ขณะนี้เฟซบุ๊คหางแดงกำลังรุมสับ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กันใหญ่
#1
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 20:08
POPULAR
ถึงขนาดลามปามวิพากษ์วิจารณ์ แนวคิดนี้ เอ่อ...อยากจะบอกพวกมันว่า มันจะไม่ทำตามก็ไม่เป็นไรนะ เพราะพระองค์ก็เพียงชี้แนวทาง เพื่อให้ประชาชนของพระองค์อยู่รอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้
ไม่อยากบอกเลยว่า พวกมันโง่มาก ขอให้ได้ด่า ได้วิจารณ์ โดยไม่ดูตัวเองว่าเป็นยังไง.
- แสนยานุภาพ, -3-, David_GinoLa and 21 others like this
#2
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 20:27
POPULAR
แต่ถ้านำไปใช้ทุกคนแล้วเป็นไปได้ยากเพราะเกี่ยวพันกับระบบเศรษฐกิจ
แบบทุนนิยมก็ขัดกันบ้างเช่นประหยัด เราประหยัดก็ดีกับตัวเรา
แต่ถ้าหลายคนประหยัด ปริมาณการซื้อก็จะลดลง นายทุนก็ขายของไม่ได้
เหมือนพระพุทธเจ้าสอนเรื่องอริยสัจสี่ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะไปถึงกันได้หมด
ใครทำก็ได้ ก็มีพวกสุดโต่งมาคิดกันว่าบวชกันทุกคน มนุษย์ไม่สูญพันธ์หรือ
แล้วใครจะมาใส่บาตรพระบ้างล่ะ
เหตุผลแบบเดียวกันผู้ใดเห็นภัยในสังสารวัฎ ก็ออกบวชเพื่อหวังอรหัตผล
- Grimmy, overtherainbow, V.Junior for Vendetta and 13 others like this
#3
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 20:33
พวกกรรมหนักก็เห็นกงจักรเป็นดอกบัวอย่างนี้ล่ะค่ะ
- ตะนิ่นตาญี, นักเรียนตลอดชีพ, V.Junior for Vendetta and 6 others like this
Now! Restart Thailand
#4
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 20:36
#5
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 20:46
POPULAR
แต่..ผมได้นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้เป็นแนวทางดำเนินชีวิต กว่า 20 ปีแล้ว "กินทุกอย่างที่ปลูก ปลูกทุกอย่างที่กิน" นับว่าเป็นประโยชน์กับตนและครอบครัวอย่างอเนกอนันต์
อย่างน้อย ก็มีความสุขในระดับหนึ่ง หนี้ก็ไม่ท่วมหัว เหมือนวิ่งตามแนวคิดแบบทุนนิยม
ที่เขาโจมตีคงตีความหมายและไม่เข้าใจหลักปฏิบัติตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงดีพอ ไม่เข้าใจคำว่า พอเพียง และเพียงพอ
- -3-, ตะนิ่นตาญี, zongteen and 14 others like this
#6
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 20:52
If you try hard enough, you can be whatever you want to be.
#7
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 20:55
ได้แต่หวังว่าสักวันเขาคง สำนึกได้กัน...
#8
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:05
- นักเรียนตลอดชีพ and voodoo like this
"Power tends to corrupt, and absolute power corrupts absolutely."
#9
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:13
ไม่รู้ว่าในเฟสไหนครับ จขกท จะได้วิจารณ์ได้ถูก
แรมโบ้ อิสาน
- อาวุโสโอเค likes this
#10
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:18
เปรียบยังงี้ก็ได้ ว่าใครนำไปใช้ก็ได้ประโยชน์ส่วนตน และอาจส่วนรวม
แต่ถ้านำไปใช้ทุกคนแล้วเป็นไปได้ยากเพราะเกี่ยวพันกับระบบเศรษฐกิจ
แบบทุนนิยมก็ขัดกันบ้างเช่นประหยัด เราประหยัดก็ดีกับตัวเรา
แต่ถ้าหลายคนประหยัด ปริมาณการซื้อก็จะลดลง นายทุนก็ขายของไม่ได้
เหมือนพระพุทธเจ้าสอนเรื่องอริยสัจสี่ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะไปถึงกันได้หมด
ใครทำก็ได้ ก็มีพวกสุดโต่งมาคิดกันว่าบวชกันทุกคน มนุษย์ไม่สูญพันธ์หรือ
แล้วใครจะมาใส่บาตรพระบ้างล่ะ
เหตุผลแบบเดียวกันผู้ใดเห็นภัยในสังสารวัฎ ก็ออกบวชเพื่อหวังอรหัตผล
ก็น่าจะใช่นะคะ
แต่พระองค์ทรงชี้แนะว่าจะอยู่รอดอย่างไร
จะซื้อจะหาอะไร เราต้องมีกำลังที่จะซื้อ
ไม่ใช่มี 100 อยากใช้ 200 อย่างนี้มันเดือดร้อนเรา
ไม่ต้องไปทะเยอทะยาน
อันนี้เฉพาะบุคคล
อย่าง จขบ. ก็ใช้หลักนี้เช่นกัน นี่ก็แก๊สจะขึ้นราคาอีกแล้ว ทำไงถึงจะอยู่ได้ล่ะ
#11
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:20
พอเพียง มันไม่ใช่การที่เรา ใช้ทรัพยากรของเราอย่างได้ประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน หรือเปล่า ผมคิดว่าความหมายรวมๆมันประมาณนี้ คือไม่ใช้เกินฐานะตัวเอง
แต่พวกนั้นกลับแค่คิดได้ว่า ต้องใช้น้อยๆ อะไรพวกนี้ คิดแล้วก็แปลก แต่คนเราก็สมองไม่เท่ากัน ผมว่าผมโง่แล้วนะ เหอๆๆๆ
- ฝนทั่ง likes this
กฎหมายมันก็แค่สิงที่สร้างมาอย่างมีเป้าหมาย แต่หาก เอาแต่บอกว่ากฎหมายเป็นแบบนี้ แบบนั้น โดยไม่สนใจว่าเป้าหมายจริงๆ นันคืออะไร ก็คงไม่ใช่
#12
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:24
#13
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:35
ใครจะว่าจะโจมตี ก็แล้วแต่เขา
แต่..ผมได้นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้เป็นแนวทางดำเนินชีวิต กว่า 20 ปีแล้ว "กินทุกอย่างที่ปลูก ปลูกทุกอย่างที่กิน" นับว่าเป็นประโยชน์กับตนและครอบครัวอย่างอเนกอนันต์
อย่างน้อย ก็มีความสุขในระดับหนึ่ง หนี้ก็ไม่ท่วมหัว เหมือนวิ่งตามแนวคิดแบบทุนนิยม
ที่เขาโจมตีคงตีความหมายและไม่เข้าใจหลักปฏิบัติตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงดีพอ ไม่เข้าใจคำว่า พอเพียง และเพียงพอ
"สำหรับผู้ที่รู้จักเพียงพอ...ความเพียงพอ นั้น จะทำให้เขามีไปตลอดชีวิต"
ชอบความเห็นของ คุณ ant ครับ
ตะนิ่นตาญี
วันอังคารที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
เวลา ๒๑.๓๕ นาฬิกา
- จูกัดขงเบ้ง likes this
#14
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:43
- voodoo, เมรีสีน้ำเงิน and nunoi like this
#15
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:53
ผมหาใน facebook เจอแต่ตัวปลอมเพียบ...
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Hello, I'm a Kyubey /人◕ ‿‿ ◕人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Please Make a contract with me and become a Magical girl! /人◕ ‿‿ <人\
ข้าพเจ้าขอสนับสนุนท่านผู้นำที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ!!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!!
#16
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:09
Cap ภาพลงมาได้ไหมครับ ผมวิจารณ์ไม่ถูกแหะ
ผมหาใน facebook เจอแต่ตัวปลอมเพียบ...
#17
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:10
#18
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:11
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Hello, I'm a Kyubey /人◕ ‿‿ ◕人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Please Make a contract with me and become a Magical girl! /人◕ ‿‿ <人\
ข้าพเจ้าขอสนับสนุนท่านผู้นำที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ!!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!!
#19
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:12
อันนี้ความคิดคุณ หรือสมมุติเป็นฝ่ายตรงกันข้ามครับเปรียบยังงี้ก็ได้ ว่าใครนำไปใช้ก็ได้ประโยชน์ส่วนตน และอาจส่วนรวม
แต่ถ้านำไปใช้ทุกคนแล้วเป็นไปได้ยากเพราะเกี่ยวพันกับระบบเศรษฐกิจ
แบบทุนนิยมก็ขัดกันบ้างเช่นประหยัด เราประหยัดก็ดีกับตัวเรา
แต่ถ้าหลายคนประหยัด ปริมาณการซื้อก็จะลดลง นายทุนก็ขายของไม่ได้
เหมือนพระพุทธเจ้าสอนเรื่องอริยสัจสี่ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะไปถึงกันได้หมด
ใครทำก็ได้ ก็มีพวกสุดโต่งมาคิดกันว่าบวชกันทุกคน มนุษย์ไม่สูญพันธ์หรือ
แล้วใครจะมาใส่บาตรพระบ้างล่ะ
เหตุผลแบบเดียวกันผู้ใดเห็นภัยในสังสารวัฎ ก็ออกบวชเพื่อหวังอรหัตผล
ถ้าเป็นความคิดคุณ ก็ขอบอกว่า ต่อให้คนบวชหมดโลก ก็ยังมีผู้ตักบาตร หรือมีอาหารใส่ไม่ได้ขาด
ไม่ต้องเชื่อก็ได้นะครับ ส่วนใครจะใส่ หรืออาหารจะมาจากไหน ก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
#20
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:15
Edited by plunk, 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:16.
#21
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:25
มีภาพใหญ่ไหมครับ ตัวเล็กมาก อ่านไม่ออก
คลิ๊กเข้าไปในรายละเอียดแล้ว ตัวโตกว่านิดนึง
แต่ก๊อปมาไม่ได้(ทำไม่เป็นด้วยมั๊ง)
#22
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:28
อันนี้ความคิดคุณ หรือสมมุติเป็นฝ่ายตรงกันข้ามครับ
เปรียบยังงี้ก็ได้ ว่าใครนำไปใช้ก็ได้ประโยชน์ส่วนตน และอาจส่วนรวม
แต่ถ้านำไปใช้ทุกคนแล้วเป็นไปได้ยากเพราะเกี่ยวพันกับระบบเศรษฐกิจ
แบบทุนนิยมก็ขัดกันบ้างเช่นประหยัด เราประหยัดก็ดีกับตัวเรา
แต่ถ้าหลายคนประหยัด ปริมาณการซื้อก็จะลดลง นายทุนก็ขายของไม่ได้
เหมือนพระพุทธเจ้าสอนเรื่องอริยสัจสี่ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะไปถึงกันได้หมด
ใครทำก็ได้ ก็มีพวกสุดโต่งมาคิดกันว่าบวชกันทุกคน มนุษย์ไม่สูญพันธ์หรือ
แล้วใครจะมาใส่บาตรพระบ้างล่ะ
เหตุผลแบบเดียวกันผู้ใดเห็นภัยในสังสารวัฎ ก็ออกบวชเพื่อหวังอรหัตผล
ถ้าเป็นความคิดคุณ ก็ขอบอกว่า ต่อให้คนบวชหมดโลก ก็ยังมีผู้ตักบาตร หรือมีอาหารใส่ไม่ได้ขาด
ไม่ต้องเชื่อก็ได้นะครับ ส่วนใครจะใส่ หรืออาหารจะมาจากไหน ก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
ผมว่าผมเขียนน่าจะเคลียร์แล้วนะ
ถ้าคุณเข้าใจเข้าใจว่าคนสุดโต่งคนนั้นเป็นผมเองก็จนใจ
ผมยกตัวอย่างว่ามีคนเคยคิดแบบนี้ก็เท่านั้น
ส่วนใครจะอ้างว่าบวชหมดโลกก็ไม่อดเพราะยังมี เทวดา อะไรก็ว่ากันไป
อาหารก็มีอาหารทิพย์ เป็นสิ่งที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกก็จริง
แต่เป็นเรื่องที่เกินวิสัยมนุษย์จะไปสัมผัสได้
ที่แน่ๆ มนุษย์ทุกคนคลอดออกมาจากช่องคลอดของมารดา(ชลาพุชะ)
ไม่ได้มีกำเนิดแบบเทวดาหรือที่เรียกกันว่าโอปปาติกะ
Edited by phoosana, 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:45.
- Mark Nazi likes this
#23
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:29
Cap ภาพลงมาได้ไหมครับ ผมวิจารณ์ไม่ถูกแหะ
ผมหาใน facebook เจอแต่ตัวปลอมเพียบ...
[img]http://a6.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/s480x480/552143_349817841765743_984986612_n.
[img]http://a2.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc6/s480x480/215433_349819745098886_572317237_n.jpg[/img]
Cap ภาพลงมาได้ไหมครับ ผมวิจารณ์ไม่ถูกแหะ
ผมหาใน facebook เจอแต่ตัวปลอมเพียบ...
[img]http://a6.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/s480x480/552143_349817841765743_984986612_n.jpg[/img]
[img]http://a2.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc6/s480x480/215433_349819745098886_572317237_n.jpg[/img]
มายืนยันว่าท่านไม่เคยมีรถเฟอรารี่ รถที่ดีที่สุดที่ท่านใช้คือรถประจำตำแหน่ง รถส่วนตัวท่านก็รถธรรมดาๆ มาก ส่วนเรื่องอาหาร เราเห็นท่านซื้ออาหารทานมื้อละไม่กี่สิบบาท ราคาเป็นล้านเอามาจากไหน พวกนี้เอาแต่เรื่องโกหกมาเขียนทุเรศจริงๆ
- David_GinoLa, voodoo and orogaros like this
#24
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:45
รถคันนี้ท่านสุเมธยอมรับว่ามีจริง
แต่เป็นรถมือสองซื้อต่อเขามา
แก้ไข
ว่าเป็นท่าน ดราม่า ครับไม่ใช่ท่านเด็กปากดี ขออภัย
มีรถสปอร์ตนะไม่ทราบยี่ห้อ ราคา แค่ ห้าแสน
แต่ไม่ใช่คันในรูปที่เสื้อแดงเอามาลง
นั้นเป็นรูปตัดต่อ
http://webboard.seri...-มันตั้งกระทู้/
Edited by phoosana, 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 23:21.
- อู๋ ฮานามิ, orogaros, ดราม่า and 1 other like this
#25
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 23:10
ให้ข้อมูลเพิ่มเติมจากคุณ phoosana รถสปอร์ตมือสองที่ท่านมีคือโตโยต้า ราคาห้าแสนบาทค่ะ
Edited by เมรีสีน้ำเงิน, 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 23:37.
#26
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 23:29
มีงานเลี้ยงทุกอาทิตย์ เหล้าฟรี กับฟรี แค่มานั่งเทิดทูนควายแดง แถมตอนกลับมีค่ารถกลับบ้าน
ถ้าพอเพียง ก็มีน้อยใช้น้อย ควายไม่พอใจหรอก ควายอยากได้อยากมี แต่ควายไม่อยากทำมาหากิน
ควายมีไม่ได้ควายก็เลือกโจรเข้าปล้นบ้าน เพื่อขอเศษกระดูกมาแทะบ้าง เข้าใจควายกันมั๊ยคน
Edited by ID007, 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 23:29.
#27
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 12:48
ท่านเคยให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ไว้นานแล้วค่ะ เอามาให้อ่านกัน
สุเมธเผย ผมขี่สปอร์ต โต้ อย่างผมน่ะหรือจะมี เฟอร์รารี่ ลำพังตัวเองหาได้แค่ โคโรลล่า
จากประชาชาติธุรกิจ Date : 2010-04-24 00:35:58
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ผู้เผยแพร่แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถูกคำครหาจากชุมชนชาวออนไลน์ ถึงเรื่อง ′พอเพียง′ แต่ขับ ′เฟอร์รารี่′ วันนี้ ดร.สุเมธ มีโอกาสขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษในงานครบรอบ 10 ปี ผู้ตรวจการแผ่นดิน จึงขอใช้โอกาสชี้แจงประเด็นรถหรูไปพร้อมกัน
เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา และประธานกรรมการมูลนิธิ ประเทศไทยใสสะอาด ได้ขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง "การเสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรมเพื่อสังคมไทยใสสะอาด" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานครบรอบ 10 ปี ผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยจัดขึ้นที่ห้องประชุมชั้น 9 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน อาคารรวมหน่วยราชการ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ
วันนี้ ดร.สุเมธ ในวัย 71 ปี ยังคงยืนยันการใช้ชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แต่ยังยอมรับว่ายังมีกิเลส มีความอยาก และยังคงต่อสู้กับกิเลสเหล่านั้นอยู่ตลอด ชนะบ้าง แพ้บ้าง ตามประสามนุษย์ปุถุชนคนหนึ่ง
ประชาชาติธุรกิจได้เข้าร่วมฟังปาฐกถาของผู้อาวุโสท่านนี้ มาดูสิว่า คุณธรรมจริยธรรมเพื่อสังคมไทยนั้นเป็นอย่างไร และพลาดไม่ได้ ถ้อยแถลงเกี่ยวกับประเด็น "เฟอร์รารี่"
...........
ณ เวลานี้ ถามว่าอะไรที่ทำให้เรามาถึงจุดนี้ เมื่อเราออกจากห้องนี้ไป เราก็จะกลับไปสู่ทุนนิยม ไม่ได้มีการคิดถึงความดี ที่เหมือนจะกลายเป็นสิ่งที่ปลูกฝังไม่ได้ ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องเงินทอง
จริงอยู่แม้เราจะเห็นผู้คนต่อสู้ แต่เงินก็มีอิทธิพลต่อทุกสิ่งอย่างในโลก เกียรติยศก็ซื้อได้ ตำแหน่งก็ซื้อได้ ความดีก็ซื้อได้ ปริญญาก็ซื้อได้ แม้กระทั่งอนาคตของเด็ก เราก็ยังจ่ายเงินเพื่อให้พวกเขาได้เขาโรงเรียนที่ดี
และกับวันนี้ที่ออกมาเรียกร้องสิทธิ ประชาธิปไตย ผมอยากรู้ว่า ใจจริงๆ นั้นใช่หรือเปล่า
จึงไม่น่าแปลกที่ในเวลานี้ไม่ว่าผมจะไปบรรยายที่ไหนก็ดูจะเป็นเรื่องที่ซ้ำ ซาก คอมมิวนิสต์ เสรีนิยม สังคมนิยม ทุนนิยม อะไรก็แล้วแต่ เวลานี้โลกถูกครอบด้วยบริโภคนิยมแม้กระทั่งประเทศที่เชยที่ สุด ล้าหลังที่สุด ก็ยังเดินไปสู่ความเป็นบริโภคนิยม ใช้ของแบรนด์เนม แต่งเนื้อแต่งตัว จนจำกันไม่ได้แล้ว
หากจะบอกว่า บริโภคนิยมเป็นต้นตอของหายนะของโลกก็คงไม่เกินจริง เพราะทุกนาทีที่เราใช้ชีวิตอยู่ เราถูกกระตุ้นให้บริโภค ผ่านไปทางไหนก็เจอแต่สินค้าลดราคา 50% 60% 70% ถามตัวเองเถิดว่า ของในบ้านเราเยอะไหม เสื้อผ้าครึ่งตู้ ผมมั่นใจว่าคุณไม่ได้ใช้
ทีนี้ทุกสิ่งที่เราใช้ ถามว่ามาจากไหน เราระดมมาจากทรัพยากรในโลก ทุกวันนี้เราทำลายโลกทุกวินาที เอาทรัพยากรไปใช้ไม่พอ ยังคายคาร์บอนกลับคืนสู่โลก ในโลกนี้ คนอเมริกันบริโภคมากกว่าเราถึง 6 เท่า เขาบอกว่าถ้าโลกนี้ทุกประเทศบริโภคเท่ากับคนอเมริกัน เราต้องมีโลกถึง 6 ใบ
ผลพวงจากการบริโภคกระหน่ำของเราได้นำมาซึ่งภัยธรรมชาติมากมาย คล้ายเป็นสัญญาณเตือนอะไรถึงเราหรือเปล่า ครั้งหนึ่งในหลวงทรงเตือนเรา "ระวังนะ พวกเราชอบรังแกธรรมชาติ ระวังเขาจะโกรธ แล้วเขาจะทำโทษเรา"
อีกทั้งเดี๋ยวนี้คนเราไม่ได้มองต้นไม้ว่าเป็นธรรมชาติ ไม่ได้มองว่ามันมีหน้าที่ดูดคาร์บอนไดออกไซค์ สร้างออกซิเจน แต่เรามองว่าเป็นสินค้า พื้นที่ป่าวันนี้จึงเหลืออยู่ไม่มาก เผลอทีก็เหลือแค่ตอแล้ว กว่ามันจะโตต้องใช้เวลาหลายสิบปี แต่เราทำลายมันในเวลาไม่ถึง 10 นาที
ฉะนั้นหากมองลึกลงไป ทำไมจึงบริโภคนิยม ก็เพราะกิเลสตัณหา ที่มาทำลายจริยธรรม คุณธรรม ถ้าจะทำให้ได้เหมือนหัวข้อปาฐกถาวันนี้ เราจำเป็นต้องควบคุมกิเลสตัณหาของเราให้ได้ แต่ทีนี้มันก็เป็นเรื่องที่ยากมาก
การเป็นทุนนิยมนั่นหมายถึงการผูกติดกับตัวเลข จีดีพี หรือผลกำไรนานา แต่ถ้ามองย้อนกัลบไปตอนวิกฤตต้มยำกุ้งที่โอดครวญกันหนักหนา 3 ปีก่อนหน้านั้น เราเติบโต 12 กว่า 3 ปีซ้อน ไม่เคยทำไรได้มาก่อน แต่ทุกสิ่งล้วนมีสัจธรรม ลูกโป่งที่ใหญ่ขึ้นๆ วันหนึ่งมันก็ต้องแตก
ผมอยากบอกว่า ผมมีความสุขตอนที่ผมจนที่สุด มีชุด 4 ชุด มีบาตร มีห้องเล็กๆ ขนาดกวาดพื้นสี่ครั้งทั่ว กว่าจะได้ทานอาหารมื้อหนึ่งต้องเดินลงไป 3 กิโลเมตร ผมบวชวัดป่า พระวัดป่าฉันท์มื้อเดียว น้ำหนักผมลดเอาๆ ลดไป 5 กิโลกรัม แล้วมันก็อยู่ตัว นั่นหมายความว่า ตอนอยู่ในเมือง 5 กิโลกรัมที่เกินมาคือสังคม ตำแหน่งการงาน กินเลี้ยงตอนเย็น นั่นคือสิ่งที่เกินมา
ทุกวันนี้กลับมาอยู่ในเมืองต้องกินยาบรรเทากิเลส แถมยังป่วยเป็นโรคแพ้อากาศ ทั้งที่ตอนบวชนั้นไม่ป่วยไม่เป็นอะไร ไม่ต้องทานยา เดินบินฑบาต ทำวัตรเช้าเย็น กลับทำให้ร่างกายแข็งแรง
กลับมาที่กิเลส ไม่ใช่ว่าผมไม่มีนะ ก็มีอย่าง มัตซึซากะสเต็ก อยากทานนะ ชิ้นละ 9,999 บาท คำละพัน กิเลสนั้นช่างหอมหวาน
ทุก วันนี้เราติดกับซากที่ห่อหุ้มมากกว่าเนื้อแท้ที่เป็นจริง ผมขับรถแอคคอร์ดเก่าๆ ยามเห็นเขาก็ให้ผมไปจอดข้างหลัง แต่ถ้าลองเป็นเบนซ์มาเขาให้จอดข้างหน้า หรือผมไปซื้อรถโฟล์ก 37,000 บาท แต่ซ่อมไปแสนกว่าบาท แถมตอนออกจากราชการ ผมก็ใช้เงิน 5 แสน ซื้อรถสปอร์ต เพราะอยากได้ โคโรลล่า มือสอง แต่ใครไม่รู้ไปเขียนแซวมาผมถอยเฟอร์รารี่ กลายเป็นข่าวคึกโครมไปทั่ว
จะเห็นว่าทุกคนนั้นมีกิเลสอยู่ เราต้องพยายามเตือนสติตัวเองให้มาก
นอกจากนี้ความน่ากลัวของทุน ของการบริโภค คือทุกอย่างขายได้หมด ดิน น้ำ ป่าไม้ ขายได้หมด ขายคนด้วย
ล่าสุดประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นรองแชมป์ คอรัปชั่นมากที่สุดในเอเชีย แชมป์คืออินโดนีเซีย ขณะที่กัมพูชาได้อันดับ 3 อินเดีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ตามเป็นที่ 6 ขนาดฟิลิปปินส์ยังไปอยู่ที่ 6 คุณธรรมในประเทศที่มีการคอรัปชั่นมากขนาดนี้คงเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง
ถ้าเราสำนึกแล้วว่า มันถึงเวลาที่จะต้องทำอะไรกับ ผมก็ขอยกพระบรมราโชวาทของในหลวงที่ให้ไว้ตั้งแต่ปี 2525 "การทำดีนั้นทำยาก และเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ความชั่วซึ่งทำได้ง่าย จะเข้ามาแทนที่และจะพอกพูนอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว......"
แต่สังคมเราก็สร้างคนขึ้นมาผิดรูปผิดร่าง เราชอบสร้างคนเก่ง เก่งอย่างเดียว แต่ไม่ได้มุ่งจริยธรรมคุณธรรม พอเป็นเช่นนี้ คนเก่งเหล่านี้ก็จะใช้ความเก่งในการแสวงหาผลประโยชน์ ดังพระบรมราโชวาทของในหลวงที่ให้ไว้ตั้งแต่ปี 2522
"การสอนให้คนเก่งนี้ ถ้าดูเฉพาะบางแง่บางมุม อาจเห็นว่าดี ว่าสอดคล้องต้องกับสมัยเร่งรัดพัฒนา แต่ถ้ามองให้ถี่ถ้วนรอบด้านแล้ว จะเห็นว่าการมุ่งสอนคนให้เก่งเป็นเกณฑ์ อาจทำให้เกิดจุดบกพร่องต่างๆ ขึ้นในตัวบุคคลได้ไม่น้อย
ข้อ หนึ่ง บกพร่องในความคิดพิจารณาที่รอบคอบและกว้างไกล เพราะใจร้อนเร่งจะทำการให้เสร็จโดยเร็ว เป็นเหตุให้การงานผิดพลาด ขัดข้อง และล้มเหลว
ข้อสอง บกพร่องในความนับถือและเกรงใจผู้อื่น เพราะถือว่าตนเป็นเลิศ เป็นเหตุให้เย่อหยิ่ง มองข้ามความสำคัญของบุคคลอื่น และมักก่อความขัดแย้งทำลายไมตรีจิตมิตรภาพตลอดจนความสามัคคีระหว่างกัน
ข้อสาม บกพร่องในความมัธยัสถ์พอเหมาะพอดีในการกระทำทั้งปวง เพราะมุ่งหน้าแต่จะทำตัวให้เด่น ให้ก้าวหน้า เป็นเหตุให้เห็นแก่ตัว เอารัดเอาเปรียบ
ข้อสี่ บกพร่องในจริยธรรมและความรู้จักผิดชอบชั่วดี เพราะมุ่งแต่จะแสวงหาประโยชน์เฉพาะตัวให้เพิ่มพูนขึ้น เป็นเหตุให้ทำความผิดและความชั่วทุจริตได้ โดยไม่รู้สึกสะดุ้งสะเทือน"
ฉะนั้นในยุคที่บริโภคนิยมครอบงำ เราจึงจำเป็นต้องถือคุณธรรม 4 ประการของในหลวง
ประการแรก คือ การรักษาความสัตย์ ความจริงใจต่อตัวเองที่จะประพฤติปฏิบัติแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์และเป็นธรรม
ประการที่สอง คือ การรู้จักข่มใจตนเอง ฝึกใจตนเองให้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในสัจจะความดีนั้น
ประการที่สาม คือ ความอดทน อดกลั้น และอดออมที่จะไม่ประพฤติล่วงความสัตย์สุจริตไม่ว่าด้วยเหตุประการใด
ประการที่สี่ คือ การรู้จักละวางความชั่ว ความทุจริต และรู้จักสละประโยชน์ส่วนน้อยของตนเพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ของบ้านเมือง
http://www.108acc.co...icle&qid=436333
Now! Restart Thailand
#28
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 13:09
หากปฎิเสธความพอเพียง ก็เสมือนนึงปฎิเสธหลักทางสายกลางของพระพุทธเจ้า ส่งผลให้คนผู้นั้นมีความคิดสุดโต่งไปด้านใดด้านนึง
จนเกินพอดี ขาดความรอบคอบและแก้ปัญหาได้ยาก เพราะมองเห็นแค่มุมของตนเองเท่านั้น และถ้าหากเป็นมุมมองที่ผิดแล้ว
เขาจะต้องเจ็บหนักอย่างแน่นอน
คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม คือ ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง
คุณธรรมที่พร้ำสอน ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา ส่วน ประชาธิปไตยน่ะรึ เอาเข้าจริงๆ สำคัญอันใด??
#29
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 13:12
จะเอาชนะข้อมูลด้วยการบิดเบือนข้อมูล ไม่เลวเกินคนทำไม่ได้ครับ
Edited by อู๋ ฮานามิ, 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 13:13.
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#30
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 13:55
1. มีความพอประมาณ (ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น)
2. มีเหตุมีผล (ใช้จ่ายอย่างมีเหตุมีผลและตามฐานะ)
3. มีภูมิคุ้มกัน (เตรียมพร้อมสำหรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น)
โดยอยู่บนเงื่อนไขของการปฏิบัติด้วยความรู้ (น่าจะหมายถึงมีความรู้ในเรื่องสภาพสังคมและเศรษฐกิจ เพื่อปฏิบัติได้ถูกต้องเหมาะสม - หากผิดพลาด ต้องขออภัยด้วยค่ะ)
กับการมีคุณธรรมค่ะ
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ได้ต่อต้านหรือปฏิเสธระบบทุนนิยม
เพียงแต่สอนให้เรารู้จัก "เพียงพอ" ต่อการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องเหมาะสมแก่อัตภาพของเราเอง
ไม่ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมเกินฐานะ
จำได้แม่นเลยว่ามีอยู่ปีนึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงซ้ำอีกครั้ง
และทรงอธิบายให้เข้าใจง่ายๆว่า พอเพียงไม่ได้หมายถึงไม่ให้มี ไม่ให้ซื้อ ซื้อได้ ถ้าฐานะเอื้ออำนวย
ในโอกาสนั้นพระองค์ท่านยังทรงอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมอีกหลายอย่าง ซึ่งเป็นประโยชน์มาก
ถ้าทุกคนน้อมนำใส่เกล้าและปฏิบัติตาม
#31
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 15:08
เศรษฐกิจพอเพียง ต่อสุ้ได้ดีกับ กิเลส ที่สร้างสรรค์จากทุนนิยม
เป็นอุปสงค์ ที่ขาดเหตุผล ด้านความพอเพียงนั่นเอง
ของแบรนด์เนม อาหารหรูๆ การใช้เครดิต ที่ไม่มีหลักประกัน (บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด)
-----------
การลงทุนมีความเสี่ยง คำนี้เป็นจริงเสมอครับ
การไม่ให้ก่อหนี้ เกินถอย เพื่อลงทุน เป็นการอยู่ได้ด้วยกำลังครับ
เมื่อเราไม่ลงทุนด้วยเงิน เราจะลงทุนด้วยสมอง โอกาส กำลัง และการทำงานจริง
ถ้าคนจำนวนมากๆ เข้าไปเล่นหุ้นแล้ว และหลงการทำกำไรหุ้น
จนละเลยงานตัวเอง อาชีพที่แท้จริง ฝีมือที่แท้จริงแล้ว
ก็จะกลับมาเป็นฟองสบู่ในตลาดไม่นานครับ
#32
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 15:14
#33
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 15:25
เราต้องอธิบายให้ชาวบ้านเข้าใจว่า การที่เรามีเงินเดือนสักเเสนสอง เราจะเอามาใช้ซื้อบ้านหลังละล้าน ก็ยังพอเพียง
ถ้างั้นจะไปเรียนให้เมื่อยทำไม มีปัญญาหาเงินได้เยอะเเยะ เเล้วก็ ไม่ได้โกงเอนทร้าน ไม่ได้โกงข้อสอบ ไมได้โกงภาษี
เเต่ไม่ใช้ เอามาฝังดินไว้ กินข้าวจานละ 30 ไปจนตายหรือ มันไม่ใช่เเบบนั้น
เเต่ถ้าเรามีเงินเดือนสามหมื่น จะไปเช่าคอนโดเดือนละสองหมื่น หรืออยากได้บ้านหลังละห้าหกสิบล้าน
มันก็ลำบาก มันก็ทำให้ชีวิตไม่ราบรื่น
- yoshikiryuichiro and wizard like this
รำคาญสลิ่มเที่ยมที่เข้ามาปล่อยสารพิษเรียกร้องความรุนเเรงเสดงออกถึงความคลั่งสงครามกลางเมืองยุเเยงสร้างภาพชั่วๆ
เอียนวะ เห็นคนเเถวนี้ไอคิวต่ำกว่า 90 หรือไง
#34
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 15:39
เข้าใจแล้วครับ ขอโทษด้วยผมตาไม่ดีเองทำให้อ่านข้ามและจับความหมายผิดผมว่าผมเขียนน่าจะเคลียร์แล้วนะ
ถ้าคุณเข้าใจเข้าใจว่าคนสุดโต่งคนนั้นเป็นผมเองก็จนใจ
ผมยกตัวอย่างว่ามีคนเคยคิดแบบนี้ก็เท่านั้น
ส่วนใครจะอ้างว่าบวชหมดโลกก็ไม่อดเพราะยังมี เทวดา อะไรก็ว่ากันไป
อาหารก็มีอาหารทิพย์ เป็นสิ่งที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกก็จริง
แต่เป็นเรื่องที่เกินวิสัยมนุษย์จะไปสัมผัสได้
ที่แน่ๆ มนุษย์ทุกคนคลอดออกมาจากช่องคลอดของมารดา(ชลาพุชะ)
ไม่ได้มีกำเนิดแบบเทวดาหรือที่เรียกกันว่าโอปปาติกะ
ขอยืดอีกนิด
ถึงไม่มีเทวดา อาหารยังถูกใส่ในบาตรไม่ได้ขาด ไม่ต้องเชื่อก็ได้นะครับข้อความส่วนนี้
#35
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 15:49
ใช้ sufficiency economy ค่ะ ตรงตัวฝรั่งแปลว่า efficiency economy ใช่หรือเปล่าครับ ผมว่ามันก็เก๋ไก๋ดีนะ ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ แปลว่า ประโยชน์สูงสุด ประหยัดที่สุด ชัดเจนดี จะกู้ก็ได้ ถ้าคิดว่าที่กู้มาแล้วนำไปใช้เกิดประโยชน์สูงสุดและสามารถใช้หนี้คืนเขาได้ ไม่ใช่กู้ไปซื้อของส่วนตัว แบบนี้ไม่ใช่ แต่ไม่ใช่ว่า ชีวิตนี้กูจะไม่กู้เงิน ถ้าจำเป็นต้องกู้ เพื่อการลงทุน ที่คิดมาอย่างดีแล้ว เห็นทางเติบโตแล้ว มันก็เข้าข่ายเศรษฐกิจพอเพียงนะผมว่า
Now! Restart Thailand
#36
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 15:52
อ่อ ครับ จำผิด ต้องขอบคุณครับใช้ sufficiency economy ค่ะ ตรงตัว
ฝรั่งแปลว่า efficiency economy ใช่หรือเปล่าครับ ผมว่ามันก็เก๋ไก๋ดีนะ ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ แปลว่า ประโยชน์สูงสุด ประหยัดที่สุด ชัดเจนดี จะกู้ก็ได้ ถ้าคิดว่าที่กู้มาแล้วนำไปใช้เกิดประโยชน์สูงสุดและสามารถใช้หนี้คืนเขาได้ ไม่ใช่กู้ไปซื้อของส่วนตัว แบบนี้ไม่ใช่ แต่ไม่ใช่ว่า ชีวิตนี้กูจะไม่กู้เงิน ถ้าจำเป็นต้องกู้ เพื่อการลงทุน ที่คิดมาอย่างดีแล้ว เห็นทางเติบโตแล้ว มันก็เข้าข่ายเศรษฐกิจพอเพียงนะผมว่า
#37
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 16:05
#38
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 16:14
งง...เนอะ ทำไมเข้าใจกันยากจัง.......
โกงแต่ทำงาน...อันนี้น่าจะเข้าใจยากกว่าอีก...เหอๆๆ
ลูกหลานที่รัก จงจำปฏิปทานี้ไว้ “ถ้ามีความจำเป็นเราต้องเสียสละเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และปวงชนชาวไทย แม้แต่ชีวิตก็ต้องยอม”
#39
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 16:42
อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์
แม้นมีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง
อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน
จาก สุนทรภู่
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#40
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 17:07
เราเชื่อมั่นแนวทางที่ในหลวงวางไว้ให้ และตั้งใจแนวแน่เดินตามทางนั้นก็พอ
ใครเขาไม่ชอบหรือไม่อยากเดินก็เรื่องของเขา
บางทีพวกนี้ก็แค่เรียกร้องความสนใจ ไม่มีใครใส่ใจก็เงียบหายไปเอง เพราะแต่ละคนก็ไม่ได้มีคุณสมบัติอะไรที่น่าชื่นชม บางคนพ่อแม่ไม่รัก บางคนเป็นลูกไล่เขามาตลอดชีวิต บางคนทนไม่ได้ที่เห็นคนดีได้รับการยกย่องบูชา
อย่างเช่นพ่อหงอกเจียม แค่แกยิงฟัน เราก็เผ่นกันป่าราบแล้ว
พ่อเฒ่าอาจารย์มหาลัยเที่ยงวันเที่ยงคืนนั่น แกก็หวังหลอกฟันลูกศิษย์สาวๆไปวันๆ
แล้วยังทรเจตน์ นพเหล่ ฯลฯ ก็ดูเป็นมนุษย์นอกมดลูกกันทั้งนั้น
พวกนี้ตายไปไม่มีใครหลั่งน้ำตาให้ พวกเขาก็รู้ดี จึงพยายามเป็น somebody กันก่อนตาย
อย่าไปให้ความสนใจนักเลยครับ แค่ถ้ามีเวลาก็ตบเกรียนสักทีสองทีก็พอ
- ฝนทั่ง likes this
#41
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 17:52
ขอบคุณมากค่ะที่นำมาให้อ่านเรื่องเก่าเอามาเล่นกันใหม่ วนเวียนอยู่ไม่กี่เรื่อง น่าเบื่อจริง ๆ พวกแดงเนี่ย
ท่านเคยให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ไว้นานแล้วค่ะ เอามาให้อ่านกัน
สุเมธเผย ผมขี่สปอร์ต โต้ อย่างผมน่ะหรือจะมี เฟอร์รารี่ ลำพังตัวเองหาได้แค่ โคโรลล่า
จากประชาชาติธุรกิจ Date : 2010-04-24 00:35:58
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ผู้เผยแพร่แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถูกคำครหาจากชุมชนชาวออนไลน์ ถึงเรื่อง ′พอเพียง′ แต่ขับ ′เฟอร์รารี่′ วันนี้ ดร.สุเมธ มีโอกาสขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษในงานครบรอบ 10 ปี ผู้ตรวจการแผ่นดิน จึงขอใช้โอกาสชี้แจงประเด็นรถหรูไปพร้อมกัน
เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา และประธานกรรมการมูลนิธิ ประเทศไทยใสสะอาด ได้ขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง "การเสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรมเพื่อสังคมไทยใสสะอาด" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานครบรอบ 10 ปี ผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยจัดขึ้นที่ห้องประชุมชั้น 9 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน อาคารรวมหน่วยราชการ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ
วันนี้ ดร.สุเมธ ในวัย 71 ปี ยังคงยืนยันการใช้ชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แต่ยังยอมรับว่ายังมีกิเลส มีความอยาก และยังคงต่อสู้กับกิเลสเหล่านั้นอยู่ตลอด ชนะบ้าง แพ้บ้าง ตามประสามนุษย์ปุถุชนคนหนึ่ง
ประชาชาติธุรกิจได้เข้าร่วมฟังปาฐกถาของผู้อาวุโสท่านนี้ มาดูสิว่า คุณธรรมจริยธรรมเพื่อสังคมไทยนั้นเป็นอย่างไร และพลาดไม่ได้ ถ้อยแถลงเกี่ยวกับประเด็น "เฟอร์รารี่"
...........
ณ เวลานี้ ถามว่าอะไรที่ทำให้เรามาถึงจุดนี้ เมื่อเราออกจากห้องนี้ไป เราก็จะกลับไปสู่ทุนนิยม ไม่ได้มีการคิดถึงความดี ที่เหมือนจะกลายเป็นสิ่งที่ปลูกฝังไม่ได้ ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องเงินทอง
จริงอยู่แม้เราจะเห็นผู้คนต่อสู้ แต่เงินก็มีอิทธิพลต่อทุกสิ่งอย่างในโลก เกียรติยศก็ซื้อได้ ตำแหน่งก็ซื้อได้ ความดีก็ซื้อได้ ปริญญาก็ซื้อได้ แม้กระทั่งอนาคตของเด็ก เราก็ยังจ่ายเงินเพื่อให้พวกเขาได้เขาโรงเรียนที่ดี
และกับวันนี้ที่ออกมาเรียกร้องสิทธิ ประชาธิปไตย ผมอยากรู้ว่า ใจจริงๆ นั้นใช่หรือเปล่า
จึงไม่น่าแปลกที่ในเวลานี้ไม่ว่าผมจะไปบรรยายที่ไหนก็ดูจะเป็นเรื่องที่ซ้ำ ซาก คอมมิวนิสต์ เสรีนิยม สังคมนิยม ทุนนิยม อะไรก็แล้วแต่ เวลานี้โลกถูกครอบด้วยบริโภคนิยมแม้กระทั่งประเทศที่เชยที่ สุด ล้าหลังที่สุด ก็ยังเดินไปสู่ความเป็นบริโภคนิยม ใช้ของแบรนด์เนม แต่งเนื้อแต่งตัว จนจำกันไม่ได้แล้ว
หากจะบอกว่า บริโภคนิยมเป็นต้นตอของหายนะของโลกก็คงไม่เกินจริง เพราะทุกนาทีที่เราใช้ชีวิตอยู่ เราถูกกระตุ้นให้บริโภค ผ่านไปทางไหนก็เจอแต่สินค้าลดราคา 50% 60% 70% ถามตัวเองเถิดว่า ของในบ้านเราเยอะไหม เสื้อผ้าครึ่งตู้ ผมมั่นใจว่าคุณไม่ได้ใช้
ทีนี้ทุกสิ่งที่เราใช้ ถามว่ามาจากไหน เราระดมมาจากทรัพยากรในโลก ทุกวันนี้เราทำลายโลกทุกวินาที เอาทรัพยากรไปใช้ไม่พอ ยังคายคาร์บอนกลับคืนสู่โลก ในโลกนี้ คนอเมริกันบริโภคมากกว่าเราถึง 6 เท่า เขาบอกว่าถ้าโลกนี้ทุกประเทศบริโภคเท่ากับคนอเมริกัน เราต้องมีโลกถึง 6 ใบ
ผลพวงจากการบริโภคกระหน่ำของเราได้นำมาซึ่งภัยธรรมชาติมากมาย คล้ายเป็นสัญญาณเตือนอะไรถึงเราหรือเปล่า ครั้งหนึ่งในหลวงทรงเตือนเรา "ระวังนะ พวกเราชอบรังแกธรรมชาติ ระวังเขาจะโกรธ แล้วเขาจะทำโทษเรา"
อีกทั้งเดี๋ยวนี้คนเราไม่ได้มองต้นไม้ว่าเป็นธรรมชาติ ไม่ได้มองว่ามันมีหน้าที่ดูดคาร์บอนไดออกไซค์ สร้างออกซิเจน แต่เรามองว่าเป็นสินค้า พื้นที่ป่าวันนี้จึงเหลืออยู่ไม่มาก เผลอทีก็เหลือแค่ตอแล้ว กว่ามันจะโตต้องใช้เวลาหลายสิบปี แต่เราทำลายมันในเวลาไม่ถึง 10 นาที
ฉะนั้นหากมองลึกลงไป ทำไมจึงบริโภคนิยม ก็เพราะกิเลสตัณหา ที่มาทำลายจริยธรรม คุณธรรม ถ้าจะทำให้ได้เหมือนหัวข้อปาฐกถาวันนี้ เราจำเป็นต้องควบคุมกิเลสตัณหาของเราให้ได้ แต่ทีนี้มันก็เป็นเรื่องที่ยากมาก
การเป็นทุนนิยมนั่นหมายถึงการผูกติดกับตัวเลข จีดีพี หรือผลกำไรนานา แต่ถ้ามองย้อนกัลบไปตอนวิกฤตต้มยำกุ้งที่โอดครวญกันหนักหนา 3 ปีก่อนหน้านั้น เราเติบโต 12 กว่า 3 ปีซ้อน ไม่เคยทำไรได้มาก่อน แต่ทุกสิ่งล้วนมีสัจธรรม ลูกโป่งที่ใหญ่ขึ้นๆ วันหนึ่งมันก็ต้องแตก
ผมอยากบอกว่า ผมมีความสุขตอนที่ผมจนที่สุด มีชุด 4 ชุด มีบาตร มีห้องเล็กๆ ขนาดกวาดพื้นสี่ครั้งทั่ว กว่าจะได้ทานอาหารมื้อหนึ่งต้องเดินลงไป 3 กิโลเมตร ผมบวชวัดป่า พระวัดป่าฉันท์มื้อเดียว น้ำหนักผมลดเอาๆ ลดไป 5 กิโลกรัม แล้วมันก็อยู่ตัว นั่นหมายความว่า ตอนอยู่ในเมือง 5 กิโลกรัมที่เกินมาคือสังคม ตำแหน่งการงาน กินเลี้ยงตอนเย็น นั่นคือสิ่งที่เกินมา
ทุกวันนี้กลับมาอยู่ในเมืองต้องกินยาบรรเทากิเลส แถมยังป่วยเป็นโรคแพ้อากาศ ทั้งที่ตอนบวชนั้นไม่ป่วยไม่เป็นอะไร ไม่ต้องทานยา เดินบินฑบาต ทำวัตรเช้าเย็น กลับทำให้ร่างกายแข็งแรง
กลับมาที่กิเลส ไม่ใช่ว่าผมไม่มีนะ ก็มีอย่าง มัตซึซากะสเต็ก อยากทานนะ ชิ้นละ 9,999 บาท คำละพัน กิเลสนั้นช่างหอมหวาน
ทุก วันนี้เราติดกับซากที่ห่อหุ้มมากกว่าเนื้อแท้ที่เป็นจริง ผมขับรถแอคคอร์ดเก่าๆ ยามเห็นเขาก็ให้ผมไปจอดข้างหลัง แต่ถ้าลองเป็นเบนซ์มาเขาให้จอดข้างหน้า หรือผมไปซื้อรถโฟล์ก 37,000 บาท แต่ซ่อมไปแสนกว่าบาท แถมตอนออกจากราชการ ผมก็ใช้เงิน 5 แสน ซื้อรถสปอร์ต เพราะอยากได้ โคโรลล่า มือสอง แต่ใครไม่รู้ไปเขียนแซวมาผมถอยเฟอร์รารี่ กลายเป็นข่าวคึกโครมไปทั่ว
จะเห็นว่าทุกคนนั้นมีกิเลสอยู่ เราต้องพยายามเตือนสติตัวเองให้มาก
นอกจากนี้ความน่ากลัวของทุน ของการบริโภค คือทุกอย่างขายได้หมด ดิน น้ำ ป่าไม้ ขายได้หมด ขายคนด้วย
ล่าสุดประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นรองแชมป์ คอรัปชั่นมากที่สุดในเอเชีย แชมป์คืออินโดนีเซีย ขณะที่กัมพูชาได้อันดับ 3 อินเดีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ตามเป็นที่ 6 ขนาดฟิลิปปินส์ยังไปอยู่ที่ 6 คุณธรรมในประเทศที่มีการคอรัปชั่นมากขนาดนี้คงเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง
ถ้าเราสำนึกแล้วว่า มันถึงเวลาที่จะต้องทำอะไรกับ ผมก็ขอยกพระบรมราโชวาทของในหลวงที่ให้ไว้ตั้งแต่ปี 2525 "การทำดีนั้นทำยาก และเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ความชั่วซึ่งทำได้ง่าย จะเข้ามาแทนที่และจะพอกพูนอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว......"
แต่สังคมเราก็สร้างคนขึ้นมาผิดรูปผิดร่าง เราชอบสร้างคนเก่ง เก่งอย่างเดียว แต่ไม่ได้มุ่งจริยธรรมคุณธรรม พอเป็นเช่นนี้ คนเก่งเหล่านี้ก็จะใช้ความเก่งในการแสวงหาผลประโยชน์ ดังพระบรมราโชวาทของในหลวงที่ให้ไว้ตั้งแต่ปี 2522
"การสอนให้คนเก่งนี้ ถ้าดูเฉพาะบางแง่บางมุม อาจเห็นว่าดี ว่าสอดคล้องต้องกับสมัยเร่งรัดพัฒนา แต่ถ้ามองให้ถี่ถ้วนรอบด้านแล้ว จะเห็นว่าการมุ่งสอนคนให้เก่งเป็นเกณฑ์ อาจทำให้เกิดจุดบกพร่องต่างๆ ขึ้นในตัวบุคคลได้ไม่น้อย
ข้อ หนึ่ง บกพร่องในความคิดพิจารณาที่รอบคอบและกว้างไกล เพราะใจร้อนเร่งจะทำการให้เสร็จโดยเร็ว เป็นเหตุให้การงานผิดพลาด ขัดข้อง และล้มเหลว
ข้อสอง บกพร่องในความนับถือและเกรงใจผู้อื่น เพราะถือว่าตนเป็นเลิศ เป็นเหตุให้เย่อหยิ่ง มองข้ามความสำคัญของบุคคลอื่น และมักก่อความขัดแย้งทำลายไมตรีจิตมิตรภาพตลอดจนความสามัคคีระหว่างกัน
ข้อสาม บกพร่องในความมัธยัสถ์พอเหมาะพอดีในการกระทำทั้งปวง เพราะมุ่งหน้าแต่จะทำตัวให้เด่น ให้ก้าวหน้า เป็นเหตุให้เห็นแก่ตัว เอารัดเอาเปรียบ
ข้อสี่ บกพร่องในจริยธรรมและความรู้จักผิดชอบชั่วดี เพราะมุ่งแต่จะแสวงหาประโยชน์เฉพาะตัวให้เพิ่มพูนขึ้น เป็นเหตุให้ทำความผิดและความชั่วทุจริตได้ โดยไม่รู้สึกสะดุ้งสะเทือน"
ฉะนั้นในยุคที่บริโภคนิยมครอบงำ เราจึงจำเป็นต้องถือคุณธรรม 4 ประการของในหลวง
ประการแรก คือ การรักษาความสัตย์ ความจริงใจต่อตัวเองที่จะประพฤติปฏิบัติแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์และเป็นธรรม
ประการที่สอง คือ การรู้จักข่มใจตนเอง ฝึกใจตนเองให้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในสัจจะความดีนั้น
ประการที่สาม คือ ความอดทน อดกลั้น และอดออมที่จะไม่ประพฤติล่วงความสัตย์สุจริตไม่ว่าด้วยเหตุประการใด
ประการที่สี่ คือ การรู้จักละวางความชั่ว ความทุจริต และรู้จักสละประโยชน์ส่วนน้อยของตนเพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ของบ้านเมือง
http://www.108acc.co...icle&qid=436333
อ่านจบไป 2 รอบ พยายามจับใจความ ที่เป็นประโยชน์
เพื่อมาประยุกต์ใช้
ท่านสุเมธบอกว่า ครั้งหนึ่งในหลวงทรงเตือนเรา "ระวังนะ พวกเราชอบรังแกธรรมชาติ ระวังเขาจะโกรธ แล้วเขาจะทำโทษเรา"
และธรรมชาติก็พิโรธเราแล้ว ทั้งน้ำท่วม ดินถล่ม พายุ มาแล้วค่ะ
#42
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 17:58
#43
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 18:16
#44
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 18:22
#45
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 18:44
เเสดงว่ายังไม่เข้่าใจเปรียบยังงี้ก็ได้ ว่าใครนำไปใช้ก็ได้ประโยชน์ส่วนตน และอาจส่วนรวม
แต่ถ้านำไปใช้ทุกคนแล้วเป็นไปได้ยากเพราะเกี่ยวพันกับระบบเศรษฐกิจ
แบบทุนนิยมก็ขัดกันบ้างเช่นประหยัด เราประหยัดก็ดีกับตัวเรา
แต่ถ้าหลายคนประหยัด ปริมาณการซื้อก็จะลดลง นายทุนก็ขายของไม่ได้
เหมือนพระพุทธเจ้าสอนเรื่องอริยสัจสี่ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะไปถึงกันได้หมด
ใครทำก็ได้ ก็มีพวกสุดโต่งมาคิดกันว่าบวชกันทุกคน มนุษย์ไม่สูญพันธ์หรือ
แล้วใครจะมาใส่บาตรพระบ้างล่ะ
เหตุผลแบบเดียวกันผู้ใดเห็นภัยในสังสารวัฎ ก็ออกบวชเพื่อหวังอรหัตผล
หลักการเเละหัวใจของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเลย...
จะบอกว่าเเม้เเต่!!!การกู้เงิน!!!ยังเป็นส่วนหนึ่งของหลักเศรษฐกิจพอเพียงเลยนะครับ...
ถ้าการกู้นั้นเป็นการกู้. "ที่ไม่เกินกำลัง" เเละไม่เบียดเบียนผู้อื่น
กู้ตามระบบที่ให้สถาบันการเงินตรวจสอบตามระบบเเล้วว่า
เป็นธุรกิจมีออร์เดอร์จริงมีการลงทุนหรืิอขยายกำลังผลิตตามdemandจริง
ไม่ได้ทุจริตให้เปอร์เซ็นคนอนุมัติ หรือปั่นราคาที่ ปล่อยกู้มั่วซั่ว กันจนเกิด subprime crisis
เริ่มจากการสามารถ พึ่งพาตนเองได้เเบบยั่งยืน
สู่การมีกำไรที่สมเหตุสมผล ไม่เบียดเบียนผู้อื่นเเละสิ่งเเวดล้อม
เมื่อมีกำไรมาก ก็คืนกำไรให้โลก เพื่อความเจริญที่ยั่งยืน
นี่คือสิ่งที่ปรัชญาของพ่อหลวงต้องการจะมอบให้ลูกๆทุกคน
#47
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:04
Now! Restart Thailand
#48
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:21
ความเห็นของผม(ขอเน้น) ข้อสรุปที่นำมาปฏิบัติ ผมตีความว่า
1.วัตถุประสงค์ คือหาวิธีให้ตน(และครอบครัว)กินอยู่อย่างมีความสุขในปัจจุบัน และมั่นคงถึงในอนาคต ตามอัตภาพ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน เช่นวิกฤตต้มยำกุ้ง, แฮมเบอร์เกอร์, รัฐบาลโกงกินสุดมูมมาม ก็จะดำรงค์ตนอยู่ได้โดยไม่เดือดร้อนจากปัจจัยที่สำคัญต่อการดำรงค์ชีวิต
2."วิธีให้ตนและครอบครับ" ตามข้อ1. วิธีการนั้นจะต้องอยูในศีลธรรม,คุณธรรม และจริยธรรม ซึ่งทำให้ไม่มีใครเดือดร้อนจากวิธีการของเราด้วย
แนวทางที่ทรงพระราชทาน (ที่ทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น) เช่น
1.เรามีที่1ไร่ เรามองแล้ว ทำยังไงก็ไม่พอกิน ทรงแนะนำว่าขุดบ่อเลี้ยงปลา เหนือบ่อเลี้ยงปลา ทำโรงเรือน2ชั้น ชั้นแรกเลี้ยงหมู ชั้นบนเลี้ยงไก่ โดยขุนอาหารไก่ หมูกินขี้ไก่+อาหารหมู ปลากินขี้หมู ที่ไหนว่างก็ปลูกไม้กินต่างๆ เท่านี้ถ้าใช้ชีวิตตามอัตภาพก็อยู่ได้สบายแล้ว
2.กรณีมีที่มากกว่า1ไร่ (จำขนาดไม่ได้แน่)ก็แบ่งที่เป็นปลูกบ้าน, ขุดบ่อน้ำไว้ใช้อุปโภค-เพาะปลูก ขอบบ่อปลูกพืชสวนครัว, แบ่งที่ทำนา(ไว้กินเอง), แบ่งปลูกไม้ยืนต้น(รายได้-รายปี), แบ่งที่ทำสวน รายได้รายวัน-รายสัปดาห์ ..ทั้งหมดถ้าเกินกินในครอบครัวก็แจกเพื่อนบ้าน เหลือจากนั้นก็ขาย
การกินอยู่ตามอัตภาพ /ประมาณตน คือการใช้จ่ายโดยตนเองไม่เดือดร้อน และมีหลักประกันความมั่นคงในอนาคต
การประหยัด(กิน-ใช้ตามอัตภาพ) ->ตระหนี่ ->เอาเปรียบคนอื่น
มีคนเล่าให้ฟังว่าตักขี้ กินเนื้อที่สั่งตรงจากนอก(อาจซื้อในตลาดแต่ต้องเป็นเกรดจากนอก)ผักต้องมาจากเหนือทางเครื่องบิน ไม่เป็นไรครับมีเงินเป็นแสนล้าน กินแบบนี้อีก10ชาติก็ไม่หมดก็เป็นขอบเขตพอเพียงของคนมีเงินระดับนี้ เพียงแต่ที่มาของสมบัตินั้นเบียดเบียน,ทุจริต มันเลยไม่อยู่ในระบบเศรษฐกิจพอเพียง
ลูกชายคุมงานก่อสร้าง บอกพวกคนงานกินอยู่น่าสงสาร ผมเลยซื้อพันธุ์ มะละกอ, พริก, คะน้า, ตำลึง, กะเพรา ให้ และบอกว่าให้คนงานทำแปลงปลูก และดูแลด้วย และเพื่อให้คนงานใส่ใจดูแลก็ให้บอกว่าปลูกเพื่อเอาไว้ปรุงกับแกล้มก็ได้(ลูกชายชอบสังสรรค์บ่อย) เดือนกว่าลูกมาบอกพิชผักที่คนงานดูแลนั้นงามมาก แต่โตไม่ทันกิน ผมบอกว่าทำอย่างนี้ทุกไซ้ต์งานจนกว่ามันจะทำเป็นนิสสัยมันจะช่วยค่าครองชีพเขาได้บ้าง ..น่าจะเข้าหลักปรัชญาพอเพียงบ้าง
แต่จากข้อมูล และรูปภาพจากในเวบบ์นี้แหละ ปูกินข้าวคนเดียวมื้อละ6พัน เทียบกับรูปทหารเกือบ10คน กินข้าวที่วางบนผ้าใบ/ผ้าพลาสติก ที่เห็นแต่ข้าว ไม่เห็นชามกับข้าว คาดว่าถ้าซื้อจากตลาดก็ไม่น่าเกิน500) ...ไม่รู้ว่าจะเข้าเศรษฐกิจพอเพียงไหม
แต่ทั้งหมด ตามหัวข้อกระทู้ นั้นเสื้อแดงไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับทฤษฎีด้วยซ้ำ(ไม่มีสมองเหลือสำหรับไตร่ตรองข้อมูล ..จำจากคุณเอม) พอฟังชื่อท่านแล้วตัดสินเลยว่าต้องแย้ง แย้ง และแย้งงงงงงง
ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ
#49
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:38
เสื้อแดงบางคนอาจรู้ เพราะเสื้อแดงมีสมองหลายระดับ
แต่เพราะมีอคติกับอำมาตย์ ไม่เฉพาะท่านสุเมธ เป็นอื่นก็ตาม
ก็จะขอด่า ขอค้านไว้ก่อน
ความไม่ชอบนี่สำคัญนะ
#50
ตอบ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:41
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นการเอาธรรมะมาใช้ในชีวิตประจำวันนั่นเอง เป็นการอธิบายให้เห็นภาพ ยกตัวอย่างเดียวคือชาวนา แต่ผู้ที่ฉลาดสามารถนำหลักการไปใช้ได้โดยไม่ยึดติดแค่ตัวอย่าง
- IFai likes this
ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน