อยากชี้ให้เห็นว่าเป็นปัญหาเรื่องการทำตามคำพิพากษา ไม่ใช่เรื่องการตีความคำตัดสิน
ปํญหาที่แท้จริง คือ กัมพูชาได้ทำความเข้าใจกับคำตัดสินเรื่องเขตแดนหรือไม่
กพช ได้พยายามอย่างต่อเนื่องให้ไทยถอนกำลัง แต่ทั้งสองฝ่ายต้องเคารพเขตแดนทั้งสองฝ่าย
เมื่อไทยได้ถอนกำลังออกมาแล้ว การที่ศาลจะสั่งให้ถอนออกมาอีกก็ทำไม่ได้
เขตแดนที่เป็นปัญหาคือสองสามเมตรที่ประมุขของกพชพูดเองว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ
แสดงว่าทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีปัญหาเรื่องคำตัดสิน แต่เป็นเรื่องการปฏิบัติตามพันธกรณี กพชก็ไม่เคยแย้งไทยเรื่องการปฏิบัติการ ตั้งแต่ปี 60
ที่เห็นตรงกันคือการต้องแปลความทั้งสามววรคมาใช้ปฏิบัติ
สิ่งที่เห็นต่างกัน คือการยอมรับเรื่องเขตแดน กพช บอกว่าไทยยอมรับเขตแดนแล้ว แต่ไม่เป็นเช่นนั้นเลย
เราไม่มีปัญหาเรื่องตัวปราสาทที่อยู่ในดินแดนของกพชตามข้อหนึ่ง ทหารต้องถอนกำลังออกไปตามข้อสอง ก็ชัดเจน ไม่ต้องตีความอีก
การขอตีความใหม่ครั้งนี้จำเป็นหรือไม่ ไทยขอแย้งว่า กพช ไม่เคยยกประเด็นเรื่องเขตแดนมาตั้งแต่แรก ศาลก็ได้บอกว่าคำขอใหม่ไม่สามารถนำมาแถลงได้ในครั้งนี้ ซึ่งกพช ก็เงียบ การขอตีความใหม่ ยื่นเป็นครั้งที่สี่ เป็นการเอาคำตัดสินที่ชัดเจนไปแล้วมาอ้างซ้ำ ซึ่งไม่ใช่ตรรกะที่ศาลจะรับคำร้องของกพช เพราะ ศาลสามารถบอกได้ชัดเจนเรื่องเขตแดนปราสาทมาเรียบร้อยแล้ว ตามข้อบทวรรคหนึ่งวรรคสอง เห็นได้ว่าไม่มีข้อใดเป็นปัญหาพิพาทตามข้อปฎิบัติการนั้นเลย ถ้าศาลยอมรับคำร้องแสดงว่าเป็นการเกินขอบเขตการตีความที่กพช ได้ร้องขอในตอนนั้น ไม่มีเหตุที่จะมาสร้างเขตแดนขึ้นมาใหม่ เมือเหตุผลที่ใช้ประกอบการตีความมีครบหมดแล้ว และเส้นแบ่งเขตไม่มีการตัดสินในปีนั้น
ดังนั้นศาลควรจะปฏิเสธการรับคำร้อง ขอบคุณครับ
Edited by เรื่อยๆเอื่อยๆ, 19 เมษายน พ.ศ. 2556 - 20:32.