Siriwanna Jillชายชุดดำ ....ความจริงจาก คอป. ที่ธาริต พยายามเบื่องเบน ระวังจะโดนต่างชาติแบนรัฐบวม เพราะข้าหลวงใหญ่ UN ว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ให้ทั้งการยอมรับ และ แนะนำให้รัฐบวมนำไปปฎิบัติ ......นานาชาติให้ความเชื่อถือ เพราะว่า ทีมที่ปรึกษา คอป. ซึ่งมีทั้งผู้เชี่ยวชาญ จากต่างประเทศและในประเทศจำนวน 6 คน ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญในประเทศ มี นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย และ นายชัยวัฒน์ สถาอานันท์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มธ. และผู
้เชี่ ยวชาญจากต่างประเทศ มีนางพริสซิลล่า เฮย์เนอร์ ผู้เชี่ยวชาญ ด้านการค้นหาความจริง และความยุติธรรม ในระยะเปลี่ยนผ่าน นายฮันซัน วิราจูดา อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ อินโดนีเซีย นายเดวิด เคเนดี้ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และนายเดนิส เดวิด อดีตผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ แอฟริกาใต้
นอกจากนี้ ทางสวิสฯ ประเทศเป็นกลาง ยังส่งผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ มาให้คำปรึกษาแนะนำ เช่น ด้านนิติวิทยาศาสตร์ ด้านภาพถ่าย และ วิดิท้ศน์ ด้านอาวุธ ด้านอาชญากรรม และ ยา มีข้อคลิปภาพชายชุดดำ ทั้งจาก CIA และ สื่อใหญ่โลก NY Times และ วิชิงตัน โพสต์
ในรายงานของคอป.ก็ระบุไว้ชัดเจน ว่า ในเวลาประมาณ 19.00 น. ก่อนที่เจ้าหน้าที่ทหาร จะถูกโจมตีด้วยระเบิด มีผู้พบเห็นรถตู้สีขาว ขนคนชุดดำสองสามคน พร้อมอาวุธสงคราม มาส่งลงบริเวณวงเวียน อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยด้านร้าน หนังสือเมืองโบราณ และร้านเมธาวาลัย (ศรแดง) โดยมีการ์ด นปช. คอยห้อมล้อม เดินไปทางร้านแมคโดนัลด์ หัวมุมถนนดินสอ ติดกับโรงเรียนสตรีวิทยา เข้าไปในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยการ์ด นปช. ห้ามมิให้ใครถ่ายรูป และมีผู้ชุมนุมบางคนพูดว่า “ส่งคนมาช่วยแล้ว” แต่ถูกการ์ด นปช. ห้ามไม่ให้พูด ยังปรากฏภาพ รถตู้สีขาวในกล้องวงจรปิด บริเวณวงเวียนสี่กั๊กพระยาศรี 2 ครั้ง ระบุเวลา 20.19 น. และอีกครั้งในเวลา 21.01 น. และยังปรากฏภาพ คนชุดดำ ถือเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ยืนอยู่ข้างรถตู้สีขาว จอดอยู่ในบริเวณ ที่มีผู้ชุมนุมอยู่ แต่ไม่สามารถยืนยัน แหล่งที่มาของภาพได้ เจ้าหน้าที่ทหารคนหนึ่งให้ข้อมูล ว่า หลังเหตุการณ์ ความรุนแรง มีรถตู้สีขาว ซึ่งมีกลุ่ม คนชุดดำ มีอาวุธสงครามโดยสาร มาด้วยขับผ่านมาที่บริเวณ หน้าวัดตรีทศเทพ คนในรถโผล่หน้าออกมาเยาะเย้ย ทหารที่ได้รับบาดเจ็บ โดยเจ้าหน้าที่ทหารคนหนึ่ง ยืนยันว่าเห็นชายฉกรรจ์ พร้อมอาวุธสองสามคน นั่งอยู่ในรถคันดังกล่าว
ภาพจากเว็บไซต์ นิวยอร์กไทมส์ ที่ปรากฏ “ไอ้โม่ง” ถือปืนไรเฟิล ที่พยายามไล่ล่าเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งเข้าไป ควบคุมสถานการณ์ในคืน 10 เม.ย 53 ที่สำคัญคือ นิวยอร์กไทมส์ ระบุชัดเจนว่า ไอ้โม่งรายดังกล่าว เป็น “การ์ดของนปช.” นอกจากนี้ ยังรายงานด้วยว่า หลังจากความพยายาม ในการปราบปราม กลุ่มเสื้อแดงล้มเหลว เจ้าหน้าที่ทหารต่าง ต้องวิ่งหนีโดยใช้เกราะพลาสติก กำบัง เมื่อถูกกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งไม่พอใจ วิ่งไล่ล่าอย่างชุลมุน ขณะที่รถพยาบาลแล่น เข้าไปรับผู้ได้รับบาดเจ็บ ผู้ชุมนุมต่างร้องตะโกนว่า “มีฮีโร่อีกคนแล้ว” ** ประหนึ่งว่า ดีใจกับการเสียชีวิตของกลุ่มคนเสื้อแดง
สำนักข่าวรอยเตอร์ ก็รายงานข้อมูลไป ในทิศทางเดียวกันว่า แหล่งข่าวทางทหารยืนยันว่า คนเสื้อแดงได้รับอาวุธ และการสนับสนุนจากฝ่ายทหารเกเร กลุ่มหนึ่ง ในจำนวนนั้น มีทั้งเจ้าหน้าที่ปลดเกษียณ และพันธมิตรของ นช.ทักษิณ ภาพข่าว แสดงให้เห็นว่า มีผู้ประท้วงบางส่วน ถือปืนไรเฟิลและปืนกล ขณะที่ทหารถูกเล่นงาน ด้วยระเบิดเอ็ม79 ภาพถ่ายหลายภาพก็ปรากฏให้เห็นว่า มีมือปืนซุ่มยิงลงมา จากอาคารหลังหนึ่ง
นอกจากนั้น ยังปรากฏภาพอีกหลายภาพ ที่ยืนว่า กองกำลังชุดดำ กับกลุ่มคนเสื้อแดง เป็นกลุ่มเดียวกัน เช่น ภาพชายฉกรรจ์สวมหมวก ไหมพรมคลุมศีรษะ สวมกางเกงทหารลายพราง สวมเสื้อกั๊กคล้าย เสื้อกันกระสุน และที่แขนขวา ผูกผ้าแดงเป็นสัญลักษณ์ ยืนกำบังตัวอยู่หลัง รถตู้โตโยต้าสีขาว มือถือ อาวุธปืนสำหรับยิงระเบิดเอ็ม 79 ยืนอยู่ฝั่งเดียวกับ กลุ่มคนเสื้อแดง โดยภาพดังกล่าว มีทั้งกำลังยิง และบรรจุกระสุน เพื่อยิงใหม่อีกครั้ง
กลุ่มกองกำลังใส่ชุดสีดำนั้น สามารถนำรถตู้ พร้อมอาวุธเข้ามาในพื้นที่ ของกลุ่มคนเสื้อแดงได้ และไม่ถูกขัดขวาง จากการ์ดคนเสื้อแดง อีกทั้งยังสามารถขนอาวุธ และใช้อาวุธสงคราม ในพื้นที่ของผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงได้ โดยที่ไม่มีการขัดขวาง ไม่มีการห้ามปรามจาก และไม่มีการจับกุม