กรณี นายลี เมียง บัก (ออกเสียงให้ถูกต้องตามภาษาเกาหลีว่า อี มยอง บัก) ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้ออกมากล่าวขอโทษ (ซา-กวา) ต่อประชาชนเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม เรื่องที่พี่ชายของเขาคือ นายอี ซาง ดุ๊ก ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเมืองของเขาถูกจับกุมข้อหารับสินบนจากธนาคารออมสินซึ่งกำลังมีปัญหาและถูกระงับกิจการอยู่ในขณะนี้
"ผมขอโทษอย่างจริงใจที่ทำให้ประชาชนเกิดความไม่สบายใจ ตอนแรกผมจะรอให้ผลการสอบสวนออกมาก่อนจึงจะพูดเรื่องนี้ แต่ผมเปลี่ยนใจและสรุปว่าผมควรจะได้แสดงความรู้สึกอย่างจริงใจก่อนเป็นอันดับแรก เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ผมควรจะทำในฐานะผู้นำ ทั้งนี้ ตั้งแต่ตอนแรกที่เข้ารับตำแหน่ง ผมก็ยึดมั่นในการเมืองที่สะอาดและใช้ความพยายามของผมที่จะบรรลุเป้าหมายนี้ด้วยการบริจาคทรัพย์สินและแม้แต่เงินเดือนของผมให้กับชุมชน มีบางช่วงที่ผมรู้สึกว่าความพยายามของผมได้ผลบ้าง แต่โชคไม่ดีที่คนใกล้ชิดของผมได้กระทำสิ่งต่างๆ ขึ้นและนั่นทำให้ผมเจ็บปวด ผมจะไม่โทษคนอื่นสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ผมจะรับผิดชอบต่อสิ่งที่พวกเขาก่อขึ้น" นี่คือคำขอโทษของประธานาธิบดีเกาหลีใต้
นับจากปีที่แล้ว ญาติและผู้ช่วยของผู้นำเกาหลีใต้หลายคนถูกกล่าวหาว่ารับสินบนจากนักธุรกิจและเกี่ยวพันกับการคอร์รัปชั่นซึ่งในจำนวนนี้มีหลายคนถูกส่งเข้าคุกแล้ว ถัดมาในวันที่ 25 กรกฎาคม อัยการได้จับกุมอดีตผู้ช่วยของนายลีอีก 2 คน ในข้อหารับสินบนจากธนาคารออมสินเช่นกัน
สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เพียงสะท้อนว่าผู้นำเกาหลีใต้ที่เป็นเสาหลักของบ้านเมือง มีความจริงใจในการปราบปรามคอร์รัปชั่น ด้วยการไม่ใช้อิทธิพลเพื่อช่วยเหลือญาติและคนใกล้ชิดให้พ้นจากเงื้อมมือกฎหมาย ประกอบกับประชาชนมีจิตสำนึกสาธารณะสูง
ผมว่าใครบางท่าน ควรจะเอาเยี่ยางอย่างนะครับ กับกรณีที่คล้ายๆกันเช่นนี้
การแสดงความเห็นในเชิงการเมืองนั้น ย่อมมีทั้งฝ่ายที่เห็นพ้อ และฝ่ายที่เห็นต่าง เป็นเรื่องปกติธรรมดา มันเป็นสีสันการแสดงออกทางความคิด ในระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย
แต่กับ อโฆษบุรุษ ตนหนึ่งในบอร์ด ที่ก่อวีรกรรมไว้มากมาย ผมขอเรียนย้ำว่า ในเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับเขานั้น " ไม่มีส่วนใดเกี่ยวกับการเมือง " เลยแม้แต่สักนิด มีแต่ " เรืองส่วนตัว " ของเขาทั้งสิ้น เกิดจากความโอ้อวด พอเข้าตาจนก็หนี หลบลี้ ไม่เคลีย และสร้างประเด็นมดเท็จ อยู่ร่ำไป โดยอาศัยฉากหน้าเรื่องการเมืองนิดหน่อยพอเป็นน้ำจิ้ม แต่ประเด็นหลัก ก็แค่เรื่องส่วนตัว อวดโอ่ไป ดังที่เพื่อนสมาชิกพบประสบมาตลอดในบอร์ดนี้
และในปัจจุบันนี้ เมื่อมีเสียงโห่ร้อง ไล่บี้ ก็ออกตัว ขอนับหนึ่งใหม่ โดยไม่เหลียวแลกองอุจาระมหึมา ที่ถ่ายทิ้งไว้ ผู้ไม่แสดงความรับผิดชอบ ต่อสิ่งที่ตนเองทำไว้ ในความเห็นส่วนตัวผม ไม่เห็นด้วยครับ การกลับตัวกลัวใจเริ่มใหม่นั่น สามารถทำได้ แต่ทว่า ต้อง
" เคลียเรื่องเก่าๆ ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน "
Edited by เด็กปากดี, 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 15:25.