ใครฆ่าน้องเกด
#2051
ตอบ 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 06:58
ยุบสภาเลือกตั้งก็จะแพ้หรือชนะก็ไม่รู้เพราะไม่แน่นอน
แต่ตอนนั้นคะแนนแดงค่อนข้างลบในสายตาประชาชน
เลยก้าวข้ามความดี(ที่จริงก็ข้ามมานานแล้ว)
โดยการฆ่าและใส่ร้ายป้ายสีรัฐบาลสมัยนั้น
ที่น่าเสียใจคือไปยิงอาสาพยาบาล ซึ่งคงตั้งใจเพราะ จะเป็นการกระทำที่โหด ***(ม) ผิดวิสัยคนทั่วไปและทหาร
ใครไม่เห็นด้วยแย้งได้ครับ ทั้งเรื่อง เจตนา จุดประสงค์ ของเหตุการณ์
- อู๋ ฮานามิ and พันไมล์ like this
#2052
ตอบ 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 08:12
#2053
ตอบ 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 14:38
http://www.komchadlu...ml#.UFLaiK4l_YA
'มีชายชุดดำ'คอป.ฟันธง
รายงาน คอป.ชี้มี 'ชายชุดดำ' เหตุการณ์ปี 53 : ขยายปมร้อนโดยโอภาส บุญล้อม
เปิดรายงานฉบับสมบูรณ์ของ "คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ" (คอป.) กรกฎาคม 2553-กรกฎาคม 2555 ชุดที่มี "คณิต ณ นคร" เป็นประธาน ก็ได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว เตรียมเสนอต่อรัฐบาล ผู้นำฝ่ายค้าน พรรคการเมือง ผู้ที่เกี่ยวข้อง และเผยแพร่ต่อสาธารณะผ่านสื่อมวลชนในวันที่ 17 กันยายนนี้
โดยรายงานดังกล่าวมีทั้งสิ้น 516 หน้า แบ่งเป็น 5 ส่วน ส่วนสำคัญอยู่ที่ส่วนที่ 2 เป็นการสรุปเหตุการณ์ความรุนแรงและการละเมิดสิทธิที่เกิดขึ้น โดยในส่วนที่ 2นี้ ได้แยกออกมาเป็นหัวข้อ ซึ่งหัวข้อที่ 3 เป็นเรื่องเกี่ยวกับพฤติกรรมของ "ชายชุดดำ" ที่ใช้ความรุนแรงและอาวุธสงคราม ได้ปรากฏตัวอยู่ในพื้นที่ชุมนุม ทั้งเหตุการณ์ความรุนแรงในวันที่ 10 เมษายน 2553 บริเวณสี่แยกคอกวัวและถนนดินสอ, เหตุการณ์ความรุนแรงช่วงวันที่ 14-18 พฤษภาคม 2553 บริเวณถนนพระรามที่ 4-สวนลุมพินี-บ่อนไก่ และวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 บริเวณวัดปทุมวนาราม ที่มีผู้เสียชีวิตถึง 6 ศพ
ซึ่งสวนทางกับการสอบสวนของ "ดีเอสไอ" ที่ออกมาในแนวทางที่ว่าไม่มีชายชุดดำในเหตุการณ์ความไม่สงบอย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้ในส่วนที่ 2 ยังมีการระบุถึงการเสียชีวิตของ "พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล" หรือ เสธ.แดง ว่า น่าจะมาจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิบัติการปิดล้อม และกระชับพื้นที่ชุมนุม และอีกส่วนที่มีความสำคัญ คือส่วนที่ 5 ซึ่งเป็นข้อเสนอแนะของ คอป.ต่อรัฐบาลในเรื่องของการปรองดองและออก พ.ร.บ. นิรโทษกรรม
ในรายงานชิ้นนี้ได้ระบุถึงพฤติกรรมของ "ชายชุดดำ" ไว้ในหลายเหตุการณ์ เช่นวันที่ 10 เมษายน 2553 ความรุนแรงในเหตุการณ์แยกคอกวัว หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งในรายงานมีภาพคนชุดดำถืออาวุธที่มีรูปร่างคล้ายเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79, ภาพคนชุดดำถือปืนเอเค 47 บริเวณถนนตะนาว, ภาพคนชุดดำบริเวณหน้าร้าน Burger King กำลังยิงปืนเล็กยาวไปในทิศทางถนนตะนาว ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ทหารปฏิบัติการอยู่
รายงานชิ้นนี้ยังระบุถึงเหตุการณ์เผาอาคารสถานที่ต่างๆ ไว้ด้วยว่า "ทั้งช่วงก่อนและระหว่างการชุมนุมมีการปราศรัยจากแกนนำ นปช. บางคนปลุกเร้าให้ผู้ชุมนุมทำการเผาอาคารสถานที่ทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด หลายครั้ง" และมีการตั้งข้อสังเกตว่าเจ้าหน้าที่ทหารเผาหรือไม่ว่า "ไม่ปรากฏพยานหลักฐานว่าเจ้าหน้าที่ทหารเป็นผู้กระทำหรือเกี่ยวข้องโดยพบว่า ไฟเริ่มไหม้เซ็นทรัลเวิลด์ ช่วงเวลาหลัง 14.00 น. วันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ไม่นานหลังแกนนำประกาศยุติการชุมนุม ซึ่งยังมีผู้ชุมนุมอยู่ในบริเวณแยกราชประสงค์ในช่วงเวลาดังกล่าวก่อนที่ทหาร จะสามารถเคลื่อนจากแยกเพลินจิตเข้าไปถึงแยกราชประสงค์ได้ในเวลา 15.00 น. แต่ได้รับคำสั่งให้ถอนกำลังกลับทันที เนื่องด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถเข้าควบคุมพื้นที่บริเวณดังกล่าวได้ในเวลาหลัง 21.00 น."
ต่อข้อสังเกตที่ว่า การเผาสถานที่ต่างๆ เกิดจากภาวะจลาจลอันเป็นผลจากการปลุกเร้าในการปราศรัยระหว่างการชุมนุมอัน ยาวนานและความไม่พึงพอใจที่แกนนำยุติการชุมนุมหรือไม่นั้นพบว่า "สภาพดังกล่าวเป็นเงื่อนไขที่ทำให้ผู้ชุมนุมบางส่วนพร้อมที่จะก่อความรุนแรง ด้วยการเข้าไปร่วมเผาอาคารสถานที่ต่างๆ ดังนั้นเมื่อผู้ชุมนุมบางคนวางเพลิงจะโดยเตรียมการมาหรือไม่ก็ตาม จึงมีผู้ร่วมชุมนุมคนอื่นเข้าร่วมปฏิบัติการด้วย เชื่อว่าสภาพดังกล่าวเป็นสาเหตุที่สำคัญที่ทำให้สถานการณ์ลุกลามและรุนแรง ยิ่งขึ้น"
สำหรับพฤติกรรมของคนชุดดำที่ใช้ความรุนแรงและอาวุธสงคราม รายงานชิ้นนี้ระบุว่า ปรากฏตัวอยู่ในพื้นที่ชุมนุมในเหตุการณ์ความรุนแรงบริเวณถนนพระรามที่ 4-บ่อนไก่ โดยระหว่างที่ทหารเข้าควบคุมพื้นที่สวนลุมพินีในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 มีการปะทะกับคนชุดดำในสวนลุมพินีเป็นเวลานาน 30 นาที
ในรายงานชิ้นนี้ได้ระบุว่า เจ้าหน้าที่มีการใช้ "กระสุนจริงในการปฏิบัติการ" ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลในสมัยนั้นรวมทั้งกองทัพ พยายามบอกว่า ไม่มีการใช้กระสุนจริง เช่น เหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน 2553 จากข้อเท็จจริงพบว่า เหตุการณ์บนถนนดินสอ เจ้าหน้าที่ทหารนำอาวุธปืนสงครามและกระสุนจริงไปปฏิบัติหน้าที่ด้วย และหลังเกิดเหตุการณ์ระเบิด เจ้าหน้าที่ทหารใช้อาวุธดังกล่าวยิงมาในทิศทางที่มีผู้ชุมนุมอยู่ สอดคล้องกับร่องรอยกระสุนปืนจำนวนมากที่ยิงมาจากทิศทางที่เจ้าหน้าที่ทหาร ปฏิบัติการอยู่ รวมทั้งการใช้กระสุนจริงยิงเข้าไปในสวนลุมพินีเช่นเดียวกับบนถนนพระรามที่ 4-บ่อนไก่ ในระหว่างการเข้าควบคุมและปิดล้อมพื้นที่
สำหรับเหตุการณ์บริเวณวัดปทุมวนาราม วันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ที่มีผู้เสียชีวิต 6 ศพ รายงานระบุว่า เวลา 18.00 น. มีเจ้าหน้าที่ทหาร 7 นาย วางกำลังอยู่บนรางรถไฟฟ้าชั้น 1 ด้านหน้าวัดปทุมวนาราม และบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม 5 นาย ทุกนายถืออาวุธปืนเอ็ม 16 กระสุนจริง พบว่าเจ้าหน้าที่ทหารเล็งและยิงลงไปในทิศทางวัดปทุมวนาราม ยิงมาจากบริเวณสะพานลอยแยกเฉลิมเผ่า ซึ่งเป็นบริเวณที่มีทหารปฏิบัติการอยู่ โดยมีความเป็นไปได้สูงว่าเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บบริเวณ วัดปทุมวนาราม ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทหารให้ข้อเท็จจริงว่ามีการยิงตอบโต้กับชายชุดดำ และผู้พบเห็นว่ามีคนชุดดำยิงตอบโต้กับเจ้าหน้าที่
ส่วนที่ 5 ซึ่งเป็นข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล ผู้นำฝ่ายค้าน พรรคการเมืองนั้น คอป.ได้เรียกร้องต่อรัฐบาล ผู้นำฝ่ายค้าน พรรคการเมือง ให้แสวงหาแนวทางร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งและความรุนแรงอย่างจริงจัง รวมทั้งข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมที่ คอป.เห็นว่า การออก พ.ร.บ.ปรองดองยังต้องอาศัยเวลาที่เหมาะสมและการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย, การเสนอแนะเกี่ยวกับการเยียวยา และการป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีก
Edited by MR.M.K., 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 14:41.
#2054
ตอบ 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 15:04
#2055
ตอบ 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 16:45
ก็กลับไป แต่งเรื่องด้วยภาพ ทำทีขอความเห็น แต่เอาเรื่องที่เป็นประโยชน์กับตัวมานำเสนอทั้งนั้น
สิงห์สนามหลวง ต่อไปขอเรียกเธอ ฮายีน่าสนามหลวง ดีกว่า
เหมาะดี ทั้งกินซากศพ ทั้งเจ้าเล่ห์ หลอกลวง
ไม่อายบ้างเลย เกินจินตนาการ
http://www.pantip.co.../P12652912.html
- ผ่านมาผ่านไป, NongGrace, Bourne and 1 other like this
#2056
ตอบ 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 17:02
ปล.ผมขอตัวก่อน เดี๋ยวดึกๆจะเข้ามา ศึกษาในรูปนี้
เพิ่มเติม แล้ว ขอข้อมูลด้วยว่า ภาพนี้เป็นภาพของหน่วยงานไหน ยอมรับได้มากขนาดไหนด้วยนะครับ
Edited by ฟังทั้งสองฝ่าย, 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 17:03.
#2057
ตอบ 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 17:06
นายสิงห์ฯคงไม่กล้าวิจารณ์อะไรในราชดำเนิน เพราะอาจถูกฟ้องกลับ ที่ไปกล่าวหาทหารว่ายิงคุณเกด
ที่โดนแน่ๆก็คือจตุพร และแม่น้องเกด เพราะเวลาที่คุณเกดเสียชีวิต ทหารยังไม่ออกจากฐานที่สยามเลย
ที่แปลกก็คือไม่มีใครเอาประเด็นนี้ไปแย้งในราชดำเนินเลย สิงห์ฯเอง หลังถูกเตือนในเสรีไทยก็หุบปากเงียบไม่กล้ากล่าวถึงอีกเลย ให้คนอ่านไปจินตนาการเอาเอง
Edited by Stargate-1, 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 17:19.
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#2058
ตอบ 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 17:12
ภาพเป็นของหมอพรทิพย์ครับ แต่ถูกเพิ่มเติมในส่วนของสตช.เข้าไป หลังจากมีคนในนี้ถามถึงเมื่อหน้าที่แล้ว ดูผิดครับขอแก้ไข เป็นฟอร์มของสตช.ครับ สังเกตที่เป็นเพศชายหมด ไม่รู้เขาไม่มีฟอรม์ของผู้หญิงบ้างหรือเปล่ากลัวอะไรกับการนำเสนอภาพนี้ มาแย้งครับ ท่านสิงห์ แต่กล้าโพสต์ ให้พี่น้องในราชดำเนิน ได้ ดูประกอบ........
ปล.ผมขอตัวก่อน เดี๋ยวดึกๆจะเข้ามา ศึกษาในรูปนี้
เพิ่มเติม แล้ว ขอข้อมูลด้วยว่า ภาพนี้เป็นภาพของหน่วยงานไหน ยอมรับได้มากขนาดไหนด้วยนะครับ
ต่อมาหมอได้อธิบายการชันสูตรฯไว้ในคลืปนี้ http://77.nationchan...om/video/96668/
Edited by Stargate-1, 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 19:07.
- วันดี likes this
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#2059
ตอบ 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 18:30
สงสัยบาดแผลที่ 7 ครับ บริเวณขาขวาท่อนบนด้านในแต่ไหงชี้ไปที่แขนครับกลัวอะไรกับการนำเสนอภาพนี้ มาแย้งครับ ท่านสิงห์ แต่กล้าโพสต์ ให้พี่น้องในราชดำเนิน ได้ ดูประกอบ........
ปล.ผมขอตัวก่อน เดี๋ยวดึกๆจะเข้ามา ศึกษาในรูปนี้
เพิ่มเติม แล้ว ขอข้อมูลด้วยว่า ภาพนี้เป็นภาพของหน่วยงานไหน ยอมรับได้มากขนาดไหนด้วยนะครับ
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#2060
ตอบ 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 18:55
ไม่รู้จะเรียก คนๆนี้ว่า อะไรดี คุณธรรมไม่มี มา สรท. เจอของจริง เถียงไม่ได้
ก็กลับไป แต่งเรื่องด้วยภาพ ทำทีขอความเห็น แต่เอาเรื่องที่เป็นประโยชน์กับตัวมานำเสนอทั้งนั้น
สิงห์สนามหลวง ต่อไปขอเรียกเธอ ฮายีน่าสนามหลวง ดีกว่า
เหมาะดี ทั้งกินซากศพ ทั้งเจ้าเล่ห์ หลอกลวง
ไม่อายบ้างเลย เกินจินตนาการ
http://www.pantip.co.../P12652912.html
ลองเข้าไม่อ่านแล้วครับ
ไม่ได้มีการวิเคราะห์อะไรเลย
มีแต่เอารูปลง
แล้วพวกเดียวกันก้ออวยกันเอง
โดยเฉพาะ ตระกองขวัญ อ่ะ
- พันไมล์ likes this
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
#2061
ตอบ 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 20:12
กดเข้าไปดูคาดหวังจะเห็นบทวิเคราะห์แบบเต็มน้ำเต็มเนื้อ แต่เปล่าเลย
มีแค่แปะลิงก์ข่าว แปะคลิป แปะรูป เหมือนเดิม
มาตรฐานเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ
งานเสวนาวิชาการ "เหลียวหลัง แลหน้าสู่ 1 ศตวรรษโรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย คุณค่าที่ควรอยู่"
#2062
ตอบ 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 20:47
มันจะทำให้เราคิดก่อนพูดได้ดีขึ้น เมื่อเชื่อว่าคำพูดที่ออกไปเหล่านั้นคือคำที่เราจะได้ยินเองในอนาคต
และถ้าเราจะทำดีได้มากขึ้น เมื่อเชื่อว่าเราจะได้เจอสิ่งดีๆในอนาคต
แม้ว่าวันนี้เราจะยังไม่เห็นว่ามันดีอย่างไรแต่อย่างน้อยทำให้เราผ่านวันนี้ไปได้อย่างราบรื่น
#2063
ตอบ 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 20:55
#2064
ตอบ 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 21:46
ผมเรียกว่าปลัก มีแต่โคลนแดงลากดำนามันมีคุณภาพด้วยเหรอครับ ไม่เห็นกล้าออกจากกะลาพันตื้บสักตัวนึง
ถึงสูงศักดิ์อัครฐานสักปานไหน.ถึงวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี..ถึงเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี..ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน.... พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้า รัชกาลที่ ๕ " https://www.facebook...akwarakfromyala https://www.facebook.com/NARAPEACE
#2065
ตอบ 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 22:48
1. รู้ได้ยังไงว่า น้องเกด เป็น อาสาพยาบาล?
2. กระเป๋าเป้น้องเกดหายไปไหน?
3. คนที่ใส่สัญลักษณ์อาสา ทำไมถึงรอด?(แต่กู้ภัยโดนนะครับ ตรงจุดนี้ ขอแค่ อาสาพยาบาลของผู้ชุมนุม)
4. มีใครบ้าง เป็นคน จัดการนำผู้เสียชีวิต ไปไว้ที่เดียวกัน?
5. ใครเป็นคนจัดฉาก? อันนี้ เดี๋ยวผมจะบอกว่าตรงไหน แต่ ถ้าใครเห็นก็ตามนั้นครับ
- overtherainbow likes this
#2066
ตอบ 15 กันยายน พ.ศ. 2555 - 15:51
ผมมีข้อสงสัยใหม่มาถามครับ
1. รู้ได้ยังไงว่า น้องเกด เป็น อาสาพยาบาล?
2. กระเป๋าเป้น้องเกดหายไปไหน?
3. คนที่ใส่สัญลักษณ์อาสา ทำไมถึงรอด?(แต่กู้ภัยโดนนะครับ ตรงจุดนี้ ขอแค่ อาสาพยาบาลของผู้ชุมนุม)
4. มีใครบ้าง เป็นคน จัดการนำผู้เสียชีวิต ไปไว้ที่เดียวกัน?
5. ใครเป็นคนจัดฉาก? อันนี้ เดี๋ยวผมจะบอกว่าตรงไหน แต่ ถ้าใครเห็นก็ตามนั้นครับ
รอเฉลยคร้า ^^
#2067
ตอบ 15 กันยายน พ.ศ. 2555 - 16:04
เกลียดคนแบบนี้จริงๆ ไม่กลัวบาปกรรม ไอ้นี่ก็ไม่น่าตายดี มั่วได้ถ้วยเลย
http://www.pantip.co.../P12657130.html
#2068
ตอบ 15 กันยายน พ.ศ. 2555 - 16:05
ใครโดนสาด ดิ้นเป็นสุนัขถูกน้ำร้อน
แม้จะใช้ชื่อว่าสิงห์.....ก็ตาม ฮา
อ้อ
ต้องขอบคุณสิงห์สนามหลวง
ที่ยอมรับว่า เวทีสรท. มีพลังที่เข้มแข็งจนแนวรบแดงไซเบอร์
ปั่นป่วนขนาดต้องตั้งกระทู้สู้
อิอิ
ขอโทษนะ.....ช้าไปป่าว
- overtherainbow, คุณฉงน and พันไมล์ like this
#2069
ตอบ 15 กันยายน พ.ศ. 2555 - 22:16
ลองหารูปดูนะครับ ผมไม่ได้เซฟไว้ แต่มีในกระทู้นี้ คือ ผมมาสังเกดว่า
ผมมีข้อสงสัยใหม่มาถามครับ
1. รู้ได้ยังไงว่า น้องเกด เป็น อาสาพยาบาล?
2. กระเป๋าเป้น้องเกดหายไปไหน?
3. คนที่ใส่สัญลักษณ์อาสา ทำไมถึงรอด?(แต่กู้ภัยโดนนะครับ ตรงจุดนี้ ขอแค่ อาสาพยาบาลของผู้ชุมนุม)
4. มีใครบ้าง เป็นคน จัดการนำผู้เสียชีวิต ไปไว้ที่เดียวกัน?
5. ใครเป็นคนจัดฉาก? อันนี้ เดี๋ยวผมจะบอกว่าตรงไหน แต่ ถ้าใครเห็นก็ตามนั้นครับ
รอเฉลยคร้า ^^
1.น้องเกด ไม่ได้ใส่เสื้อ แสดงตัวว่าเป็นอาสา คือตอนเข้าช่วยชายที่ซ้อนมอเตอร์ไซด์มาหน้าวัด
2.คนที่ถูกยิง ทั้ง6 ศพ ทำไมถึงมีรูปน้องเกด มีเอี๊ยมแสดงตัวว่าเป็นอาสา และ(อาจจะคิดมากเกินไปเองก็ได้)ผ้าขนหนู ปิดไว้ที่บริเวณคอ เหมือนปกปิด กลัวคนไม่เชื่อ
3.แล้วคนที่ใส่เอี๊ยมแสดงตัวว่าเป็นอาสา รอดทุกคน(น่าจะนะครับ อันนี้ไม่แน่ใจ)
4.นายเก่ง คนที่ อยู่ในรูปที่ทำให้ผมสงสัย คือ รูปที่ช่วยเหลือ ชายสูงอายุ ทำไมไม่ใส่เสื้อแสดงตัวว่าเป็นอาสา(ในกระทู้นี้มีคนสงสัยรูป และวงกลมไว้ว่าคือใคร ซึ่งเป็นจุดเริ่มเอะใจของผมครับ)
5.ที่วัดประทุม ในรูปที่มีในกระทู้ นายเก่ง ยืนถ่ายแทบกับทุกศพ
6.นาย สมพงศ์ บังชม ถูกจับ ถูกควบคุมตัวภายในวัดปทุม
7.เจ้าของกระทู้ วิเคราะห์ว่า พยานในคลิปให้การขัดแย้งกัน
จึงเป็นที่มา ของการวิเคราะห์ว่า มีบุคคลที่น่าสงสัยคือ.........(ไม่ขอเอ่ยนามนะครับ เพราะยังไม่มีหลักฐาน เพราะนี้คือการวิเคราะห์) อาจจะเป็นคนที่ อยู่ในเหตุการณ์ และ อาจจะ เป็นผู้ที่ อาจจะนะครับ "ชี้เป้า" ให้นาย.....................(ไม่ขอเอ่ยนามนะครับ เพราะ ยังไม่มีหลักฐาน เพราะนี้คือการวิเคราะห์) เป็นผู้ลงมือ และ อาจจะเป็นคนจัดการทำลายพยานหลักฐาน หรือ สร้างหลักฐาน ให้ มองเป็นมุมมองอื่น และเคลื่อนย้ายศพ ซึ่งน่าจะรู้ว่าการกระทำเช่นนี้นั้น เป็นการทำลายหลักฐานอย่างมิอาจให้อภัยได้
ผิดถูก ประการใด ช่วยกันวิเคราะห์ ด้วยนะครับ
ย้ำ เป็นแค่การวิเคราะห์ ต้องขอโทษรายชื่อ บุคคลที่มีในนี้ด้วยนะครับ แต่นี้คือการวิเคราะห์ครับ
Edited by ฟังทั้งสองฝ่าย, 15 กันยายน พ.ศ. 2555 - 22:18.
- stand with a fist, pakorn and Akekun like this
#2070
ตอบ 15 กันยายน พ.ศ. 2555 - 23:45
1. รู้ได้ยังไงว่า น้องเกด เป็น อาสาพยาบาล?
ลองหารูปดูนะครับ ผมไม่ได้เซฟไว้ แต่มีในกระทู้นี้ คือ ผมมาสังเกดว่า
1.น้องเกด ไม่ได้ใส่เสื้อ แสดงตัวว่าเป็นอาสา คือตอนเข้าช่วยชายที่ซ้อนมอเตอร์ไซด์มาหน้าวัด
ประเด็นดีมากครับ
เดี๋ยวมาคุยด้วย
- stand with a fist and overtherainbow like this
#2071
ตอบ 16 กันยายน พ.ศ. 2555 - 00:36
ไม่รู้จะเรียก คนๆนี้ว่า อะไรดี คุณธรรมไม่มี มา สรท. เจอของจริง เถียงไม่ได้
ก็กลับไป แต่งเรื่องด้วยภาพ ทำทีขอความเห็น แต่เอาเรื่องที่เป็นประโยชน์กับตัวมานำเสนอทั้งนั้น
สิงห์สนามหลวง ต่อไปขอเรียกเธอ ฮายีน่าสนามหลวง ดีกว่า
เหมาะดี ทั้งกินซากศพ ทั้งเจ้าเล่ห์ หลอกลวง
ไม่อายบ้างเลย เกินจินตนาการ
http://www.pantip.co.../P12652912.html
ลองเข้าไม่อ่านแล้วครับ
ไม่ได้มีการวิเคราะห์อะไรเลย
มีแต่เอารูปลง
แล้วพวกเดียวกันก้ออวยกันเอง
โดยเฉพาะ ตระกองขวัญ อ่ะ
ผมว่าพวกนี้ต้องการบิดเบือนความผิดเผาเมืองพวกมันเองมากกว่า
เสียดายยยย คนไทยช่างลืมง่ายมากๆๆๆ
เป็นเห็บเกาะไข่ระบบรัฐประหาร
#2072
ตอบ 16 กันยายน พ.ศ. 2555 - 02:24
ภาพนี้ถ่ายประมาณสามเกือบสี่โมงเย็น ของวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ได้จัดเตรียมเต้นท์ปฐมพยาบาลในวัดเสร็จ น้องเกดคนที่สองจากซ้ายอาบน้ำสระผมเห็นได้ว่ายังมีผ้าขนหนูสีน้ำตาลคลุมศีรษะอยู่เลย น้องปลั๊กคือคนขวาสุดใส่เสื้อบ่งบอกจังหวัดบ้านเกิด "กาฬสินธ์" .....
http://thaienews.blo...-post_9832.html
ผมว่ามันพิลึกอยู่นา
รูปนี้จะถ่ายตอนเกือบสี่โมงไม่ได้ เพราะเรามีคลิบน้องเกดเดินเข้าขบวนมาที่วัดในช่วงนั้น และมาเห็นคนถูกยิงที่มอไซค์นำมาส่ง
เพิ่งเห็นคนเจ็บและตายอยู่ต่อหน้า น้องๆ กลุ่มนี้ยังมาถ่ายรูปอย่างรื่นเริง และแถมน้องเกดยังไปอาบน้ำมาซะอีก......
มันไม่น่าเป็นไปได้
โดยส่วนตัว ผมเชื่อว่าเธอมาเป็นอาสาพยาบาลจริง แต่ที่เราไม่รู้คือ ปกติเต้นท์ของเธออยู่ที่ใหน......
เราได้เห็นว่า เธอสะพายเป้ใหญ่ใส่หลังมากับกลุ่มผู้ชุมนุม ตอนประมาณสี่โมงร่วมห้าโมงเย็น
ดังนั้น ขอเดาว่า เต้นท์พยาบาลในวัดควรจะเตรี่ยมการไว้แล้วตั้งแต่บ่ายหรือหลังเที่ยงมาสักหน่อย
แล้วพวกน้องๆ ก็ถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึก
จากนั้นก็อาจจะออกไปดูแลผู้ชุมนุมที่ราชประสงค์ และเดินกำกับขบวนมาที่วัด ดังที่เราได้เห็นจากคลิบ
ถ้าที่ผมเดามานี้ถูกต้อง เราก็มีเรื่องต้องคิดเพิ่มว่า
แผนการต้อนคนเข้าวัด ไม่ได้เป็นไปเอง เพราะอุปกรณ์ปฐมพยาบาลในรูปนี้ ต้องใช้เวลาในการจัดการ
หมายความว่า ถ้าเดิมในวัดไม่มีเต้นท์พยาบาล มันก็ถูกสร้างขึ้นมาสดๆ ร้อนๆ รับกับการที่แกนนำยุติการชุมนุม
หมายความต่อไปว่า มีการล๊อคเป้าให้เต้นท์พยาบาลอยู่ตรงนี้มาแต่ต้น ไม่ได้เป็นไปเอง
ดังนั้น ถ้าจะเรียกเต้นท์นี้ว่า "ลานสังหาร"
ก็ไม่น่าจะผิด
- overtherainbow and ฟังทั้งสองฝ่าย like this
#2073
ตอบ 16 กันยายน พ.ศ. 2555 - 10:17
ภาพนี้รู้สึกจะเป็นภาพวันที่ 18 ยังไม่มีอุปกรณ์พยาบาลรูปนี้ มีคนนำลงในเว็บแดง และอธิบายว่า
ภาพนี้ถ่ายประมาณสามเกือบสี่โมงเย็น ของวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ได้จัดเตรียมเต้นท์ปฐมพยาบาลในวัดเสร็จ น้องเกดคนที่สองจากซ้ายอาบน้ำสระผมเห็นได้ว่ายังมีผ้าขนหนูสีน้ำตาลคลุมศีรษะอยู่เลย น้องปลั๊กคือคนขวาสุดใส่เสื้อบ่งบอกจังหวัดบ้านเกิด "กาฬสินธ์" .....
http://thaienews.blo...-post_9832.html
ผมว่ามันพิลึกอยู่นา
รูปนี้จะถ่ายตอนเกือบสี่โมงไม่ได้ เพราะเรามีคลิบน้องเกดเดินเข้าขบวนมาที่วัดในช่วงนั้น และมาเห็นคนถูกยิงที่มอไซค์นำมาส่ง
เพิ่งเห็นคนเจ็บและตายอยู่ต่อหน้า น้องๆ กลุ่มนี้ยังมาถ่ายรูปอย่างรื่นเริง และแถมน้องเกดยังไปอาบน้ำมาซะอีก......
มันไม่น่าเป็นไปได้
โดยส่วนตัว ผมเชื่อว่าเธอมาเป็นอาสาพยาบาลจริง แต่ที่เราไม่รู้คือ ปกติเต้นท์ของเธออยู่ที่ใหน......
เราได้เห็นว่า เธอสะพายเป้ใหญ่ใส่หลังมากับกลุ่มผู้ชุมนุม ตอนประมาณสี่โมงร่วมห้าโมงเย็น
ดังนั้น ขอเดาว่า เต้นท์พยาบาลในวัดควรจะเตรี่ยมการไว้แล้วตั้งแต่บ่ายหรือหลังเที่ยงมาสักหน่อย
แล้วพวกน้องๆ ก็ถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึก
จากนั้นก็อาจจะออกไปดูแลผู้ชุมนุมที่ราชประสงค์ และเดินกำกับขบวนมาที่วัด ดังที่เราได้เห็นจากคลิบ
ถ้าที่ผมเดามานี้ถูกต้อง เราก็มีเรื่องต้องคิดเพิ่มว่า
แผนการต้อนคนเข้าวัด ไม่ได้เป็นไปเอง เพราะอุปกรณ์ปฐมพยาบาลในรูปนี้ ต้องใช้เวลาในการจัดการ
หมายความว่า ถ้าเดิมในวัดไม่มีเต้นท์พยาบาล มันก็ถูกสร้างขึ้นมาสดๆ ร้อนๆ รับกับการที่แกนนำยุติการชุมนุม
หมายความต่อไปว่า มีการล๊อคเป้าให้เต้นท์พยาบาลอยู่ตรงนี้มาแต่ต้น ไม่ได้เป็นไปเอง
ดังนั้น ถ้าจะเรียกเต้นท์นี้ว่า "ลานสังหาร"
ก็ไม่น่าจะผิด
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#2074
ตอบ 16 กันยายน พ.ศ. 2555 - 10:39
สิงห์สนามหลวง โดนตบเกรียนฝั่งนี้....ตะเกียกตะกาย ไปกระหน่ำแปะรูป แปะคลิ๊ป ที่ห้องราดเลยรึ..
#2075
ตอบ 16 กันยายน พ.ศ. 2555 - 10:53
5555
สิงห์สนามหลวง โดนตบเกรียนฝั่งนี้....ตะเกียกตะกาย ไปกระหน่ำแปะรูป แปะคลิ๊ป ที่ห้องราดเลยรึ..
หาแนวร่วมให้ตัวเอง และยกราคาตนเองมากกว่าน่ะ
เป็นเห็บเกาะไข่ระบบรัฐประหาร
#2076
ตอบ 16 กันยายน พ.ศ. 2555 - 11:14
http://thaienews.blo...-post_9832.html
ภาพนี้รู้สึกจะเป็นภาพวันที่ 18 ยังไม่มีอุปกรณ์พยาบาล
เยี่ยมเลยครับ
หมายความว่า วันที่ 18 ลงไป น้องเกดกับเพื่อนต้องตั้งเต้นท์พยาบาลอยู่นอกวัด
พอถึงวันที่ 19 ก็มาเตรียมการในวัด ดูจากรูปก็น่าจะถ่ายตอนบ่ายคล้อยแล้ว แดดแรงลงตรงๆ
จึงเป็นการเตรียมล่วงหน้าก่อนณัฐวุติจะประกาศมอบตัวเสียอีก (ประกาศตอนบ่าย 2)
สรุปว่า มีการวางแผนให้วัดปทุมเป็นลานสังหารจริงๆ
เพราะตามปกติ การสลายชุมนุม แกนนำต้องส่งมวลชนกลับก่อน
แต่นี่แกนน่ำเชี่ย ประกาศเสร็จก็เดินเข้ารังตะกวด
ปล่อยกองกำลังติดอาวุธ เพ่นพ่านทั่วบริเวณ
โดยเตรียมอุปกรณ์ปฐมพยาบาลจัดฉากไว้ในวัด เพราะรู้ล่วงหน้าว่า กรมตะกวดจะไล่มวลชนออกมา
นี่แหละครับ แผนฆ่ามวลชนที่นปช. จัดเสนอ
Edited by amplepoor, 16 กันยายน พ.ศ. 2555 - 11:16.
#2077
ตอบ 16 กันยายน พ.ศ. 2555 - 11:20
ความคิดมันโหดยิ่งกว่าสัตว์ฮะ ถึงกับวางแผนฆ่าประชาชน
เพื่อโยนความผิดให้รัฐบาลอภิสิทธิ์
ใครอยู่เบื้องหลังการอุ้มฆ่าเอกยุทธ์ อัญชัญบุตร
#2078
ตอบ 16 กันยายน พ.ศ. 2555 - 11:24
เป็นเห็บเกาะไข่ระบบรัฐประหาร
#2079
ตอบ 16 กันยายน พ.ศ. 2555 - 11:26
เป็นเห็บเกาะไข่ระบบรัฐประหาร
#2080
ตอบ 16 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:43
ของคนทั่วไปมากกว่าฆ่าเสื้อแดงหรือประชาชนธรรมดา หลังจากที่แกนนำเสื้อ
แดงประกาศกับคนชุมนุมว่าเห็นอะไรผิดปรกติให้เงียบไว้ และหลังจากแกน
นำต่างหนีเอาตัวรอด
ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ
#2081
ตอบ 16 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:57
http://thaienews.blo...-post_9832.html
ภาพนี้รู้สึกจะเป็นภาพวันที่ 18 ยังไม่มีอุปกรณ์พยาบาล
เยี่ยมเลยครับ
หมายความว่า วันที่ 18 ลงไป น้องเกดกับเพื่อนต้องตั้งเต้นท์พยาบาลอยู่นอกวัด
พอถึงวันที่ 19 ก็มาเตรียมการในวัด ดูจากรูปก็น่าจะถ่ายตอนบ่ายคล้อยแล้ว แดดแรงลงตรงๆ
จึงเป็นการเตรียมล่วงหน้าก่อนณัฐวุติจะประกาศมอบตัวเสียอีก (ประกาศตอนบ่าย 2)
สรุปว่า มีการวางแผนให้วัดปทุมเป็นลานสังหารจริงๆ
เพราะตามปกติ การสลายชุมนุม แกนนำต้องส่งมวลชนกลับก่อน
แต่นี่แกนน่ำเชี่ย ประกาศเสร็จก็เดินเข้ารังตะกวด
ปล่อยกองกำลังติดอาวุธ เพ่นพ่านทั่วบริเวณ
โดยเตรียมอุปกรณ์ปฐมพยาบาลจัดฉากไว้ในวัด เพราะรู้ล่วงหน้าว่า กรมตะกวดจะไล่มวลชนออกมา
นี่แหละครับ แผนฆ่ามวลชนที่นปช. จัดเสนอ
เอามาให้คุณสิงห์สนามหลวงอ่านง่ายๆ
คนที่ชอบเอามนุษย์ที่ชื่นชมตัวเป็นเกราะกำบัง เป็นเหยื่อพลีชีพโดยไม่สมัครใจ
คุณว่าเป็นคนแบบไหน
#2082
ตอบ 16 กันยายน พ.ศ. 2555 - 15:35
เข้าไปรากดำนา เจอ ไฮยีน่า carryใต้ต้นมาขาม สนามหลวง ลงรูปให้ เสื้อแดงที่แสนฉลาดดู
เกลียดคนแบบนี้จริงๆ ไม่กลัวบาปกรรม ไอ้นี่ก็ไม่น่าตายดี มั่วได้ถ้วยเลย
http://www.pantip.co.../P12657130.html
สิงห์สนามหลวงเสียขวัญมาจากที่เสรีไทย มาหากำลังใจที่ราชดำเนินหรือครับ
อุตสาห์อ้างอิง ทำไมไม่แปะลิงค์ซักหน่อยละ หรือกลัวคนอื่นจะรู้ความจริง..
ใครฆ่าน้องเกด
http://webboard.serithai.net/topic/18220-%e0%b9%83%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%86%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%94/
ที่นี่(ราชดำเนิน) ไม่ค่อยมีใครอยากจะวิเคราะห์กันนะครับ
ในเมื่อสิงห์สนามหลวงเอาข้อมูล อะไรต่างๆมากมาย เกี่ยวมั่ง ไม่เกี่ยวมั่ง พร้อมกับคำชี้นำ ให้เชื่อตามเจ้าของกระทู้
เอาแค่ภาพจั่วหัวกระทู้นี้ก็น่าเกลียด ชี้นำให้เชื่อว่ายิงมาจากมุมสูงโดยทหาร อยู่แล้ว
ผิดทั้งความสูงของทหาร ผิดทั้งมุมของวิถีกระสุน ผิดทั้งวิถีกระสุนที่เข้าสู่ร่างกายน้องเกด
ผมขอชี้เฉพาะวิถีกระสุน จากศพน้องเกดแล้วกัน เพราะเป็นหลักฐานความเป็นจริง ที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง และไม่มีทางที่จะยิงมาจากมุมสูง ในจุดที่สิงห์สนามหลวงกล่าวหา
ยังไม่ต้องคิดถึงทิศทาง หรือการมีหลังคาเต็นท์ มีผ้าใบบังแดด มีร่ม ที่บดบังการมองของทหาร ซึ่งมันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นทหารยิง
ถ้าทหารยิงจากข้างบนจริง หลังคาเต็นท์ มีผ้าใบบังแดด มีร่ม เป็นรูพรุนหมดแล้วละครับ น้องเกดโดนไป สิบนัด ต้องยิงกี่นัดถึงจะโดนขนาดนี้ แล้วร่องรอยรูกระสุนที่พลาดเป้า ในวัดจะต้องเต็มไปหมด ครับ แต่นี่ แทบไม่มีภาพมาให้แกนนำแดง หากินเลยเลย
ผมลองเปรียบเทียบกับแปลน bts จะได้ความสูง และมุมเส้นยิงของทหาร ตามภาพครับ
เอาละผมจะแย้ง ที่สิงห์สนามหลวงว่า ทหารยิงมาจาก bts ละครับ
มีเพียงท่านอนที่ร่างกายของน้องเกดขนานกับพื้นโลกเท่านั้น ที่จะมีวิถีกระสุนลักษณะนี้
ถ้าจะมีใครแย้งว่าอยู่ในท่าคลาน ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากในระหว่างคลาน คนปกติจะต้องเงยหน้าขึ้น เพื่อมองไปข้างหน้ากระสุนจะไม่ม่ทางเป็นลักษณะตามการชันสูตร
ผมลากเส้นทั้งสามเส้นคือ เส้นตามผลการชันสูตร เส้นจากทหาร อีก 2 ระดับบน bts
จะเห็นว่าถ้าเป็นเส้นจากทหาร กระสุนจะต้องทะลุบริเวณ หน้า และหน้าออก ตามภาพ
จึงสรุปได้ว่า ด้วยผลการชัณสูตร ย่อมเป็นไปไม่ได้ ที่ทหารจะยิงมาจาก บน bts
หรือถ้าใครจะแย้ง ก็ต้องกำหนดท่าทางน้องเกดในระหว่างโดนยิง และวิถีกระสุนที่เกิดจากทหารบน bts มาใหม่ เพื่อแย้ง ข้อสรุปของผมครับ
.......................................................................................................
จริงๆเรื่องทหารยิงจาก bts ในเสรีไทยจบไปนานแล้ว แต่สิงห์สนามหลวง ยังจะเอาไปหากินที่ราชดำเนินอีก...
จะอธิบายมาก พวกก็ไม่อ่านกัน เชื่อกันตามที่สิงห์สนามหลวงชี้นำ
การจะแย้ง ก็ต้องเอาข้อกล่าวหามั่วๆของสิงห์สนามหลวงนี้แหละ มาชี้ ครับ
- annykun and ฟังทั้งสองฝ่าย like this
"ควาย" ในความหมายของผม คือ คนที่มีความคิด เล่นเน็ตเป็น แต่แยกแยะ ดี ชั่ว ถูก ผิด ไม่ได้
มิได้หมายถึง ชาวรากหญ้า ที่เป็นเหยื่อในสงครามทางความคิดครั้งนี้
"คนชั่ว" จะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา... อยากให้ถึงวรรคท้ายของคำทำนาย ไวๆ ว่ะ...
#2083
ตอบ 16 กันยายน พ.ศ. 2555 - 15:48
อย่าลืมกระสุนที่เข้าเอวทะลุใต้รักแร้ด้วยนะครับ น่าจะประมาณ 10 องศาเอง
เข้าไปรากดำนา เจอ ไฮยีน่า carryใต้ต้นมาขาม สนามหลวง ลงรูปให้ เสื้อแดงที่แสนฉลาดดู
เกลียดคนแบบนี้จริงๆ ไม่กลัวบาปกรรม ไอ้นี่ก็ไม่น่าตายดี มั่วได้ถ้วยเลย
http://www.pantip.co.../P12657130.html
สิงห์สนามหลวงเสียขวัญมาจากที่เสรีไทย มาหากำลังใจที่ราชดำเนินหรือครับ
อุตสาห์อ้างอิง ทำไมไม่แปะลิงค์ซักหน่อยละ หรือกลัวคนอื่นจะรู้ความจริง..
ใครฆ่าน้องเกด
http://webboard.serithai.net/topic/18220-%e0%b9%83%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%86%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%94/
ที่นี่(ราชดำเนิน) ไม่ค่อยมีใครอยากจะวิเคราะห์กันนะครับ
ในเมื่อสิงห์สนามหลวงเอาข้อมูล อะไรต่างๆมากมาย เกี่ยวมั่ง ไม่เกี่ยวมั่ง พร้อมกับคำชี้นำ ให้เชื่อตามเจ้าของกระทู้
เอาแค่ภาพจั่วหัวกระทู้นี้ก็น่าเกลียด ชี้นำให้เชื่อว่ายิงมาจากมุมสูงโดยทหาร อยู่แล้ว
ผิดทั้งความสูงของทหาร ผิดทั้งมุมของวิถีกระสุน ผิดทั้งวิถีกระสุนที่เข้าสู่ร่างกายน้องเกด
ผมขอชี้เฉพาะวิถีกระสุน จากศพน้องเกดแล้วกัน เพราะเป็นหลักฐานความเป็นจริง ที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง และไม่มีทางที่จะยิงมาจากมุมสูง ในจุดที่สิงห์สนามหลวงกล่าวหา
ยังไม่ต้องคิดถึงทิศทาง หรือการมีหลังคาเต็นท์ มีผ้าใบบังแดด มีร่ม ที่บดบังการมองของทหาร ซึ่งมันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นทหารยิง
ถ้าทหารยิงจากข้างบนจริง หลังคาเต็นท์ มีผ้าใบบังแดด มีร่ม เป็นรูพรุนหมดแล้วละครับ น้องเกดโดนไป สิบนัด ต้องยิงกี่นัดถึงจะโดนขนาดนี้ แล้วร่องรอยรูกระสุนที่พลาดเป้า ในวัดจะต้องเต็มไปหมด ครับ แต่นี่ แทบไม่มีภาพมาให้แกนนำแดง หากินเลยเลย
ผมลองเปรียบเทียบกับแปลน bts จะได้ความสูง และมุมเส้นยิงของทหาร ตามภาพครับ
เอาละผมจะแย้ง ที่สิงห์สนามหลวงว่า ทหารยิงมาจาก bts ละครับ
มีเพียงท่านอนที่ร่างกายของน้องเกดขนานกับพื้นโลกเท่านั้น ที่จะมีวิถีกระสุนลักษณะนี้
ถ้าจะมีใครแย้งว่าอยู่ในท่าคลาน ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากในระหว่างคลาน คนปกติจะต้องเงยหน้าขึ้น เพื่อมองไปข้างหน้ากระสุนจะไม่ม่ทางเป็นลักษณะตามการชันสูตร
ผมลากเส้นทั้งสามเส้นคือ เส้นตามผลการชันสูตร เส้นจากทหาร อีก 2 ระดับบน bts
จะเห็นว่าถ้าเป็นเส้นจากทหาร กระสุนจะต้องทะลุบริเวณ หน้า และหน้าออก ตามภาพ
จึงสรุปได้ว่า ด้วยผลการชัณสูตร ย่อมเป็นไปไม่ได้ ที่ทหารจะยิงมาจาก บน bts
หรือถ้าใครจะแย้ง ก็ต้องกำหนดท่าทางน้องเกดในระหว่างโดนยิง และวิถีกระสุนที่เกิดจากทหารบน bts มาใหม่ เพื่อแย้ง ข้อสรุปของผมครับ
.......................................................................................................
จริงๆเรื่องทหารยิงจาก bts ในเสรีไทยจบไปนานแล้ว แต่สิงห์สนามหลวง ยังจะเอาไปหากินที่ราชดำเนินอีก...
จะอธิบายมาก พวกก็ไม่อ่านกัน เชื่อกันตามที่สิงห์สนามหลวงชี้นำ
การจะแย้ง ก็ต้องเอาข้อกล่าวหามั่วๆของสิงห์สนามหลวงนี้แหละ มาชี้ ครับ
ถ้าเอาตำแหน่งที่น้องเกดนอนอยู่ก็ต้องเพิ่มระยะแกน x อีกประมาณ 10 เมตร
Edited by Solidus, 16 กันยายน พ.ศ. 2555 - 15:57.
- ศรอรชุน likes this
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#2084
ตอบ 17 กันยายน พ.ศ. 2555 - 00:14
เข้าไปรากดำนา เจอ ไฮยีน่า carryใต้ต้นมาขาม สนามหลวง ลงรูปให้ เสื้อแดงที่แสนฉลาดดู
เกลียดคนแบบนี้จริงๆ ไม่กลัวบาปกรรม ไอ้นี่ก็ไม่น่าตายดี มั่วได้ถ้วยเลย
http://www.pantip.co.../P12657130.html
สิงห์สนามหลวงเสียขวัญมาจากที่เสรีไทย มาหากำลังใจที่ราชดำเนินหรือครับ
อุตสาห์อ้างอิง ทำไมไม่แปะลิงค์ซักหน่อยละ หรือกลัวคนอื่นจะรู้ความจริง..
ใครฆ่าน้องเกด
http://webboard.serithai.net/topic/18220-%e0%b9%83%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%86%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%94/
ที่นี่(ราชดำเนิน) ไม่ค่อยมีใครอยากจะวิเคราะห์กันนะครับ
ในเมื่อสิงห์สนามหลวงเอาข้อมูล อะไรต่างๆมากมาย เกี่ยวมั่ง ไม่เกี่ยวมั่ง พร้อมกับคำชี้นำ ให้เชื่อตามเจ้าของกระทู้
เอาแค่ภาพจั่วหัวกระทู้นี้ก็น่าเกลียด ชี้นำให้เชื่อว่ายิงมาจากมุมสูงโดยทหาร อยู่แล้ว
ผิดทั้งความสูงของทหาร ผิดทั้งมุมของวิถีกระสุน ผิดทั้งวิถีกระสุนที่เข้าสู่ร่างกายน้องเกด
ผมขอชี้เฉพาะวิถีกระสุน จากศพน้องเกดแล้วกัน เพราะเป็นหลักฐานความเป็นจริง ที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง และไม่มีทางที่จะยิงมาจากมุมสูง ในจุดที่สิงห์สนามหลวงกล่าวหา
ยังไม่ต้องคิดถึงทิศทาง หรือการมีหลังคาเต็นท์ มีผ้าใบบังแดด มีร่ม ที่บดบังการมองของทหาร ซึ่งมันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นทหารยิง
ถ้าทหารยิงจากข้างบนจริง หลังคาเต็นท์ มีผ้าใบบังแดด มีร่ม เป็นรูพรุนหมดแล้วละครับ น้องเกดโดนไป สิบนัด ต้องยิงกี่นัดถึงจะโดนขนาดนี้ แล้วร่องรอยรูกระสุนที่พลาดเป้า ในวัดจะต้องเต็มไปหมด ครับ แต่นี่ แทบไม่มีภาพมาให้แกนนำแดง หากินเลยเลย
ผมลองเปรียบเทียบกับแปลน bts จะได้ความสูง และมุมเส้นยิงของทหาร ตามภาพครับ
เอาละผมจะแย้ง ที่สิงห์สนามหลวงว่า ทหารยิงมาจาก bts ละครับ
มีเพียงท่านอนที่ร่างกายของน้องเกดขนานกับพื้นโลกเท่านั้น ที่จะมีวิถีกระสุนลักษณะนี้
ถ้าจะมีใครแย้งว่าอยู่ในท่าคลาน ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากในระหว่างคลาน คนปกติจะต้องเงยหน้าขึ้น เพื่อมองไปข้างหน้ากระสุนจะไม่ม่ทางเป็นลักษณะตามการชันสูตร
ผมลากเส้นทั้งสามเส้นคือ เส้นตามผลการชันสูตร เส้นจากทหาร อีก 2 ระดับบน bts
จะเห็นว่าถ้าเป็นเส้นจากทหาร กระสุนจะต้องทะลุบริเวณ หน้า และหน้าออก ตามภาพ
จึงสรุปได้ว่า ด้วยผลการชัณสูตร ย่อมเป็นไปไม่ได้ ที่ทหารจะยิงมาจาก บน bts
หรือถ้าใครจะแย้ง ก็ต้องกำหนดท่าทางน้องเกดในระหว่างโดนยิง และวิถีกระสุนที่เกิดจากทหารบน bts มาใหม่ เพื่อแย้ง ข้อสรุปของผมครับ
.......................................................................................................
จริงๆเรื่องทหารยิงจาก bts ในเสรีไทยจบไปนานแล้ว แต่สิงห์สนามหลวง ยังจะเอาไปหากินที่ราชดำเนินอีก...
จะอธิบายมาก พวกก็ไม่อ่านกัน เชื่อกันตามที่สิงห์สนามหลวงชี้นำ
การจะแย้ง ก็ต้องเอาข้อกล่าวหามั่วๆของสิงห์สนามหลวงนี้แหละ มาชี้ ครับ
ระวังสิงห์ จะแถว่าวิถีกระสุนเลี้ยวเบนได้ เพราะกระทบกับกระดูกตรงสะบักนะ
คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม คือ ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง
คุณธรรมที่พร้ำสอน ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา ส่วน ประชาธิปไตยน่ะรึ เอาเข้าจริงๆ สำคัญอันใด??
#2085
ตอบ 17 กันยายน พ.ศ. 2555 - 00:59
#2086
ตอบ 17 กันยายน พ.ศ. 2555 - 01:05
เพราะเป็นอาสา ต้องอยู่ตรงนี้ ตลอด เลยสงสัยเพิ่มว่า คลิป หรือ รูป ต่างๆนั้น นายเก่งเห็นไหมว่าเป็นใครที่เป็นผู้ถ่าย
Edited by ฟังทั้งสองฝ่าย, 17 กันยายน พ.ศ. 2555 - 01:08.
#2087
ตอบ 17 กันยายน พ.ศ. 2555 - 01:05
ต่อมาพยานออกจากเต็นท์พยาบาลแรกเพื่อหลบไปอีกเต็นท์พยาบาลอีกเต็นท์หนึ่ง โดยวิ่งออกไปได้ไม่ถึง 10 เมตรพบผู้ถูกยิง 2 ราย รายแรกมาทราบชื่อภายหลังคือนายอัครเดช ผู้เสียชีวิตที่ 6 ถูกยิงที่กลางหลัง รายที่สองถูกยิงที่กลางหลังและมือ ร้องขอความช่วยเหลือ พยานจึงพานายอัครเดช ไปส่งเต็นท์พยาบาล และกำลังจะไปช่วยผู้ถูกยิงรายที่สอง แต่พยานเห็นท่าไม่ดีเพราะเห็นว่าทหารที่อยู่บนรางรถไฟฟ้าประทับปืนกับขอบรางรถไฟฟ้าเล็งปืนมาที่พยาน พยานจึงรีบวิ่งเข้าไปหลบหลังรถยนต์ที่อยู่ใกล้กัน จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น เห็นกระสุนปืนมาตกห่างพยานราว1เมตร จึงคลานหลบไปอยู่หลังรถยนต์กระบะ และมองเห็นเจ้าหน้าที่ทหารใช้อาวุธยิงใส่เต็นท์พยาบาล เห็น น.ส.กมนเกดที่กำลังก้มลงหลบลูกกระสุนปืน ถูกกระสุนปืนยิง สังเกตุเห็นว่าแน่นิ่งไป แต่พยานไม่ได้เข้าไปช่วยเนื่องจากมีเสียงปืนดังอยู่ เมื่อเสียงปืนสงบลงจึงเข้าไปดูพบว่า น.ส.กมนเกด และนายมงคล เข็มทอง เจ้าหน้าที่อาสา ผู้เสียชีวิตที่ 3 เสียชีวิตแล้วจึงพานายอัครเดชซึ่งไม่ตายเข้าไปหลบภายในวัด
http://www.pantip.co.../P12587891.html
00000
กระสุนโดนเข้าไปหลายนัด ทำไมไม่บอก ?
- ฟังทั้งสองฝ่าย likes this
#2088
ตอบ 17 กันยายน พ.ศ. 2555 - 01:07
ตอนนี้อยากรู้ว่า พยานที่ชื่อเก่งนั้น วันที่ 19 ตอนอาสาพยาบาล กำลังจัดเต้นท์สถานที่พยาบาล นายเก่งอยู่ที่ไหน
ในรายงานพยาน บอกว่าบุรุษพยาบาลวิ่งไปหลบที่กำแพงโบสถ์ ( ไม่แน่ใจว่าเป็นนายเก่งหรือไม่ เพราะขีดชื่อออก )
#2089
ตอบ 17 กันยายน พ.ศ. 2555 - 09:20
โชคดีที่มีผลชันสูตรภายในบอกรายละเอียดชัดเจนครับระวังสิงห์ จะแถว่าวิถีกระสุนเลี้ยวเบนได้ เพราะกระทบกับกระดูกตรงสะบักนะ
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#2090
ตอบ 17 กันยายน พ.ศ. 2555 - 14:07
- Akekun likes this
#2091
ตอบ 17 กันยายน พ.ศ. 2555 - 14:11
ใครจะเสนอ ชื่อใครดีครับ และ วิเคราะห์ว่า?
เช่น น่าจะเป็นกลุ่มนี้ เพราะ.............. หรือ น่าจะเป็นท่านนี้ เพราะ...................
ปล.ส่วนท่านสิงห์ ทุกท่านในนี้คง มีคำตอบแทนท่านสิงห์อยู่แล้วว่า "น่าจะ"เป็น ทหารบนรางรถไฟฟ้า 5555+
#2092
ตอบ 17 กันยายน พ.ศ. 2555 - 15:18
ปล.นี้คือการวิเคราะห์นะครับ มิใช่ใส่ความ ถ้า ผิดพลาดประการใด ก็ต้องขอโทษมา ณ.ที่นี้ด้วย
Edited by ฟังทั้งสองฝ่าย, 17 กันยายน พ.ศ. 2555 - 16:01.
#2093
ตอบ 17 กันยายน พ.ศ. 2555 - 15:46
อย่าลืมกระสุนที่เข้าเอวทะลุใต้รักแร้ด้วยนะครับ น่าจะประมาณ 10 องศาเอง
ถ้าเอาตำแหน่งที่น้องเกดนอนอยู่ก็ต้องเพิ่มระยะแกน x อีกประมาณ 10 เมตร
ผมต้องไปปรับระยะเพื่อคำนวนมุมใหม่ตามที่คุณ Solidus บอกไว้
แต่นัดที่ว่า ลองทำวิถีกระสุนแล้ว ได้ตามรูปนี้ครับ
- stand with a fist, pakorn and Akekun like this
"ควาย" ในความหมายของผม คือ คนที่มีความคิด เล่นเน็ตเป็น แต่แยกแยะ ดี ชั่ว ถูก ผิด ไม่ได้
มิได้หมายถึง ชาวรากหญ้า ที่เป็นเหยื่อในสงครามทางความคิดครั้งนี้
"คนชั่ว" จะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา... อยากให้ถึงวรรคท้ายของคำทำนาย ไวๆ ว่ะ...
#2094
ตอบ 17 กันยายน พ.ศ. 2555 - 15:58
กระบอกปืน มัน งอขนาดนี้ ทำไมไม่ส่งกลับคืน เพื่อแก้ไข คร้าบบบบบบบบบบบบบ ดูดิ ทิศทางกระสุนเพี้ยนหมด เฮ้อออออออออออออ!!!
อย่าลืมกระสุนที่เข้าเอวทะลุใต้รักแร้ด้วยนะครับ น่าจะประมาณ 10 องศาเอง
ถ้าเอาตำแหน่งที่น้องเกดนอนอยู่ก็ต้องเพิ่มระยะแกน x อีกประมาณ 10 เมตร
ผมต้องไปปรับระยะเพื่อคำนวนมุมใหม่ตามที่คุณ Solidus บอกไว้
แต่นัดที่ว่า ลองทำวิถีกระสุนแล้ว ได้ตามรูปนี้ครับ
Edited by ฟังทั้งสองฝ่าย, 17 กันยายน พ.ศ. 2555 - 16:02.
- stand with a fist, ศรอรชุน and Akekun like this
#2095
ตอบ 17 กันยายน พ.ศ. 2555 - 18:39
ทำไงได้ครับ ก็น้องเกดโดนนัดเดียวซะเมื่อไหร่ นี่ขนาดเอาแค่ 2 นัดนะนั่นกระบอกปืน มัน งอขนาดนี้ ทำไมไม่ส่งกลับคืน เพื่อแก้ไข คร้าบบบบบบบบบบบบบ ดูดิ ทิศทางกระสุนเพี้ยนหมด เฮ้อออออออออออออ!!!
อย่าลืมกระสุนที่เข้าเอวทะลุใต้รักแร้ด้วยนะครับ น่าจะประมาณ 10 องศาเอง
ถ้าเอาตำแหน่งที่น้องเกดนอนอยู่ก็ต้องเพิ่มระยะแกน x อีกประมาณ 10 เมตร
ผมต้องไปปรับระยะเพื่อคำนวนมุมใหม่ตามที่คุณ Solidus บอกไว้
แต่นัดที่ว่า ลองทำวิถีกระสุนแล้ว ได้ตามรูปนี้ครับ
- ศรอรชุน and ฟังทั้งสองฝ่าย like this
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#2096
ตอบ 17 กันยายน พ.ศ. 2555 - 23:59
การนำข้อเท็จจริงของรายงานส่วนนี้มานำเสนอแยกต่างหากเพื่อหาคำตอบว่า 6 ยิงตายที่วัดปทุมวนาราม เป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ทหาร? อะไรเป็นเหตุจูงใจ? และชายชุดดำเกี่ยวข้องในเหตุการณ์นี้หรือไม่?
เหตุการณ์บริเวณวัดปทุมวนาราม วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓
๒.๓.๑๒.๑ ในวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ศอฉ. ยอมประกาศให้วัดปทุมวนารามเป็นเขตอภัยทานตามที่กลุ่มองค์กรสันติวิธีเรียก ร้อง และได้มีการขึ้นป้าย “เขตอภัยทาน” ในวัดปทุมวนาราม จุดประสงค์หลักคือเพื่อใช้เป็นสถานที่พักและให้ความปลอดภัยแก่ผู้ชุมนุมที่ เป็นเด็ก สตรีและผู้สูงอายุ โดยผู้ชุมนุมบางส่วนได้เข้าไปใช้พื้นที่ภายในวัดปทุมวนารามระหว่างการชุมนุม และก่อนวันที่ ๑๙ พฤษภาคมแล้ว โดยในวันที่ ๑๕ พฤษภาคม มีผู้พบเห็นชายฉกรรจ์ แต่งกายในชุดสีดำและลายพรางจำนวนหนึ่งอยู่ภายในวัดปทุมวนารามด้วย[1]
๒.๓.๑๒.๒ ในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม หลังจากแกนนำ นปช. ประกาศยุติการชุมนุมในเวลาประมาณ ๑๓.๒๐ น. บริเวณเวทีแยกราชประสงค์เต็มไปด้วยความโกลาหล ทำให้ผู้ชุมนุมบางส่วนราว ๔,๐๐๐ คนได้ทยอยเข้าไปใช้พื้นที่ภายในวัดปทุมวนารามเป็นที่หลบภัย
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ ๑๕.๓๐ น. ขณะเจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษเคลื่อนกำลังทางภาคพื้นดินจากแยกปทุมวันไปโรง หนังสยามเพื่อช่วยคุ้มกันและอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงซึ่ง เพลิงกำลังไหม้โรงหนังสยาม เกิดการยิงปะทะกับคนชุดดำจำนวนสองคนบริเวณแยกเฉลิมเผ่า[2]
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวจึงได้ถอยกลับไปวางกำลังที่สถานีรถไฟฟ้า สนามกีฬาแห่งชาติ ต่อมาเวลาประมาณ ๑๗.๓๐ น. จึงได้รับคำสั่งให้เคลื่อนกำลังมาบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามอีกครั้ง โดยมีกำลังเพิ่มเติมและได้เข้าควบคุมพื้นที่ชานชาลาทั้ง ๒ ชั้นของสถานีรถไฟฟ้า บีทีเอสสยาม
ก่อนเวลาดังกล่าวอันเป็น เวลาประมาณ ๑๕.๓๐ น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานนายหนึ่งได้เห็น การ์ดผู้ชุมนุมสองคนถือวัตถุชนิดหนึ่งโดยมีผ้าพันไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นอาวุธปืนยาว เดินบนทางเท้าถนนอังรีดูนังต์ด้านกองพิสูจน์หลักฐาน เมื่อถึงแยกเฉลิมเผ่าได้เลี้ยวขวาไปทางกลุ่มผู้ชุมนุม และจากปากคำของนายตำรวจสันติบาลให้ข้อมูลว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว ขณะที่ตนนั่งรถยนต์ผ่านสยามสแควร์มาถนนอังรีดูนังต์ ขณะที่จะเข้าประตูสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรงข้ามกับร้านโคคาสุกี้ ได้ถูกคนร้ายยิงไล่หลังมาจากแยกเฉลิมเผ่า โดยพื้นที่ดังกล่าวกลุ่มผู้ชุมนุมได้ตั้งเครื่องกีดขวางถนนอังรีดูนังต์จากฝั่งร้านโคคาสุกี้ข้ามถนนไปยังหน้ากองบัญชาการสอบสวนกลาง
๒.๓.๑๒.๓ ช่วงเวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น. มีเจ้าหน้าที่ทหาร ๗ คน วางกำลังอยู่บนรางรถไฟฟ้าชั้น ๑ ด้านหน้าวัดปทุมวนาราม และบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม ๕ นาย ทุกนายถืออาวุธปืนเอ็ม ๑๖ กระสุนจริง พบว่า เจ้าหน้าที่ทหารเล็งและยิงลงไปในทิศทางวัดปทุมวนาราม จากการตรวจพื้นที่ของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษบนรางรถไฟฟ้าชั้น ๑ บริเวณเดียวกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด .๒๒๓ (๕.๕๖) จำนวน ๒ ปลอกยิงมาจากปืนกระบอกเดียวกันและพบกระสุนชนิดเดียวกันอีกหนึ่งนัด
นอกจากนี้พระวัดปทุมวนารามชั้นผู้ใหญ่รูปหนึ่งแจ้งว่า เห็นเจ้าหน้าที่ทหารอยู่บนรางรถไฟฟ้าหลายคนและในช่วงค่ำได้ยินเสียงปืนดัง ขึ้นบริเวณหน้าวัดจำนวนมาก และยังแจ้งว่า มีการ์ดผู้ชุมนุม ประมาณ ๗ คนขอเข้ามาซ่อนตัวอยู่ในกุฏิและฝากถุงเงินถุงใหญ่ไว้ด้วย[3] ซึ่งต่อมาได้มารับคืนไป
๒.๓.๑๒.๔ พบรอยกระสุนจำนวนมากบนพื้นถนนบริเวณประตูทางออกและ ประตูทางเข้าวัด เสากั้น (รั้ว) ริมถนนพระราม ๑ และด้านนอกของกำแพงวัดปทุมวนาราม โดยมีทิศทางการยิงมาจากรางรถไฟฟ้าด้านหน้าวัดปทุมวนาราม และรอยกระสุนบนผนังด้านหลังศาลาสินธุเสก โดยมีทิศทางการยิงมาจากบริเวณสะพานลอยตรงแยกเฉลิมเผ่า[4] ซึ่งเป็นบริเวณที่มีเจ้าหน้าที่ทหารปฏิบัติการอยู่ โดยมีความเป็นไปได้สูงว่าเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บบริเวณ วัดปทุมวนาราม นอกจากนี้ยังพบกระจกอาคารภายในวัด และรถที่จอดภายในวัดได้รับความเสียหายจากกระสุนปืน
๒.๓.๑๒.๕ เหตุการณ์ความรุนแรงบริเวณวัดปทุมวนารามในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ทำให้มีผู้เสียชีวิต ๖ คน โดยถูกยิงบริเวณหน้าประตูทางออกวัดปทุมวนาราม ๑ คน คือนายอัฐชัย ชุมจันทร์ ที่เหลือถูกยิงภายในวัดปทุมวนาราม ๕ คน ในจำนวนนี้ ๒ คนเป็นอาสาสมัครหน่วยพยาบาลคือ นางสาวกมลเกด อัคฮาด และนายอัครเดช ขันแก้วโดย น่าจะถูกยิงบริเวณเต็นท์พยาบาลในวัด บริเวณประตูทางออกขณะเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และอีก ๑ คน เป็นอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยถูกยิงขณะเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ คือ นายมงคล เข็มทอง ทั้งหมดเสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยกระสุนความเร็วสูง โดยมีลำดับการเสียชีวิตดังต่อไปนี้
๑) นายสุวัน ศรีรักษา เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนบริเวณไหล่ซ้ายด้านหน้า ขนาด ๐.๗ x ๐.๕ ต่ำจากบ่า ๕ ซม. แผลทะลุปอด หัวใจ ตับ และซี่โครง พบชิ้นส่วนโลหะคล้ายหัวกระสุนปืนหุ้มทองแดง ๑ ชิ้นค้างอยู่ที่กล้ามเนื้อชายโครงด้านขวา เป็นเศษกระสุนปืนเล็กกลขนาด ๕.๕๖ ทิศจากซ้ายไปขวา บนลงล่าง และหลังไปหน้าเล็กน้อย โดยถูกยิงที่บริเวณหน้าห้องน้ำที่กุฏิวัฒนา-ปราณี ด้านหลังศาลาสินธุเศกติดกับกำแพงวัดด้านห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลังฐานกลางได้พบ เขม่าปืนบนมือของนายสุวัน อย่างไรก็ตามยอมรับว่าเขม่าที่ตรวจพบอาจเกิดจากการปนเปื้อนภายหลังได้เนื่อง จากไม่ได้ไปเก็บตัวอย่างเขม่าจากจุดที่เกิดเหตุ
ส่วนสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ซึ่งได้ตรวจศพบริเวณจุดเกิดเหตุทันทีในวันรุ่ง ขึ้นยืนยันว่าไม่พบเขม่าปืน นอกจากนี้ยังพบรอบเลือดบริเวณใต้ต้นไม้ด้านหลังศาลาสินธุเสกในจุดที่เจ้า หน้าที่ทหารให้ปากคำว่า มีคนชุดดำอยู่บนต้นไม้กำลังยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ทหารจึงยิงปืนตอบโต้กลับไป ทั้งจากการสัมภาษณ์และตรวจสถานที่เกิดเหตุกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่คน หนึ่งซึ่งได้เข้าไปในวัดปทุมวนารามเมื่อเช้ามืดของวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ให้ข้อมูลว่า พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม ๑๖ จำนวนหนึ่งตกอยู่ริมรั้วด้านในวัดบริเวณหน้าศาลาสินธุเสกและพบปืนเอ็ม ๑๖ ถูกซ่อนไว้ในบริเวณใกล้เคียง[5]
๒) นายอัฐชัย ชุมจันทร์ เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนทะลุบริเวณหลังด้านซ้าย ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ๐.๕ ซม. ต่ำจากบ่า ๗ ซม. ห่างจากแนวกลางตัว ๔ ซม. ทะลุบริเวณทรวงอกด้านซ้ายส่วนบน ขนาด ๓.๔ x ๒.๓ กระสุนปืนทำลายปอด ทิศทางจากหลักไปหน้า แนวตรง แนวระดับ โดยถูกยิงที่บริเวณประตูทางออกด้านนอกวัด
๓) นายมงคล เข็มทอง เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนทะลุบริเวณทรวงอกด้านซ้าย ขนาด ๓.๒ x ๑ ซม. พบเศษทองแดงในเสื้อ เศษตะกั่วเล็ก ๆ ในหัวใจและปอด เป็นเศษกระสุนปืนเล็กกลขนาด ๕.๕๖ มม. โดยมีทิศทางจากซ้ายไปขวา หน้าไปหลัง และบนลงล่าง กระสุนปืนทำลายปอด หัวใจ และตับ โดยถูกยิงขณะเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บบริเวณประตูทางออกของวัด
๔) นายรพ สุขสถิตย์ เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนทะลุบริเวณทรวงอกด้านขวา ขนาด ๓.๕ x ๒. มม. ต่ำจากบ่า ๒๑ ซม. พบเศษทองแดง ๒ ชิ้นบริเวณขั้วยึดลำไส้ เป็นเศษกระสุนปืนเล็กกลขนาด ๕.๕๖ มม. ทิศทางจากขวาไปซ้าย หน้าไปหลัง บนลงล่าง กระสุนปืนทำลายปอดและตับ ถูกยิงบริเวณประตูทางออก นอกจาก นี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลังฐานยังพบเขม่าปืนบนมือของนายรพ อย่างไรก็ตามยอมรับว่าเขม่าที่ตรวจพบอาจเกิดจากการปนเปื้อนภายหลังได้เนื่อง จากไม่ได้ไปเก็บตัวอย่างเขม่าจากจุดที่เกิดเหตุ ส่วนสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ซึ่งได้ตรวจศพบริเวณจุดเกิดเหตุทันทีในวันรุ่งขึ้น ยืนยันว่าไม่พบเขม่าปืน
๕) นางสาวกมลเกด อัคฮาด เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนบริเวณหลังด้านขวา ต่ำจากบ่า ๑๒ ซม. ห่างจากกึ่งกลาง ๑๐ ซม. ทะลุกล้ามเนื้อด้านหลังขวาขึ้นมาด้านบน ทะลุผ่านฐานกะโหลกซีกซ้าย ทะลุสมองน้อยและสมองใหญ่ซีกซ้าย พบชิ้นส่วนโลหะค้างอยู่ในกะโหลกด้านหน้าขวา เป็นเศษกระสุนปืนเล็กกลขนาด ๕.๕๖ มม. ทิศทางจากล่างขึ้นบน จากหลังไปหน้า และขวาไปซ้าย กระสุนปืนทำลายสมอง ถูกยิงบริเวณเต็นพยาบาลใกล้ประตูทางออก
๖) นายอัครเดช ขันแก้ว เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืน บาดแผลฉีกขาดบริเวณไหล่ขวาขนาด ๔.๕ x ๓ ซม. ทะลุเข้าในช่องปากบริเวณใบหน้าด้านขวาใต้หู เป็นเหตุให้เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นนอก เนื้อสมองช้ำจากการถูกแรงกระแทก พบเศษตะกั่วในช่องปากและฐานกะโหลกศีรษะ และเศษรองกระสุนปืนทองแดงและตะกั่วบริเวณกระดูกก้นกบจากบาดแผลผิวหนังทะลุ บริเวณก้น เศษกระสุนเสียสภาพมากไม่สามารถยืนยันขนาดและชนิดได้ ถูกยิงบริเวณเต็นท์พยาบาลใกล้ประตูทางออก
ภาพที่ ๑๙ แผนที่โดยโดยสังเขปแสดงสถานที่เกิดเหตุในวัดปทุมวนาราม ระบุบริเวณผู้เสียชีวิตถูกยิง จุดสีแดงคือผู้เสียชีวิตที่เป็นพลเรือนและจุดสีขาวคือผู้เสียชีวิตที่เป็น อาสาสมัครพยาบาล/หน่วยกู้ชีพ อ้างอิงจากข้อมูลในสำนวนไต่สวนชันสูตรพลิกศพ
๒.๓.๑๒.๖ จุดที่สันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิตถูกยิงทั้งบริเวณประตูทางออกและด้านหลังศาลา สินธุเศก เป็นจุดที่สามารถยิงจากบริเวณที่ทหารปรากฏตัวอยู่บนรางรถไฟฟ้าได้ แต่มีข้อสังเกตว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุนั้นเป็น เวลาหลัง ๑๘.๐๐ น.[6] และในจุดเกิดเหตุมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นปกคลุมอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ทหารให้ข้อเท็จจริงว่ามีการยิงตอบโต้กันกับคนชุดดำในวัด
๒.๓.๑๒.๗ พบรอยแตกกระเทาะคล้ายรอยกระสุนปืนที่ผนังคอนกรีตและใต้คานรางรถไฟฟ้าบีทีเอส ด้านหน้าวัดปทุมวนาราม จำนวน ๔ รอย โดยมีทิศทางการยิงขึ้นไปจากพื้นด้านหน้าหรือในวัดปทุมวนาราม แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานกลางแจ้งว่าไม่ได้ตรวจสอบว่าเป็น รอยกระสุนปืนหรือไม่เนื่องจากอยู่สูงไม่สามารถขึ้นไปตรวจได้ ซึ่งหากเป็นรอยกระสุนจริงก็มีความเป็นได้ว่ามีการยิงมาจากด้านวัดปทุมวนารามไปยังกำแพงรางรถไฟ้ฟ้าซึ่งมีทหารอยู่
๒.๓.๑๒.๘ เจ้าหน้าที่ทหารให้ข้อมูลว่า เวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น. บริเวณแยกเฉลิมเผ่า พบคนชุดดำถือปืนเอ็ม ๑๖ ยิงใส่เจ้าหน้าที่แล้ววิ่งไปทางวัดปทุมวนารามโดยวิ่งเลียบไปตามกำแพงวัด และปรากฎภาพวีดิโอบันทึกเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่ทหารเคลื่อนกำลังไปบนถนนพระ รามที่ ๑ บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสยาม ฝั่งสยามเซ็นเตอร์ โดยในวีดิโอเจ้าหน้าที่ทหารพูดว่า พบผู้มีอาวุธอยู่บริเวณเสาตอม่อรถไฟฟ้า สั่งให้เจ้าหน้าที่ทหารคุ้มกัน เจ้าหน้าที่ทหารบางคนยิง ปลย.และแก๊สน้ำตา และมีเสียงปืนดังอยู่กว่า ๑๐ นาทีในภาพวีดิโอ[7]
นอกจากนี้ยังพบรอยกระสุนปืนบนทางเดิน SkyWalk และตอม่อรถไฟฟ้าบีทีเอส ตรงแยกเฉลิมเผ่า ซึ่งเป็นบริเวณที่มีผู้พบเห็นว่ามีคนชุดดำอยู่ โดยมีทิศทางการยิงมาจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสยาม[8] ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ทหารอยู่ และพบร่องรอยกระสุนปืนที่สถานีรถไฟพ้า บีทีเอส สถานีสยาม ชั้นที่ ๑ ที่มีเจ้าหน้าที่ทหารอยู่ ประมาณ ๘ รอย โดยมีทิศทางการยิงมาจากด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติบริเวณแยกเฉลิมเผ่า[9] แสดงว่ามีการยิงตอบโต้กันระหว่างเจ้าหน้าที่กับคนชุดดำจริง
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังแจ้งว่าในตอนเช้ามืดของวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ตนได้ไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุพบรอยเลือดของบุคคล ๒ คน บริเวณแยกเฉลิมเผ่าถูกลากเป็นทางยาวไปตรงจุดก่อนถึงประตูทางเข้าของวัดปทุม วนาราม[10] ซึ่งสอดคล้องกับการตรวจสอบจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ที่ตรวจพบรอยเลือดบริเวณแยกเฉลิมเผ่าเช่นกัน
๒.๓.๑๒.๙ ก่อนหน้าปฏิบัติการการกระชับพื้นที่ของ ศอฉ.ในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม มีผู้พบชายฉกรรจ์อยู่ในวัดปทุมวนารามและยังพบชายซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นหัวหน้าคนหนึ่งของการ์ด นปช.[11] ในวัดด้วย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งที่ได้พบกับผู้สื่อข่าวสตรีชาวจีนจำนวน ๓ คนที่ขอให้ตนช่วยพาออกมาจากวัดปทุมวนารามในวันที่ ๑๘ พฤษภาคมว่า ที่ไม่ประสงค์จะอยู่ต่อไปในวัดปทุมวนารามเพราะกลัว เนื่องจากเห็นว่ามีอาวุธอยู่ในวัด[12]
๒.๓.๑๒.๑๐ วันที่ ๒๐ พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจที่เกิดเหตุพบปืน เอ็ม ๑๖ จำนวน ๑ กระบอก ใต้รถกอล์ฟภายในวัดจอดอยู่บริเวณศาลาสินธุเสกใกล้กำแพงหน้าวัด ตรวจสอบแล้วพบว่าปืนเอ็ม ๑๖ กระบอกนี้เป็นปืนที่ผู้ชุมนุมยึดไปจากเจ้าหน้าที่ทหารบริเวณสามเหลี่ยมดิน แดงเมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม[13]
ในวันที่ ๒๑ พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ทหารร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจค้นพื้นที่และอาคารภายในวัด ปทุมวนาราม พบปืนพกไทยประดิษฐ์ จำนวน ๑ กระบอก กระสุนปืน ๗.๖๒ มม. จำนวน ๓๐๐ นัด แก๊สน้ำตา จำนวน ๒ ลูก ประทัดยักษ์และระเบิดปิงปองจำนวนหนึ่ง[14]
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังตรวจพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนหลายรายการซุก ซ่อนอยู่ภายในสวนป่า วัดปทุมวนาราม เช่น ปืนเอ็ม ๑๖ จำนวนหนึ่งกระบอก กระสุนปืนขนาด ๗.๖๒ มม. จำนวน ๒๗๘ นัด ระเบิดขว้างชนิดสังหารจำนวน ๔ ลูก และกระสุนปืน .๒๒๓ (๕.๕๖ มม.) จำนวน ๒๑๒ นัด และกระสุนระเบิดเอ็ม ๗๙ ขนาด ๔๐ มม. จำนวน ๔ นัด[15] โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรวจพบอาวุธให้ข้อมูลว่าได้รับข้อมูลจากประชาชนคน หนึ่ง จึงเข้าไปตรวจค้นบริเวณสวนป่า พบอาวุธหลายรายการดังกล่าวข้างต้นและบัตรการ์ด นปช.หนึ่งใบโดยอาวุธและสิ่งของดังกล่าวถูกซุกซ่อนอยู่ใต้ฐานพระพุทธรูปขนาด ใหญ่ในสวนป่าภายในวัดปทุมวนาราม[16]
๒.๓.๑๒.๑๑ มีข้อสังเกตว่า ผู้ชุมนุมซึ่งเข้าไปหลบอยู่ภายในวัดปทุมวนารามอยู่ในบรรยากาศแห่งความหวาด กลัวว่าเจ้าหน้าที่ทหารจะเข้ามาปราบปรามและเข่นฆ่าผู้ชุมนุม ในขณะที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ทหารก็มีความหวาดระแวงว่า ภายในวัดปทุมวนารามเป็นที่ซ่องสุมกองกำลังและอาวุธจำนวนมากของคนชุดดำ
ความหวาดกลัวและความหวาดระแวงดังกล่าว ทำให้หน่วยแพทย์-พยาบาลมีความยากลำบากในการลำเลียงและเข้าไปรับผู้ได้รับบาด เจ็บออกจากวัดปทุมวนาราม ประกอบกับเวลาเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืนและบริเวณดังกล่าวอยู่ในความมืดเนื่อง จากไฟฟ้าถูกตัด
ผู้แทนหน่วยแพทย์ซึ่งเข้าให้การช่วยเหลือลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากวัดปทุม วนารามในคืนวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ให้ข้อมูลว่า “การเข้าพื้นที่วัดปทุม ในวันที่ ๑๙ ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่ามีคนบาดเจ็บค้างอยู่ แต่เมื่อเช็คพบว่าเป็นความจริง ผู้ชุมนุมมีความหวาดกลัวว่าต้องฆ่าทั้งหมด ผู้ชุมนุมได้รับข้อมูลว่าต้องฆ่าพันสองพันคนให้เข็ด…ในการเข้าไปรับคนเจ็บ ตอนแรกก็ระแวง ทหารบอกว่าในวัดมีอาวุธจำนวนมาก หากเข้าไปอาจโดนลูกหลง หรือโดนจับตัวเป็นประกัน ขอไม่ให้เข้าไป แต่สุดท้ายเคลียร์กันได้ว่าต้องรีบเอาคนเจ็บออกมา สุดท้ายได้รับอนุญาตให้เข้าไปรับที่ประตูวัด ดึกและมืดสนิท ไม่มีใครกล้าขนคนมาประตู ขอให้เข้าไปในวัด แต่ทหารก็กลัวว่าจะถูกจับตัว สุดท้ายมีการแบกออกมาได้”[17]
[1] อาสาสมัครผู้ประสานงานอิสระเพื่อมนุษยธรรมและนักกิจกรรมด้านสันติวิธีซึ่ง ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในบริเวณวัดปทุมวนาราม, สัมภาษณ์เมื่อวันที่ ๒ พฤษจิกายน ๒๕๕๓
[2] เอกสาร powerpoint ชื่อไฟล์ “การปฎิบัติการของเจ้าหน้าที่ในวันเกิดเหตุจากบรรยาย คอป๒ จากหน่วยรบพิเศษ”, ประชุม Hearing ครั้งที่ ๙ “กรณีการเสียชีวิต ๖ ศพ ที่วัดปทุมวนารามฯ” เมื่อวันอังคาร ที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๔
[3] สัมภาษณ์พระ เมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๕ โดยอนุกรรมการตรวจสอบและค้นหาความจริง
[4] รายงานการตรวจสถานทีเกิดเหตุที่ CSI-S-5305 – 126, กลุ่มงานตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ, สำนักตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ, สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
[5]สัมภาษณ์และลงพื้นที่วัดปทุมวนารามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลชั้นผู้ใหญ่, วันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๕
[6] วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ พระอาทิตย์ตกเวลาประมาณ ๑๘.๓๘ น.
[7] ภาพวีดิโอ ชื่อไฟล์ 20100519 footage assult 2 นาทีที่ ๒๗ – ๔๐
#2097
ตอบ 18 กันยายน พ.ศ. 2555 - 00:02
รูปประกอบ
Edited by zeedzaad, 18 กันยายน พ.ศ. 2555 - 00:03.
#2098
ตอบ 18 กันยายน พ.ศ. 2555 - 01:02
เอาข้อสงสัยไปก่อนนะครับ สำหรับ ข้อความสีแดง.........ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องในการตรวจนะ แต่มีด้วยหรือ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลังฐานกลางได้พบ เขม่าปืนบนมือของนายสุวัน อย่างไรก็ตามยอมรับว่าเขม่าที่ตรวจพบอาจเกิดจากการ"ปนเปื้อนภายหลัง"ได้เนื่อง จากไม่ได้ไปเก็บตัวอย่างเขม่าจากจุดที่เกิดเหตุหมายเหตุ-“เหตุการณ์บริเวณวัดปทุมวนาราม ”(อยู่ในหัวข้อ ๒.๓.๑๒) ส่วนหนึ่งของรายงานฉบับสมบูรณ์ของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริง เพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.)ที่มีการแถลงอย่างเป็นทางการเมื่อบ่ายวันที่ 17 กันยายน 2555
การนำข้อเท็จจริงของรายงานส่วนนี้มานำเสนอแยกต่างหากเพื่อหาคำตอบว่า 6 ยิงตายที่วัดปทุมวนาราม เป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ทหาร? อะไรเป็นเหตุจูงใจ? และชายชุดดำเกี่ยวข้องในเหตุการณ์นี้หรือไม่?
เหตุการณ์บริเวณวัดปทุมวนาราม วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓
๒.๓.๑๒.๑ ในวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ศอฉ. ยอมประกาศให้วัดปทุมวนารามเป็นเขตอภัยทานตามที่กลุ่มองค์กรสันติวิธีเรียก ร้อง และได้มีการขึ้นป้าย “เขตอภัยทาน” ในวัดปทุมวนาราม จุดประสงค์หลักคือเพื่อใช้เป็นสถานที่พักและให้ความปลอดภัยแก่ผู้ชุมนุมที่ เป็นเด็ก สตรีและผู้สูงอายุ โดยผู้ชุมนุมบางส่วนได้เข้าไปใช้พื้นที่ภายในวัดปทุมวนารามระหว่างการชุมนุม และก่อนวันที่ ๑๙ พฤษภาคมแล้ว โดยในวันที่ ๑๕ พฤษภาคม มีผู้พบเห็นชายฉกรรจ์ แต่งกายในชุดสีดำและลายพรางจำนวนหนึ่งอยู่ภายในวัดปทุมวนารามด้วย[1]
๒.๓.๑๒.๒ ในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม หลังจากแกนนำ นปช. ประกาศยุติการชุมนุมในเวลาประมาณ ๑๓.๒๐ น. บริเวณเวทีแยกราชประสงค์เต็มไปด้วยความโกลาหล ทำให้ผู้ชุมนุมบางส่วนราว ๔,๐๐๐ คนได้ทยอยเข้าไปใช้พื้นที่ภายในวัดปทุมวนารามเป็นที่หลบภัย
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ ๑๕.๓๐ น. ขณะเจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษเคลื่อนกำลังทางภาคพื้นดินจากแยกปทุมวันไปโรง หนังสยามเพื่อช่วยคุ้มกันและอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงซึ่ง เพลิงกำลังไหม้โรงหนังสยาม เกิดการยิงปะทะกับคนชุดดำจำนวนสองคนบริเวณแยกเฉลิมเผ่า[2]
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวจึงได้ถอยกลับไปวางกำลังที่สถานีรถไฟฟ้า สนามกีฬาแห่งชาติ ต่อมาเวลาประมาณ ๑๗.๓๐ น. จึงได้รับคำสั่งให้เคลื่อนกำลังมาบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามอีกครั้ง โดยมีกำลังเพิ่มเติมและได้เข้าควบคุมพื้นที่ชานชาลาทั้ง ๒ ชั้นของสถานีรถไฟฟ้า บีทีเอสสยาม
ก่อนเวลาดังกล่าวอันเป็น เวลาประมาณ ๑๕.๓๐ น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานนายหนึ่งได้เห็น การ์ดผู้ชุมนุมสองคนถือวัตถุชนิดหนึ่งโดยมีผ้าพันไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นอาวุธปืนยาว เดินบนทางเท้าถนนอังรีดูนังต์ด้านกองพิสูจน์หลักฐาน เมื่อถึงแยกเฉลิมเผ่าได้เลี้ยวขวาไปทางกลุ่มผู้ชุมนุม และจากปากคำของนายตำรวจสันติบาลให้ข้อมูลว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว ขณะที่ตนนั่งรถยนต์ผ่านสยามสแควร์มาถนนอังรีดูนังต์ ขณะที่จะเข้าประตูสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรงข้ามกับร้านโคคาสุกี้ ได้ถูกคนร้ายยิงไล่หลังมาจากแยกเฉลิมเผ่า โดยพื้นที่ดังกล่าวกลุ่มผู้ชุมนุมได้ตั้งเครื่องกีดขวางถนนอังรีดูนังต์จากฝั่งร้านโคคาสุกี้ข้ามถนนไปยังหน้ากองบัญชาการสอบสวนกลาง
๒.๓.๑๒.๓ ช่วงเวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น. มีเจ้าหน้าที่ทหาร ๗ คน วางกำลังอยู่บนรางรถไฟฟ้าชั้น ๑ ด้านหน้าวัดปทุมวนาราม และบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม ๕ นาย ทุกนายถืออาวุธปืนเอ็ม ๑๖ กระสุนจริง พบว่า เจ้าหน้าที่ทหารเล็งและยิงลงไปในทิศทางวัดปทุมวนาราม จากการตรวจพื้นที่ของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษบนรางรถไฟฟ้าชั้น ๑ บริเวณเดียวกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด .๒๒๓ (๕.๕๖) จำนวน ๒ ปลอกยิงมาจากปืนกระบอกเดียวกันและพบกระสุนชนิดเดียวกันอีกหนึ่งนัด
นอกจากนี้พระวัดปทุมวนารามชั้นผู้ใหญ่รูปหนึ่งแจ้งว่า เห็นเจ้าหน้าที่ทหารอยู่บนรางรถไฟฟ้าหลายคนและในช่วงค่ำได้ยินเสียงปืนดัง ขึ้นบริเวณหน้าวัดจำนวนมาก และยังแจ้งว่า มีการ์ดผู้ชุมนุม ประมาณ ๗ คนขอเข้ามาซ่อนตัวอยู่ในกุฏิและฝากถุงเงินถุงใหญ่ไว้ด้วย[3] ซึ่งต่อมาได้มารับคืนไป
๒.๓.๑๒.๔ พบรอยกระสุนจำนวนมากบนพื้นถนนบริเวณประตูทางออกและ ประตูทางเข้าวัด เสากั้น (รั้ว) ริมถนนพระราม ๑ และด้านนอกของกำแพงวัดปทุมวนาราม โดยมีทิศทางการยิงมาจากรางรถไฟฟ้าด้านหน้าวัดปทุมวนาราม และรอยกระสุนบนผนังด้านหลังศาลาสินธุเสก โดยมีทิศทางการยิงมาจากบริเวณสะพานลอยตรงแยกเฉลิมเผ่า[4] ซึ่งเป็นบริเวณที่มีเจ้าหน้าที่ทหารปฏิบัติการอยู่ โดยมีความเป็นไปได้สูงว่าเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บบริเวณ วัดปทุมวนาราม นอกจากนี้ยังพบกระจกอาคารภายในวัด และรถที่จอดภายในวัดได้รับความเสียหายจากกระสุนปืน
๒.๓.๑๒.๕ เหตุการณ์ความรุนแรงบริเวณวัดปทุมวนารามในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ทำให้มีผู้เสียชีวิต ๖ คน โดยถูกยิงบริเวณหน้าประตูทางออกวัดปทุมวนาราม ๑ คน คือนายอัฐชัย ชุมจันทร์ ที่เหลือถูกยิงภายในวัดปทุมวนาราม ๕ คน ในจำนวนนี้ ๒ คนเป็นอาสาสมัครหน่วยพยาบาลคือ นางสาวกมลเกด อัคฮาด และนายอัครเดช ขันแก้วโดย น่าจะถูกยิงบริเวณเต็นท์พยาบาลในวัด บริเวณประตูทางออกขณะเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และอีก ๑ คน เป็นอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยถูกยิงขณะเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ คือ นายมงคล เข็มทอง ทั้งหมดเสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยกระสุนความเร็วสูง โดยมีลำดับการเสียชีวิตดังต่อไปนี้
๑) นายสุวัน ศรีรักษา เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนบริเวณไหล่ซ้ายด้านหน้า ขนาด ๐.๗ x ๐.๕ ต่ำจากบ่า ๕ ซม. แผลทะลุปอด หัวใจ ตับ และซี่โครง พบชิ้นส่วนโลหะคล้ายหัวกระสุนปืนหุ้มทองแดง ๑ ชิ้นค้างอยู่ที่กล้ามเนื้อชายโครงด้านขวา เป็นเศษกระสุนปืนเล็กกลขนาด ๕.๕๖ ทิศจากซ้ายไปขวา บนลงล่าง และหลังไปหน้าเล็กน้อย โดยถูกยิงที่บริเวณหน้าห้องน้ำที่กุฏิวัฒนา-ปราณี ด้านหลังศาลาสินธุเศกติดกับกำแพงวัดด้านห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลังฐานกลางได้พบ เขม่าปืนบนมือของนายสุวัน อย่างไรก็ตามยอมรับว่าเขม่าที่ตรวจพบอาจเกิดจากการปนเปื้อนภายหลังได้เนื่อง จากไม่ได้ไปเก็บตัวอย่างเขม่าจากจุดที่เกิดเหตุ
ส่วนสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ซึ่งได้ตรวจศพบริเวณจุดเกิดเหตุทันทีในวันรุ่ง ขึ้นยืนยันว่าไม่พบเขม่าปืน นอกจากนี้ยังพบรอบเลือดบริเวณใต้ต้นไม้ด้านหลังศาลาสินธุเสกในจุดที่เจ้า หน้าที่ทหารให้ปากคำว่า มีคนชุดดำอยู่บนต้นไม้กำลังยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ทหารจึงยิงปืนตอบโต้กลับไป ทั้งจากการสัมภาษณ์และตรวจสถานที่เกิดเหตุกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่คน หนึ่งซึ่งได้เข้าไปในวัดปทุมวนารามเมื่อเช้ามืดของวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ให้ข้อมูลว่า พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม ๑๖ จำนวนหนึ่งตกอยู่ริมรั้วด้านในวัดบริเวณหน้าศาลาสินธุเสกและพบปืนเอ็ม ๑๖ ถูกซ่อนไว้ในบริเวณใกล้เคียง[5]
๒) นายอัฐชัย ชุมจันทร์ เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนทะลุบริเวณหลังด้านซ้าย ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ๐.๕ ซม. ต่ำจากบ่า ๗ ซม. ห่างจากแนวกลางตัว ๔ ซม. ทะลุบริเวณทรวงอกด้านซ้ายส่วนบน ขนาด ๓.๔ x ๒.๓ กระสุนปืนทำลายปอด ทิศทางจากหลักไปหน้า แนวตรง แนวระดับ โดยถูกยิงที่บริเวณประตูทางออกด้านนอกวัด
๓) นายมงคล เข็มทอง เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนทะลุบริเวณทรวงอกด้านซ้าย ขนาด ๓.๒ x ๑ ซม. พบเศษทองแดงในเสื้อ เศษตะกั่วเล็ก ๆ ในหัวใจและปอด เป็นเศษกระสุนปืนเล็กกลขนาด ๕.๕๖ มม. โดยมีทิศทางจากซ้ายไปขวา หน้าไปหลัง และบนลงล่าง กระสุนปืนทำลายปอด หัวใจ และตับ โดยถูกยิงขณะเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บบริเวณประตูทางออกของวัด
๔) นายรพ สุขสถิตย์ เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนทะลุบริเวณทรวงอกด้านขวา ขนาด ๓.๕ x ๒. มม. ต่ำจากบ่า ๒๑ ซม. พบเศษทองแดง ๒ ชิ้นบริเวณขั้วยึดลำไส้ เป็นเศษกระสุนปืนเล็กกลขนาด ๕.๕๖ มม. ทิศทางจากขวาไปซ้าย หน้าไปหลัง บนลงล่าง กระสุนปืนทำลายปอดและตับ ถูกยิงบริเวณประตูทางออก นอกจาก นี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลังฐานยังพบเขม่าปืนบนมือของนายรพ อย่างไรก็ตามยอมรับว่าเขม่าที่ตรวจพบอาจเกิดจากการปนเปื้อนภายหลังได้เนื่อง จากไม่ได้ไปเก็บตัวอย่างเขม่าจากจุดที่เกิดเหตุ ส่วนสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ซึ่งได้ตรวจศพบริเวณจุดเกิดเหตุทันทีในวันรุ่งขึ้น ยืนยันว่าไม่พบเขม่าปืน
๕) นางสาวกมลเกด อัคฮาด เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนบริเวณหลังด้านขวา ต่ำจากบ่า ๑๒ ซม. ห่างจากกึ่งกลาง ๑๐ ซม. ทะลุกล้ามเนื้อด้านหลังขวาขึ้นมาด้านบน ทะลุผ่านฐานกะโหลกซีกซ้าย ทะลุสมองน้อยและสมองใหญ่ซีกซ้าย พบชิ้นส่วนโลหะค้างอยู่ในกะโหลกด้านหน้าขวา เป็นเศษกระสุนปืนเล็กกลขนาด ๕.๕๖ มม. ทิศทางจากล่างขึ้นบน จากหลังไปหน้า และขวาไปซ้าย กระสุนปืนทำลายสมอง ถูกยิงบริเวณเต็นพยาบาลใกล้ประตูทางออก
๖) นายอัครเดช ขันแก้ว เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืน บาดแผลฉีกขาดบริเวณไหล่ขวาขนาด ๔.๕ x ๓ ซม. ทะลุเข้าในช่องปากบริเวณใบหน้าด้านขวาใต้หู เป็นเหตุให้เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นนอก เนื้อสมองช้ำจากการถูกแรงกระแทก พบเศษตะกั่วในช่องปากและฐานกะโหลกศีรษะ และเศษรองกระสุนปืนทองแดงและตะกั่วบริเวณกระดูกก้นกบจากบาดแผลผิวหนังทะลุ บริเวณก้น เศษกระสุนเสียสภาพมากไม่สามารถยืนยันขนาดและชนิดได้ ถูกยิงบริเวณเต็นท์พยาบาลใกล้ประตูทางออก
ภาพที่ ๑๙ แผนที่โดยโดยสังเขปแสดงสถานที่เกิดเหตุในวัดปทุมวนาราม ระบุบริเวณผู้เสียชีวิตถูกยิง จุดสีแดงคือผู้เสียชีวิตที่เป็นพลเรือนและจุดสีขาวคือผู้เสียชีวิตที่เป็น อาสาสมัครพยาบาล/หน่วยกู้ชีพ อ้างอิงจากข้อมูลในสำนวนไต่สวนชันสูตรพลิกศพ
๒.๓.๑๒.๖ จุดที่สันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิตถูกยิงทั้งบริเวณประตูทางออกและด้านหลังศาลา สินธุเศก เป็นจุดที่สามารถยิงจากบริเวณที่ทหารปรากฏตัวอยู่บนรางรถไฟฟ้าได้ แต่มีข้อสังเกตว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุนั้นเป็น เวลาหลัง ๑๘.๐๐ น.[6] และในจุดเกิดเหตุมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นปกคลุมอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ทหารให้ข้อเท็จจริงว่ามีการยิงตอบโต้กันกับคนชุดดำในวัด
๒.๓.๑๒.๗ พบรอยแตกกระเทาะคล้ายรอยกระสุนปืนที่ผนังคอนกรีตและใต้คานรางรถไฟฟ้าบีทีเอส ด้านหน้าวัดปทุมวนาราม จำนวน ๔ รอย โดยมีทิศทางการยิงขึ้นไปจากพื้นด้านหน้าหรือในวัดปทุมวนาราม แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานกลางแจ้งว่าไม่ได้ตรวจสอบว่าเป็น รอยกระสุนปืนหรือไม่เนื่องจากอยู่สูงไม่สามารถขึ้นไปตรวจได้ ซึ่งหากเป็นรอยกระสุนจริงก็มีความเป็นได้ว่ามีการยิงมาจากด้านวัดปทุมวนารามไปยังกำแพงรางรถไฟ้ฟ้าซึ่งมีทหารอยู่
๒.๓.๑๒.๘ เจ้าหน้าที่ทหารให้ข้อมูลว่า เวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น. บริเวณแยกเฉลิมเผ่า พบคนชุดดำถือปืนเอ็ม ๑๖ ยิงใส่เจ้าหน้าที่แล้ววิ่งไปทางวัดปทุมวนารามโดยวิ่งเลียบไปตามกำแพงวัด และปรากฎภาพวีดิโอบันทึกเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่ทหารเคลื่อนกำลังไปบนถนนพระ รามที่ ๑ บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสยาม ฝั่งสยามเซ็นเตอร์ โดยในวีดิโอเจ้าหน้าที่ทหารพูดว่า พบผู้มีอาวุธอยู่บริเวณเสาตอม่อรถไฟฟ้า สั่งให้เจ้าหน้าที่ทหารคุ้มกัน เจ้าหน้าที่ทหารบางคนยิง ปลย.และแก๊สน้ำตา และมีเสียงปืนดังอยู่กว่า ๑๐ นาทีในภาพวีดิโอ[7]
นอกจากนี้ยังพบรอยกระสุนปืนบนทางเดิน SkyWalk และตอม่อรถไฟฟ้าบีทีเอส ตรงแยกเฉลิมเผ่า ซึ่งเป็นบริเวณที่มีผู้พบเห็นว่ามีคนชุดดำอยู่ โดยมีทิศทางการยิงมาจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสยาม[8] ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ทหารอยู่ และพบร่องรอยกระสุนปืนที่สถานีรถไฟพ้า บีทีเอส สถานีสยาม ชั้นที่ ๑ ที่มีเจ้าหน้าที่ทหารอยู่ ประมาณ ๘ รอย โดยมีทิศทางการยิงมาจากด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติบริเวณแยกเฉลิมเผ่า[9] แสดงว่ามีการยิงตอบโต้กันระหว่างเจ้าหน้าที่กับคนชุดดำจริง
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังแจ้งว่าในตอนเช้ามืดของวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ตนได้ไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุพบรอยเลือดของบุคคล ๒ คน บริเวณแยกเฉลิมเผ่าถูกลากเป็นทางยาวไปตรงจุดก่อนถึงประตูทางเข้าของวัดปทุม วนาราม[10] ซึ่งสอดคล้องกับการตรวจสอบจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ที่ตรวจพบรอยเลือดบริเวณแยกเฉลิมเผ่าเช่นกัน
๒.๓.๑๒.๙ ก่อนหน้าปฏิบัติการการกระชับพื้นที่ของ ศอฉ.ในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม มีผู้พบชายฉกรรจ์อยู่ในวัดปทุมวนารามและยังพบชายซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นหัวหน้าคนหนึ่งของการ์ด นปช.[11] ในวัดด้วย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งที่ได้พบกับผู้สื่อข่าวสตรีชาวจีนจำนวน ๓ คนที่ขอให้ตนช่วยพาออกมาจากวัดปทุมวนารามในวันที่ ๑๘ พฤษภาคมว่า ที่ไม่ประสงค์จะอยู่ต่อไปในวัดปทุมวนารามเพราะกลัว เนื่องจากเห็นว่ามีอาวุธอยู่ในวัด[12]
๒.๓.๑๒.๑๐ วันที่ ๒๐ พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจที่เกิดเหตุพบปืน เอ็ม ๑๖ จำนวน ๑ กระบอก ใต้รถกอล์ฟภายในวัดจอดอยู่บริเวณศาลาสินธุเสกใกล้กำแพงหน้าวัด ตรวจสอบแล้วพบว่าปืนเอ็ม ๑๖ กระบอกนี้เป็นปืนที่ผู้ชุมนุมยึดไปจากเจ้าหน้าที่ทหารบริเวณสามเหลี่ยมดิน แดงเมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม[13]
ในวันที่ ๒๑ พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ทหารร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจค้นพื้นที่และอาคารภายในวัด ปทุมวนาราม พบปืนพกไทยประดิษฐ์ จำนวน ๑ กระบอก กระสุนปืน ๗.๖๒ มม. จำนวน ๓๐๐ นัด แก๊สน้ำตา จำนวน ๒ ลูก ประทัดยักษ์และระเบิดปิงปองจำนวนหนึ่ง[14]
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังตรวจพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนหลายรายการซุก ซ่อนอยู่ภายในสวนป่า วัดปทุมวนาราม เช่น ปืนเอ็ม ๑๖ จำนวนหนึ่งกระบอก กระสุนปืนขนาด ๗.๖๒ มม. จำนวน ๒๗๘ นัด ระเบิดขว้างชนิดสังหารจำนวน ๔ ลูก และกระสุนปืน .๒๒๓ (๕.๕๖ มม.) จำนวน ๒๑๒ นัด และกระสุนระเบิดเอ็ม ๗๙ ขนาด ๔๐ มม. จำนวน ๔ นัด[15] โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรวจพบอาวุธให้ข้อมูลว่าได้รับข้อมูลจากประชาชนคน หนึ่ง จึงเข้าไปตรวจค้นบริเวณสวนป่า พบอาวุธหลายรายการดังกล่าวข้างต้นและบัตรการ์ด นปช.หนึ่งใบโดยอาวุธและสิ่งของดังกล่าวถูกซุกซ่อนอยู่ใต้ฐานพระพุทธรูปขนาด ใหญ่ในสวนป่าภายในวัดปทุมวนาราม[16]
๒.๓.๑๒.๑๑ มีข้อสังเกตว่า ผู้ชุมนุมซึ่งเข้าไปหลบอยู่ภายในวัดปทุมวนารามอยู่ในบรรยากาศแห่งความหวาด กลัวว่าเจ้าหน้าที่ทหารจะเข้ามาปราบปรามและเข่นฆ่าผู้ชุมนุม ในขณะที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ทหารก็มีความหวาดระแวงว่า ภายในวัดปทุมวนารามเป็นที่ซ่องสุมกองกำลังและอาวุธจำนวนมากของคนชุดดำ
ความหวาดกลัวและความหวาดระแวงดังกล่าว ทำให้หน่วยแพทย์-พยาบาลมีความยากลำบากในการลำเลียงและเข้าไปรับผู้ได้รับบาด เจ็บออกจากวัดปทุมวนาราม ประกอบกับเวลาเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืนและบริเวณดังกล่าวอยู่ในความมืดเนื่อง จากไฟฟ้าถูกตัด
ผู้แทนหน่วยแพทย์ซึ่งเข้าให้การช่วยเหลือลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากวัดปทุม วนารามในคืนวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ให้ข้อมูลว่า “การเข้าพื้นที่วัดปทุม ในวันที่ ๑๙ ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่ามีคนบาดเจ็บค้างอยู่ แต่เมื่อเช็คพบว่าเป็นความจริง ผู้ชุมนุมมีความหวาดกลัวว่าต้องฆ่าทั้งหมด ผู้ชุมนุมได้รับข้อมูลว่าต้องฆ่าพันสองพันคนให้เข็ด…ในการเข้าไปรับคนเจ็บ ตอนแรกก็ระแวง ทหารบอกว่าในวัดมีอาวุธจำนวนมาก หากเข้าไปอาจโดนลูกหลง หรือโดนจับตัวเป็นประกัน ขอไม่ให้เข้าไป แต่สุดท้ายเคลียร์กันได้ว่าต้องรีบเอาคนเจ็บออกมา สุดท้ายได้รับอนุญาตให้เข้าไปรับที่ประตูวัด ดึกและมืดสนิท ไม่มีใครกล้าขนคนมาประตู ขอให้เข้าไปในวัด แต่ทหารก็กลัวว่าจะถูกจับตัว สุดท้ายมีการแบกออกมาได้”[17]
[1] อาสาสมัครผู้ประสานงานอิสระเพื่อมนุษยธรรมและนักกิจกรรมด้านสันติวิธีซึ่ง ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในบริเวณวัดปทุมวนาราม, สัมภาษณ์เมื่อวันที่ ๒ พฤษจิกายน ๒๕๕๓
[2] เอกสาร powerpoint ชื่อไฟล์ “การปฎิบัติการของเจ้าหน้าที่ในวันเกิดเหตุจากบรรยาย คอป๒ จากหน่วยรบพิเศษ”, ประชุม Hearing ครั้งที่ ๙ “กรณีการเสียชีวิต ๖ ศพ ที่วัดปทุมวนารามฯ” เมื่อวันอังคาร ที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๔
[3] สัมภาษณ์พระ เมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๕ โดยอนุกรรมการตรวจสอบและค้นหาความจริง
[4] รายงานการตรวจสถานทีเกิดเหตุที่ CSI-S-5305 – 126, กลุ่มงานตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ, สำนักตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ, สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
[5]สัมภาษณ์และลงพื้นที่วัดปทุมวนารามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลชั้นผู้ใหญ่, วันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๕
[6] วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ พระอาทิตย์ตกเวลาประมาณ ๑๘.๓๘ น.
[7] ภาพวีดิโอ ชื่อไฟล์ 20100519 footage assult 2 นาทีที่ ๒๗ – ๔๐
ปนเปื้อนภายหลัง คือ เท่าที่ผมเข้าใจ เขม่าที่ว่านี้ คือ ต้องมีการยิง จะทำให้เกิดเขม่า มิใช่หรือ งงมาก
วานผู้รู้ชี้แนะทีครับ
- จูกัดขงเบ้ง likes this
#2099
ตอบ 18 กันยายน พ.ศ. 2555 - 01:32
มีการยิงต่อสู้ มีร่องรอยกระสุนจากทั้งสองฝั่ง
มีร่องรอยกระสุนยิงจากล่างขึ้นบน และร่องรอยการยิงจากรถไฟฟ้าลงไปในวัด
มี 2 ศพ วิถีการยิงดูผิดธรรมชาติหากจะบอกว่ายิงมาจากด้านบนคือ ศพน้องเกดและบุรุษพยาบาลอีกคนหนึ่ง
นอกนั้นเชื่อว่าไล่ยิงกันมาจากตามถนน
ตรงหลังอาคารสินธุเสก(ทิศตะวันตกของวัด ) ได้เดินไปดูครั้งหลังสุด มีช่องว่างห่างจากกำแพงวัด ด้านติดสยามพาราก้อนประมาณ 3 เมตร มีต้นไม้ประปราย
ด้านหน้าอาคารติดกำแพงด้านถนนพระราม 1 เป็นที่จอดรถ ( ซึ่งตำรวจค้นพบปืนและปลอกกระสุน)
งานนี้หากจะบอกว่า น้องเกดถูกกระสุนจากด้านล่าง ก็บอกได้
แต่ใครล่ะที่ยิงน้องเกด
#2100
ตอบ 18 กันยายน พ.ศ. 2555 - 09:43
จากคำบอกเล่าของประจักษ์พยาน เห็นคุณกมนเกดถูกยิงที่บริเวณแขนขณะก้มหมอบหลบกระสุน (เพราะพยานเห็นเลือดที่แขน)
และขณะที่กำลังคลานเข้าหาสิ่งกำบัง เป็นไปได้ว่าโดนยิงอีกในเวลาไล่เลี่ยกัน
มุมองศาของบาดแผลกระสุนเข้าที่แผ่นหลังและที่เอว อาจจะน้อยกว่า (แต่ไม่มากกว่าแน่นอน) เมื่อเทียบกับมุมองศาระนาบพื้นครับ ขึ้นอยู่กับสรีระและลักษณะก้มคลานของคุณกมนเกดขณะถูกยิงในแต่ละนัดครับ
------------------------------------------
ธรรมชาติของมนุษย์ เมื่ออยู่ในท่าคลาน จะคลานสูง คลานต่ำ ศรีษะต้องผงกขึ้นมาเล็กน้อย ครับ
ประเภทคลานไปก้มหัวไป เป็นท่าที่ผิดธรรมชาติมากๆ ลองทำดูก็ได้
แล้ววิถีกระสุน สุดยอดมาก คนยิงเมพขิง ยิงเฉียดหลังคา ร้านค้าแบบ เส้นยาแดงผ่าแปด
ที่สำคัญ ผมว่าเขาคำนวนความสูงของ bts และมุมยิงของทหาร ไม่ถูกต้อง...
Edited by ศรอรชุน, 18 กันยายน พ.ศ. 2555 - 09:46.
"ควาย" ในความหมายของผม คือ คนที่มีความคิด เล่นเน็ตเป็น แต่แยกแยะ ดี ชั่ว ถูก ผิด ไม่ได้
มิได้หมายถึง ชาวรากหญ้า ที่เป็นเหยื่อในสงครามทางความคิดครั้งนี้
"คนชั่ว" จะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา... อยากให้ถึงวรรคท้ายของคำทำนาย ไวๆ ว่ะ...
ผู้ใช้ 3 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 3 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน