่สำนึก) ไปทำความรุนแรงกับ B (พวกที่ นิยมการให้อภัย) แล้ว...
B จะให้อภัย A ไหม
ผมอยากจะบอกว่า... ตอนรบกันเนี่ย... ถ้าฝ่ายนึงชนะอีกฝ่ายแน่ๆ...
ฝ่ายชนะเค้าอยากเลิกแล้วบอกว่า... มาเหอะลืมเรื่องเก่าๆ แล้ว ทำมาหากินกัน...
คนแพ้ควรจะลืมๆกันไป ว่าเสียอะไร แล้ว อภัยกับความ เลวร้าย ของฝ่ายที่ชนะก่อ... แล้ว สงบศึก
หรือไม่...
หรือ
จะสู้ไปเรื่อยๆ เพราะคิดว่า อยู่ข้างธรรม ความดีต้องชนะความชั่ว... จนไม่เหลืออะไร...
บางที่ ไอ้ที่ว่า ธรรมชนะอธรรมเนี่ย... เมื่อไรครับ... ผ่านไป 20 ปี พออธรรมแก่ตายไปเอง.. ธรรมเอามาอ้างทันที
เลยใช่ไหมว่า เห็นป่าว... ชนะแล้ว.. 5555
แต่... ถ้ากำลังเท่าๆกัน... ถ้าไม่อยาก สูญเสียทั้งสองฝ่ายไปเรื่อยๆ เสียเวลา.. เค้าทำอะไรกันครับ... รบต่อไปเรื่อยๆ เพราะ
เองยังไม่สำนึก... หรือ เองผิดที่มารุกข้าก่อน... ต้ิองชดใช้...
หรือ เอาน่า... ลืมๆกันไป แล้วมา สงบศึก กัน..
คำตอบที่ถูกคือ.. มันไม่เกี่ยวว่า สิ่งที่ A ทำจะผิดหรือถูกอะไรก็ตาม...
้ถ้า A ตัวเล็กกว่า B A สู้ไงก็แพ้ B อยู่ดีๆให้ อภัยA ก็ฟายละครับ...
ถ้า ฺB ตัวเล็กกว่า A B สู้ไงก็แพ้ B ไม่ให้ อภัยA ก็ฟายเช่นกัน ละครับ... สู้ไปเพื่ออะไร... พิสูจน์อะไร... แบบ วีระราตรี หรือ...
ถ้า A B เท่าๆกัน ก็ต้อง ลองสู้กันก่อน... ถ้า สู้กันจนเบื่อแล้ว...ไม่มีใครชนะ สุดท้ายอยากเลิก
ก็ต้องลืมๆกันไป ใ้ห้อภัยกันทั้งสองฝ่าย อยู่ดี... ไม่งั้นก็ สู้กันต่อไป...
เห็นไหมครับว่ามันมีเงื่อนไข ไม่ใช่เอะอะก็ใช้ ตัวอย่างสั่วๆ แล้ว สรุปเองโดยไม่ดูสภาพแวดล้อม..
ผมว่า ให้ตาย พวก โลกสวย ก็ไม่เข้าใจ...
เค้าคิดเอาเองเสมอว่า ... เค้าอยู่ข้างความถูกต้อง... เค้าต้องชนะ..
ถึงตอนนี้แพ้อยู่... แต่วันนึงต้องชนะ...
บางทีตอนนี้ เค้าคิดว่า เค้าชนะอยู่ครับ...
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
#175
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 12:43
แต่ยังมีกฎหมายไว้ลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนด้วยด้วย
ดังนั้นถึงจะมีเสียงข้างมากก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายครับ
Edited by jugadui, 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 12:49.
ผมเห็นด้วยกับคำว่า "กฎหมู่ไม่สามารถอยู่เหนือกฎหมายได้"
#176
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 12:46
ถ้าเสียงส่วนใหญ่บอกว่าแม้วไม่ผิด ก็แปลว่าแม้วไม่ผิด ... กฏหมาย รธน. ศาล หลักฐานอื่นๆ ฯลฯ ไม่สามารถเอาผิดท่านแม้วได้ทุกกรณี
ถ้าเสียงส่วนใหญ่บอกว่ามาร์คหนีทหาร ก็แปลว่ามาร์คหนีทหารจริง ... กฏหมาย รธน. ศาล หลักฐานอื่นๆ ไม่สามารถนำมาโต้แย้งได้ในทุกกรณี
#177
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 12:56
โห 4 หน้าในคืนเดียว... เสียดายไม่ได้แจม...
ผมว่า ถ้ายัง สะกดคำว่า อภัย หรือ ลืมๆกันไป ไม่เป็น...
ก็คงต้องเป็นแบบนี้ต่อไป... ประเทศเราไม่ใช่ที่แรก... และที่สุดท้าย...
ศัพท์ คำว่า สันติภาพในโลกนี้ คงไม่เกิดขึน ถ้า ทุกคนในโลกนี้ ยังเจ้าคิดเจ้าแค้น...
ข้าอยู่ข้างถูกเองผิด เองทำผิดกฏหมาย เองทำผิดจริยธรรม โน่นนี่นั่น..
"เองยิงเมืองข้าพัง... ทหารข้าตาย ต้องชดใช้หรือสำนึก ก่อน ... ไม่งั้นไม่สงบศึก..."
ตัวอย่าง การแถประจำ ของผ่ายที่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องสงบศึกคือ...
ถ้า A (พวกโลกสวย แต่ไม่ให้อภัยถ้าไม่สำนึก) ไปทำความรุนแรงกับ B (พวกที่ นิยมการให้อภัย) แล้ว...
B จะให้อภัย A ไหม
ผมอยากจะบอกว่า... ตอนรบกันเนี่ย... ถ้าฝ่ายนึงชนะอีกฝ่ายแน่ๆ...
ฝ่ายชนะเค้าอยากเลิกแล้วบอกว่า... มาเหอะลืมเรื่องเก่าๆ แล้ว ทำมาหากินกัน...
คนแพ้ควรจะลืมๆกันไป ว่าเสียอะไร แล้ว อภัยกับความ เลวร้าย ของฝ่ายที่ชนะก่อ... แล้ว สงบศึก
หรือไม่...
หรือ
จะสู้ไปเรื่อยๆ เพราะคิดว่า อยู่ข้างธรรม ความดีต้องชนะความชั่ว... จนไม่เหลืออะไร...
บางที่ ไอ้ที่ว่า ธรรมชนะอธรรมเนี่ย... เมื่อไรครับ... ผ่านไป 20 ปี พออธรรมแก่ตายไปเอง.. ธรรมเอามาอ้างทันที
เลยใช่ไหมว่า เห็นป่าว... ชนะแล้ว.. 5555
แต่... ถ้ากำลังเท่าๆกัน... ถ้าไม่อยาก สูญเสียทั้งสองฝ่ายไปเรื่อยๆ เสียเวลา.. เค้าทำอะไรกันครับ... รบต่อไปเรื่อยๆ เพราะ
เองยังไม่สำนึก... หรือ เองผิดที่มารุกข้าก่อน... ต้ิองชดใช้...
หรือ เอาน่า... ลืมๆกันไป แล้วมา สงบศึก กัน..
คำตอบที่ถูกคือ.. มันไม่เกี่ยวว่า สิ่งที่ A ทำจะผิดหรือถูกอะไรก็ตาม...
้ถ้า A ตัวเล็กกว่า B A สู้ไงก็แพ้ B อยู่ดีๆให้ อภัยA ก็ฟายละครับ...
ถ้า ฺB ตัวเล็กกว่า A B สู้ไงก็แพ้ B ไม่ให้ อภัยA ก็ฟายเช่นกัน ละครับ... สู้ไปเพื่ออะไร... พิสูจน์อะไร... แบบ วีระราตรี หรือ...
ถ้า A B เท่าๆกัน ก็ต้อง ลองสู้กันก่อน... ถ้า สู้กันจนเบื่อแล้ว...ไม่มีใครชนะ สุดท้ายอยากเลิก
ก็ต้องลืมๆกันไป ใ้ห้อภัยกันทั้งสองฝ่าย อยู่ดี... ไม่งั้นก็ สู้กันต่อไป...
เห็นไหมครับว่ามันมีเงื่อนไข ไม่ใช่เอะอะก็ใช้ ตัวอย่างสั่วๆ แล้ว สรุปเองโดยไม่ดูสภาพแวดล้อม..
ผมว่า ให้ตาย พวก โลกสวย ก็ไม่เข้าใจ...
เค้าคิดเอาเองเสมอว่า ... เค้าอยู่ข้างความถูกต้อง... เค้าต้องชนะ..
ถึงตอนนี้แพ้อยู่... แต่วันนึงต้องชนะ...
บางทีตอนนี้ เค้าคิดว่า เค้าชนะอยู่ครับ...
การให้อภัย ลืม ๆ กันไป มันไม่ยากหรอกสำหรับคนไทย ใคร ๆ ก็รู้
แต่ประเด็นคือ
ถึงคุณจะกล้าเอาหัวรับประกันว่า เมื่อให้อภัยคนที่ทำผิดแล้ว
คน ๆ นั้น เขาจะไม่กลับมาทำผิด ๆ เหมือนเดิมอีก
แต่คุณคือใครหล่ะ เชื่อคุณแล้ว มันจะดีขึ้นอย่างที่คุณพูดจริง ๆ หรือเปล่า
ขนาดมีบางคนในนี้ กล้าออกตัวว่าถ้าไม่เป็นอย่างที่เขาพูด ให้เหยียบหน้าได้
ก็ยังหายหน้าไปเลย แล้วคุณก็โผล่มา ราวกับแตะมือกัน บนเวทีมวยปล้ำ ยังไงยังงั้น
1.เฉย
2.ติงต๊องให้มากกว่า
#178
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 13:04
โห 4 หน้าในคืนเดียว... เสียดายไม่ได้แจม...
ผมว่า ถ้ายัง สะกดคำว่า อภัย หรือ ลืมๆกันไป ไม่เป็น...
ก็คงต้องเป็นแบบนี้ต่อไป... ประเทศเราไม่ใช่ที่แรก... และที่สุดท้าย...
ศัพท์ คำว่า สันติภาพในโลกนี้ คงไม่เกิดขึน ถ้า ทุกคนในโลกนี้ ยังเจ้าคิดเจ้าแค้น...
ข้าอยู่ข้างถูกเองผิด เองทำผิดกฏหมาย เองทำผิดจริยธรรม โน่นนี่นั่น..
"เองยิงเมืองข้าพัง... ทหารข้าตาย ต้องชดใช้หรือสำนึก ก่อน ... ไม่งั้นไม่สงบศึก..."
ตัวอย่าง การแถประจำ ของผ่ายที่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องสงบศึกคือ...
ถ้า A (พวกโลกสวย แต่ไม่ให้อภัยถ้าไม่สำนึก) ไปทำความรุนแรงกับ B (พวกที่ นิยมการให้อภัย) แล้ว...
B จะให้อภัย A ไหม
แต๋วแตกมาซะ....ก็บอกแล้วว่าให้อภัย ก็แค่กลับมารับโทษตามกฎหมาย ก็แค่นั้น
คุณมาร์ค ยิ่งใจกว้างกว่าผมอีก คุณมาร์ค เสนอให้นิรโทษกรรมให้หมดทุกคน ยกเว้น คุณมาร์ค คุณสุเทพ คุณทักษิณ
แต่คุณนพดล บอกว่า คุณทักษิณ ท่านไม่ยอมรับ .. ทั้งที่มันเป็นประโยชน์ต่อคนทั้งประเทศแท้ๆ .. คุณ hentai ไม่ทราบบ้างหรอ ?
ถึงมาแต๋วแตกได้ขนาดนี้เนี่ย
คนที่ไม่ยอมรับ คือ คุณทักษิณ แล้วมาโยงอะไรให้ "งง" .. A B A B เป็นพวก 2+2 = 5 ไปซะได้ขนาดนี้เนี้ย
ผมอยากจะบอกว่า... ตอนรบกันเนี่ย... ถ้าฝ่ายนึงชนะอีกฝ่ายแน่ๆ...
ฝ่ายชนะเค้าอยากเลิกแล้วบอกว่า... มาเหอะลืมเรื่องเก่าๆ แล้ว ทำมาหากินกัน...
คนแพ้ควรจะลืมๆกันไป ว่าเสียอะไร แล้ว อภัยกับความ เลวร้าย ของฝ่ายที่ชนะก่อ... แล้ว สงบศึก
หรือไม่...หรือ
จะสู้ไปเรื่อยๆ เพราะคิดว่า อยู่ข้างธรรม ความดีต้องชนะความชั่ว... จนไม่เหลืออะไร...
บางที่ ไอ้ที่ว่า ธรรมชนะอธรรมเนี่ย... เมื่อไรครับ... ผ่านไป 20 ปี พออธรรมแก่ตายไปเอง.. ธรรมเอามาอ้างทันที
เลยใช่ไหมว่า เห็นป่าว... ชนะแล้ว.. 5555
ดูดุ๊..แต๋วแตกกันต่อเนื่อง
แพ้เลือกตั้ง ชนะเลือกตั้ง แล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับ คดีความผิดทางอาญา มิทราบได้ครับ คุณ hentai โยงไปเรื่อยจริงๆ
เคยอ่านความเห็นคุณ hentai ประกาศตัวว่า ยึดกฎหมายเป็นที่ตั้งมิใช่หรือครับ ผมและคนอื่นๆที่คุณอาจหมายรวมว่าคนแพ้
ก็ยึดมั่นในกฎหมายเชกเช่นเดียวกัน แล้วคุณ hentai จะมัวแต๋วแตกอะไรของคุณ hentai อีกมิทราบครับ
แต่... ถ้ากำลังเท่าๆกัน... ถ้าไม่อยาก สูญเสียทั้งสองฝ่ายไปเรื่อยๆ เสียเวลา.. เค้าทำอะไรกันครับ... รบต่อไปเรื่อยๆ เพราะ
เองยังไม่สำนึก... หรือ เองผิดที่มารุกข้าก่อน... ต้ิองชดใช้...
หรือ เอาน่า... ลืมๆกันไป แล้วมา สงบศึก กัน..
]
เริ่มเข้าละครหลังข่าว
อะไรของมัน ?
คำตอบที่ถูกคือ.. มันไม่เกี่ยวว่า สิ่งที่ A ทำจะผิดหรือถูกอะไรก็ตาม...
้ถ้า A ตัวเล็กกว่า B A สู้ไงก็แพ้ B อยู่ดีๆให้ อภัยA ก็ฟายละครับ...
ถ้า ฺB ตัวเล็กกว่า A B สู้ไงก็แพ้ B ไม่ให้ อภัยA ก็ฟายเช่นกัน ละครับ... สู้ไปเพื่ออะไร... พิสูจน์อะไร... แบบ วีระราตรี หรือ...
ถ้า A B เท่าๆกัน ก็ต้อง ลองสู้กันก่อน... ถ้า สู้กันจนเบื่อแล้ว...ไม่มีใครชนะ สุดท้ายอยากเลิก
ก็ต้องลืมๆกันไป ใ้ห้อภัยกันทั้งสองฝ่าย อยู่ดี... ไม่งั้นก็ สู้กันต่อไป...
และแล้วก็ถึงคราว ท่าน hentai ผู้ยึดมั่นในกฎหมาย
ก็สลัดกฎหมายทิ้ง อย่างนิ่มๆ
เห็นไหมครับว่ามันมีเงื่อนไข ไม่ใช่เอะอะก็ใช้ ตัวอย่างสั่วๆ แล้ว สรุปเองโดยไม่ดูสภาพแวดล้อม..
ผมว่า ให้ตาย พวก โลกสวย ก็ไม่เข้าใจ...
เค้าคิดเอาเองเสมอว่า ... เค้าอยู่ข้างความถูกต้อง... เค้าต้องชนะ..
ถึงตอนนี้แพ้อยู่... แต่วันนึงต้องชนะ...
บางทีตอนนี้ เค้าคิดว่า เค้าชนะอยู่ครับ...
ชีวิตวันๆ ในสมองคุณ hentai คิดแต่ "แพ้" , "ชนะ" หรอครับ
หมกมุ่นดีแท้..ใครจะแพ้ ใครจะชนะ ตัวกระผมไม่ค่อยไปสนใจหรอก
บ้านเมืองมีขือมีแป มีหลักให้ยึดถือคือ กฎหมาย
ไม่ใช่เอ็งชนะ หรือ มีคนเยอะกว่า ก็อยู่เหนือกฎหมายได้
นั่นมันประเทศในแบบของ hentai ไม่ใช่ในแบบของ กระผม
Edited by MIRO, 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 17:46.
The most valuable things in life are not measured in monetary terms.
The really important things are not houses and lands, stocks and bonds, automobiles and real estate,
but friendships, trust, confidence, empathy, mercy, love and faith.
#179
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 13:08
ระบอบประชาธิปไำตย คือการตัดสินปัญหาโดยการใช้เสียงส่วนมากของประชาชนภายในประเทศ หนึ่งคนมีหนึ่งสิทธิเท่าเทียมกันทุกคน
ไม่ว่าคุณจะใหญ่โตแค่ไหน ในระบอบประชาธิปไตยคุณมีเพียงหนึ่งสิทธิเท่ากับประชาชนคนอื่น
ใจดี ที่บ้านมีพี่น้องกี่คนเหรอ?...ที่บ้านเป็นประชาธิปไตยมั้ย...เคารพเสียงข้างมากในบ้านมั้ย?...เวลามีปัญหาในครอบครัว ใช้วิธีการยกมือเอาเสียงข้างมากกันใช่มั้ย? ถ้าพ่อไม่ทำตามเสียงข้างมาก ถือได้ว่าพ่อยึดอำนาจใช่มั้ย?
#180
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 13:11
อิอิ
ตบเกรียนไม่ยั้งมือเลย
เอ่อ
ขอเรียนถามจขกท. นิดเถอะครับว่า
ท่านจะไม่เข้ามาตอบคำถามจากสมาชิกบ้างเลยหรือ
#181
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 13:13
ถ้าจะแสดงตนว่าให้ลืมๆกันไป ก็ไม่ต้องมีจัดระลึกถึงอะไรทั้งนั้น ใครเคยเสียอะไรไปให้ลืมๆกันไป อย่ามาขอเงินเยียวยา ลืมๆไปซะ
เคยมีใครในครอบครัวก็ให้ลืมๆไปซะนึกว่าไม่เคยมีตัวตนมาก่อน ลืมไปซะว่าตัวเองมีสีอะไรเรียกร้องอะไร กลับไปทำงานของตัวเอง
ผมเชื่อว่าการให้อภัยเกิดขึ้นแน่ แต่จะทำได้หรอ.....
#182
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 13:30
อาจารย์ครับ
ผมเข้าใจความเป็นครูบาอาจารย์
และผมก็เชื่อว่าเป็นอาจารย์สอนนักเรียนจริง
คำว่า "ให้อภัย" ทีอาจารย์พูด ผมก็เข้าใจ
และเชื่อว่าอาจารย์ไม่ได้ถามแค่บอร์ดนี้บอร์ดเดียว
อาจารย์คงไปถามในพันทิป ในบ้านราด ในประชาทอล็คด้วยเหมือนกัน
แต่คนที่นี้ เขารับไม่ได้กับคำๆนี้ครับ อภัย ปรองดอง สามัคคี หรือคำพูดอะไรๆที่มันทำให้บ้านเมืองสงบ
เขารับไม่ได้หรอกครับ
อาจารย์อย่าเปลืองตัวเลยครับ
ยิ่งอาจารย์พูด เขายิ่งจะหาว่าอาจารย์เป็นพวกเสื้อแดง
เดี๋ยวก็ด่าอาจารย์..ผมทายไม่ผิดหรอกครับ
เอาเท้าเหยียบหน้าผมได้เลย
พวกเขาเป็นกันแบบนี้
เขามองว่าตัวเองถูก คนอื่นผิด...
ผมขอสมมุตินะครับ คำพูดต่อไปนี้ไม่เป็นเรื่องจริง แค่สมมุติขึ้นมาเท่านั้น
"ปลายอ้อฯ ไอควายพ่อแม่ไม่สั่งสอน ไอ้ชั่วไอ้เลว ไอ้ลูกกระโปกแม้ว ไอ้......
โปรดอภัยคำพูดข้างบนให้ผมด้วยครับ "
#183
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 13:39
เพราะอยู่เเถวๆสามย่าน เดินทางไม่สะดวก
รำคาญสลิ่มเที่ยมที่เข้ามาปล่อยสารพิษเรียกร้องความรุนเเรงเสดงออกถึงความคลั่งสงครามกลางเมืองยุเเยงสร้างภาพชั่วๆ
เอียนวะ เห็นคนเเถวนี้ไอคิวต่ำกว่า 90 หรือไง
#184
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 13:40
โห 4 หน้าในคืนเดียว... เสียดายไม่ได้แจม...
ผมว่า ถ้ายัง สะกดคำว่า อภัย หรือ ลืมๆกันไป ไม่เป็น...
ก็คงต้องเป็นแบบนี้ต่อไป... ประเทศเราไม่ใช่ที่แรก... และที่สุดท้าย...
ศัพท์ คำว่า สันติภาพในโลกนี้ คงไม่เกิดขึน ถ้า ทุกคนในโลกนี้ ยังเจ้าคิดเจ้าแค้น...
ข้าอยู่ข้างถูกเองผิด เองทำผิดกฏหมาย เองทำผิดจริยธรรม โน่นนี่นั่น..
"เองยิงเมืองข้าพัง... ทหารข้าตาย ต้องชดใช้หรือสำนึก ก่อน ... ไม่งั้นไม่สงบศึก..."
ตัวอย่าง การแถประจำ ของผ่ายที่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องสงบศึกคือ...
ถ้า A (พวกโลกสวย แต่ไม่ให้อภัยถ้าไม่สำนึก) ไปทำความรุนแรงกับ B (พวกที่ นิยมการให้อภัย) แล้ว...
B จะให้อภัย A ไหม
ผมอยากจะบอกว่า... ตอนรบกันเนี่ย... ถ้าฝ่ายนึงชนะอีกฝ่ายแน่ๆ...
ฝ่ายชนะเค้าอยากเลิกแล้วบอกว่า... มาเหอะลืมเรื่องเก่าๆ แล้ว ทำมาหากินกัน...
คนแพ้ควรจะลืมๆกันไป ว่าเสียอะไร แล้ว อภัยกับความ เลวร้าย ของฝ่ายที่ชนะก่อ... แล้ว สงบศึก
หรือไม่...
หรือ
จะสู้ไปเรื่อยๆ เพราะคิดว่า อยู่ข้างธรรม ความดีต้องชนะความชั่ว... จนไม่เหลืออะไร...
บางที่ ไอ้ที่ว่า ธรรมชนะอธรรมเนี่ย... เมื่อไรครับ... ผ่านไป 20 ปี พออธรรมแก่ตายไปเอง.. ธรรมเอามาอ้างทันที
เลยใช่ไหมว่า เห็นป่าว... ชนะแล้ว.. 5555
แต่... ถ้ากำลังเท่าๆกัน... ถ้าไม่อยาก สูญเสียทั้งสองฝ่ายไปเรื่อยๆ เสียเวลา.. เค้าทำอะไรกันครับ... รบต่อไปเรื่อยๆ เพราะ
เองยังไม่สำนึก... หรือ เองผิดที่มารุกข้าก่อน... ต้ิองชดใช้...
หรือ เอาน่า... ลืมๆกันไป แล้วมา สงบศึก กัน..
คำตอบที่ถูกคือ.. มันไม่เกี่ยวว่า สิ่งที่ A ทำจะผิดหรือถูกอะไรก็ตาม...
้ถ้า A ตัวเล็กกว่า B A สู้ไงก็แพ้ B อยู่ดีๆให้ อภัยA ก็ฟายละครับ...
ถ้า ฺB ตัวเล็กกว่า A B สู้ไงก็แพ้ B ไม่ให้ อภัยA ก็ฟายเช่นกัน ละครับ... สู้ไปเพื่ออะไร... พิสูจน์อะไร... แบบ วีระราตรี หรือ...
ถ้า A B เท่าๆกัน ก็ต้อง ลองสู้กันก่อน... ถ้า สู้กันจนเบื่อแล้ว...ไม่มีใครชนะ สุดท้ายอยากเลิก
ก็ต้องลืมๆกันไป ใ้ห้อภัยกันทั้งสองฝ่าย อยู่ดี... ไม่งั้นก็ สู้กันต่อไป...
เห็นไหมครับว่ามันมีเงื่อนไข ไม่ใช่เอะอะก็ใช้ ตัวอย่างสั่วๆ แล้ว สรุปเองโดยไม่ดูสภาพแวดล้อม..
ผมว่า ให้ตาย พวก โลกสวย ก็ไม่เข้าใจ...
เค้าคิดเอาเองเสมอว่า ... เค้าอยู่ข้างความถูกต้อง... เค้าต้องชนะ..
ถึงตอนนี้แพ้อยู่... แต่วันนึงต้องชนะ...
บางทีตอนนี้ เค้าคิดว่า เค้าชนะอยู่ครับ...
ทำผิดต้องได้รับผิดครับ ลืมๆกันไปไม่ได้หรอก
ยาวดีนะแต่มันไปคล้องกับปรองดองเหลือเกิน
#185
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 13:55
คคห.ผมคิดว่า บ้านเมืองเราอยู่รวมกันเป็นสังคม มันก็ต้องมีกติกาที่ทุกคนในสังคม
ยอมรับ มาควบคุมให้สังคมเป็นระเบียบ นั่นก็คือกฎหมาย ทีนี่เมื่อมี กม. ทุกคนก็ต้องอยู่
ภายใต้ กม. และกม.ก้ต้องใช้อย่างเท่าเทียมกันทุกคน
ปํญหาที่ขัดแย้งกันทุกวันนี้ ผมว่ามันอยู่ที่การใช้ กม.อย่างไม่เท่าเทียมกัน ลูบหน้าปะจมูก
ถึงได้มีการแบ่งสี
เพราะฉะนั้นหากต้องการให้เลิกแบ่งสี ผมว่าเราต้องกลับมาดูสิว่า เราจะบังคับใช้ กม.
ให้เป็นธรรมกับทุกคนอย่างไร
จงกล้าที่จะใช้ปัญญาญาณของตนเอง โดยปราศจากการชี้นำจากผู้อื่น(คานท์)
#186
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 16:59
กระทู้ฮอตแฮะ ขอหน่อย
คคห.ผมคิดว่า บ้านเมืองเราอยู่รวมกันเป็นสังคม มันก็ต้องมีกติกาที่ทุกคนในสังคม
ยอมรับ มาควบคุมให้สังคมเป็นระเบียบ นั่นก็คือกฎหมาย ทีนี่เมื่อมี กม. ทุกคนก็ต้องอยู่
ภายใต้ กม. และกม.ก้ต้องใช้อย่างเท่าเทียมกันทุกคน
ปํญหาที่ขัดแย้งกันทุกวันนี้ ผมว่ามันอยู่ที่การใช้ กม.อย่างไม่เท่าเทียมกัน ลูบหน้าปะจมูก
ถึงได้มีการแบ่งสี
เพราะฉะนั้นหากต้องการให้เลิกแบ่งสี ผมว่าเราต้องกลับมาดูสิว่า เราจะบังคับใช้ กม.
ให้เป็นธรรมกับทุกคนอย่างไร
ไม่ใช่ครับ
ต้องบอกว่า "เราจะบังคับใช้กม.ให้เป็นธรรมกับเสื้อแดงแต่ฝ่ายเดียวได้อย่างไร"
ถ้าบังคับได้จริงก็สงบครับ แต่ที่ไม่สงบเพราะ"บังคับ"ไม่ได้
เสื้อแดงมีมากสุดก็๑๕ล้าน แต่คนไทยที่เหลือไม่ใช่ควายครับ
#187
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 17:07
"สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกเกิดมาก็ไม่มีความเท่าเทียมกันแล้ว" มนุษย์เองก็เป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนสัตว์ทั่วไปบนโลก แต่เราต่างกันแค่
เรามีความคิดแยกแยะผิดชอบชัวดี ถามว่า มีแม่ลูกอ่อนขโมยนมผงไปให้ลูกชายกิน คน 20 คนบอกว่าไม่ผิดที่ทำลงไปเพราะช่วยลูก
แต่ยังไงผิดก็คือผิด เหมือน 2+2=4 จะเป็น 5 ไปไม่ได้ ดังนั้นเวลาตัดสินอะไรอย่าใช้ความรู้สึกในการตัดสิน ทุกสิ่งทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กฏหมาย
คนทำผิด จะบอกว่าให้อภัยกันแล้วจบๆกันไป ถ้าอีกฝ่ายบอกไม่ได้ หมายความว่าอีกฝ่ายคือคนที่ไม่ยอมให้อภัยหรอ........
"คนทำผิดต้องรับผิดชอบสิ่งที่กระทำลงไปทั้งสองฝ่าย" ถ้าคนผิดมารับผิดแล้ว ผมก็พร้อมจะให้อภัย หวังว่าคงเข้าใจนะครับ
#188
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 17:40
รับฟังกันมากขึ้นและยึดมั่นในผลประโยชน์ส่วนรวมครับ
ถ้าผลประโยชน์ส่วนรวม ของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง คือ ผู้ชาย ทั้งหมู่บ้าน 100 คน ข่มขื่น ผู้หญิง 1 คนไม่ผิด ก็น่าจะดีมั่ง
คุณภาพ สส สอบตกจริงๆว่ะ
#189
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 17:43
เวลาสอนเด็กผมมักจะปลูกฝังพวกเค้าให้เค้าโตขึ้นเป็นคนดีของสังคม ไม่เอาเปรียบสังคม สอนให้เคารพกฎหมาย รู้จักการให้อภัย อยากให้เด็กๆโตขึ้นเป็นคนดีของสังคมครับ
ปัญหาตอนนี้คือ มีคนอยู่คนหนึ่ง ถูกศาลตัดสิน แต่หนีคดี ไม่ยอมกลับมารับโทษ และสู้คดีอื่นๆ
ขณะเดียวกัน ก็จะพยายามแก้กฎหมาย โดยอาศัยอำนาจรัฐ ให้ตัวเอง พ้นผิดจากคดี นั้นๆ
#190
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 17:57
คนที่คิดแบบนี้คงต้องชอบบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป กฏหมู่เหนือกฏหมาย
- voodoo and ฉันรักเมืองไทย like this
คิดว่าจะเลิกตอบกระทู้ล่อเป้าและไร้สาระของบางคนแล้วค่ะ จะได้ตกๆไป
#191
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 17:57
แต่ท่าทางคงเลิกไม่ได้ เพราะ "เสื้อแดง" มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด
คือสิ่งที่บ่งบอกว่าจะมี "เศษเงิน" ของ ไอ้นักโทษหนีคุกโยนมาแทะ
และกรุณาอย่ามา "ตอแหล" ว่า เพื่อประชาธิปไตย
แค่ "สิทธิ" กับ "หน้าที่" ยังแยกแยะไม่ได้ ละเมิดคนอื่นอยู่ร่ำไป
Edited by Ixora, 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 17:58.
#192
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 18:18
#193
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 18:52
ความจำเป็นของการมีจริยธรรมของนักการเมือง
ตามที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า จริยธรรมเป็นแนวคิดที่ต้องการควบคุมพฤติกรรมของคน ทั้งนี้ ในฐานะที่สมาชิกวุฒิสภาเป็นบุคคลที่ถือเป็นบุคคลสาธารณะ และมีความเกี่ยวข้องกับภารกิจ ที่สำคัญของประเทศ ทั้งในเรื่องการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ การปฏิบัติหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน และที่ประชุมใหญ่กรรมการร่างกฎหมาย คณะกรรมการกฤษฎีกาได้เคยวินิจฉัยว่า ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีความหมายกว้างกว่า “ข้าราชการการเมือง” โดยมีความเห็นว่า ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หมายความถึง “บรรดาผู้รับผิดชอบงานด้านการเมืองทั้งหมดโดยงานการเมืองนั้นจะเป็นงานที่ เกี่ยวกับการกำหนดนโยบาย (Policy) เพื่อให้ฝ่ายปกครองที่มีหน้าที่ปฏิบัติงานประจำรับไปบริหาร (Administration) ให้เป็นไปตามนโยบายที่กำหนดนั้น” ดังนั้น “ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” จึงหมายถึง คณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภาและผู้ดำรงตำแหน่งอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน โดยนัยดังกล่าว สมาชิกรัฐสภา จึงรวมถึง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาซึ่งมีฐานะเป็น “ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” ตามความเห็นของกรรมการร่างกฎหมายด้วย
ดังนั้น หากสมาชิกวุฒิสภามีการฝ่าฝืนจริยธรรมย่อมส่งผลกระทบต่อสังคมในขอบเขต ที่กว้างขวาง ทั้งนี้ การใช้มาตรฐานทางด้านศีลธรรมและจริยธรรมเป็นเครื่องมือในการควบคุมการกระทำ ของสมาชิกวุฒิสภาในฐานะบุคคลสาธารณะจึงมีความสำคัญ ดังนี้
ประการแรก การที่ระบอบการเมืองไม่สามารถแก้ไขปัญหาหลักและปัญหาสำคัญของประเทศได้ การดำเนินโครงการต่าง ๆ โดยเฉพาะอภิมหาโครงการ (Megaprojects) ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างโครงสร้างพื้นฐานของประเทศด้านสาธารณูปโภคและด้าน สังคมขาดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และการประหยัด มีปัญหาการฉ้อราษฎร์บังหลวงเกิดขึ้นตลอดเวลา การกำหนดมาตรฐานทางจริยธรรมโดยการพยายามสร้างประสิทธิภาพ ประสิทธิผล การประหยัดจะนำไปสู่การเรียกร้องให้นักการเมืองมีความรับผิดชอบต่อสาธารณะ (Public Accountability) มากขึ้น
ประการที่สอง การนำระบอบประชาธิปไตยเสรีนิยม (Liberal Democracy) มาใช้ควบคู่กับระบบเศรษฐกิจที่ใช้การตลาดเป็นตัวกำหนด (Market Economy) ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ที่สำคัญ ได้แก่
- ด้านการเมือง มีการแยกส่วนที่เป็นส่วนตัว (Private) กับสาธารณะ (Public) ออกจากกันชัดเจนยิ่งขึ้น และความสำคัญของเนื้อหา (Substance) มีความสำคัญเท่ากับระเบียบวิธีปฏิบัติ (Procedures) ซึ่งเป็นจุดที่ก่อให้เกิดประเด็นทางด้านจริยธรรมสำคัญหลายประการ
- การที่นักการเมืองต้องแสวงหาความชอบธรรมในการเข้าสู่อาชีพและการดำรง ตำแหน่งโดยผ่านการเลือกตั้ง ทำให้ต้องมีค่าใช้จ่ายในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งมีเป้าหมายในการคุ้มครองอาชีพของนักการเมืองเอง ก่อให้เกิดเขตเลือกตั้งใหม่ (Constituency);ที่เรียกว่า “Campaign Funding Constituency” ขึ้น ทำให้ประชาชนทั่วไปไม่ไว้วางใจนักการเมืองและการเมือง ซึ่งถือเป็นประเด็นทางจริยธรรมที่แก้ไขได้ยากที่สุด
- ระบอบประชาธิปไตยเสรีนิยมและเศรษฐกิจการตลาดที่ส่งเสริมการเติบโตของ ระบบทุนนิยมอย่างกว้างขวาง ทำให้ธุรกิจการค้าขยายตัวและต้องอาศัยการดำเนินการทางการเมืองเพื่อช่วยผลัก ดันผู้ประกอบการที่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง เพื่อลดผลกระทบทางลบของนโยบาย ก่อให้เกิดความสัมพันธ์กับนักการเมืองที่แยกจากกันได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากนักการเมืองที่มีอาชีพทางธุรกิจก่อนเข้าสู่วงการเมือง และยังต้องการรักษาอาชีพและผลประโยชน์เดิมไว้ต่อไป
ทั้งนี้ แนวคิดดังกล่าวสอดคล้องกับแมกซ์ เวเบอร์ ซึ่งได้กล่าวถึงนักการเมืองในฐานะอาชีพหนึ่ง โดยเวเบอร์แบ่งนักการเมืองอาชีพออกเป็น ๒ ประเภท คือ ผู้มีชีวิตเพื่อการเมือง (Live for Politics) และผู้ที่อาศัยและหากินจากการเมือง (Live from Politics)
การมีชีวิตเพื่อการเมือง หมายถึง นักอุดมการณ์ที่ได้รับความสุขจากการเข้าไปเล่นการเมือง เป็นความรู้สึกภายในใจ เป็นการเล่นการเมืองเพื่ออุดมคติหรืออุดมการณ์ทางการเมืองของตน กลุ่มนี้มักเป็นพวกที่มีฐานะและรายได้ดีอยู่ก่อน และไม่มีความประสงค์ที่จะเล่นการเมืองเพื่อหารายได้หรือผลประโยชน์ให้แก่ตน เอง ขณะที่ผู้ที่อาศัยและหากินจากการเมือง เป็นผู้ที่ต้องการรายได้จากการทำงานการเมือง ต้องอาศัยรายได้จากเงินเดือนหรือจากสินบน หรือใช้อิทธิพลเพื่อเรียกคืนเงินที่ใช้ไปในการเลือกตั้ง
จากการแบ่งนักการเมืองในลักษณะดังกล่าว เวเบอร์ชี้ให้เห็นว่า อาชีพนักการเมืองมีความแตกต่างจากอาชีพอื่น เพราะเป็นอาชีพที่ไม่ต้องอาศัยระยะเวลาในการฝึกฝนพัฒนาความสำนึกในเรื่อง เกียรติยศของวิชาชีพ (Professional Honor) ไม่ต้องอาศัยความรู้ทางด้านเทคนิคพิเศษ ซึ่งทำให้เกิดความสำนึกว่าจะต้องสร้างจริยธรรมของวิชาชีพ (Professional Integrity) ซึ่งนำมาสู่แนวคิดว่า อาชีพนักการเมืองต้องใช้จริยธรรมในด้านใด จึงจะทำให้เกิดการยอมรับในความชอบธรรม หรือ การตั้งคำถามว่า จริยธรรมของนักการเมืองอยู่ที่ไหน
ทั้งนี้ เวเบอร์เห็นว่า จริยธรรมที่น่าจะเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว ได้แก่ จริยธรรมว่าด้วยความเชื่อมั่นศรัทธาที่มีหลักการ (Ethics; of; Principled; Conviction);;และจริยธรรมว่าด้วยความรับผิดชอบ(Ethics of Reponsibility)
หลักจริยธรรมทั้งสองประการมีความเกี่ยวข้องกันในลักษณะที่ว่า หากมีความเชื่อมั่นศรัทธาที่มีหลักการ แต่ไม่มีความรับผิดชอบต่อการกระทำที่เกิดจากความรู้สึกเช่นนั้น คนที่มีความเชื่อมั่นศรัทธาที่มีหลักการจะได้รับความเคารพ แต่จะไม่มีผู้ใดยอมให้เป็นนักการเมือง หากผู้นั้นไม่มีความรับผิดชอบ เพราะอาจใช้ความรุนแรงจากการมีอำนาจที่ชอบธรรม โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบ ที่จะติดตามมา นักการเมืองลักษณะนี้ย่อมเป็นบุคคลอันตรายต่อประเทศชาติและประชาชน
ในทรรศนะของเวเบอร์ นักการเมืองจึงควรมีคุณสมบัติที่สำคัญ ๓ ประการคือ
๑. มีอารมณ์ผูกพันแน่วแน่ จริงจังต่ออุดมการณ์ (Passion) หมายความว่า นักการเมืองจะต้องรู้สึกห่วง กังวล เอาใจใส่ต่อสิ่งที่เขาต้องการจะต่อสู้ คำว่า Passion ไม่ใช่อารมณ์ที่เป็นความตื่นเต้นที่ไร้ความหมาย หรือเป็นเพียงเจตคติภายใน (Inner Attitude) เท่านั้น แม้แต่การปฏิวัติที่ปราศจากความรับผิดชอบก็ไม่ถือว่าเป็น Passion
๒. มีความรับผิดชอบ (Responsibility) จริยธรรมของความรับผิดชอบเป็นตัวชี้วัดให้เห็นว่า นักการเมืองมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่ออุดมการณ์หรือไม่
๓. มีวิจารณญาณ (Judgement) หมายถึง ความสามารถที่จะรักษาไว้ซึ่งความไม่หวั่นไหวและความสงบ แต่สนองตอบต่อสภาพความเป็นจริง หรือการต้องพิจารณาสิ่งต่างๆ และคนจากระยะห่าง การขาดวิจารณญาณถือเป็นความผิดประการหนึ่งของนักการเมือง เป็นสิ่งที่ทำให้ไร้ประสิทธิภาพทางการเมือง
คุณสมบัติทั้งสามประการจะประกอบกันเป็นจริยธรรมของนักการเมือง เป็นพลังที่เสริมสร้างบุคลิกภาพของนักการเมืองเพื่อดำเนินกิจกรรมทางการ เมือง อันเป็นกิจกรรมของมนุษย์อย่างแท้จริง นักการเมืองจึงจำเป็นต้องมีอุดมการณ์ มีความรับผิดชอบ และมีวิจารณญาณเป็นเครื่องกำกับความหลงตัวเอง (Vanity) ถือเป็นสิ่งที่คุกคามอาชีพนักการเมือง ทำให้ขาดความเป็นกลาง ขาดความรับผิดชอบ และเป็นไปเพื่อการสร้างภาพลักษณ์ทางการเมืองเท่านั้น
ทั้งนี้ หากนักการเมืองใช้อำนาจทางการเมืองบนหลักพื้นฐานของจริยธรรมเพื่อผลประโยชน์ ของคนส่วนใหญ่แล้ว ย่อมนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงหรือการพัฒนาอันชอบธรรม เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ในทางตรงข้ามหากนักการเมืองขาดจริยธรรมและคำนึงถึงการรักษาอำนาจทางการเมือง ย่อมใช้อำนาจทางการเมืองทุกวิถีทางเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเองหรือคนส่วน น้อย
ดังนั้น ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือนักการเมืองจึงต้องเป็นบุคคลที่ต้องได้รับ ความไว้วางใจจากประชาชน หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง นักการเมืองจะถูกตรวจสอบจากประชาชนในลักษณะที่เข้มงวดเป็นพิเศษกว่าบุคคล ธรรมดาทั่วไป หรือบุคลสาธารณะในวิชาชีพอื่น แม้ในวิชาชีพอื่นที่มีความจำเป็นต้องสร้างความไว้วางใจให้เกิดขึ้นแก่ ประชาชน เช่น แพทย์ พยาบาล ทนายความ เป็นต้น และบุคคลที่ประกอบอาชีพดังกล่าว ก็มิได้ถูกตรวจสอบในทางสาธารณะในเรื่องส่วนตัว และความประพฤติที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่อย่างเปิดเผยทุกแง่มุมเช่น ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือนักการเมือง เนื่องจากนักการเมืองมีความสำคัญในฐานะผู้ใช้อำนาจรัฐ จึงมีความจำเป็นต้องมีการเฝ้ามองหรือตรวจสอบจากสาธารณะ (Public Scrutiny) มากกว่าผู้ประกอบอาชีพอื่น ๆ
กล่าวคือ นักการเมืองจะถูกพิจารณาจากสาธารณชนว่า ควรมีจริยธรรมหรือคุณธรรม มากกว่าปัจเจกชนทั่วไป ซึ่งถือเป็น “ความชอบธรรม” ขั้นพื้นฐานของการดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยลักษณะดังกล่าวมีระดับความสำคัญแตกต่างกันไปในแต่ละสังคม แต่อาจถือเป็นลักษณะทั่วไปที่เป็นเป้าหมายของทุกสังคมที่ต้องการให้ปรากฏ ขึ้นจริง เพราะคุณลักษณะเช่นนี้ คือจุดเริ่มต้นของที่มาของความไว้วางใจจากประชาชน ดังนี้
ทั้งนี้ แนวคิดดังกล่าวของเวเบอร์สอดคล้องกับหลักจริยธรรมในการบริหารกิจการบ้าน เมืองที่ดีของไทย (Good Governance) ซึ่งพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ได้กล่าวถึง ความจำเป็นที่ต้องใช้หลักจริยธรรม ซึ่งเป็นคุณความดีที่พึงยึดเป็นข้อประพฤติปฏิบัติ ทั้งนี้ หลักจริยธรรมตามแนวคิดนี้สามารถจำแนกเป็น ๒ มุมมองคือ
๑. จริยธรรมตามหลักนิติรัฐ ยึดหลักการว่า การบริหารงานใดได้ดำเนินการถูกต้องตามตัวบทกฎหมาย ถือว่าการบริหารงานนั้นถูกต้องตามหลักจริยธรรม แนวคิดนี้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า อาจมีปัญหาเรื่องความไม่ครอบคลุม เพราะกฎหมายมักจะเกิดขึ้นภายหลังจากที่เกิดปัญหา และเพื่อมิให้เกิดปัญหาเดิมซ้ำอีก จึงออกกฎหมายมาบังคับใช้ ดังนั้นกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันจึงไม่เพียงพอในการกำกับพฤติกรรมการบริหาร งานให้อยู่ในกรอบของจริยธรรมได้ทุกกรณี
นอกจากนั้น จริยธรรมตามหลักนิติรัฐยังมีจุดอ่อน กล่าวคือ ผู้มีอำนาจอาจจะละเว้นไม่ออกกฎหมายเพื่อลิดรอนสิทธิของกลุ่มตนเอง เช่น นักการเมืองไม่จดทะเบียนกับคู่สมรสlเพื่อหลีกเลี่ยงข้อกฎหมายที่ระบุว่าคู่ สมรส (สามี/ภรรยา) ของนักการเมืองต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินต่อสาธารณะ นักการเมืองหรือข้าราชการระดับสูงสั่งการด้วยวาจาให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ปฏิบัติในเรื่องที่ไม่ถูกต้องโดยตนเองไม่ต้องมีความรับผิดชอบ การกำหนดตำแหน่งทางการเมืองที่มีอยู่นอกกรอบกฎหมาย เช่น ตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีตำแหน่งนี้มิใช่ตำแหน่งทางการเมืองตามกฎหมาย ผู้ดำรงตำแหน่งจึงไม่ต้องเปิดเผยทรัพย์สินต่อสาธารณะ
๒. จริยธรรมตามมาตรฐานจริยธรรม ยึดหลักการการพยายามแสวงหาความดีที่ยึดถือควรเป็นอย่างไร แล้วนำมาใช้เป็นมาตรฐานจริยธรรม เพื่อกำหนดเป็นแนวทางปฏิบัติ จริยธรรมตามมาตรฐานจริยธรรม จึงมีความครอบคลุมกว้างขวางกว่าจริยธรรมตามหลักนิติรัฐ อย่างไรก็ตาม จริยธรรมตามมาตรฐานจริยธรรมมีจุดอ่อนที่สำคัญ คือ ขาดบทบังคับการลงโทษเมื่อมีการละเมิด เป็นความแตกต่างจากจริยธรรมตามหลักนิติรัฐ ความจริงแล้วจริยธรรมของการบริหารมีมาตั้งแต่โบราณกาลในสมัยสมบูรณาญาสิทธิ ราชย์ มีหลักธรรมของพระเจ้าแผ่นดิน ที่เรียกว่า ทศพิธราชธรรม นั่นคือ จริยธรรมในการปกครองราชอาณาจักร มีหลักธรรมที่เรียกว่า จักรวรรดิวัตร คือวัตรของ พระจักรวรรดิ หรือพระจริยาที่พระจักรวรรดิพึงบำเพ็ญสม่ำเสมอ ๑๒ ประการที่เป็นจริยธรรมเช่นเดียวกัน
"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"
#194
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 18:55
จริยธรรมตามหลักนิติรัฐยังมีจุดอ่อน กล่าวคือ ผู้มีอำนาจอาจจะละเว้นไม่ออกกฎหมายเพื่อลิดรอนสิทธิของกลุ่มตนเอง เช่น นักการเมืองไม่จดทะเบียนกับคู่สมรสlเพื่อหลีกเลี่ยงข้อกฎหมายที่ระบุว่าคู่ สมรส (สามี/ภรรยา) ของนักการเมืองต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินต่อสาธารณะ นักการเมืองหรือข้าราชการระดับสูงสั่งการด้วยวาจาให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ปฏิบัติในเรื่องที่ไม่ถูกต้องโดยตนเองไม่ต้องมีความรับผิดชอบ การกำหนดตำแหน่งทางการเมืองที่มีอยู่นอกกรอบกฎหมาย เช่น ตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีตำแหน่งนี้มิใช่ตำแหน่งทางการเมืองตามกฎหมาย ผู้ดำรงตำแหน่งจึงไม่ต้องเปิดเผยทรัพย์สินต่อสาธารณะ
"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"
#195
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 19:04
ไม่ใช่สักแต่ว่าจะให้อภัยตะพึดตะพือ ฉันเป็นม้าอารีเสียเหลือเกิน มันจะย่ำยีอย่างไรก็ได้ ให้อภัยเสมอ บ้าหรือเปล่า เป็นแบบนี้คนทำผิดก็ยิ่งย่ามใจและสร้างความผิดที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆเท่านั้น
มันจะเป็นไปได้อย่างไร ถ้าวันนึง มีคนมาฉุดลูกสาวคุณไป แล้วอีกสัปดาห์ มันเดินมาตะคอกใส่หน้าคุณว่า " เฮ้ย โทดที กรูรักลูกสาวมรึงว่ะ ขออภัยด้วยแล้วกัน" แล้วก็หันหลังเดินหัวเราะจากไป
กับเหตุการณ์เดียวกัน คนฉุดพาญาติผู้ใหญ่มาสู่ขอ เอาพานดอกไม้มาขอขมาคุณ สัญญาว่าจะดูแลลูกสาวคุณอย่างดีที่สุด ถามว่า เหตุการณ์แบบไหน ที่คุณควรจะให้อภัย และเกิดการปรองดองสงบสุข
แล้วปัจจุบัน สถานการณ์บ้านเมืองมันเป็นยัง ผมยังไม่เห็นใครรู้สำนึกสักคน หวังจะให้อภัยหรือ ฝันไปเถอะ
#196
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 19:52
กระทู้นายหล่อมาก
#197
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 20:17
#198
ตอบ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 22:33
ศาลเดียวกัน ตุลาการชุดเดียวกัน ตัดสินให้ควายแดงชนะ บอกว่า ศาลยุติธรรม แต่ถ้าตัดสินให้ควายแดงแพ้ บอกว่า ศาลไม่ยุติธรรมกระทู้ฮอตแฮะ ขอหน่อย
คคห.ผมคิดว่า บ้านเมืองเราอยู่รวมกันเป็นสังคม มันก็ต้องมีกติกาที่ทุกคนในสังคม
ยอมรับ มาควบคุมให้สังคมเป็นระเบียบ นั่นก็คือกฎหมาย ทีนี่เมื่อมี กม. ทุกคนก็ต้องอยู่
ภายใต้ กม. และกม.ก้ต้องใช้อย่างเท่าเทียมกันทุกคน
ปํญหาที่ขัดแย้งกันทุกวันนี้ ผมว่ามันอยู่ที่การใช้ กม.อย่างไม่เท่าเทียมกัน ลูบหน้าปะจมูก
ถึงได้มีการแบ่งสี
เพราะฉะนั้นหากต้องการให้เลิกแบ่งสี ผมว่าเราต้องกลับมาดูสิว่า เราจะบังคับใช้ กม.
ให้เป็นธรรมกับทุกคนอย่างไร
อย่างนี้เรียกว่า กฎกรรูแล้ว ไม่ใช่กฎหมาย ที่มันขัดแย้งอยู่ก็เพราะมีบางกลุ่ม เอากฎกรรู เป็นที่ตั้ง โดนหลอกว่าพวกกรรูถูกอยู่ฝ่ายเดียว
ไปดูหนังหน้าพวกใช้กฎกรรูแล้ว กาบัตรเลือกตั้ง แมม่งยังต้องสอน แต่เสือk รู้ดีกว่า ตุลาการที่ตัดสินคดีมาเกือบตลอดทั้งชีวิต โง่ขนาดเชื่อไอ้นักวิชาเกินเพิ่งโตหน้าเงิน อยากดัง ก็แห่กันไปเชื่อ เพราะเปลี่ยนดำให้เป็นขาว ถูกใจจริตพวกเดียวกัน
- voodoo likes this
#199
ตอบ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 19:05
#200
ตอบ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 19:09
ผู้ใช้ 4 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 4 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน