http://pantip.com/to...38353/comment29
ความคิดเห็นที่ 29
มั่วเองอีกแล้ว TFEX ไปเชื่อสาวก ASsTV ที่ไปฟังเขาเล่ามาอีกต่อหนึ่ง ไอ่คนเล่าไม่รู้ว่ามีความรู้ด้านปิโตรเลียมขนาดไหน สรุปว่ามั่วมาตลอด
ปั๊มชนิด sucker-rod นี้ สูบน้ำมันดิบขึ้นมา ก็จะได้น้ำมันที่ยังมีพวกสิ่งเจือปน เช่น ทราย sediment ตะกอนต่างๆ รวมทั้งน้ำด้วย ดังนั้น น้ำมันที่ได้จะขุ่นเหมือนโคลน ซึ่งน้ำมันส่วนนี้จะต้องเข้า separator ก่อน ยิ่งอยู่ในช่วงท้ายๆ ของการผลิตจะมีองค์ประกอบของน้ำเป็นสัดส่วนถึง 90% ของน้ำมันดิบ หรือแปลง่ายๆ ว่า ได้น้ำมันที่ใช้ได้จริงๆ น้อยกว่า 10% ของของเหลวที่นำขึ้นสู่ surface จริงๆ แล้วมีรายละเอียดมากกว่านี้ แต่เพื่อให้ง่ายต่อการอธิบาย ผมเลยอธิบายให้แบบสั้นๆ
อ๋อ ขอเสริมหน่อย ถ้าอยากรู้เรื่องน้ำมันถามผมนี่ ถ้าผมตอบไม่ได้เดี๋ยวถามเพื่อนให้ (เพื่อนคนอาหรับ)
aral54
17 ชั่วโมงที่แล้ว
ความคิดเห็นที่ 29-1
อีกอย่างต้องดูหน่วยด้วยว่าเป็นบาร์เรลแบบไหน เพราะจะมีทั้ง reservoir barrel กับ stock tank barrel
Note: Stick tank barrel จะวัดที่ conditions มาตรฐานของอุตสาหกรรมน้ำมัน ที่ 14.7 psia และ 60 องศาฟาเรนไฮต์
ส่วน reservoir barrel จะอิงกับอุณหภูมิ และความดันสัมบูรณ์ของแหล่งกักเก็บน้ำมัน
aral54
17 ชั่วโมงที่แล้ว
ความคิดเห็นที่ 29-2
ต่อๆ พอดีพิมพ์ในไอโฟน แก้ไขไม่ได้ เลยขอเสริมอีก
ที่บอกว่าน้ำมันผ่าน separator นั้นไม่ใช่การกลั่นลำดับส่วน ซึ่งหลังผ่านเครื่อง separator ก็ต้องไปกำจัดแก๊สกรดพวก H2S (ไฮโดรเจนซัลไฟด์) หรือแก๊สไข่เน่า เพื่อทุเลาปัญหาการกัดกร่อนเครื่องมือต่างๆ ในระบบ นอกจากนี้ยังต้องแยกไอน้ำออกอีก น้ำมันที่ผ่านขั้นตอนเหล่านี้หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่การกลั่นลำดับส่วน ได้พวก asphalt น้ำมันก๊าด น้ำมันเตา น้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล สารประกอบอะโรมาติก
นอกจากนี้ยังต้องควบคุม dissolved gas ในน้ำมันอีก ผ่าน การทดสอบ Reid Vapour point และ Flashpoint test
ดังนั้นน้ำมันที่ได้จากการกลั่น ถือว่าเป็นสัดส่วนไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของปริมาณน้ำมันดิบที่นำขึ้นสู่พื้นผิว
aral54
16 ชั่วโมงที่แล้ว
ความคิดเห็นที่ 30
พวกสลิ่มความรู้ก็ไม่มีได้แต่ฟังเขามา
องค์ประกอบที่ทำให้เกิดแหล่งกักเก็บที่มีศักยภาพต่อการผลิตเชิงพาณิชย์ ประกอบด้วย
1.source ซึ่งเกิดจากการทับถมของสิ่งมีชีวิต พืชในอดีต ซึ่งต้องอยู่ในระดับลึกที่พอเหมาะ ภายใต้อุณหภูมิที่เหมาะสม
2.migration เมื่อน้ำหนักจากชั้นหินด้านบนทับถมมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เกิดความดัน ทำให้น้ำมันถูกขับออกมาจากชั้นหิน shale โดยเคลื่อนขึ้นไปยังชั้นหินด้านบน
3.accumulation เมื่อน้ำมันที่แยกออกมารวมตัวกัน ก็จะสะสมอยู่ตามช่องว่างระหว่างเม็ดทราย ในชั้นหิน reservoir rock ที่พบโดยมากเป็น sandstone
4.seal คือ กลุ่มแร่ธาตุที่อยู่บริเวณผิวของชั้นหินกันมิให้น้ำมัน escape ไปได้
5.trap คือ โครงสร้างหรือรูปร่างของแหล่งกักเก็บ เช่น Syncline และ Anticline
ของไทยแหล่งน้ำมันบนบก ถ้ามีเยอะจริงป่านนี้ต้องมี Sucker-rod pump นับสิบๆ แท่นแล้ว เหมือนในรัฐเท็กซัส
aral54
17 ชั่วโมงที่แล้ว
ความคิดเห็นที่ 31
จาก เสรีไทย ลุงยอมรับ ว่ามาจากที่เดี่ยวกัน ถือว่ามีการ หาข้อมูล เหมือน กัน
แต่ มาจากแก๊งค์ ....TV
ร้อยเที่ยว เป็นการนับรถของ ชาวบ้าน ไม่มีการยืนยัน
จบข่าว ตอนสุดท้าย เอิ้กๆๆๆๆ
.........................................................................
ลุงเห็ดโคน
8 ชั่วโมงที่แล้ว
ความคิดเห็นที่ 31-1
น้ำมันที่หลายๆ คน คิดว่าขุดขึ้นมา 10,000 barrels นั้นจริงๆ เป็นน้ำมันดิบ พอไปกลั่นมาจริงๆ ได้น้ำมันดีเซล น้ำมันแก๊สโซลีน ไม่เท่าไรหรอก (ไม่เกิน 10 - 20%) ทั้งนี้ต้องดูสัดส่วนองค์ประกอบที่มีอยู่ในน้ำมันดิบ ที่พบมากสุด คือ น้ำ ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไรปริมาณน้ำที่ผลิตได้จะมากขึ้น เพราะผิวหน้า oil-water contact ขยับตัวสูงขึ้น ในต่างประเทศ เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า fingering ซึ่งหากน้ำมากเกินไปบางทีก็ไม่คุ้มค่าการกลั่น
ตามมาตรฐาน API
API degree = (141.5/specific gravity) - 131.5
API degree จะบอกชนิดของน้ำมันได้ และมีผลต่อการวางแผนการผลิตด้วย ในประเทศไทยที่พบเป็นจำนวนมาก คือ คอนเดนเสต หรือแก๊สเหลว ซึ่งเมื่อนำขึ้นสู่พื้นผิวปริมาณจะ shrink เพราะแก๊สที่มีโมเลกุลคาร์บอนต่ำๆ จะแยกตัวออกไปขณะที่ความดันลดลง (ความดันใน reservoir มากกว่าความดันบรรยากาศ ทั้งนี้ความดันภายใน reservoir ยิ่งมากเมื่อยิ่งอยู่ลึก)
ที่ผมพูดถึง reservoir barrel & stock tank barrel จึงมีความแตกต่างมหาศาล เดี๋ยวนี้มีหลายๆ โปรแกรมพัฒนาโดย ชลัมเบอร์เจ อย่าง Petrel หรือ Eclipse ช่วยคำนวณได้แล้ว
ส่วนหากจะอ้างว่าขายเป็นน้ำมันดิบ ของไทยนั้นมีแก๊สกรดอยู่มาก ซึ่งราคาต่ำ เพราะราคาน้ำมันดิบพิจารณาที่ปริมาณแก๊สกรด เช่น พวกคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ แก๊สไฮโดรเจนซัลไฟด์ หากจะได้ราคาสูงต้องมีคุณภาพแบบ bonny light ของไนจีเรีย ของไทยมีพวกสิ่งเจือปนเยอะราคาต่ำครับ ของไทยมีของ
aral54
7 ชั่วโมงที่แล้ว
ความคิดเห็นที่ 31-2
พวกเสรีทุยรู้อะไรจริงบ้างครับ พวกนี้มันก็เฮโลเรื่องโมเมทุกๆ เรื่องที่ทำให้รัฐบาลเสียหาย ดูตัวอย่างเรื่องเหนือเมฆก็ได้
หรือถ้าให้ชัด ถ้าวันไหนเคยเห็นแนวหน้าด่าพรรคประชาธิปัตย์ แต่พวกนี้ก็ยังงมงายเชื่อหัวปรักหัวปรำ
ปล. มติชน ยังเปิดกว้างให้ผู้คิดต่างมาเขียนคอลัมน์ให้ อย่างของ วสิษฐ์ เดชกุญชร หรือ นงนุช สิงหเดชะ ในมติชนสุดสัปดาห์ แต่ถ้าเป็นสื่อสลิ่มอย่าได้เห็นสิ่งเหล่านี้เลย พูดเอง เออเอง อวยเอง
aral54
7 ชั่วโมงที่แล้ว
ความคิดเห็นที่ 32
น้ำมันไทยแพงเพราะไปซื้อจากนายหน้าอย่างสิงคโปร์ สิงคโปร์เลยรวยเอาๆ ดังนั้นต้องสนับสนุนให้โครงการท่าเรือน้ำลึกทวายสำเร็จโดยเร็ว เรือน้ำมันจะได้ไม่ต้องอ้อมลงไปที่ช่องแคบมะละกา คนไทยก็จะได้ซื้อน้ำมันราคาถูกขึัน
ไม่เกี่ยวกับการที่กรมเชื้อเพลิงฯรายงานการผลิตที่แจ้งไว้ 141 บาร์เรลต่อวันเลย
การผลิตพวกคุณบอกว่ายาก ซับซ้อน ก็เอาโรงกลั่นง่ายๆมาให้ดู มันยากอย่างไรหรือ
โรงกลั่นขนาดเล็กเราทำได้เองอยู่แล้ว
ที่บอกว่าน้ำมันมาจากพืช และสัตว์ในอดีต
แล้วพวกพืช พวกสัตว์นี้มันขุดรูลงไปอยู่ลึกๆเป็นกิโลๆ เชียวหรือ
เดียวนี้เขาไม่เชื่อแล้ว เขาเชื่อว่าเป็น Abiotic Oil มากกว่า
ที่บอกว่าน้ำมันไม่มีวันหมด มันหลอมมาจากแกนโลกแล้วลอยตัวขึ้นมาที่ชั้นหิน
รัสเซียเชื่อเช่นนี้จึงขุดน้ำมันเป็นอันดับ 1 ในปัจจุบัน
สหรัฐเองก็เริ่มเชื่อแล้วจึงเริ่มเอาน้ำมันที่ตุนไว้ขึ้นมาใช้กันแล้ว
โบราณเหมือนพวกในอดีตจริงๆ ออกไปดูโลกในปัจจุบันได้แล้ว
บอกว่าราคาแพงเพราะไปซื้อจากนายหน้าสิงค์โปร์
งั้นไปอ้างอิงสิงค์โปร์ทำไม แล้วราคายังไม่เท่ากันอีกราคาอ้างอิงมีกี่ราคากันแน่
น้ำมันแพงเพราะอ่างอิงราคาสิงค์โปร์ ทั้งๆที่ต้นทุนไม่ถึง 4 บาท
Edited by Stargate-1, 15 มกราคม พ.ศ. 2556 - 17:58.