126 ความเห็นในกระทู้นี้

[Jigsaw]

 
เอามาเปรียนเทียบเพื่อให้เห็นว่า...    เงินที่ถูกลดลงไปมันเป็นเงินของคนที่ซื้อรถ. เงินของคนที่ซื้อ LTF ประกัน... ไม่ใช่เงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศ...
ส่วนอะไรจะมีประโยชน์ สร้างภาระ..    มันแล้วแต่มุมมอง...  
 
รถจะสร้างภาระให้สังคมหรือไม่..  (อันนี้ท่านพูดเอง) ผมไม่แย้ง... แต่ในเมื่อ คนอื่นมีรถได้..
และ สำหรับคนไม่มีรถและต้องเบียดรถเมล์ไปทำงาน...   เค้าก็มีสิทธิจะมีเช่นกัน..  เค้าต้องซื้ออยู่แล้ว...
 แต่  รถมันแพงเกินเอื้อม.. เพราะ ภาษี. รัฐบาลมองเห็นปัญหานี้...  เลย ลดราคาภาษีให้ (ไม่ได้เอาเงินใครไปจ่ายแทน...)  
ทุกคนที่เข้าข่าย มีโอกาสใช้สิทธินี้ อย่างเท่าเที่ยมกัน...   

ถ้าดีจริงผมอยากเห็นรัฐบาลทำตลอดไปเลยไม่ใช่ทำแค่ปีเดียวแบบนี้

 

ประเทศไทยไม่ใช่ว่าจะร่ำรวยอะไร คุณคิดว่าเงินรายได้ที่ประเทศต้องได้ หายไปเพราะโครงการนี้เท่าไร เมื่อรายได้ลดก็ต้องกู้มาเพื่อให้พอกับรายจ่ายอื่นๆ คุณยังคิดว่าไม่เกี่ยวกับคนทั้งประเทศอีกเหรอ

 

เข้าใจว่าอยากมีรถ แต่ทำไมต้องรถใหม่ เป็นรถมอเตอร์ไซด์ หรือรถมือสองไม่ได้หรือ ถ้าไม่อยากนั่งรถเมล์

 

แล้วอีกอย่างทำงานกันประสาอะไรครับ บอกว่าทำโครงการนี้แล้วรายได้เราจะลดสามหมื่น แต่จริงๆฟาดไปเกือบแสนล้าน ในต่างประเทศเขาก็มีครับทำคล้ายๆแบบนี้ แต่เขากำหนดวงเงินชัดเจน ใครอยากได้ก็ยื่นเรื่อง เดือนเดียวรัฐฯส่ง Voucher มาให้ เอาไปซื้อรถได้เลย พอเงินหมดจบ ถ้าอยากทำใหม่ก็รอปีหน้า รอดูว่ามีเงินพอมั้ย เขาดูก่อนว่ามีเงินมั้ยแล้วทำ ดีกว่าทำแล้วค่อยมาดูว่าจะหาเงินมาจากไหนครับ ทำซั่วๆแบบนี้ไม่ดีครับ

[กาลามสูตร]

รถของ เหล่าอำมาตย์ และ สลิ่ม ที่บ่นเรื่องนี้ ทุกคน.. มีส่วนทำให้รถติดเท่าๆกับ รถจากโครงการณ์รถคันแรก..

 

คือ เคยใช้อยู่พวกเดียว... จนคิดว่าเป็นของตัวเอง...  พอคนอื่นมาใช้ด้วย...  

คนอื่นผิดหมดทีมีรถ...  ยกเว้นตัวเอง

รัฐบาลที่ ช่วยให้เค้า มาใช้ด้วยผิด... ผิดไปด้วย.. 

เพราะ เจือก สนับสนุนให้รากหญ้า มาแย่งถนนของอำมาตย์...    

 

รัฐบาลนี้ไม่ผิดหรอกครับที่ เอาเงินภาษีของทุกคนในประเทศ 9 หมื่นกว่าล้าน  ไปใช้จ่ายเพื่อให้รถติดเพิ่มขึ้น

 

ถ้าไม่มีการซื้อรถ...  เงินภาษีที่ว่าควักออกไปจะกองอยู่ตรงไหนครับ...    

 

เงินนี้ รัฐเคยได้จากการซื้อรถ..  คนซื้อต้องจ่าย.. งานนี้แค่ เรียกเก็บน้อยลง...  

ไม่ได้ ควักภาษีใครไปไหน.. เข้าใจอะไรผิดป่าวครับ..  

 

โครงการ คืนภาษีรถคันแรก.... 

 

งบกลาง นี่เอามาจากไหนอ่ะครับพี่คนกลาง

 

" นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างเสนอกระทรวงการคลังขอรับจัดสรรงบกลาง ปีงบประมาณ 2557 วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ในการจ่ายคืนให้กับผู้ที่ใช้สิทธิ์โครงการรถคันแรกตามนโยบายของรัฐบาล โดยเบื้องต้นประเมินว่าจะต้องใช้เงินในปี 2556 กว่า 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งงบที่ตั้งไว้ก่อนหน้านี้ จำนวน 7.5 พันล้านบาทไม่เพียงพอ.

 

http://www.thaipost....ws/120113/67932

 

ทราบไหมว่า รัฐจะได้ภาษี รถยนตร์ จากบริษัทรถ เมื่อไร...  (เมื่อจอง หรือ เมื่อส่งมอบ...เก็บตังได้แล้ว.)

รู้จัก กระเป๋าซ้าย กระเป๋าขวาไหมครับ...    ถ้าไม่เข้าใจอีก....  ลองตอบคำถามนี้นะครับ...

 

ถ้าคนไม่ซื้อรถ...  ถามว่า 9 หมื่นกว่าล้าน มันมาจากไหน และไปอยู่ไหน...   

 

ทราบไหมว่า รถเก๋ง ที่เข้าข่าย รถคันแรกนั้น โดยปกติ ที่ซื้อๆ กันนั้น โดนภาษีกันอยู่แล้ว 

รัฐแค่ เก็บเอาเงินของคนซื้อรถ  น้อยหน่อย ในกรณีที่เข้าข่าย... 

 

ถ้าจะตู่ว่าเป็นเงินตัวเอง เป็นของประชาชน.....

แบบนี้ ไพร่ ทั้งประเทศ ตู่เอาว่า ท่านที่ได้ลดภาษีเงินได้ จาก ทำประกัน LTF ต่างๆ 

เอาเิงินภาษีเค้าไป ลด ได้หรือป่าวครับ... 

 

 

วันนี้เวลาหมดทำการ  ขออภัย แฟนคลับทุกท่าน 

ควายอีกละ.....เงินรายได้จัดเก็บเข้ารัฐบาลไทยใช้บริหารประเทศ...ถ้าไม่ใช่เงินของประชาชนคนไทยทุกคน....จะเป็นเงินของใคร? เงินอีปูเหรอ?หรือเงินทักษิณบิดาเอ็ง? มั๊ง เขางอกแล้วเอ็ง

อย่างว่าแหละ มันถึงคิดเลขไม่ออกว่าจำนวนรถมันจะเพิ่มมากขึ้น กว่า1.2ล้านคันในอนาคต แต่ถนนเท่าเดิมมันจะเป็นยังไง กลับไปเรียนอนุบาลใหม่ไป๊...ปัญญาอ่อน

 

ผมถามว่า "แบบนี้ ไพร่ ทั้งประเทศ ตู่เอาว่า ท่านที่ได้ลดภาษีเงินได้ จาก ทำประกัน LTF ต่างๆ  เอาเิงินภาษีเค้าไป ลด ได้หรือป่าวครับ..".

ตอบได้ยัง...  

 

เพราะ ถ้าใช้ตรรกท่าน... เงินรายได้จัดเก็บเข้ารัฐบาลไทยใช้บริหารประเทศ...ถ้าไม่ใช่เงินของประชาชนคนไทยทุกคน....จะเป็นเงินของใคร?

ใจเย็นๆคิดดีๆ อย่าใช้ อคติ...  

 

 

ไอ้กระบือเอ๊ย.....เสียเวลาจริงๆ เงินรายได้ของรัฐบาลไทยควรได้จากการเก็บภาษี เป็นเงินของใคร? เอ็งตอบมาดิ

 

เรื่องที่กระบือถาม....สมาชิกท่านอื่นก็ตอบไปหมดแล้ว ถ้าตาไม่บอด หูไม่หนวกหรือพิการทางสมองดาวน์ซินโดรม เอ็งก็กลับไปอ่านเอง.....ไอ้เอ๋อ....

[samin]

คำถาม....

1. มีจำนวน 274,598 คัน คิดเป็นสัดส่วน 59.13%  ของรถที่จดทะเบียนในกรุงเทพ เป็น "รถคันแรก" ใช่หรือไม่?

2. ถ้าเอาความยาวของ "รถคันแรก" 4.3 เมตร x 274,598 คัน  จะเป็นความยาวรวมกันทั้งสิ้น 1,180,771.40 เมตร หรือ 1,180.77 กิโลเมตร ใช่หรือไม่?

3. ถ้าถนนในกรุงเทพเฉลี่ยอยู่ที่ "6" เลน จะต้องใช้ถนนจอด "รถคันแรก" เป็นความยาวทั้งสิ้น 196.66 กิโลเมตร ใช่หรือไม่?

 

 

ป.ล  โปรดอย่าถามว่า ไอ้ 41% ที่เหลือจากการจดทะเบียน เป็น "รถคันแรก" หรือ ซื้อเพื่อมา "ทดแทนคันเก่า" นะครับ เพราะไม่ทราบจริงๆ

 

ขอบคุณครับ มีคนมาตอบให้แว้ว  

 

เดี๋ยวเห็นไต ก็แถว่า เห้ยไหนน ข้อมูล ไม่เห็นมันบอกเลย ว่ารถเยอะทำให้รถติด ไม่เห็นมันจะเกี่ยวกับ"รถคันแรก"เลย คุณนี่จินตนาการเมพขิงๆ 

ก็อย่าว่าหล่ะครับ "เถียงกับไพร่แดงยังไงก็แพ้"

พอเขาสู้ความจริงไม่ได้ ก็หนี ไม่มาตอบ พอมามีกระทู้ใหม่ ก็กลับมาวนลูบเหมือนเดิมเปีี้ยบ 

ผมเกลียดท่นทั้ง 2 จังเลยครับ เกลียดมว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

เล่นเอาสิ่งที่ผมจะตอบโต้การ์ตูนวิตถารมาโพสก่อนผมแบบนี้ ผมก็เซงเลยสิครับ (= =)

ขออนุญาตเพิ่มเติมรายละเอียดนิดนุงส์นะครับ เผื่อ ไอ้พวกหน้าด้าน กับ พวกควายแดงแถวนี้ไม่เห็นภาพ

รถคันแรก ความยาวเฉลี่ย 4.3 เมตร ความกว้างเฉลี่ย 1.7 เมตร ต้องการระยะจอดห่างจากคันหน้าประมาณ 1 เมคร ถ้าแบ่งครึ่งกันก็ 0.5 เมตร แต่ก็มีระยะหน้าหลัง ฉะนั้นต้องการความยาวเพิ่มอีก 1 เมตร แถมยังต้องมีระยะที่ต้องเว้นจากรถด้านข้างอีกประมาณ 0.4 เมตร ถ้าแบ่งครึ่งก็ 0.2 เมตร 2 ด้านซ้ายขวารวมกันก็ต้องการความกว้างเพิ่มอีก 0.4 เมตร เบ็ดเสร็จ โดยเฉลี่ย รถ 1 คันต้องการพื้นที่ขนาด 5.3*2.1 ประมาณ 11.2 ตารางเมตร

ออกมาวิ่งแค่ซัก 100,000 คันก็พอ (นับเฉพาะใน กทม) คิดเป็นพื้นที่ถนน ประมาณ 1,120,000 ตารางเมตร

ถ้าการ์ตูนวิตถารใช้สมองซักนิดเหมือนที่เก่งในการใช้สมองกระแนะกระแหนคนอื่น จะไม่โชว์โง่แบบนี้แน่นอน

[IndyDekDee]

คำถาม....

1. มีจำนวน 274,598 คัน คิดเป็นสัดส่วน 59.13%  ของรถที่จดทะเบียนในกรุงเทพ เป็น "รถคันแรก" ใช่หรือไม่?

2. ถ้าเอาความยาวของ "รถคันแรก" 4.3 เมตร x 274,598 คัน  จะเป็นความยาวรวมกันทั้งสิ้น 1,180,771.40 เมตร หรือ 1,180.77 กิโลเมตร ใช่หรือไม่?

3. ถ้าถนนในกรุงเทพเฉลี่ยอยู่ที่ "6" เลน จะต้องใช้ถนนจอด "รถคันแรก" เป็นความยาวทั้งสิ้น 196.66 กิโลเมตร ใช่หรือไม่?

 

 

ป.ล  โปรดอย่าถามว่า ไอ้ 41% ที่เหลือจากการจดทะเบียน เป็น "รถคันแรก" หรือ ซื้อเพื่อมา "ทดแทนคันเก่า" นะครับ เพราะไม่ทราบจริงๆ

 

ขอบคุณครับ มีคนมาตอบให้แว้ว  

 

เดี๋ยวเห็นไต ก็แถว่า เห้ยไหนน ข้อมูล ไม่เห็นมันบอกเลย ว่ารถเยอะทำให้รถติด ไม่เห็นมันจะเกี่ยวกับ"รถคันแรก"เลย คุณนี่จินตนาการเมพขิงๆ 

ก็อย่าว่าหล่ะครับ "เถียงกับไพร่แดงยังไงก็แพ้"

พอเขาสู้ความจริงไม่ได้ ก็หนี ไม่มาตอบ พอมามีกระทู้ใหม่ ก็กลับมาวนลูบเหมือนเดิมเปีี้ยบ 

ผมเกลียดท่นทั้ง 2 จังเลยครับ เกลียดมว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

เล่นเอาสิ่งที่ผมจะตอบโต้การ์ตูนวิตถารมาโพสก่อนผมแบบนี้ ผมก็เซงเลยสิครับ (= =)

ขออนุญาตเพิ่มเติมรายละเอียดนิดนุงส์นะครับ เผื่อ ไอ้พวกหน้าด้าน กับ พวกควายแดงแถวนี้ไม่เห็นภาพ

รถคันแรก ความยาวเฉลี่ย 4.3 เมตร ความกว้างเฉลี่ย 1.7 เมตร ต้องการระยะจอดห่างจากคันหน้าประมาณ 1 เมคร ถ้าแบ่งครึ่งกันก็ 0.5 เมตร แต่ก็มีระยะหน้าหลัง ฉะนั้นต้องการความยาวเพิ่มอีก 1 เมตร แถมยังต้องมีระยะที่ต้องเว้นจากรถด้านข้างอีกประมาณ 0.4 เมตร ถ้าแบ่งครึ่งก็ 0.2 เมตร 2 ด้านซ้ายขวารวมกันก็ต้องการความกว้างเพิ่มอีก 0.4 เมตร เบ็ดเสร็จ โดยเฉลี่ย รถ 1 คันต้องการพื้นที่ขนาด 5.3*2.1 ประมาณ 11.2 ตารางเมตร

ออกมาวิ่งแค่ซัก 100,000 คันก็พอ (นับเฉพาะใน กทม) คิดเป็นพื้นที่ถนน ประมาณ 1,120,000 ตารางเมตร

ถ้าการ์ตูนวิตถารใช้สมองซักนิดเหมือนที่เก่งในการใช้สมองกระแนะกระแหนคนอื่น จะไม่โชว์โง่แบบนี้แน่นอน

ส่วนตัวไม่ขอไปทะเลาะกับ "ความเชื่อ" เรื่อง งมๆ..เงินๆ อะไรกับใคร แต่ความรู้สึกและความเป็นจริงคือ "รถแม่..ง ติดโค..ต..รรร" หรือใครจะเถียงว่า "ไม่ติดกว่าเดิม"?

 

ป.ล ห้ามอ้างว่าสร้างรถไฟฟ้า หรือ สร้างบ้า..สร้างบอ อะไร เพราะเส้นทางที่ผมใช้ "ไม่มี".

[sanskrit_shower]

คำถาม....

1. มีจำนวน 274,598 คัน คิดเป็นสัดส่วน 59.13%  ของรถที่จดทะเบียนในกรุงเทพ เป็น "รถคันแรก" ใช่หรือไม่?

2. ถ้าเอาความยาวของ "รถคันแรก" 4.3 เมตร x 274,598 คัน  จะเป็นความยาวรวมกันทั้งสิ้น 1,180,771.40 เมตร หรือ 1,180.77 กิโลเมตร ใช่หรือไม่?

3. ถ้าถนนในกรุงเทพเฉลี่ยอยู่ที่ "6" เลน จะต้องใช้ถนนจอด "รถคันแรก" เป็นความยาวทั้งสิ้น 196.66 กิโลเมตร ใช่หรือไม่?

 

 

ป.ล  โปรดอย่าถามว่า ไอ้ 41% ที่เหลือจากการจดทะเบียน เป็น "รถคันแรก" หรือ ซื้อเพื่อมา "ทดแทนคันเก่า" นะครับ เพราะไม่ทราบจริงๆ

 

ขอบคุณครับ มีคนมาตอบให้แว้ว  

 

เดี๋ยวเห็นไต ก็แถว่า เห้ยไหนน ข้อมูล ไม่เห็นมันบอกเลย ว่ารถเยอะทำให้รถติด ไม่เห็นมันจะเกี่ยวกับ"รถคันแรก"เลย คุณนี่จินตนาการเมพขิงๆ 

ก็อย่าว่าหล่ะครับ "เถียงกับไพร่แดงยังไงก็แพ้"

พอเขาสู้ความจริงไม่ได้ ก็หนี ไม่มาตอบ พอมามีกระทู้ใหม่ ก็กลับมาวนลูบเหมือนเดิมเปีี้ยบ 

ผมเกลียดท่นทั้ง 2 จังเลยครับ เกลียดมว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

เล่นเอาสิ่งที่ผมจะตอบโต้การ์ตูนวิตถารมาโพสก่อนผมแบบนี้ ผมก็เซงเลยสิครับ (= =)

ขออนุญาตเพิ่มเติมรายละเอียดนิดนุงส์นะครับ เผื่อ ไอ้พวกหน้าด้าน กับ พวกควายแดงแถวนี้ไม่เห็นภาพ

รถคันแรก ความยาวเฉลี่ย 4.3 เมตร ความกว้างเฉลี่ย 1.7 เมตร ต้องการระยะจอดห่างจากคันหน้าประมาณ 1 เมคร ถ้าแบ่งครึ่งกันก็ 0.5 เมตร แต่ก็มีระยะหน้าหลัง ฉะนั้นต้องการความยาวเพิ่มอีก 1 เมตร แถมยังต้องมีระยะที่ต้องเว้นจากรถด้านข้างอีกประมาณ 0.4 เมตร ถ้าแบ่งครึ่งก็ 0.2 เมตร 2 ด้านซ้ายขวารวมกันก็ต้องการความกว้างเพิ่มอีก 0.4 เมตร เบ็ดเสร็จ โดยเฉลี่ย รถ 1 คันต้องการพื้นที่ขนาด 5.3*2.1 ประมาณ 11.2 ตารางเมตร

ออกมาวิ่งแค่ซัก 100,000 คันก็พอ (นับเฉพาะใน กทม) คิดเป็นพื้นที่ถนน ประมาณ 1,120,000 ตารางเมตร

ถ้าการ์ตูนวิตถารใช้สมองซักนิดเหมือนที่เก่งในการใช้สมองกระแนะกระแหนคนอื่น จะไม่โชว์โง่แบบนี้แน่นอน

ส่วนตัวไม่ขอไปทะเลาะกับ "ความเชื่อ" เรื่อง งมๆ..เงินๆ อะไรกับใคร แต่ความรู้สึกและความเป็นจริงคือ "รถแม่..ง ติดโค..ต..รรร" หรือใครจะเถียงว่า "ไม่ติดกว่าเดิม"?

 

ป.ล ห้ามอ้างว่าสร้างรถไฟฟ้า หรือ สร้างบ้า..สร้างบอ อะไร เพราะเส้นทางที่ผมใช้ "ไม่มี".

อืม  ถ้าพูดเรื่องรถติดขึ้นนี่ผมเห็นภาพเลย

 

จากบางบัวทองมาเดอะมอลล์งาม

 

แต่ก่อนตอนประมาณ8โมงครึ่งหางแถวจะอยู่แถวๆริชมอน

เดี๋ยวนี้ หางแถวอยู่กลางสะพานพระนั่งเกล้าแล้ว

 

ปล.ห้ามบอกว่าสมัยเมื่อ 50 ปีที่แล้วรถยังไม่ติดเลย เพราะผมยังไม่เกิด

[samin]

 

 

 

 

 

 
 

 

 
 

 

 
 

 

 
คำถาม....
1. มีจำนวน 274,598 คัน คิดเป็นสัดส่วน 59.13%  ของรถที่จดทะเบียนในกรุงเทพ เป็น "รถคันแรก" ใช่หรือไม่?
2. ถ้าเอาความยาวของ "รถคันแรก" 4.3 เมตร x 274,598 คัน  จะเป็นความยาวรวมกันทั้งสิ้น 1,180,771.40 เมตร หรือ 1,180.77 กิโลเมตร ใช่หรือไม่?
3. ถ้าถนนในกรุงเทพเฉลี่ยอยู่ที่ "6" เลน จะต้องใช้ถนนจอด "รถคันแรก" เป็นความยาวทั้งสิ้น 196.66 กิโลเมตร ใช่หรือไม่?
 
 
ป.ล  โปรดอย่าถามว่า ไอ้ 41% ที่เหลือจากการจดทะเบียน เป็น "รถคันแรก" หรือ ซื้อเพื่อมา "ทดแทนคันเก่า" นะครับ เพราะไม่ทราบจริงๆ
 

 

 
ขอบคุณครับ มีคนมาตอบให้แว้ว  
 
เดี๋ยวเห็นไต ก็แถว่า เห้ยไหนน ข้อมูล ไม่เห็นมันบอกเลย ว่ารถเยอะทำให้รถติด ไม่เห็นมันจะเกี่ยวกับ"รถคันแรก"เลย คุณนี่จินตนาการเมพขิงๆ 
ก็อย่าว่าหล่ะครับ "เถียงกับไพร่แดงยังไงก็แพ้"
พอเขาสู้ความจริงไม่ได้ ก็หนี ไม่มาตอบ พอมามีกระทู้ใหม่ ก็กลับมาวนลูบเหมือนเดิมเปีี้ยบ 

ผมเกลียดท่นทั้ง 2 จังเลยครับ เกลียดมว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เล่นเอาสิ่งที่ผมจะตอบโต้การ์ตูนวิตถารมาโพสก่อนผมแบบนี้ ผมก็เซงเลยสิครับ (= =)
ขออนุญาตเพิ่มเติมรายละเอียดนิดนุงส์นะครับ เผื่อ ไอ้พวกหน้าด้าน กับ พวกควายแดงแถวนี้ไม่เห็นภาพ
รถคันแรก ความยาวเฉลี่ย 4.3 เมตร ความกว้างเฉลี่ย 1.7 เมตร ต้องการระยะจอดห่างจากคันหน้าประมาณ 1 เมคร ถ้าแบ่งครึ่งกันก็ 0.5 เมตร แต่ก็มีระยะหน้าหลัง ฉะนั้นต้องการความยาวเพิ่มอีก 1 เมตร แถมยังต้องมีระยะที่ต้องเว้นจากรถด้านข้างอีกประมาณ 0.4 เมตร ถ้าแบ่งครึ่งก็ 0.2 เมตร 2 ด้านซ้ายขวารวมกันก็ต้องการความกว้างเพิ่มอีก 0.4 เมตร เบ็ดเสร็จ โดยเฉลี่ย รถ 1 คันต้องการพื้นที่ขนาด 5.3*2.1 ประมาณ 11.2 ตารางเมตร
ออกมาวิ่งแค่ซัก 100,000 คันก็พอ (นับเฉพาะใน กทม) คิดเป็นพื้นที่ถนน ประมาณ 1,120,000 ตารางเมตร
ถ้าการ์ตูนวิตถารใช้สมองซักนิดเหมือนที่เก่งในการใช้สมองกระแนะกระแหนคนอื่น จะไม่โชว์โง่แบบนี้แน่นอน
 
 

 

ส่วนตัวไม่ขอไปทะเลาะกับ "ความเชื่อ" เรื่อง งมๆ..เงินๆ อะไรกับใคร แต่ความรู้สึกและความเป็นจริงคือ "รถแม่..ง ติดโค..ต..รรร" หรือใครจะเถียงว่า "ไม่ติดกว่าเดิม"?
 
ป.ล ห้ามอ้างว่าสร้างรถไฟฟ้า หรือ สร้างบ้า..สร้างบอ อะไร เพราะเส้นทางที่ผมใช้ "ไม่มี".
 
 

 

อืม  ถ้าพูดเรื่องรถติดขึ้นนี่ผมเห็นภาพเลย
 
จากบางบัวทองมาเดอะมอลล์งาม
 
แต่ก่อนตอนประมาณ8โมงครึ่งหางแถวจะอยู่แถวๆริชมอน
เดี๋ยวนี้ หางแถวอยู่กลางสะพานพระนั่งเกล้าแล้ว
 
ปล.ห้ามบอกว่าสมัยเมื่อ 50 ปีที่แล้วรถยังไม่ติดเลย เพราะผมยังไม่เกิด
 
 
 

 

ระวังท่านจะเจอความเกรียนแบบการโชว์ตรรกะวิบัติ ตามสไตล์การ์ตูนวิตถารนะครับ
ผมเคยโดนมาแล้ว อย่างเรื่อง สิ้นค้า และอาหาร ราคาแพงขึ้นเนื่องจาก ราคาน้ำมัน กับ ค่าแรงที่เพิ่มขึ้น
มีไอ้พวกการ์ตูนวิตถารโง่ๆ ตัวหนึ่ง มันบอกว่า คิดไปเอง ครับ แถมยังบอกอีกว่า ให้ผมไปหาร้านอื่นกินสิ ไม่ใช่ความผิดรัฐบาลซะหน่อย
อ้าว ก็แถวบ้านผมมันขึ้นกันเกือบทุกร้าน แล้วมันเป็นความผิดผมหรือที่ต้องเดือดร้อนเพราะความโง่ของปู
ถ้าเป็นกรณีนี้นะครับ ระวังท่านจะเจอความเห็นโงๆอย่างประมาณว่า
ทำไมไม่ไปหาที่อยู่ที่อื่นล่ะ หรือ ทำไม่ไม่ใช้ถนนเส้นทางอื่นล่ะ เผลอๆมันอาจไล่ท่านไปอยู่ประเทศอื่นเลยนะเอ้อ

 

 อำมาตย์อย่างผมมีส่วนตัว 1 คัน ซื้อเพิ่มอีก 5 คันไปเลย... รถบนท้องถนนจะเพิ่มอีกกี่คัน

แล้วถ้าคน 3 คนที่ปกตินั่งรถสาธารณะเมื่อซื้อรถคันแรกเพิ่มคนละคัน... จะมีรถเพิ่มขึ้นบนท้องถนนกี่คันกันนะ

 

จินตนาการ สำคัญกว่า ข้อเท็จจริง...  

บอกตัวเองก่อนจะบอกคนอื่นเถอนะ หุหุ

[hentai]

คำถาม....

1. มีจำนวน 274,598 คัน คิดเป็นสัดส่วน 59.13%  ของรถที่จดทะเบียนในกรุงเทพ เป็น "รถคันแรก" ใช่หรือไม่?

2. ถ้าเอาความยาวของ "รถคันแรก" 4.3 เมตร x 274,598 คัน  จะเป็นความยาวรวมกันทั้งสิ้น 1,180,771.40 เมตร หรือ 1,180.77 กิโลเมตร ใช่หรือไม่?

3. ถ้าถนนในกรุงเทพเฉลี่ยอยู่ที่ "6" เลน จะต้องใช้ถนนจอด "รถคันแรก" เป็นความยาวทั้งสิ้น 196.66 กิโลเมตร ใช่หรือไม่?

 

 

ป.ล  โปรดอย่าถามว่า ไอ้ 41% ที่เหลือจากการจดทะเบียน เป็น "รถคันแรก" หรือ ซื้อเพื่อมา "ทดแทนคันเก่า" นะครับ เพราะไม่ทราบจริงๆ

 

ผมตอบโดยไม่ได้คิดเลขนะครับเพราะไม่รู้จะคิดทำไม......  แต่ถ้าท่านคิดเลขถูก...  มันก็ใช่หมดละครับ.

ผมตอบแล้ว.. ตาผมมั่ง...

ผมถามกลับคำเดียว... เพราะท่านคิดเลขเก่งมาก..

 

รถ 4 ล้านกว่าคันที่มีอยู่แล้วในกรุงเทพ ก่อน โครงการนี้.......  ถ้าใช้ ถนนกรุงเทพ แบบท่าน จอดรถ จะต้องใช้ ถนนกี่ กิโลครับ...       

[hentai]

คำถาม....

1. มีจำนวน 274,598 คัน คิดเป็นสัดส่วน 59.13%  ของรถที่จดทะเบียนในกรุงเทพ เป็น "รถคันแรก" ใช่หรือไม่?

2. ถ้าเอาความยาวของ "รถคันแรก" 4.3 เมตร x 274,598 คัน  จะเป็นความยาวรวมกันทั้งสิ้น 1,180,771.40 เมตร หรือ 1,180.77 กิโลเมตร ใช่หรือไม่?

3. ถ้าถนนในกรุงเทพเฉลี่ยอยู่ที่ "6" เลน จะต้องใช้ถนนจอด "รถคันแรก" เป็นความยาวทั้งสิ้น 196.66 กิโลเมตร ใช่หรือไม่?

 

 

ป.ล  โปรดอย่าถามว่า ไอ้ 41% ที่เหลือจากการจดทะเบียน เป็น "รถคันแรก" หรือ ซื้อเพื่อมา "ทดแทนคันเก่า" นะครับ เพราะไม่ทราบจริงๆ

 

ขอบคุณครับ มีคนมาตอบให้แว้ว  

 

เดี๋ยวเห็นไต ก็แถว่า เห้ยไหนน ข้อมูล ไม่เห็นมันบอกเลย ว่ารถเยอะทำให้รถติด ไม่เห็นมันจะเกี่ยวกับ"รถคันแรก"เลย คุณนี่จินตนาการเมพขิงๆ 

ก็อย่าว่าหล่ะครับ "เถียงกับไพร่แดงยังไงก็แพ้"

พอเขาสู้ความจริงไม่ได้ ก็หนี ไม่มาตอบ พอมามีกระทู้ใหม่ ก็กลับมาวนลูบเหมือนเดิมเปีี้ยบ 

 

ผมว่า ท่านนี้ ตลกดีนะครับ  

[hentai]

 การมีรถซักคัน ไม่ว่าใครก็ตามจะรวยหรือจน  มันคือการเพิ่มภาระให้สังคม ทำให้รัฐต้องสร้างสิ่งต่างๆมารองรับ เช่น ถนน ทางด่วน ไฟทาง ไฟจราจร ฯลฯ

 

ส่วน LTF RMF หรือประกันนั้น  คือการที่เราเอาเงินไปลงทุน  มันไปสร้างภาระให้สังคมหรือไม่ อย่างไร

โดยเฉพาะ ประกันกับRMF นั้น ที่เราได้ประโยชน์ด้านภาษีเพราะรัฐมองว่า คนที่ฝากเงินไว้  ในตอนแก่  จะเค้าเหล่านั้นจะได้ไม่ต้องนำเงินภาษีของรัฐมาช่วยในเรื่องค่ารักษาพยาบาลมากเท่าคนไม่ทำประกัน

 

 

แต่ก็ยังมีคนนำมาเปรียบเทียบกันได้ เฮ้อ...

 

เอามาเปรียนเทียบเพื่อให้เห็นว่า...    เงินที่ถูกลดลงไปมันเป็นเงินของคนที่ซื้อรถ. เงินของคนที่ซื้อ LTF ประกัน... ไม่ใช่เงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศ...

ส่วนอะไรจะมีประโยชน์ สร้างภาระ..    มันแล้วแต่มุมมอง...  

 

รถจะสร้างภาระให้สังคมหรือไม่..  (อันนี้ท่านพูดเอง) ผมไม่แย้ง... แต่ในเมื่อ คนอื่นมีรถได้..

และ สำหรับคนไม่มีรถและต้องเบียดรถเมล์ไปทำงาน...   เค้าก็มีสิทธิจะมีเช่นกัน..  เค้าต้องซื้ออยู่แล้ว...

 แต่  รถมันแพงเกินเอื้อม.. เพราะ ภาษี. รัฐบาลมองเห็นปัญหานี้...  เลย ลดราคาภาษีให้ (ไม่ได้เอาเงินใครไปจ่ายแทน...)  

ทุกคนที่เข้าข่าย มีโอกาสใช้สิทธินี้ อย่างเท่าเที่ยมกัน...   

มี3 ประเด็น ขอสรุปนะครับ

 

1 เฮนไตเห็นว่า นโยบายนี้มาจากที่รัฐบาลมองว่ารถมันแพงเกินเอื้อม.  เลยอยากให้ทุกคนมีรถใช้กันใช่มั้ยครับ

 

2  ทีนี้เรื่องเงินมาจากไหน เฮนไตมองว่า เงินตรงนี้มาจากเงินของผู้ซื้อเองเช่นเดียวกับ LTF RMF หรือประกัน เลยเอามาเปรียบเทียบกัน ใช่มั้ยครับ

 

3  ส่วนเรื่องภาระทางสังคม เฮนไตไม่มีความเห็นใช่มั้ยครับ

 

ใช่ทุกข้อ...   แถมให้ก็ได้ว่า 

1) เป็นนโยบาย ประชานิยม เอามาหาเสียง

3) เรื่อง นโยบายออกมาแล้วเป็น ภาระหรือไม่...  ผมว่า ... คงต้องกระทู้อื่น... 

[samin]

คำถาม....

1. มีจำนวน 274,598 คัน คิดเป็นสัดส่วน 59.13%  ของรถที่จดทะเบียนในกรุงเทพ เป็น "รถคันแรก" ใช่หรือไม่?

2. ถ้าเอาความยาวของ "รถคันแรก" 4.3 เมตร x 274,598 คัน  จะเป็นความยาวรวมกันทั้งสิ้น 1,180,771.40 เมตร หรือ 1,180.77 กิโลเมตร ใช่หรือไม่?

3. ถ้าถนนในกรุงเทพเฉลี่ยอยู่ที่ "6" เลน จะต้องใช้ถนนจอด "รถคันแรก" เป็นความยาวทั้งสิ้น 196.66 กิโลเมตร ใช่หรือไม่?

 

 

ป.ล  โปรดอย่าถามว่า ไอ้ 41% ที่เหลือจากการจดทะเบียน เป็น "รถคันแรก" หรือ ซื้อเพื่อมา "ทดแทนคันเก่า" นะครับ เพราะไม่ทราบจริงๆ

 

ผมตอบโดยไม่ได้คิดเลขนะครับเพราะไม่รู้จะคิดทำไม......  แต่ถ้าท่านคิดเลขถูก...  มันก็ใช่หมดละครับ.

ผมตอบแล้ว.. ตาผมมั่ง...

ผมถามกลับคำเดียว... เพราะท่านคิดเลขเก่งมาก..

 

รถ 4 ล้านกว่าคันที่มีอยู่แล้วในกรุงเทพ ก่อน โครงการนี้.......  ถ้าใช้ ถนนกรุงเทพ แบบท่าน จอดรถ จะต้องใช้ ถนนกี่ กิโลครับ...       

เห็นความพยายามในการเบี่ยงประเด็นไหมครับ ต้องยอมรับว่า Hentai มีความสามารถด้านนี้สูงจริงๆ

เขากำลังพยายามบอกว่า จากของเดิมที่มันติดอยู่แล้ว พอมาในปัจจุบัน มันติดหนักกว่าเดิมแบบมากจริงๆ

มากชนิดที่ว่าปรับตัวไม่ทัน และคนส่วนใหญ่ก็ยังยอมรับว่ารถติดมากขึ้น แม้กระทั่งควายแดงหลายคนยังบ่นเอง

แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำให้ Hentai รู้สึกระคายเคือง(หน้า) ได้เลยครับ พาออกทะเลมาเรื่องอื่นอีก

อืมมมมมม องครักษ์ พิทักษ์ เพื่อไทย ทักษิณ โอ๊คขี้โกง เริ่มปฏิบัติการตามหน้าที่แล้วสินะ 

[sanskrit_shower]

 การมีรถซักคัน ไม่ว่าใครก็ตามจะรวยหรือจน  มันคือการเพิ่มภาระให้สังคม ทำให้รัฐต้องสร้างสิ่งต่างๆมารองรับ เช่น ถนน ทางด่วน ไฟทาง ไฟจราจร ฯลฯ

 

ส่วน LTF RMF หรือประกันนั้น  คือการที่เราเอาเงินไปลงทุน  มันไปสร้างภาระให้สังคมหรือไม่ อย่างไร

โดยเฉพาะ ประกันกับRMF นั้น ที่เราได้ประโยชน์ด้านภาษีเพราะรัฐมองว่า คนที่ฝากเงินไว้  ในตอนแก่  จะเค้าเหล่านั้นจะได้ไม่ต้องนำเงินภาษีของรัฐมาช่วยในเรื่องค่ารักษาพยาบาลมากเท่าคนไม่ทำประกัน

 

 

แต่ก็ยังมีคนนำมาเปรียบเทียบกันได้ เฮ้อ...

 

เอามาเปรียนเทียบเพื่อให้เห็นว่า...    เงินที่ถูกลดลงไปมันเป็นเงินของคนที่ซื้อรถ. เงินของคนที่ซื้อ LTF ประกัน... ไม่ใช่เงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศ...

ส่วนอะไรจะมีประโยชน์ สร้างภาระ..    มันแล้วแต่มุมมอง...  

 

รถจะสร้างภาระให้สังคมหรือไม่..  (อันนี้ท่านพูดเอง) ผมไม่แย้ง... แต่ในเมื่อ คนอื่นมีรถได้..

และ สำหรับคนไม่มีรถและต้องเบียดรถเมล์ไปทำงาน...   เค้าก็มีสิทธิจะมีเช่นกัน..  เค้าต้องซื้ออยู่แล้ว...

 แต่  รถมันแพงเกินเอื้อม.. เพราะ ภาษี. รัฐบาลมองเห็นปัญหานี้...  เลย ลดราคาภาษีให้ (ไม่ได้เอาเงินใครไปจ่ายแทน...)  

ทุกคนที่เข้าข่าย มีโอกาสใช้สิทธินี้ อย่างเท่าเที่ยมกัน...   

มี3 ประเด็น ขอสรุปนะครับ

 

1 เฮนไตเห็นว่า นโยบายนี้มาจากที่รัฐบาลมองว่ารถมันแพงเกินเอื้อม.  เลยอยากให้ทุกคนมีรถใช้กันใช่มั้ยครับ

 

2  ทีนี้เรื่องเงินมาจากไหน เฮนไตมองว่า เงินตรงนี้มาจากเงินของผู้ซื้อเองเช่นเดียวกับ LTF RMF หรือประกัน เลยเอามาเปรียบเทียบกัน ใช่มั้ยครับ

 

3  ส่วนเรื่องภาระทางสังคม เฮนไตไม่มีความเห็นใช่มั้ยครับ

 

ใช่ทุกข้อ...   แถมให้ก็ได้ว่า 

1) เป็นนโยบาย ประชานิยม เอามาหาเสียง

3) เรื่อง นโยบายออกมาแล้วเป็น ภาระหรือไม่...  ผมว่า ... คงต้องกระทู้อื่น... 

เอ่อ พอดีกระทู้นี้ หัวข้อคือ ไอ้เรื่องรถติดมันติดกันมาตั้งนานแล้ว มันไม่ใช่เพิ่งมาติด ทำไมคนเสรีไทยถึงเพิ่งมาจะเป็นจะตายกันตอนนี้ครับ

 

 

ดังนั้นเราต้องคุยเรื่องรถติดเท่านั้นสินะ 

[hentai]

 

ใครกันแน่ที่ไม่ตอบครับ

งบกลางเอามาจากภาษีประชาชนหรือเปล่า หรือพี่คนกลางแยกได้ว่า งบกลาง 9 หมื่นล้านตรงเนี้ย มาจากคนซื้อรถเท่านั้น ไม่มีส่วนอื่นเลย


+
+

เพิ่มเติมครับ เผื่อไม่เข้าใจ

ถ้าไม่มีการซื้อรถ จะไม่มีการเสียเก้าหมื่นล้านบาทครับ พี่คนกลางถูกครับ ............ แต่เหตุการณ์นี้มันไม่เกิดขึ้นครับ เพราะมีการซื้อรถไปแล้ว ซึงไม่รู้ว่าจะอ้างทำไม

แต่ปัจจุบันมีการซื้อรถเกิดขึ้นแล้ว มีการใช้งบกลางอุดหนุนอ(ตามข่าว) ผมเลยถามพี่ว่า งบกลางที่ใช้อุดหนุนน่ะเอามาจากไหน จากภาษีประชาชนหรือเปล่า หรือว่าเฉพาะ 9 หมื่นล้านเนี่ย มาจากคนซื้อรถในโครงการเท่านั้น พี่สามารถแยกได้ว่ามาจากคนซื้อรถเท่านั้น เงินภาษีประชาชนไม่เกี่ยว

เข้าใจนะครับ ไม่ได้ยากเกินไปนะ

 

เหลืออยู่คนเดียว...  ยัง วนอยู่กับ งบกลาง...  

 

ผมตอบ ว่ามัน กระเป๋าะซ้ายกระเป๋าขวา...      ท่านไม่เข้าใจ..

ผมบอก ว่ามัน เป็น โครงการคืนภาษี...  ท่านก็ไม่เข้าใจ..

ผมบอก ว่ามัน เหมือน ท่านได้ ลดภาษี จาก LTF หรือ ซื้อประกัน... ท่านก็ไม่เข้าใจ..

 

คือ จะเอา ให้ได้ว่า.. ใช้งบกลาง..  โถๆๆๆ  มันใช้อยู่แล้ว...  พอใจยังครับ...  

แล้ว รัฐก็ได้คืน ตอน บริษัทรถจ่ายภาษี สรรพสามิตร...     อยากได้แค่นี้ใช่ไหมครับ...    คิดได้แต่นี้เอง... คือเอาเงินภาษีท่านจากกระเป๋าขวาไปใช้ก่อน แล้วพอได้เงินก็เอามาแปะคืน...

 

ผมไม่แปลกใจว่าทำไม มุกแบบนี้...   แมงสาปมันคิดไม่เป็น...

เพราะ มันคิดได้อย่างเดียวว่าต้องใช้ งบประมาณมาทำประชานิยม...(ช่วยชาติ 2000 บาท อันนี้ จ่ายแล้วจ่ายเลย...  สงสัยไหมครับ)

ถึง ตามเค้าไม่ทันไงครับ..  

[hentai]

 
เอามาเปรียนเทียบเพื่อให้เห็นว่า...    เงินที่ถูกลดลงไปมันเป็นเงินของคนที่ซื้อรถ. เงินของคนที่ซื้อ LTF ประกัน... ไม่ใช่เงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศ...
ส่วนอะไรจะมีประโยชน์ สร้างภาระ..    มันแล้วแต่มุมมอง...  
 
รถจะสร้างภาระให้สังคมหรือไม่..  (อันนี้ท่านพูดเอง) ผมไม่แย้ง... แต่ในเมื่อ คนอื่นมีรถได้..
และ สำหรับคนไม่มีรถและต้องเบียดรถเมล์ไปทำงาน...   เค้าก็มีสิทธิจะมีเช่นกัน..  เค้าต้องซื้ออยู่แล้ว...
 แต่  รถมันแพงเกินเอื้อม.. เพราะ ภาษี. รัฐบาลมองเห็นปัญหานี้...  เลย ลดราคาภาษีให้ (ไม่ได้เอาเงินใครไปจ่ายแทน...)  
ทุกคนที่เข้าข่าย มีโอกาสใช้สิทธินี้ อย่างเท่าเที่ยมกัน...   

ถ้าดีจริงผมอยากเห็นรัฐบาลทำตลอดไปเลยไม่ใช่ทำแค่ปีเดียวแบบนี้

 

ประเทศไทยไม่ใช่ว่าจะร่ำรวยอะไร คุณคิดว่าเงินรายได้ที่ประเทศต้องได้ หายไปเพราะโครงการนี้เท่าไร เมื่อรายได้ลดก็ต้องกู้มาเพื่อให้พอกับรายจ่ายอื่นๆ คุณยังคิดว่าไม่เกี่ยวกับคนทั้งประเทศอีกเหรอ

 

เข้าใจว่าอยากมีรถ แต่ทำไมต้องรถใหม่ เป็นรถมอเตอร์ไซด์ หรือรถมือสองไม่ได้หรือ ถ้าไม่อยากนั่งรถเมล์

 

แล้วอีกอย่างทำงานกันประสาอะไรครับ บอกว่าทำโครงการนี้แล้วรายได้เราจะลดสามหมื่น แต่จริงๆฟาดไปเกือบแสนล้าน ในต่างประเทศเขาก็มีครับทำคล้ายๆแบบนี้ แต่เขากำหนดวงเงินชัดเจน ใครอยากได้ก็ยื่นเรื่อง เดือนเดียวรัฐฯส่ง Voucher มาให้ เอาไปซื้อรถได้เลย พอเงินหมดจบ ถ้าอยากทำใหม่ก็รอปีหน้า รอดูว่ามีเงินพอมั้ย เขาดูก่อนว่ามีเงินมั้ยแล้วทำ ดีกว่าทำแล้วค่อยมาดูว่าจะหาเงินมาจากไหนครับ ทำซั่วๆแบบนี้ไม่ดีครับ

 

สามหมืน คือ ค่าประมาณการ... ใครจะคาดได้ละครับจะมีคนสนใจขนาดนี้... รัฐบาลก็งง..  เหมือน ท่านเหมือนผม..

ลองคิดกลับกันนะครับ.. ถ้า รัฐอั้นที่ สามหมื่น...

 

ถามว่า จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อ คนหลังๆจะใช้สิทธิบ้าง... แล้ว ถูกตอบว่าใช้ไม่ได้ เพราะ เงินหมด... 

ถามว่า แมงสาป สื่อ จะเล่นงานไหมครับ... ดู จำนำข้าว...  สื่อเล่นเช้าเย็น ธกส.. งบหมด...   

ถามว่า ประชาชน จะคิดอย่างไร เค้าเป็นลูกเมียน้อยหรือ ทำไมใช้สิทธิไม่ได้ แค่ ซื้อช้า...  

 

ในทางการเมืองจบครับ...  

[hentai]

รถของ เหล่าอำมาตย์ และ สลิ่ม ที่บ่นเรื่องนี้ ทุกคน.. มีส่วนทำให้รถติดเท่าๆกับ รถจากโครงการณ์รถคันแรก..

 

คือ เคยใช้อยู่พวกเดียว... จนคิดว่าเป็นของตัวเอง...  พอคนอื่นมาใช้ด้วย...  

คนอื่นผิดหมดทีมีรถ...  ยกเว้นตัวเอง

รัฐบาลที่ ช่วยให้เค้า มาใช้ด้วยผิด... ผิดไปด้วย.. 

เพราะ เจือก สนับสนุนให้รากหญ้า มาแย่งถนนของอำมาตย์...    

 

รัฐบาลนี้ไม่ผิดหรอกครับที่ เอาเงินภาษีของทุกคนในประเทศ 9 หมื่นกว่าล้าน  ไปใช้จ่ายเพื่อให้รถติดเพิ่มขึ้น

 

ถ้าไม่มีการซื้อรถ...  เงินภาษีที่ว่าควักออกไปจะกองอยู่ตรงไหนครับ...    

 

เงินนี้ รัฐเคยได้จากการซื้อรถ..  คนซื้อต้องจ่าย.. งานนี้แค่ เรียกเก็บน้อยลง...  

ไม่ได้ ควักภาษีใครไปไหน.. เข้าใจอะไรผิดป่าวครับ..  

 

โครงการ คืนภาษีรถคันแรก.... 

 

งบกลาง นี่เอามาจากไหนอ่ะครับพี่คนกลาง

 

" นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างเสนอกระทรวงการคลังขอรับจัดสรรงบกลาง ปีงบประมาณ 2557 วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ในการจ่ายคืนให้กับผู้ที่ใช้สิทธิ์โครงการรถคันแรกตามนโยบายของรัฐบาล โดยเบื้องต้นประเมินว่าจะต้องใช้เงินในปี 2556 กว่า 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งงบที่ตั้งไว้ก่อนหน้านี้ จำนวน 7.5 พันล้านบาทไม่เพียงพอ.

 

http://www.thaipost....ws/120113/67932

 

ทราบไหมว่า รัฐจะได้ภาษี รถยนตร์ จากบริษัทรถ เมื่อไร...  (เมื่อจอง หรือ เมื่อส่งมอบ...เก็บตังได้แล้ว.)

รู้จัก กระเป๋าซ้าย กระเป๋าขวาไหมครับ...    ถ้าไม่เข้าใจอีก....  ลองตอบคำถามนี้นะครับ...

 

ถ้าคนไม่ซื้อรถ...  ถามว่า 9 หมื่นกว่าล้าน มันมาจากไหน และไปอยู่ไหน...   

 

ทราบไหมว่า รถเก๋ง ที่เข้าข่าย รถคันแรกนั้น โดยปกติ ที่ซื้อๆ กันนั้น โดนภาษีกันอยู่แล้ว 

รัฐแค่ เก็บเอาเงินของคนซื้อรถ  น้อยหน่อย ในกรณีที่เข้าข่าย... 

 

ถ้าจะตู่ว่าเป็นเงินตัวเอง เป็นของประชาชน.....

แบบนี้ ไพร่ ทั้งประเทศ ตู่เอาว่า ท่านที่ได้ลดภาษีเงินได้ จาก ทำประกัน LTF ต่างๆ 

เอาเิงินภาษีเค้าไป ลด ได้หรือป่าวครับ... 

 

 

วันนี้เวลาหมดทำการ  ขออภัย แฟนคลับทุกท่าน 

ควายอีกละ.....เงินรายได้จัดเก็บเข้ารัฐบาลไทยใช้บริหารประเทศ...ถ้าไม่ใช่เงินของประชาชนคนไทยทุกคน....จะเป็นเงินของใคร? เงินอีปูเหรอ?หรือเงินทักษิณบิดาเอ็ง? มั๊ง เขางอกแล้วเอ็ง

อย่างว่าแหละ มันถึงคิดเลขไม่ออกว่าจำนวนรถมันจะเพิ่มมากขึ้น กว่า1.2ล้านคันในอนาคต แต่ถนนเท่าเดิมมันจะเป็นยังไง กลับไปเรียนอนุบาลใหม่ไป๊...ปัญญาอ่อน

 

ผมถามว่า "แบบนี้ ไพร่ ทั้งประเทศ ตู่เอาว่า ท่านที่ได้ลดภาษีเงินได้ จาก ทำประกัน LTF ต่างๆ  เอาเิงินภาษีเค้าไป ลด ได้หรือป่าวครับ..".

ตอบได้ยัง...  

 

เพราะ ถ้าใช้ตรรกท่าน... เงินรายได้จัดเก็บเข้ารัฐบาลไทยใช้บริหารประเทศ...ถ้าไม่ใช่เงินของประชาชนคนไทยทุกคน....จะเป็นเงินของใคร?

ใจเย็นๆคิดดีๆ อย่าใช้ อคติ...  

 

 

ไอ้กระบือเอ๊ย.....เสียเวลาจริงๆ เงินรายได้ของรัฐบาลไทยควรได้จากการเก็บภาษี เป็นเงินของใคร? เอ็งตอบมาดิ

 

เรื่องที่กระบือถาม....สมาชิกท่านอื่นก็ตอบไปหมดแล้ว ถ้าตาไม่บอด หูไม่หนวกหรือพิการทางสมองดาวน์ซินโดรม เอ็งก็กลับไปอ่านเอง.....ไอ้เอ๋อ....

 

และแล้ว ความหยาบคายก็เริ่มมา... เมื่อไม่สามารถตอบได้ว่า... 

 

 "แบบนี้ ไพร่ ทั้งประเทศ ตู่เอาว่า ท่านที่ได้ลดภาษีเงินได้ จาก ทำประกัน LTF ต่างๆ  เอาเิงินภาษีเค้าไป ลด ได้หรือป่าวครับ..". 

[IndyDekDee]

คำถาม....

1. มีจำนวน 274,598 คัน คิดเป็นสัดส่วน 59.13%  ของรถที่จดทะเบียนในกรุงเทพ เป็น "รถคันแรก" ใช่หรือไม่?

2. ถ้าเอาความยาวของ "รถคันแรก" 4.3 เมตร x 274,598 คัน  จะเป็นความยาวรวมกันทั้งสิ้น 1,180,771.40 เมตร หรือ 1,180.77 กิโลเมตร ใช่หรือไม่?

3. ถ้าถนนในกรุงเทพเฉลี่ยอยู่ที่ "6" เลน จะต้องใช้ถนนจอด "รถคันแรก" เป็นความยาวทั้งสิ้น 196.66 กิโลเมตร ใช่หรือไม่?

 

 

ป.ล  โปรดอย่าถามว่า ไอ้ 41% ที่เหลือจากการจดทะเบียน เป็น "รถคันแรก" หรือ ซื้อเพื่อมา "ทดแทนคันเก่า" นะครับ เพราะไม่ทราบจริงๆ

 

ผมตอบโดยไม่ได้คิดเลขนะครับเพราะไม่รู้จะคิดทำไม......  แต่ถ้าท่านคิดเลขถูก...  มันก็ใช่หมดละครับ.

ผมตอบแล้ว.. ตาผมมั่ง...

ผมถามกลับคำเดียว... เพราะท่านคิดเลขเก่งมาก..

 

รถ 4 ล้านกว่าคันที่มีอยู่แล้วในกรุงเทพ ก่อน โครงการนี้.......  ถ้าใช้ ถนนกรุงเทพ แบบท่าน จอดรถ จะต้องใช้ ถนนกี่ กิโลครับ...       

"ป.ล  โปรดอย่าถามว่า ไอ้ 41% ที่เหลือจากการจดทะเบียน เป็น "รถคันแรก" หรือ ซื้อเพื่อมา "ทดแทนคันเก่า" นะครับ เพราะไม่ทราบจริงๆ"

 

ผมว่าท่านผู้มีภูมิ อย่างท่านเฮน น่าจะรู้อยู่ว่า

 

1. รถที่จดป้ายทะเบียนกรุงเทพ ไม่ได้หมายความว่าต้องใช้ หรือมีที่พำนักในกรุงเทพ เพราะโดยส่วนตัวทะเบียนบ้านผมอยู่ "สมุทรปราการ" แต่ ทะเบียนรถเป็น "กรุงเทพ"

2. ในประโยคคำถามของผม ได้แยกชัดเจนกับคำว่า "รถคันแรก" และก็บอกทิ้งท้ายไว้ว่า "ไอ้ 41% ที่เหลือจากการจดทะเบียน เป็น "รถคันแรก" หรือ ซื้อเพื่อมา "ทดแทนคันเก่า" เพราะไม่ทราบจริงๆ"

3. ทั้งหลาย ทั้งปวง เพียงเปรียบเทียบว่า "รถ..แม่..ง โค..ต..รรร ติด"

 

ดังนั้นเพื่อเป็นตามคำขอต่อคำถามของท่าน ผมจะขอข้อมูลเพิ่มแล้วกันว่า 4 ล้านคันที่ว่า ใช้จริงที่กรุงเทพกี่คันครับ ถ้าตอบได้ ผมคำนวณให้ได้ครับ.

[sanskrit_shower]

 

ใครกันแน่ที่ไม่ตอบครับ

งบกลางเอามาจากภาษีประชาชนหรือเปล่า หรือพี่คนกลางแยกได้ว่า งบกลาง 9 หมื่นล้านตรงเนี้ย มาจากคนซื้อรถเท่านั้น ไม่มีส่วนอื่นเลย


+
+

เพิ่มเติมครับ เผื่อไม่เข้าใจ

ถ้าไม่มีการซื้อรถ จะไม่มีการเสียเก้าหมื่นล้านบาทครับ พี่คนกลางถูกครับ ............ แต่เหตุการณ์นี้มันไม่เกิดขึ้นครับ เพราะมีการซื้อรถไปแล้ว ซึงไม่รู้ว่าจะอ้างทำไม

แต่ปัจจุบันมีการซื้อรถเกิดขึ้นแล้ว มีการใช้งบกลางอุดหนุนอ(ตามข่าว) ผมเลยถามพี่ว่า งบกลางที่ใช้อุดหนุนน่ะเอามาจากไหน จากภาษีประชาชนหรือเปล่า หรือว่าเฉพาะ 9 หมื่นล้านเนี่ย มาจากคนซื้อรถในโครงการเท่านั้น พี่สามารถแยกได้ว่ามาจากคนซื้อรถเท่านั้น เงินภาษีประชาชนไม่เกี่ยว

เข้าใจนะครับ ไม่ได้ยากเกินไปนะ

 

เหลืออยู่คนเดียว...  ยัง วนอยู่กับ งบกลาง...  

 

ผมตอบ ว่ามัน กระเป๋าะซ้ายกระเป๋าขวา...      ท่านไม่เข้าใจ..

ผมบอก ว่ามัน เป็น โครงการคืนภาษี...  ท่านก็ไม่เข้าใจ..

ผมบอก ว่ามัน เหมือน ท่านได้ ลดภาษี จาก LTF หรือ ซื้อประกัน... ท่านก็ไม่เข้าใจ..

 

คือ จะเอา ให้ได้ว่า.. ใช้งบกลาง..  โถๆๆๆ  มันใช้อยู่แล้ว...  พอใจยังครับ...  

แล้ว รัฐก็ได้คืน ตอน บริษัทรถจ่ายภาษี สรรพสามิตร...     อยากได้แค่นี้ใช่ไหมครับ...    คิดได้แต่นี้เอง... คือเอาเงินภาษีท่านจากกระเป๋าขวาไปใช้ก่อน แล้วพอได้เงินก็เอามาแปะคืน...

 

ผมไม่แปลกใจว่าทำไม มุกแบบนี้...   แมงสาปมันคิดไม่เป็น...

เพราะ มันคิดได้อย่างเดียวว่าต้องใช้ งบประมาณมาทำประชานิยม...(ช่วยชาติ 2000 บาท อันนี้ จ่ายแล้วจ่ายเลย...  สงสัยไหมครับ)

ถึง ตามเค้าไม่ทันไงครับ..  

กรุณาไปคุยกันที่กระทู้อื่น กระทู้นี้หัวข้อกระทู้คือ ไอ้เรื่องรถติดมันติดกันมาตั้งนานแล้ว มันไม่ใช่เพิ่งมาติด ทำไมคนเสรีไทยถึงเพิ่งมาจะเป็นจะตายกันตอนนี้ครับ

 

อยู่ในประเด็นกันด้วยครับ  

[hentai]

ผมตอบ

 

คำถาม....

1. มีจำนวน 274,598 คัน คิดเป็นสัดส่วน 59.13%  ของรถที่จดทะเบียนในกรุงเทพ เป็น "รถคันแรก" ใช่หรือไม่?

2. ถ้าเอาความยาวของ "รถคันแรก" 4.3 เมตร x 274,598 คัน  จะเป็นความยาวรวมกันทั้งสิ้น 1,180,771.40 เมตร หรือ 1,180.77 กิโลเมตร ใช่หรือไม่?

3. ถ้าถนนในกรุงเทพเฉลี่ยอยู่ที่ "6" เลน จะต้องใช้ถนนจอด "รถคันแรก" เป็นความยาวทั้งสิ้น 196.66 กิโลเมตร ใช่หรือไม่?

 

 

ป.ล  โปรดอย่าถามว่า ไอ้ 41% ที่เหลือจากการจดทะเบียน เป็น "รถคันแรก" หรือ ซื้อเพื่อมา "ทดแทนคันเก่า" นะครับ เพราะไม่ทราบจริงๆ

 

ผมตอบโดยไม่ได้คิดเลขนะครับเพราะไม่รู้จะคิดทำไม......  แต่ถ้าท่านคิดเลขถูก...  มันก็ใช่หมดละครับ.

ผมตอบแล้ว.. ตาผมมั่ง...

ผมถามกลับคำเดียว... เพราะท่านคิดเลขเก่งมาก..

 

รถ 4 ล้านกว่าคันที่มีอยู่แล้วในกรุงเทพ ก่อน โครงการนี้.......  ถ้าใช้ ถนนกรุงเทพ แบบท่าน จอดรถ จะต้องใช้ ถนนกี่ กิโลครับ...       

"ป.ล  โปรดอย่าถามว่า ไอ้ 41% ที่เหลือจากการจดทะเบียน เป็น "รถคันแรก" หรือ ซื้อเพื่อมา "ทดแทนคันเก่า" นะครับ เพราะไม่ทราบจริงๆ"

 

ผมว่าท่านผู้มีภูมิ อย่างท่านเฮน น่าจะรู้อยู่ว่า

 

1. รถที่จดป้ายทะเบียนกรุงเทพ ไม่ได้หมายความว่าต้องใช้ หรือมีที่พำนักในกรุงเทพ เพราะโดยส่วนตัวทะเบียนบ้านผมอยู่ "สมุทรปราการ" แต่ ทะเบียนรถเป็น "กรุงเทพ"

2. ในประโยคคำถามของผม ได้แยกชัดเจนกับคำว่า "รถคันแรก" และก็บอกทิ้งท้ายไว้ว่า "ไอ้ 41% ที่เหลือจากการจดทะเบียน เป็น "รถคันแรก" หรือ ซื้อเพื่อมา "ทดแทนคันเก่า" เพราะไม่ทราบจริงๆ"

3. ทั้งหลาย ทั้งปวง เพียงเปรียบเทียบว่า "รถ..แม่..ง โค..ต..รรร ติด"

 

ดังนั้นเพื่อเป็นตามคำขอต่อคำถามของท่าน ผมจะขอข้อมูลเพิ่มแล้วกันว่า 4 ล้านคันที่ว่า ใช้จริงที่กรุงเทพกี่คันครับ ถ้าตอบได้ ผมคำนวณให้ได้ครับ.

 

ถ้ามามุกนี้ แล้ว จะคุยกันทำไมครับ...    

 

ถามว่าตัวเลขรถ จริงๆ ที่วิ่งในกรุงเทพมีใครรู้บ้าง...   อย่างน้อยผมไม่รู้...  ถ้ารู้ผมก็เอามาให้ดูแล้ว.. ตัวเลขที่ดีที่สุดทีผมมีคือ..  

จำนวนรถจดทะเบียน.. ถามว่า ถูกต้องไหม...   ไม่ใช่แน่ๆ... 

แต่ ...  ดีกว่าไม่มีไหม... เอามาซิ...  (เงียบ)  จนถึงตอนนี้ ก็ไม่มีเช่นกัน...

 

จนกระทั่งจะมีท่านใด สามารถเอาตัวเลข รถที่วิ่งใน กทม จริงๆมาได้...   ผมก็ต้องใช้ตัวนี้เทียบเคียงไปก่อน... ในการให้เหตุผล..

ท่านจะใช้หรือไม่ใช้ เรื่องของท่าน...     เพราะผมสังเกตุว่า บางท่าน ไม่ต้องใช้... เค้าวัดเอาจากความรู้สึก เหมือน ของแพง...

 

อย่างน้อยๆผมมีฐานยืน... ไม่เหมือนบางท่าน... ยืนบนความเชื่อ.. จินตนาการ... ถูกครับ.. ฐานผมคลาดเคลื่อนได้..  

มีรถ ตจว วิ่งในกรุง รถกรุง วิ่ง ตจว เยอะแยะ..    แต่ถ้าจะแย้งก็ต้องใช้ข้อมูลที่ดี ถูกต้องกว่า ...    หรือ บอกมาซิครับ ว่า จะเอา

รถจริงๆใน กทม เท่าไร 10 ล้าน 15 ล้าน...   

ไม่ว่าเท่าไร ถ้าใช้ ตรรกเทพเอา ความยาวรถ มาหาร ระยะทาง เหนือจรดใต้

มันก็ได้ หลายสิบรอบ ตั้ง ชาติที่แล้วเหมือนกัน...  

 

แต่ถ้าจะบอกแค่ว่า ข้อมูลผมไม่ถูกแค่นี้. เพราะ ไม่ได้นับ รถ ตจว ในกรุง...  แล้ว สรุปเหมือนเดิมคือ..  รถติด 

ผมว่า ...  เหอๆๆ     

 

"เถียงกับสลิ่มยังไงก็แพ้" 

[hentai]

ที่มีประเด็น ผมตอบหมดแล้ว

บางความเห็น เหน็บกันไปมา...  ผมขอข้าม...

[sanskrit_shower]

ที่มีประเด็น ผมตอบหมดแล้ว

บางความเห็น เหน็บกันไปมา...  ผมขอข้าม...

 ยังไม่ได้ตอบประเด็นเรื่องนโยบายเป็นภาระครับ  พอดีเฮนไตตอบผมว่า

 

"เรื่อง นโยบายออกมาแล้วเป็น ภาระหรือไม่...  ผมว่า ... คงต้องกระทู้อื่น..."

 

ผมเลยเข้าใจว่าถ้าไม่เกี่ยวกับหัวข้อกระทู้คงต้อง  กรุณาไปกระทู้อื่นน่ะครับ

[IndyDekDee]

ผมตอบ

 

คำถาม....

1. มีจำนวน 274,598 คัน คิดเป็นสัดส่วน 59.13%  ของรถที่จดทะเบียนในกรุงเทพ เป็น "รถคันแรก" ใช่หรือไม่?

2. ถ้าเอาความยาวของ "รถคันแรก" 4.3 เมตร x 274,598 คัน  จะเป็นความยาวรวมกันทั้งสิ้น 1,180,771.40 เมตร หรือ 1,180.77 กิโลเมตร ใช่หรือไม่?

3. ถ้าถนนในกรุงเทพเฉลี่ยอยู่ที่ "6" เลน จะต้องใช้ถนนจอด "รถคันแรก" เป็นความยาวทั้งสิ้น 196.66 กิโลเมตร ใช่หรือไม่?

 

 

ป.ล  โปรดอย่าถามว่า ไอ้ 41% ที่เหลือจากการจดทะเบียน เป็น "รถคันแรก" หรือ ซื้อเพื่อมา "ทดแทนคันเก่า" นะครับ เพราะไม่ทราบจริงๆ

 

ผมตอบโดยไม่ได้คิดเลขนะครับเพราะไม่รู้จะคิดทำไม......  แต่ถ้าท่านคิดเลขถูก...  มันก็ใช่หมดละครับ.

ผมตอบแล้ว.. ตาผมมั่ง...

ผมถามกลับคำเดียว... เพราะท่านคิดเลขเก่งมาก..

 

รถ 4 ล้านกว่าคันที่มีอยู่แล้วในกรุงเทพ ก่อน โครงการนี้.......  ถ้าใช้ ถนนกรุงเทพ แบบท่าน จอดรถ จะต้องใช้ ถนนกี่ กิโลครับ...       

"ป.ล  โปรดอย่าถามว่า ไอ้ 41% ที่เหลือจากการจดทะเบียน เป็น "รถคันแรก" หรือ ซื้อเพื่อมา "ทดแทนคันเก่า" นะครับ เพราะไม่ทราบจริงๆ"

 

ผมว่าท่านผู้มีภูมิ อย่างท่านเฮน น่าจะรู้อยู่ว่า

 

1. รถที่จดป้ายทะเบียนกรุงเทพ ไม่ได้หมายความว่าต้องใช้ หรือมีที่พำนักในกรุงเทพ เพราะโดยส่วนตัวทะเบียนบ้านผมอยู่ "สมุทรปราการ" แต่ ทะเบียนรถเป็น "กรุงเทพ"

2. ในประโยคคำถามของผม ได้แยกชัดเจนกับคำว่า "รถคันแรก" และก็บอกทิ้งท้ายไว้ว่า "ไอ้ 41% ที่เหลือจากการจดทะเบียน เป็น "รถคันแรก" หรือ ซื้อเพื่อมา "ทดแทนคันเก่า" เพราะไม่ทราบจริงๆ"

3. ทั้งหลาย ทั้งปวง เพียงเปรียบเทียบว่า "รถ..แม่..ง โค..ต..รรร ติด"

 

ดังนั้นเพื่อเป็นตามคำขอต่อคำถามของท่าน ผมจะขอข้อมูลเพิ่มแล้วกันว่า 4 ล้านคันที่ว่า ใช้จริงที่กรุงเทพกี่คันครับ ถ้าตอบได้ ผมคำนวณให้ได้ครับ.

 

ถ้ามามุกนี้ แล้ว จะคุยกันทำไมครับ...    

 

ถามว่าตัวเลขรถ จริงๆ ที่วิ่งในกรุงเทพมีใครรู้บ้าง...   อย่างน้อยผมไม่รู้...  ถ้ารู้ผมก็เอามาให้ดูแล้ว.. ตัวเลขที่ดีที่สุดทีผมมีคือ..  

จำนวนรถจดทะเบียน.. ถามว่า ถูกต้องไหม...   ไม่ใช่แน่ๆ... 

แต่ ...  ดีกว่าไม่มีไหม... เอามาซิ...  (เงียบ)  จนถึงตอนนี้ ก็ไม่มีเช่นกัน...

 

จนกระทั่งจะมีท่านใด สามารถเอาตัวเลข รถที่วิ่งใน กทม จริงๆมาได้...   ผมก็ต้องใช้ตัวนี้เทียบเคียงไปก่อน... ในการให้เหตุผล..

ท่านจะใช้หรือไม่ใช้ เรื่องของท่าน...     เพราะผมสังเกตุว่า บางท่าน ไม่ต้องใช้... เค้าวัดเอาจากความรู้สึก เหมือน ของแพง...

 

อย่างน้อยๆผมมีฐานยืน... ไม่เหมือนบางท่าน... ยืนบนความเชื่อ.. จินตนาการ... ถูกครับ.. ฐานผมคลาดเคลื่อนได้..  

มีรถ ตจว วิ่งในกรุง รถกรุง วิ่ง ตจว เยอะแยะ..    แต่ถ้าจะแย้งก็ต้องใช้ข้อมูลที่ดี ถูกต้องกว่า ...    หรือ บอกมาซิครับ ว่า จะเอา

รถจริงๆใน กทม เท่าไร 10 ล้าน 15 ล้าน...   

ไม่ว่าเท่าไร ถ้าใช้ ตรรกเทพเอา ความยาวรถ มาหาร ระยะทาง เหนือจรดใต้

มันก็ได้ หลายสิบรอบ ตั้ง ชาติที่แล้วเหมือนกัน...  

 

แต่ถ้าจะบอกแค่ว่า ข้อมูลผมไม่ถูกแค่นี้. เพราะ ไม่ได้นับ รถ ตจว ในกรุง...  แล้ว สรุปเหมือนเดิมคือ..  รถติด 

ผมว่า ...  เหอๆๆ     

 

"เถียงกับสลิ่มยังไงก็แพ้" 

ที่ผมเขียนมาทั้งหมด มีตรงไหนที่ผมด่า "ไอ้รัฐบาล..ส้น" ตรงไหนมิทราบ ทำไมดูต้องเดือดร้อน ทำไมต้องมารู้สึกว่าคนอย่างผม หรือ คนอื่นในนี้ "อยู่บนความเชื่อและจินตนาการ" แล้วตัวคุณหล่ะ? ไล่ความเชื่อ ไล่จินตนาการ อย่างนั้นหรึ?

ทั้งหลาย ทั้งปวง เพียงเปรียบเทียบว่า "รถ..แม่..ง โค..ต..รรร ติด" ซึ่งมันก็จริงงง หรือ จะจิตนาการมาเถียงผม?

 

ผมอยู่ในวงการผลิตรถยนต์มาก็เกือบ 20 ปี นโยบายนี้ "เริ่มต้น" ดีครับ แต่ดีแตก ไม่ต้องถามว่าดียังไง? แล้วไม่ต้องมาถามว่าดีแตกอย่างไง?  เพราะคณุฉลาด..เก่งที่สุดอยู่แล้ว แต่ "กบแดงฉลาด ที่อยู่ในกะลา" ไม่มีประโยชน์.

[ควันหลง]

ผมตอบ

 

คำถาม....

1. มีจำนวน 274,598 คัน คิดเป็นสัดส่วน 59.13%  ของรถที่จดทะเบียนในกรุงเทพ เป็น "รถคันแรก" ใช่หรือไม่?

2. ถ้าเอาความยาวของ "รถคันแรก" 4.3 เมตร x 274,598 คัน  จะเป็นความยาวรวมกันทั้งสิ้น 1,180,771.40 เมตร หรือ 1,180.77 กิโลเมตร ใช่หรือไม่?

3. ถ้าถนนในกรุงเทพเฉลี่ยอยู่ที่ "6" เลน จะต้องใช้ถนนจอด "รถคันแรก" เป็นความยาวทั้งสิ้น 196.66 กิโลเมตร ใช่หรือไม่?

 

 

ป.ล  โปรดอย่าถามว่า ไอ้ 41% ที่เหลือจากการจดทะเบียน เป็น "รถคันแรก" หรือ ซื้อเพื่อมา "ทดแทนคันเก่า" นะครับ เพราะไม่ทราบจริงๆ

 

ผมตอบโดยไม่ได้คิดเลขนะครับเพราะไม่รู้จะคิดทำไม......  แต่ถ้าท่านคิดเลขถูก...  มันก็ใช่หมดละครับ.

ผมตอบแล้ว.. ตาผมมั่ง...

ผมถามกลับคำเดียว... เพราะท่านคิดเลขเก่งมาก..

 

รถ 4 ล้านกว่าคันที่มีอยู่แล้วในกรุงเทพ ก่อน โครงการนี้.......  ถ้าใช้ ถนนกรุงเทพ แบบท่าน จอดรถ จะต้องใช้ ถนนกี่ กิโลครับ...       

"ป.ล  โปรดอย่าถามว่า ไอ้ 41% ที่เหลือจากการจดทะเบียน เป็น "รถคันแรก" หรือ ซื้อเพื่อมา "ทดแทนคันเก่า" นะครับ เพราะไม่ทราบจริงๆ"

 

ผมว่าท่านผู้มีภูมิ อย่างท่านเฮน น่าจะรู้อยู่ว่า

 

1. รถที่จดป้ายทะเบียนกรุงเทพ ไม่ได้หมายความว่าต้องใช้ หรือมีที่พำนักในกรุงเทพ เพราะโดยส่วนตัวทะเบียนบ้านผมอยู่ "สมุทรปราการ" แต่ ทะเบียนรถเป็น "กรุงเทพ"

2. ในประโยคคำถามของผม ได้แยกชัดเจนกับคำว่า "รถคันแรก" และก็บอกทิ้งท้ายไว้ว่า "ไอ้ 41% ที่เหลือจากการจดทะเบียน เป็น "รถคันแรก" หรือ ซื้อเพื่อมา "ทดแทนคันเก่า" เพราะไม่ทราบจริงๆ"

3. ทั้งหลาย ทั้งปวง เพียงเปรียบเทียบว่า "รถ..แม่..ง โค..ต..รรร ติด"

 

ดังนั้นเพื่อเป็นตามคำขอต่อคำถามของท่าน ผมจะขอข้อมูลเพิ่มแล้วกันว่า 4 ล้านคันที่ว่า ใช้จริงที่กรุงเทพกี่คันครับ ถ้าตอบได้ ผมคำนวณให้ได้ครับ.

 

ถ้ามามุกนี้ แล้ว จะคุยกันทำไมครับ...    

 

ถามว่าตัวเลขรถ จริงๆ ที่วิ่งในกรุงเทพมีใครรู้บ้าง...   อย่างน้อยผมไม่รู้...  ถ้ารู้ผมก็เอามาให้ดูแล้ว.. ตัวเลขที่ดีที่สุดทีผมมีคือ..  

จำนวนรถจดทะเบียน.. ถามว่า ถูกต้องไหม...   ไม่ใช่แน่ๆ... 

แต่ ...  ดีกว่าไม่มีไหม... เอามาซิ...  (เงียบ)  จนถึงตอนนี้ ก็ไม่มีเช่นกัน...

 

จนกระทั่งจะมีท่านใด สามารถเอาตัวเลข รถที่วิ่งใน กทม จริงๆมาได้...   ผมก็ต้องใช้ตัวนี้เทียบเคียงไปก่อน... ในการให้เหตุผล..

ท่านจะใช้หรือไม่ใช้ เรื่องของท่าน...     เพราะผมสังเกตุว่า บางท่าน ไม่ต้องใช้... เค้าวัดเอาจากความรู้สึก เหมือน ของแพง...

 

อย่างน้อยๆผมมีฐานยืน... ไม่เหมือนบางท่าน... ยืนบนความเชื่อ.. จินตนาการ... ถูกครับ.. ฐานผมคลาดเคลื่อนได้..  

มีรถ ตจว วิ่งในกรุง รถกรุง วิ่ง ตจว เยอะแยะ..    แต่ถ้าจะแย้งก็ต้องใช้ข้อมูลที่ดี ถูกต้องกว่า ...    หรือ บอกมาซิครับ ว่า จะเอา

รถจริงๆใน กทม เท่าไร 10 ล้าน 15 ล้าน...   

ไม่ว่าเท่าไร ถ้าใช้ ตรรกเทพเอา ความยาวรถ มาหาร ระยะทาง เหนือจรดใต้

มันก็ได้ หลายสิบรอบ ตั้ง ชาติที่แล้วเหมือนกัน...  

 

แต่ถ้าจะบอกแค่ว่า ข้อมูลผมไม่ถูกแค่นี้. เพราะ ไม่ได้นับ รถ ตจว ในกรุง...  แล้ว สรุปเหมือนเดิมคือ..  รถติด 

ผมว่า ...  เหอๆๆ     

 

"เถียงกับสลิ่มยังไงก็แพ้" 

 

ข้อมูลแบบที่ รถวิ่งทั้งกรุงเทพเวลา ณ วันที่ 17 มกราคม พ.ศ.2556 เวลา 18 นาฬิกา 49 นาที 30 วินาที มีจำนวน xxx,xxx คัน เป็นรถจากโครงการรถคันแรก xxx,xxx คัน และรถที่ไม่เกี่ยวกับโครงการ xxx,xxx คัน เป็นรถตจว.เท่านั้นเท่านี้คัน เมิงคิดว่าจะมีใครทำได้ไหมวะ   

 

ใช่มันไม่มีใคาทำได้  ถ้าใช่วิธีการทางสถิติ เมิงก็แถไปอีกว่า มันไม่ใช่ค่าแท้จริง อืมม...กุไม่รู้จะเถียงกับเมิงยังไงเลยหวะ เมิงมันหน้าด้านเเกิ๊นนน 

 

งั้นตอบซิ ว่าแล้วเมิงรู้ได้อย่างไร ที่รถมันติดเพิ่มขึ้น เพราะมีรถตจว.เป็นส่วนประกอบด้วย ???

 

คงจะตอบไม่ได้ซินะ เพราะขนาดเมิงยังใช้ความรู้สึกเลยย แล้วยังมีหน้าจะมาว่าคนอื่นเค้า ฮ่าๆ

Edited by ควันหลง, 17 มกราคม พ.ศ. 2556 - 19:08.

[pnatza]

ถูกต้องครับ ไม่ใช่เพิ่งมาติดตอนนี้ แต่ต้องยอมรับ ว่ามันติดวันนี้

มันติดมากกว่าเดิม ทุกวันนี้ผมขึ้นรถตู้ไปทำงาน 6.00 น. ถึงออฟฟิศ 7.30 น.

แต่ตอนนี้ออก 6.00 น.ไม่ได้คับ ถึงออฟฟิศ 8.30 น. 

คนคุมวินรถตู้ตะโกนบอกว่า ถ้าอยากไปให้ทำงานให้ทัน ต้องมารอคิว ตี 5 ครึ่ง

ในขณะที่แถวยาวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเหยียด 

สรุป รถตู้ที่จากเดิมเริ่มวิ่ง ตี 5 ครึ่ง ต้องขยับมาเริ่มวิ่ง ตี 5

นโยบายรถคันแรก ทำให้คนอยากได้รถกระชุ่มกระชวย เศรษฐกิจคึกคัก

ช่วยเพิ่มยอดให้บริษัทผลิตรถยนต์ หลังจากประสบภัยโรงงานน้ำท่วมปี 54

ยอดคืนภาษีรถคันแรก 4 หมื่นล้าน ได้รถไฟฟ้าหลายสายเลย แต่ทำไมไม่มีใครสนใจ

........ความอยากได้ ทำให้คนไม่รู้จักพอ ทำให้คนไม่เคยหลุดจากความจน...............

[Lucy Van Pelt]

ถ้าคุยถึงเรื่องรถติดมากขึ้นหรือไม่ตามหัวข้อกระทูนี้ ต่างฝ่ายคงต้องหาเหตุผลและข้อมูลมาหักล้างว่าจะมีอะไรมายืนยันว่ารถที่เพิ่มขึ้นจากโครงการรถคันแรกจะมีผลมากแค่ไหน 

 

เมื่อปีที่ผ่านมา ผมถามจากคนที่ต้องขับรถจากเมืองนนท์เข้าไปทำงานที่สามย่านทุกวันตอนเช้าและกลับบ้านตอนเย็นรู้สึกว่ารถมันติดขึ้นเรื่อยๆ จาก 1 ชม. เป็น 1.5 ชม.   วันจันทร์ติดมากสุด รองมาก็วันศุกร์ กลางๆอาทิตย์น้อยหน่อย ในขณะที่ตัวเลขทางสถิติบอกว่าค่าเฉลี่ยของความเร็วรถที่วิ่งในกรุงเทพมันเพิ่มขึ้น แสดงว่าค่าสถิติคร่าวๆแบบนั้นบอกอะไรไม่ได้เท่าไหร่ 

 

ถ้าจะแปลงตัวเลขทางสถิติไปเป็นข้อสรุป ควรต้องลงไปเฉพาะจุดไปเลยว่าแต่ละชั่วโมงของถนนเส้นที่มีการจราจรมากๆที่เป็นย่านธุรกิจ รวมถึงเส้นทางที่คนเดินทางเข้ามาทำงานตอนเช้าและกลับบ้านตอนเย็นเป็นยังไง แล้วก็ทำเป็นสถิติ จากนั้นก็ดูแนวโน้มว่าถ้ามีรถเพิ่มขึ้นโดยไม่นำเอาปัจจัยรถคันแรกมาเทียบกับถ้ามีรถที่มาจากโครงการรถคันแรกจะออกมาเป็นแบบไหน แต่ยังต้องตั้งสมมติฐานต่ออีกว่าในบรรดารถคันแรกนั้น จะมีอีกกี่เปอร์เซนต์ที่จะมาวิ่งบนถนนเหล่านี้ ถึงจะสรุปได้แบบที่ยอมรับได้ทั้งสองฝ่ายว่าตกลงแล้วมันติดมากขึ้นหรือน้อยลงกันแน่ 

 

มีใครจะช่วยกันหาข้อมูลบ้างไม๊ครับ? ผมพยายามหาแล้วยังไม่รู้จะเริ่มต้นที่ไหนเลย คือมันเจออย่างละนิดละหน่อย ไม่ประติดประต่อกันเท่าไหร่

Edited by Lucy Van Pelt, 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 01:36.

[ID007]

ตั้งแต่ตั้ง สรท ควายแดงมันก็โง่มาอยู่ก่อนแล้ว  ไม่ได้โง่เพราะจขกท เพิ่งเข้ามาเล่นหรอก

 

ไม่เห็นจะต้องมาสงสัยอะไรเลย เป็นไรมากป่าวเนี่ย 

[วันศุกร์]

ก็เพราะไม่วางแผนโยบายดีๆนะซิคะถึงต้องมาตกใจทีหลังน่ะ

ถ้าบอกคนว่ามีงบแค่นี้ให้ได้เท่านี้ ช้าหมดอด ก็เป็นเรื่องปกติ จะบอกว่าไม่เท่าเทียมแล้วทำไมไม่ทำต่อ คนก็บ่นได้ว่าทำไมไม่ทำต่อก็แค่ช้าเท่านั้นเอง นี่นโยบายเน่าๆเพื่อคะแนนเสียงโดยเฉพาะไงเลยกลัวคนบ่น ถ้าแค่กลัวคนบ่นเลยไม่ตั้งงบนี่เรียกว่าอะไรคะ ยังไงก็ต้องมีคนบ่นอยู่แล้ว แต่ทำไงให้ระเทศเสียหายน้อยสุด นี่อะไรมาบอกไม่นึกว่าคนจะใช้เยอะ ตกใจ ต้องใช้เงินเพิ่ม นี่คนระดับชาติคิดอะไรไม่รอบคอบได้ไง ทำอย่างกับเล่นขายของใช้เงินใบไม้ หมดแล้วไปตัดเพิ่มได้ง่ายๆ

อะไก็ ตกใจ ตกใจ ก็เพราะไม่รอบคอบคิดตื้นๆ

 

 

พอมันไม่เป็นตามทีคิดก็ไม่แก้ไข แถไปเรื่อยกลัวเสียหน้า เซ็งกับพวกนี้จริงๆ

 

Read my signature

[redfrog53]

ก็เพราะไม่วางแผนโยบายดีๆนะซิคะถึงต้องมาตกใจทีหลังน่ะ

ถ้าบอกคนว่ามีงบแค่นี้ให้ได้เท่านี้ ช้าหมดอด ก็เป็นเรื่องปกติ จะบอกว่าไม่เท่าเทียมแล้วทำไมไม่ทำต่อ คนก็บ่นได้ว่าทำไมไม่ทำต่อก็แค่ช้าเท่านั้นเอง นี่นโยบายเน่าๆเพื่อคะแนนเสียงโดยเฉพาะไงเลยกลัวคนบ่น ถ้าแค่กลัวคนบ่นเลยไม่ตั้งงบนี่เรียกว่าอะไรคะ ยังไงก็ต้องมีคนบ่นอยู่แล้ว แต่ทำไงให้ระเทศเสียหายน้อยสุด นี่อะไรมาบอกไม่นึกว่าคนจะใช้เยอะ ตกใจ ต้องใช้เงินเพิ่ม นี่คนระดับชาติคิดอะไรไม่รอบคอบได้ไง ทำอย่างกับเล่นขายของใช้เงินใบไม้ หมดแล้วไปตัดเพิ่มได้ง่ายๆ

อะไก็ ตกใจ ตกใจ ก็เพราะไม่รอบคอบคิดตื้นๆ

 

 

พอมันไม่เป็นตามทีคิดก็ไม่แก้ไข แถไปเรื่อยกลัวเสียหน้า เซ็งกับพวกนี้จริงๆ

 

Read my signature

ต๊กจ๋ายยย ตั้งแต่ได้ยิน นโยนบาน นี้แล้ว

 

 

‎"ผมจะแก้ปัญหาจราจรในกรุงเทพ ภายใน 6 เดือน" : ทักษิณ ชินวัตร

 

[IFai]

รถของ เหล่าอำมาตย์ และ สลิ่ม ที่บ่นเรื่องนี้ ทุกคน.. มีส่วนทำให้รถติดเท่าๆกับ รถจากโครงการณ์รถคันแรก..

เห็นด้วยครับว่า

คนไทยทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ไม่เว้นแม้กระทั่งนายใหญ่

.........

อย่าทำตัวเป็น thales นักปราชญ์ชาวกรีกที่ ถูกหัวเราะเยาะ เพราะเดินตกบ่อน้ำ

ขณะที่กำลังแหงนมองท้องฟ้า เพ่งพิจราณาดวงดาวที่อยู่ไกลแสนไกล

 

ผมกะแล้วว่า สุดท้ายจะมีคนมาเล่นมุกนี้...

 

ถามตัวเองครับ... อำมาตย์ชั้นสอง อย่างท่าน..  เคยโวยวายว่า มีสิทธิน้อยกว่าไพร่หรือไม่ เมื่อ ไพร่ได้ เชคช่วยชาติ 2000 บาท...     

ตอนนั้น เคยคิดหรือป่าวครับ...  

หรือว่า คิดว่าเพิ่งว่ามีสิทธิน้อยกว่าเค้าเฉพาะรถคันแรกครับ...   

       เชคช่วยชาติ2พัน ที่มาจุดประเด็นในเวบบ์นี้ น่าจะมาจากข้อเขียนของไอ้เบื๊อกนิธิ ที่มีคนเอามาโพสท์

      ผมอ่านทีแรก นึกว่าจำนวน2พัน ที่เอามาช่วยตอนน้ำท่วม (น่าจะ2พันเท่ากัน) อ่านโพสท์อื่นประกอบ จึงรู้ว่าเป็นของยุคคุณมาร์ก

      ผมไม่คิดอะไรเพราะถือว่าเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนต่างกรรม ต่างวาระ แต่ที่เห็นความแตกต่างคือ

      **ของคุณมาร์ก ถึงมือปลายทางเต็ม2,000

      **ของยุคน้ำท่วม เนื่องจากข้อกำหนดของรัฐ +เล่ห์เหลี่ยมร้านค้า

         *ได้ของที่ไม่ตรงความต้องการ

         *ได้เงินสดมาสูงสุดคือ1,500 ต่ำสุดคือ700บาท (ตามที่ผมได้พูดคุยมานะครับ)

 

     ดังนั้นถ้าพูดถึงแง่กระตุ้นเศรษฐกิจ(เงินหมุนในตลาด..มั๊ง) ผมว่าของคุณมาร์ก ทำงานได้ประสิทธิภาพกว่า