เหอะ เหอะ เหอะ ผมว่ามันคนละประเด็นกัน นายสมยศ เขาอ้างว่า พรบการพิมพ์
ฉบับเก่าที่ให้บรรณาธิการหนังสือต้องรับผิดชอบในเรื่องที่ลงพิมพ์นั้นมันถูกยกเลิก
ไปแล้ว เพราะฉะนั้นเขาเป็นบรรณาธิการหนังสือฉบับนี้ เขาก็ไม่ต้องรับผิดชอบใน
บทความที่นำมาลง ซึ่งศาลก็บอกว่าคนฟ้องเขาไม่ได้ฟ้องให้คุณรับผิดชอบในฐานะ
บรรณาธิการ แต่เขาฟ้องว่าคุณเป็นผู้พิมพ์เผยแพร่ และไอ้ที่คุณพิมพ์เผยแพร่ไปนั้น
มันผิด ม 112 แต่พรรคพวกของนายสมยศ ก็ยังคงยืนกรานว่า ก็ พรบ เก่ามันยกเลิก
ไปแล้ว จะมาเอาผิดผมซึ่งเป็นบรรณาธิการได้ไง
ความคิดเขาก็คือ คิดว่าเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์แล้ว จะทำ เหียก อะไรก็ได้ไม่ต้อง
รับผิดชอบ ซึ่งกรณีนี้เดิมมันก็เป็นปัญหากับบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ต่าง ๆ อยู่มาก เพราะ
ไม่ว่าใครจะเขียนอะไรด่าใครลงหนังสือพิมพ์ ตัวบรรณาธิการมักจะโดนไปด้วยหมด มันจึง
มีการยกเลิก พรบ เก่าไป ตัวบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ก็เลยค่อยหายใจทั่วท้องขึ้นที่ไม่ต้อง
ไปรับผิดชอบหากมีใครเขียนด่าใครขึ้นมา
ที่เขายกเลิก พรบ เก่าไป เพราะเห็นว่าบรรณาธิการนั้น โดยข้อเท็จจริงก็คงไม่ได้มานั่งอ่าน
ทุกเรื่องทุกราวที่ลงหนังสือพิมพ์ แต่มันมีผู้รับผิดชอบแต่ละเรื่องแต่ละราวอยู่ เช่น ด้านอาชญากรรม
ด้านกีฬา ด้านบันเทิง ด้านสังคม ซึ่งมันมีตัวตนผู้รับผิดชอบอยู่แล้วก็เลยไม่ต้องไปเหมารวมเอา
บรรณาธิการเข้ามารับผิดชอบด้วย สมยศก็เลยเอาตรงนี้แหละมาอ้างว่าบรรณาธิการไม่ต้องรับผิดชอบ
โดยไม่ได้ดูว่า หนังสือพิมพ์ที่ตัวเองทำน่ะมันแบ่งความรับผิดชอบเหมือนคนอื่นหรือเปล่า ทำกันอยู่
สองสามคน แล้วอ้างไม่รุ้ไม่เห็นนี่ก็น่าเกลียดพออยู่แล้ว แต่ศาลท่านก็ไม่ได้มาพิจารณาในประเด็นที่
สมยศยกขึ้นมาต่อสู้คดี เพราะที่เขาฟ้องนั้นเขาไม่ได้ฟ้องให้สมยศรับผิดในฐานะบรรณาธิการ แต่เขาฟ้อง
เพราะสมยศเป็นผู้เผยแพร่ บทความที่ผิดตาม ม 112 ซึ่งก็เหมือนเรานั่นแหละ ถ้าเราเอาบทความนี้มา
เผยแพร่ตามเฟซบุ๊ค เราก็โดนเหมือนสมยศเหมือนกัน ไม่ต้องเป็นบรรณาธิการอะไรหรอก
ไม่รู้ น้าหมี แกไม่เข้าใจ หรือแกล้งไม่เข้าใจ เลยมาตั้งคำถามเรื่อง พรบ ที่ยกเลิกไปแล้ว ซึ่งศาลท่านก็
ไม่ได้บอกว่าผิดตาม พรบ นั้น แต่ที่ผิดจัง ๆ ก็คือ เผยแพร่บทความที่เป็นความผิดตาม ม 112 ซึ่งน้าหมี
ก็ดูเหมือนจะไม่เข้าอีก เพราะเห็นถามว่า ผิดตาม ม 112 ตรงไหน ซึ่งผมมองว่าถ้าจะให้เข้าใจดีขึ้น น้าหมี
แกต้องไปเอาบทความดังกล่าวไปเผยแพร่ในเฟซบุ๊คทั่วไปเยอะ ๆ จะได้รู้ว่าผิด ม 112 ตรงไหน