Jump to content


Photo
- - - - -

นโยบายรถคันแรก: ผลเสียหายไม่คาดคิด "ติดแบล็คลิสต์ตลอดชีวิตทั้งคนซื้อและคนค้ำ"


  • Please log in to reply
112 ความเห็นในกระทู้นี้

#101 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 17:08

 
สรุปอย่างนี้ได้มั้ยครับว่า สมัยก่อนเจ้าหนี้จะตามผู้ค้ำเป็นทางเลือกท้ายๆ
แต่สมัยนึ้เจ้าหนี้จะตามผู้ค้ำเป็นทางเลือกแรกๆ


ประกอบกับนโยบายนี้ออกมาก็จะทำให้มีแนวโน้มที่จะเกิดเหตุการณ์ดังที่ จขกท กล่าวไว้ เพิ่มมากขึ้น

ถูกต้องค้าบบบบบบบบ!!!!

 

 

 

เกินความสามารถในการชำระหนี้

ดังนั้น คำตอบคือ ตัวเลขที่ต้องรออีก2ปีคือตัวเลขของผู้ที่ไม่มีปัญญาจ่ายหนี้นั่นเอง

อย่าไปพยายามทำความเข้าใจกับความคิดของอีเห็น

เพราะขนาดไอน์สไตน์ยังกล่าวว่า  "มี 2 สิ่งที่เป็น infinite หนึ่งคือจักรวาล สองคือความโง่ของมนุษย์  แต่ข้าพเจ้าไม่ฟันธงกับข้อแรก" :lol:  :lol:

 

เป็นหนี้รถเกินความสามารถในการชำระหนี้ ไม่ต้องรอสองปีแบบที่อีเห็นไถพยายามแถหรอกครับ

มันมีสูตรคำนวณ"ความสามารถในการชำระหนี้สิน" อยู่  สูตรง่ายๆมีดังนี้

หนี้รวมที่คนๆหนึ่งสามารถมีได้ ไม่เกินความสามารถชำระ (Capability) คือ .36 ของรายได้ครับ(36%)

โดยแบ่งเป็น Front End-หนี้บ้าน 28% และ Back End-หนี้อื่น(บัตร รถ กยศ. ฯลฯ)8%

 

ดังนั้นถ้าเรามีเงินเดือน 15000 สูตรจะเท่ากับ Front End(Back End) x เงินเดือน / 100 = จำนวนหนี้บ้านที่เราก่อได้

ที่เหลือคือค่าผ่อนหนี้ต่างๆ

 

หากเราไม่มีหนี้บ้าน(คือไม่ต้องเสียค่าเช่าบ้าน หรือผ่อนบ้านเลย) เท่ากับเราจะมี 36% เต็มจำนวนในการก่อหนี้อื่น

ถ้าเรามีหนี้บ้าน 20% ของเงินเดือน เราจะเหลือรายได้ในการก่อหนี้อื่น 16% ตามสัดส่วน

 

ปัญหาคือ คนที่ซื้อรถคันแรกตามนโยบายปูเบี้ยว มักดาวน์น้อยผ่อนเยอะจนเกิน 36% ของหนี้รวม

เพราะ 1. เงินออมไม่มีสำรองพอจะเอามาดาวน์  2. รายได้ต่ำเกินฐานการกู้

ไม่เช่นนั้นคงไม่มีการวิ่งหาคนค้ำหรอกครับ

 

หากคำนวณตามสูตร หนี้รวม/รายได้ พวกนี้จะมีหนี้เกิน "36% ของความสามารถในการชำระหนี้" แล้ว

ไม่นับคนที่มีหนี้บัตรพลาสติกอีกบานเบอะ  พวกนี้จะมีหนี้เกิน 50% ของรายได้แล้วแน่นอน

 

เมื่อคำนวณได้เช่นนี้...ก็รู้แล้วว่าตัวเองมีความสามารถชำระหนี้หรือไม่มี

 

จะต้องรอทำไมอีกปีสองปีแบบที่อีเห็นบอก????!!!!  งง -_-


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#102 หนูอ้อย

หนูอ้อย

    นักเขียนหน่อมแน้ม

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,215 posts

ตอบ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 17:31

ดาวน์น้อยผ่อนเยอะข้าพเจ้าเจอลูกตื๊อเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว มาขอให้ค้ำซื้้อรถคันแรก

  
 

ขอให้มีคนค้ำ 2 คน ก็เลยจะมีจำเลยที่ 2 สองคนไง   :angry:  :lol:  :lol:


 AMAZING  coup d'etat  , THAILAND ONLY ..  :ph34r:  


#103 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 00:54

ดาวน์น้อยผ่อนเยอะข้าพเจ้าเจอลูกตื๊อเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว มาขอให้ค้ำซื้้อรถคันแรก

  
 

ขอให้มีคนค้ำ 2 คน ก็เลยจะมีจำเลยที่ 2 สองคนไง   :angry:  :lol:  :lol:

 

แปลว่าศพจากสงครามหนี้รถคันแรกจะเพิ่มเป็น 3 คนต่อคัน

OMG!

 

นี่คือความไม่เข้าใจของประชาชนที่ขาดความรู้เรื่องการจัดการหนี้สิน แต่รัฐบาลกลับสนับสนุนให้ คนที่ไม่รู้เรื่องหนี้ ต้องเป็นหนี้

แล้วพอเขามีปัญหา ดันระดมกันด่าเขาว่า ไม่เจียมตัว ไม่ดูกำลังตัวเอง โคตรโง่ สมน้ำหน้าอยากโง่ดีนัก ฯลฯ

 

 ตกลงคนที่ให้ปืนยัดใส่มือลิง แล้วพอลิงทำปืนลั่นยิงคนตาย  ดันด่าลิง ..."ใช้ปืนไม่เป็น ไอ้ลิงโง่เอ๊ย"...

ไม่ด่าไอ้บ้าที่เอาปืนยัดใส่มือซะงั้น???!!!! :o


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#104 whiskypeak

whiskypeak

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,392 posts

ตอบ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 03:10

เมื่อก่อน "ไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ"

อัพเดทขึ้นมาอีกหน่อย "การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ" 

สมัยนี้ล่ะ เห็นจะไม่พ้น "การไม่เป็นคนค่้ำ เป็นลาภอันประเสริฐ" ฮ่าๆ


ถูกใจเสื้อแดง ของแพงไม่ว่า โดนโกงไม่ด่า ขอแค่ตระกูลชินนรกเป็น นายก พอ..

 


#105 best

best

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 741 posts

ตอบ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 08:16

นี่คือความไม่เข้าใจของประชาชนที่ขาดความรู้เรื่องการจัดการหนี้สิน แต่รัฐบาลกลับสนับสนุนให้ คนที่ไม่รู้เรื่องหนี้ ต้องเป็นหนี้

แล้วพอเขามีปัญหา ดันระดมกันด่าเขาว่า ไม่เจียมตัว ไม่ดูกำลังตัวเอง โคตรโง่ สมน้ำหน้าอยากโง่ดีนัก ฯลฯ

ตกลงคนที่ให้ปืนยัดใส่มือลิง แล้วพอลิงทำปืนลั่นยิงคนตาย ดันด่าลิง ..."ใช้ปืนไม่เป็น ไอ้ลิงโง่เอ๊ย"...

ไม่ด่าไอ้บ้าที่เอาปืนยัดใส่มือซะงั้น???!!!!





แล้วรัฐบาลเอาปืนไปจี้หัว ปชช.บังคับว่าคุณต้องกู้เงินมาซื้อรถหรือครับ ผมว่าตรรกคุณพิการแล้ว เปรียบเทียบได้ปัญญาอ่อนมาก จ้องแต่จะหาเรื่องด่าท่าเดียว

คนที่จะซื้อรถเขาต้องประเมินความพร้อมของตัวเองอยู่แล้ว การที่คนไม่มีความพร้อมในการชำระหนี้แล้วดันอยากซื้อรถเพราะอ้างว่ามีข้อเสนอจูงใจจากรัฐบาล สุดท้ายแล้วไม่สามารถชำระหนี้ได้จนจบ ทำให้โดนยึดรถขึ้นโรงขึ้นศาล ติดเครดิตบูโร ฯลฯ มันก็ต้องโทษตัวเองที่ไม่ศึกษา ไม่ดูความพร้อม ไม่ใช่ไปโทษโน่นโทษนี่ หลอกตัวเองไปวันๆว่าเป็นความผิดของคนอื่น

Edited by best, 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 08:16.


#106 โคนัน

โคนัน

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,836 posts

ตอบ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 08:59

 
 
ปัญหาคือ คนที่ซื้อรถคันแรกตามนโยบายปูเบี้ยว มักดาวน์น้อยผ่อนเยอะจนเกิน 36% ของหนี้รวม
เพราะ 1. เงินออมไม่มีสำรองพอจะเอามาดาวน์  2. รายได้ต่ำเกินฐานการกู้
ไม่เช่นนั้นคงไม่มีการวิ่งหาคนค้ำหรอกครับ
 
 

 


เห็นด้วยละครับ คนมีปัญญาซื้อรถ เขาซื้อไปนานแล้ว ไม่ต้องมารอนโยบายรถคันแรกหรอก พวกซื้อรถคันแรก อาจจะมีส่วนหนึ่ง ที่มีศักยาภาพในการซื้อได้ด้วยตัวเองจริงๆ เมื่อถึงเวลาก้าวหน้าในอาชีพการงาน  และมีอีกเยอะที่ซื้อเพราะภาษีมายั่วใจ และแน่นอน ในส่วนนี้ ต้องหาคนมาค้ำ 



#107 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 15:43


แล้วรัฐบาลเอาปืนไปจี้หัว ปชช.บังคับว่าคุณต้องกู้เงินมาซื้อรถหรือครับ ผมว่าตรรกคุณพิการแล้ว เปรียบเทียบได้ปัญญาอ่อนมาก จ้องแต่จะหาเรื่องด่าท่าเดียว

คนที่จะซื้อรถเขาต้องประเมินความพร้อมของตัวเองอยู่แล้ว การที่คนไม่มีความพร้อมในการชำระหนี้แล้วดันอยากซื้อรถเพราะอ้างว่ามีข้อเสนอจูงใจจากรัฐบาล สุดท้ายแล้วไม่สามารถชำระหนี้ได้จนจบ ทำให้โดนยึดรถขึ้นโรงขึ้นศาล ติดเครดิตบูโร ฯลฯ มันก็ต้องโทษตัวเองที่ไม่ศึกษา ไม่ดูความพร้อม ไม่ใช่ไปโทษโน่นโทษนี่ หลอกตัวเองไปวันๆว่าเป็นความผิดของคนอื่น

 

 

พวกตรรกะพิการตัวจริงมาแล้ว พวกเข้าข้างรัฐบาลแบบหูหนวกตาบอด

ทั้งๆที่คนซึ่งทำงานสายเศรษฐศาสตร์ สายการเงิน เตือนแล้วเตือนอีก ติแล้วติอีกเรื่องนโยบายส่งเสริมให้ประชาชนเป็นหนี้

ทั้งสศช. ทั้งธปท. ทั้ง TDRI ทั้งนักเศรษฐศาสตร์เก่งๆระดับนานาชาติของประเทศไทย

ดักดานจริงๆ


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#108 เดือนเอก

เดือนเอก

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 542 posts

ตอบ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 16:14

มันเป็นแนวคิดที่ให้คนยอมตกเป็นเครื่องมือของนายทุน

 

โดยการใช้ประชานิยมล่อใจคนที่ ฉลาดน้อยกว่า

 

โครงการกองทุนเงินล้านส่งผลให้คนกู้มาใช้โดยไม่มีระเบียบวินัยการค้า

บางหมู่บ้านต้องเอาเงินกู้นอกระบบมาโปะเพื่อกู้ใหม่ เสียดอก2ทาง นายทุนเอาเงินหลวงมาแจก

 

เลยมีโครงการมาดึงคะแนนคนชั้นกลาง  ถามว่าเขาโง่ไหม ก็กลางๆ

แต่ทุกคนมีกิเลส และรถ เป็นเครื่องเชิดหน้าชูตา แสดงฐานะในสังคม

และคราวนี้ มีผลกำไรย้อนเข้าสู่ นักการเมืองที่มีหุ้นยานยนต์

 

ประเทศที่เตะบอลโคตรเก่ง อาร์เจนติน่า เร้าใจประชาชนให้ไปซื้อตั๋วดูบอลทีละหลายบาท

ชนะก็ฉลองกัน มีสุข แต่พื้นฐานจริงๆคนที่จะมีกำลังไปซื้อตั๋วเทียบกับรายได้เขามีมากแค่ไหน

 

คนที่รวยก็เจ้าของบ่อน เเจ้าของสโมสร นักเตะ

 

แต่คนรากหญ้า+ประเทศเจ๊ง


Edited by เดือนเอก, 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 16:26.


#109 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 16:26

มันเป็นแนวคิดที่ให้คนยอมตกเป็นเครื่องมือของนายทุน

 

โดยการใช้ประชานิยมล่อใจคนที่ ฉลาดน้อยกว่า

 

โครงการกองทุนเงินล้านส่งผลให้คนกู้มาใช้โดยไม่มีระเบียบวินัยการค้า

บางหมู่บ้านต้องเอาเงินกู้นอกระบบมาโปะเพื่อกู้ใหม่ เสียดอก2ทาง นายทุนเอาเงินหลวงมาแจก

 

เลยมีโครงการมาดึงคะแนนคนชั้นกลาง  ถามว่าเขาโง่ไหม ก็กลางๆ

แต่ทุกคนมีกิเลส และรถ เป็นเครื่องเชิดหน้าชูตา แสดงฐานะในสังคม

และคราวนี้ มีผลกำไรย้อนเข้าสู่ นักการเมืองที่มีหุ้นยานยนต์

 

ประเทศที่เตะบอลโคตรเก่ง อาร์เจนติน่า เร้าใจประชาชนให้ไปซื้อตั๋วดูบอลทีละหลายบาท

ชนะก็ฉลองกัน มีสุข แต่พื้นฐานจริงๆคนที่จะมีกำลังไปซื้อตั๋วเทียนกับรายได้เขามีมากแค่ไหน

 

คนที่รวยก็เจ้าของบ่อน เเจ้าของสโมสร นักเตะ คนรากหญ้า+ประเทศเจ๊ง

 

เป็นข้อคิดที่ดีมากเลยครับ!

 

ขอเรียนถามเพิ่มเติมเป็นแนวคิด

ถ้าอย่างนั้น ท่านว่า...ประเทศเราควรมีการอบรมความเฉลียวฉลาดทางการเงินให้ประชาชนหรือไม่

คือ "รู้วิธีหา วิธีใช้ วิธีก่อหนี้" อย่างถูกต้อง

(แบบที่ในหลวงทรงสอนมาตลอดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง แต่คนและรัฐบาลบ้านเราเองกลับต่อต้านและทำสวนทาง)

 

เช่น ผมเทียบง่ายๆระหว่างยักษ์ยุโรป( คือเยอรมัน ฝรั่งเศส และอังกฤษ)เทียบกับสหรัฐนะครับ

สหรัฐเจอปัญหาบรรษัทการเงินทั้งหลายที่โลภมาก สร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงินมาหลอกปชช. อเมริกัน

จนปชช.เจ๊งหมดเป็นวิกฤตเศรษฐกิจระดับรุนแรงสุดในรอบ 80 ปี  แล้วตามมาด้วยแบงก์เจ๊ง บรรษัทเจ๊ง

แต่ปัญหานี้ไม่เคยเกิดกับ 3 ประเทศยุโรปเลย คือปัญหา "องค์กรใหญ่ทางการเงินหรือรัฐ ยุยงให้ประชาชนก่อหนี้อย่างง่ายๆ" 

เพราะจะถูกประชาชนของเขาด่ายับเยิน  เนื่องจากปชช.ของเขามีระเบียบวินัยทางการเงินและมี Money Literacy สูงมาก

 

หรือญี่ปุ่น  แม้รัฐบาลจะมีหนี้สาธารณะเกือบ 100%

แต่เขาเป็นประเทศที่ประชาชนมีเงินออมแทบจะมากสุดในโลก

เพราะญี่ปุ่นเขาปลูกฝังเรื่องวินัยการออมให้กับประชาชนมาหลายยุคแล้ว


Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 16:29.

gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#110 korkang

korkang

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,879 posts

ตอบ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 16:49

มาคิดอีกที เงิน 8หมื่นล้านบาท จากภาษีคนทั้งประเทศ เอามาให้คนเพียง 1 ล้านที่ซื้อรถเท่านั้นเอง ให้แล้วก็ไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม เอาไปทำขนส่งสาธารณะยังเห็นประโยชน์มากกว่า



#111 โคนัน

โคนัน

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,836 posts

ตอบ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 16:52


แล้วรัฐบาลเอาปืนไปจี้หัว ปชช.บังคับว่าคุณต้องกู้เงินมาซื้อรถหรือครับ ผมว่าตรรกคุณพิการแล้ว เปรียบเทียบได้ปัญญาอ่อนมาก จ้องแต่จะหาเรื่องด่าท่าเดียว

คนที่จะซื้อรถเขาต้องประเมินความพร้อมของตัวเองอยู่แล้ว การที่คนไม่มีความพร้อมในการชำระหนี้แล้วดันอยากซื้อรถเพราะอ้างว่ามีข้อเสนอจูงใจจากรัฐบาล สุดท้ายแล้วไม่สามารถชำระหนี้ได้จนจบ ทำให้โดนยึดรถขึ้นโรงขึ้นศาล ติดเครดิตบูโร ฯลฯ มันก็ต้องโทษตัวเองที่ไม่ศึกษา ไม่ดูความพร้อม ไม่ใช่ไปโทษโน่นโทษนี่ หลอกตัวเองไปวันๆว่าเป็นความผิดของคนอื่น

 

 

พวกตรรกะพิการตัวจริงมาแล้ว พวกเข้าข้างรัฐบาลแบบหูหนวกตาบอด

ทั้งๆที่คนซึ่งทำงานสายเศรษฐศาสตร์ สายการเงิน เตือนแล้วเตือนอีก ติแล้วติอีกเรื่องนโยบายส่งเสริมให้ประชาชนเป็นหนี้

ทั้งสศช. ทั้งธปท. ทั้ง TDRI ทั้งนักเศรษฐศาสตร์เก่งๆระดับนานาชาติของประเทศไทย

ดักดานจริงๆ

 

 

ไม่มีใครเอาปืนไปจี้หัวหรอก แต่ เพราะโมษณาเกินจริง  ผมเชื่อว่า มีหลายคนเข้าใจผิดว่า ซื้อรถ คันละ 6 แสน บาท รัฐจะคืนให้ 1 แสน บาท อีกเยอะเลย  :lol:  :lol:



#112 เดือนเอก

เดือนเอก

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 542 posts

ตอบ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 18:19

ถ้าอย่างนั้น ท่านว่า...ประเทศเราควรมีการอบรมความเฉลียวฉลาดทางการเงินให้ประชาชนหรือไม่

คือ "รู้วิธีหา วิธีใช้ วิธีก่อหนี้" อย่างถูกต้อง


Edited by เดือนเอก, 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 18:21.


#113 เดือนเอก

เดือนเอก

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 542 posts

ตอบ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 18:20

มันเป็นแนวคิดที่ให้คนยอมตกเป็นเครื่องมือของนายทุน

 

โดยการใช้ประชานิยมล่อใจคนที่ ฉลาดน้อยกว่า

 

โครงการกองทุนเงินล้านส่งผลให้คนกู้มาใช้โดยไม่มีระเบียบวินัยการค้า

บางหมู่บ้านต้องเอาเงินกู้นอกระบบมาโปะเพื่อกู้ใหม่ เสียดอก2ทาง นายทุนเอาเงินหลวงมาแจก

 

เลยมีโครงการมาดึงคะแนนคนชั้นกลาง  ถามว่าเขาโง่ไหม ก็กลางๆ

แต่ทุกคนมีกิเลส และรถ เป็นเครื่องเชิดหน้าชูตา แสดงฐานะในสังคม

และคราวนี้ มีผลกำไรย้อนเข้าสู่ นักการเมืองที่มีหุ้นยานยนต์

 

ประเทศที่เตะบอลโคตรเก่ง อาร์เจนติน่า เร้าใจประชาชนให้ไปซื้อตั๋วดูบอลทีละหลายบาท

ชนะก็ฉลองกัน มีสุข แต่พื้นฐานจริงๆคนที่จะมีกำลังไปซื้อตั๋วเทียนกับรายได้เขามีมากแค่ไหน

 

คนที่รวยก็เจ้าของบ่อน เเจ้าของสโมสร นักเตะ คนรากหญ้า+ประเทศเจ๊ง

 

เป็นข้อคิดที่ดีมากเลยครับ!

 

ขอเรียนถามเพิ่มเติมเป็นแนวคิด

ถ้าอย่างนั้น ท่านว่า...ประเทศเราควรมีการอบรมความเฉลียวฉลาดทางการเงินให้ประชาชนหรือไม่

คือ "รู้วิธีหา วิธีใช้ วิธีก่อหนี้" อย่างถูกต้อง

(แบบที่ในหลวงทรงสอนมาตลอดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง แต่คนและรัฐบาลบ้านเราเองกลับต่อต้านและทำสวนทาง)

 

เช่น ผมเทียบง่ายๆระหว่างยักษ์ยุโรป( คือเยอรมัน ฝรั่งเศส และอังกฤษ)เทียบกับสหรัฐนะครับ

สหรัฐเจอปัญหาบรรษัทการเงินทั้งหลายที่โลภมาก สร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงินมาหลอกปชช. อเมริกัน

จนปชช.เจ๊งหมดเป็นวิกฤตเศรษฐกิจระดับรุนแรงสุดในรอบ 80 ปี  แล้วตามมาด้วยแบงก์เจ๊ง บรรษัทเจ๊ง

แต่ปัญหานี้ไม่เคยเกิดกับ 3 ประเทศยุโรปเลย คือปัญหา "องค์กรใหญ่ทางการเงินหรือรัฐ ยุยงให้ประชาชนก่อหนี้อย่างง่ายๆ" 

เพราะจะถูกประชาชนของเขาด่ายับเยิน  เนื่องจากปชช.ของเขามีระเบียบวินัยทางการเงินและมี Money Literacy สูงมาก

 

หรือญี่ปุ่น  แม้รัฐบาลจะมีหนี้สาธารณะเกือบ 100%

แต่เขาเป็นประเทศที่ประชาชนมีเงินออมแทบจะมากสุดในโลก

เพราะญี่ปุ่นเขาปลูกฝังเรื่องวินัยการออมให้กับประชาชนมาหลายยุคแล้ว

 

 

ถ้าอย่างนั้น ท่านว่า...ประเทศเราควรมีการอบรมความเฉลียวฉลาดทางการเงินให้ประชาชนหรือไม่

คือ "รู้วิธีหา วิธีใช้ วิธีก่อหนี้" อย่างถูกต้อง

 

 

คำตอบผมคือ ต้องมี แต่ มีแบบมีเงื่อนไขครับ

 

ดูทรัพยากรบุคคลส่วนใหญ่ของประเทศเป็นต้นทุน

 

 

เอาละ พูดง่ายๆคือ ทุกคนฉลาดไม่เท่ากัน บางคนเกิดมาเพื่อเป็นชาวนา

ไม่ใช่เป็นพ่อค้าเหมือนลูกคนจีนที่สอนให้ทำการค้าตั้งแต่เล็กๆ 

พื้นฐานก็ไม่เท่ากันแล้ว เห็นไหมครับ แล้วจะสอนให้เป็นนักลงทุนได้หมดทุกคนก็ เทพมากๆ

 

แต่ที่ในหลวงทรงเห็นอย่างง่ายๆคือให้ ชาวนา ทำการเกษตรแบบพอเพียง

ไม่หลงไปในแสงสีแห่งระบบทุนนิยม คือแบบไม่ต้องพึ่งปัจจัยภายนอกมากเกินไป

ถ้าทำได้ตามนี้ ก็ไม่มีของนอกเหนือความจำเป็นที่ต้องใช้จ่าย

แบบขัดเสียไม่ได้ก็มีการอบรมทำบัญชีครัวเรือนแบบง่ายๆ

มีร้านค้าที่เป็นตัวแทนกลุ่มกระจายสินค้าที่มีการต่อรองจากผู้ขายมาทำราคาให้กลุ่มที่รวมกันได้ราคาที่ดี

 

อีกกลุ่มการค้านอกเหนือจากภาคเกษตรพื้นฐาน คือกลุ่มที่มีพื้นฐานทางทำธุรกิจมาก่อน

เป็นกลุ่มคนที่พร้อมจะมาได้เงินมาบริหารในการกู้ยืมกองทุนโดยดีกว่าไปพึ่งเงินกู้นอกระบบ

พวกนี้ จะมีวินัยมาก่อน ผมว่าสอนไม่ยาก แต่เหมือนผม ไม่อยากเข้าไปในกองทุน

เพราะชาวบ้านมองว่าเอาเปรียบโอกาสเขา แต่สุดท้ายเงินตกลงไปสู่กลุ่มที่ไม่มีวินัย ก็หายจ้อย

 

ปัจจัยที่ผมมองสำคัญที่สุดคือผู้บริหารที่กุมนโยบาย

 

พวกเขาเก่ง และมีบทบาทสำคัญต่อทุกคน

 

ดูอย่างประเทศเราถ้ารัฐบาลไม่ประชานิยมมากไป

และไม่ดึงเอาการบริหารไปแบบเอื้อประโยชน์ส่วนตน

เพราะต้องสงสารพวกเขาที่ด้อยปัญญากว่าโดยคิดว่ารัฐทำดีที่สุดเพื่อเขาแล้ว

 

 

จัดแบ่งการบริหารให้เกิดประโยชน์แก่ ส่วนรวม มาก่อน

ดูจากเรื่องรถ เป็นของชนชั้นกลาง เขามีกำลังก็ปล่อยไป 

เอามาหารให้ชาวนาได้ไม่รู้เท่าไร

 

ถ้าเปรียบเทียบสัดส่วนเหมือนเงินประกันส่วนต่างกับ จำนำทั้งก้อน ใช้เงินต่างกัน 10-15 เท่า

แต่เขายอมให้เกิดการใช้เม็ดเงินเต็มก้อนเพราะจะได้ยอดการคอรรัปชั่นในสัดส่วนสูงกว่า

 

ทำการเสพประชานิยมให้คนติดและแบ่งส่วนเสี้ยวให้เป็นสินบน จนยอมรับการโกงได้ถ้าเอามาแบ่งกัน

 

เหมือนเราทุกคนอยู่ในบ้าน แล้วมีพี่น้องพ่อแม่รวมกัน 5 คนมีเงินในบ้านทำธุรกิจ 10 บาท

แต่พี่คนหนึ่งโกงเอาเงินมา 8 บาทมาแบ่งกันแล้วบอกไม่เป็นไร บ้านก็เจ๊งเหมือนประเทศเราตอนนี้ครับ

 

Edited by เดือนเอก, 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 18:24.





ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน