ว๊าย!! ตายแล้ว สื่อเมืองไทยนี่ใช้ไม่ได้เลย
ออกข่าวโจมตีนโยบายรถคันแรกของทั่นปูกันยกใหญ่
หาว่าทำให้ กทม.เป็นเมืองที่รถติดที่สุดในโลก
ไม่ยอมเอาบทความต้นฉบับของบีบีซีมาอ่านวิเคราะห์ให้ละเอียด
เดือดร้อนคนกลางที่สุดในสามโลกต้องโดดออกมาปกป้อง
ขนาดว๊อยซ์ทีวี ยังเป็นไปกับเค้าด้วย
'กทม.' รั้งอันดับ 1 เมืองรถติดที่สุดในโลก
เว็บไซต์ BBC รายงาน 10 อันดับ เมืองที่รถติดที่สุดในโลก ผ่านการโหวตจากผู้อ่านทั่วโลก ปรากฏว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่รถติดที่สุดในโลก
http://news.voicetv....obal/52154.html
สื่ออื่นก็นำเสนอกันใหญ่
นี่ของช่องเจ็ด
กรุงเทพ เมืองที่รถติดมากที่สุดในโลก
เช้านี้ที่หมอชิต - เว็บไซต์ของสำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ รายงาน 10 อันดับ เมืองที่รถติดที่สุดในโลก จากการโหวตจากผู้อ่านทั่วโลก ปรากฏว่า กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองที่รถติดที่สุดในโลก รายงานยังระบุว่า ปัญหารถติดในกรุงเทพนั้นเป็นผลมาจากนโยบายคืนภาษีรถคันแรกของรัฐบาล ประกอบกับคนไทยที่อยากจะมีรถเป็นของตัวเองเพื่อยกระดับทางสังคม ทำให้มีรถยนต์แล่นบนท้องถนนกว่า 5 ล้านคัน ทั้งที่พื้นที่ของถนนรองรับรถยนต์ได้เพียง 2 ล้านคันเท่านั้น
http://www.bugaboo.t...ี่สุดในโลก.html
ครอบครัวข่าวของย้วย เช้านี้ ก็เล่นข่าวนี้ แบบเดียวกันเป๊ะ
แย่แล้ว แย่แล้ว
คนกลางที่สุดในสามโลก ต้องรีบแก้ไขความเข้าใจผิดของสื่อหลักในประเทศโดยเร็ว
หาไม่ คุณปู สุดบูชา จะต้องตกเป็นเหยื่อของสื่อมั่วนิ่ม
เอาละโว้ย.. อับจนถึงขนาด ลดตัวไปเอา ว้ายทีวีมา.... ตรรกสลิ่มคิดว่า คนว่าคนอื่นเค้าจะ หูเบาเหมือนตะเองหรือครับ...
โทษนะครับ ต่อให้ ไทยรัฐ... ข่าวสด... หรือ ปลอด พูดเอง ... ถ้าพูดข่าวนี้ แบบ MThai... ว่ามี โพล์ BBC..แล้ว. กรุงเทพ อันดับ 1 ... ยังไงมันก็ ผิดวันยังค่ำ...
ตัวอย่างเอาไว้เตือนความจำ..... เผื่อจะดีขึ้น...
เคยได้ยินเรื่อง สมชาย เลือดทหาร ป่าวครับ... อันนั้น ข่าว ลงทุกสำนักเลยพร้อมเพียงกัน ... แล้ว มันเป็น จริงหรือป่าว...
โถๆ ... เวปวิชาการ สมาชิกมีคูณภาพ... ข่าวลงอย่างไรก็เชื่อ... ถ้าไม่มีคนแย้ง จะเชื่อนี่ ไม่แปลก..
แต่ งานนี้ มีคนแย้ง... แย้งกลับเค้าไม่ได้... แต่ อยากจะเชื่อเพราะ ตรงจริต...
ไม่เห็นมีใคร สักคน พยายาม หาหลักฐาน ว่า... BBC ทำโพล์อย่างไร... จัดอันดับอย่างไร... มาโต้แย้งผม...
หาไม่ได้ใช่ไหม... เพราะเค้าไม่เคยทำ....
ตกลงหาเจอยัง ที่ BBC บอกว่า ทำโพล์ 55555
คุณภาพ... มีเท่านี้จริงๆหรือ...
สักคนที่จะยอมรับในข้อเท็จจริง.. ยังหาไม่ได้ แถอย่างเดียว.. ... อนาถ
แก้เป็น มีแค่ สอง ท่านที่รับความจริง... ที่เหลือ แถอย่างเดียว... อนาถ
เอาอีกล่ะเฮ็นไต
อ่านภาษาไทยไม่แตกรึไงยะ
ดิฉันบอกหรือว่า รายงานของ BBC เป็นโพล
ดิฉันบอกหรือว่า รายงานของ BBC ยกให้กทม. รถติดเป็นอันดับหนึ่งของโลก
เห็นคนอื่นเม้นท์ล่ะ แต๋วแตกออกมาเชียว
กวาดเหมาเข่งเลยว่าคนอื่นไม่อ่านรายงานของ BBC
ดิฉันบอกว่า
ว๊าย!! ตายแล้ว สื่อเมืองไทยนี่ใช้ไม่ได้เลย
ออกข่าวโจมตีนโยบายรถคันแรกของทั่นปูกันยกใหญ่
หาว่าทำให้ กทม.เป็นเมืองที่รถติดที่สุดในโลก
ไม่ยอมเอาบทความต้นฉบับของบีบีซีมาอ่านวิเคราะห์ให้ละเอียด
เดือดร้อนคนกลางที่สุดในสามโลกต้องโดดออกมาปกป้อง
ดูตรงตัวหนังสือสีแดงซัก 5 รอบนะ
จะได้เข้าใจจิตเจตนา
แล้วก็นี่อีก
แย่แล้ว แย่แล้ว
คนกลางที่สุดในสามโลก ต้องรีบแก้ไขความเข้าใจผิดของสื่อหลักในประเทศโดยเร็ว
หาไม่ คุณปู สุดบูชา จะต้องตกเป็นเหยื่อของสื่อมั่วนิ่ม
เข้าใจป่าวว่ามันรายงานผิดกันแทบทุกสำนักทั้งสื่อโทรทัศน์ เว็บไซต์ต่างๆ
แล้วที่ยกวอยซ์ทีวี เพราะขนาดเป็นสื่อที่อวยนางยกปูเป็นอาจิณ ยังไม่ตรวจสอบข้อมูลเลยว่าส่งผลลบต่อรัฐบาล
สื่ออย่างช่องสาม ช่องเจ็ด มีคนดูมากมายล้นหลาม ยังรายงานผิด
ไม่ใช่ว่าดิฉันเห็นว่าสื่อแทบทุกสำนักรายงานตรงกันแล้วข่าวนั้นจะน่าเชื่อถือ
เสียง (สื่ิอ) ส่วนใหญ่ไม่ใช่ความถูกต้อง
เฮ็นไตอย่ามาถือโอกาสมั่วนิ่มจิกกัดไม่ดูคน
แล้วที่เรียกคนอื่นว่าสลิ่มน่ะ
เหอๆๆ ดิฉันไม่ได้โกรธ... แต่บอกว่า สิ่งที่คุณทำ... เป็น การ ตอกลิ่มความแตกแยก...
แต่ถ้าคิดว่า ทำแล้วดี... ก็จงทำต่อไป...
ผู้ชายคนนี้ไม่ได้มีความรู้ความเข้าในสิ่งที่เขาได้อ่าน
ขนาดคำว่า บอกตัวเองเป็นกลาง แต่ก็มีอคติเข้าครอบงำทุกครั้งที่ทุกคนเอ่ยถึงความแย่ของ รบ จนร้อนรนต้องออกมาแก้ตัว
แล้วคนนี้ก็เอาสิ่งที่คนอื่นตอบกระทู้มาแตกคำพูด แล้วเอาคำพูดนั้นมาย้อนใส่คนโพสต์ โดยที่มิได้ให้ความรู้เพิ่มเติมหรือเห็นต่างด้วยประเด็นใดๆ
สายตาของเขาจะมองแค่จุดที่คนอื่นโพสต์แล้วคิดว่าเพลี่ยงพล้ำ มาบลัฟคนที่โพสต์เพื่อให้ความน่าเชื่อถือของผู้โพสต์นั้นลดลง
นิสัยแบบนี้หยุมหยิม เหมือนพวกแม่บ้านว่างงานไม่มีอะไรทำ นอกจากมองหาจุดผิดหรือจุดด้อยของคนอื่นมาเมาท์มอยและเกทับกลับไป
ซึ่งจะเป็นแบบนี้ทุกครั้ง
แม้แต่บทความตั้งต้นที่เขาอ่านก็ไม่ได้อ่านให้เคลียร์ การ observe ไม่ใช่การทำโพล ในคำพูดอาจจะไม่ใช่ แต่ความหมายแฝงมันสามารถตีความได้
แล้วถามเห็นตาย หน่อยว่า ถ้ากรณีสมมุติพนักงานคนหนื่ง ไม่ผ่านการประเมิน gap ค่างาน
แต่แนวทางแก้ปัญหาที่มีให้มา มีให้เลือกหลายแนวทาง คือ การศึกษาด้วยตัวเอง,การรับความรู้จากวิทยากร,การสังเกตและฝึกฝนเพื่อสอบปฏิบัติงานให้ได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด,การดูงานหน่วยงานภายนอก, การให้พี่เลี้ยงมีความเชี่ยวชาญมาสอนงาน เป็นต้น ถามว่า ทางเลือกเหล่านี้มันเหมือนหรือขัดแย้ง หากเปรียบเทียบกับบทความทีคุณอ่านจาก bbc อย่างไร ในกรณีที่ bbc เปิดโอกาสให้คนอ่านเข้าไปคอมเมนต์เพื่อแสดงความคิดเห็น ซึ่งอาจมีหรือไม่มีทั้งที่ไม่เห็นด้วย แต่ถามว่าเขาจำเป็นต้องทำโพลล์หรือไม่ ในเมื่อผลที่เกิดจากเหตุรถคันแรกส่งผลกระทบต่อการจราจร โดยการ observe จากผู้อยู่ในเหตุการณ์ โลกนี้ข่าวมันเคลื่อนไหวเร็วจะตายไปในมีเดียระดับโลกแบบ bbc
บางทีบางเรื่องมันเป็นความหมายแฝงในบริบทของบทความ อ่านภาษาอังกฤษอ่านให้แตกด้วย ภาษาที่ bbc ใช้ เป็นภาษาทีเข้าใจง่าย แต่มี indirect meaning อยู่ในนั้น
ปล.อย่าคิดแบบกบในกะลาครอบ ออกนอกกรอบบ้างก็ได้
หนังสือหนังหามี ก็หามาอ่าน เปิดปัญญาแล้วรู้จักวิเคราะห์ด้วย