244 ความเห็นในกระทู้นี้

[คนไปทั่ว]

ถ้าจะพูดกันตามจริง ระดับการลงโทษ สูงเกินไปเกินความเหมาะสม และความเป็นจริง... เผลอๆ จะดูหนักกว่า คดีฆ่าคนตายซะอีก

นี่คือข้อหน้าห่วง ที่ฝรั่ง ต่างชาติ จับตา ประเทศไทย อย่างแปลกๆในเรื่องนี้?

แล้วมีใครเคยตายเพราะข้อหานี้บ้างป่าวว๊ะ ในรัชกาลปัจจุบัน

[ryukendo]

ทนายควายให้คำปรึกษาแบบควายๆ คงกะเอาไอ้นี่มาเป็นเหยื่อน่ะครับ ...

คบโจร...ซวยไป

[คนทุกที่]

โทษยี่สิบปีก็จริง แต่ติดจริงเท่าไหร่ก็ไม่รู้ มีพระราชทานอภัยโทษทุกที

[ปกติทำแต่งาน]

...จำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าขณะเกิดเหตุนำโทรศัพท์ไปซ่อมที่ร้านซ่อมโทรศัพท์แห่งหนึ่งที่ห้างสรรพสินค้าอิมพิเรียล สาขาสำโรง ....

ถ้าเป็นตามที่อ้างจริงก็น่าสงสารนะครับ ศาลก็ตัดสินไปตามหลักฐาน ลงโทษตามที่ระบุไว้ในกฏหมาย


เพื่อนๆ สรท. ระวังการใช้บริการร้านซ่อมโทรศัพท์ โดยเฉพาะ้ในห้างที่มันอยู่ในดงแดงล้มเจ้าเนี่ย อันตราย ไอ้ร้านล้มเจ้าที่มันทำก็คงเปิดตูดแน่บไปแล้ว ไม่รอให้คุณไปสืบพยานหรอก

ผมดูหน้าจำเลยแล้ว ผมอยากให้สู้ถึงฎีกาครับ การไปสืบพยาน แล้วหาร้านไม่เจอ อาจเป็นเพราะมันเปิดตูดไปแล้วครับ

ยังไงน่าจะสืบพยาน Operator ว่า Cell Site ที่รับ SMS มันอยู่แถวอิมพีเรียลสำโรงหรือเปล่า

ถ้าใช่คำให้การของจำเลยก็จะมีน้ำหนัก

[นายตัวเกร็ง]

ต้องมีการพิสูจน์ต่อไปว่าเจ้าตัวได้ทำหรือไม่ ถ้าเป็นดั่งกล่าวอ้างคงไม่เป็นไร
แต่ถ้าเป็นคงส่ง SMS เองก็ "สมน้ำหน้าอยู่ดีไม่ว่าดีไม่ต้องอ้างว่ากลั่นแกล้งเลยเพราะถ้ากฏหมายไม่ดีจริงต้องคนมีติดคุกด้วยข้อหานี้อีกเป็นล้าน"

[ปกติทำแต่งาน]

อายุ 60+ อยู่่ในข่ายอภัยโทษครับ

[turbora]

ลองดูอันนี้กันด้วยครับพอดีไปเจอมา http://blogazine.in....t/3310#comments


เขียนให้อากงSMS ทนาย และกองเชียร์ (ขี้เกียจตั้งชื่อ)

30 กันยายน, 2011 - 22:37 | โดย groomgrim


30 กันยายน 2554 ณ ห้องพิจารณาคดี 801 ศาลอาญารัชดาผมบอกตัวเองว่าถ้านานๆ ได้ร้องไห้กับเรื่องราวของคนอื่นบ้างอาจทำให้ชีวิตตัวเองชุ่มชื้นมากขึ้น เวลาดูหนังซึ้งๆ เราก็ร้องไห้ได้ ดังนั้น หากเป็นเรื่องจริงที่หนักหนากว่าในหนังมากปรากฏอยู่ตรงหน้า การเสียน้ำตาบ้างคงไม่ตุ๊ดเกินไป

ผมติดตามคดี “อากง SMS” มาสักระยะในฐานะที่เป็นคดีมาตรา 112 ที่ดราม่าที่สุดคดีหนึ่ง ซึ่งผมมักจะใช้เล่ายกตัวอย่างให้กับคนที่ไม่เข้าใจปัญหาการบังคับใช้กฎหมายอาญามาตรา 112 หรือกฎหมายหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ได้ฟัง
คนที่เราเรียกว่า “อากง” หรือ นายอำพล (ขอสงวนนามสกุล) ถูกจับเมื่อกลางปี 2553 หลังเหตุการณ์การชุมนุมของเสื้อแดงได้ไม่นาน เป็นคดีผลงานคดีเดียวที่ตำรวจไล่จับตามที่อ้างว่าพวกเสื้อแดงมีขบวนการหมิ่นฯ ล้มล้างสถาบันฯ และออกแถลงข่าวใหญ่โต ข้อหาคือการส่งSMS เข้ามือถือเลขาฯนายกรัฐมนตรี เป็นข้อความผิดกฎหมาย 4 ข้อความ ซึ่งแอบดูมาเห็นว่าหนักทีเดียว เป็นข้อความที่แรงและหยาบคายที่สุดสำหรับการฟ้องร้องคดีหมิ่นฯ ทั้งในยุคนี้และยุคก่อน
คดีนี้มีชื่อเสียง นอกจากจะเพราะตำรวจแถลงข่าวใหญ่โตแล้ว ยังมีเรื่องราวเป็นนัยน่าสนใจมากมายเพราะอากงเป็นคนแก่ที่ไม่ได้ถนัดเทคโนโลยี แกบอกว่าแกไม่เคยส่ง SMS แกส่งไม่เป็น อากงไม่ได้ประกันตัว แกมีโรคประจำตัวและแกก็เครียดจนไม่สบายหนักในช่วงที่โดนจับใหม่ๆ งานของผมบังคับให้ผมต้องติดตามคดีนี้ ทั้งที่หากผมประกอบอาชีพอื่นและนอนดูทีวีอยู่บ้านผมก็อาจจะนึกสาปแช่งอากงไปแล้ว ไม่ต่างจากที่หลายๆ คนอาจเคยทำ

ผมไม่เคยรู้จักอากงมาก่อน รู้ตามสื่อว่าแกเคยไปชุมนุมกับเสื้อแดง และเสื้อเหลืองแกก็ไปร่วมกับเขาเหมือนกัน ผมเคยเข้าเยี่ยมอากงในคุก 1 ครั้ง ไปกับคนอื่นแบบไม่ได้ตั้งใจ คุยกับอากงไม่กี่คำก็สามารถเชื่อเหมือนที่หลายๆ คนเชื่อได้ ผมเห็นอากงซึ่งเป็นคนแก่ อายุ 61 ปี แม้จะไล่ๆ กับแม่ผม แต่แกดูแก่มาก เดินช้า หลังค่อม ผมขาว สายตาฝ้าฟาง พูดจาสุภาพกับทุกคน พูดภาษาไทยไม่ชัดติดสำเนียงจีน แกเหมือนชาวบ้านที่ใส่ซื่อ ยากจนและหวาดกลัว แกยิ้มแย้มอย่างมีกำลังใจเสมอเมื่อพบคนที่มาเยี่ยม แต่ข่าวทุกสายบอกว่าอากงไม่สบายและก็แอบนอนร้องไห้บ่อยๆ ในห้องกรง

อากงไม่รู้เรื่องอะไรเลย แกบอกว่าไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่งข้อความ ไม่รู้ว่าทำไมตำรวจมีหลักฐานทางคอมพิวเตอร์โยงมายังมือถือของแกได้ ไม่รู้จักเบอร์โทรศัพท์ที่ส่งถึง ไม่รู้ๆๆๆๆ รู้แต่ว่าไม่ได้ทำ ทีมทนายความก็ไม่รู้จะตั้งประเด็นในการต่อสู้คดีอย่างไร ที่จริงทีมทนายไม่รู้ด้วยว่าความเป็นจริงเป็นอย่างไร อัยการก็ไม่รู้ ตำรวจที่มาเบิกความก็ไม่รู้ ศาลก็ไม่รู้ ผมเองก็ไม่รู้ ... แต่เรารู้ว่าต่อให้แกทำจริง ก็เป็นการเกินไปที่คนอย่างแกต้องเผชิญหน้ากับโทษจำคุกสูงสุดหกสิบปีเพียงลำพัง

หลังอัยการส่งฟ้อง ศาลอ่านข้อความที่ถูกฟ้องแล้วคงรู้สึกไม่ต่างจากคนไทยหลายต่อหลายคนจึงสั่งไม่ให้ประกันตัว อากงนอนอยู่ในห้องขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ รวมแล้วเกือบหนึ่งปี ก่อนจะได้รับการพิจารณาความถูกผิด และในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกันยายน 2554 สายตาจำนวนมากก็จดจ้องมาที่บัลลังก์พิจารณาคดีของศาลอาญา

ตามบันทึกการประชุม ในฐานะสมาชิกเครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนผมอยู่ในคดีนี้ด้วย แต่ไม่ได้รับผิดชอบเต็มๆ ผมเพิ่งได้เข้าร่วมประชุมกับทีมทนายความในช่วงใกล้ๆ วันสืบพยานทำให้เห็นว่างานนี้ไม่ง่าย หลายคนอาจรู้สึกว่าคดีนี้ไร้สาระทีเดียว เพราะไม่มีทางมีใครเห็นอากงหยิบโทรศัพท์มากดส่ง SMS ไปเบอร์นั้นเบอร์นี้ แต่เมื่อตำรวจนำส่งหลักฐานเป็นข้อมูลการใช้โทรศัพท์จากผู้ให้บริการ ขณะที่อากงก็ไม่รู้อย่างเดียว ไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้เพื่อต่อสู้ ไม่มีนิทานชักใยถึงตัวผู้กระทำผิดจริงมาบอกศาล คดีนี้จึงหินโคตรๆ

ทนายความอายุน้อยทั้งสามคนที่มีแต่ใจไม่มีความรู้อะไรพยายามเปิดประเด็นต่อสู้เรื่องหลักฐานทางเทคโนโลยีในวันแรกๆ แต่ก็โดนตอกกลับจากพยานฝั่งโจทก์ซึ่งเป็นคนจากDTAC True และตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่เตรียมกันมาอย่างดี ประกอบกับเมื่อผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายได้ยินว่าเป็นคดีหมิ่นฯ ก็ไม่มีใครกล้ามาเบิกความเป็นพยานเข้าข้างจำเลย พยานหลักฐานชิ้นสำคัญที่สุดที่ฝั่งจำเลยมีอยู่ คือ ตัวอากงเอง บุคลิกสุภาพ ยิ้มแย้มกับความใสซื่อของคนแก่ที่สุขภาพไม่แข็งแรงอาจเป็นสิ่งเดียวที่ยืนยันได้ว่า แกทำความผิดที่ร้ายแรงขนาดนี้หรือไม่

30 กันยายน 2554 ห้องพิจารณาคดี 801 ศาลอาญารัชดา เวลา 9.00 น. เป็นวันที่อากงจะขึ้นเบิกความต่อศาลเอง หลังจากที่พยานหลักฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยีและกระบวนการสืบสวนที่อากงฟังไม่เข้าใจได้ถูกนำสืบไปหมดแล้ว

ผมรู้ว่าผมเป็นคนอินกับอะไรค่อนข้างง่าย และก็ชอบ dramaticise ข้อเท็จจริงให้ emotional มากขึ้น แต่เรื่องราวของคดีนี้มันดราม่ามาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว และก็ดราม่าในวันสืบพยานทุกวันที่อากงแกจะนั่งมองศาลอย่างเหม่อลอย และร้องไห้กอดกับหลานๆ ก่อนถูกนำตัวกลับเรือนจำ

วันนี้ กองเชียร์เข้ามาเต็มห้อง ส่วนหนึ่งเป็นนักกฎหมายสิทธิเพื่อนๆ ทีมทนาย ส่วนหนึ่งเป็นนักข่าว ส่วนหนึ่งเป็นคนเสื้อแดงที่ไม่ได้รู้จักอะไรกับอากงมาก่อน ป๊าอุ๊ ภรรยาสุดรักที่อากงเรียกว่า “แฟนผม” และหลานๆ 4-5 คนที่อากงเลี้ยงมาเองกับมือ

อากงเริ่มเรื่องให้มันดราม่าตอนที่สาบานตัว และแกมองไม่เห็นแผ่นคำสาบานจึงต้องให้ทนายอ่านให้ เมื่อศาลถามชื่อ ที่อยู่ และถามอาชีพ แกก็ตอบเต็มปากเต็มคำ “เลี้ยงหลานครับ” สร้างเสียงฮาปนสะเทือนใจให้กับกองเชียร์ ก่อนแกอธิบายว่าเคยขับรถขนส่งแต่สุขภาพไม่ดีเลิกทำงานมาสิบกว่าปีแล้ว จึงมีหน้าที่เลี้ยงหลาน ไปส่ง ไปรับ ไปโรงเรียน

อากงตอบคำถามอย่างฉะฉาน ด้วยสำเนียงไทยปนจีน เล่าถึงชีวิตประจำวันแก ประวัติการใช้มือถือ เมื่อถามว่าบ้านที่แกอยู่เป็นยังไง คือ ทนายตั้งใจจะให้บอกว่าอยู่กันหลายคน แกก็มองรอบๆ ทำหน้างงๆ แล้วตอบว่า “ประมาณครึ่งนึงของห้องนี้” (ห้องพิจารณาคดี 801) พร้อมทำมือประกอบ

ทนายความถามแกไปตามสูตรที่เตรียมมา ถามว่ากรณีที่ถูกฟ้องนี้แกทำจริงหรือเปล่า
“ผมไม่ได้ทำครับ” อากงเงยหน้ามองศาล พูดอย่างฉะฉาน

ทนายความถามว่าเบอร์โทรศัพท์ของเลขาฯนายกนี้อากงรู้ไหมว่าเป็นเบอร์ของใคร
“ผมไม่รู้ครับ” อากงตอบฉะฉานเช่นเดิม

แล้วทนายก็มีคำถามที่เราไม่ได้เตรียมร่วมกันมาก่อน โดยเอาข้อความที่ถูกฟ้อง ซึ่งเป็นถ้อยคำหยาบคายมาเปิดให้แกดู ทนายพูนสุข ถามอากงว่า “พยานเห็นข้อความนี้แล้วรู้สึกอย่างไร”

อากงตอบไม่ฉะฉานแล้ว เสียงแกสั่นเครือ “ผมเสียใจมากครับ ... ก็เค้าด่าในหลวง” มองจากข้างหลังเห็นคอแกแดงก่ำ แกร้องไห้ นาทีนั้นทั้งห้องเงียบกริบ

ทนายบอกว่า ใจเย็นๆ ค่ะ แล้วพยานมีความรู้สึกอย่างไรต่อในหลวงคะ?

“ผมรักในหลวงครับ” อากงยังร้องไห้อยู่ ตอบเต็มปากเต็มคำอย่างช้าๆ

หลังจากนั้นอากงยังเล่าให้ศาลฟังว่า ตอนในหลวงป่วยก็ไปเยี่ยมที่ศิริราช เคยไปลงนามถวายพระพร ไปร่วมงานเฉลิม และ “งานที่วางดอกไม้จันทร์ ผมก็ไป” อากงเสียใจมากที่ถูกฟ้องคดีนี้เพราะอากงรักในหลวง ตลอดการกล่าวถึงประวัติของแกกับสถาบันฯ คนแก่อายุ 61 ยังคงร้องไห้ต่อหน้าบัลลังก์ศาลและต่อหน้าทุกคน ถ้าอากงกำลังโกหก นักแสดงฮอลลีวู้ดรางวัลออสการ์คงต้องกลับมาให้อากงสอนใหม่

ผมเห็นสีหน้าของศาลอ่อนโยนลงบ้าง ศาลผู้หญิงยกมือขึ้นปิดปาก อัยการรุ่นใหม่ 3 คนที่ก่อนหน้านี้ยังทำเสียงดุขู่ทนายจำเลยนั่งซุบซิบกันด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงความเป็นมนุษย์ ช่วงระยะเวลาหนึ่งผมเริ่มบกพร่องในหน้าที่ ตาผมเริ่มฝ้าฟาง สมาธิหลุดและไม่ค่อยได้ฟังการสืบพยาน

“กลั้นเองๆ อย่าเอาทิชชู่เช็ด” พี่หน่อย พรเพ็ญ ที่นั่งติดกันกระซิบบอกผม ขณะที่แกก็นั่งก้มหน้าอยู่เหมือนกัน น้องข้างหลังสะกิดขอทิชชู่ผมสักแผ่นแต่ผมไม่ได้ยิน เพราะผมไม่กล้าหันไปมองกองเชียร์ที่อ่อนไหวข้างหลังนั่น ทนายความหันมายิ้ม ให้กับหมู่กองเชียร์ สักพักน้องอีกคนวิ่งหนีออกไปจัดการความรู้สึกนอกห้องพิจารณา ก้อนความรู้สึกที่พุ่งเข้ามาปะทะกับความเป็นมนุษย์ของคนกว่า 30 ชีวิตในนาทีนั้นคงไม่ต่างกัน

อากงเบิกความจบอย่างรวดเร็วมาก เพราะไม่ได้มีประเด็นข้อต่อสู้อะไรนอกจาก “ผมไม่ได้ทำครับ”
และ “ผมไม่รู้ครับ” อากงลุกขึ้นยกมือไหว้ศาลทั้งสามคนที่อายุรวมกันแล้วคงไม่มากกว่าอายุของแกนัก บอกว่า “ขอบคุณมากครับ” แกยังเชื่อมั่นของแกเสมอ หลานๆ วิ่งเข้าไปคุกเข่ากอดอากง (ในห้องพิจารณาคดีถ่ายรูปไม่ได้) ศาลนัดฟังคำพิพากษา 23 พฤศจิกายนนี้

ก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะพาอากงขึ้นรถกลับไปยังเรือนจำ อากงเดินเข้าไปไหว้ลาอัยการอายุรุ่นราวคราวลูก บอกว่า “ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ” อากงยกมือไหว้กองเชียร์ที่ไม่เคยรู้จักกัน ไหว้ผมด้วย ป๊าอุ๊ก็ไหว้ผม ก่อนอากงจะเดินอย่างเชื่องช้าไปไหว้ทนายทั้งสามคนที่อายุรวมกันแล้วคงไม่มากกว่าอายุของแกนักเช่นกัน

หลานๆ เดินไปส่งแกถึงประตูทางลงไปยังห้องขังใต้ถุนศาล ผมแอบถ่ายรูปไว้ เพื่อให้ดราม่าเพิ่มขึ้น

ปริศนาของคดีนี้ยังไม่มีใครรู้ความจริง ใครเป็นคนส่งข้อความ? ส่งทำไม? และทำไมหลักฐานถึงโยงมาว่าเป็นอากง? ทนายความได้ใช้ความเป็นมนุษย์เข้าต่อสู้กับหลักฐานทางคอมพิวเตอร์อย่างดีที่สุดแล้ว มีคนคนเดียวที่รู้คำตอบนี้นั่นคือ ตัวอากงเอง และวันนี้อากงได้ใช้โอกาสเดียวที่มีบอกความจริงกับโลกแล้ว

[เพื่อนร่วมชาติ]

ไม่ใช่หมิ่น แต่เป็นคำอาฆาตมาดร้ายครับ
กรณีนี้ชัดเจนมาก เท่าที่ทราบแดงที่ทราบรายละเอียดจริงๆบางคนถอยเลย ไม่ยุ่งเรื่องนี้

สังเกตจากทนายได้ ไม่ใช่คณะของที่แดงทั่วไปใช่กัน ศาลตั้งให้

อืมม ไม่ได้ติดตามข่าวนี้ มาก่อน ครับ

แค่เห็นในกระทู้ ก็เลยสงสัย..เลยถาม



ถ้าเป็นการ ขู่อาฆาตมาตร้ายเอาชีวิต กันจริงๆ..ก็คงเป็นเรื่องความผิดส่วนบุคคคล ผิดก็ว่ากันไปผิดตามข้อกฏหมาย

ในชั้นศาล เขาคงดูประวัติ ภูมิหลัง นิสัยใจคอ ฟฤติกกรรม มาประกอบ วัยตั้ง61จะมีเรี่ยวแรงจากไหน เดินยังจะไม่ไหว ... ถ้าชายฉกรรน จิตใจประวัติพฤติกรรมโหด***มใจโหดนั่นก็อีกเรื่อง



งัยก็ ค่อยดูกันต่อไปในรายละเอียด ถ้ามีเวลา

อะ เอาข่าวอาชญากรรมไปอ่านมั่ง

ตร.โคราชรวบ “เฒ่า” ฆ่าโหดเมีย 71 ปี ยัดอ่างห้องน้ำอำพรางคดี

เวลาให้เหตุผลควาย ๆ นี่เคยอายบ้างมั้ย

[Bookmarks]

ทำไมผมไม่เชื่ออากงก็ไม่รู้สิ เพราะอากง เคยไปร่วมชุมนุมกับเสื้อแดง คนจะติดคุก ก็ต้องร้องไห้ครับ ด้วยความกลัว ถ้าอากงบอกว่า เลี้ยงหลาน ทำไมมีเวลาไปชุมนุมกับเสื้อแดง อากงมีโทรศัพท์ใช้ อากงจะใช้โทรศัพท์ไม่เป็นเลยหรือ
รับทำงาน งานนี้ ได้เงินมาใช้สบายๆ แค่ดราม่าหน่อย ข้อความใน sms ไม่จำเป็นต้องอากงเป็นคนเขียน มีคนเขียนมา แล้วส่งให้อากง อากงก็ส่งต่อ

[ลุงแฉ่มเอง]

ถ้าแกทำจริง ก็สมควรที่จะต้องรับโทษ แต่...แต่...ถ้าแกไม่ได้ทำระ........

[Bookmarks]

การแก้ตัวของอากง มันไม่เนียน ตรงที่บอกว่า เอามือถือไปซ่อมนี่แหละ แล้วบอกว่า จำไม่ได้ว่าซ่อมที่ไหน
เรื่องของเรื่อง อากง โดนพวกเสื้อแดงด้วยกัน หลอกให้เกลียดชังสถาบัน และอีกอย่างจะบอกอากงว่า อากงผิดเอง ที่อากงไปอยุ่ในกลุ่มของคนชั่วเสื้อแดง อากงเลยถูกใช้เป็นเครื่องมือ ถ้าจะมีคนกลั่นแกล้งอากง ก็เป็นคนเสื้อแดงด้วยกันนั่นแหละ คนที่อากงไปร่วมชุมนุมด้วยนั่นแหละ อากง จำไว้
และเสื้อแดง ที่โง่ๆ แบบอากง หลงไปอยู่ในหมู่คนชั่ว ผลของการไปอยู่ในหมู่คนชั่ว แล้วเป็นไง อากงถ้าไม่โดนเสื้อดำมันยิงตาย อากงก็ได้รับโทษ 20 ปี

[พิฆาตอสูร]

ไม่ใช่หมิ่น แต่เป็นคำอาฆาตมาดร้ายครับ
กรณีนี้ชัดเจนมาก เท่าที่ทราบแดงที่ทราบรายละเอียดจริงๆบางคนถอยเลย ไม่ยุ่งเรื่องนี้

สังเกตจากทนายได้ ไม่ใช่คณะของที่แดงทั่วไปใช่กัน ศาลตั้งให้

อืมม ไม่ได้ติดตามข่าวนี้ มาก่อน ครับ

แค่เห็นในกระทู้ ก็เลยสงสัย..เลยถาม



ถ้าเป็นการ ขู่อาฆาตมาตร้ายเอาชีวิต กันจริงๆ..ก็คงเป็นเรื่องความผิดส่วนบุคคคล ผิดก็ว่ากันไปผิดตามข้อกฏหมาย

ในชั้นศาล เขาคงดูประวัติ ภูมิหลัง นิสัยใจคอ ฟฤติกกรรม มาประกอบ วัยตั้ง61จะมีเรี่ยวแรงจากไหน เดินยังจะไม่ไหว ... ถ้าชายฉกรรน จิตใจประวัติพฤติกรรมโหด***มใจโหดนั่นก็อีกเรื่อง



งัยก็ ค่อยดูกันต่อไปในรายละเอียด ถ้ามีเวลา

คิดถึงคำว่า
"ข้างๆ คูๆ"

[ปกติทำแต่งาน]

ทำไมผมไม่เชื่ออากงก็ไม่รู้สิ เพราะอากง เคยไปร่วมชุมนุมกับเสื้อแดง คนจะติดคุก ก็ต้องร้องไห้ครับ ด้วยความกลัว ถ้าอากงบอกว่า เลี้ยงหลาน ทำไมมีเวลาไปชุมนุมกับเสื้อแดง อากงมีโทรศัพท์ใช้ อากงจะใช้โทรศัพท์ไม่เป็นเลยหรือ
รับทำงาน งานนี้ ได้เงินมาใช้สบายๆ แค่ดราม่าหน่อย ข้อความใน sms ไม่จำเป็นต้องอากงเป็นคนเขียน มีคนเขียนมา แล้วส่งให้อากง อากงก็ส่งต่อ

ผมหาไม่เจอว่าอากงเคยไปชุมนุมเสื้อแดง

[Bookmarks]

ทำไมผมไม่เชื่ออากงก็ไม่รู้สิ เพราะอากง เคยไปร่วมชุมนุมกับเสื้อแดง คนจะติดคุก ก็ต้องร้องไห้ครับ ด้วยความกลัว ถ้าอากงบอกว่า เลี้ยงหลาน ทำไมมีเวลาไปชุมนุมกับเสื้อแดง อากงมีโทรศัพท์ใช้ อากงจะใช้โทรศัพท์ไม่เป็นเลยหรือ
รับทำงาน งานนี้ ได้เงินมาใช้สบายๆ แค่ดราม่าหน่อย ข้อความใน sms ไม่จำเป็นต้องอากงเป็นคนเขียน มีคนเขียนมา แล้วส่งให้อากง อากงก็ส่งต่อ

ผมหาไม่เจอว่าอากงเคยไปชุมนุมเสื้อแดง

ข่าวออกมา ตอนที่โดนจับใหม่ๆ ก็มีบอกครับ ว่าอากงเคยไปร่วมชุมนุมกับเสื้อแดง และถ้าอ่านบทความดราม่าของเสื้อแดงที่คุณ turbora เอามาให้ ก็บอกครับ ว่าเคยไปชุมนุมกับเสื้อแดงมา

[Bookmarks]

ดูจากบทความดราม่าของพวกเสื้อแดงแล้ว พยายามเหลือเกินจะให้คนเค้าเห็นใจ อากงคนนี้ ยังไงผมว่า อากงคนนี้ถูกหลอกใช้ให้เป็นเครืองมือของพวกมัน ถ้าอากงโดนจับติดคุก ก็จำไว้ว่า อากง โดนพวกเสื้อแดงทำร้ายเข้าให้แล้ว แต่ดูจากการแก้ตัวแล้ว อากงคงแก้ตัวไม่ขึ้น เพราะอากงบอกว่า อากง เอามือถือไปซ่อม แล้วจำไม่ได้ว่าร้านไหน มันแ้ก้ตัวไม่ขึ้นเลยจริงๆ ผมเชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า อากงไม่ได้โง่ และอากงก็ชอบการเมืองมากพอสมควร ไม่งั้นอากง คงไม่ไปร่วมชุมนุมกับเค้าหรอก ใช่มั้ย อากง
คนจะไปร่วมชุมนุม ไม่ใช่ใครก็อยากจะไป ต้องมีใจรักพอสมควรนะ อากง

[ไทยทรนง]

ถ้าจะพูดกันตามจริง ระดับการลงโทษ สูงเกินไปเกินความเหมาะสม และความเป็นจริง... เผลอๆ จะดูหนักกว่า คดีฆ่าคนตายซะอีก

นี่คือข้อหน้าห่วง ที่ฝรั่ง ต่างชาติ จับตา ประเทศไทย อย่างแปลกๆในเรื่องนี้?

ทั้งหมด 4 กระทงๆละ5ปี แหกตาดูด้วย ในความเป็นจริงคดีลักษณะนี้ติดแผลบเดียวก็ออกแล้ว

[royalist]

ผมว่าซาอุ ก็น่าจะมีนะครับกฎหมายนี้ โทษน่าจะหนักกว่าบ้านเราเยอะด้วย

[แตงดุ๊ด]

เห็นใจคุณลุงเหลือเกิน น้องแตงขอบริจาควาสลีนให้คุณลุงไปใช้ในคุกคะ

ย่างเข้าหน้าหนาวแล้ว ทากันริมฝีปากแห้งแตกได้นะคะคุณลุง

ปล. มีความสุขในคุกมากๆนะคะ

[ramboboy26]

ยังเหลือสมเจียมกะใจรัญ ถ้าฟันไอ้สองสถุนนี่ได้กระแสมันจะวายไปเอง

[Bomber_Man]

โคตรจะสมน้ำหน้า หวังว่า ไอ้อนุดิษฐ์ มันจะทำหน้าที่ของมันเป็นไปได้ด้วยดีตลอดไปนะ

[ดราม่า]

ถ้าจะพูดกันตามจริง ระดับการลงโทษ สูงเกินไปเกินความเหมาะสม และความเป็นจริง... เผลอๆ จะดูหนักกว่า คดีฆ่าคนตายซะอีก

นี่คือข้อหน้าห่วง ที่ฝรั่ง ต่างชาติ จับตา ประเทศไทย อย่างแปลกๆในเรื่องนี้?

แล้วมีใครเคยตายเพราะข้อหานี้บ้างป่าวว๊ะ ในรัชกาลปัจจุบัน

ส่วนมากคนที่ติดคุกด้วยมาตรา112 ติดคุกไม่กี่เดือนก็ได้พระราชทางอภัยโทษออกมา

[ramboboy26]

ถ้าจะพูดกันตามจริง ระดับการลงโทษ สูงเกินไปเกินความเหมาะสม และความเป็นจริง... เผลอๆ จะดูหนักกว่า คดีฆ่าคนตายซะอีก

นี่คือข้อหน้าห่วง ที่ฝรั่ง ต่างชาติ จับตา ประเทศไทย อย่างแปลกๆในเรื่องนี้?

แล้วมีใครเคยตายเพราะข้อหานี้บ้างป่าวว๊ะ ในรัชกาลปัจจุบัน

ส่วนมากคนที่ติดคุกด้วยมาตรา112 ติดคุกไม่กี่เดือนก็ได้พระราชทางอภัยโทษออกมา

ขนาดหนักแล้วยังมีคนอยากลองดี ถ้าไม่หนักจะขนาดไหน
อีกอย่างถ้าไม่ยุ่งไว่วุ่นวายไม่หมิ่นก็ไม่มีใครเอากฏหมายข้อนี้มาเล่นงานคุณได้ แล้วจะกลัวไปทำไม

[อู๋ ฮานามิ]

ผมว่าซาอุ ก็น่าจะมีนะครับกฎหมายนี้ โทษน่าจะหนักกว่าบ้านเราเยอะด้วย

ตรงนี้ผมไม่ทราบ แต่ของเขานี่ แค่ลักขโมยก็ถึงขั้นตัดข้อมือครับ

กฎหมายแต่ละประเทศมีการนำวัฒนธรรม ศาสนา มาใช้ด้วย บางประเทศก็มีบทลงโทษรุนแรง พวกที่มองโลกสวยรับไม่ได้แน่นอน

[An.mkII]

การที่ อากง จะผิดหรือ ไม่ ถูกกลั่นเเกล้งใส่ความหรือไม่ มันไม่เกี่ยวกะ ม. 112 หรือ สถาบัน เเต่มันเกี่ยวข้องกะ ผู้ดำเนินคดี ก็คือ ตำรวจ ที่เหล่าหางเเดงเชียร์กันนักกันหนา

ดังนั้น ใครที่จะเอากรณี นี้มาเป็นดราม่า ปั่นกระเเส ให้คนไม่ชอบสถาบัน ให้ยกเลิก ม.112 ผมว่า มันโคตรจะงี่เง่า เเละ ไอ้คนที่หลงเชื่อ ก็งี่เง่าเช่นกัน

[MOD X]

ถ้าจะพูดกันตามจริง ระดับการลงโทษ สูงเกินไปเกินความเหมาะสม และความเป็นจริง... เผลอๆ จะดูหนักกว่า คดีฆ่าคนตายซะอีก

นี่คือข้อหน้าห่วง ที่ฝรั่ง ต่างชาติ จับตา ประเทศไทย อย่างแปลกๆในเรื่องนี้?

อย่าเอาแต่ท่องจำครับกรุณาดูข้อเท็จจริงประกอบด้วยนะครับ

[Solidus]

ถ้าจะพูดกันตามจริง ระดับการลงโทษ สูงเกินไปเกินความเหมาะสม และความเป็นจริง... เผลอๆ จะดูหนักกว่า คดีฆ่าคนตายซะอีก

นี่คือข้อหน้าห่วง ที่ฝรั่ง ต่างชาติ จับตา ประเทศไทย อย่างแปลกๆในเรื่องนี้?

แล้วมีใครเคยตายเพราะข้อหานี้บ้างป่าวว๊ะ ในรัชกาลปัจจุบัน

ส่วนมากคนที่ติดคุกด้วยมาตรา112 ติดคุกไม่กี่เดือนก็ได้พระราชทางอภัยโทษออกมา

ขนาดหนักแล้วยังมีคนอยากลองดี ถ้าไม่หนักจะขนาดไหน
อีกอย่างถ้าไม่ยุ่งไว่วุ่นวายไม่หมิ่นก็ไม่มีใครเอากฏหมายข้อนี้มาเล่นงานคุณได้ แล้วจะกลัวไปทำไม

อ้างว่าโทษสูงไปให้ลดลงเหลือไม่เกิน 7 ปี แต่นี่โดนแค่ 5 ปีเองนี่ครับมันก็ไม่เกิน 7 ปีอยู่ดี แต่ดันโดนหลายกระทงเอง
แล้วฉ้อโกงประชาชน 1254 กระทงที่มีโทษจำคุกรวม 5270 ปี อันนี้หนักกว่าฆ่าคนตายไหมล่ะครับ

[kennn]

คนไทยชอบละครครับ ดราม่ามากๆ จะใจอ่อนกับละครตบตาทันที่

[pinkpanda]

ถ้าจะพูดกันตามจริง ระดับการลงโทษ สูงเกินไปเกินความเหมาะสม และความเป็นจริง... เผลอๆ จะดูหนักกว่า คดีฆ่าคนตายซะอีก

นี่คือข้อหน้าห่วง ที่ฝรั่ง ต่างชาติ จับตา ประเทศไทย อย่างแปลกๆในเรื่องนี้?

ไปอยู่ที่มอนเตรเนโกรสิคะ

[kennn]

ลองดูอันนี้กันด้วยครับพอดีไปเจอมา http://blogazine.in....t/3310#comments


เขียนให้อากงSMS ทนาย และกองเชียร์ (ขี้เกียจตั้งชื่อ)

30 กันยายน, 2011 - 22:37 | โดย groomgrim


30 กันยายน 2554 ณ ห้องพิจารณาคดี 801 ศาลอาญารัชดาผมบอกตัวเองว่าถ้านานๆ ได้ร้องไห้กับเรื่องราวของคนอื่นบ้างอาจทำให้ชีวิตตัวเองชุ่มชื้นมากขึ้น เวลาดูหนังซึ้งๆ เราก็ร้องไห้ได้ ดังนั้น หากเป็นเรื่องจริงที่หนักหนากว่าในหนังมากปรากฏอยู่ตรงหน้า การเสียน้ำตาบ้างคงไม่ตุ๊ดเกินไป

ผมติดตามคดี “อากง SMS” มาสักระยะในฐานะที่เป็นคดีมาตรา 112 ที่ดราม่าที่สุดคดีหนึ่ง ซึ่งผมมักจะใช้เล่ายกตัวอย่างให้กับคนที่ไม่เข้าใจปัญหาการบังคับใช้กฎหมายอาญามาตรา 112 หรือกฎหมายหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ได้ฟัง
คนที่เราเรียกว่า “อากง” หรือ นายอำพล (ขอสงวนนามสกุล) ถูกจับเมื่อกลางปี 2553 หลังเหตุการณ์การชุมนุมของเสื้อแดงได้ไม่นาน เป็นคดีผลงานคดีเดียวที่ตำรวจไล่จับตามที่อ้างว่าพวกเสื้อแดงมีขบวนการหมิ่นฯ ล้มล้างสถาบันฯ และออกแถลงข่าวใหญ่โต ข้อหาคือการส่งSMS เข้ามือถือเลขาฯนายกรัฐมนตรี เป็นข้อความผิดกฎหมาย 4 ข้อความ ซึ่งแอบดูมาเห็นว่าหนักทีเดียว เป็นข้อความที่แรงและหยาบคายที่สุดสำหรับการฟ้องร้องคดีหมิ่นฯ ทั้งในยุคนี้และยุคก่อน
คดีนี้มีชื่อเสียง นอกจากจะเพราะตำรวจแถลงข่าวใหญ่โตแล้ว ยังมีเรื่องราวเป็นนัยน่าสนใจมากมายเพราะอากงเป็นคนแก่ที่ไม่ได้ถนัดเทคโนโลยี แกบอกว่าแกไม่เคยส่ง SMS แกส่งไม่เป็น อากงไม่ได้ประกันตัว แกมีโรคประจำตัวและแกก็เครียดจนไม่สบายหนักในช่วงที่โดนจับใหม่ๆ งานของผมบังคับให้ผมต้องติดตามคดีนี้ ทั้งที่หากผมประกอบอาชีพอื่นและนอนดูทีวีอยู่บ้านผมก็อาจจะนึกสาปแช่งอากงไปแล้ว ไม่ต่างจากที่หลายๆ คนอาจเคยทำ

ผมไม่เคยรู้จักอากงมาก่อน รู้ตามสื่อว่าแกเคยไปชุมนุมกับเสื้อแดง และเสื้อเหลืองแกก็ไปร่วมกับเขาเหมือนกัน ผมเคยเข้าเยี่ยมอากงในคุก 1 ครั้ง ไปกับคนอื่นแบบไม่ได้ตั้งใจ คุยกับอากงไม่กี่คำก็สามารถเชื่อเหมือนที่หลายๆ คนเชื่อได้ ผมเห็นอากงซึ่งเป็นคนแก่ อายุ 61 ปี แม้จะไล่ๆ กับแม่ผม แต่แกดูแก่มาก เดินช้า หลังค่อม ผมขาว สายตาฝ้าฟาง พูดจาสุภาพกับทุกคน พูดภาษาไทยไม่ชัดติดสำเนียงจีน แกเหมือนชาวบ้านที่ใส่ซื่อ ยากจนและหวาดกลัว แกยิ้มแย้มอย่างมีกำลังใจเสมอเมื่อพบคนที่มาเยี่ยม แต่ข่าวทุกสายบอกว่าอากงไม่สบายและก็แอบนอนร้องไห้บ่อยๆ ในห้องกรง

อากงไม่รู้เรื่องอะไรเลย แกบอกว่าไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่งข้อความ ไม่รู้ว่าทำไมตำรวจมีหลักฐานทางคอมพิวเตอร์โยงมายังมือถือของแกได้ ไม่รู้จักเบอร์โทรศัพท์ที่ส่งถึง ไม่รู้ๆๆๆๆ รู้แต่ว่าไม่ได้ทำ ทีมทนายความก็ไม่รู้จะตั้งประเด็นในการต่อสู้คดีอย่างไร ที่จริงทีมทนายไม่รู้ด้วยว่าความเป็นจริงเป็นอย่างไร อัยการก็ไม่รู้ ตำรวจที่มาเบิกความก็ไม่รู้ ศาลก็ไม่รู้ ผมเองก็ไม่รู้ ... แต่เรารู้ว่าต่อให้แกทำจริง ก็เป็นการเกินไปที่คนอย่างแกต้องเผชิญหน้ากับโทษจำคุกสูงสุดหกสิบปีเพียงลำพัง

หลังอัยการส่งฟ้อง ศาลอ่านข้อความที่ถูกฟ้องแล้วคงรู้สึกไม่ต่างจากคนไทยหลายต่อหลายคนจึงสั่งไม่ให้ประกันตัว อากงนอนอยู่ในห้องขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ รวมแล้วเกือบหนึ่งปี ก่อนจะได้รับการพิจารณาความถูกผิด และในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกันยายน 2554 สายตาจำนวนมากก็จดจ้องมาที่บัลลังก์พิจารณาคดีของศาลอาญา

ตามบันทึกการประชุม ในฐานะสมาชิกเครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนผมอยู่ในคดีนี้ด้วย แต่ไม่ได้รับผิดชอบเต็มๆ ผมเพิ่งได้เข้าร่วมประชุมกับทีมทนายความในช่วงใกล้ๆ วันสืบพยานทำให้เห็นว่างานนี้ไม่ง่าย หลายคนอาจรู้สึกว่าคดีนี้ไร้สาระทีเดียว เพราะไม่มีทางมีใครเห็นอากงหยิบโทรศัพท์มากดส่ง SMS ไปเบอร์นั้นเบอร์นี้ แต่เมื่อตำรวจนำส่งหลักฐานเป็นข้อมูลการใช้โทรศัพท์จากผู้ให้บริการ ขณะที่อากงก็ไม่รู้อย่างเดียว ไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้เพื่อต่อสู้ ไม่มีนิทานชักใยถึงตัวผู้กระทำผิดจริงมาบอกศาล คดีนี้จึงหินโคตรๆ

ทนายความอายุน้อยทั้งสามคนที่มีแต่ใจไม่มีความรู้อะไรพยายามเปิดประเด็นต่อสู้เรื่องหลักฐานทางเทคโนโลยีในวันแรกๆ แต่ก็โดนตอกกลับจากพยานฝั่งโจทก์ซึ่งเป็นคนจากDTAC True และตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่เตรียมกันมาอย่างดี ประกอบกับเมื่อผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายได้ยินว่าเป็นคดีหมิ่นฯ ก็ไม่มีใครกล้ามาเบิกความเป็นพยานเข้าข้างจำเลย พยานหลักฐานชิ้นสำคัญที่สุดที่ฝั่งจำเลยมีอยู่ คือ ตัวอากงเอง บุคลิกสุภาพ ยิ้มแย้มกับความใสซื่อของคนแก่ที่สุขภาพไม่แข็งแรงอาจเป็นสิ่งเดียวที่ยืนยันได้ว่า แกทำความผิดที่ร้ายแรงขนาดนี้หรือไม่

30 กันยายน 2554 ห้องพิจารณาคดี 801 ศาลอาญารัชดา เวลา 9.00 น. เป็นวันที่อากงจะขึ้นเบิกความต่อศาลเอง หลังจากที่พยานหลักฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยีและกระบวนการสืบสวนที่อากงฟังไม่เข้าใจได้ถูกนำสืบไปหมดแล้ว

ผมรู้ว่าผมเป็นคนอินกับอะไรค่อนข้างง่าย และก็ชอบ dramaticise ข้อเท็จจริงให้ emotional มากขึ้น แต่เรื่องราวของคดีนี้มันดราม่ามาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว และก็ดราม่าในวันสืบพยานทุกวันที่อากงแกจะนั่งมองศาลอย่างเหม่อลอย และร้องไห้กอดกับหลานๆ ก่อนถูกนำตัวกลับเรือนจำ

วันนี้ กองเชียร์เข้ามาเต็มห้อง ส่วนหนึ่งเป็นนักกฎหมายสิทธิเพื่อนๆ ทีมทนาย ส่วนหนึ่งเป็นนักข่าว ส่วนหนึ่งเป็นคนเสื้อแดงที่ไม่ได้รู้จักอะไรกับอากงมาก่อน ป๊าอุ๊ ภรรยาสุดรักที่อากงเรียกว่า “แฟนผม” และหลานๆ 4-5 คนที่อากงเลี้ยงมาเองกับมือ

อากงเริ่มเรื่องให้มันดราม่าตอนที่สาบานตัว และแกมองไม่เห็นแผ่นคำสาบานจึงต้องให้ทนายอ่านให้ เมื่อศาลถามชื่อ ที่อยู่ และถามอาชีพ แกก็ตอบเต็มปากเต็มคำ “เลี้ยงหลานครับ” สร้างเสียงฮาปนสะเทือนใจให้กับกองเชียร์ ก่อนแกอธิบายว่าเคยขับรถขนส่งแต่สุขภาพไม่ดีเลิกทำงานมาสิบกว่าปีแล้ว จึงมีหน้าที่เลี้ยงหลาน ไปส่ง ไปรับ ไปโรงเรียน

อากงตอบคำถามอย่างฉะฉาน ด้วยสำเนียงไทยปนจีน เล่าถึงชีวิตประจำวันแก ประวัติการใช้มือถือ เมื่อถามว่าบ้านที่แกอยู่เป็นยังไง คือ ทนายตั้งใจจะให้บอกว่าอยู่กันหลายคน แกก็มองรอบๆ ทำหน้างงๆ แล้วตอบว่า “ประมาณครึ่งนึงของห้องนี้” (ห้องพิจารณาคดี 801) พร้อมทำมือประกอบ

ทนายความถามแกไปตามสูตรที่เตรียมมา ถามว่ากรณีที่ถูกฟ้องนี้แกทำจริงหรือเปล่า
“ผมไม่ได้ทำครับ” อากงเงยหน้ามองศาล พูดอย่างฉะฉาน

ทนายความถามว่าเบอร์โทรศัพท์ของเลขาฯนายกนี้อากงรู้ไหมว่าเป็นเบอร์ของใคร
“ผมไม่รู้ครับ” อากงตอบฉะฉานเช่นเดิม

แล้วทนายก็มีคำถามที่เราไม่ได้เตรียมร่วมกันมาก่อน โดยเอาข้อความที่ถูกฟ้อง ซึ่งเป็นถ้อยคำหยาบคายมาเปิดให้แกดู ทนายพูนสุข ถามอากงว่า “พยานเห็นข้อความนี้แล้วรู้สึกอย่างไร”

อากงตอบไม่ฉะฉานแล้ว เสียงแกสั่นเครือ “ผมเสียใจมากครับ ... ก็เค้าด่าในหลวง” มองจากข้างหลังเห็นคอแกแดงก่ำ แกร้องไห้ นาทีนั้นทั้งห้องเงียบกริบ

ทนายบอกว่า ใจเย็นๆ ค่ะ แล้วพยานมีความรู้สึกอย่างไรต่อในหลวงคะ?

“ผมรักในหลวงครับ” อากงยังร้องไห้อยู่ ตอบเต็มปากเต็มคำอย่างช้าๆ

หลังจากนั้นอากงยังเล่าให้ศาลฟังว่า ตอนในหลวงป่วยก็ไปเยี่ยมที่ศิริราช เคยไปลงนามถวายพระพร ไปร่วมงานเฉลิม และ “งานที่วางดอกไม้จันทร์ ผมก็ไป” อากงเสียใจมากที่ถูกฟ้องคดีนี้เพราะอากงรักในหลวง ตลอดการกล่าวถึงประวัติของแกกับสถาบันฯ คนแก่อายุ 61 ยังคงร้องไห้ต่อหน้าบัลลังก์ศาลและต่อหน้าทุกคน ถ้าอากงกำลังโกหก นักแสดงฮอลลีวู้ดรางวัลออสการ์คงต้องกลับมาให้อากงสอนใหม่

ผมเห็นสีหน้าของศาลอ่อนโยนลงบ้าง ศาลผู้หญิงยกมือขึ้นปิดปาก อัยการรุ่นใหม่ 3 คนที่ก่อนหน้านี้ยังทำเสียงดุขู่ทนายจำเลยนั่งซุบซิบกันด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงความเป็นมนุษย์ ช่วงระยะเวลาหนึ่งผมเริ่มบกพร่องในหน้าที่ ตาผมเริ่มฝ้าฟาง สมาธิหลุดและไม่ค่อยได้ฟังการสืบพยาน

“กลั้นเองๆ อย่าเอาทิชชู่เช็ด” พี่หน่อย พรเพ็ญ ที่นั่งติดกันกระซิบบอกผม ขณะที่แกก็นั่งก้มหน้าอยู่เหมือนกัน น้องข้างหลังสะกิดขอทิชชู่ผมสักแผ่นแต่ผมไม่ได้ยิน เพราะผมไม่กล้าหันไปมองกองเชียร์ที่อ่อนไหวข้างหลังนั่น ทนายความหันมายิ้ม ให้กับหมู่กองเชียร์ สักพักน้องอีกคนวิ่งหนีออกไปจัดการความรู้สึกนอกห้องพิจารณา ก้อนความรู้สึกที่พุ่งเข้ามาปะทะกับความเป็นมนุษย์ของคนกว่า 30 ชีวิตในนาทีนั้นคงไม่ต่างกัน

อากงเบิกความจบอย่างรวดเร็วมาก เพราะไม่ได้มีประเด็นข้อต่อสู้อะไรนอกจาก “ผมไม่ได้ทำครับ”
และ “ผมไม่รู้ครับ” อากงลุกขึ้นยกมือไหว้ศาลทั้งสามคนที่อายุรวมกันแล้วคงไม่มากกว่าอายุของแกนัก บอกว่า “ขอบคุณมากครับ” แกยังเชื่อมั่นของแกเสมอ หลานๆ วิ่งเข้าไปคุกเข่ากอดอากง (ในห้องพิจารณาคดีถ่ายรูปไม่ได้) ศาลนัดฟังคำพิพากษา 23 พฤศจิกายนนี้

ก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะพาอากงขึ้นรถกลับไปยังเรือนจำ อากงเดินเข้าไปไหว้ลาอัยการอายุรุ่นราวคราวลูก บอกว่า “ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ” อากงยกมือไหว้กองเชียร์ที่ไม่เคยรู้จักกัน ไหว้ผมด้วย ป๊าอุ๊ก็ไหว้ผม ก่อนอากงจะเดินอย่างเชื่องช้าไปไหว้ทนายทั้งสามคนที่อายุรวมกันแล้วคงไม่มากกว่าอายุของแกนักเช่นกัน

หลานๆ เดินไปส่งแกถึงประตูทางลงไปยังห้องขังใต้ถุนศาล ผมแอบถ่ายรูปไว้ เพื่อให้ดราม่าเพิ่มขึ้น

ปริศนาของคดีนี้ยังไม่มีใครรู้ความจริง ใครเป็นคนส่งข้อความ? ส่งทำไม? และทำไมหลักฐานถึงโยงมาว่าเป็นอากง? ทนายความได้ใช้ความเป็นมนุษย์เข้าต่อสู้กับหลักฐานทางคอมพิวเตอร์อย่างดีที่สุดแล้ว มีคนคนเดียวที่รู้คำตอบนี้นั่นคือ ตัวอากงเอง และวันนี้อากงได้ใช้โอกาสเดียวที่มีบอกความจริงกับโลกแล้ว

ทำไมไม่มีฝ่ายเสื้อแดง และคนของรัฐบาลยื่นมือมาช่วยครับ มีอำนาจแล้วนี่ครับ ถ้าคิดว่าจับผิดคน หรือ ชายวัย 61 ไม่ได้กระทำผิด ร้องเรียนกระทรวงยุติธรรมก็ได้นี่ครับ ที่ทักษิณผิดเต็มๆยังจะช่วยเลย

[MI 6]

พิษของการถูกล้างสมอง เคยเห็นบางคนก่อนไปชุมนุมไม่มีความคิดรุนแรง

พอไปขุมนุม ถูกบรรยากาศปลุกเร้า ถูกเชื้อบ้าเข้าครอบงำ กลายเป็นคนรุนแรง

หวังว่าคงสำนึกได้นะลุง

[David_GinoLa]

ยังเหลือสมเจียมกะใจรัญ ถ้าฟันไอ้สองสถุนนี่ได้กระแสมันจะวายไปเอง

ขอไอ่ชูพงษ์ ถี่ถ้วนอีกตัวได้ป่ะ

[โคนัน]

ลองดูอันนี้กันด้วยครับพอดีไปเจอมา http://blogazine.in....t/3310#comments


ผมไม่เคยรู้จักอากงมาก่อน รู้ตามสื่อว่าแกเคยไปชุมนุมกับเสื้อแดง และเสื้อเหลืองแกก็ไปร่วมกับเขาเหมือนกัน

อากง เป็นไอ้เหวงเหรอฮ่ะ ไปทั้งม๊อบเสื้อเหลือง และเสื้อแดง เป็นม๊อบรับจ้างเหรอฮ่ะ งง ฮ่ะ

[RiDKuN_user]

คดียังไม่ถึงที่สุด ไม่อยากวิจารณ์
แต่ทำผิดก็ต้องโดนลงโทษ
ดรามาไม่เกี่ยว

[Ozymandias]

พิษของการถูกล้างสมอง เคยเห็นบางคนก่อนไปชุมนุมไม่มีความคิดรุนแรง

พอไปขุมนุม ถูกบรรยากาศปลุกเร้า ถูกเชื้อบ้าเข้าครอบงำ กลายเป็นคนรุนแรง

หวังว่าคงสำนึกได้นะลุง

จริงเลยครับ เพื่อนผม(เป็นผู้หญิง) ตอนแรกก็เป็นคนสุภาพดีครับ และเป็นคนไม่ได้สนใจเรื่องการเมือง เรียกว่าไม่ชอบดูข่าวอะไรเลยก็ว่าได้ ดูแต่ละครกับเล่นเน็ต ทำงานอยู่แถวที่ชุมนุม พอร้านที่ทำงานอยู่ปิดชั่วคราวเพราะชุมนุม เพื่อนผมก็ยังคุยกับผมเล่นๆว่าจะไปกินข้าวที่มันชุมนุมกันนั่นแหละเขาแจกข้าวฟรี มันขาดรายได้มันจะไปกินข้าวฟรี ผมก็ไม่ได้ห้ามเพราะช่วงนั้นยังไม่ส่อเค้ารุนแรงอะไรมากมาย และคิดว่าเพื่อนมันพูดเล่น เพื่อนผมไปได้3วันครับ พอมีข่าวว่าจะโดนสลายการชุมนุมเพื่อนผมก็กลับมาบ้านที่เชียงใหม่ เพราะงานที่ทำอยู่ก็ไม่รู้ว่าจะได้กลับไปทำเมื่อไหร่ พอกลับมาก็เห็นว่าเพื่อนเปลี่ยนไปชัดเจน เหมือนโดนล้างสมอง ปรกติเพื่อนผมเป็นคนเรียบร้อย ตอนเรียนด้วยกันเพื่อนก็ยังได้รางวัลมารยาทงามอยู่เลย แต่ตั้งแต่วันนั้น จนถึงตอนนี้ เพื่อนเปลี่ยนไป โดยที่ตัวเองไม่รู้ตัวเลย เรื่องการใช้ชีวิตต่างๆมันก็ปรกตินะครับ แต่ถ้ามีเรื่องอะไรที่มันจะโยงไปหาการเมืองได้ มันก็จะพูด พูดเหมือนกับโพสพวกแดงเอามาแปะในบอร์ดเป๊ะ แบบว่าท่องจำกันมาแบบนั้น และจะใส่ร้ายฝ่ายตรงข้ามโดยอ้างว่า เขาเล่าว่า ใครๆก็รู้ กะอ้างช่องเสื้อแดง ผมจนไม่อยากคุยกับมันถ้ามันวกเข้าการเมืองผมจะต้องเปลี่ยนเรื่องคุยตลอด แต่ยังดีหน่อยตรงเพื่อนผมไม่ได้พูดถึงในหลวงเลย หรือมันอาจคิดแต่ไม่พูดก็ไม่รู้ แต่ว่า มาร์ค กะ ปชป นี่แหละ เป้าหมายที่เพื่อนผมจะเกลียดเป็นพิเศษเลย ขนาดมาดูทีวีบ้านผม ตอนแรกดูอยู่ดีๆ ผมก็ไปสูบบุหรี่ที่ระเบียงได้ยินเสียง "ตึง" ผมก็วิ่งเข้าไปดูในห้อง ปรากฏว่ามันโดดถีบทีวีผมตกจากชั้นเลย ดีที่ทีวีไม่พัง มันบอกว่ามันจะเอาหัวแม่ตีนกดเปลี่ยนช่องทีวีเพราะว่ามาร์คออกทีวี รายการไรซักอย่างนี่แหละ แต่ผมว่ามันอ้างแน่ๆ ถ้ามันจะเปลี่ยนช่องมันทำไมไม่กดรีโมต และถ้าไม่ตั้งใจถีบทีวี มันไม่ตกจากชั้นวางหรอก ชั้นวางมีพื้นที่และทีวีผมออกจะหนัก นี่คืออาการของคนไปชุมนุมเสื้อแดงที่ผมเห็นมาครับ สรุปได้ว่ามันทำให้คนกลายเป็นบ้าได้จริงๆ

[korkang]

ถ้าจะพูดกันตามจริง ระดับการลงโทษ สูงเกินไปเกินความเหมาะสม และความเป็นจริง... เผลอๆ จะดูหนักกว่า คดีฆ่าคนตายซะอีก

นี่คือข้อหน้าห่วง ที่ฝรั่ง ต่างชาติ จับตา ประเทศไทย อย่างแปลกๆในเรื่องนี้?

ผมว่าโทษนี้..หนักกว่าฆ่าคนตาย..ซะอีก

โชคดีที่อากงเกิดยุคนี้ หากเป็นสมัย200ปีที่แล้ว คงประหารชีวิต 7 ชั่วโครตแล้วครับ

[Solidus]

ข้อมูลคดี

เมื่อวันที่ ๙,๑๑,๒๒ พ.ค.๒๕๕๓ เวลากลางวัน จำเลยใช้โทรศัพท์มือถือ หมายเลข ๐๘๑-๓๔๙xxxx พิมพ์ข้อความอันเป็นการจาบจ้วง ดูหมิ่นพระเกียรติยศด้วยถ้อยคำหยาบคายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และหมิ่นประมาทใส่ความให้ร้ายสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชิ นีนาถ แล้วจำเลยได้ส่งข้อความดังกล่าวไปยังโทรศัพท์มือถือที่มีหมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๑-๔๒๕xxxx ของนายสมเกียรติ ครองวัฒนสุข ขณะดำรงตำแหน่งเลขานุการส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ซึ่งเป็นบุคคลที่สาม เหตุเกิดที่แขวงสามเสนใน เขตพญาไท,แขวง-เขตดุสิต กทม.,ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จ.สมุทรปราการ เกี่ยวพันกัน ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐ มาตรา ๑๔(๒), (๓),ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒

บทลงโทษ

พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐
มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(๒) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
(๓) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็น ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตาม ประมวลกฎหมายอาญา

ประมวลกฎหมายอาญา
ลักษณะ1 ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร
มาตรา 112 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จ ราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี

เอาแค่ พรบ คอม อย่างเดียว 4 กระทง โทษรวมสูงสุดก็ถึง 20 ปีแล้วครับ

[Bookmarks]

ผมว่า อากง อย่าปฎิเสธเลย รับงานเค้ามาทำแน่ๆ มีคนจ้างวาน ชัวร์ ดราม่าเหลือเกิน

[Bayonet]

ลองดูอันนี้กันด้วยครับพอดีไปเจอมา http://blogazine.in....t/3310#comments


เขียนให้อากงSMS ทนาย และกองเชียร์ (ขี้เกียจตั้งชื่อ)

30 กันยายน, 2011 - 22:37 | โดย groomgrim


อากงเริ่มเรื่องให้มันดราม่าตอนที่สาบานตัว และแกมองไม่เห็นแผ่นคำสาบานจึงต้องให้ทนายอ่านให้

.....

แล้วทนายก็มีคำถามที่เราไม่ได้เตรียมร่วมกันมาก่อน โดยเอาข้อความที่ถูกฟ้อง ซึ่งเป็นถ้อยคำหยาบคายมาเปิดให้แกดู ทนายพูนสุข ถามอากงว่า “พยานเห็นข้อความนี้แล้วรู้สึกอย่างไร”

อากงตอบไม่ฉะฉานแล้ว เสียงแกสั่นเครือ “ผมเสียใจมากครับ ... ก็เค้าด่าในหลวง”

ผมก็ไม่รู้นะว่า แผ่นคำสาบานของศาลน่ะ ตัวหนังสือมันเล็กกว่า แผ่นข้อความ "ที่ถูกฟ้อง" ที่ทนายเอามาเปิดให้ดูมากน้อยแค่ไหน

แต่ จากการอ่านบทความนี้ .......... ยังสงสัยอยู่ว่า คนเขียนบทความจะเข้าข้ัางหรือจับผิดจำเลยกันแน่ เพราะสำนวนแปลก ๆ



...........................................

ไม่ใช่หมิ่น แต่เป็นคำอาฆาตมาดร้ายครับ
กรณีนี้ชัดเจนมาก เท่าที่ทราบแดงที่ทราบรายละเอียดจริงๆบางคนถอยเลย ไม่ยุ่งเรื่องนี้

สังเกตจากทนายได้ ไม่ใช่คณะของที่แดงทั่วไปใช่กัน ศาลตั้งให้

อืมม ไม่ได้ติดตามข่าวนี้ มาก่อน ครับ

แค่เห็นในกระทู้ ก็เลยสงสัย..เลยถาม
....

อะ เอาข่าวอาชญากรรมไปอ่านมั่ง

ตร.โคราชรวบ “เฒ่า” ฆ่าโหดเมีย 71 ปี ยัดอ่างห้องน้ำอำพรางคดี

เวลาให้เหตุผลควาย ๆ นี่เคยอายบ้างมั้ย

...... แถแทนไอ้แก่แดงตั้งหลาย quote

..... พอโดนต้อนด้วยข้อมูลหลักฐาน

...... ดัน ตึ่กโป๊ะ ...... บอก .."ไม่ได้ติดตามข่าวนี้ มาก่อน"

ผมเดาว่า เขาว์ คงไม่อายหรอกฮะ ...... เิพราะที่บ้านเขาว์อาจจะสอนกันมาแบบนี้

[halfmoon]

ตาลุงนี่ยังไม่ตาย พวกแดงมันไล่ให้ไปเกิดใหม่ ตลก มันคงคิดกันว่าแดงโง่อย่างนี้ควรจะตาย งั้นก็ไปเกิดใหม่ที่ปาปัว นิวกินี นะลุง

[nornoo]

เป็นอุทาหรณ์ไว้สำหรับ คนที่คิดชั่ว จำไว้นะอ้ายบัง มีหลายครั้งที่จับตาพวกหมิ่น และคุณคือตัวหนึ่งที่สมควรโดน ระวังให้ดี

[ชาวสวน]

คนเจ็บคนตายจากการชุมนุมที่ผิด ยังเอามาเป็นประเด็นได้จนถึงวันนี้

คนต้องโทษ 20 ปี คงเป็นประเด็นไปจนกว่า จะมีเรื่องราวใหม่ๆ

กรณีนี้ ม.๑๑๒ พวกนั้นเล่นกันได้อีกนาน อ้างไปเรื่อยว่ารุนแรงเกินไป โดยไม่ดูบริบทว่า ผิด

[Kyubey]

เรื่องอากงผมไม่ขอออกความเห็น แต่ผมขอออกความเห็นตรงที่...

พวกลัทธิเสื้อแดงมันเรียนตกประวัติศาสตร์ต่างประเทศหรือเปล่า?
กฏหมายหมิ่นมีอยู่ทุกประเทศที่มีกษัตริย์ครับ ไม่เว้นแม้แต่ญี่ปุ่น สเปน และสหราชอาณาจักร

ผมว่ากฏหมายหมิ่น 5 ปีถือว่าธรรมดานะถ้าเทียบกับต่างประเทศ
เพราะส่วนใหญ่กฏหมายต่างประเทศมีการลงโทษสูงอยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องที่ชาวต่างประเทศมาจับตาเรื่องนี้ ผมว่ามันไร้สาระมากครับ...

คำถามของผมคือจะให้แก้อะไร?

มาตรา 112 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จ ราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี
หมายเหตุมาตรา 12 แก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ.2519

ที่มา : http://www.kodmhai.c...m2-107-112.html

แก้ตรงที่โทษจำคุกสูงสุด 15 ปีน่าจะเหลือโทษสูงสุดเพียง 10 ปี?
แต่ตามปกติ เรื่องนี้มักได้รับพระราชทานอภัยโทษอยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องโทษหนักนี่ผมว่าตัดทิ้งไปได้เลย...

เออ...ผมแนะนำให้อ่านกระทู้นี้ด้วยครับ ผมเขียนไว้พอสมควร...
http://webboard.seri...opic/1721-มาตรา 112 แก้อย่างไร ไม่ให้เป็นอันตราย

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

ถ้าจะพูดกันตามจริง ระดับการลงโทษ สูงเกินไปเกินความเหมาะสม และความเป็นจริง... เผลอๆ จะดูหนักกว่า คดีฆ่าคนตายซะอีก

นี่คือข้อหน้าห่วง ที่ฝรั่ง ต่างชาติ จับตา ประเทศไทย อย่างแปลกๆในเรื่องนี้?

แล้วมีใครเคยตายเพราะข้อหานี้บ้างป่าวว๊ะ ในรัชกาลปัจจุบัน

ส่วนมากคนที่ติดคุกด้วยมาตรา112 ติดคุกไม่กี่เดือนก็ได้พระราชทางอภัยโทษออกมา

ดาตอปิโดยังไม่ได้ออกเลยนี่ครับ หลายปีแล้ว

กรณีอากง ผมอาจใจร้ายก็ได้นะครับ
เพราะผมติดใจคำให้การว่า "ไม่รู้" "ไม่ทราบ" มันฟังไม่ขึ้น
เพราะคนที่ฆ่าคนตาย ก็สามารถบอกได้ว่า ไม่รู้ใครเอาปืนมายัดใส่ใต้หมอน ไม่รู้ ผมยิงปืนไม่เป็น
มันต้องว่ากันด้วยหลักฐานครับ

ในฐานะที่เคยขึ้นศาลเป็นจำเลย
ศาลท่านไม่ได้ฟังความข้างเดียวแบบที่บทความอันแสน dramaticise แอนด์ emotional ใน#79 หรอกครับ (ซึ่งศัพท์ dramaticise มันไม่มีครับ มันต้องเขียนว่า dramatize แบร่.. )
ยิ่งคนแก่แบบกงแกด้วย ศาลต้องรับฟังจาก"พยานหลักฐาน"ที่มี และถ้ามี"เหตุอันควรสงสัย" ศาลจะยกประโยชน์ให้จำเลยเสมอครับ
แต่...หลักฐานที่มีคือ..แกแก้ต่างอะไรไม่ได้เลย ก็จบครับ
เมื่อกงแกไม่มีหลักฐานอะไรมาหักล้าง ได้แต่บอก ผมไม่รู้ ผมส่งเอสเอ็มเอสไม่เป็น... ศาลโลกไหนจะตัดสินเข้าข้างจำเลยล่ะครับ

บทความดราม่าของเสื้อแดงชน พยายามจะ dramatize กงแกให้ได้ ให้เป็น victim ผู้อ่อนแอ บอบบาง และถูกทำร้าย
แต่ผมกลับมองจากหลักฐานว่า..แกแถ
เป็นคนแก่ที่เก่งแต่ปาก กล้าทำไม่กล้ารับ ไม่ใช่ "คนจริง"


พวกแดงล้มเจ้า ง่าวแบบนี้ทุกตัวแหละครับ ถึงได้บอกไงว่า ไม่ต้องไปกลัวมัน

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

ลองดูอันนี้กันด้วยครับพอดีไปเจอมา http://blogazine.in....t/3310#comments


เขียนให้อากงSMS ทนาย และกองเชียร์ (ขี้เกียจตั้งชื่อ)

30 กันยายน, 2011 - 22:37 | โดย groomgrim


อากงเริ่มเรื่องให้มันดราม่าตอนที่สาบานตัว และแกมองไม่เห็นแผ่นคำสาบานจึงต้องให้ทนายอ่านให้

แล้วทนายก็มีคำถามที่เราไม่ได้เตรียมร่วมกันมาก่อน โดยเอาข้อความที่ถูกฟ้อง ซึ่งเป็นถ้อยคำหยาบคายมาเปิดให้แกดู ทนายพูนสุข ถามอากงว่า “พยานเห็นข้อความนี้แล้วรู้สึกอย่างไร”

อากงตอบไม่ฉะฉานแล้ว เสียงแกสั่นเครือ “ผมเสียใจมากครับ ... ก็เค้าด่าในหลวง”

ผมก็ไม่รู้นะว่า แผ่นคำสาบานของศาลน่ะ ตัวหนังสือมันเล็กกว่า แผ่นข้อความ "ที่ถูกฟ้อง" ที่ทนายเอามาเปิดให้ดูมากน้อยแค่ไหน

ตัวอักษรใหญ่ครับ ประมาณฟ้อนท์ 16 ผมรู้เพราะบอกแล้วว่าผมเคยขึ้นศาล
และข้อความที่ให้สาบานน่ะ..สุดๆครับ คือคำสัตย์ปฏิญาณที่ถ้าผิดจากคำสาบานขอให้มีอันเป็นไปด้วยคมหอกคมดาบ ใน 3 วัน 7 วัน ด้วยครับ

ถ้าคุณผิด แล้วคุณโกหกศาลว่าบริสุทธิ์ ตอนคุณอ่านคำสาบาน คุณจะไม่มีเสียงที่หนักแน่น จะอ่านเสียงอ่อยๆ เพราะคำสาบานต่อหน้าบัลลังก์..แร้งงง..

ผมว่าจะมากจะน้อยศาลท่าน"แอบสังเกต" น้ำเสียงกับภาษากายตอนอ่านคำสาบานด้วยแหละ ว่าเสียงดังกังวานชัด หรือสั่นๆ

[ปกติทำแต่งาน]

อยากให้เป็นอีเพ็ญมากกว่า

[ริวมะคุง]

กฎหมายมีไว้ห้าม แต่ก็ดันชอบที่จะแหกกฎ สมน้ำหน้า

[hinotori]

แป๊ะเอ้ย อายุก็ 60 กว่าแล้ว เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ยังคิดเนรคุณได้ ทำไมเป็นไปได้ขนาดนี้ คนจีนส่วนใหญ่เคารพรัก และนับถือในหลวง ยิ่งกว่าชีวิตอีก แป๊ะเอ้ย
การได้มีชีวิตอยู่บนผืนแผ่นดินไทย มีชีวิตที่ดี มีกินมีใช้ ไม่อดอยาก เหมือนอยู่เมืองจีน ที่กินน้ำข้าวต้ม กับวิญญาณปลาเค็ม แป๊ะยังจะเอาอะไรอีก ในหลวงท่าน ให้อยู่บนผืนแผ่นดินของท่าน ไม่แบ่งแยกคนจีนกับคนไทย ขอบอกว่าแป๊ะเป็นคนจีนที่เนรคุณคนจริงๆ

ผมถึงไม่เห็นใจมันเลยที่ต้องติดคุกตอนแก่จนตายคาคุก


พ่อผมเป็นคนจีนแท้ เป็นลูกชายคนโตของตระกูลอั้ง แต่มีความรักแผ่นดินไทยและในหลวงมาก ขนาดเปลี่ยนนามสกุลจากพ่อเป็นของแม่ คือสกุลตั้ง
เพราะแม่เกิดเมืองไทย ด้วยวิธีนี้พ่อผมถึงจะมีโอกาสเข้าสอบรับราชการทหาร

ตั้งแต่ผมเกิดจนโต พ่อไม่เคยใช้ภาษาจีนกับผมเลย(ผมเลยเป็นลูกจีนที่ง่อยภาษาจีนมาก เป็นที่อับอายขายหน้าแก่วงศ์ตระกูลยิ่งนัก หน้าโคตรตี๋แต่พูดจีนไม่เป็นสักคำ)
ทั้งที่ตัวพ่อพูดจีนคล่องปรื๋อ และปู่กับพี่น้องสกุลเดียวกันต่างพูดภาษาจีนกันจนแทบพูดไทยไม่ได้เลย (ทั้งที่อยู่เมืองไทย)
พ่อบอกผมว่า "เกิดเป็นคนไทย ต้องใช้ภาษาไทยให้แตกฉาน" ที่บ้านเลยเคืองพ่อเอามากๆ ประชดว่าพ่อเป็นจีนทรยศ

ทุกวันเฉลิม วันชาติ พ่อผมจะดีใจมากที่ได้ปักธงไตรรงค์ก่อนใคร
สมัยก่อนทีวีจะปิดตอนเที่ยงคืน พ่อจะยืนตรงร้องเพลงข้าวรพุทธเจ้าทุกคืน ย้ำ-ทุกคืน
พ่อผมสอนว่า "คนไม่รักชาติรักแผ่นดิน ไม่สามารถจะรักใครได้"
และบ้านของเราก็เหมือนบ้านอื่นทุกหลังในสมัยนั้น คือติดพระบรมฉายาลักษณ์อยู่เหนือประตู

พ่อเป็นศิลปินในหัวใจ เลยชอบร้องเพลงเล่นดนตรี พ่อเก่งทางเป่าหีบเพลงปาก
คืนไหนลมเย็นพ่อผมจะชวนพวกเราไปนั่งเล่นริมระเบียงแล้วพ่อเป่าเพลงพระราชนิพนธ์ให้ฟัง
แต่เพลงที่พ่อชอบมากคือ ความฝันอันสูงสุด


ถ้าพ่อผมยังมีชีวิตอยู่ อายุคงไล่กับไอ้คนจีนเนรคุณคนนี้ และพ่อคงกระทืบมันยับ

พ่อคุณสุดยอดมาก นับถือ

[sigree]

ผมอ่านที่หลายท่านให้ความเห็น

น่าสนใจนะ
ทำไมไม่ได้นำเสนอเลยว่าฝ่ายโจทย์ว่ายังไง
เหมือนฟังความข้างเดียวยังไงไม่รู้

[RiDKuN_user]

ผมอ่านที่หลายท่านให้ความเห็น

น่าสนใจนะ
ทำไมไม่ได้นำเสนอเลยว่าฝ่ายโจทย์ว่ายังไง
เหมือนฟังความข้างเดียวยังไงไม่รู้

http://ilaw.or.th/node/1229

ลองอ่านได้ครับ

ผมอ่านแล้ว ผมว่ายังไงก็เข้าข้างลุง ศาลไม่น่าตัดสินให้ผิด
ถ้าดูตามสืบ จะเห็นว่า หมายเลขที่ส่ง ไม่ใช่หมายเลขมือถือของลุง
แต่ว่าส่งจากเลข IMEI เดียวกัน ซึ่งก็เป็นที่รู้กันว่าเลข IMEI นี้ปลอมกันได้
ประกอบกับไม่มีประจักษ์พยาน หรือหลักฐานอื่นใดที่จะบอกได้จริงๆ ว่าเป็นลุง
หรือแม้กระทั่งว่ามาจากมือถือของลุงก็ยังไม่ชัดเจนในความเห็นของผม
ส่วนหลักฐานพยานทุกอย่างก็เป็นหลักฐานพยานแวดล้อมทั้งสิ้น
ผมมองแล้วถือว่าไม่สิ้นสงสัย เพราะมีความเป็นไปได้มากว่า มีการปลอม IMEI แล้วส่ง SMS
ถ้าเป็นผมผมจะยกประโยชน์ให้จำเลยนะ

[ชมจันทร์]

นายอำพล ตั้งนพกุล อายุ 61 ปี เป็นจำเลยในคดีหมิ่นสถาบัน ที่ถูกศาลจำคุกหนนี้ ถูก พล.ต.ท.ไถย ปราศจากศัตรู ผบช.ก. นำกำลัง เข้าจับกุม เมื่อเช้าวันที่ 3 สิงหาคม 2553 ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ในซอยวัดด่านสำโรง หมู่ 4 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งระหว่างจับกุม ทางกลุ่มเสื้อแดงออกมาขัดขวาง แต่เมื่อตำรวจแจ้งข้อหาให้ทราบ ก็ยอมให้ตำรวจจับแต่โดยดี

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่านายอำพลนั้น เป็นสมาชิกเสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์ ใน จ.สมุทรปราการ

http://www.naewna.co...s.asp?ID=289484

ยังไงก็รู้สึกสงสาร เพราะเชื่อว่า ถ้าแกทำจริง ก็คงเป็นเพราะถูกยัดเยียดความเชื่อผิด ๆ ให้
พวกตัวใหญ่น่าจะต้องได้รับโทษมากกว่า ร้อยเท่า