194 ความเห็นในกระทู้นี้

[นกอิสระ]

ขอบคุณมากค่ะ สำหรับกระทู้นี้ ได้ความรู้มากเลยค่ะ

[amplepoor]

จริงๆ ผมกล่าวหาไปแล้วตั้งแต่หน้าแรก  ตามข้างบน   ผมก็ยังไม่เห็นมีการแก้ต่าง  

 

การที่poor มาถามซ้ำๆ  ผมก็ลำบากที่จะมานั่งคุยด้วย

ผมมีอาชีพของผม ไม่ได้รับจ้างโพสสักหน่อย ถึงจะได้มีเวลามาคอยตอบคำถามวนไปวนมา ซ้ำไปซ้ำมา 

 

ผมถามคุณ เพราะตั้งแต่แรก คุณแค่ตัดข่าวมาแปะ

แล้วข่าวแปะนั่นน่ะ คือความเห็นเจ้าพนักงาน ซึ่งมีการยัดข้อหาได้

 

ที่พวกเราอยากได้ คือ ความเห็นของแต๋ม เช่นว่า 10 ข้อนั้น มีอะไรน่าเชื่อบ้าง

มีหลักฐานหรือเปล่า

 

เอาละ ลองดูสิ่งที่แต๋มแปะหน่อย

 

คดีที่ 5 กรณี บริษัท วีคอนกลอมเมอเรท จำกัด ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์ จาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับกองทุนรวมวีแคปปิตอล ยอดคงค้างทาง บัญชี 2,376.73 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 3,189.90 ล้านบาท

 

บ้าหรือเปล่า ยอดคงค้างทาง บัญชี 2,376.73 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 3,189.90 ล้านบาท เป็นความผิดยังงัย

 

สักแต่แปะ เฮ้อ

[amplepoor]

ทีนี้ 5 คดีที่ยกมาน่ะ แต๋มได้ไปอ่านเรื่องต่อเนื่องหรือเปล่า

ทั้ง 5 ราย สู้คดีว่า ปรส. ผิดรัฐธรรมนูญ และมีคำพิพากษาแล้ว

 

http://www.kodmhai.c...2545/19-22.html

อาศัยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ศาลรัฐธรรมนูญจึงวินิจฉัยว่า พระราชกำหนด การปฏิรูประบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2540 มาตรา 27 และ มาตรา 30ทวิ มาตรา 30ตรี ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชกำหนด การปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 มาตรา 4 ไม่ขัดหรือแย้ง ต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 29 วรรคหนึ่ง

 

แล้วคำตัดสินถึงที่สุดของทั้ง 5 คดีเป็นอย่างไร แต๋มรู้หรือเปล่า

 

DSI ตัดตอนมาแค่ว่ามันมีคดีความกับปรส. แล้วก็ตามน้ำว่า ในคดีนั้น ปรส. โดนกล่าวหาอย่างไรบ้างมาแถลงข่าว ง่ายๆ แค่นี้เอง

 

 

 

จบข่าว...ฮา

[ปุถุชน]

 

จริงๆ ผมกล่าวหาไปแล้วตั้งแต่หน้าแรก  ตามข้างบน   ผมก็ยังไม่เห็นมีการแก้ต่าง  

 

การที่poor มาถามซ้ำๆ  ผมก็ลำบากที่จะมานั่งคุยด้วย

ผมมีอาชีพของผม ไม่ได้รับจ้างโพสสักหน่อย ถึงจะได้มีเวลามาคอยตอบคำถามวนไปวนมา ซ้ำไปซ้ำมา 

 

ผมถามคุณ เพราะตั้งแต่แรก คุณแค่ตัดข่าวมาแปะ

แล้วข่าวแปะนั่นน่ะ คือความเห็นเจ้าพนักงาน ซึ่งมีการยัดข้อหาได้

 

ที่พวกเราอยากได้ คือ ความเห็นของแต๋ม เช่นว่า 10 ข้อนั้น มีอะไรน่าเชื่อบ้าง

มีหลักฐานหรือเปล่า

 

เอาละ ลองดูสิ่งที่แต๋มแปะหน่อย

 

คดีที่ 5 กรณี บริษัท วีคอนกลอมเมอเรท จำกัด ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์ จาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับกองทุนรวมวีแคปปิตอล ยอดคงค้างทาง บัญชี 2,376.73 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 3,189.90 ล้านบาท

 

 

 

 

บ้าหรือเปล่า ยอดคงค้างทาง บัญชี 2,376.73 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 3,189.90 ล้านบาท เป็นความผิดยังงัย

 

สักแต่แปะ เฮ้อ

 

 

 

 

Tam-mic-ca....เอ๋ย

ลองใช้สติปัญญาเปรียบเทียบความสุจริตในการดำเนินการ....

เรื่อง ปรส.ขายทรัพย์สินกับเรื่องรัฐบาลทักษิณ-ยิ่งลักษณ์เสียหายโครงการ"จำนำข้าว"กว่า(วันนี้) 400,000,000 ล้านบาท.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[ปุถุชน]

 

แล้วพี่แอมว่ากะลาชน(และเสื้อแดงอื่นๆ)ควรหยุดเห่าไหมคะว่า ชวนเอาประเทศเข้าไอเอ็มเอฟ

 

ห้ามหมาให้หยุดเห่า เป็นการฝืนธรรมชาติ....ฮา

 

หมาแยกเงากับคนไม่ได้

บางคนก็แยกจิ๋วกับชวนไม่ออกว่า ใครกันแน่เอาประเทศไปประเคน IMF

 

ท่านจึงมีคำกล่าวว่า เป็นกรรมของสัตว์

แต่พาซวยประเทศไทย  ฮือๆๆๆ

 

 

โดยธรรมชาติ...หมาแยกเงากับคนไม่ได้...จริงๆ

 

แต่ไพร่เสื้อแดง แกนนำพรรคเพื่อไทย สื่อฯหลักในสังกัด บัตรเติมเงิน ปลาร้าเก่าในไหใหม่เป็น"ฅน" แยกไม่ออกว่า จิ๋วกับคุณชวนต่างกัน เป็นเรื่องไม่น่าเชื่อ.....!

หากเป็นสุจริตชน มีสัมมาทิฐิ ต้องแยกออกแน่ๆ......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[Tam-mic-ra.]

 

จริงๆ ผมกล่าวหาไปแล้วตั้งแต่หน้าแรก  ตามข้างบน   ผมก็ยังไม่เห็นมีการแก้ต่าง  

 

การที่poor มาถามซ้ำๆ  ผมก็ลำบากที่จะมานั่งคุยด้วย

ผมมีอาชีพของผม ไม่ได้รับจ้างโพสสักหน่อย ถึงจะได้มีเวลามาคอยตอบคำถามวนไปวนมา ซ้ำไปซ้ำมา 

 

ผมถามคุณ เพราะตั้งแต่แรก คุณแค่ตัดข่าวมาแปะ

แล้วข่าวแปะนั่นน่ะ คือความเห็นเจ้าพนักงาน ซึ่งมีการยัดข้อหาได้

 

ที่พวกเราอยากได้ คือ ความเห็นของแต๋ม เช่นว่า 10 ข้อนั้น มีอะไรน่าเชื่อบ้าง

มีหลักฐานหรือเปล่า

 

เอาละ ลองดูสิ่งที่แต๋มแปะหน่อย

 

คดีที่ 5 กรณี บริษัท วีคอนกลอมเมอเรท จำกัด ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์ จาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับกองทุนรวมวีแคปปิตอล ยอดคงค้างทาง บัญชี 2,376.73 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 3,189.90 ล้านบาท

 

บ้าหรือเปล่า ยอดคงค้างทาง บัญชี 2,376.73 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 3,189.90 ล้านบาท เป็นความผิดยังงัย

 

สักแต่แปะ เฮ้อ

 

 

 

มาจับผิดกับตัวอักษรสะงั้น    ประเด็นอื่นที่เป็นสาระสำคัญกลับปล่อยทิ้งขว้าง

 

    ผมไปค้นข้อมูลเพื่อเอามายืนยันให้ดูแล้วกัน  เพราะตัวเลขจะเป็นอย่างนี้ 

 

http://www.nidambe11...010July05p5.htm

ต่อมา รัฐบาลชวน หลีกภัย ได้มีการจัดตั้งองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ขึ้นมาบริหารหนี้ของสถาบันการเงินที่ถูกปิดกิจการและมีการโอนสินทรัพย์ของสถาบันการเงิน 56 แห่ง ที่มีมูลค่าทางบัญชีประมาณ 8.5 แสนล้านบาท ส่งไปให้ ปรส.แบ่งเป็นกอง ๆ ขายเลหลังต่างชาติ ได้เงิน 190,000 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนเพียง 22% ของมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชี โดยมีรายการเด่น ๆ อาทิ กรณีบริษัท เลห์แมน บราเดอร์ โฮลดิ้ง อิงก์ ซื้อสินทรัพย์ประเภทสินเชื่อที่อยู่อาศัยมูลค่า 24,616.95 ล้านบาท จาก ปรส.ไปในราคา 11,520 ล้านบาท, บริษัท โกลด์แมน แซกส์ เอเชีย ไฟแนนซ์ จำกัด ซื้อสินทรัพย์จาก ปรส. มูลค่า 115,890.96 ล้านบาท ในราคา 22,454.87 ล้านบาท, บริษัท วีคอนกลอมเมอเรท จำกัด ซื้อสินทรัพย์มูลค่า 12,376.73 ล้านบาท ได้ในราคา 3,189.90 ล้านบาท, บริษัท เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ซื้อสินทรัพย์มูลค่า 64,303.34 ล้านบาท ในราคา 23,176.38 ล้านบาท เป็นต้น

 

 

********************

 

สรุปคือ

ก็แค่เขาพิมพ์ตกเลข 1 ไป  เท่านั้นเอง    โอเคนะครับ

 

เหม่ .. เรื่องขี้ปะติ๋วหยุมหยิมจริงๆเลย      

[Stargate-1]

นี่คือตัวอย่างของการบิดเบือนข้อมูลจนพี่น้องเสื้อแดงเข้าใจผิดในข้อเท็จจริง เช่นกรณี อมเรศ ศิลาอ่อน ลองอ่านดูครับ

 

อมเรศ ศิลาอ่อน..ทำความ เสียหายให้ประเทศ 8 แสนล้าน....รอ ลง อาญา ฐานเคยเป็น รมต....พจมาน ซื้อที่ดิน(รู้ว่าผิด)แต่ทำไม ไม่รอ ลงอาญา.....คนซื้อผิด แต่ ลงโทษ คนเซ็น งั้น ฤ.....ถ้า พูดให้ถูกคือ เขา ซื้อขาย โดยไม่ได้ คดโกง ประเทศชาติ.....คนเซ็น ก็ ทำคุณประโยชน์ แก่ชาติบ้านเมือง...และ ประชาชน.....แต่ ไม่รอ ลงอาญา....นี่ เขาเป็น นายก นะเฟ้ยยย.....อมเรศ แม่งเป็น แค่ รมต.

__________________________________________________________________________ 

ข้อมูลคุณคลาดเคลื่อนอย่างแรงค่ะ อมเรศ ศิลาอ่อน ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี แต่เป็น อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส) 

พระราชกำหนดการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน 2540 เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2540 ในรัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ (มีนักโทษชายทักษิณเป็นรองนายก) ได้จัดตั้งคณะกรรมการ ปรส. ชุดแรกขึ้น เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2540 โดยให้ความสำคัญกับการแก้ไขฟื้นฟูฐานะ ของบริษัทที่ถูกระงับการดำเนินกิจการ เป็นอันดับแรก โดย ปรส. มีฐานะเป็นองค์กรอิสระ มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการดูแลบริษัทเงินทุนที่ถูกระงับการดำเนินกิจการ

ส่วนที่บอกว่า ทำความเสียหาย 8 แสนล้าน ศาลให้รอลงอาญา ก็ไม่จริง เพราะคดีนี้คือกรณีขายสินทรัพย์สถาบันการเงิน 56 แห่ง ที่ อมเรศ และวิชรัตน์ วิจิตรวาทการ อดีตเลขาธิการ ปรส.ถูกฟ้อง ฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงาน ในองค์การ หรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11 (เฉพาะในส่วนของ ปรส.)

ทั้งสองคนถูกตัดสินว่า มีความผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 คือ ไปเอื้อประโยชน์เอกชนที่ประมูลสินทรัพย์ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์
โดยไม่ได้ให้เอกชนรายดังกล่าวคือ บริษัท เลแมน บราเดอร์ส โดยราคาสินทรัพย์ที่เป็นปัญหาอยู่ที่ 11,520 ล้านบาท วางหลักประกัน 10 ล้านบาท แต่บริษัทไม่ได้ทำสัญญาซื้อขายกับ ปรส.ภายใน 7 วันนับจากวันที่ 20 ส.ค.41

พร้อมทั้งต้องชำระเงินงวดแรกร้อยละ 20 ของราคาเสนอซื้อที่ชนะการประมูลเป็นเงิน 2,304 ล้านบาท แต่ไม่ได้มีการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย มีแต่การวางเงินประกัน 10 ล้านเท่านั้น ศาลจึงเห็นว่า การประมูลดังกล่าวไม่เกิดสัญญาขึ้น อย่างไรก็ตามต่อมามีการชำระเงินเต็มจำนวนจากการประมูลสินทรัพย์ดังกล่าาว

ความหมายคือ ไม่มีความเสียหายทางการเงินเกิดขึ้น ปรส.ได้เงินตามราคาที่ประมูล เพียงแต่ขั้นตอนทำสัญญาผิดกฎหมายและผู้บริหาร ปรส.ไปเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชน ศาลจึงสั่งจำคุก 2 ปี ปรับ 20,000 บาท แต่ให้รอลงอาญา 3 ปี เพราะอายุมากและเคยทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ มีตรงไหนที่บอกว่าชาติเสียหาย 8 แสนล้าน

คดีล่าสุดเกี่ยวกับ ปรส. ป.ป.ช.เพิ่งตัดสินไปเมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา ว่า มนตรี เจนวิทย์การ เลขา ปรส. เอื้อประโยชน์ให้กับเกียรตินาคิน ซึ่งเป็นบริษัทของภรรยาพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีในปัจจุบัน ในการประมูลสินทรัพย์ของ ปรส.

[ริวมะคุง]

คนตั้งไม่ด่า ด่าคนที่ไม่ยกเลิก

 

คนพวกนี้สงสัยไม่เคยทำหนังสือสัญญา

 

โง่..

[amplepoor]

มาจับผิดกับตัวอักษรสะงั้น    ประเด็นอื่นที่เป็นสาระสำคัญกลับปล่อยทิ้งขว้าง

 

    ผมไปค้นข้อมูลเพื่อเอามายืนยันให้ดูแล้วกัน  เพราะตัวเลขจะเป็นอย่างนี้ 

 

http://www.nidambe11...010July05p5.htm

ต่อมา รัฐบาลชวน หลีกภัย ได้มีการจัดตั้งองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ขึ้นมาบริหารหนี้ของสถาบันการเงินที่ถูกปิดกิจการและมีการโอนสินทรัพย์ของสถาบันการเงิน 56 แห่ง ที่มีมูลค่าทางบัญชีประมาณ 8.5 แสนล้านบาท ส่งไปให้ ปรส.แบ่งเป็นกอง ๆ ขายเลหลังต่างชาติ ได้เงิน 190,000 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนเพียง 22% ของมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชี โดยมีรายการเด่น ๆ อาทิ กรณีบริษัท เลห์แมน บราเดอร์ โฮลดิ้ง อิงก์ ซื้อสินทรัพย์ประเภทสินเชื่อที่อยู่อาศัยมูลค่า 24,616.95 ล้านบาท จาก ปรส.ไปในราคา 11,520 ล้านบาท, บริษัท โกลด์แมน แซกส์ เอเชีย ไฟแนนซ์ จำกัด ซื้อสินทรัพย์จาก ปรส. มูลค่า 115,890.96 ล้านบาท ในราคา 22,454.87 ล้านบาท, บริษัท วีคอนกลอมเมอเรท จำกัด ซื้อสินทรัพย์มูลค่า 12,376.73 ล้านบาท ได้ในราคา 3,189.90 ล้านบาท, บริษัท เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ซื้อสินทรัพย์มูลค่า 64,303.34 ล้านบาท ในราคา 23,176.38 ล้านบาท เป็นต้น

 

 

********************

 

สรุปคือ

ก็แค่เขาพิมพ์ตกเลข 1 ไป  เท่านั้นเอง    โอเคนะครับ

 

เหม่ .. เรื่องขี้ปะติ๋วหยุมหยิมจริงๆเลย      

 

 

เขาไม่ผิดดอก คนผิดคือแต๋ม สักแต่ตัดแปะ ไม่อ่าน

ถ้าอ่านจริง ก็ต้องแก้ไขก่อน ไม่ใช่รอเราทัก นี่แสดงว่า คงอ่านหนังสือไม่แตกแน่ๆเลย

 

ทีนี้สาระสำคัญของข้อความอยู่ตรงใหนละ

ของหมื่นสองพันล้าน แต่ประมูลได้เงินกลับมาแค่สามพันล้าน ถือว่าผิดใช่ใหม

 

เรื่องนี้ลุงปุ เคยยกตัวอย่างเอาที่ดินป่าสงวนมาจำนอง ฟาดเงินจากบ.เงินทุนไปแล้ว ที่พวกนี้เอาออกประมูล ใครจะเอา เว้นแต่ในราคาจริง

 

สาระสำคัญของเรื่องหนี้แปดแสนล้านนั้น มันอยู่ที่คำว่าหนี้เน่า

คงจำได้ว่าหลัง IMF เข้ามา เรามีการพูดถึง Good Bank/Bad Bank กัน

วางตัวนายวิชิต สุรพงษ์ชัยไว้แล้วด้วย สุดท้ายก็ระงับไป เพราะถ้าตั้งจริง ฝั่ง Good Bank จะเล็กมาก ฝั่ง Bad Bank อาจจะมีมูลค่าถึงเจ็ดแสนล้าน เพราะทรัพย์สินทางบัญชีมันเป็นอย่างกรณีเอาที่ป่าสงวนมากู้เงินทั้งนั้น คือเอาของพันบาท มากู้แสนบาท

 

แต๋มเข้าใจป่าว

[Tam-mic-ra.]

 

มาจับผิดกับตัวอักษรสะงั้น    ประเด็นอื่นที่เป็นสาระสำคัญกลับปล่อยทิ้งขว้าง

 

    ผมไปค้นข้อมูลเพื่อเอามายืนยันให้ดูแล้วกัน  เพราะตัวเลขจะเป็นอย่างนี้ 

 

http://www.nidambe11...010July05p5.htm

ต่อมา รัฐบาลชวน หลีกภัย ได้มีการจัดตั้งองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ขึ้นมาบริหารหนี้ของสถาบันการเงินที่ถูกปิดกิจการและมีการโอนสินทรัพย์ของสถาบันการเงิน 56 แห่ง ที่มีมูลค่าทางบัญชีประมาณ 8.5 แสนล้านบาท ส่งไปให้ ปรส.แบ่งเป็นกอง ๆ ขายเลหลังต่างชาติ ได้เงิน 190,000 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนเพียง 22% ของมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชี โดยมีรายการเด่น ๆ อาทิ กรณีบริษัท เลห์แมน บราเดอร์ โฮลดิ้ง อิงก์ ซื้อสินทรัพย์ประเภทสินเชื่อที่อยู่อาศัยมูลค่า 24,616.95 ล้านบาท จาก ปรส.ไปในราคา 11,520 ล้านบาท, บริษัท โกลด์แมน แซกส์ เอเชีย ไฟแนนซ์ จำกัด ซื้อสินทรัพย์จาก ปรส. มูลค่า 115,890.96 ล้านบาท ในราคา 22,454.87 ล้านบาท, บริษัท วีคอนกลอมเมอเรท จำกัด ซื้อสินทรัพย์มูลค่า 12,376.73 ล้านบาท ได้ในราคา 3,189.90 ล้านบาท, บริษัท เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ซื้อสินทรัพย์มูลค่า 64,303.34 ล้านบาท ในราคา 23,176.38 ล้านบาท เป็นต้น

 

 

********************

 

สรุปคือ

ก็แค่เขาพิมพ์ตกเลข 1 ไป  เท่านั้นเอง    โอเคนะครับ

 

เหม่ .. เรื่องขี้ปะติ๋วหยุมหยิมจริงๆเลย      

 

 

เขาไม่ผิดดอก คนผิดคือแต๋ม สักแต่ตัดแปะ ไม่อ่าน

ถ้าอ่านจริง ก็ต้องแก้ไขก่อน ไม่ใช่รอเราทัก นี่แสดงว่า คงอ่านหนังสือไม่แตกแน่ๆเลย

 

ทีนี้สาระสำคัญของข้อความอยู่ตรงใหนละ

ของหมื่นสองพันล้าน แต่ประมูลได้เงินกลับมาแค่สามพันล้าน ถือว่าผิดใช่ใหม

 

เรื่องนี้ลุงปุ เคยยกตัวอย่างเอาที่ดินป่าสงวนมาจำนอง ฟาดเงินจากบ.เงินทุนไปแล้ว ที่พวกนี้เอาออกประมูล ใครจะเอา เว้นแต่ในราคาจริง

 

สาระสำคัญของเรื่องหนี้แปดแสนล้านนั้น มันอยู่ที่คำว่าหนี้เน่า

คงจำได้ว่าหลัง IMF เข้ามา เรามีการพูดถึง Good Bank/Bad Bank กัน

วางตัวนายวิชิต สุรพงษ์ชัยไว้แล้วด้วย สุดท้ายก็ระงับไป เพราะถ้าตั้งจริง ฝั่ง Good Bank จะเล็กมาก ฝั่ง Bad Bank อาจจะมีมูลค่าถึงเจ็ดแสนล้าน เพราะทรัพย์สินทางบัญชีมันเป็นอย่างกรณีเอาที่ป่าสงวนมากู้เงินทั้งนั้น คือเอาของพันบาท มากู้แสนบาท

 

แต๋มเข้าใจป่าว

 

 

ตกเลข 1 ไปตัวเดียว  มันสำคัญอะไรมากเหรอpoor   มันเรื่องกระจี๊ดรี๊ดน่า 

 

 

เรื่องที่ว่า บ.หลักทรัพย์    ซิกแซกให้เงินกู้ เกินมูลค่าจริง    เช่นพันบาทเป็นแสนบาท

 

เรื่องนี้คิดไม่ยากหรอกน่ะ   เพราะความจริงมันไม่ได้เว่อไปมากขนาดนั้น

อย่าง  เช่น  ...    สนง ที่ดิน ประเมินราคาบ้านไว้  1ล้านหรือมูลค่าที่ควรอยู่ประมาณ 1ล้าน 

    แต่ไอ้คนกู้ซื้อบ้าน มันดันไปซิกแซกกับ จนท.ประเมิน    จนกู้ได้1.5 ล้าน

ผมว่ามันก็แค่ประมาณนี้   ...      มันไม่ได้  เว่อ  จากพันเป็นแสน จริงหรอก     

 

เรื่องนี้ ถ้า ปรส. ขายไปได้เงินกลับมา ประมาณว่า 50%  ถึง 70%  ของหนี้   ก็คงอาจจะไม่มีเรื่องอะไรมาก

หรืออีกอย่างก็ไม่ควรเอาของดีมารวมกับของเสียตามที่เขาว่า

 

แต่นี่มันขายถูกเกินไปหรือเปล่าหล่ะ  มันกี่เท่าหล่ะลองไปดูตัวเลขสิ่

แล้วระบบการฮั้วโกงกิน   มันมีจริงไหม   คุณก็ไปดูข้อมูลข้ออื่นได้   ที DSI  เขากล่าวหาเลย  ว่ามันซิกแซกโยงกันหมดทั้งนั้น

[eAT]

ตกเลข 1 ไปตัวเดียว  มันสำคัญอะไรมากเหรอpoor   มันเรื่องกระจี๊ดรี๊ดน่า 
 
 
เรื่องที่ว่า บ.หลักทรัพย์    ซิกแซกให้เงินกู้ เกินมูลค่าจริง    เช่นพันบาทเป็นแสนบาท
 
เรื่องนี้คิดไม่ยากหรอกน่ะ   เพราะความจริงมันไม่ได้เว่อไปมากขนาดนั้น
อย่าง  เช่น  ...    สนง ที่ดิน ประเมินราคาบ้านไว้  1ล้านหรือมูลค่าที่ควรอยู่ประมาณ 1ล้าน 
    แต่ไอ้คนกู้ซื้อบ้าน มันดันไปซิกแซกกับ จนท.ประเมิน    จนกู้ได้1.5 ล้าน
ผมว่ามันก็แค่ประมาณนี้   ...      มันไม่ได้  เว่อ  จากพันเป็นแสน จริงหรอก     
 
เรื่องนี้ ถ้า ปรส. ขายไปได้เงินกลับมา ประมาณว่า 50%  ถึง 70%  ของหนี้   ก็คงอาจจะไม่มีเรื่องอะไรมาก
หรืออีกอย่างก็ไม่ควรเอาของดีมารวมกับของเสียตามที่เขาว่า
 
แต่นี่มันขายถูกเกินไปหรือเปล่าหล่ะ  มันกี่เท่าหล่ะลองไปดูตัวเลขสิ่
แล้วระบบการฮั้วโกงกิน   มันมีจริงไหม   คุณก็ไปดูข้อมูลข้ออื่นได้   ที DSI  เขากล่าวหาเลย  ว่ามันซิกแซกโยงกันหมดทั้งนั้น

 
มันแปลว่า อ้ายที่เอ็งเอามาปะ เอ็งไม่ได้อ่านนะสิ
ขอให้ได้เงิน เขาโยนอะไรมาให้ เอ็งก็เอามาปะ
ไม่ได้ดูไม่ได้แล ยังมีหน้ามาเถียงอีก

 

ขายได้กี่เปอร์เซ็นต์ถึงไม่มีเรื่อง???? เอ็งเอาอะไร

มาแถเนี่ยะ มันต้องดูสินทรัพย์เป็นเรื่องๆ ถ้ามันเอา

ข้าวเหมือนรัฐบาลนี้ เก็บไว้จนเน่า 50% มันจะได้หรือ?

ชั่วมากที่แถแบบนี้

[Stargate-1]

"เรื่องนี้ ถ้า ปรส. ขายไปได้เงินกลับมา ประมาณว่า 50%  ถึง 70%  ของหนี้   ก็คงอาจจะไม่มีเรื่องอะไรมาก

หรืออีกอย่างก็ไม่ควรเอาของดีมารวมกับของเสียตามที่เขาว่า

 

แต่นี่มันขายถูกเกินไปหรือเปล่าหล่ะ  มันกี่เท่าหล่ะลองไปดูตัวเลขสิ่

แล้วระบบการฮั้วโกงกิน   มันมีจริงไหม   คุณก็ไปดูข้อมูลข้ออื่นได้   ที DSI  เขากล่าวหาเลย  ว่ามันซิกแซกโยงกันหมดทั้งนั้น"

 

ที่ดินรัชดา

ที่ดินที่มีปัญหา เป็นหนึ่งในที่ดินสองแปลงที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซื้อจากบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เอราวัณทรัสต์ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2538 มีมูลค่า 2,749 ล้านบาท ต่อมาในปี พ.ศ. 2544 กองทุนฯ ได้ปรับปรุงราคาที่ดินลดลงกว่า 2,000 ล้านบาท โดยอ้างว่าเป็นการปรับปรุงบัญชีเพื่อปรับมูลค่าหนี้ให้ลดลง เพื่อให้เกิดสภาพคล่อง โดยปรับลดราคาที่ดินเหลือ 700 กว่าล้านบาท

 

         

[Tam-mic-ra.]

 

 

starเก๋ง  มาเล่นตลกให้ดูอีกแล้ว

 

ข้อมูลเต็มๆเขาเป็นแบบนี้ ทำไมไม่เอามาให้หมด

 

        ที่ดินที่มีปัญหา เป็นหนึ่งในที่ดินสองแปลงที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซื้อจากบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เอราวัณทรัสต์ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2538 มีมูลค่า 2,749 ล้านบาท ต่อมาในปี พ.ศ. 2544 กองทุนฯ ได้ปรับปรุงราคาที่ดินลดลงกว่า 2,000 ล้านบาท โดยอ้างว่าเป็นการปรับปรุงบัญชีเพื่อปรับมูลค่าหนี้ให้ลดลง เพื่อให้เกิดสภาพคล่อง โดยปรับลดราคาที่ดินเหลือ 700 กว่าล้านบาท และนำออกประมูลทางอินเทอร์เน็ต เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 ตั้งราคาขั้นต่ำ 870 ล้านบาท โดยผู้ร่วมประมูลต้องวางเงินมัดจำ 10 ล้านบาท แต่ไม่มีผู้เสนอราคา กองทุนฯ จึงได้ยกเลิกการประมูล และเปิดประมูลใหม่เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2546 โดยไม่กำหนดราคาขั้นต่ำ แต่ผู้ร่วมประมูลต้องวางเงินมัดจำเพิ่มเป็น 100 ล้านบาท

 

 

แล้วกองทุนปรับราคาลงเอง  ทักษิณไปเกี่ยวอะไรเหรอ  ถ้าเกี่ยวเขาก็ต้องเข้าสู้ราคาตั้งแต่  22 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 ไปแล้วสิ่

   เก๋งไม่มีหลักฐานก็หุบปากไปดีกว่าน่า 

จริงๆไม่ค่อยอยากคุยกะคนไม่ดีอย่างเก๋งหรอก ส่วนมากผมเลื่อนเม๊าส์ข้ามตลอด

[HiddenMan]

 

 

 

starเก๋ง  มาเล่นตลกให้ดูอีกแล้ว

 

ข้อมูลเต็มๆเขาเป็นแบบนี้ ทำไมไม่เอามาให้หมด

 

        ที่ดินที่มีปัญหา เป็นหนึ่งในที่ดินสองแปลงที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซื้อจากบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เอราวัณทรัสต์ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2538 มีมูลค่า 2,749 ล้านบาท ต่อมาในปี พ.ศ. 2544 กองทุนฯ ได้ปรับปรุงราคาที่ดินลดลงกว่า 2,000 ล้านบาท โดยอ้างว่าเป็นการปรับปรุงบัญชีเพื่อปรับมูลค่าหนี้ให้ลดลง เพื่อให้เกิดสภาพคล่อง โดยปรับลดราคาที่ดินเหลือ 700 กว่าล้านบาท และนำออกประมูลทางอินเทอร์เน็ต เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 ตั้งราคาขั้นต่ำ 870 ล้านบาท โดยผู้ร่วมประมูลต้องวางเงินมัดจำ 10 ล้านบาท แต่ไม่มีผู้เสนอราคา กองทุนฯ จึงได้ยกเลิกการประมูล และเปิดประมูลใหม่เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2546 โดยไม่กำหนดราคาขั้นต่ำ แต่ผู้ร่วมประมูลต้องวางเงินมัดจำเพิ่มเป็น 100 ล้านบาท

 

 

แล้วกองทุนปรับราคาลงเอง  ทักษิณไปเกี่ยวอะไรเหรอ  ถ้าเกี่ยวเขาก็ต้องเข้าสู้ราคาตั้งแต่  22 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 ไปแล้วสิ่

   เก๋งไม่มีหลักฐานก็หุบปากไปดีกว่าน่า 

จริงๆไม่ค่อยอยากคุยกะคนไม่ดีอย่างเก๋งหรอก ส่วนมากผมเลื่อนเม๊าส์ข้ามตลอด

 

 

ช่วยต่อให้...

 

ผลการประมูล คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ซึ่งส่งทนายความเป็นตัวแทนเข้าประมูลด้วยตนเอง ชนะการประมูลด้วยราคาสูงสุด 772 ล้านบาท โดยมีผู้แข่งขัน 2 ราย คือ บริษัทแลนด์แอนด์เฮาส์ และบริษัทโนเบิล ดีเวลลอปเมนต์ ก่อนที่จะทำสัญญาซื้อขาย และจะโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2546

 

จริงๆไม่ค่อยอยากคุยกะคนไม่ดีอย่างแต๋มหรอก ส่วนมากผมเลื่อนเม๊าส์ข้ามตลอด

[Tam-mic-ra.]

และเรื่องตัวเลข ว่าซื้อมา  2,749 ล้านบาท นายเก๋งก็ไปเอามาจาก   ที่ผมตรวจเบื้องต้นแล้วน่าจะมาจากสื่อไทยโพสต์จอมมั่ว http://thaipost.net/node/43553   อีกแล้ว   

 

ตัวเลขที่ถูกต้องกว่า

จากการค้นข้อมูล ขอยึดจาก  http://www.matichon....pid=04&catid=01

เขาได้ระบุว่า

 

ปัญหาต้องวินิจฉัยต่อว่า การทำสัญญาซื้อขายของจำเลยที่ 1 เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช. มาตรา 100 อนุ 1 หรือไม่ ศาลเห็นว่า เหตุที่ต้องตั้งกองทุนฯเกิดจากวิกฤตเศรษฐกิจ หากปล่อยให้สถาบันการเงินล้มจะทำให้ประชาชนเดือดร้อน จึงจำเป็นต้องนำเงินส่วนหนึ่งไปช่วยเหลือ อาทิ นำเงินไปซื้อที่ดินหรือทรัพย์สินซึ่งมีมูลค่าสูงเกินกว่าความเป็นจริงเพื่อให้สถาบันการเงินได้กำไร นำเงินไปชำระหนี้ ให้ดำรงอยู่ได้ ซึ่งที่ดินพิพาทคดีนี้กองทุนฯซื้อมาจากบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เอราวัณ ทรัสต์ จำนวน 13 โฉนด เนื้อที่ 35 ไร่เศษ มูลค่า 2,140 ล้านบาทเศษ และอีกหนึ่งแปลงซึ่งอยู่บริเวณศูนย์วัฒนธรรม มูลค่า 2,749 ล้านบาทเศษ เมื่อปี 2538

 

เอาตรงเปลาะนี้ก่อน  ว่าข้อมูลน่าจะเป็น

 

35 ไร่เศษ มูลค่า 2,140 ล้านบาท   .......  ไม่ใช่   2,749 ล้านบาท     

ถามว่านายเก๋งยอมรับผิดตรงนี้หรือไม่

[Tam-mic-ra.]

HiddenMan

 

ตอนนั้น ราคาประเมินกรมที่ดินของแปลงนั้น มันอยู่ที่ 754 ล้าน  ดังนั้นราคาที่ประมูลได้ 772ล้าน 

ถือว่าไม่ได้ผิดปรกติ กับสภาพเศรฐกิจสมัยตอนช่วงนั้น  

[Stargate-1]

 

แต่ไม่มีผู้เสนอราคา

 

แล้วกองทุนปรับราคาลงเอง  ทักษิณไปเกี่ยวอะไรเหร

 

35 ไร่เศษ มูลค่า 2,140 ล้านบาท   .......  ไม่ใช่   2,749 ล้านบาท     

ถามว่านายวิศวะอิเลคยอมรับผิดตรงนี้หรือไม่  <--- เห็นทีเองต้องไปแก้ ที่วิกิพีเดียแล้วล่ะ          

 

 http://th.wikipedia....ี่ดินรัชดาภิเษก

 

http://webboard.seri...ดง/#entry860852

 

กรณีที่ดินรัชดา ทักษิณผิด หรือ ไม่ผิด วิทยุชุมชนคนเสื้อแดงน่ามาอ่าน

 

ฟังทักษิณ ชินวัตร พูดผ่านวีดีโอลิงค์ เมื่อ 17 สิงหาคม 2552 ใน คดีที่ดินรัชดาที่ถูกศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุก 2ปี ซึ่งเป็นเหตุให้ต้องหนีคุกไปอยู่ต่างประเทศนั้น ขอเอามาขยายความเพื่อให้รู้กันว่าทักษิณโกหกหรือพูดจริง กันแน่

 ก่อนอื่น ต้องบอกก่อนว่า กฏหมายที่เอาผิดทักษิณ ชินวัตรนี้ออกมาตั้งแต่ปี 2542 นะครับออกตามรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนปี 2540

 ในคดีที่ดินรัชดานี้เกิดเรื่องขึ้นมาเพราะคุณหญิงพจมาณ ชินวัตรไปประมูลซื้อที่ดินแปลดังกล่าวจากกองทุนฟื้นฟูฯ สถานะของคุณหญิงในขณะนั้นเป็นภรรยาของนายกรัฐมนตรีซึ่งตามกฎหมายสามีภรรยาถือว่าเป็นบุคคลๆ เดียวกัน เพราะฉะนั้นการที่ภรรยาไปซื้อก็จะถือว่าสามีซื้อเช่นกัน

สิ่งที่ ทักษิณ ชินวัตร พยายามบอกกับ สาธารณะชนจับประเด็นได้ดังนี้

 1. คนซื้อตัวจริง (หมายถึงคุณหญิงพจมาณ) พิพากษาไม่ผิด แต่ผมเพียงแค่ลงชื่อยินยอมในฐานะสามีที่ต้องทำตามกฏหมายว่า ภรรยาจะทำนิติกรรม สามีต้องลงชื่อยินยอมด้วย แต่ถูกพิพากษาให้ผิด

 2. เขาประมูลซื้อที่ดินรัชดาในราคาสูงสุด

 3.เขาในฐานะ นายกรัฐมนตรี ไม่ได้เอื้อประโยชน์ต่อผู้ซื้อใดๆทั้งสิ้นแต่ถูกกล่าวหาว่า ทุจริต

 จากทั้ง 3 ประเด็นดังกล่าว ลองมาพิจารณากันว่า ทักษิณ โกหก หรือว่าพูดความจริงกันแน่

 ก่อนอื่น มาดูเนื้อหาของกฏหมาย ที่พิพากษาให้จำคุกทักษิณ 2 ปี กันก่อน กฏหมายฉบับนี้คือ

 พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ).ประกอบรัฐธรรมนูญ (2540) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต(ปปช.)พ.ศ.2542

           หมวด 9

การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม

 มาตรา 100   ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดดำเนินกิจการดังต่อไปนี้

    (1) เป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบหรือดำเนินคดี

    (2) เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่เข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี

 มาตรา 100 ซึ่งมีเนื้อหาว่า สรุปว่า

 ห้ามไม่ให้ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี เป็นคู่สัญญา หรือ มีส่วนได้เสียกับทรัพย์สินของรัฐหรือบริษัท ที่มีสัมปทานกับรัฐ

 มาตรา 122 ซึ่งมีเนื้อหาว่า สรุปว่า

 กรณี เจ้าหน้าที่ของรัฐ ทำความผิดตาม มาตรา100 ให้ระวางโทษจำคุกไมเกิน 3 ปี และวรรคท้ายมีความว่า หากพิสูจน์ได้ว่า มิได้รู้เห็นยินยอมการกระทำของคู่สมรสที่ดำเนินกิจการตาม มาตรา100 ให้ถือว่า ไม่ผิด

 เมื่อพิจารณาเนื้อหากฎหมายแล้ว กฏหมายเอาผิดได้ เฉพาะนายกรัฐมนตรีกับรัฐมนตรี เท่านั้น เพราะฉะนั้นในกรณีนี้ ในข้อที่1 ที่คุณหญิงพจมาณไม่ได้ถูกพิพากษาให้มีความผิดไปด้วยเพราะคุณหญิงพจมาณไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือเป็นรัฐมนตรี ถ้าก่อนหน้านั้นทักษิณตั้งให้คุณหญิงพจมาณ เป็นรัฐมนตรีรับรองว่าถูกศาลพิพากษาให้ผิดเช่นกัน...

 อีกประการหนึ่ง การกระทำของคุณหญิงพจมาณถ้าทักษิณพิสูจน์ได้ว่าไม่มีส่วนรู้เห็น เขาก็ไม่ผิด แต่ในข้อเท็จจริงเขาก็ยอมรับโดยปริยายว่า เขาได้ลงชื่อยินยอม ตามกฏหมาย ซึ่งถือว่า เขาได้รับรู้การกระทำของคุณหญิง พจมาณ คู่สมรสแล้ว

 ตรงนี้ต้องเข้าใจนะครับว่า กฏหมาย ปปช.ปี2542 ตราไว้เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่มีตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ไปยุ่งเกี่ยวกับ ทรัพย์สินของรัฐ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม ป้องกันการเอาเปรียบผู้อื่นเพราะ มีอำนาจหน้าที่ในระดับสูงสามารถให้คุณให้โทษกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ทำ หน้าที่ดูแล ทรัพย์สินที่ประมูลได้ อีกทั้ง สามารถหาข้อมูลภายในเพื่อเอาเปรียบผู้ร่วมแข่งขันได้

 ถ้าการประมูลที่ดินรัชดาในครั้งนี้ ทักษิณไม่ใช่เป็นนายกรัฐมนตรีแต่เป็นเพียงประธานบริษัทชินคอร์ป ทักษิณก็ไม่ผิด ตามกฏหมายฉบับนี้ครับ แต่ที่ผิดเพราะขณะนั้นเขาเป็นนายกรัฐมนตรี

 ศาลไม่ได้พิพากษาว่าทักษิณทุจริตอย่างที่เขาพยายามเบี่ยงเบน แต่ศาลพิพากษาว่าทักษิณ มีความผิดตามกฏหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วย ปปช.มาตรา100(1)วรรค3 และมาตรา 122 วรรค1 หรืออธิบายอย่างที่เฉลิม อยู่บำรุงพูดในวันอภิปรายในสภาก็ได้ว่า ทักษิณไม่ได้ทุจริตแต่ทักษิณทำสิ่งที่กฏหมายห้ามไว้

 เพราะฉะนั้นในประเด็นที่ 1 ที่ ทักษิณ พยายามพูดว่า คนซื้อไม่ผิด แต่ผมแค่ลงชื่อยินยอมตามกฏหมายกลับผิด นั้นจึงถือว่าเป็นการตลบแตลง พูดไม่หมดเนื้อความ แต่พยายามให้คนที่ไม่มีความรู้เข้าใจผิด ว่าถูกกลั่นแกล้ง

 

ในประเด็นที่ 2 ที่ ทักษิณ บอกว่า เขาให้ราคาประมูลสูงสุดนั้น ขอให้ข้อมูลที่มาที่ไปในเรื่องราคาที่ดินแปลงนี้ดังนี้

 

กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ได้เข้าซื้อที่ดินเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2538 เป็นที่ดินของบริษัท เงินทุนเอราวัณ ทรัสต์ จำกัด 2 แปลง เป็นเงิน 4,889,379,500 บาท แปลงแรก ติดถนนศูนย์วัฒนธรรม รวม 18 โฉนด เนื้อที่รวม 85-3-65 ไร่ ราคา 2,749,040,000 บาท แปลงที่ 2 ติดถนนเทียมร่วมมิตร รวม 13 โฉนด เนื้อที่ 35-2-69.0 ไร่ ราคา 2,140,357,500 บาท

ต่อมาในช่วงกลางปี 2544 กองทุนได้ปรับปรุงเกณฑ์บันทึกบัญชีทรัพย์สินรอการขายใหม่ทั้งหมดเพื่อรับรู้ผลการขาดทุน โดยที่ดินแปลงแรก ปรับลดเหลือ 1,310.0 ล้านบาท แปลงที่สอง เหลือ 754.50 ล้านบาท มีผู้แสดงความสนใจซื้อที่ดินแปลงที่ 2 เป็นจำนวนมาก

 

 เมื่อเกิดการประมูลมีการตั้งราคากลางเพียง 870 ล้านบาทและผู้ที่ประมูลได้คือคุณหญิงพจมาณ ชินวัตร ประมูลได้ในราคา 772 ล้านบาท

เรื่องนี้ที่ทักษิณบอกว่าเขาเป็นผู้ให้ราคาสูงสุดในการประมูลตอนนั้นเป็นเรื่องจริงครับ แม้คนในวงการต่างก็รู้กันว่าบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าท์ และ โนเบิล เดเวลลอปเมนต์ ที่เข้าร่วมประมูลด้วยถูกให้กระทำอย่างไรบ้าง รวมถึงอีกหลายบริษัทฯ ที่ร้องเรียนว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน โดยแจ้งให้เพิ่ม วงเงินมัดจำจากเดิม 10 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท ก่อนหน้าการประมูลเพียงวันเดียว เพื่อกีดกันผู้ประมูลรายอื่นเพราะเตรียมเงินมัดจำไม่ทัน

อีก ทั้งในการประมูลครั้งก่อน(ที่ดินแปลงนี้มีการประมูล 2 ครั้ง) เปิดการประมูล ทางอินเตอร์เนต ปรากฎว่าไมมีผู้เข้าเสนอราคาประมูลเลยนั้น ทั้งๆ ที่มีผู้วางเงินมัดจำแล้ว (10ล้านบาท) ถึง 7 รายจะร้องเรียนว่า เขาได้เสนอราคาแล้ว แต่ทำไม ข้อมูลถึงไม่ขึ้น ซึ่งมีข่าวโจทย์ขานการบล็อกสัญญาณอินเตอร์เนตของบริษัท ทีร่วมประมูลอย่างหนาหู แต่เรื่องพวกนี้ ไม่มีหลักฐานครับว่า เป็นความจงใจหรือว่าเป็นข้อบกพร่องทางเทคนิค

เรื่องปัญหาการร้องเรียนการประมูลทั้ง2ครั้งนี้ ไม่มีหลักฐานเอาผิดใครได้ เพื่อนๆ พิจารณาเอาเองจากพยานแวดล้อมก็แล้วกันครับ

เพราะ ฉะนั้น เรื่อง ที่ ทักษิณ บอกว่า เขาเป็นผู้ให้ราคาประมูลสูงสุด จากเดิมที่ กองทุนฟื้นฟูซื้อมา 4889ล้านบาท แล้วเขาประมูลไปที่ราคา 772 ล้านบาท นั้น เพื่อนๆ ก็พิจารณาเอาเองละกันครับว่า เขาได้ให้ประโยชน์แก่รัฐตามสมควรแล้ว หรือเขาเอาเปรียบรัฐซื้อที่ดินแปลงสวยราคาถูกกันแน่

 ในประเด็นที่ 3 ที่เขาบอกว่า เขาไม่ได้ใช้ ตำแหน่งหน้าที่ นายกรัฐมนตรี เอื้อประโยชน์นั้น

เพื่อนๆ ก็พิจารณาจากข้อมูลแวดล้อมทั้งหมดก็แล้วกัน ในปลายปีที่ทักษิณประมูลที่ดินแปลงนี้นั้น เขาสั่งวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันสิ้นปี ตามปกติ เป็นวันหยุด ให้เป็นวันทำงาน กรณีนี้ถูกโจมตีว่าเพราะเขาเกรงว่าจะโอนที่ดินแปลงนี้ไม่ทันในวันที่ 30 ธ.ค. ซึ่งถ้าให้ล่วงเลยไปในปีถัดไปจะไม่ได้ลดภาษีจากการโอนที่ดิน เพราะกฏกระทรวงที่ออกมาเพื่อจูงใจให้มีการซื้อการขายที่ดินโดยลดภาษีการโอนที่ดินนั้นจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม

อีก ทั้ง เมื่อประมูลที่ดินดังกล่าวได้แล้วเดิมพื้นที่บริเวณดังกล่าวสร้างตึกสูงได้ ไม่เกิน 5 ชั้น แต่หลังจากเขาประมูลที่ดินได้ไปแล้ว กฏเกณฑ์นี้ก็ได้ถูกยกเลิกไป ทำให้ที่ดินบริเวณดังกล่าว ยกระดับราคาสูงขึ้นทันที

ทั้ง2กรณีนี้ ไม่มีใครรู้หรอกครับว่า ทักษิณ ทำเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ตัวเอง หรือ เพื่อความเหมาะสมในการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ เหตุการณ์มันผิดปกติ 31 ธันวา ให้เป็นวันทำงาน หรือกรณีที่ห้าม ไม่ให้สร้างตึกสูงเกิน 5 ชั้นเพราะ ตรงนั้นเป็นที่ตั้งของศูนย์วัฒนธรรม หากบริเวณรอบๆ มีแต่ตึกสูงก็จะลดความสง่างามของศูนย์วัฒนธรรมไป ซึ่งหลักการนี้ เป็นหลักการเดียวกันกับ ห้ามบริเวณ อนุเสาวรีย์พระเจ้าตากสิน บริเวณ อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นต้น

ทั้งหมดทั้งสิ้นที่อธิบายมา เพื่อนๆก็พิจารณาเองนะครับว่า
สิ่งที่ ทักษิณ พูด นั้น จริง หรือ โกหก

 

 http://webboard.seri...ดง/#entry861153

 

นอกจากนี้ยังมีคำให้การของพยานอีกหลายรายเช่น อดีตประธาน เปิดซองประกวดราคาการประมูลซื้อขายที่ดินดังกล่าวที่ให้การว่าในหนังสือที่ นำส่งให้ผู้สนใจเข้าประมูลได้ทราบเพียงกำหนดวันยื่นซองประกวดร าคาเท่า นั้น ทั้งที่โดยหลักทั่วไปจะต้องระบุวัน เวลา ในการซื้อแบบใบเสนอราคา ซึ่งถ้าไม่มีแล้วมีผู้ทักท้วงก็จะไม่เปิดซองประกวดราคา แต่ที่พยานเปิดซอง ประกวดราคาเพราะไม่ทราบเรื่อง
 
"ขณะรับซองไม่ประกวดราคาไม่ทราบว่าจะมีปัญหาข้อกฎหมาย แต่เมื่อมีกฎหมายระบุไว้ชัดเจนก็เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ในการทำสัญญาจะซื้อ จะขายโดยระบุเลขโฉนดไว้นั้น ถ้าทราบเรื่องว่าไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะไม่มีเลขโฉนดจริง ในฐานะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯคงจะไม่ขาย
 
และไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด การประมูลจึงไม่ได้กำหนดราคาขั้นต่ำ  การดำเนินการขายที่ดินแปลงนี้มีวิธีการที่ทำพิเศษกว่าที่ดินแปลงอื่น"
 
คำให้การของประธานเปิดซองประกวดราคาที่ดินรัชดาฯระบุในการคำให้ นอกจากนี้หนังสือดังกล่าวยังได้เปิดเผยคำให้การของอดีตผู้จัดการ กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯคนหนึ่ง ซึ่งรับตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2546 ถึง 30 กันยายน 2546 อันเป็นช่วงก่อนที่จะมีการขายที่ดินดังกล่าวให้ คุณหญิงพจมานไม่กี่เดือน ได้ให้การกับคตส.ระบุว่า ที่ดินดังกล่าวมีข้อด้อย คือห้ามสูงเกิน 23 เมตร เป็นข้อบัญญัติของกรุงเทพมหานคร แต่ต่อมาทราบ ว่าหลังจากขายที่ดินไปแล้ว กรุงเทพมหานครได้ยกเลิกข้อบัญญัติดังกล่าว และการประกาศขายที่ให้ข้อมูลกับผู้เกี่ยวข้องไม่เท่ากันนั้น หลักการก็ถือว่า ไม่โปร่งใส ในวงนอกได้ยินมาบ้างว่าคู่สมรสของอดีตนายกรัฐมนตรี จะเข้า ประมูล แต่ไม่มีหลักฐานชัดเจน
 
ส่วนคำให้การของอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็น ประธานคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯโดยตำแหน่งที่มาให้การกับคตส.ระบุว่า ขณะที่เป็นประธานกรรมการจัดการกองทุนฟื้นฟูฯไม่เคยมีนักการเมืองเข้ามา เกี่ยวข้องกับที่ดินของกองทุนฟื้นฟูฯนายกรัฐมนตรีไม่เคยสอบถามหรือให้ราย งานเกี่ยวกับเรื่องของกองทุนฟื้นฟูฯ
 
"เคยคิดจะเข้าประมูลที่ดินของกองทุนฟื้นฟูฯแต่ต่อมาได้บอกกับเจ้า หน้าที่ว่าไม่สามารถเข้าประมูลได้ เจ้าหน้าที่บอกว่าเก่งที่ไม่เข้าประมูล เห็นว่าการประมูลขายที่ดินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯที่ถนนรัชดา เป็นเรื่อง ไม่เหมาะสม ไม่สมควรกระทำ เห็นว่าวิธีประมูลทั่วไปในทางราชการทุกอย่าง น่าจะต้องกำหนดราคาขั้นต่ำ เคยแจ้งให้เจ้าหน้าที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ทราบถึงเรื่องนี้"คำให้การของอดีตผู้ว่าธปท.ระบุ
 
หนังสือปกเหลืองดังกล่าวยังได้ระบุถึงคำให้การของอดีตที่ปรึกษา กฎหมาของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯที่ระบุว่าได้รับการแต่งตั้งให้รับซองประกวด ราคาในการประมูลที่ดินดังกล่าว โดยเป็นผู้เซ็นรับซอง ขณะนั้นพอทราบแล้ว เป็นการภายในว่ามีผู้ใหญ่ต้องการซื้อที่ดินและเห็นว่าการประมูลขายดังกล่าว ค่อนข้างจะดำเนินการอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับคำให้การของอดีตเจ้า หน้าที่สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร เขตห้วยขวาง ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ที่ดิน ที่มีการซื้อขายดังกล่าว ได้ให้การว่ามีระเบียบกรมที่ดินว่าด้วยการรังวัด  สอบเขต และรวมโฉนดที่ดิน ต่อมากองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯได้ยื่นคำร้องขอรังวัด เพื่อรวมโฉนดและแบ่งแยกโฉนดที่ดิน โดยไม่ได้บอกวัตถุประสงค์ และพยานเริ่มตรวจเรื่องนี้มาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2546 โดยมีการเร่งเรื่องด้วยการ โทรศัพท์มาจากกองทุนฟื้นฟูฯประมาณ 1 ถึง 2 ครั้ง สอบถามว่ามีเหตุขัดข้อง อะไรหรือไม่
 
รายงานข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุดยังเปิดเผยด้วยว่าในส่วนของ เนื้อหาการสรุปความเห็นของอนุกรรมการไต่สวนคดีดังกล่าวที่มีนายอุดม เฟื่องฟุ้งเป็นประธาน ที่ระบุไว้ในสมุดปกเหลืองดังกล่าว ได้ลำดับเหตุการณ์ ของคดีนี้ตั้งแต่ต้นตั้งแต่ความเป็นมาของการจัดตั้งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ความเป็นมาของที่ดินผืนดังกล่าวที่ติดถนนเทียนร่วมมิตร เดิมมี 13 โฉนด
 
ราคา 2,140 ล้านบาท แต่ต่อมากลางปี 2544 กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ได้ปรับลดราคาที่ดินลงเหลือ 754 ล้านบาท
 
กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯได้เปิดประมูลขายที่ดินดังกล่าวครั้งแรกทางอินเตอร์เน็ตเมื่อ 10 กรกฏาคม 2546 โดยกำหนดราคาขั้นต่ำ 870 ล้าน บาท โดยมีผู้แสดงความประสงค์จะซื้อที่ดินดังกล่าว 8 ราย แต่มีผู้ลงทะเบียน ชำระเงินการประมูลเพียง 3 ราย แต่สุดท้ยเมื่อถึงกำหนดเวลาเสนอราคา ผู้ลงทะเบียนทั้งสามรายไม่เสนอราคาประมูล ทำให้มีการยกเลิกการประมูลในที่สุด
 
ต่อมา กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯได้ทำการรังวัดที่ดินเพื่อรวมโฉนดทั้ง  13 โฉนดและแบ่งแยกออกเป็น 4 โฉนด และมีการเปิดซองประกวดราคา 16 ธันวาคม  2546 โดยพบว่ามีผู้ยื่นซองเสนอราคาจำนวน 3 รายโดย หนึ่งในนั้นก็คือคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ที่เสนอราคา 772 ล้าน ส่วนอีกสองราย ที่เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์เสนอราคา 750 ล้านแบะ730 ล้านตามลำดับ
 
สมุดปกเหลืองดังกล่าวระบุถึงสิ่งผิดปกติที่อนุกรรมการไต่สวนพบก็คือ เช่น 1.ในกาประกวดราคาที่ดินดังกล่าวพบว่าในการประกาศขายครั้งแรก มีการกำหนดราคาขั้นต่ำไว้ 870 ล้านบาท แต่การขายครั้งที่สอง กองทุน เพื่อการฟื้นฟูฯไม่ได้กำหนดราคาขั้นต่ำ
 
"มีข้อเท็จจริงจากปากคำของอดีตผู้ว่าการธปท.ที่มาให้ปากคำกับคตส. ว่าได้เคยบอกกับเจ้าหน้าที่ในการประมูลนั้น จะต้องปฏิบัติตามระเบียบสำนัก นายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และจากการสอบข้อเท็จจริงจาก ผู้เข้าประมูลที่ดินของกรมบังคับคดีให้ข้อเท็จจริงว่าในการประมูลที่ดินจะต้อง มีราคาขั้นต้นหรือขั้นต่ำกำหนดไว้เสมอ แต่จากการสอบปากคำประธานคณะ
 
กรรมการจัดการกองทุน ฯในขณะที่มีการซื้อขายได้ให้ข้อเท็จจริงในส่วนนี้ว่า ที่ไม่ได้กำหนดราคาขั้นต่ำไว้เพราะมีการกำหนดราคาในใจ แต่ในการให้ปาก คำของปลัดกระทรวงการคลังในขณะนั้น ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรม การเปิดซองประกวดราคาให้ข้อเท็จจริงว่าไม่ทราบว่าในการประกาศประมูล ขายที่ดิน ไม่ได้กำหนดราคาขั้นต่ำ"
 
2.ในการประกาศประมูลนั้น ได้มีรายละเอียดวันซื้อซองประกวดราคา วันยื่นซองประกวดราคา และวันเปิดซองประกวดราคาไว้โดยครบถ้วน  แต่หนังสือชี้ชวนให้บริษัทต่างๆ เข้าร่วมประกวดราคาจะมีเฉพาะวันที่เข้า ประมูลเท่านั้น ไม่มีรายละเอียดตามหนังสือประกาศประมูล กล่าวคือไม่ มีวันซื้อซองว่าจะต้องเข้ามาซื้อซองเมื่อใด
 
3.ในการประกาศประมูลครั้งแรกทางอินเตอร์เน็ต ประมูลทั้ง 13 โฉนดรวมกันไป แต่การประมูลครั้งที่สอง มีการรวมโฉนดจาก 13 โฉนด แล้วแยกเป็น 4 โฉนด ทำให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯต้องเสียค่าใช้จ่ายในการ รวมโฉนดและแยกโฉนด โดยไม่มีเหตุผลที่ต้องทำเช่นนี้
 
4.อนุกรรมการไต่สวนพบว่ามีความผิดปกติในการออกโฉนดที่ดิน คือในการประกาศขายที่ดินพบว่ามีการออกโฉนด แยกโฉนด และรวมโฉนด โดยที่โฉนดที่ดินยังไม่มีการออกเพราะในสัญญาจะซื้อจะขายระบุเลขโฉนด ทั้ง 4 โฉนด แต่ข้อเท็จจริงพบว่าโฉนดที่ดินตามที่เจ้าพนักงานที่ดินออกให้นั้น หลักฐานปรากฏอยู่ในโฉนดว่าออกให้เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2546 ทั้งที่มีการ
 
เปิดซองประกวดราคาเมื่อ 16 ธันวาคม 2546 และทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน วันที่ 17 ธันวาคม 2546
 
"อดีตผู้จัดการกองทุน อ้างว่าเป็นการติดต่อประสานงานกับเป็นการ ภายในของเจ้าหน้าที่กองทุนฯกับเจ้าพนักงานที่ดิน แต่ไม่ปรากฏว่าใครเป็น ผู้ประสาน แต่ข้อเท็จจริงที่อนุกรรมการไต่สวนได้สอบถามจากอธิบดีกรมที่ดิน และรองอธิบดีกรมที่ดินที่ได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมที่ดินได้แจ้งมาเป็นหนังสือว่าใน การออกโฉนด แยกโฉนด รวมโฉนด ถ้าโฉนดยังไม่ออกแล้ว บุคคล
 
ภายนอกไม่สามารถรู้เลขโฉนด การที่มีการประกาศเลขโฉนดในเอกสาร ล่วงหน้า จึงเป็นข้อน่าสังเกตว่าสามารถทำได้อย่างไร และกองทุนฯ สามารถนำเนื้อที่ดินแต่ละโฉนดมากำหนดในประกาศได้อย่างไร"รายงานของ อนุกรรมการไต่สวนระบุถึงความผิดปกติของการจัดซื้อที่ดินดังกล่าว
 
"ปรากฏข้อเท็จจริงจากการตรวจสอบของคณะกรรมการคตส.ว่า ทั้งหมดเป็นการกระทำของอดีตนายกรัฐมนตรีและคู่สมรน ที่ขัดต่อ พรบ.ป.ป.ช.  พ.ศ.2542 มาตรา 4,100,122 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา1, 33,  83, 86, 90, 91, 152, 157 มีผลให้สัญญาซื้อขายเป็นโมฆะตั้งแต่ต้น  และขอให้ริบเงิน 772 ล้านบาทที่ผู้ถูกกล่าวหาที่สองชำระให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯเพราะเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิด "
 
ใครได้อ่านทั้งหมดแล้วจะถึงบางอ้อว่าเป็นเพราะเหตุใด ทักษิณ กับ คุณหญิงพจมาน ไม่ต้องการเปิดเผยสำนวนนี้ต่อสาธารชน นั่นเพราะต้องการปกปิดความชั่วของตัวเอง
 

แต่ไม่มีผู้เสนอราคา    <----     ซึ่งมีข่าวโจทย์ขานการบล็อกสัญญาณอินเตอร์เนตของบริษัท

 

แล้วกองทุนปรับราคาลงเอง  ทักษิณไปเกี่ยวอะไรเหรอ  <--- ขายครั้งแรก มีการกำหนดราคาขั้นต่ำไว้ 870 ล้านบาท แต่การขายครั้งที่สอง กองทุน เพื่อการฟื้นฟูฯไม่ได้กำหนดราคาขั้นต่ำ
 
เองซิหุบปากไปได้เลย เองเคยยอมรับอะไรบ้าง นอกจาก ซี2 ซี3 ประโยคนั้นในวิกิพีเดีย เขาบอกว่าเปลี่ยนราคา ไม่ได้บอกว่าประมูลได้ที่ราคาเท่านั้นซักหน่อย

Edited by Stargate-1, 21 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 23:02.

[HiddenMan]

HiddenMan

 

ตอนนั้น ราคาประเมินกรมที่ดินของแปลงนั้น มันอยู่ที่ 754 ล้าน  ดังนั้นราคาที่ประมูลได้ 772ล้าน 

ถือว่าไม่ได้ผิดปรกติ กับสภาพเศรฐกิจสมัยตอนช่วงนั้น  

 

 แล้วเศรษฐกิจช่วงชวนดีหรอครับ

[Tam-mic-ra.]

นายstarเก๋ง 

ผมจำความได้ว่า ตัวผมไม่เคยนำข้อมูลจากวิกิพีเดียมาอ้างอิงเลย เพราะที่นั่นมันแก้ได้  มั่วได้

อย่าเอามาตรฐานตัวเองไปเทียบกับคนอื่น

 

แล้วนิสัยการไป Edit ข้อความของเพื่อนสมาชิกคนอื่นน่ะ   เลิกเสียนะ   จงเชื่อพี่นะน้อง อย่าให้สอนแล้วสอนอีก

 

แล้วก็นิสัยในการโต้ตอบก็เหมือนเดิม  ยกอะไรมั่วๆเยอะๆมาแปะเถียงข้างๆ คูๆ   ได้ตลอด     ให้เราจับโง่ได้หลายทีจนไม่ไหวจะฮาแล้ว

[Stargate-1]

"ผมจำความได้ว่า ตัวผมไม่เคยนำข้อมูลจากวิกิพีเดียมาอ้างอิงเลย เพราะที่นั่นมันแก้ได้"

เองซิมั่วไอ้ซี2:ซี3

 

"เรื่องนี้ ถ้า ปรส. ขายไปได้เงินกลับมา ประมาณว่า 50%  ถึง 70%  ของหนี้   ก็คงอาจจะไม่มีเรื่องอะไรมาก

หรืออีกอย่างก็ไม่ควรเอาของดีมารวมกับของเสียตามที่เขาว่า

 

แต่นี่มันขายถูกเกินไปหรือเปล่าหล่ะ  มันกี่เท่าหล่ะลองไปดูตัวเลขสิ่

แล้วระบบการฮั้วโกงกิน   มันมีจริงไหม   คุณก็ไปดูข้อมูลข้ออื่นได้   ที DSI  เขากล่าวหาเลย  ว่ามันซิกแซกโยงกันหมดทั้งนั้น"

จากเดิมที่ กองทุนฟื้นฟูซื้อมา 4889 ล้านบาท แปลงแรกราคา 2,749ล้านบาท แปลงที่สองราคา 2,140 ล้านบาท แล้วเขาประมูลไปที่ราคา 772 ล้านบาท

 

เรื่องนี้ เขาถกไปไม่รู้กี่รอบแล้วไอ้ซี2ซี3 มัวแต่ไปวิดน้ำท่วมอยู่ซิ ดอนยอก็ได้ถกกันไปแล้วนิ ไปถามเขาซิว่า เมียซื้อผัวต้องเซ็นไหม

 

ความเห็นของชาวเสื้อแดง

โดย arun sound, 26 กันยายน 2556 22:13

http://webboard.serithai.net/topic/39620-ความเห็นของชาวเสื้อแดง/#entry855141

Edited by Stargate-1, 21 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 23:03.

[Tam-mic-ra.]

กองทุนเขาตั้งราคา 870 ล้าน   แต่ไม่มีผู้ให้ราคาเริ่มต้นขั้นต่ำ   พวกStarเก๋ง เลยเหมาว่าทักษิณบล๊อคสัญญาณการยื่นให้ราคา  

 

โค ตะ ระ ฮา เลย  เชื่อเข้าไปได้ยังไง  สมองมีบ้างไหม   

 

คงไม่เคยเข้าประมูลกะเขา เพราะของจริงน่ะมันมีแบบนี้เสมอแหล่ะ 

มันขึ้นอยู่กับเศรฐกิจและความต้องการของตลาดในตอนนั้น และบริเวณแวดล้อมของที่ดินตรงนั้น

 

ที่ต่างคนต่างยังไม่ให้ราคาเริ่มต้น ก็เพราะยังไม่มั่นใจในที่ดินตรงนั้นไง ว่าจะทำกำไรได้แน่นอน   ไม่ก็พากันรอการประมูลครั้งต่อไปที่มักจะลดราคาลงอีก มันก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น

[Tam-mic-ra.]

 

"ผมจำความได้ว่า ตัวผมไม่เคยนำข้อมูลจากวิกิพีเดียมาอ้างอิงเลย เพราะที่นั่นมันแก้ได้"

เองซิมั่วไอ้ซี2:ซี3

 

"เรื่องนี้ ถ้า ปรส. ขายไปได้เงินกลับมา ประมาณว่า 50%  ถึง 70%  ของหนี้   ก็คงอาจจะไม่มีเรื่องอะไรมาก

หรืออีกอย่างก็ไม่ควรเอาของดีมารวมกับของเสียตามที่เขาว่า

 

แต่นี่มันขายถูกเกินไปหรือเปล่าหล่ะ  มันกี่เท่าหล่ะลองไปดูตัวเลขสิ่

แล้วระบบการฮั้วโกงกิน   มันมีจริงไหม   คุณก็ไปดูข้อมูลข้ออื่นได้   ที DSI  เขากล่าวหาเลย  ว่ามันซิกแซกโยงกันหมดทั้งนั้น"

 

 

 

จากเดิมที่ กองทุนฟื้นฟูซื้อมา 4889ล้านบาท แล้วเขาประมูลไปที่ราคา 772 ล้านบาท นั้น

เรื่องนี้ เขาถกไปไม่รู้กี่รอบแล้วไอ้ซี2ซี3 มัวแต่ไปวิดน้ำท่วมอยู่ซิ ดอนยอก็ได้ถกกันไปแล้วนิ ไปถามเขาซิว่า เมียซื้อผัวต้องเซ็นไหม

 

ความเห็นของชาวเสื้อแดง

โดย arun sound, 26 กันยายน 2556 22:13

http://webboard.serithai.net/topic/39620-ความเห็นของชาวเสื้อแดง/#entry855141

 

 

 

นายstarเก๋งกูเกิ้ล  โชว์โง่ตลอด

 

4889ล้านบาท  น่ะ มันทั้งหมด  121 ไร่   ครับ

 

แต่ตอนขายน่ะ  กองทุนเขาแบ่งเป็น 2 แปลง    โดยแปลงที่เกี่ยวในคดีน่ะ   คือ  35 ไร่เศษ มูลค่า 2,140 ล้านบาท       (ลิ้งที่เก๋งมันแปะมา ตัวไอ่เก๋งเองก็ให้ข้อมูลตัวเลขแบบนี้ นี่อยู่ๆจะมาเถียงตัวเองเหรอ ตลก)

 

ตอนหลังกองทุนเขาปรับลงมาให้เท่าราคาประเมินกรมที่ดินคือ 754 ล้าน    แล้วก็เปิดประมูลโดยกำหนดราคาเริ่มต้น 870 ล้าน 

 

  ผมเอาข้อมูลจากศาลมาให้ดูRepก่อนแล้ว  นี่เก๋งยังจะดื้อมาเถียงอีกเหรอ  โง่ดื้อด้านแบบนี้ แพล่มเพ้อไปคนเดียวแล้วกัน 

Edited by Tam-mic-ra., 21 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 22:40.

[Bookmarks]

นายstarเก๋ง 

ผมจำความได้ว่า ตัวผมไม่เคยนำข้อมูลจากวิกิพีเดียมาอ้างอิงเลย เพราะที่นั่นมันแก้ได้  มั่วได้

อย่าเอามาตรฐานตัวเองไปเทียบกับคนอื่น

 

แล้วนิสัยการไป Edit ข้อความของเพื่อนสมาชิกคนอื่นน่ะ   เลิกเสียนะ   จงเชื่อพี่นะน้อง อย่าให้สอนแล้วสอนอีก

 

แล้วก็นิสัยในการโต้ตอบก็เหมือนเดิม  ยกอะไรมั่วๆเยอะๆมาแปะเถียงข้างๆ คูๆ   ได้ตลอด     ให้เราจับโง่ได้หลายทีจนไม่ไหวจะฮาแล้ว

ต้องตัดแปะจาก คณะนิติเรี่ยราดสินะ ที่ใส่จำนวนที่ดินผิดๆ มา 

[Tam-mic-ra.]

 

HiddenMan

 

ตอนนั้น ราคาประเมินกรมที่ดินของแปลงนั้น มันอยู่ที่ 754 ล้าน  ดังนั้นราคาที่ประมูลได้ 772ล้าน 

ถือว่าไม่ได้ผิดปรกติ กับสภาพเศรฐกิจสมัยตอนช่วงนั้น  

 

 แล้วเศรษฐกิจช่วงชวนดีหรอครับ

 

 

ผมคิดว่า ดีแบบฟองสบู่ไงครับ  เพราะคนไปกู้ซื้ออสังหา แบบได้ราคาสูงกว่าราคาประเมินกรมที่ดินเยอะมาก

เก็งราคากันสูง จนถึงจุดที่เศรฐกิจมันไปไม่ไหว  

[Bookmarks]

 

 

 

starเก๋ง  มาเล่นตลกให้ดูอีกแล้ว

 

ข้อมูลเต็มๆเขาเป็นแบบนี้ ทำไมไม่เอามาให้หมด

 

        ที่ดินที่มีปัญหา เป็นหนึ่งในที่ดินสองแปลงที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซื้อจากบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เอราวัณทรัสต์ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2538 มีมูลค่า 2,749 ล้านบาท ต่อมาในปี พ.ศ. 2544 กองทุนฯ ได้ปรับปรุงราคาที่ดินลดลงกว่า 2,000 ล้านบาท โดยอ้างว่าเป็นการปรับปรุงบัญชีเพื่อปรับมูลค่าหนี้ให้ลดลง เพื่อให้เกิดสภาพคล่อง โดยปรับลดราคาที่ดินเหลือ 700 กว่าล้านบาท และนำออกประมูลทางอินเทอร์เน็ต เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 ตั้งราคาขั้นต่ำ 870 ล้านบาท โดยผู้ร่วมประมูลต้องวางเงินมัดจำ 10 ล้านบาท แต่ไม่มีผู้เสนอราคา กองทุนฯ จึงได้ยกเลิกการประมูล และเปิดประมูลใหม่เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2546 โดยไม่กำหนดราคาขั้นต่ำ แต่ผู้ร่วมประมูลต้องวางเงินมัดจำเพิ่มเป็น 100 ล้านบาท

 

 

แล้วกองทุนปรับราคาลงเอง  ทักษิณไปเกี่ยวอะไรเหรอ  ถ้าเกี่ยวเขาก็ต้องเข้าสู้ราคาตั้งแต่  22 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 ไปแล้วสิ่

   เก๋งไม่มีหลักฐานก็หุบปากไปดีกว่าน่า 

จริงๆไม่ค่อยอยากคุยกะคนไม่ดีอย่างเก๋งหรอก ส่วนมากผมเลื่อนเม๊าส์ข้ามตลอด

 

เผอิญอีกระบังลมมันมาสนใจในตอนนี้น่ะสิ และไอ้แม้วมันไปเกี่ยวอะไรด้วยหรือ มันเกี่ยวสิ ก็มันรู้ว่ามันไม่มีสิทธิ์จะเข้าร่วมประมูล แต่เมียมันอยากได้ เลยกระสันทำเพื่อเมีย คิดว่าตัวเองมีอำนาจ เลยจะท้าทายกฎหมาย มาตรา 100

[HiddenMan]

 

 

HiddenMan

 

ตอนนั้น ราคาประเมินกรมที่ดินของแปลงนั้น มันอยู่ที่ 754 ล้าน  ดังนั้นราคาที่ประมูลได้ 772ล้าน 

ถือว่าไม่ได้ผิดปรกติ กับสภาพเศรฐกิจสมัยตอนช่วงนั้น  

 

 แล้วเศรษฐกิจช่วงชวนดีหรอครับ

 

 

ผมคิดว่า ดีแบบฟองสบู่ไงครับ  เพราะคนไปกู้ซื้ออสังหา แบบได้ราคาสูงกว่าราคาประเมินกรมที่ดินเยอะมาก

เก็งราคากันสูง จนถึงจุดที่เศรฐกิจมันไปไม่ไหว  

 

 

ฟองสบู่แตกเมื่อไหร่ครับ

[Stargate-1]

 

 

"ผมจำความได้ว่า ตัวผมไม่เคยนำข้อมูลจากวิกิพีเดียมาอ้างอิงเลย เพราะที่นั่นมันแก้ได้"

เองซิมั่วไอ้ซี2:ซี3

 

"เรื่องนี้ ถ้า ปรส. ขายไปได้เงินกลับมา ประมาณว่า 50%  ถึง 70%  ของหนี้   ก็คงอาจจะไม่มีเรื่องอะไรมาก

หรืออีกอย่างก็ไม่ควรเอาของดีมารวมกับของเสียตามที่เขาว่า

 

แต่นี่มันขายถูกเกินไปหรือเปล่าหล่ะ  มันกี่เท่าหล่ะลองไปดูตัวเลขสิ่

แล้วระบบการฮั้วโกงกิน   มันมีจริงไหม   คุณก็ไปดูข้อมูลข้ออื่นได้   ที DSI  เขากล่าวหาเลย  ว่ามันซิกแซกโยงกันหมดทั้งนั้น"

 

 

 

จากเดิมที่ กองทุนฟื้นฟูซื้อมา 4889ล้านบาท แล้วเขาประมูลไปที่ราคา 772 ล้านบาท นั้น <--- ประมูลไปแปลงเดียวครับ อีกแปลงยังไม่ได้ประมูล

เรื่องนี้ เขาถกไปไม่รู้กี่รอบแล้วไอ้ซี2ซี3 มัวแต่ไปวิดน้ำท่วมอยู่ซิ ดอนยอก็ได้ถกกันไปแล้วนิ ไปถามเขาซิว่า เมียซื้อผัวต้องเซ็นไหม

 

ความเห็นของชาวเสื้อแดง

โดย arun sound, 26 กันยายน 2556 22:13

http://webboard.serithai.net/topic/39620-ความเห็นของชาวเสื้อแดง/#entry855141

 

4889ล้านบาท  น่ะ มันทั้งหมด  121 ไร่   ครับ <-- แก้แล้วนิ กลับไปดูใหม่ซิ ไอ้ซี2ซี3

 

แต่ตอนขายน่ะ  กองทุนเขาแบ่งเป็น 2 แปลง    โดยแปลงที่เกี่ยวในคดีน่ะ   คือ  35 ไร่เศษ มูลค่า 2,140 ล้านบาท      

 

ในประเด็นที่ 2 ที่ ทักษิณ บอกว่า เขาให้ราคาประมูลสูงสุดนั้น ขอให้ข้อมูลที่มาที่ไปในเรื่องราคาที่ดินแปลงนี้ดังนี้

 

กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ได้เข้าซื้อที่ดินเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2538 เป็นที่ดินของบริษัท เงินทุนเอราวัณ ทรัสต์ จำกัด 2 แปลง เป็นเงิน 4,889,379,500 บาท แปลงแรก ติดถนนศูนย์วัฒนธรรม รวม 18 โฉนด เนื้อที่รวม 85-3-65 ไร่ ราคา 2,749,040,000 บาท แปลงที่ 2 ติดถนนเทียมร่วมมิตร รวม 13 โฉนด เนื้อที่ 35-2-69.0 ไร่ ราคา 2,140,357,500 บาท

ต่อมาในช่วงกลางปี 2544 กองทุนได้ปรับปรุงเกณฑ์บันทึกบัญชีทรัพย์สินรอการขายใหม่ทั้งหมดเพื่อรับรู้ผลการขาดทุน โดยที่ดินแปลงแรก ปรับลดเหลือ 1,310.0 ล้านบาท แปลงที่สอง เหลือ 754.50 ล้านบาท มีผู้แสดงความสนใจซื้อที่ดินแปลงที่ 2 เป็นจำนวนมาก

 

 เมื่อเกิดการประมูลมีการตั้งราคากลางเพียง 870 ล้านบาทและผู้ที่ประมูลได้คือคุณหญิงพจมาณ ชินวัตร ประมูลได้ในราคา 772 ล้านบาท
 

[Tam-mic-ra.]

 

นายstarเก๋ง 

ผมจำความได้ว่า ตัวผมไม่เคยนำข้อมูลจากวิกิพีเดียมาอ้างอิงเลย เพราะที่นั่นมันแก้ได้  มั่วได้

อย่าเอามาตรฐานตัวเองไปเทียบกับคนอื่น

 

แล้วนิสัยการไป Edit ข้อความของเพื่อนสมาชิกคนอื่นน่ะ   เลิกเสียนะ   จงเชื่อพี่นะน้อง อย่าให้สอนแล้วสอนอีก

 

แล้วก็นิสัยในการโต้ตอบก็เหมือนเดิม  ยกอะไรมั่วๆเยอะๆมาแปะเถียงข้างๆ คูๆ   ได้ตลอด     ให้เราจับโง่ได้หลายทีจนไม่ไหวจะฮาแล้ว

ต้องตัดแปะจาก คณะนิติเรี่ยราดสินะ ที่ใส่จำนวนที่ดินผิดๆ มา 

 

 

น่าจะมาจากประชาไทนะ นานแล้วผมไม่แน่ใจ  

 

แต่ผมก็ งง ๆอยู่นะ   ประชาไทบอกว่า 22 ไร่

ตอนตัดสิน ข้อมูลศาล     บอกว่าคือ  33 ไร่  

แต่จากข่าวนี้   เอกสารศาลฎีกาฯ กลับแจ้งว่าเป็น  35 ไร่   http://www.matichon....pid=04&catid=01

 

ตกลงมันยังไงแน่ ผมว่าต้องมีอะไรสักอย่าง  คุณรู้เยอะเรื่องคดีเหล่านี้ ก็ช่วยอธิบายหน่อยสิ่

[Tam-mic-ra.]

 

 

 

HiddenMan

 

ตอนนั้น ราคาประเมินกรมที่ดินของแปลงนั้น มันอยู่ที่ 754 ล้าน  ดังนั้นราคาที่ประมูลได้ 772ล้าน 

ถือว่าไม่ได้ผิดปรกติ กับสภาพเศรฐกิจสมัยตอนช่วงนั้น  

 

 แล้วเศรษฐกิจช่วงชวนดีหรอครับ

 

 

ผมคิดว่า ดีแบบฟองสบู่ไงครับ  เพราะคนไปกู้ซื้ออสังหา แบบได้ราคาสูงกว่าราคาประเมินกรมที่ดินเยอะมาก

เก็งราคากันสูง จนถึงจุดที่เศรฐกิจมันไปไม่ไหว  

 

 

ฟองสบู่แตกเมื่อไหร่ครับ

 

ถามทำไมครับ มันนานแล้ว ตอนนั้นผมก็ยังเอ๋อๆอยู่เลย

คุณถามนาย Starเก๋งสิ่ครับ เพราะเขาเชี่ยวชาญทุกเรื่องครับ  

[Bookmarks]

 

 

นายstarเก๋ง 

ผมจำความได้ว่า ตัวผมไม่เคยนำข้อมูลจากวิกิพีเดียมาอ้างอิงเลย เพราะที่นั่นมันแก้ได้  มั่วได้

อย่าเอามาตรฐานตัวเองไปเทียบกับคนอื่น

 

แล้วนิสัยการไป Edit ข้อความของเพื่อนสมาชิกคนอื่นน่ะ   เลิกเสียนะ   จงเชื่อพี่นะน้อง อย่าให้สอนแล้วสอนอีก

 

แล้วก็นิสัยในการโต้ตอบก็เหมือนเดิม  ยกอะไรมั่วๆเยอะๆมาแปะเถียงข้างๆ คูๆ   ได้ตลอด     ให้เราจับโง่ได้หลายทีจนไม่ไหวจะฮาแล้ว

ต้องตัดแปะจาก คณะนิติเรี่ยราดสินะ ที่ใส่จำนวนที่ดินผิดๆ มา 

 

 

น่าจะมาจากประชาไทนะ นานแล้วผมไม่แน่ใจ  

 

แต่ผมก็ งง ๆอยู่นะ   ประชาไทบอกว่า 22 ไร่

ตอนตัดสิน ข้อมูลศาล     บอกว่าคือ  33 ไร่  

แต่จากข่าวนี้   เอกสารศาลฎีกาฯ กลับแจ้งว่าเป็น  35 ไร่   http://www.matichon....pid=04&catid=01

 

ตกลงมันยังไงแน่ ผมว่าต้องมีอะไรสักอย่าง  คุณรู้เยอะเรื่องคดีเหล่านี้ ก็ช่วยอธิบายหน่อยสิ่

 

คุณก็รู้ว่าประชาไทลงผิด ถ้าฟังที่ศาลพิพากษาก็บอกแล้วว่า 33 ไร่ ทุกสำนักพิมพ์ก็ลงว่า 33 ไร่ จะมาแย้งทำอะไร 

[Stargate-1]

น่าจะมาจากประชาไทนะ นานแล้วผมไม่แน่ใจ  

 

แต่ผมก็ งง ๆอยู่นะ   ประชาไทบอกว่า 22 ไร่

ตอนตัดสิน ข้อมูลศาล     บอกว่าคือ  33 ไร่  

แต่จากข่าวนี้   เอกสารศาลฎีกาฯ กลับแจ้งว่าเป็น  35 ไร่   http://www.matichon....pid=04&catid=01

 

ตกลงมันยังไงแน่ ผมว่าต้องมีอะไรสักอย่าง  คุณรู้เยอะเรื่องคดีเหล่านี้ ก็ช่วยอธิบายหน่อยสิ่

 

 

          ไอ้โง่เอ๊ย ดูที่ลิงค์ข้างล่างซิว่ะ  เองต้องแยกให้ออก ระว่างข่าวกับความเห็น ข่าวเขาว่าอย่างไร ก็ต้องบอกว่ามาจากไหน แต่เองนิ โง่จริง ไม่วิเคราะห์ว่า แอลพีจีมาจากซี2ซี3 ได้อย่างไร มีคนทักแล้วทักอีก ก็ไม่ฟังไม่ดู

 

http://www.dlo.co.th/node/204

 

เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2546 กองทุนฟื้นฟูฯ นำที่ดินแปลงที่ 2 ออกประมูลขายทางอินเตอร์เน็ต โดยกำหนดราคาขั้นต่ำไว้ที่ 870,000,000 บาท มีผู้ประสงค์จะซื้อ 8 ราย แต่เมื่อกำหนดต้องเสนอราคาปรากฏว่า ไม่มีผู้ใดเสนอราคาประมูล กองทุนฟื้นฟูได้ดำเนินการรังวัดแบ่งแยกที่ดินแปลงที่ 2 ออกเป็น 4 โฉนดโดยแบ่งหักส่วนที่เป็นสาธารณะประโยชน์ออกไป เหลือเนื้อที่ 22 ไร่ 78.9 ตารางวา

Edited by Stargate-1, 22 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 00:12.

[HiddenMan]

 

 

 

 

HiddenMan

 

ตอนนั้น ราคาประเมินกรมที่ดินของแปลงนั้น มันอยู่ที่ 754 ล้าน  ดังนั้นราคาที่ประมูลได้ 772ล้าน 

ถือว่าไม่ได้ผิดปรกติ กับสภาพเศรฐกิจสมัยตอนช่วงนั้น  

 

 แล้วเศรษฐกิจช่วงชวนดีหรอครับ

 

 

ผมคิดว่า ดีแบบฟองสบู่ไงครับ  เพราะคนไปกู้ซื้ออสังหา แบบได้ราคาสูงกว่าราคาประเมินกรมที่ดินเยอะมาก

เก็งราคากันสูง จนถึงจุดที่เศรฐกิจมันไปไม่ไหว  

 

 

ฟองสบู่แตกเมื่อไหร่ครับ

 

ถามทำไมครับ มันนานแล้ว ตอนนั้นผมก็ยังเอ๋อๆอยู่เลย

คุณถามนาย Starเก๋งสิ่ครับ เพราะเขาเชี่ยวชาญทุกเรื่องครับ  

 

 

 ผมก็ไม่ทราบ... แค่เห็น Tam บอกว่าเรื่องราคาที่ดินรัชดาไม่ได้ผิดปรกติ กับสภาพเศรษฐกิจช่วงนั้น

เลยอยากรู้ว่าสมัยชวนสภาพเศรษฐกิจช่วงนั้นเป็นยังไง Tam ถึงบอกได้ว่าถูก หรือแพงไป

[Tam-mic-ra.]

 

 

 

 

 ผมก็ไม่ทราบ... แค่เห็น Tam บอกว่าเรื่องราคาที่ดินรัชดาไม่ได้ผิดปรกติ กับสภาพเศรษฐกิจช่วงนั้น

เลยอยากรู้ว่าสมัยชวนสภาพเศรษฐกิจช่วงนั้นเป็นยังไง Tam ถึงบอกได้ว่าถูก หรือแพงไป

 

 

  ช่วงชวน2  ผมว่ามันก็ยังไม่ฟื้นดี  เพราะเพิ่งผ่านวิกฤติไปหมาดๆ   แบ็งค์ก็ไม่ปล่อยกู้กันง่ายๆเปมือนแรกๆ

    ส่วนช่วงปีเปิดประมูลที่ดินรัชดา   ตอนนั้นเศรฐกิจก็ยังไม่บูมมาก       ที่ดินก็ขายได้เท่าๆราคาประเมินกรมที่ดิน    ก็ไม่ผิดปรกตินี่ครับ    

[Tam-mic-ra.]

ว่าแล้วผมไปดีกว่า เพราะนายStarเก๋งสะเปะสะปะคุยไม่รุ้เรื่องแล้ว   แปะอะไรก็ไม่รุ้ยุ่งเหยิงไปหมด   

[Stargate-1]

ว่าแล้วผมไปดีกว่า   

 

กลัวจะโง่ซ้ำโง่ซากซินะ  คดีปรส. มันไม่เกี่ยวกับการประมูลได้น้อยได้มาก มันเกี่ยวกับการไม่ทำตามระเบียบมากกว่า ถ้าทำตามระเบียบมันก็ได้ อย่างน้อย 50 - 80 % เหมือนที่กรมบังคับคดีเขาทำกัน ทั้งคดีปรส. และ ที่ดินรัชดา ล้วนผิดเพราะไม่ทำตามระเบียบบ้าง ไปแก้ไขระเบียบบ้าง

 

http://webboard.seri...e-4#entry873390

 

"ทั้งสองคนถูกตัดสินว่า มีความผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 คือ ไปเอื้อประโยชน์เอกชนที่ประมูลสินทรัพย์ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์
โดยไม่ได้ให้เอกชนรายดังกล่าวคือ บริษัท เลแมน บราเดอร์ส โดยราคาสินทรัพย์ที่เป็นปัญหาอยู่ที่ 11,520 ล้านบาท วางหลักประกัน 10 ล้านบาท แต่บริษัทไม่ได้ทำสัญญาซื้อขายกับ ปรส.ภายใน 7 วันนับจากวันที่ 20 ส.ค.41

พร้อมทั้งต้องชำระเงินงวดแรกร้อยละ 20 ของราคาเสนอซื้อที่ชนะการประมูลเป็นเงิน 2,304 ล้านบาท แต่ไม่ได้มีการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย มีแต่การวางเงินประกัน 10 ล้านเท่านั้น ศาลจึงเห็นว่า การประมูลดังกล่าวไม่เกิดสัญญาขึ้น"

 

http://webboard.seri...e-4#entry874020

แต่ไม่มีผู้เสนอราคา   <----     ซึ่งมีข่าวโจทย์ขานการบล็อกสัญญาณอินเตอร์เนตของบริษัท

 แล้วกองทุนปรับราคาลงเอง  ทักษิณไปเกี่ยวอะไรเหรอ  <--- ขายครั้งแรก มีการกำหนดราคาขั้นต่ำไว้ 870 ล้านบาท แต่การขายครั้งที่สอง กองทุน เพื่อการฟื้นฟูฯไม่ได้กำหนดราคาขั้นต่ำ

[jerasak]

คุณ Tam-mic-ra ยังอยู่ไหมครับ?

 

ผมเพิ่งเอาข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับ

การประมูลสินทรัพย์ ปรส.มาลงชุดใหญ่

ถ้ายังไงขอเชิญเข้าไปอ่านได้นะครับ

 

ที่มาเชิญก็เพราะผมได้แรงบันดาลใจ

ให้อุตส่าห์ไปทำข้อมูลจากโพสของคุณ

ในกระทู้นี้ (โพสต์ไว้ตั้งแต่ เมษา ปีนี้

แต่ผมเพิ่งมาเห็นไม่กี่วัีนที่ผ่านมา) ...

 

ผมคิดว่าตอนนี้คุณ Tam-mic-ra คงรู้แล้วว่าข้อมูล

ในแผนผังข้างบนมีอะไรผิดบ้าง แต่ผมก็คิดว่าน่าจะ

ยังมีคนอื่นอีกแน่ๆ ที่ยังเชื่ออะไรผิดๆ แบบข้อมูล

ในผังข้างบน โดยไม่มีแหล่งข้อมูลแบบละเอียดๆ

ที่จะทำความเข้าใจ

 

ในที่สุดพอมีจังหวะว่างก็เลยลงมือทำข้อมูลชุดใหญ่

มาตั้งเป็นกระทู้เรียบร้อยแล้วครับ ถ้ายังไงขอเชิญ

ไปเยี่ยมชมได้นะครับ

Edited by jerasak, 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 01:13.

[Tam-mic-ra.]

ขอบคุณ  jerasak ครับ    ที่สละเวลาไปค้นคว้าเอาข้อมูลมาให้อ่าน 

ดีกว่าพวกฮาร์ดคอ เอาแต่ด่าๆๆ  แบบพวกเมากาวหลายๆคนในที่นี้      อ่านแล้วไม่ได้ประโยชน์อะไร  ได้แต่นั่งขำ

 

แปะลิ๊งให้นะครับ http://webboard.seri...กี่ยวกับ-การปร/

 

กำลังอ่านและหาทางจับผิดอยู่ครับ     

Edited by Tam-mic-ra., 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 22:13.

[Stargate-1]

ขอบคุณ  jerasak ครับ    ที่สละเวลาไปค้นคว้าเอาข้อมูลมาให้อ่าน 

ดีกว่าพวกฮาร์ดคอ เอาแต่ด่าๆๆ  แบบพวกเมากาวหลายๆคนในที่นี้      อ่านแล้วไม่ได้ประโยชน์อะไร  ได้แต่นั่งขำ

 

แปะลิ๊งให้นะครับ http://webboard.seri...กี่ยวกับ-การปร/

 

กำลังอ่านและหาทางจับผิดอยู่ครับ     

 

มีบ.ไหนที่ฟื้นฟูกิจการแล้ว เจ้าหนี้ได้เงินคืนเต็มร้อยบ้าง อย่างน้อยก็โดนแฮร์คัดไปแล้วเกือบครึ่ง บางราย ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย อีกต่างหาก  ยิ่งเป็นบ้านจัดสรรแล้ว เจ้าหนี้ ที่เป็นลูกค้าซื้อบ้านไป ได้คืนคนละร้อยคนละพันบาทมั้ง

Edited by Stargate-1, 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 08:24.

[น้ำหวาน]

ฟ้อง ชวน เลยครับ อยากเห็นชวนติดคุก ปรส.

[PHOENiiX]

ดันค่ะ เห็นมีคนพล่านเรื่องคดี ปรส

[ม่านน้ำ]

ดันค่ะ เห็นมีคนพล่านเรื่องคดี ปรส

มันเข้ามาอ่านแล้วจะเข้าใจหรือเปล่าก็ไม่รู้นะครับ

เห็นมาดิ้นๆ แถกๆ โดยไม่พยายามเข้าใจอะไรเลย

[Fc.คุณตั๊น]

เข้ามาหาความรู้และดูแดงโชว์ "โง่"

[nhum]

จัดไป ดันกระทู้ดีๆมีสาระไว้ด้วยคน

[SINANJU]

อยากจะบอกว่าอ่านมานานแล้ว ดูวีดีโอด้วย พร้อมหาข้อมูลเองเพิ่มเติมเพื่อเช็คที่เคยเข้าใจผิด จนตอนนี้ยังไม่จบซักที มหากาพย์มากนึกว่าอ่านอยู่คนเดียว

[Bayonet]

มาเน้นให้เห็นชัดๆ

 

ซึ่งเรื่องนี้ทั้งหมดเกิดขึ้นในสมัย นาย ชวน หลีกภัยเป็น นายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปปัตย์ที่มีส่วนรู้เห็น คงไม่อาจเล่นบทปัดความรับผิดชอบที่ตัวเองถนัดได้ ถึงเวลาเวรกรรมตามทัน เพราะเป็นการขายชาติอย่างมหาศาล ขายให้ต่างชาติโดยไม่เปิดโอกาสให้เจ้าของซื้อคืน ในราคาเพียง 20 เปอร์เซนต์ และให้ต่างชาติขายคืนในราคาที่สูงกว่า ถึง 60 -70 เปอร์เซนต์ ถึงเวลาคนขายชาติตัวจริงต้องชดใช้กรรมแล้ว!!!

แต่ทว่า ในยุคทหารครองเมืองแบบนี้ อาจเป็นเพียงเกมส์ต่อรองทางการเมืองเท่านั้นขนาดสื่อมวลชนยังไม่มีการตีข่าว ใหญ่เหมือนตอนรัฐบาลทักษิณถูกกล่าวหาเลย ทั้งที่เรื่องนี้เป็นการขายชาติครั้ง มโหฬาร หากเป็นแบบนั้นเราคนไทยคงต้องกู้ชาติกันจริงๆ แล้ว!!!

 

 

แปลกเนอะ

คดีนี้ รัฐบาลเพื่อไทย เงียบกริ๊บเลย

มัยแต๋มไม่บอกให้เขาเล่นงานชวนล่ะ

 

แล้ว ปรส. ทำอิ๊บอ๋ายขนาดนี้ พรรคเพื่อไทยเคยมีนโยบายเรื่องนี้ออกมาหรือเปล่า....กร๊าก

 

ช่วยเน้นคอมเม้นคำตอบให้  เดี๋ยวคนแถมันไม่เห็น 

 

และเป็นความถนัดที่ฝังอยู่ในสายเลือด ถ่ายทอดทางพันธุกรรม  ของบรรดาควายแดง ดักดาน ทั้งหลาย

 

คืออะไรที่มัน จนแต้มขนาดไม่สามารถเล่นทางประเด็นกฏหมาย  ได้แน่นอน

 

มันจะใช้วิธี  เผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนทางสื่อเครือข่ายของมันแทน   เช่น ทหารเอาศพไปซ่อน ไปทิ้งทะเล อะไรแบบนั้นแหละ
 

Edited by Bayonet, 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 13:31.