สิ่งที่ยังคงอยู่....
#2352
Posted 13 June 2013 - 22:40
วันนี้แถวบ้านฝนตกไม่หนักมาก แต่ตกนานเลย แบบตกไปเรื่อยๆ
อย่างที่คุณวัชรยกตัวอย่างมา ก็สนับสนุนความคิดอิฉันบ้างละค่ะ สิ่งที่เจอ อิฉันเพียงเลือกที่จะรับ อย่างมีคนทักว่าปีนี้ดวงไม่ดีมากๆ เออก็จริงนะ เจ็บตัว เสียเงิน หลายๆเรื่อง แต่อิฉันก็คิดว่า สวดมนต์ก็แล้วกัน
จะแก้ได้หรือไม่ได้ ไม่รู้ คิดแค่ว่าทำแล้วเราสบายใจ ในทุกวันที่เราทำ ก็ยังดีกว่ามานั่งกังวลว่า เราจะมีเรื่องร้ายอะไรมาอีก เป็นคนช่างคิด แต่ไม่อยากหมกมุ่น คือจะหาวิธีที่จะทำให้ตัวเองสบายใจ
หาทางแก้ไขอะไร ตั้งแต่ไปฝปฏิบัติมา รู้อย่างหนึ่งที่แน่นอนที่สุด คือ สติ ต้องกำกับให้อยู่กับตัวตลอด ค่อยเดิน ค่อยทำ ก็ดีขึ้น
เมื่อวานอังคาร เอารถไปพ่นกันสนิม รอ taxi นานมากก็เดินไปเรื่อย แว๊บเดียวจริงๆที่หันไปมองหารถ สะดุดพื้นล้มเลย พอสติไม่อยู่ที่ก้าวเดิน ตาก็ไม่ได้มอง ขนาดกางเกงยีนขาดเข่าเลย โทรไปหาคุณหลวงให้มารับ คือเขาไปทำงานแล้ว
เจ็บจนน้ำตาร่วงเลย มีผู้ชายเห็นด้วยนะ แต่เขาก็ยืนมองเฉยๆ ก็ไม่ว่ากัน เราล้มเอง ก็ต้องลุกเอง
- chackrapbong likes this
#2353
Posted 13 June 2013 - 22:48
The time has come to say goodbye. Tomorrow will come and let it be a good day for you.
- chackrapbong likes this
#2354
Posted 13 June 2013 - 22:51
The time has come to say goodbye. Tomorrow will come and let it be a good day for you.
ขอบคุณและสวัสดีมากครับ
- lazylemon and คน หมา ขี้ข้า จานบิน... like this
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
#2355
Posted 14 June 2013 - 09:01
คนในสมัยพุทธกาล เวลามีทุกข์ ก็เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ฟังธรรม และไม่ได้ดูดวง
อย่างที่กล่าวมาทั้งหมดแหละขอรับ... มีทุกรูปแบบ... เดินตามหลังพระองค์ไปติดๆแล้วยังไปสนใจอวิชชาก็ยังมี ฟังแล้วเฉยๆก็มี ถุยน้ำลายใส่ก็มี พอมีทุกข์แสนสาหัสแล้วโทษพระองค์ไม่ช่วยก็มี เชื่อในวัตรปฏิบัติของปริพาชกมากกว่าก็มี ฯลฯ...
เราเองทุกวันนี้อาจจะมาจากคนพวกนั้นก็ได้ขอรับ แต่อย่างน้อยคงต้องอันใดเกี่ยวพันกับธรรมพระตถาคตมาแน่ๆ ถึงยังฟังกันเข้าใจบ้าง...
- chackrapbong and lazylemon like this
#2356
Posted 14 June 2013 - 09:50
- chackrapbong and lazylemon like this
#2357
Posted 14 June 2013 - 21:20
ไม่เป็นไรค่ะ ธรรมมะ ก็ควรจะเป็นสิ่งที่คงอยู่ และอยู่ตลอดไป เห็นที่คุณวัชรนำมาให้อ่าน ก็เข้าใจค่ะ
วันนี้ก็นั่งคิดอยู่ทุกครั้งที่ว่าง ร่างกายของมนุษย์นี่ บอบบางนะคะ แตกง่าย หักง่าย
แล้วจิตใจคนเราล่ะ บ้างก็เปราะบาง อ่อนโยน แข็งกระด้าง ต่างกันไป คิดแล้วเหนื่อยใจ
- wat and chackrapbong like this
#2359
Posted 14 June 2013 - 21:31
ไม่เป็นไรค่ะ ธรรมมะ ก็ควรจะเป็นสิ่งที่คงอยู่ และอยู่ตลอดไป เห็นที่คุณวัชรนำมาให้อ่าน ก็เข้าใจค่ะ
วันนี้ก็นั่งคิดอยู่ทุกครั้งที่ว่าง ร่างกายของมนุษย์นี่ บอบบางนะคะ แตกง่าย หักง่าย
แล้วจิตใจคนเราล่ะ บ้างก็เปราะบาง อ่อนโยน แข็งกระด้าง ต่างกันไป คิดแล้วเหนื่อยใจ
เรียกว่าอินทรีย์บารมีขอรับ... ที่มีแตกต่างกัล... อย่างที่เคยกล่าว ทำไมบางคนพระตถาคตบอกแค่อริยสัจแล้วเข้าใจ บรรลุได้... ทำไมบางคนต้องแตกแขนงไปถึงตั้งแต่ศีลทีละข้อ...
... แต่ทุกอย่างไม่พ้น... ต้องมี "ความเพียรพยายาม" ขอรับ... มากน้อยก็ว่ากันไป... เพราะพระตถาคตยืนยันไว้แล้ว... อริยมรรคนั้นเปรียบเหมือนยาถ่ายความเป็นอริยะ... ที่ไม่ให้ผลนั้น... เป็นไม่มีขอรับ...
- chackrapbong and lazylemon like this
#2360
Posted 14 June 2013 - 21:55
คุณหลวงเธอฝากมาถามคุณวัชรว่า เวลานั่งสมาธิ การพิจารณา ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา (ไตรลักษณ์) จะพิจารณา ช่วงไหนคะ
ส่วนอิฉันถามมั่ง ว่าเวลาเดิน แบบไปไหนๆเรื่อย เราสามารถทำแบบจงกรมได้ไหมคะ ถ้าได้มีขั้นตอนอย่างไรคะ
#2362
Posted 14 June 2013 - 22:04
ไม่เป็นไรค่ะ ธรรมมะ ก็ควรจะเป็นสิ่งที่คงอยู่ และอยู่ตลอดไป เห็นที่คุณวัชรนำมาให้อ่าน ก็เข้าใจค่ะ
วันนี้ก็นั่งคิดอยู่ทุกครั้งที่ว่าง ร่างกายของมนุษย์นี่ บอบบางนะคะ แตกง่าย หักง่าย
แล้วจิตใจคนเราล่ะ บ้างก็เปราะบาง อ่อนโยน แข็งกระด้าง ต่างกันไป คิดแล้วเหนื่อยใจ
เรียกว่าอินทรีย์บารมีขอรับ... ที่มีแตกต่างกัล... อย่างที่เคยกล่าว ทำไมบางคนพระตถาคตบอกแค่อริยสัจแล้วเข้าใจ บรรลุได้... ทำไมบางคนต้องแตกแขนงไปถึงตั้งแต่ศีลทีละข้อ...
... แต่ทุกอย่างไม่พ้น... ต้องมี "ความเพียรพยายาม" ขอรับ... มากน้อยก็ว่ากันไป... เพราะพระตถาคตยืนยันไว้แล้ว... อริยมรรคนั้นเปรียบเหมือนยาถ่ายความเป็นอริยะ... ที่ไม่ให้ผลนั้น... เป็นไม่มีขอรับ...
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า
ทางนั้นชื่อว่าเป็นทางตรง
ทิศนั้นชื่อว่าไม่มีภัย
รถชื่อว่าไม่มีเสียงดัง ประกอบด้วยล้อคือธรรม
หิริเป็นฝาของรถนั้น สติเป็นเกราะกั้นของรถนั้น
เรากล่าวธรรม มีสัมมาทิฏฐินำหน้าว่าเป็นสารถี
ยานชนิดนี้มีอยู่แก่ผู้ใด จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม
เขา (ย่อมไป) ในสำนักพระนิพพานด้วยยานนี้แหละ.
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
#2364
Posted 14 June 2013 - 22:15
ก่อนจะไปถึงขั้นนั้น พี่จะอยู่รอดถึงป่าวเนีย วันนี้วิ่งไล่จับแมว ลืมตัวไปว่าร่างกายแก่แล้ว ถึงแม้ว่าจะ young at heart ล้มอีกแระ แต่คราวนี้โดนเข่าข้างขวาข้างเดียว เพราะข้อเท้าพลิก นี่ขนาดเพิ่งนั่งสวดมนตร์ไปนะเนี่ย ถ้าไม่สวด สงสัย
มีหัก เพราะพื้น มันเป็นระดับ ไม่กล้าบอกคุณหลวง โดนดุอีกแน่ๆ
- chackrapbong likes this
#2365
Posted 14 June 2013 - 22:19
ก่อนจะไปถึงขั้นนั้น พี่จะอยู่รอดถึงป่าวเนีย วันนี้วิ่งไล่จับแมว ลืมตัวไปว่าร่างกายแก่แล้ว ถึงแม้ว่าจะ young at heart ล้มอีกแระ แต่คราวนี้โดนเข่าข้างขวาข้างเดียว เพราะข้อเท้าพลิก นี่ขนาดเพิ่งนั่งสวดมนตร์ไปนะเนี่ย ถ้าไม่สวด สงสัย
มีหัก เพราะพื้น มันเป็นระดับ ไม่กล้าบอกคุณหลวง โดนดุอีกแน่ๆ
พี่มะนาวล้มบ่อยนะครับ
ใจร้อนหรือเปล่าครับ
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
#2366
Posted 14 June 2013 - 22:32
ใจร้อนอย่างเดียวค่ะ อ้อใจดีด้วย แต่ไม่ใจเร็ว และใจอื่นๆ
- chackrapbong likes this
#2368
Posted 14 June 2013 - 22:44
ไม่หวานหรอกค่ะ เปรี้ยวจะแย่ เถียงได้ทุกวัน จนบ่นว่าบอกอะไรไม่เคยเชื่อ แต่พอคุณวัชรบอกละเชื่อ ทั้งที่บอกอย่างเดียวกัน 5555 ชอบแกล้งแกค่ะ
- chackrapbong likes this
#2369
Posted 14 June 2013 - 22:47
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า
ทางนั้นชื่อว่าเป็นทางตรง
ทิศนั้นชื่อว่าไม่มีภัย
รถชื่อว่าไม่มีเสียงดัง ประกอบด้วยล้อคือธรรม
หิริเป็นฝาของรถนั้น สติเป็นเกราะกั้นของรถนั้น
เรากล่าวธรรม มีสัมมาทิฏฐินำหน้าว่าเป็นสารถี
ยานชนิดนี้มีอยู่แก่ผู้ใด จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม
เขา (ย่อมไป) ในสำนักพระนิพพานด้วยยานนี้แหละ.
แถมให้อีกพระสูตรขอรับ ก่อนชิ่งไปนอน... เอิ๊กๆๆๆ
... “แน่ะเธอ! ที่สุดโลกแห่งใด อันสัตว์ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่ตาย ไม่จุติ ไม่อุบัติ... เราไม่กล่าวว่าใครๆอาจรู้ อาจเห็น อาจถึง ที่สุดแห่งโลกนั้น ด้วยการไป...
... แน่ะเธอ! ในร่างกายที่ยาวประมาณวาหนึ่งนี้ ที่ยังประกอบด้วยสัญญาและใจนี่เอง, เราได้บัญญัติโลก, เหตุให้เกิดโลก, ความดับสนิทไม่เหลือของโลก, และทางดำเนินให้ถึงความดับสนิทไม่เหลือของโลกไว้” ...
... สิ่งๆหนึ่งซึ่งไม่มีสภาวะแบบโลกให้ปรากฏ... ดิน น้ำ ไฟ ลม ไม่อาจเข้าไปอยู่ในที่ใด... ในที่นั้นดาวฤกษ์ทั้งหลายย่อมไม่ส่องแสงในที่นั้น, ดวงอาทิตย์ก็ไม่ปรากฏในที่นั้น, ดวงจันทร์ก็ไม่ส่องแสง แต่ความมืดก็มิได้มีอยู่ในที่นั้น...
รักษาตัว และครอบครัวกันให้ดีนะขอรับ... กระพ๊มเห็นว่า... กงล้อประวัติศาสตร์แบบเดิมๆ... กำลงัจะหมุนวนมาอีกครั้ง... เร็วๆนี้แหละขอรับ... เฮ้ออออออ แค่คนชั่วๆไม่กี่คน มันคงทำอะไรไม่ได้มากมายเยี่ยงนี้... ถ้าไม่มีใครไปหลงลม งมงายไปกับมันขนาดนี้นะขอรับ... ฟังข่าวแล้วหดหู่... แต่ก็ดีเหมือนกัน... ให้แม่มรู้ไปสักที มันจะไปทางไหนแผ่นดินนี้... ยังไงๆก็ต้องอยู่ไปจนตายอยู่แล้วนิ...
- chackrapbong and คน หมา ขี้ข้า จานบิน... like this
#2370
Posted 14 June 2013 - 22:49
ตอนนี้เพิ่มนักร้องโปรดอีกคน Andrea Bocelli ชอบเสียงเขาเหลือเกิน ยิ่งเวลาร้องกับ sarah McBright
- ปุถุชน, chackrapbong and คน หมา ขี้ข้า จานบิน... like this
#2371
Posted 14 June 2013 - 22:53
ไม่หวานหรอกค่ะ เปรี้ยวจะแย่ เถียงได้ทุกวัน จนบ่นว่าบอกอะไรไม่เคยเชื่อ แต่พอคุณวัชรบอกละเชื่อ ทั้งที่บอกอย่างเดียวกัน 5555 ชอบแกล้งแกค่ะ
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า
ทางนั้นชื่อว่าเป็นทางตรง
ทิศนั้นชื่อว่าไม่มีภัย
รถชื่อว่าไม่มีเสียงดัง ประกอบด้วยล้อคือธรรม
หิริเป็นฝาของรถนั้น สติเป็นเกราะกั้นของรถนั้น
เรากล่าวธรรม มีสัมมาทิฏฐินำหน้าว่าเป็นสารถี
ยานชนิดนี้มีอยู่แก่ผู้ใด จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม
เขา (ย่อมไป) ในสำนักพระนิพพานด้วยยานนี้แหละ.
แถมให้อีกพระสูตรขอรับ ก่อนชิ่งไปนอน... เอิ๊กๆๆๆ
... “แน่ะเธอ! ที่สุดโลกแห่งใด อันสัตว์ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่ตาย ไม่จุติ ไม่อุบัติ... เราไม่กล่าวว่าใครๆอาจรู้ อาจเห็น อาจถึง ที่สุดแห่งโลกนั้น ด้วยการไป...
... แน่ะเธอ! ในร่างกายที่ยาวประมาณวาหนึ่งนี้ ที่ยังประกอบด้วยสัญญาและใจนี่เอง, เราได้บัญญัติโลก, เหตุให้เกิดโลก, ความดับสนิทไม่เหลือของโลก, และทางดำเนินให้ถึงความดับสนิทไม่เหลือของโลกไว้” ...
... สิ่งๆหนึ่งซึ่งไม่มีสภาวะแบบโลกให้ปรากฏ... ดิน น้ำ ไฟ ลม ไม่อาจเข้าไปอยู่ในที่ใด... ในที่นั้นดาวฤกษ์ทั้งหลายย่อมไม่ส่องแสงในที่นั้น, ดวงอาทิตย์ก็ไม่ปรากฏในที่นั้น, ดวงจันทร์ก็ไม่ส่องแสง แต่ความมืดก็มิได้มีอยู่ในที่นั้น...
รักษาตัว และครอบครัวกันให้ดีนะขอรับ... กระพ๊มเห็นว่า... กงล้อประวัติศาสตร์แบบเดิมๆ... กำลงัจะหมุนวนมาอีกครั้ง... เร็วๆนี้แหละขอรับ... เฮ้ออออออ แค่คนชั่วๆไม่กี่คน มันคงทำอะไรไม่ได้มากมายเยี่ยงนี้... ถ้าไม่มีใครไปหลงลม งมงายไปกับมันขนาดนี้นะขอรับ... ฟังข่าวแล้วหดหู่... แต่ก็ดีเหมือนกัน... ให้แม่มรู้ไปสักที มันจะไปทางไหนแผ่นดินนี้... ยังไงๆก็ต้องอยู่ไปจนตายอยู่แล้วนิ...
ชนเหล่าใด มีปกติรู้ในสิ่งที่ไม่เป็นสาระ ว่าเป็นสาระ
และเห็นในสิ่งอันเป็นสาระว่า ไม่เป็นสาระ
ชนเหล่านั้น มีความดำริผิดเป็นโคจร
ย่อมไม่ประสบสิ่งอันเป็นสาระ
ชนเหล่าใดรู้สิ่งอันเป็นสาระ โดยความเป็นสาระ
และสิ่งที่ไม่เป็นสาระโดยความไม่เป็นสาระ
ชนเหล่านั้น มีความดำริชอบเป็นโคจร
ย่อมประสบสิ่งเป็นสาระ
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
#2372
Posted 14 June 2013 - 22:54
"รักษาตัว และครอบครัวกันให้ดีนะขอรับ... กระพ๊มเห็นว่า... กงล้อประวัติศาสตร์แบบเดิมๆ... กำลงัจะหมุนวนมาอีกครั้ง... เร็วๆนี้แหละขอรับ... เฮ้ออออออ แค่คนชั่วๆไม่กี่คน มันคงทำอะไรไม่ได้มากมายเยี่ยงนี้... ถ้าไม่มีใครไปหลงลม งมงายไปกับมันขนาดนี้นะขอรับ... ฟังข่าวแล้วหดหู่... แต่ก็ดีเหมือนกัน... ให้แม่มรู้ไปสักที มันจะไปทางไหนแผ่นดินนี้... ยังไงๆก็ต้องอยู่ไปจนตายอยู่แล้วนิ..."
อิฉันละอยากจะพูด ตั้งแต่ตอนที่คุณวัชรยก พุทธวจน มาแต่ตอนแรกแล้ว รู้เลยค่ะว่ายกมาเพื่อบอกอะไร เศร้าใจจริงๆค่ะ แต่กงล้อที่ว่ามันจะหมุนมาหยุดที่ช่วงไหนล่ะคะ รอเวลาเหมือนกัน
อึดอัดมาก จนอยากเดินไปถามเพื่อนว่า จะเอายังไง พวกเธอจะเอาไงกัน
Edited by lazylemon, 14 June 2013 - 22:58.
- wat likes this
#2373
Posted 14 June 2013 - 22:58
ตอนนี้เพิ่มนักร้องโปรดอีกคน Andrea Bocelli ชอบเสียงเขาเหลือเกิน ยิ่งเวลาร้องกับ sarah McBright
สุดยอดครับ คนนี้ แต่พิการทางสายตา
เพราะอุบัติเหตุ แต่ผมไม่แน่ใจว่าเป็น
ทางรถยนตน์หรือเปล่า
- lazylemon likes this
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
#2374
Posted 14 June 2013 - 23:02
อิฉันก็เถียงกับคุณหลวงละคะว่า ใจมันไม่สงบ เห็นบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ ให้มานั่งสมาธิ เป็นไทยเฉย มันไม่ได้อ้ะ
ถามคุณวัชรดีกว่าว่า คุณทำ 2 อย่างพร้อมกันได้ไง ทั้งห้องกาแฟ ทั้งนั่งมาธิ จะแยกได้ไงคะ ช่วยบอกวิธีด้วยเถอะเจ้าค่ะ
#2375
Posted 14 June 2013 - 23:06
ตอบคุณจักร ถ้าจำไม่ผิด น่าจะประสบอุบัติเหตุจากการเล่นฟุตบอลน่ะค่ะ จำเพลงนี้ได้ป่าว
- chackrapbong likes this
#2376
Posted 14 June 2013 - 23:08
เดี๋ยวมาค่ะ
#2377
Posted 14 June 2013 - 23:11
ตอนนี้เพิ่มนักร้องโปรดอีกคน Andrea Bocelli ชอบเสียงเขาเหลือเกิน ยิ่งเวลาร้องกับ sarah McBright
สุดยอดครับ คนนี้ แต่พิการทางสายตา
เพราะอุบัติเหตุ แต่ผมไม่แน่ใจว่าเป็น
ทางรถยนตน์หรือเปล่า
ตอบคุณจักร ถ้าจำไม่ผิด น่าจะประสบอุบัติเหตุจากการเล่นฟุตบอลน่ะค่ะ จำเพลงนี้ได้ป่าว
Thanx
- lazylemon likes this
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
#2379
Posted 14 June 2013 - 23:23
ลืมถามไถ่คุณจักร์ว่า งานยังราบรื่นดีใช่ไหมคะ
ราบรื่นดีครับ
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
#2381
Posted 14 June 2013 - 23:28
ดีค่ะที่ราบรื่น เพราะแปลว่าคุณจักร์ยังแว๊บมาได้บ้าง แล้วพรุ่งนี้ต้องไปเยี่ยมคุณแม่ป่าวคะ จะได้ปล่อยตัวคุณจักรไปนอนเสียที หมู่นี้เปิดเพลงคู่บ่อย เปลี่ยนบรรยากาศค่ะ
- chackrapbong likes this
#2382
Posted 14 June 2013 - 23:30
A Man For All Season เนี่ย เป็นหนังด้วยป่าว ชื่อคุ้นๆ
#2383
Posted 14 June 2013 - 23:37
ดีค่ะที่ราบรื่น เพราะแปลว่าคุณจักร์ยังแว๊บมาได้บ้าง แล้วพรุ่งนี้ต้องไปเยี่ยมคุณแม่ป่าวคะ จะได้ปล่อยตัวคุณจักรไปนอนเสียที หมู่นี้เปิดเพลงคู่บ่อย เปลี่ยนบรรยากาศค่ะ
ไปครับ
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
#2384
Posted 14 June 2013 - 23:43
A Man For All Season เนี่ย เป็นหนังด้วยป่าว ชื่อคุ้นๆ
ใช่ครับ
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
#2385
Posted 14 June 2013 - 23:45
ดีค่ะที่ราบรื่น เพราะแปลว่าคุณจักร์ยังแว๊บมาได้บ้าง แล้วพรุ่งนี้ต้องไปเยี่ยมคุณแม่ป่าวคะ จะได้ปล่อยตัวคุณจักรไปนอนเสียที หมู่นี้เปิดเพลงคู่บ่อย เปลี่ยนบรรยากาศค่ะ
ขอบคุณมากครับ และ ถือโอกาส สวัสดี ครับ
- lazylemon likes this
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
#2386
Posted 14 June 2013 - 23:45
เป็นลูกชายที่ดีมั่กๆ สมแล้วที่แม่รัก เพลงสุดท้ายละกัน จะได้ไม่เพลียเวลาขับรถ ป่าวไล่นะ แต่เห็นว่าสมควรแก่เวลาของคุณจักร์ที่ต้องทำงานมาทั้งวัน
- chackrapbong likes this
#2387
Posted 14 June 2013 - 23:51
I WILL NEVER EVER GIVE UP AND HOPE YOU TOO. GOODNIGHT MY BROTHER
#2388
Posted 15 June 2013 - 00:24
ตอนนี้เพิ่มนักร้องโปรดอีกคน Andrea Bocelli ชอบเสียงเขาเหลือเกิน ยิ่งเวลาร้องกับ sarah McBright
สวัสดีครับ...
เพลง BESAME MUCHO มีหลายคนร้อง และเล่นดนตรี....
แต่ Adrea Bocelli ร้องได้พิเศษมาก...
Edited by ปุถุชน, 15 June 2013 - 00:56.
- chackrapbong and lazylemon like this
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#2389
Posted 15 June 2013 - 00:55
Besame Mucho Cesaria Evora
Kiss me, kiss me as it was tonight the last time you kiss me! because i'm afraid to lose you ....
ก่อนหน้านั้นเคยถูกหลอกล่อให้ดูสาวหุ่นดี หน้าสวย มีเส่น่ห์ เต้น หรือ ร้อง จนมองข้ามเธอไป...
วันนี้นั่งฟังเธอร้องใหม่ เสียงรำพึงรำพันเบา ๆ ภายใต้แสงสลัว ๆของโคมไฟ.......
- chackrapbong and lazylemon like this
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#2390
Posted 15 June 2013 - 08:30
อิฉันก็เถียงกับคุณหลวงละคะว่า ใจมันไม่สงบ เห็นบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ ให้มานั่งสมาธิ เป็นไทยเฉย มันไม่ได้อ้ะ
ถามคุณวัชรดีกว่าว่า คุณทำ 2 อย่างพร้อมกันได้ไง ทั้งห้องกาแฟ ทั้งนั่งมาธิ จะแยกได้ไงคะ ช่วยบอกวิธีด้วยเถอะเจ้าค่ะ
ก็แค่สับสวิทช์จากทางโลกมาทางธรรมก็แค่นั้นขอรับ... ต้องทำบ่อยๆ ทำให้คุ้นชิน แล้วจิตจะคล้อยตามไปเองขอรับ... ถ้าจะว่าไปกระพ๊มก็ทำทุกเมื่อที่รู้ทันสติก็แค่นั้นแหละขอรับ...
ก็อย่างที่พระตถาคตเปรียบจิตเป็นลิงไงขอรับ หาก "เข้าใจ" ธรรมชาติของมัน อยู่ที่ไหนทางโลก ทางธรรม จิตมันก็ตะแล๊ดแต๊ดแต๋เหมือนเดิม... "หากเราขาดสติ"... อานาปานสติคือการฝึกกำกับจิตให้สงบนิ่ง เพื่อให้เห็นความเกิดดับจากการเคลื่อนไหวที่ช้าลงของมัน แล้วจะได้เข้าใจในสิ่งที่พระตถาคตกล่าวไว้ในหลายๆแง่ว่า "อมตะ" มันอยู่ในตัวเรานี่แหละยังไง... คนส่วนใหญ่มักจะบอกทำไม่ได้เพราะไปคาดหวังว่า "นิ่ง" คือได้สมาธิ... แต่พระตถาคตบอกให้ "เข้าใจ" ว่าจิตทำงานยังไง ไปไหน อย่างไร แล้วกลับมาอยู่กับกาย แล้วใคร่ครวญดูว่าเห็นสิ่งใดเกิด สิ่งใดดับไปบ้าง นั่นคือ "สมาธิ" ขอรับ...
อ้อ... นึกขึ้นได้... เห็นว่ามีลูกๆเต็มบ้านนี่ขอรับ... ก็เข้าใจจิต เหมือนเข้าใจอิเจ็ดตัวนั่นแหละขอรับ รู้ว่าอาการนี้ อ้อ... ปวดอึ... อาการนี้ อ้อ... อ้อนๆๆ... แล้วก็อย่าไปรำคาญมันขอรับ ดู รับรู้ว่าเป็นอะไร แล้วก็วาง... เฝ้าดูแล้วดึงกลับๆๆ ทำไปเรื่อยๆเดี๋ยวมันหมดแรงมันก็จะเริ่มนิ่งขึ้นๆ เห็นจิตมันช้าลงๆเองขอรับ... จำได้ว่าเคยลงเปรียบเรื่องชั้นสมาบัติของสมาธิไว้นี่ขอรับ ลองใช้สมาธิหาดู แล้วอ่านใหม่ขอรับ... มีตรงไหนตั้งแต่สมาธิขั้นที่ 1 - 8 ที่พระตถาคตกล่าวไว้... มันนิ่งมั่งขอรับ...
- chackrapbong and lazylemon like this
#2391
Posted 15 June 2013 - 09:05
คุณหลวงเธอฝากมาถามคุณวัชรว่า เวลานั่งสมาธิ การพิจารณา ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา (ไตรลักษณ์) จะพิจารณา ช่วงไหนคะ
ในนี้ก็มีขอรับ... ลงไว้แล้วเรื่องทุกข์มี 3 ลักษณะ จำด๊ายๆๆ ฮี่ๆๆๆ ( ไปหาเอาเอง ขี้เกียจพิมพ์ เคี๊ยกๆๆๆ) แต่พิจารณาอย่างไร... นี่แหละคือประเด็นของการทำอานาปานสติเลยขอรับ... คือการใคร่ครวญถึงการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อมลงของขันธ์ทั้ง 5 แล้วดับไปอย่างไร... พิจารณาช่วงไหน?... ก็ทุกช่วงของการ "เฝ้าดู แล้วรู้ทันจิต" นั่นแหละขอรับ...
ช่วยส่วนหนึ่ง ฮี่ๆๆ...
http://webboard.seri...et/topic/32729-สิ่งที่ยังคงอยู่/?p=744475
... นี่ไงขอรับในแง่ของการเกิดขึ้น แล้วตั้งอยู่...
... ส่วนการเสื่อมลง เสื่อมเรื่อยๆจนดับไป แล้วจึงเข้าใจว่าเป็น "อนัตตา" ก็คือต้องเห็นการเกิด, การดับของจิต + ขันธ์ทั้งสี่ ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นนั่นแหละขอรับ... กล่าวคือในขณะทำอานาปานสติอยู่... เมื่อพอรู้ว่ามีการเกิดขึ้นของขันธ์ 5 ตั้งขึ้นอยู่ในขณะนั้น... เมื่อรู้แล้วว่าเกิด (มีสติ) ก็สลัดคืนกลับมาอยู่กับลม... การดับของขันธ์ที่เกิดขึ้นและตั้งอยู่ก็จะเกิดขึ้น... แล้วเมื่อทำไปบ่อยๆ ทำเรื่อยๆ จะเข้าใจว่า "มันไม่ใช่ตัวเรา ของเรา"... นั่นก็จะเข้าใจ "ทุกข์" ของพระตถาคตครบทั้ง 3 ลักษณะนั่นแล้ว...
... ส่วนที่บอกว่าให้เฝ้าดูไปเรื่อยๆจนกว่าจะดับ... นั่นเป็น "อรรถกถา" นะขอรับ ซึ่งจะไปขัดกับพระสูตรหลายพระสูตรเช่น...การละนันทิ (ความเพลิน) อยู่ตลอดเวลา... นั่นเป็นเหมือนกุญแจทางเข้าประตูนิพพานเลยด้วยซ้ำ เพราะพระตถาคตพูดถึงบ่อยมาก ถึงมากที่สุดในมรรคปฏิปทา...
ส่วนอิฉันถามมั่ง ว่าเวลาเดิน แบบไปไหนๆเรื่อย เราสามารถทำแบบจงกรมได้ไหมคะ ถ้าได้มีขั้นตอนอย่างไรคะ
ก็เคยบอกแล้วในนี้เหมือนก๊านนนนน... ไปค้นดูขอรับ... ง่ายๆก็เดินเป็นมาตั้งแต่เกิดยังไง ไม่ให้หกคะเมน ตีลังกา หัวทิ่มหัวตำ ก็เดินอย่างนั้นแหละขอรับ... ประเด็นอยู่ที่ "การควบคุมจิตอยู่กับกาย" ขอรับ...
ไปหาดูขอรับ... ขี้เกียจพิมพ์... ฮี่ๆๆ เคี๊ยกๆๆๆ
Edited by wat, 15 June 2013 - 16:49.
- lazylemon likes this
#2392
Posted 15 June 2013 - 09:59
- ปุถุชน, chackrapbong, lazylemon and 1 other like this
#2393
Posted 15 June 2013 - 21:24
สวัสดีวันเสาร์
ก่อนอื่นขอบคุณ คุณปุค่ะ ที่เอาเพลง Besame Mucho ใน version อื่นๆ มาฝาก ก็เพราะทั้งนั้น ต่างกันแต่เพียงสไตล์ของผู้ร้อง กับรสนิยมของคนฟัง ที่จะชอบคนร้องแบบไหน ขอบคุณค่ะ
คุณวัชร อิฉันน่ะพอจำได้ว่าคุณบอกว่าก็เดินไปธรรมดาปกติ แต่คุณหลวงบอกต้องภาวนาด้วย แบบท่องด้วยในใจ ซ้าย ขวา อะไรประมาณนี้ ที่อยากถามคือมันจำเป็นหรือป่าวคะ
เพลงไม่ลงก็ไม่เป็นไรค่ะ ช่วงนี้ เอาธรรมะ มาลงก็ดีค่ะ จะได้ปลงเวทนาได้บ้าง
Edited by lazylemon, 15 June 2013 - 21:24.
#2395
Posted 15 June 2013 - 21:44
คุณวัชร อิฉันน่ะพอจำได้ว่าคุณบอกว่าก็เดินไปธรรมดาปกติ แต่คุณหลวงบอกต้องภาวนาด้วย แบบท่องด้วยในใจ ซ้าย ขวา อะไรประมาณนี้ ที่อยากถามคือมันจำเป็นหรือป่าวคะ
เพลงไม่ลงก็ไม่เป็นไรค่ะ ช่วงนี้ เอาธรรมะ มาลงก็ดีค่ะ จะได้ปลงเวทนาได้บ้าง
ทำอานาปานสติแบบพระตถาคต... ไม่มีคำภาวนาใดๆทั้งสิ้นนะขอรับ... เพราะการท่องคำภาวนาก็คือการสร้าง "ภพ" ให้เกิด ซึ่งขัดกับหลักของพระองค์ที่จะให้ละภพให้เร็ว หรือให้เกิดดับไปก่อนจะเกิด... ไม่มีพระสูตรบทไหนสอนให้ท่องบ่นอันใดขอรับ... อานาปานสติจะยืน เดิน หรือนั่งก็แค่ให้รู้ คุมจิตให้อยู่กับกาย...
ลงให้อีกที เดี๋ยวจะว่าจายร้าย... ฮี่ๆๆๆ
ภิกษุทั้งหลาย! ภิกษุเป็นผู้มีปกติพิจารณาเห็นกายในกายอยู่นั้น เป็นอย่างไรเล่า?
ภิกษุทั้งหลาย! ในกรณีนี้ ภิกษุไปแล้วสู่ป่า หรือโคนไม้ หรือเรือนว่างก็ตาม, ย่อมนั่งคู้ขาเข้ามาโดยรอบ (ขัดสมาธิ) ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า, เธอเป็นผู้มีสติหายใจเข้า มีสติหายใจออก
(๑) เมื่อหายใจเข้ายาว ก็รู้ชัดว่าเราหายใจเข้ายาว, หรือเมื่อหายใจออกยาว ก็รู้ชัดว่าเราหายใจออกยาว
(๒) เมื่อหายใจเข้าสั้น ก็รู้ชัดว่าเราหายใจเข้าสั้น, หรือเมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ชัดว่าเราหายใจออกสั้น
(๓) เธอย่อมทำการฝึกหัดศึกษาว่า เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งกายทั้งปวง จักหายใจเข้า, เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งกายทั้งปวง จักหายใจออก
(๔) เธอย่อมทำการฝึกหัดศึกษาว่า เราทำกายสังขารให้รำงับจักหายใจเข้า, เราทำกายสังขารให้รำ งับ จักหายใจออก, เช่นเดียวกับนายช่างกลึงหรือลูกมือของนายช่างกลึง ผู้ชำนาญเมื่อเขาชักเชือกกลึงยาว ก็รู้ชัดว่าเราชักเชือกกลึงยาว, เมื่อชักเชือกกลึงสั้น ก็รู้ชัดว่าเราชักเชือกกลึงสั้น ฉันใดก็ฉันนั้น
ด้วยอาการอย่างนี้แล ที่ภิกษุเป็นผู้มีปกติพิจารณาเห็นกาย ในกายอันเป็นภายในอยู่ บ้าง, ในกายอันเป็นภายนอกอยู่ บ้าง, ในกายทั้งภายในและภายนอกอยู่บ้าง และเป็นผู้มีปกติพิจารณาเห็นธรรม อันเป็นเหตุเกิดขึ้นในกายอยู่บ้าง, เห็นธรรมเป็นเหตุเสื่อมไปในกายอยู่บ้าง, เห็นทั้งธรรมเป็นเหตุเกิดขึ้นและเสื่อมไปในกายอยู่บ้าง, ก็และสติ ว่า “กายมีอยู่” ดังนี้ของเธอนั้น เป็นสติที่เธอดำรงไว้เพียงเพื่อความรู้ เพียงเพื่ออาศัยระลึก, ที่แท้เธอเป็นผู้ที่ตัณหาและทิฏฐิอาศัยไม่ได้ และเธอไม่ยึดมั่นอะไรๆ ในโลกนี้
ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุชื่อว่า เป็นผู้มีปกติพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ แม้ด้วยอาการอย่างนี้...
เดินก็ตั้งจิตไว้กับการเดินเยี่ยงนี้แหละขอรับ...
Edited by wat, 15 June 2013 - 21:44.
- lazylemon likes this
#2396
Posted 15 June 2013 - 21:53
ก็นี่ละค่ะ อิฉันเถียงกะคุณหลวง แกบอกว่าต้องท่องไว้ จิตจะได้อยู่กับคัว อิฉันก็บอกแกว่า เวลาเดิน ก็กำหนดอยู่นะว่ากำลังก้าวเดินไป ทำไม่ต้องหนอ แกเลยบอกว่าถ้าไม่ชอบหนอ ก็เวลาก้าวซ้ายก็ให้นึกซ้ายไปด้วย
นี่ละคะเป็นต้นเหตุ หาว่าอิฉันเชื่อคุณวัชร ไม่เชื่อแก มีงอล แล้วที่สุดก็บอกตามใจ เพราะคิดแล้วปล่อยให้ฮิฉันทำตามใจดีกว่าไม่ทำเลย แต่อิฉันก็อยากได้ความมั่นใจอ้ะค่ะ ว่าเวลาเดิน ใจก็จะบอกตัวเองว่ากำลังก้าวเท้าไปนะ
แบบรู้ตัวว่ากำลังก้าวไปน่ะค่ะ ถูกแล้วอิฉันจะได้ทำต่อ เพราะมันจะไปถึงการหายใจต่อมาอีกค่ะ แหะๆ
- wat likes this
#2398
Posted 15 June 2013 - 21:58
ถามคุณวัชรนิดนึงด้วยไม่รู้ และอยากจะรู้ คุณเคยบอกว่านั่งสมาธิถึงขั้น 3 หรือ 4 อะไร ประมาณนั้น คุณวัชร ทราบได้ยังไงคะ
#2399
Posted 15 June 2013 - 22:10
หวัดดีคุณจักร วันนี้เปิดเพลงเก่าแก่ (กว่าพี่แน่นอน)
- ปุถุชน and chackrapbong like this
5 user(s) are reading this topic
0 members, 5 guests, 0 anonymous users