เห็นมีการตั้งกระทู้เรื่องนี้เพื่อต้อนรับคุณราตรีกลับบ้าน แต่เท่าที่อ่านผ่านๆ ข้อมูลไม่ครบถ้วน
ผมจึงรวบรวมมาให้ เชิญอ่าน
วีระ-ราตรี , ไอ้ตอแหลและบริวาร , ประวิตร-พัชรวาท คือ ตัวหลักของเรื่องนี้
เรื่องแรก
เริ่มจากการเข้าไปในเขมรของกลุ่มคนไทย เป็นคำสั่งท่านตอแหล ตามลิ้งค์
http://www.manager.c...D=9530000185117
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 มกราคม 2554 11:16 น.
นายอภิสิทธิ์กล่าวก่อนการประชุม ครม.โดยยอมรับว่าส่งนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ไปดูปัญหาเขตแดนไทย-กัมพูชา จนถูกทางการกัมพูชาจับกุมตัว
ลิ่วล้อปชป.ทั้งหลายครับ ชัดแล้วนะครับ ต่อไปอย่าพยายามเอาขี้ของไอ้ตอแหลไปป้าย
ให้คุณวีระ สมความคิด หรือโยนบาปให้พนิช
เรื่องที่สอง เรื่องของหลักฐานต่างๆ เรื่องนี้จะเยอะหน่อย ต้องจับให้มั่นคั้นให้ตาย
1. แถลงข่าวของรมต.กลาโหม ปวิตร วงศ์สุวรรณว่า 7คนไทยล้ำเข้าแดนเขมร
ในขณะที่ท่านนายกฯตอแหลแถลงร่วมอยู่ด้วยกลับบอกว่า”เป็นพื้นที่พิพาท” แถลงด้วยกัน ยังพูดไม่ตรงกันเลย
คำพูดของนายกฯและรมต.กลาโหมก็ไม่น่าเชื่อถือแล้ว
ตอนกษิตแถลงนั้น ได้อ้างสันปันน้ำด้วย ผมขำกลิ้งที่ราบแบบนั้นมีสันปันน้ำที่ไหน
และเมื่อกษิตไปเยี่ยม7คนไทยที่เขมรเป็นครั้งแรก คนทั้ง7ถูกห้ามรับรู้ข่าวสารภายนอก
ระบุ “กษิต” ไปเยี่ยมแล้วให้ จนท.เอาแผนที่ให้ดูบอกคนไทยล้ำแดน 55 เมตร โดยไม่ให้ข้อมูลอื่น
จึงเข้าใจว่ามีการพิสูจน์แล้วว่าเราล้ำจริง จึงต้องสารภาพเพื่อเอาตัวรอด ดูที่ลิงค์
http://www.manager.c...D=9540000009705
อดีตแม่ทัพภาคที่2 (ก่อนจะมาเป็นนายพล”กุนเชียง”เพื่อนร่วมรุ่น ประยุทธ จันทร์โอชา)
เคยทำอย่างไรกรณีคนไทยถูกจับตัวไปในอดีต เชิญดู
ย้อนวีรกรรม อดีต ผบ.กองกำลังสุรนารี บุกช่วย 3 คนไทยบนเขาพระวิหาร
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 มกราคม 2554
http://www.manager.c...D=9540000009371
“พล.ท.กนก” อดีต ผบ.กองกำลังสุรนารี เล่าเหตุการณ์นำทหารบุกช่วย 3 คนไทยที่ถูกทหารกัมพูชาจับกุมตัว พร้อมตั้งกำลังอยู่ที่วัดแก้วฯ จนทหารเขมรผวา ชี้เพื่อยืนยันในดินแดนไทย รับไม่เข้าใจใครสั่งถอนทหารเมื่อต้นเดือน ธ.ค. ทั้งที่เป็นพื้นที่จุดยุทธศาสตร์สำคัญ แนะนักกฎหมายเร่งระดมช่วยเคลียร์ปัญหาเขตแดน หวั่นเสียเปรียบกัมพูชา หลังคำตัดสิน 7 คนไทยเท่ากับยอมรับรุกล้ำแดน ทั้งยังไม่ได้ปักปัน
เห็นไหมครับว่า กองทัพภาคที่2 ในอดีตไม่เคยหงอให้เขมร แต่ยุคท่านตอแหลมันตรงข้าม
การที่กษิตออกมาแถลงข่าวออกทีวีและกรมแผนที่ทหารยกพิกัด อ้าง 7 คนไทยล้ำเข้าแดนเขมร 55 ม
การที่กองทัพภาค2เกรงใจเขมรจนผิดสังเกตุ เรื่องเหล่านี้ผมจะแจงรายละเอียดอีกครั้ง มันเกี่ยวกับเหตุผลว่า
ทำไมครั้งนี้คุณวีระต้องติดคุก
2. คลิปวิดีโอที่ลิ่วล้อปชป.ในเวบพยายามเอามาเป็นหลักฐานยืนยันว่า 7คนไทยล้ำเข้าไปในแดนเขมร
ดังที่ท่านตอแหลและกษิตแถลงออกทีวี เรื่องนี้คุณ ตายแน่ มุ่งมาจนผู้ที่เป็นตากล้องยืนยันแล้วว่า
ถูกตัดต่อและมีการถ่ายเพิ่มเข้าไป เพื่อใส่ร้าย7คนไทย ไปดูได้ตามลิ้งค์นี้
http://www.manager.c...D=9540000009856
ดังนั้นคลิปวิดีไอที่ตัดต่อและมาออกทางสื่อต่างๆจึงน่าสงสัยมากว่า ทำไมมาออกได้ถูกจังหวะ
ให้ท่านตอแหลใช้แถลงข่าวเพื่อลดแรงกดดันของพธม.ในการชุมนุมเรียกร้องรัฐบาล
โดยเนื้อหาที่ท่านตอแหลอธิบายสอดรับกับคลิปดังกล่าวและเมื่อคลิปออกมาใหม่ๆ
คนในพรรคท่านตอแหลต่างก็ทราบว่าคลิปถูกตัดต่อมาอย่างน่าสงสัยเช่นศิริโชคและเทพเทือก ดูได้
http://www.manager.c...D=9540000000170 ศิริโชค
http://www.manager.c...D=9540000000506 เทพเทือก
แต่ทั้งสองกลับ กลับคำไปสนับสนุนให้7คนไทยต้องติดคุกเขมรในเวลาต่อมา
ซึ่งเหตุผลที่เป็นเช่นนั้นเพราะอะไร ผมจะชี้แจงภายหลัง เช่นเดียวกับในข้อ 1 เพราะเป็นเหตุผลเดียวกัน
ดังนั้น คลิปที่พวกลิ่วล้อปชป.ชอบใช้ มันไม่น่าเชื่อถือเช่นกัน
3. หลักฐานที่พวกลิ่วล้อปชป.เอามาแย้งนั้น ถ้าไปเอามาจากmanagerทั้งรูปและแผนที่ก็โปรดเอาที่เขาupdateแล้ว
การไปเอาของเก่าที่ไม่updateมาแย้ง จึงไม่มีน้ำหนัก เพราะหลักฐานของmanagerนั้น ที่มีน้ำหนักที่สุดคือ
เอกสารสค.1 ของชาวบ้าน และ ที่สำคัญคือ นส. 3 ของนายเบ ซึ่งถือว่าถูกต้องที่สุด
ผมคัดเอาบางส่วนที่เคยตั้งกระทู้ไว้ แต่ได้แก้ไขคำบางคำเพื่อให้สมบูรณ์
จาก http://forum.seritha...30619&start=270
-เขมรได้เอกราชเมื่อ2496
-นส.3ของนายเบและสค1 ของชาวบ้าน เกิดขึ้นเมื่อพ.ศ. 2498 (หลังเขมรได้เอกราช 2 ปี)
-หลักเขตเริ่มถูกขยับ หลังเกิดค่ายอพยพเขมรในไทยประมาณ2523 รายละเอียดดูได้จาก
http://www.oknation....t.php?id=678860
-แผนที่ที่ปชป.ในนี้ใช้พล๊อตจุดหาพิกัดต่างๆนั้น สมาชิก saopao มีข้อมูลว่า
แผนที่ L7017 เริ่มใช้เดือน ตุลา 2515 แต่มีการเริ่มสำรวจและปรับปรุงมาตั้งแต่ปี 2510(เครดิต saopao )
ก่อนมีเขมรอพยพ 2523 หลักหมุดในแผนที่จึงยังเชื่อถือได้
แต่อ.ปานเทพและอ.เทพมนตรีบอกว่า ทั้ง L 7017 (พิมพ์ขึ้นใช้ปี พ.ศ. 2538-2539)
หรือ L 7018 (พิมพ์ขึ้นใช้ในปี พ.ศ. 2548-2549) หลังจากมีเขมรอพยพ2523แล้ว หลักหมุดในแผนที่จึงเชื่อถือไม่ได้
ลักษณะนี้น่าจะมีคนโกหกหรือหลักฐานผิด ตอนตั้งกระทู้ผมก็คิดเช่นนั้น แต่ไม่ใช่ครับ พูดถูกทั้งคู่
ผมมากระจ่างตอนดูข่าว ททบ 5 รายงานในพื้นที่บ้านหนองจาน วันที่ปล่อยตัวคุณราตรี มีความตอนหนึ่งว่า
...แผนที่ที่ไทยใช้คือ 1 ต่อ 50,000 มีการปรับปรุงมาหลายครั้ง แค่นี้แหละครับผมถึงบางอ้อเลย
ที่แท้ท่าน “ซาลาเปา”พูดไม่หมดและพยายามเอาข้อมูลเฉพาะที่เป็นประโยชน์กับฝ่ายตนมาใช้เถียง
แผนที่มีการปรับปรุงนี่เองที่ทำให้ข้อมูลหลักหมุดที่บ้านหนองจานของกองกำลังบูรพาและตชด.
ไม่ตรงกัน และอาจารย์ทั้ง2คน ใช้แผนที่ของกองกำลังบูรพา สรุปคือ แผนที่ขัดแย้งกันเองเพราะ
มีการปรับปรุง และถ้าแผนที่L7017 เริ่มใช้เดือน ตุลา 2515 แต่มีการเริ่มสำรวจและปรับปรุงมาตั้งแต่ปี 2510 ของ”ซาลาเปา”ถูกต้อง
ทำไมหลักหมดุในแผนที่จึงไม่ตรงกับเอกสารที่ดินของชาวบ้านที่มีมาก่อน
4.พยานที่ทางรัฐบาลท่านตอแหลเอามาโกหกผ่านสื่อ เรื่องนี้ทางพธม.เอาหลักฐานมาแฉแล้ว เชิญดูได้
http://www.manager.c...D=9540000013660
ตอนชาวบ้านเข้าพบท่านตอแหลเพื่อเอาหลักฐานไปให้ใช้แย้งเขมรแต่ท่านตอแหลกลับบอกชาวบ้านว่า
อย่าเพิ่งให้ข่าวใดๆกับสื่อ แต่ท่านตอแหลกลับเอาคนที่มาตั้งรกรากทีหลังมาโกหกให้สื่อฟัง คิดเอาเองละกัน
5.หลักฐานภาพการจัดรูปที่ดินของชาวบ้านที่ศิริโชคให้หน่วยราชการในพื้นที่ทำมาให้ เพื่อแย้งข้อมูลว่า
ชาวบ้านเข้าใจผิด ที่ดินของชาวบ้านไม่ใช่ที่ที่เขมรอพยพเข้ามาอยู่ ตามรูป
ก่อนจะมีรูปที่ดินรูปนี้ขึ้นมา ทั้งท่านตอแหลและรมต.กลาโหม(ปวิตร),ต่างประเทศ(กษิต)และอีกหลายคน
ในพรรคต่างดาหน้าออกมายืนยันว่า7คนไทยรุกล้ำเข้าไปในที่เขมรอยากถามว่า
จะมีข้าราชการในพื้นที่คนใดกล้าทำรูปให้ออกมาแตกาต่างออกไป
ถ้าเป็นเช่นทีศิรืโชคว่าจริง
- ทำไมชาวบ้านที่เขาตั้งรกราและได้ทำกินมานานแล้วตั้งแต่รุ่นพ่อแม่
ถึงบอกว่าเข้าไปทำกินไม่ได้เพราะเขมรอพยพเข้าไปในพิ้นที่ของเขาร่วม30ปีเป็นไปได้อย่างไรที่พวกชาวบ้านจะจำตำแหน่งที่ดินของตนเองผิดหลายรายพร้อมๆกัน
-ทำไมท่านตอแหลต้องให้พนิชเข้าไปสำรวจ ก็ให้หน่วยราชการดังกล่าวส่งมายืนยันอย่างที่ศิริโชคทำก็จบ
6.หลักฐานที่มัดท่านตอแหลจนเถียงไม่ออก และใช้หักล้างหลักฐานของพวกลิ่วล้อปชป.ได้ทั้งหมดคือ
คำพูดของท่านตอแหลที่พูดในระหว่างการประชุมสภาฯนัดสุดท้ายก่อนยุบสภาเพื่อเลือกตั้งครั้งล่าสุด
ท่านตอแหลบอกในที่ประชุมว่า(คำพูดโดยประมาณ ไม่ตรงเป๊ะนะครับ)
“ผมจะงดเว้นภาษีให้กับชาวบ้านที เข้าไปทำกินในที่ดินของตนเองไม่ได้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน”
มีสมาชิกสภาท่านหนึ่งแย้งขึ้นว่า
” แต่การเก็บภาษีเป็นการยืนยันว่าที่ตรงนั้นเป็นดินแดนของเรานะ”
ท่านตอแหลตอบกลับทันทีว่า
“การออกคำสั่งไม่เก็บภาษีก็เป็นการยืนยันการมีอธิปไตยเหนือพื้นที่ตรงนั้นเช่นกัน”
จากคำพูดทั้งหมดมันช่วยยืนยันว่าท่านตอแหลยอมรับว่าพื้นที่ของชาวบ้านที่มาให้ข้อมูลกับพธมนั้นอยู่ในเขตแดนไทย
จากข้อสรุปนี้ก็ตีความต่อไปได้ว่าท่านตอแหลและพวกลิ่วล้อซึ่งแข็งกร้าวจะขอตัว7คนไทยคืนจากเขมรใน
ตอนแรก แต่กลับยอมอ่อนข้อให้เขมรในเวลาถัดมาและซ้ำร้ายกลับไปสนับสนุนเขมรว่า
7คนไทยรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ของเขมร ด้วยการใช้.ข้อมูลและหลักฐานต่างๆอันเป็นเท็จให้เหล่าลิ่วล้อนำมา
โต้แย้งกับพธม. เพราะแย้งกับคำพูดท่านตอแหลเอง
แต่บางคนทางฝ่ายปชป.แย้งว่า ที่ท่านตอแหลพูดหมายถึงที่ของนายเบเท่านั้น เพราะเป็นนส.3และอยู่ชิดหลักเขต46
ผมก็ขอบอกว่า การที่เขมรคุมตัว7คนไทยไปถึงบ่อน้ำUN แล้วเขมรร่วมประสานเสียงกับพวกท่านตอแหล
บอกว่า นั่นเป็นที่ของเขมรนั้น มันผิด เพราะบ่อน้ำนี้อยู่บนที่ของนายหมา ตามหลักฐานสค.1
ถ้าลากเส้นจากหลักที่ 46 ผ่านไปทางขวาของบ่อน้ำ คนทั้ง7 ยังอยู่บนแผ่นดินไทย
สรุปเรื่องหลักฐานโดยดูจาก
http://www.manager.c...D=9540000008051
จากรูปชี้ทิศเหนืออยู่ข้างบน ทิศตะวันออกจึงอยู่ทางขวา
จากการให้ปากคำของชาวบ้านจังหวัดสระแก้วที่สูญเสียที่ดินทำกินจากชาว กัมพูชามาอพยพอาศัยอยู่บริเวณหลักเขตที่ 46, 47 เมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2554 พบว่า สระน้ำ UN ท้ายหมู่บ้านเขมรอพยพนั้นอยู่บนที่ดินซึ่งแจ้งการครอบครองประเภท ส.ค. 1 ที่กรมที่ดินได้ออกไว้ให้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 ของนายหมา อันสมศรี มีจำนวนเนื้อที่ 48 ไร่ ทิศเหนือติดจดที่ดินนายบุญส่ง ทิศใต้จดป่า ทิศตะวันออกจดที่ดินนายท้าว ทิศตะวันตกจดลำคลอง
ที่ดิน ส.ค. 1 (พ.ศ. 2498) ของนายหมา อันสมศรี ซึ่งเป็น สระน้ำ UN ในปัจจุบัน
การที่มีที่ดินคนไทยอีกคนหนึ่งอยู่ทิศตะวันออกของที่ดินของนายหมา อันสมศรี ย่อมแสดงว่าด้านทิศตะวันออกของ “สระน้ำ UN” ยังไม่สุดเขตแดนไทย-กัมพูชา และยังมีที่ดินทำกินของคนไทยอีกรายหนึ่งชื่อ “นายท้าว”ด้วย
เมื่อตรวจสอบแล้ว “นายท้าว” ก็คือชื่อเล่นที่ชาวบ้านเรียกนายบุญจันทร์ เกษธาตุ (ปัจจุบันอายุ 84 ปีและยังมีชีวิตอยู่) ซึ่งมีที่ดินที่แจ้งการครอบครองประเภท ส.ค. 1 อยู่ประมาณ 24 ไร่ ตั้งแต่ พ.ศ. 2498 โดยระบุว่าทิศตะวันตกของที่ดินของนายบุญจันทร์ เกษธาตุนั้นเป็นที่ดินของ นายหมา อันสมศรี และทิศใต้จดเส้นเขตแดน
ที่ดิน ส.ค.1 (พ.ศ. 2498)นายบุญจันทร์ เกษธาตุ ซึ่งอยู่ด้านทิศตะวันออกของสระน้ำ UN
ที่ดินของนายบุญจันทร์ เกษธาตุ ซึ่งติดกับสระน้ำ UN ด้านทิศตะวันออก และเป็นทิศตะวันออกของถนนที่ 7 คนไทยกำลังเดินลงมาทางทิศใต้นั้น ย่อมแสดงให้เห็นว่า “หลักเขตปัจจุบันถูกเคลื่อนย้ายเข้ามาในดินแดนไทย” และหากยึดเส้นเขตแดนตั้งแต่ พ.ศ. 2498 ต้องถือว่า 7 คนไทยยังอยู่ในดินแดนไทยอย่างแน่นอน และไม่มีทางที่จะอยู่ในดินแดนของกัมพูชาไปได้
แม้หลักฐานในระดับ ส.ค. 1 จะไม่สามารถเทียบเท่าได้กับ น.ส. 3 ก. หรือ โฉนด แต่สาระสำคัญกรณีนี้ไม่ใช่เรื่องที่ว่านายหมา อันสมศรี หรือ นายบุญจันทร์ เกษธาตุ มีสิทธิ์การครอบครองที่ดินหรือไม่และแค่ไหน แต่ สาระสำคัญในเรื่องนี้อยู่ตรงที่ว่า มีพยานบุคคล และ เจ้าหน้าที่รัฐเคยไปสำรวจแล้วว่าดินแดนบริเวณนั้นอยู่ในราชอาณาจักรไทย โดยการแสดงอธิปไตยที่ชัดเจนที่สุดก็คือ “รัฐไทย” จัดเก็บภาษีจากที่ดินทำกินในบริเวณนี้จากชาวบ้านมาทุกปีจนถึงปัจจุบัน
ด้วยเหตุผลที่ว่าไทยและกัมพูชาได้มีข้อตกลงต่อกันว่ากรณีที่คนทั้ง 2 ประเทศพลัดหลงข้ามแดนกันไปมาโดยไม่ติดอาวุธ จะต้องไม่นำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหรือการพิจารณาในชั้นศาลของทั้ง 2 ประเทศ ก็ยิ่งไม่ควรปล่อยให้กัมพูชาแสดงอธิปไตยทางศาลพิจารณาพิพากษา 7 คนไทยอย่างไม่ถูกต้อง
เพิ่มเติม
อีกอย่างคือทำไมไม่ใช้MOU43ให้เป็นประโยชน์ในกรณีนี้ เห็นอ้างประจำก็ข้อ8ในMOUไงละ่
และยังมีข้อตกลงที่ตชด.ทำไว้กับเขมรว่าถ้าจับคนของอีกฝ่ายได้ ต้องส่งคืน
คำพูดนี้คุณณัฐพร โตประยูร ทนายของกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติให้สัมภาษณ์
การลงจุดในแผนที่ที่ASTVทำเฉพาะที่ดินตรงสระน้ำ2แปลงเพราะ ต้องการหาแนวเส้นเขตแดนที่เริ่มวิ่งจากหลักที่46 ไปหา47
1.หลักที่46เราได้แล้ว เพราะอยู่ที่ท้ายนานายเบ
2.หลัก ที่47ยังไม่รู้แน่นอน แต่เมื่อได้สค.1ของนายหมาและบุญจันทร์ โดยนายหมาระบุว่า บ่อน้ำอยู่บนที่ดินของเขา แต่ที่สำคัญคือ ที่ดินที่ติดกันคือที่ของบุญจันทร์ และที่ของนายบุญจันทร์มีระบุไว่ว่า
อยู่ติดแนวเส้นเขตแดน
นี่ จึงทำให้ASTVสามารถลากเส้นเขตแดนที่ใกล้เคียงความจริงที่สุด จากหลักที่46ผ่านที่ของนายบุญจันทร์ ด้วยเส้นเขตแดนนี้ ทำให้รู้ว่า ทั้7คนไทยยังอยู่บนที่ดินของไทย ขณะถูกจับครั้งแรก (ตามภาพของASTV) และถูกพาล้ำเข้าไปในเขตเขมรในภายหลัง
ลิ้งค์ที่สามารถไปอ่านรายละเอียดที่ถกกันไว้ก่อนหน้านี้
7017เป็นแผนที่ยุทธการไม่ใช่แผนที่เพื่อการปักปัน,ปชป.ว่าไง
http://www.google.co...R7SumtOB6qw02Lg
ชาวบ้านแฉ,นายกฯขอชาวบ้านหยุดให้ข่าวและศิริโชคโกหก
http://www.google.co...slu2cg3u93JoOfw
โฉนดที่ดินพธม.VSแผนที่ของปชป. ใครน่าเชื่อถือกว่ากัน
http://www.google.co...PKT3UDziEUF4K3g
เรื่องที่สาม ทำไมวีระต้องติดคุก
อยากท้าวความว่า หลังรัฐประหารปี 49 ทหารมีอิทธิพลเหนือการเมืองอีกครั้ง เมื่อมีรัฐบาลสมัคร
สมัครสั่งปลดเสรีพิสุทธ์ แล้วให้ พัชรวาท รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแทน เป็นม้ามืดเข้ามาเลย
เพราะมีปวิตรเป็นใหญ่ในกลาโหม อนุพงษ์มาเป็นผบ.ทบ.ต่อจากสนธิ(บัง)ได้ ในความเห็นผมเพราะปวิตรขอให้
ปวิตรและสนธิ(บัง)เป็นรุ่นเดียวกัน
อนุพงษ์เป็นเด็กในโอวาทของปวิตร เขาติดสอยห้อยตามกันมาจากทหารเสือราชินี ดังนั้นบัลลังก์ทางทหาร
ของปวิตรจึงมั่นคงไม่มีรัฐบาลใดกล้าหือกับทหารชุดนี้ตราบจนทุกวันนี้ประยุทธก็สืบทอดอำนาจเพื่อค้ำบัลลังก์นี้ไว้
ตัวอย่างก็คือการที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลท่านตอแหลในค่ายทหารได้ไงครับ ถ้าตั้งรัฐบาลได้อะไรก็ทำได้ครับ
กรณี 7 ตุลา 2551 ที่น้องโบว์และสารวัตร จ๊าบ เสียชีวิต รวมทั้งมีคนที่สูญเสียอวัยวะและบาดเจ็บจากมากไปหาน้อย
ประมาณ1,000คน ผู้ที่ต้องรับผิดชอบด้วยหนึ่งในนั้นคือ
พัชรวาท วงศ์สุวรรณ น้องชาย ปวิตร วงศ์สุวรรณ
ปวิตรเคยให้สัมภาษณ์สื่อว่า”แม่สั่งไว้ ให้ดูแลน้องชายคนนี้ให้ดี”
ต่อมาป.ป.ช. ชี้ว่ามีมูลความผิดคดีอาญาและวินัยร้ายแรงต้องไล่พัชรวาทออกจากราชการ
แต่เมื่อเรื่องเข้าคณะกรรมการตำรวจ ที่ท่านเทือกนั่งเป็นประธาน กลับมีมติพลิกกลับให้เข้ารับราชการเฉยเลย
ชนิดไม่สนว่ามติปปช.ผูกพันทุกองค์กร
ที่กตร.มีมติเช่นนี้ ก็เพราะมือที่มองเห็นเป็นสีเขียวๆนั่นแหละ แหม ตั้งรัฐบาลได้
ทำไมเรื่องแค่นี้ขอให้รัฐบาลช่วยหน่อยจะไม่ได้ จริงมะ
พอเป็นอย่างนี้ ก็มีผู้กล้าท้าชนเกิดขึ้น เขาผู้นั้นคือ
วีระ สมความคิด
คุณวีระเอาเรื่องนี้ไปฟ้องปปช. เพื่อเอาผิดกับกตร.ทั้งชุดที่ฝืนมติปปช. คนที่กระทบกระเทือนก็ได้แก่
-พัชรวาท แต่คนที่เจ็บด้วยคือพี่ชายที่แสนดี ปวิตร
-เทพเทือก เป็นประธาน
มาถึงตอนนี้คุณวีระก็มีโจทย์เพิ่มขึ้นอีก3คน
พอพนิชและแซมดินไปชวนวีระให้ไปชายแดน เมื่อไปถึงด่านตรวจ ก็ไม่ได้ถูกห้ามปราม และก็ไม่มีทหารหรือตำรวจตามไปดูแล พอเข้าไปจนถูกจับ
เรามาฟังคุณราตรีให้การกับกมธ.สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา
http://www.manager.c...D=9560000016222
น.ส.ราตรีกล่าวว่า ภายหลังจากที่ตนและคณะถูกจับมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) เข้ามาช่วยเจรจากับเจ้าหน้าที่ทางกัมพูชา ซึ่งครั้งแรกได้รับการยืนยันปล่อยตัว จากนั้นตนและคณะจึงยื่นความต้องการขอเข้าไปดูหลักเขตที่ 46 ซึ่งเจ้าหน้าที่ไทยไปเจรจา และเดินกลับออกมาระบุว่าหมดหน้าที่ของทหารแล้ว ต่อไปเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ จากนั้นตนและคณะก็ถูกควบคุมตัวไปยังกรุงพนมเปญ
ในช่วงท้ายของการประชุม น.ส.ราตรีระบุว่า เพื่อนในกลุ่มของตนได้รับโทรศัพท์จากทหารนายหนึ่งโทรศัพท์มาเตือนว่า หากตนคิดจะฟ้องร้องรัฐบาลเพื่อเรียกค่าเสียหายฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ อาจจะได้ไม่คุ้มเสียและได้รับอันตราย ด้าน พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำ กมธ.กล่าวว่า ประเด็นที่ น.ส.ราตรีถูกข่มขู่ทางโทรศัพท์ผ่านเพื่อน ให้พิจารณาความจริงให้ชัดเจน เพราะเป็นเรื่องที่กระทบต่อหลายฝ่าย ก่อนไปแจ้งความไว้ ซึ่งทันทีที่ พล.ท.นันทเดชพูดจบ น.ส.ราตรีกล่าวโต้ตอบด้วยเสียงสั่นเครือและน้ำตาคลอว่า หรือจะรอให้ตนถูกลอบทำร้ายก่อนหรืออย่างไร หรือต้องรอให้ยิงพลาดก่อนใช่หรือไม่ จึงจะเชื่อว่ามีมูลความจริง จากนั้น พล.อ.อ.วีรวิท ในฐานะประธาน กมธ.ก็ได้รับปากที่จะดูแลเรื่องดังกล่าวให้
เห็นไหมครับว่า ครั้งแรกยอมปล่อย ทำไมเกิดเปลี่ยนใจไม่ยอมปล่อยเมื่อขอเข้าไปดูหลักเขต
ผมเดาว่า (ที่ต้องเดาเพราะไม่เห็นด้วยตา ไม่ได้ยินกับหู)
การที่ทหารไทยเข้าไปคุยครั้งแรกแล้วเขมรยอมปล่อย เพราะทหารเขมรที่คุยเป็นทหารชั้นล่าง
ทำไปตามที่เคยตกลงและเคยทำกันมาแล้ว แต่เมื่อขอเข้าไปดูหลักเขต ทหารชั้นล่างพวกนี้จึงต้อง
รายงานเบื้องบนสูงขึ้นไป คราวนี้ก็เป็นเรื่อง ผมเชื่อว่าทางเขมรต้องการพนิชเป็นหลัก เพราะการได้สส.
ของไทยมาเป็นนักโทษเพื่อยืนยันเขตแดนให้เขมรมีประโยชน์กว่า
ส่วนวีระไม่เป็นประโยชน์อะไร แต่ที่ต้องยัดข้อหาจารกรรมเพื่อจะได้ขังคุกได้แบบไม่มีข้อโต้แย้ง
เพราะหลังจากเป็นข่าวว่าเขมรจับ7คนไทย รัฐบาลท่านตอแหลก็แข็งกร้าวขอคนทั้งหมดคืนทันที
แต่ทหารใหญ่ก็รู้ข่าวนี้เช่นกันการกำจัดศัตรูที่เป็นภัยต่อน้องชายจึงเริ่มขึ้น
หรืออาจเพื่อล้างแค้น โดยผ่านทางรัฐบาลท่านตอแหลและแม่ทัพ”กุนเชียง”
ไปพร้อมๆกัน นี่คือเหตุผลที่รัฐบาลท่านตอแหลหักเลึ้ยวกลับ180องศา เริ่มจากส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่
เพื่อดูที่เกิดเหตุ แต่คนในพิ้นที่รายงานมาที่พธม.ว่า ไปยืนมองจากริมรั้ว ไม่กล้าเข้าไป
เสร็จแล้วกลับมารายงานอะไรก็ไม่ทราบ แต่ท่านตอแหลและปวิตรรีบออกมาแถลงข่าว
ตามเนื้อหาในเรื่องที่สอง ข้อที่1 อยู่ด้านบน
พอเปิดฉากนี้ปุ๊บ คนในรัฐบาลท่านตอแหลก็ดาหน้าออกมาสนับสนุนว่า
7คนไทยล้ำเข้าไปในที่ของเขมรโดยใช้ข้อมูลเท็จทุกอย่างที่หาได้มาสนับสนุนเรื่องนี้
พอเขมรได้สส.ไทยเป็นหลักฐานยืนยันเขตแดนตามที่ต้องการ พนิชก็หมดประโยชน์
จึงปล่อยกลับมาพร้อมคนอื่นๆ ยกเว้นวีระที่ต้องตืดคุกตามคำขอทหารใหญ่ทีอาจ่ส่งผ่านนายพล
“กุนเชียง”ไปที่เขมร เพราะนายพลท่านนี้มีธุรกิจกับเขมร ซี้ปึ้กฮุนเซ็น ฉายา นายพล“กุนเชียง”
ได้มาเพราะ ฮุนเซ็นชอบกินกุนเชียง ก็ได้นายพลท่านนี้คอยส่งไปให้
เหตุผลที่ผมบอกว่า ยังไงๆวีระก็ต้องตืดคุก เพราะถึงแม้วีระจะยอมสารภาพเหมือนคนอื่น
แต่ก็โดนคดีจารกรรมที่ตั้งใจยัดเยียดให้ มันส่ออยู่แล้วว่าต้องการให้วีระติดคุก การที่ผมบอกว่า
วีระถูกยัดเยียดข้อหา เพราะถ้าเข้าไปทำจารกรรมจริง วีระคงไม่ทำเพื่อตนเอง แต่ต้องได้รับการร้องขอ
จากรัฐบาลท่านตอแหล ดังนั้น ท่านตอแหลจะยอมให้วีระติดคุกไม่ได้ เพราะเขาทำงานให้ท่าน
ส่วนคุณราตรี ถ้ายอมสารภาพ ก็คงได้ปล่อยตัวมา แต่ไม่ยอมสารภาพ
ผมขอสรุปนข้อนี้ว่า
เพราะเห็นแก่ชาติอย่างแท้จริง คนท้ง2 จึงไม่ยอมสารภาพว่าล้ำเข้าในแดนเขมร
สมควรยกย่องทั้งคุณวีระและคุณราตรีอย่างยิ่ง
ส่วนไอ้ตอแหลและพวกควรได้รับการสาปแช่ง เพราะเห็นแก่ลาภยศที่ดำรงอยู่
จึงยอมร่วมกันทำสิ่งที่ผิดคุณธรรม และ ทรยศต่อประเทศ
จบ