469 replies to this topic

[55555]

พอลคุง เค้าบอก...."ถ้าจะพูดให้ถูก ต้องบอกว่า คตส มีอำนาจเหมือน ปปช "

 

 

อำนาจหน้าที่ของ คตส.เป็นไปตาม ประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 โดยเฉพาะข้อ 9 ได้บัญญัติว่า

 

ในกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบมีมติว่าผู้ดำรงตำแหน่างทางการเมืองหรือบุคคลใดกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือทุจริต หรือร่ำรวยผิดปกติ ให้ส่งรายงานเอกสารหลักฐานพร้อมทั้งความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อให้อัยการสูงสุดดำเนินการต่อไป

 

 

 

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

 

ไต่สวนข้อเท็จจริงและสรุปสำนวนพร้อมทั้งทำความเห็นส่งไปยังอัยการสูงสุด เพื่อฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

 

 

 

................................

 

 

 

เอ้า ฮิ้ววววววววววว คตส นำอำนาจของ ปปช มาใช้

 

ว้าววววววววววว

 

เกิดมาเพิ่งเคยพบ เคยเห็นนนนนนนนนนนนน

 

 

................................................    ก๊าาาาากกกกกกกกกกกก   555555555555  ++++++++++++  

 

 

http://webboard.seri...e-7#entry564411

 

มันโดนตบเกรียนยังไม่รู้ตัวอีก....เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็น..

 

พอเอาหลักฐานมาให้ดูว่าเค้าใช้อำนาจ ปปช. จริง ๆ มันยังบอกว่ามันเก่งอีก

 

 

Edited by 55555, 9 January 2013 - 21:06.

[55555]

อ้าวว หงายเงิบกันหมด 

ตรุไปบ้าง อย่ามาหาว่าหนีนะ 

 

 

ป่าว ไม่ได้หนี่ไปไหน ดูจากที่ตอบแล้ว..บอกกง ๆ หมดสภาพว่ะเคน

 

ไม่คุยด้วยหลักฐานจะให้คุยด้วยจินตนาการรึ...

 

 

[คนไทย916]

อ้าวว หงายเงิบกันหมด 

ตรุไปบ้าง อย่ามาหาว่าหนีนะ 

 

 

ป่าว ไม่ได้หนี่ไปไหน ดูจากที่ตอบแล้ว..บอกกง ๆ หมดสภาพว่ะเคน

 

ไม่คุยด้วยหลักฐานจะให้คุยด้วยจินตนาการรึ...

 

 

เคน เริ่มหาทางไปแล้วหรือครับ 

[Mootang]

อ้าวว หงายเงิบกันหมด 
ตรุไปบ้าง อย่ามาหาว่าหนีนะ 

 
 
ป่าว ไม่ได้หนี่ไปไหน ดูจากที่ตอบแล้ว..บอกกง ๆ หมดสภาพว่ะเคน
 
ไม่คุยด้วยหลักฐานจะให้คุยด้วยจินตนาการรึ...

 
 
 

ช่วงหลังๆ มาเริ่มเพ้อฝันถึงขั้นที่ว่าศาลไม่ต้องอ้างข้อกฏหมายในการพิจารณาคดีแล้วล่ะครับ เพราะมันบอกว่าศาลไม่ต้องพิจารณาถึงสถานภาพของผู้ฟ้อง ถือว่าจบสิ้นแล้วสำหรับคนที่อ้างว่ามีความรู้ด้านกฏหมาย
แต่ก็ถือว่าเก่งครับที่คิดบัญญัติกฏหมายขึ้นมาเองได้ 55555

[พอล คุง]

ว้า กลับมาบ้านนึกว่าจะได้เห็นอไรเพิ่มเติม

[เคนอิจิ-นามิ]

อ้าวว หงายเงิบกันหมด 

ตรุไปบ้าง อย่ามาหาว่าหนีนะ 

 

 

ป่าว ไม่ได้หนี่ไปไหน ดูจากที่ตอบแล้ว..บอกกง ๆ หมดสภาพว่ะเคน

 

ไม่คุยด้วยหลักฐานจะให้คุยด้วยจินตนาการรึ...

 

 

เคน เริ่มหาทางไปแล้วหรือครับ 

แหม.. เพิ่งมานีิ ต่อได้ทันทีเลยนะ 

 

ตอนเขาฟันกันฝุ่นตลบ หลบอยู่ใต้ต้นไผ่? 

[เคนอิจิ-นามิ]

อ้าวว หงายเงิบกันหมด 
ตรุไปบ้าง อย่ามาหาว่าหนีนะ 

 
 
ป่าว ไม่ได้หนี่ไปไหน ดูจากที่ตอบแล้ว..บอกกง ๆ หมดสภาพว่ะเคน
 
ไม่คุยด้วยหลักฐานจะให้คุยด้วยจินตนาการรึ...

 
 
 

 

ช่วงหลังๆ มาเริ่มเพ้อฝันถึงขั้นที่ว่าศาลไม่ต้องอ้างข้อกฏหมายในการพิจารณาคดีแล้วล่ะครับ เพราะมันบอกว่าศาลไม่ต้องพิจารณาถึงสถานภาพของผู้ฟ้อง ถือว่าจบสิ้นแล้วสำหรับคนที่อ้างว่ามีความรู้ด้านกฏหมาย
แต่ก็ถือว่าเก่งครับที่คิดบัญญัติกฏหมายขึ้นมาเองได้ 55555

ไหนครับ ขอดูคำพิพากษา ที่มีการพิจารณาผู้ฟ้องก่อน ตัดสินคดีครับ 

[เคนอิจิ-นามิ]

อ้าวว หงายเงิบกันหมด 

ตรุไปบ้าง อย่ามาหาว่าหนีนะ 

 

 

ป่าว ไม่ได้หนี่ไปไหน ดูจากที่ตอบแล้ว..บอกกง ๆ หมดสภาพว่ะเคน

 

ไม่คุยด้วยหลักฐานจะให้คุยด้วยจินตนาการรึ...

 

 

ไหนครับ หลักฐานคุณ 

ไอ้เรื่องที่ตัวเอง รำพันเอาไว้กระทู้อื่นเนี่ยนะ? 

 

เอาระเบียบการมาครับ อย่ามาเฟื่อง  

[เคนอิจิ-นามิ]

ยังมีคดีที่อยู่ในชั้นศาล ที่ คตส.เป็นผู้ยื่นฟ้องอยู่ด้วย ไม่ใช่หรือครับ?

ผมจำไม่ได้ว่า ตอบคุณไปหมดรึยัง
คตส เป็นฝ่ายยื่นคำร้อง ขอฟ้องร้อง ในทุกคดีแหละครับ
หากมีความเห็นไม่ตรงกับอัยการ จึงใช้อำนาจปปช เขายื่นแทน
*อยู่ในประกาศ 30 อยู่แล้ว

ทีนี้ ประเด็นคือ ณ ตอนนี้ ไม่มีแล้ว โอนงานไปหมดละ

ส่วนคดีที่ฟ้องแล้ว โจทก์คืออัยการสูงสุด เป็นผู้ร้อง
(ดูตาม คำพิพากษาได้)

คตส ถูกดึงเข้ามาเกี่ยว *ในการพิาจารณาคดี
ก็เพราะมีผู้แก้ต่างให้จำเลย ว่า คตส หมดอายุฟ้องแล้ว
แต่ศาลพิจารณาแล้วว่ามันยังไม่หมด บลา.. บลา...

คำถามที่ผมทิ้งไว้ให้นั้น
หากคุณปรึกษาญาติมาแล้ว
ช่วยกลับมาบอกด้วย จะขอบคุณมาก
ส่วนทางน้องผมนี้
ผมให้เขาวานลุงเขาหาข้อบังคับ ระเบียบการ และกระบวนการมาให้ครับ

แต่คงต้องใช้เวลาค้นหา
เพราะมันอาจจะไม่ได้อยู่บนอินเตอร์เน็ทนะครับ

แม้วันนี้ จะดูคุณเหวี่ยงๆ ไปหน่อย
แต่ก็ยังยินดี ที่คุณเห็นว่า เนื้อหาในกระทู้นี้ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง
สำหรับผม ความเข้าใจที่ตรงกัน คือการปรองดองอย่างหนึ่ง
*แม้ว่าในความเป็นจริง เราจะเถียงกันก็ตาม


*อย่าหาว่าผมโตแหล 555

Edited by เคนอิจิ, 9 January 2013 - 22:22.

[พอล คุง]

และแล้วก้อวนลูปกลับมาที่เดิม

 

[หมีเพิ่งมา_อย่าเพิ่งยิง]

พอลคุง เค้าบอก...."ถ้าจะพูดให้ถูก ต้องบอกว่า คตส มีอำนาจเหมือน ปปช "

 

 

อำนาจหน้าที่ของ คตส.เป็นไปตาม ประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 โดยเฉพาะข้อ 9 ได้บัญญัติว่า

 

ในกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบมีมติว่าผู้ดำรงตำแหน่างทางการเมืองหรือบุคคลใดกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือทุจริต หรือร่ำรวยผิดปกติ ให้ส่งรายงานเอกสารหลักฐานพร้อมทั้งความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อให้อัยการสูงสุดดำเนินการต่อไป

 

 

 

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

 

ไต่สวนข้อเท็จจริงและสรุปสำนวนพร้อมทั้งทำความเห็นส่งไปยังอัยการสูงสุด เพื่อฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

 

 

 

................................

 

 

 

เอ้า ฮิ้ววววววววววว คตส นำอำนาจของ ปปช มาใช้

 

ว้าววววววววววว

 

เกิดมาเพิ่งเคยพบ เคยเห็นนนนนนนนนนนนน

 

 

................................................    ก๊าาาาากกกกกกกกกกกก   555555555555  ++++++++++++  

 

 

http://webboard.seri...e-7#entry564411

 

มันโดนตบเกรียนยังไม่รู้ตัวอีก....เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็น..

 

พอเอาหลักฐานมาให้ดูว่าเค้าใช้อำนาจ ปปช. จริง ๆ มันยังบอกว่ามันเก่งอีก

 

 

 

 

 

เซากราวเอ๊ยยย .....   

 

ผมเมนท์ใน คห.ที่ 286 ว่า ..

 

 

อ้าว.. เริ่มแถแล้วไง 

 

ต่างกันยังไงคับ ...  ก็ในเมื่อ อำนาจของคตส.  เป็นการนำอำนาจของปปช.มาใช้   

 

แล้วมันต่างกันยังไง 

 

 

..............   ไปเอาหลักฐานมาสนับสนุนคำพูดของผม   ยังจะมาอวดโง่ด่าผมอีกหรอ    5 5 5 5 + + +

 

ยังสติดีอยู่รึปล่าวคับ นายพอล คุง  

[หมีเพิ่งมา_อย่าเพิ่งยิง]

อีกรอบนะ  ผมบอกว่า ..

 

ต่างกันยังไงคับ ...  ก็ในเมื่อ อำนาจของคตส.  เป็นการนำอำนาจของปปช.มาใช้   

 

 

นายพอล คุง  ก็นำลิงค์มาแสดงแล้วก็กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า 

 

พอเอาหลักฐานมาให้ดูว่าเค้าใช้อำนาจ ปปช. จริง ๆ มันยังบอกว่ามันเก่งอีก

 

 

...........  5 5 5 5 + + +  เฮ้ย พอล คุง  เป็นไรมากป่าว  (นี่เอาฮาใช่มั๊ย) 

[พอล คุง]

พอลคุง เค้าบอก...."ถ้าจะพูดให้ถูก ต้องบอกว่า คตส มีอำนาจเหมือน ปปช "

 

 

อำนาจหน้าที่ของ คตส.เป็นไปตาม ประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 โดยเฉพาะข้อ 9 ได้บัญญัติว่า

 

ในกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบมีมติว่าผู้ดำรงตำแหน่างทางการเมืองหรือบุคคลใดกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือทุจริต หรือร่ำรวยผิดปกติ ให้ส่งรายงานเอกสารหลักฐานพร้อมทั้งความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อให้อัยการสูงสุดดำเนินการต่อไป

 

 

 

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

 

ไต่สวนข้อเท็จจริงและสรุปสำนวนพร้อมทั้งทำความเห็นส่งไปยังอัยการสูงสุด เพื่อฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

 

 

 

................................

 

 

 

เอ้า ฮิ้ววววววววววว คตส นำอำนาจของ ปปช มาใช้

 

ว้าววววววววววว

 

เกิดมาเพิ่งเคยพบ เคยเห็นนนนนนนนนนนนน

 

 

................................................    ก๊าาาาากกกกกกกกกกกก   555555555555  ++++++++++++  

 

 

http://webboard.seri...e-7#entry564411

 

มันโดนตบเกรียนยังไม่รู้ตัวอีก....เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็น..

 

พอเอาหลักฐานมาให้ดูว่าเค้าใช้อำนาจ ปปช. จริง ๆ มันยังบอกว่ามันเก่งอีก

 

 

 

 

 

เซากราวเอ๊ยยย .....   

 

ผมเมนท์ใน คห.ที่ 286 ว่า ..

 

 

อ้าว.. เริ่มแถแล้วไง 

 

ต่างกันยังไงคับ ...  ก็ในเมื่อ อำนาจของคตส.  เป็นการนำอำนาจของปปช.มาใช้   

 

แล้วมันต่างกันยังไง 

 

 

..............   ไปเอาหลักฐานมาสนับสนุนคำพูดของผม   ยังจะมาอวดโง่ด่าผมอีกหรอ    5 5 5 5 + + +

 

ยังสติดีอยู่รึปล่าวคับ นายพอล คุง  

 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

ไปอ่านมาใหม่นะ

 

มันไม่ได้ใช้อำนาจของ ปปช 

 

คตส ได้ใช้อำนาจตาม คปค ให้ใช้อำนาจตามกฎหมายของ ปปช ในการสอบสวนของ คตส

 

ไม่ได้ใฃ้อำนาจของปปชโดยตรง

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

[พอล คุง]

อีกรอบนะ  ผมบอกว่า ..

 

ต่างกันยังไงคับ ...  ก็ในเมื่อ อำนาจของคตส.  เป็นการนำอำนาจของปปช.มาใช้   

 

 

นายพอล คุง  ก็นำลิงค์มาแสดงแล้วก็กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า 

 

พอเอาหลักฐานมาให้ดูว่าเค้าใช้อำนาจ ปปช. จริง ๆ มันยังบอกว่ามันเก่งอีก

 

 

...........  5 5 5 5 + + +  เฮ้ย พอล คุง  เป็นไรมากป่าว  (นี่เอาฮาใช่มั๊ย) 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

คปค ระบุ อำนาจของกฎหมาย ปปช เพื่อให้ คตส มีอำนาจตามกฎหมาย ปปช หรือ เรียกให้ถูกว่า เหมือนหรือคล้าย ปปช ไม่ใช่ใช้อำนาจ ปปช โดยตรง

[พอล คุง]

นอกจากอำนาจตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจตามกฎหมายดังต่อไปนี้ด้วย 1.พระราชบัญญัติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบใช้อำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และคณะกรรมการธุรกรรม 2.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบ ใช้อำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 3.ประมวลรัษฎากร โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบ ใช้อำนาจของอธิบดีกรมสรรพากร เฉพาะที่เกี่ยวกับการยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สิน

 

Edited by พอล คุง, 9 January 2013 - 23:18.

[หมีเพิ่งมา_อย่าเพิ่งยิง]

อีกรอบนะ  ผมบอกว่า ..

 

ต่างกันยังไงคับ ...  ก็ในเมื่อ อำนาจของคตส.  เป็นการนำอำนาจของปปช.มาใช้   

 

 

นายพอล คุง  ก็นำลิงค์มาแสดงแล้วก็กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า 

 

พอเอาหลักฐานมาให้ดูว่าเค้าใช้อำนาจ ปปช. จริง ๆ มันยังบอกว่ามันเก่งอีก

 

 

...........  5 5 5 5 + + +  เฮ้ย พอล คุง  เป็นไรมากป่าว  (นี่เอาฮาใช่มั๊ย) 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

คปค ระบุ อำนาจของกฎหมาย ปปช เพื่อให้ คตส มีอำนาจตามกฎหมาย ปปช หรือ เรียกให้ถูกว่า เหมือนหรือคล้าย ปปช ไม่ใช่ใช้อำนาจ ปปช โดยตรง

 

 

โอ้โห ....   แถไปได้  เออ เออ .. โคตรไม่เหมือนกันเลย ..   

 

(ตรงใหนว่ะ)  5 5 5 5 + + +  

[หมีเพิ่งมา_อย่าเพิ่งยิง]

พอล คุง

 

แหรกตาดูดีๆนะ  ข้อ2.  

 

2.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบ ใช้อำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

 

................

 

แล้วผมบอกว่า..

 

ต่างกันยังไงคับ ...  ก็ในเมื่อ อำนาจของคตส.  เป็นการนำอำนาจของปปช.มาใช้   

 

 

....................   ก๊ากกกกก     5555555   +++++++++   

 

ว่าไงคับ ..   หายโง่ยัง 

[หมีเพิ่งมา_อย่าเพิ่งยิง]

พอลคุงค๊าบบบบ           เงิบค๊าบบบบบบบบบบบ     ...................  

[หมีเพิ่งมา_อย่าเพิ่งยิง]

ไปแร๊ะน๊าาาา  .........  สบายใจจุงเบย 

[หมีเพิ่งมา_อย่าเพิ่งยิง]

พอลคุง เค้าบอก...."ถ้าจะพูดให้ถูก ต้องบอกว่า คตส มีอำนาจเหมือน ปปช "

 

 

อำนาจหน้าที่ของ คตส.เป็นไปตาม ประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 โดยเฉพาะข้อ 9 ได้บัญญัติว่า

 

ในกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบมีมติว่าผู้ดำรงตำแหน่างทางการเมืองหรือบุคคลใดกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือทุจริต หรือร่ำรวยผิดปกติ ให้ส่งรายงานเอกสารหลักฐานพร้อมทั้งความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อให้อัยการสูงสุดดำเนินการต่อไป

 

 

 

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

 

ไต่สวนข้อเท็จจริงและสรุปสำนวนพร้อมทั้งทำความเห็นส่งไปยังอัยการสูงสุด เพื่อฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

 

 

 

................................

 

 

 

เอ้า ฮิ้ววววววววววว คตส นำอำนาจของ ปปช มาใช้

 

ว้าววววววววววว

 

เกิดมาเพิ่งเคยพบ เคยเห็นนนนนนนนนนนนน

 

 

................................................    ก๊าาาาากกกกกกกกกกกก   555555555555  ++++++++++++  

 

 

http://webboard.seri...e-7#entry564411

 

มันโดนตบเกรียนยังไม่รู้ตัวอีก....เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็น..

 

พอเอาหลักฐานมาให้ดูว่าเค้าใช้อำนาจ ปปช. จริง ๆ มันยังบอกว่ามันเก่งอีก

 

 

 

 

 

 

นี่ๆ  นายมาพูดใหม่อีกรอบสิ   ใครโดนตบเกรียนนะ ...   หลับหูหลับตาเชียร์   

 

เงิบไปด้วยเลยอ่ะดิ่    ...   กิ้ว  กิ้ว  กิ้ว   

[Gop]

ยังมีคดีที่อยู่ในชั้นศาล ที่ คตส.เป็นผู้ยื่นฟ้องอยู่ด้วย ไม่ใช่หรือครับ?

ผมจำไม่ได้ว่า ตอบคุณไปหมดรึยัง
คตส เป็นฝ่ายยื่นคำร้อง ขอฟ้องร้อง ในทุกคดีแหละครับ
หากมีความเห็นไม่ตรงกับอัยการ จึงใช้อำนาจปปช เขายื่นแทน
*อยู่ในประกาศ 30 อยู่แล้ว
ทีนี้ ประเด็นคือ ณ ตอนนี้ ไม่มีแล้ว โอนงานไปหมดละ
ส่วนคดีที่ฟ้องแล้ว โจทก์คืออัยการสูงสุด เป็นผู้ร้อง
(ดูตาม คำพิพากษาได้)
คตส ถูกดึงเข้ามาเกี่ยว *ในการพิาจารณาคดี
ก็เพราะมีผู้แก้ต่างให้จำเลย ว่า คตส หมดอายุฟ้องแล้ว
แต่ศาลพิจารณาแล้วว่ามันยังไม่หมด บลา.. บลา...
คำถามที่ผมทิ้งไว้ให้นั้น
หากคุณปรึกษาญาติมาแล้ว
ช่วยกลับมาบอกด้วย จะขอบคุณมาก
ส่วนทางน้องผมนี้
ผมให้เขาวานลุงเขาหาข้อบังคับ ระเบียบการ และกระบวนการมาให้ครับ
แต่คงต้องใช้เวลาค้นหา
เพราะมันอาจจะไม่ได้อยู่บนอินเตอร์เน็ทนะครับ
แม้วันนี้ จะดูคุณเหวี่ยงๆ ไปหน่อย
แต่ก็ยังยินดี ที่คุณเห็นว่า เนื้อหาในกระทู้นี้ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง
สำหรับผม ความเข้าใจที่ตรงกัน คือการปรองดองอย่างหนึ่ง
*แม้ว่าในความเป็นจริง เราจะเถียงกันก็ตาม

*อย่าหาว่าผมโตแหล 555

เวลาผมคุย ผมดูตามตัวอักษร บอกตรงๆว่าค่อนข้างหงุดหงิด เพราะผมรู้สึกว่าผมตอบไปแล้ว เหมือนจะคุยกันจบแล้ว และดูเหมือนคุณจะเข้าใจแล้ว แต่คุณก็วนกลับมาประเด็นเดิมอีกแล้ว !!?? อีกด้านหนึ่ง อาจเป็นเพราะผมอ่านไม่ละเอียดเองด้วย เลยทำให้หลายครั้งเข้าใจ ใจความผิดไป

เอาเป็นว่าผมจะลองถามเป็นข้อๆ และขอให้คุณเคนอิจิตอบเป็นข้อๆ เพื่อให้กระจ่าง ทีละเรื่องนะครับ

1 ผมคิดว่าคุณยังไม่ได้ตอบผมเรื่องการวินิจฉัยถึงอำนาจหน้าที่ของผู้ฟ้องร้อง เมื่อถึงวันพิพากษา ในคำวินิจฉัยนั้น ศาลต้องอ้างกฏหมาย ที่รับรองอำนาจหน้าที่ของผู้ยื่นฟ้องหรือไม่?

2 ยังมีคดีความที่อยู่ในชั้นศาล ณ ตอนนี้ ที่คตส. เป็นผู้ส่งฟ้อง ใช่ หรือ ไม่ ? ( ส่วนอัยการ หรือ ปปช. ณ ตอนนี้มีหน้าที่ดำเนินคดีในชั้นศาล )

3 ประกาศ คปค. ฉบับที่ 30 รับรองอำนาจหน้าที่ในการฟ้องร้องของ คตส. ถ้าแก้ รธน. ให้ประกาศ คปค. ไม่ชอบด้วย รธน.แล้ว คตส. จะเป็นองค์กรณ์ ที่ไม่ชอบด้วย รธน. ใหม่ทันทีใช่มั้ยครับ?

4 อันนี้คุ้นๆว่า ในความคิดเห็นของคุณเคนอิจิ คุณคิดว่า ต่อให้แก้ รธน. อย่างที่กล่าวในข้อ 3 แล้ว ศาลก็สามารถอ้างประกาศ คปค. ได้อยู่ดีใช่มั้ยครับ? ถ้าใช่ ช่วยอธิบายด้วย ว่าเพราะอะไร?

[พอล คุง]

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยย เค้าใช้อำนาจ โดยตรง เลย 

 

ไม่ได้ใช้อำนาจของ ปปช แต่ได้ใช้อำนาจ ตามกฎหมาย ปปช

 

ไม่ต้องผ่าน เพราะกฎหมาย รับรองอำนาจหน้าที่คตส ไว้แล้ว

[พอล คุง]

ข้อ 5 ให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

(1) ตรวจสอบการดำเนินงานหรือโครงการที่ได้รับอนุมัตหรือเห็นชอบ โดยบุคคลในคณะรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีซึ่งพ้นจากตำแหน่งโดยผลของการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะเป็นไปโดยทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

(2) ตรวจสอบสัญญา สัญญาสัมปทานหรือการจัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการกระทำที่เอื่อประโยชน์แก่เอกชนโดยมิชอบ หรือมีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีการกระทำที่ทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

(3) ตรวจสอบการปฏิบัติราชการใดๆ ของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีการกระทำที่ทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

(4) ตรวจสอบการการะทำของบุคคลใดๆ ที่เห็นว่าเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือหลีกเลี่ยงกฎหมายว่าด้วยภาษีอากร อันเป็นการกระทำให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ

 

 

ในกรณี ที่เห็นว่า การดำเนินการในเรื่องที่ตรวจสอบ มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า มีการกระทำทุจริตหรือประพฤติมิชอบ หรือมีพฤติการณ์ว่า มีบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการทุจริต หรือประพฤติมิชอบ หรือร่ำรวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ ให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจสั่งยึด หรืออายัดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องของผู้นั้น คู่สมรส และบุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะของผู้นั้นไว้ก่อนได้

เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามประกาศนี้นอกจากอำนาจตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจตามกฎหมายดังต่อไปนี้ด้วย

(1) พระราชบัญญัติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ.ศ. 2542 โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบใช้อำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอก เงินและคณะกรรมการธุรกรรม

(2) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2542 โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบใช้อำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ

(3) ประมวลรัษฎากรโดยให้คณะกรรมการตรวจสอบ ใช้อำนาจของอธิบดีกรมสรรพากร เฉพาะที่เกี่ยวกับการยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สิน

ในการดำเนินการตามวรรคหนึ่งวรรคสอง และวรรคสาม คณะกรรมการตรวจสอบ มีอำนาจพิจารณาเรื่องใดๆ ที่เห็นควรตรวจสอบ เรื่องที่มีผู้เสนอข้อมูล หรือเรื่องที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานอื่นใด และให้มีอำนาจเรียกสำนวน หรือเรื่องที่อยู่ในการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐ หรือเรียกสำนวนการสอบสวน หรือ การตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน มาพิจารณา และให้ใช้เป็นสำนวนการตรวจสอบ ของคณะกรรมการตรวจสอบ โดยจะสอบสวนเพิ่มเติมหรือไม่ ก็ได้ ในกรณีที่มีเรื่องเดียวกันอยู่ในการดำเนินการของคณะกรรมการป้องกันและปราบ ปรามการทุจริตแห่งชาติหรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือคณะกรรมการธุรกรรม ให้ประสานงานเพื่อดำเนินการตามควรแก่กรณี

 

อันนี้เป็นฉบับเต็ม ๆ

 

 

Edited by พอล คุง, 9 January 2013 - 23:45.

[พอล คุง]

รอ ๆ ๆ การแถ ต่อไป

 

อิอิ

[พอล คุง]

พอล คุง

 

แหรกตาดูดีๆนะ  ข้อ2.  

 

2.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบ ใช้อำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

 

................

 

แล้วผมบอกว่า..

 

ต่างกันยังไงคับ ...  ก็ในเมื่อ อำนาจของคตส.  เป็นการนำอำนาจของปปช.มาใช้   

 

 

....................   ก๊ากกกกก     5555555   +++++++++   

 

ว่าไงคับ ..   หายโง่ยัง 

 

อิอิ

 

โดดงับ โดยไม่อ่าน ให้หมด

 

ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

[หมีเพิ่งมา_อย่าเพิ่งยิง]

พอลคุง ..  เปิดดูซิ   สีข้างแดงหมดอ่ะยัง

 

 

คุณกำลังถกกับผมเรื่องอำนาจของคตส.  กับ ของปปช. 

 

ไอ้ข้อ 2.  กับที่ผมพูดมันผิดกันตรงใหนคับ

 

ไอ้ข้ออื่นมันไม่เกี่ยวกับอำนาจของปปช. เลย 

 

พอล คุง

 

แหรกตาดูดีๆนะ  ข้อ2.  

 

2.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบ ใช้อำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

 

................

 

แล้วผมบอกว่า..

 

ต่างกันยังไงคับ ...  ก็ในเมื่อ อำนาจของคตส.  เป็นการนำอำนาจของปปช.มาใช้   

 

 

....................   ก๊ากกกกก     5555555   +++++++++   

 

ว่าไงคับ ..   หายโง่ยัง 

 

[พอล คุง]

พอลคุง ..  เปิดดูซิ   สีข้างแดงหมดอ่ะยัง

 

 

คุณกำลังถกกับผมเรื่องอำนาจของคตส.  กับ ของปปช. 

 

ไอ้ข้อ 2.  กับที่ผมพูดมันผิดกันตรงใหนคับ

 

ไอ้ข้ออื่นมันไม่เกี่ยวกับอำนาจของปปช. เลย 

 

พอล คุง

 

แหรกตาดูดีๆนะ  ข้อ2.  

 

2.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบ ใช้อำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

 

................

 

แล้วผมบอกว่า..

 

ต่างกันยังไงคับ ...  ก็ในเมื่อ อำนาจของคตส.  เป็นการนำอำนาจของปปช.มาใช้   

 

 

....................   ก๊ากกกกก     5555555   +++++++++   

 

ว่าไงคับ ..   หายโง่ยัง 

 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

คตส ใช้อำนาจโดยตรง อยู่แล้ว ตามข้างบน ที่แปะไว้ให้อยู่แล้ว

 

อ่านตรงที่ เกี่ยวเนื่องกับ วรรคหนึ่งนะ

[พอล คุง]

ถ้าจะเข้าเงือนไข ใช้ อำนาจ ปปช จะเป็นการใช้อำนาจ ปปช ในการอายัพทรัพย์

 

แต่การตรวจสอบคดีต่าง ๆใช้ ประกาศ คปค ที่ระบุไปเลย

 

แต่ที่คุยกันนะ พวกเมิงบอกว่า คตส ใช้อำนาจ ปปช ในการตรวจสอบคดีต่าง ๆโดยใช้ อำนาจ ปปช

[หมีเพิ่งมา_อย่าเพิ่งยิง]

ถ้าจะเข้าเงือนไข ใช้ อำนาจ ปปช จะเป็นการใช้อำนาจ ปปช ในการอายัพทรัพย์

 

แต่การตรวจสอบคดีต่าง ๆใช้ ประกาศ คปค ที่ระบุไปเลย

 

แต่ที่คุยกันนะ พวกเมิงบอกว่า คตส ใช้อำนาจ ปปช ในการตรวจสอบคดีต่าง ๆโดยใช้ อำนาจ ปปช

 

 

การยึดหรืออายัดทรัพย์เป็นกระบวนการทางกม. ปวิอาญามาตรา 2  .   ทางตำรวจก็อายัดทรัพย์ได้   ปปง. ก็ทำได้   ไม่ใช่อำนาจปปช.โดยเฉพาะ 

 

แล้วไอ้ที่ว่า .. ใช้อำนาจโดยตรงก็คือ การส่งฟ้องโดยไม่ผ่านอัยการ   เค้าเรียกว่าการใช้อำนาจโดยตรง 

 

แต่ไอ้ที่เถียงกันเนี่ย  มันเรื่องการตรวจสอบ ..   คุณบอกว่าใช้อำนาจของคปค.  ใหนคับ ขอดูหน่อย 

 

ก็คปค. เค้าให้ไปใช้อำนาจของปปช.    ( อ้ายยยยย   โง่) 

 

 

 

ก็เป็นคนเอามาเองแท้ๆ  คำสั่งของคปค....  จะแถไปถึงใหนว่ะ 

 

 

2.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบ ใช้อำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

 

................

 

แล้วผมบอกว่า..

 

ต่างกันยังไงคับ ...  ก็ในเมื่อ อำนาจของคตส.  เป็นการนำอำนาจของปปช.มาใช้   

 

 

....................   ก๊ากกกกก     5555555   +++++++++   

 

ว่าไงคับ ..   หายโง่ยัง 

[พอล คุง]

หมี หัดอ่านข้างบน สิว่ะ

 

เอามาแปะให้ใหม่

 

 

ข้อ 5 ให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

(1) ตรวจสอบการดำเนินงานหรือโครงการที่ได้รับอนุมัตหรือเห็นชอบ โดยบุคคลในคณะรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีซึ่งพ้นจากตำแหน่งโดยผลของการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะเป็นไปโดยทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

(2) ตรวจสอบสัญญา สัญญาสัมปทานหรือการจัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการกระทำที่เอื่อประโยชน์แก่เอกชนโดยมิชอบ หรือมีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีการกระทำที่ทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

(3) ตรวจสอบการปฏิบัติราชการใดๆ ของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีการกระทำที่ทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

(4) ตรวจสอบการการะทำของบุคคลใดๆ ที่เห็นว่าเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือหลีกเลี่ยงกฎหมายว่าด้วยภาษีอากร อันเป็นการกระทำให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ

 

 

[พอล คุง]

ถ้าจะเข้าเงือนไข ใช้ อำนาจ ปปช จะเป็นการใช้อำนาจ ปปช ในการอายัพทรัพย์

 

แต่การตรวจสอบคดีต่าง ๆใช้ ประกาศ คปค ที่ระบุไปเลย

 

แต่ที่คุยกันนะ พวกเมิงบอกว่า คตส ใช้อำนาจ ปปช ในการตรวจสอบคดีต่าง ๆโดยใช้ อำนาจ ปปช

 

 

การยึดหรืออายัดทรัพย์เป็นกระบวนการทางกม. ปวิอาญามาตรา 2  .   ทางตำรวจก็อายัดทรัพย์ได้   ปปง. ก็ทำได้   ไม่ใช่อำนาจปปช.โดยเฉพาะ 

 

แล้วไอ้ที่ว่า .. ใช้อำนาจโดยตรงก็คือ การส่งฟ้องโดยไม่ผ่านอัยการ   เค้าเรียกว่าการใช้อำนาจโดยตรง 

 

แต่ไอ้ที่เถียงกันเนี่ย  มันเรื่องการตรวจสอบ ..   คุณบอกว่าใช้อำนาจของคปค.  ใหนคับ ขอดูหน่อย 

 

ก็คปค. เค้าให้ไปใช้อำนาจของปปช.    ( อ้ายยยยย   โง่) 

 

 

 

ก็เป็นคนเอามาเองแท้ๆ  คำสั่งของคปค....  จะแถไปถึงใหนว่ะ 

 

 

2.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบ ใช้อำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

 

................

 

แล้วผมบอกว่า..

 

ต่างกันยังไงคับ ...  ก็ในเมื่อ อำนาจของคตส.  เป็นการนำอำนาจของปปช.มาใช้   

 

 

....................   ก๊ากกกกก     5555555   +++++++++   

 

ว่าไงคับ ..   หายโง่ยัง 

 

หัดอ่าน ประกาศ คปค ที่แปะให้ หรือ อ่านใน google ก้อไ้ด้นะ

 

ส่วนการยัดทรัพย์ให้อ่าน ตัวสีเขียว ข้างบท ตามด้วยสีแดงข้างล่างงงงงงงงงงงงงงง

[พอล คุง]

http://www.decha.com...pic.php?id=5692

 

หัดอ่าน บ้างนะ

 

จะได้หายโง่

[หมีเพิ่งมา_อย่าเพิ่งยิง]

หมี หัดอ่านข้างบน สิว่ะ

 

เอามาแปะให้ใหม่

 

 

ข้อ 5 ให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

(1) ตรวจสอบการดำเนินงานหรือโครงการที่ได้รับอนุมัตหรือเห็นชอบ โดยบุคคลในคณะรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีซึ่งพ้นจากตำแหน่งโดยผลของการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะเป็นไปโดยทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

(2) ตรวจสอบสัญญา สัญญาสัมปทานหรือการจัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการกระทำที่เอื่อประโยชน์แก่เอกชนโดยมิชอบ หรือมีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีการกระทำที่ทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

(3) ตรวจสอบการปฏิบัติราชการใดๆ ของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีการกระทำที่ทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

(4) ตรวจสอบการการะทำของบุคคลใดๆ ที่เห็นว่าเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือหลีกเลี่ยงกฎหมายว่าด้วยภาษีอากร อันเป็นการกระทำให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ

 

 

 

 

ปัทโธ่  คุณพอล ....   เข้าใจคำว่าอำนาจและหน้าที่ของหน่วยงานมั๊ยคับ  

 

ไอ้ที่ยกมานั่นเขาเรียกหน้าที่คับ   

 

แต่อำนาจที่คปค.ให้กับคตส. นะ ..   เค้าให้ไปใช้อำนาจของปปช.ไง    

 

 

.................

 

 

นี่ไม่เข้าใจจริงๆ  หรือ แกล้งคับ  (ผมเริ่มไม่เข้าใจคุณมากขึ้นทุกวินาที)

[หมีเพิ่งมา_อย่าเพิ่งยิง]

คุณพอล คุง   ไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้เลยนะคับ   

 

 

แถ.เก่งขนาดนี้   เป็นรองแค่มาร์คคนเดียวเท่านั้นล่ะ 

[พอล คุง]

หมี หัดอ่านข้างบน สิว่ะ

 

เอามาแปะให้ใหม่

 

 

ข้อ 5 ให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

(1) ตรวจสอบการดำเนินงานหรือโครงการที่ได้รับอนุมัตหรือเห็นชอบ โดยบุคคลในคณะรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีซึ่งพ้นจากตำแหน่งโดยผลของการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะเป็นไปโดยทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

(2) ตรวจสอบสัญญา สัญญาสัมปทานหรือการจัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการกระทำที่เอื่อประโยชน์แก่เอกชนโดยมิชอบ หรือมีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีการกระทำที่ทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

(3) ตรวจสอบการปฏิบัติราชการใดๆ ของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีการกระทำที่ทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

(4) ตรวจสอบการการะทำของบุคคลใดๆ ที่เห็นว่าเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือหลีกเลี่ยงกฎหมายว่าด้วยภาษีอากร อันเป็นการกระทำให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ

 

 

 

 

ปัทโธ่  คุณพอล ....   เข้าใจคำว่าอำนาจและหน้าที่ของหน่วยงานมั๊ยคับ  

 

ไอ้ที่ยกมานั่นเขาเรียกหน้าที่คับ   

 

แต่อำนาจที่คปค.ให้กับคตส. นะ ..   เค้าให้ไปใช้อำนาจของปปช.ไง    

 

 

.................

 

 

นี่ไม่เข้าใจจริงๆ  หรือ แกล้งคับ  (ผมเริ่มไม่เข้าใจคุณมากขึ้นทุกวินาที)

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

ถ้าต้องใช้อำนาจของ ปปช ไม่ต้องมีคตส หรอก

 

เค้าให้อำนาจคตส ในการตรวจสอบ โดยตรงเลย

 

อ่านให้หมด ดีกว่า

[หมีเพิ่งมา_อย่าเพิ่งยิง]

ผมไปแล้วนะ  .. พรุ่งนี้จะเข้ามาฮาใหม่  

[หมีเพิ่งมา_อย่าเพิ่งยิง]

หมี หัดอ่านข้างบน สิว่ะ

 

เอามาแปะให้ใหม่

 

 

ข้อ 5 ให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

(1) ตรวจสอบการดำเนินงานหรือโครงการที่ได้รับอนุมัตหรือเห็นชอบ โดยบุคคลในคณะรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีซึ่งพ้นจากตำแหน่งโดยผลของการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะเป็นไปโดยทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

(2) ตรวจสอบสัญญา สัญญาสัมปทานหรือการจัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการกระทำที่เอื่อประโยชน์แก่เอกชนโดยมิชอบ หรือมีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีการกระทำที่ทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

(3) ตรวจสอบการปฏิบัติราชการใดๆ ของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีการกระทำที่ทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

(4) ตรวจสอบการการะทำของบุคคลใดๆ ที่เห็นว่าเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือหลีกเลี่ยงกฎหมายว่าด้วยภาษีอากร อันเป็นการกระทำให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ

 

 

 

 

ปัทโธ่  คุณพอล ....   เข้าใจคำว่าอำนาจและหน้าที่ของหน่วยงานมั๊ยคับ  

 

ไอ้ที่ยกมานั่นเขาเรียกหน้าที่คับ   

 

แต่อำนาจที่คปค.ให้กับคตส. นะ ..   เค้าให้ไปใช้อำนาจของปปช.ไง    

 

 

.................

 

 

นี่ไม่เข้าใจจริงๆ  หรือ แกล้งคับ  (ผมเริ่มไม่เข้าใจคุณมากขึ้นทุกวินาที)

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

ถ้าต้องใช้อำนาจของ ปปช ไม่ต้องมีคตส หรอก

 

เค้าให้อำนาจคตส ในการตรวจสอบ โดยตรงเลย

 

อ่านให้หมด ดีกว่า

 

 

ก็คตส...  มันรวมอำนาจ ของ ปปช.  ปปง   อัยการ   และอื่นๆเข้าไว้ด้วยกันในหน่วยงานเดียว

 

มันจึงมีอำนาจมากกว่าปปช. ไง    ..................   

[พอล คุง]

ข้อ 5 ให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

(1) ตรวจสอบการดำเนินงานหรือโครงการที่ได้รับอนุมัตหรือเห็นชอบ โดยบุคคลในคณะรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีซึ่งพ้นจากตำแหน่งโดยผลของการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะเป็นไปโดยทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

(2) ตรวจสอบสัญญา สัญญาสัมปทานหรือการจัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการกระทำที่เอื่อประโยชน์แก่เอกชนโดยมิชอบ หรือมีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีการกระทำที่ทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

(3) ตรวจสอบการปฏิบัติราชการใดๆ ของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีการกระทำที่ทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

(4) ตรวจสอบการการะทำของบุคคลใดๆ ที่เห็นว่าเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือหลีกเลี่ยงกฎหมายว่าด้วยภาษีอากร อันเป็นการกระทำให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ

ในกรณี ที่เห็นว่า การดำเนินการในเรื่องที่ตรวจสอบ มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า มีการกระทำทุจริตหรือประพฤติมิชอบ หรือมีพฤติการณ์ว่า มีบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการทุจริต หรือประพฤติมิชอบ หรือร่ำรวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ ให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจสั่งยึด หรืออายัดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องของผู้นั้น คู่สมรส และบุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะของผู้นั้นไว้ก่อนได้

เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามประกาศนี้นอกจากอำนาจตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจตามกฎหมายดังต่อไปนี้ด้วย

(1) พระราชบัญญัติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ.ศ. 2542 โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบใช้อำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอก เงินและคณะกรรมการธุรกรรม

(2) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2542 โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบใช้อำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ

(3) ประมวลรัษฎากรโดยให้คณะกรรมการตรวจสอบ ใช้อำนาจของอธิบดีกรมสรรพากร เฉพาะที่เกี่ยวกับการยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สิน

ในการดำเนินการตามวรรคหนึ่งวรรคสอง และวรรคสาม คณะกรรมการตรวจสอบ มีอำนาจพิจารณาเรื่องใดๆ ที่เห็นควรตรวจสอบ เรื่องที่มีผู้เสนอข้อมูล หรือเรื่องที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานอื่นใด และให้มีอำนาจเรียกสำนวน หรือเรื่องที่อยู่ในการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐ หรือเรียกสำนวนการสอบสวน หรือ การตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน มาพิจารณา และให้ใช้เป็นสำนวนการตรวจสอบ ของคณะกรรมการตรวจสอบ โดยจะสอบสวนเพิ่มเติมหรือไม่ ก็ได้ ในกรณีที่มีเรื่องเดียวกันอยู่ในการดำเนินการของคณะกรรมการป้องกันและปราบ ปรามการทุจริตแห่งชาติหรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือคณะกรรมการธุรกรรม ให้ประสานงานเพื่อดำเนินการตามควรแก่กรณี

 

ระบายสี เขียว ๆ อ่านด้วยนะ เพราะมันเชื่อมที่วรรค 1 ของ ข้อ 5

[หมีเพิ่งมา_อย่าเพิ่งยิง]

หาาายยยยย  ....  โง่       ยางงงงงงงงงงงง  

 

 

 

ไปแระนะ ...  

[พอล คุง]

เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามประกาศนี้นอกจากอำนาจตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจตามกฎหมายดังต่อไปนี้ด้วย

 

อ่านให้เข้าใจด้วยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

มันให้อำนาจเพิ่มเติมเท่านั้น ตามประำกาศ

[หมีเพิ่งมา_อย่าเพิ่งยิง]

ข้อ 5 ให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

(1) ตรวจสอบการดำเนินงานหรือโครงการที่ได้รับอนุมัตหรือเห็นชอบ โดยบุคคลในคณะรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีซึ่งพ้นจากตำแหน่งโดยผลของการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะเป็นไปโดยทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

(2) ตรวจสอบสัญญา สัญญาสัมปทานหรือการจัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการกระทำที่เอื่อประโยชน์แก่เอกชนโดยมิชอบ หรือมีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีการกระทำที่ทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

(3) ตรวจสอบการปฏิบัติราชการใดๆ ของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีการกระทำที่ทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

(4) ตรวจสอบการการะทำของบุคคลใดๆ ที่เห็นว่าเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือหลีกเลี่ยงกฎหมายว่าด้วยภาษีอากร อันเป็นการกระทำให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ

ในกรณี ที่เห็นว่า การดำเนินการในเรื่องที่ตรวจสอบ มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า มีการกระทำทุจริตหรือประพฤติมิชอบ หรือมีพฤติการณ์ว่า มีบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการทุจริต หรือประพฤติมิชอบ หรือร่ำรวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ ให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจสั่งยึด หรืออายัดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องของผู้นั้น คู่สมรส และบุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะของผู้นั้นไว้ก่อนได้

เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามประกาศนี้นอกจากอำนาจตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจตามกฎหมายดังต่อไปนี้ด้วย

(1) พระราชบัญญัติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ.ศ. 2542 โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบใช้อำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอก เงินและคณะกรรมการธุรกรรม

(2) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2542 โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบใช้อำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ

(3) ประมวลรัษฎากรโดยให้คณะกรรมการตรวจสอบ ใช้อำนาจของอธิบดีกรมสรรพากร เฉพาะที่เกี่ยวกับการยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สิน

ในการดำเนินการตามวรรคหนึ่งวรรคสอง และวรรคสาม คณะกรรมการตรวจสอบ มีอำนาจพิจารณาเรื่องใดๆ ที่เห็นควรตรวจสอบ เรื่องที่มีผู้เสนอข้อมูล หรือเรื่องที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานอื่นใด และให้มีอำนาจเรียกสำนวน หรือเรื่องที่อยู่ในการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐ หรือเรียกสำนวนการสอบสวน หรือ การตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน มาพิจารณา และให้ใช้เป็นสำนวนการตรวจสอบ ของคณะกรรมการตรวจสอบ โดยจะสอบสวนเพิ่มเติมหรือไม่ ก็ได้ ในกรณีที่มีเรื่องเดียวกันอยู่ในการดำเนินการของคณะกรรมการป้องกันและปราบ ปรามการทุจริตแห่งชาติหรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือคณะกรรมการธุรกรรม ให้ประสานงานเพื่อดำเนินการตามควรแก่กรณี

 

ระบายสี เขียว ๆ อ่านด้วยนะ เพราะมันเชื่อมที่วรรค 1 ของ ข้อ 5

 

 

 

เอ้า .. อยากอายต่อ ก็มาอีก 

 

ดูวรรค 1.  มันคือหน้าที่   และเชื่อมด้วยอักษรสีเขียวของคุณน่ะ   วรรค 2  เป็นการบอกว่าให้ไปใช้อำนาจของหน่วยงานใดบ้าง   

 

..............  ชัดรึยัง 

[พอล คุง]

หาาายยยยย  ....  โง่       ยางงงงงงงงงงงง  

 

 

 

ไปแระนะ ...  

 

 

อ่านที่แปะให้ยัง ว่ะ

 

เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามประกาศนี้นอกจากอำนาจตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจตามกฎหมายดังต่อไปนี้ด้วย

 

ตัวโต ๆ เผื่อมองไม่เห็น

[พอล คุง]

ข้อ 5 ให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

(1) ตรวจสอบการดำเนินงานหรือโครงการที่ได้รับอนุมัตหรือเห็นชอบ โดยบุคคลในคณะรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีซึ่งพ้นจากตำแหน่งโดยผลของการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะเป็นไปโดยทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

(2) ตรวจสอบสัญญา สัญญาสัมปทานหรือการจัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการกระทำที่เอื่อประโยชน์แก่เอกชนโดยมิชอบ หรือมีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีการกระทำที่ทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

(3) ตรวจสอบการปฏิบัติราชการใดๆ ของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีการกระทำที่ทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

(4) ตรวจสอบการการะทำของบุคคลใดๆ ที่เห็นว่าเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือหลีกเลี่ยงกฎหมายว่าด้วยภาษีอากร อันเป็นการกระทำให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ

ในกรณี ที่เห็นว่า การดำเนินการในเรื่องที่ตรวจสอบ มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า มีการกระทำทุจริตหรือประพฤติมิชอบ หรือมีพฤติการณ์ว่า มีบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการทุจริต หรือประพฤติมิชอบ หรือร่ำรวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ ให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจสั่งยึด หรืออายัดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องของผู้นั้น คู่สมรส และบุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะของผู้นั้นไว้ก่อนได้

เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามประกาศนี้นอกจากอำนาจตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจตามกฎหมายดังต่อไปนี้ด้วย

(1) พระราชบัญญัติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ.ศ. 2542 โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบใช้อำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอก เงินและคณะกรรมการธุรกรรม

(2) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2542 โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบใช้อำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ

(3) ประมวลรัษฎากรโดยให้คณะกรรมการตรวจสอบ ใช้อำนาจของอธิบดีกรมสรรพากร เฉพาะที่เกี่ยวกับการยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สิน

ในการดำเนินการตามวรรคหนึ่งวรรคสอง และวรรคสาม คณะกรรมการตรวจสอบ มีอำนาจพิจารณาเรื่องใดๆ ที่เห็นควรตรวจสอบ เรื่องที่มีผู้เสนอข้อมูล หรือเรื่องที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานอื่นใด และให้มีอำนาจเรียกสำนวน หรือเรื่องที่อยู่ในการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐ หรือเรียกสำนวนการสอบสวน หรือ การตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน มาพิจารณา และให้ใช้เป็นสำนวนการตรวจสอบ ของคณะกรรมการตรวจสอบ โดยจะสอบสวนเพิ่มเติมหรือไม่ ก็ได้ ในกรณีที่มีเรื่องเดียวกันอยู่ในการดำเนินการของคณะกรรมการป้องกันและปราบ ปรามการทุจริตแห่งชาติหรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือคณะกรรมการธุรกรรม ให้ประสานงานเพื่อดำเนินการตามควรแก่กรณี

 

ระบายสี เขียว ๆ อ่านด้วยนะ เพราะมันเชื่อมที่วรรค 1 ของ ข้อ 5

 

 

 

เอ้า .. อยากอายต่อ ก็มาอีก 

 

ดูวรรค 1.  มันคือหน้าที่   และเชื่อมด้วยอักษรสีเขียวของคุณน่ะ   วรรค 2  เป็นการบอกว่าให้ไปใช้อำนาจของหน่วยงานใดบ้าง   

 

..............  ชัดรึยัง 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

เข้าใจความหมายของคำว่า อำนาจเพิ่มเติมจากวรรคหนึ่งไหมม

 

เค้ามีหน้าที่ตรวจสอบอยู่แล้วววววววววววววววววววววว

 

มีกฎหมาย ปปง ปปช เพิ่มขึ้นเพื่อจัดการอะไรได้ง่ายขึ้น

[พอล คุง]

เอ้า ตัวโต ๆ อีกที

 

เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามประกาศนี้นอกจากอำนาจตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจตามกฎหมายดังต่อไปนี้ด้วย

 

เค้าให้อำนาจคตส ตามวรรคหนึ่งแล้วววววววววววววววววว

[พอล คุง]

เอ้า รอ ๆ ๆ แถ ต่อไป

[หมีเพิ่งมา_อย่าเพิ่งยิง]

กี่รอบถึงจะเลิกแถซะทีคับ  

 

วรรค 1.  เค้าบอกว่าให้ไปตรวจสอบใคร  ยังไง  อะไร   

 

ถ้าไม่มีอำนาจตามวรรค 2.  จะใช้อำนาจอะไรไปเรียกคนนี้  คนนั้นมาให้ปากคำได้คับ 

 

มันเลยต้องมีคำเชื่อมตรงกลาง เป็นการบอกว่า ให้ไปใช้อำนาจของหน่วยงานดังต่อไปนี้ .....

 

 

เข้าใจรึยัง 

[พอล คุง]

งับต่ออีกสิ หมี

 

รอ ๆ ๆ ๆ

 

คิดแผนใหม่ก่อน

[พอล คุง]

กี่รอบถึงจะเลิกแถซะทีคับ  

 

วรรค 1.  เค้าบอกว่าให้ไปตรวจสอบใคร  ยังไง  อะไร   

 

ถ้าไม่มีอำนาจตามวรรค 2.  จะใช้อำนาจอะไรไปเรียกคนนี้  คนนั้นมาให้ปากคำได้คับ 

 

มันเลยต้องมีคำเชื่อมตรงกลาง เป็นการบอกว่า ให้ไปใช้อำนาจของหน่วยงานดังต่อไปนี้ .....

 

 

เข้าใจรึยัง 

 

นี่เป็นวรรคหนึ่ง

 

(1) ตรวจสอบการดำเนินงานหรือโครงการที่ได้รับอนุมัตหรือเห็นชอบ โดยบุคคลในคณะรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีซึ่งพ้นจากตำแหน่งโดยผลของการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะเป็นไปโดยทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

 

คตส ก้อตรวจสอบ โครงการต่าง ๆ ตามอำนาจที่ประกาศใน คปค ไมได้ไปใช้อำนาจ ปปช เลย

 

(2) ตรวจสอบสัญญา สัญญาสัมปทานหรือการจัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการกระทำที่เอื่อประโยชน์แก่เอกชนโดยมิชอบ หรือมีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีการกระทำที่ทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

 

วรรคสอง เค้าก้อตรวจสอบ ตมปกติ วรรณสอง ไม่ต้องใช้ อำนาจ ปปช เลย

 

เพราะ เค้าให้อำนาจ ตามกฎหมาย ปปช มาเพิ่มเติม ในการยึดทรัพย์ อายัดทรัพย์

 

คตส มีอำนาจใน ประกาศอยุ่แล้วไม่ต้องอ้าง ปปช 

Edited by พอล คุง, 10 January 2013 - 00:52.

[พอล คุง]

กี่รอบถึงจะเลิกแถซะทีคับ  

 

วรรค 1.  เค้าบอกว่าให้ไปตรวจสอบใคร  ยังไง  อะไร   

 

ถ้าไม่มีอำนาจตามวรรค 2.  จะใช้อำนาจอะไรไปเรียกคนนี้  คนนั้นมาให้ปากคำได้คับ 

 

มันเลยต้องมีคำเชื่อมตรงกลาง เป็นการบอกว่า ให้ไปใช้อำนาจของหน่วยงานดังต่อไปนี้ .....

 

 

เข้าใจรึยัง 

 

คตส ทำไมไ่ด้คือ การอายัดทรัพย์ เค้าจึงต้องประกาศให้ใช้กฎหมาย ปปช ปปง ด้วย

 

แต่การตรวจสอบนะ คตส สามารถทำได้ตามประกาศอยู่แล้วววววววววววววววว

[หมีเพิ่งมา_อย่าเพิ่งยิง]

กี่รอบถึงจะเลิกแถซะทีคับ  

 

วรรค 1.  เค้าบอกว่าให้ไปตรวจสอบใคร  ยังไง  อะไร   

 

ถ้าไม่มีอำนาจตามวรรค 2.  จะใช้อำนาจอะไรไปเรียกคนนี้  คนนั้นมาให้ปากคำได้คับ 

 

มันเลยต้องมีคำเชื่อมตรงกลาง เป็นการบอกว่า ให้ไปใช้อำนาจของหน่วยงานดังต่อไปนี้ .....

 

 

เข้าใจรึยัง 

 

นี่เป็นวรรคหนึ่ง

 

(1) ตรวจสอบการดำเนินงานหรือโครงการที่ได้รับอนุมัตหรือเห็นชอบ โดยบุคคลในคณะรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีซึ่งพ้นจากตำแหน่งโดยผลของการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะเป็นไปโดยทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

 

คตส ก้อตรวจสอบ โครงการต่าง ๆ ตามอำนาจที่ประกาศใน คปค ไมได้ไปใช้อำนาจ ปปช เลย

 

 

นี่กรูเถียงอยู่กับเด็กที่ใหนว่ะเนี่ย

 

ฟังนะ ..   (1) ตรวจสอบการดำเนินงานหรือโครงการที่ได้รับอนุมัตหรือเห็นชอบ โดยบุคคลในคณะรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีซึ่งพ้นจากตำแหน่งโดยผลของการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะเป็นไปโดยทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

 

หมายความว่า ...   ตรวจสอบการดำเนินงานหรือโครงการที่ได้รับอนุมัตหรือเห็นชอบ โดยบุคคลในคณะรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรี

 

คือให้ไปตรวจสอบรมต.  หรือ คณะ  ที่อนุมัติโครงการต่างๆ  

..........................................

ต่อมานะ .. ซึ่งพ้นจากตำแหน่งโดยผลของการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

 

คือคณะรัฐบาลที่โดนปฎิวัตินั่นล่ะ  

.............................................

 

ต่อมา ...  ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะเป็นไปโดยทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

 

คือสงสัยว่าจะทุจริต 

 

.......++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++.......

 

......++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++........

 

เอาล่ะ ที่นี้การตรวจสอบก็จะต้องมีการเรียกเอกสาร   เรียกบุคคล   หรือ การตรวจสอบทางการเงิน  

 

ทีนี้จะทำยังไงล่ะ ....   มันทำไม่ได้  ถึงจะเป็นอำนาจของคปค. แต่ก็ไม่สามารถจะไปตรวจสอบเอกสารทางการเงินกับธนาคารได้ 

 

จึงต้องมีการมอบอำนาจจากหน่วยงานที่มีอำนาจทำได้   คือปปง .  หรือ อำนาจการสั่งฟ้องคดีของอัยการ  หรืออำนาจการตรวจสอบนักการเมือง ข้าราชการของปปช.

 

การมอบอำนาจให้คตส. ทำงานได้ จึงต้องเชื่อมด้วยประโยคที่คุณยกมานั่นไง

 

..............  โอ๊ยยยยย         เหนื่อยโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย