Jump to content


Photo
- - - - -

มหา'ลัย มหาหลอก? เมื่อป.ตรีเตะฝุ่นทะลุแสน!


  • Please log in to reply
117 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 จันทรา อุษาคเนย์

จันทรา อุษาคเนย์

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 341 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 16:09

556000006139401.JPEG

 

ทะลุแสน! คนไทยจบปริญญาตรีเตะฝุ่นมากที่สุด...เป็นหัวข้อข่าวที่กลายเป็นประเด็นทางสังคม และถูกตั้งคำถามต่อระบบการศึกษา และทวงถามการเรียนรู้ที่แท้จริงของมนุษย์ เพราะที่ผ่านมา การศึกษาไทยมีแนวโน้มจะดําเนินงานในเชิงธุรกิจที่มุ่งแสวงหากําไรมากขึ้น ทำให้มหาวิทยาลัยหลาย ๆ แห่งได้รับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงคุณภาพการเรียนการสอน และถูกมองว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นเรื่องเงินตรามากกว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยแห่งปัญญาอย่างที่ควรจะเป็น
       
        ร่ำเรียนแทบตาย สุดท้ายตกงาน!
       
        "มหาลัย มหาหลอก เด็กชายบ้านนอก เด็กหญิงบ้านนารํ่าเรียนรู้ในวิชา แต่จบออกมายังไม่มีงานทํา ไม่มีงานก็ไม่มีเงิน ออกเดินเดินเดินยํ่าสมัครงานสอบเท่าใดยังสอบไม่ผ่าน มันหัวปานกลาง เขาเอาแต่หัวดีๆ มีความรู้สู้เขาไม่ได้ เส้นเล็กเส้นใหญ่ เส้นก๋วยจั๊บไม่มี นามสกุลไม่สง่าราศี เป็นลูกตามี เป็นแค่หลานยายมา อนาคตคงหมดความหมาย"
       
        บทเพลง "มหาลัย" ของคาราบาว ที่สะท้อนถึงหัวอกบัณฑิตหลาย ๆ คนในยุคนี้ได้เป็นอย่างดี
       
        ล่าสุด มีข้อมูลที่น่าตกใจจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีมติรับทราบสรุปผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2556 ที่ผ่านมา พบว่า ผู้มีการศึกษาระดับอุดมศึกษา ตกงานมากที่สุดถึง 1.13 แสนคนเลยทีเดียว
       
        ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น อาจบอกเป็นนัยๆ ว่า ใบปริญญาไม่สามารถเอาไปเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สมัครงานซึ่งทำได้ง่ายๆ เหมือนสมัยก่อนอีกแล้ว
       
        นอกจากนี้ยังมีเรื่องของกระแสวิจารณ์ของผู้จ้างบัณฑิตถึงการไม่มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานที่ควรจะเป็นเมื่อเข้าไปทํางานจริง ทําให้วันนี้สังคมไทยเริ่มตั้งคําถามเรื่องคุณภาพบัณฑิตของมหาวิทยาลัยว่าสูงขึ้นหรือตกต่ำลงท่ามกลางปริมาณที่เพิ่มขึ้นเป็นจํานวนมากของผู้จบการศึกษา ซึ่สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ได้กลายเป็นประเด็นปัญหาของระบบการศึกษาไทยในยุคปัจจุบันไปแล้ว
       
        ดร.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์ กรรมการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาแห่งชาติ ในฐานะนักวิชาการด้านการศึกษา ให้ข้อมูลว่า ทุกวันนี้มีคนจบปริญญาตรีประมาณปีละ 5 แสนกว่าคน (ปี 2554 เป็นยุคปริญญาล้นประเทศ ซึ่งมีมากถึง 6 แสนคนเลยทีเดียว) ปัจจุบันมีบัณฑิตจบใหม่มากมายที่หางานทำไม่ได้ หรือบางคนที่รองานไม่ไหวก็ต้องไปทำงานไม่ตรงวุฒิ หรือต่ำกว่าวุฒิแทน 
       
        สำหรับสายที่ผลิตบัณฑิตล้นตลาดมากที่สุดคือ สายศิลป์ เช่น สังคมศาสตร์ นิเทศศาสตร์ รัฐศาสตร์ เป็นต้น รองลงมาเป็นสายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งคนที่เก่งจริง ๆ ถึงจะหางานได้ ส่วนสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ เป็นสาขาที่จะมีตลาดงานรองรับแน่นอน เช่น แพทย์ เภสัชกร ทันตแพทย์ เทคนิคการแพทย์ พยาบาล เป็นต้น
       
        แย่ที่มหา'ลัย หรือห่วยที่ตัวบัณฑิต
       
        ปัญหาที่เกิดขึ้น มีหลายความเห็นแตกต่างกันออกไป บ้างก็โทษไปที่มหาวิทยาลัยว่าไม่มีคุณภาพเพียงพอที่จะผลิตบัณฑิตให้จบออกมาอย่างสอดคล้องกับตําแหน่งงานที่มีอยู่ในระบบเศรษฐกิจ หรือตัวเลขว่างงานจำนวนมาก ๆ ในแต่ละปี เป็นเพราะบัณฑิตเองที่ไม่ขวนขวาย และพัฒนาคุณค่าให้ตัวเอง
       
        มาดูกันที่มหาวิทยาลัย หากมองในภาพความเป็นจริง หลาย ๆ แห่งมีการปรับเปลี่ยนตัวเองไปสู่รูปแบบธุรกิจการศึกษามากขึ้น ซึ่งบางแห่งเราคงต้องยอมรับว่า มีการฉวยโอกาสที่จะแสวงหากําไรจนบางครั้งอาจส่งผลต่อ คุณภาพทั้งระบบการเรียนการสอน ผู้เรียนและตัวบัณฑิตที่จบการศึกษา
       
        ดร.วิริยะ ชี้ให้เห็นว่า มหาวิทยาลัยจำนวนไม่น้อย แย่ง และแข่งกันรับนักเรียนให้เข้ามาเรียน แต่ไม่ได้พิจารณา และให้ความสำคัญกับรากฐานปรัชญาของความเป็นสถาบันแห่งสติปัญญาของสังคมที่จะผลิตบัณฑิตออกสู่ตลาดงานอย่างมีทักษะ
       
        "บางแห่งผลิตบัณฑิต 2 ล้อ เน้นแค่จำ และวิเคราะห์เป็น แต่ไม่ได้ออกแบบการเรียนการสอนให้เด็กรู้จักวิธีสื่อสาร คิดสร้างสรรค์ ไม่แปลกที่บัณฑิตยุคใหม่หลายคนจะมีคุณสมบัติเป็นบัณฑิตที่เชื่อฟังอย่างยิ่งยวด เป็นหุ่นยนต์ที่ต้องคอยป้อนคำสั่งอย่างเดียว จบออกมาก็แบบซิกแซ็ก หวังว่าใบปริญญาจะช่วยการันตีได้ แต่เข้าไปทำงานแล้วกลับทำไม่ได้ตามคุณค่าที่การันตีในใบปริญญา เมื่อทำไม่ได้ ก็อยู่ไม่ได้ ตรงนี้อันตรายมากๆ" นักวิชาการด้านการศึกษาขยายความ
       
        คุณภาพไม่ถึง ใครเขาจะเอา!
       

        กระนั้น ใช่ว่าจะโทษมหาวิทยาลัยเพียงฝ่ายเดียว เพราะผู้ชี้ชะตาว่าจะตกงานหรือไม่ คือตัวผู้เรียนเอง โดยปัญหาใหญ่ ที่นักวิชาการด้านการศึกษาท่านนี้เป็นห่วง ก็คือ บัณฑิตหลายคนยังไม่รู้ว่าตัวเองมีดีอะไร นี่คือตัวการสำคัญว่าทำไมบัณฑิตหลาย ๆ คนตกงาน และไม่มีงานทำ
       
        "เข้าปี 1 ก็หางานทำได้แล้ว แต่ปัญหาคือ หลายคนไม่รู้ว่าตัวเองมีดีอะไร ประมาณว่า รู้ทุกเรื่อง แต่ไม่รู้เรื่องตัวเอง ทางที่ดี ไม่ใช่มัวแต่ เรียน สอบ และ เที่ยวไปวันๆ แต่ต้องรู้จักพัฒนาคุณค่าในตัวเองด้วย" นักวิชาการด้านการศึกษาคนเดียวกันเผย
       
        แต่เหนือสิ่งอื่นใด คนจะตกงานหรือไม่นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่การเลือกสาขาไม่ตรง แต่อยู่ที่ตัวบัณฑิตเองว่า มีคุณสมบัติที่พึงประสงค์ต่อความต้องการในโลกการทำงานเพียงพอแล้วหรือไม่ เช่น ความขยัน ความอดทน ความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ ความคิดสร้างสรรค์ เป็นต้น
       
        ทางออก ลดบัณฑิตเตะฝุ่น
       
        สำหรับทางออกของเรื่องนี้ ดร.วิริยะ พยายามพูด และนำเสนอมาตลอดว่า อุดมศึกษาไทยต้องมองตลาดงานในประเทศในภูมิภาค และในโลก แล้วร่วมมือกันพัฒนาหลักสูตรสาขาใหม่ๆ ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง และสอดคล้องกับตลาดงาน ไม่ใช่เดินผิดที่ผิดทาง มุ่งแต่จะแย่งรับนักศึกษา หรือแย่งกันแข่งขัน โดยขาดการมองไปข้างหน้า
       
        "เปิดรับกันมากมายในสาขาที่เหมือนๆ กันทุกมหาวิทยาลัย พอจบมาแล้วบัณฑิตจะไปทำอะไรกัน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่กระเตื้องกันนะ อย่างสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ก็เริ่มตระหนักแล้ว แต่มหาวิทยาลัยหลายแห่งยังมีอิสระกันอยู่มาก ต่างคนต่างสบาย ไม่เห็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไร นี่แหละปัญหา เรียนแบบเดิม ๆ จดกันเข้าไป เน้นแต่การแข่งขัน แข่งกันไปตาย (ในโลกการทำงาน) จบออกมาก็ไม่มีทักษะอื่น ๆ ไว้นำไปใช้ในการทำงาน" นักวิชาการด้านการศึกษาให้ทัศนะ พร้อมกับฝากไปถึงมหาวิทยาลัยไทยหลาย ๆ แห่งว่า
       
        "ส่วนตัวคิดว่า เงินเพื่อการอยู่รอด มันเป็นอดีตไปแล้ว ยุคนี้ มีคุณค่าถึงจะอยู่รอด โดยสร้างคุณค่าให้แก่มหาวิทยาลัย และตัวนักศึกษา เน้นให้ปัญญา ไม่ใช่รับเงินแล้วจบ เมื่อเป็นแบบนี้ ไม่มีใครทิ้งคุณหรอก แต่ถ้ามัวแต่มุ่งปั้มใบปริญญาแจก แจก สักวันสังคมทิ้งคุณแน่ เมื่อเป็นเช่นนี้ อีก 30 ปี คนไทยจะไปใช้แรงงานในพม่าก็อย่ามาว่าก็แล้วกัน" 
       
        คล้ายกันกับแนวทางของ รศ.ดร.ยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ผู้อำนวยการวิจัยการพัฒนาแรงงาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ที่เคยออกมาเผยถึงแนวทางแก้ปัญหาบัณฑิตปริญญาตรีตกงานกว่า 1 แสนคนต่อปีว่า ระบบอุดมศึกษาไทยในปัจจุบันใช้เวลาเรียน 4 ปี ทั้งนี้ ช่วงที่เรียนชั้นปีที่ 1-2 มหาวิทยาลัยต่างๆ จะต้องจัดการศึกษาโดยเน้นพัฒนาความรู้ความสามารถของนักศึกษาเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ตลาดแรงงาน เช่น ความรู้และทักษะอาชีพในสาขาวิชาที่เรียน ทักษะภาษาอังกฤษและภาษาอาเซียน หลังจากนั้นเมื่อเรียนชั้นปีที่ 3 จะต้องสำรวจว่าถึงความต้องการของนักศึกษาแต่ละคนแต่ละสาขาภายในมหาวิทยาลัยว่า เมื่อเรียนจบแล้วต้องการจะไปประกอบอาชีพอะไรบ้าง
       
        เมื่อได้ข้อมูลข้างต้นแล้วทางมหาวิทยาลัยก็ประสานไปยังสถานประกอบการด้านต่างๆเพื่อหาข้อมูลว่าสถานประกอบการต้องการบัณฑิตที่มีความรู้และทักษะอาชีพอย่างไรบ้างแล้วเติมเต็มความรู้ในการประกอบอาชีพดังกล่าวให้แก่นักศึกษาเมื่อเข้าสู่ชั้นปีที่ 4 เพื่อจะได้มีความรู้ความสามารถรอบด้านและสอดคล้องกับความต้องการของสถานประกอบการ เพื่อที่เมื่อเรียนจบแล้ว จะสามารถทำงานได้ทันที สถานประกอบการไม่ต้องเสียเวลาไปฝึกงานให้เพิ่มเติม
       
        "การแก้ปัญหาระยะยาว รัฐบาล ศธ.และสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ ควรร่วมมือกับภาคธุรกิจ สถานประกอบการต่างๆปรับแผนการผลิตบัณฑิตจากปัจจุบันสัดส่วนการผลิตบัณฑิตสายศิลปศาสตร์และสังคมศาสตร์อยู่ที่ 70% และสายวิทยาศาสตร์อยู่ที่ 30% เปลี่ยนเป็นผลิตบัณฑิตสายศิลปศาสตร์และสังคมศาสตร์ สายวิทยาศาสตร์ให้อยู่ที่สายละ 50% โดยเพิ่มสัดส่วนการผลิตบัณฑิตสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการวิจัยให้มากขึ้น รวมทั้งเร่งพัฒนาทักษะการประกอบอาชีพและภาษาต่างประเทศและภาษาอาเซียนให้แก่บัณฑิตปริญญาตรีและแรงงานไทยในทุกสาขาด้วย" 
       
        ถึงตอนนี้ ไม่เพียงแต่มหาวิทยาลัยไทยที่จะต้องกลับมาตระหนักเพื่อทบทวนการทำหน้าที่ผลิตบัณฑิตอย่างจริงจังมากกว่าจะไปมุ่งแสวงหากําไรอย่างเดียวเหมือนที่บางแห่งคิดผลิตหลักสูตร “เรียนง่ายจบเร็ว” ตัวผู้เรียนที่กำลังจะออกไปสู่โลกของการทำงานเองก็ต้องปรับตัวด้วยเหมือนกัน 
       
        ...เพราะถ้าคิดเพียงอยากได้ใบปริญญาแต่จบออกไปอย่างคนที่ไม่มี "ปัญญา" เตรียมสะกดคำว่า "ตกงาน" รอไว้ได้เลย
       
       ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live



#2 ดอกปีบ

ดอกปีบ

    ^-^นางสิงห์สีฟ้า^-^

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,681 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 16:12

ฉันเยาว์ ฉันเขลา ฉันทึ่ง


ฉันจึงมาหาความหมาย


ฉันหวังเก็บอะไรไปมากมาย


สุดท้ายให้กระดาษฉันแผ่นเดียว
 

---------------------------------

บทกวีจากวิทยากร เชียงกูล


Edited by ดอกปีบ, 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:04.

ดอกไม้งามมีหนามแหลม ใช่บานแย้มให้คนชม บานไว้เพื่อสะสม ความอุดมแห่งผืนดิน...


#3 kop16

kop16

    U will never walk alone.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,507 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 16:13

รอปี 2558 เป็น AEC งานเพียบ ครับ


If you try hard enough, you can be whatever you want to be.


#4 จันทรา อุษาคเนย์

จันทรา อุษาคเนย์

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 341 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 16:37

กว่าจะถึงตอนนั้น ก็เล็มหญ้าข้างทางไปพลาง ๆ ก่อนเหรอคะ 

 

หรือว่าไปรับอีเวนที่มีระลึกกันแทบทุกเดือน 



#5 อมพระมาพูด

อมพระมาพูด

    ไอ้มดแดง V 5 สู้ว้อย

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,701 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 16:44

รอปี 2558 เป็น AEC งานเพียบ ครับ

แค่สัมพลาดภาษาอังกฤษ ก็ตาย5กันหมด มีกี่มหาลัยที่ทำได้ เฮอะกาจั๊ว ? สัมพลาดภาษาอังกฤษกาจั๊วพูดได้ป่าว?

Edited by อมพระมาพูด, 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 16:45.

The wise man doubts often, and his views are changeable.The fool is constant in his opinions, and doubts nothing,because he knows everything, except his own ignorance (Pharaoh Akhenaton, c.1250BCE)

#6 kokkai

kokkai

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,237 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 16:59

ฉันเยาว์ ฉันเขลา ฉันทึ่ง


ฉันจึงมาหาความหมาย


ฉันหวังเก็บอะไรไปมากมาย


สุดท้ายให้กระดาษฉันแผ่นเดียว
 

 

บทกวีจากวิทยากร เชียงกูล

 

ไม่เคยล้าสมัย



#7 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:02

ฉันเยาว์ ฉันเขลา ฉันทึ่ง


ฉันจึงมาหาความหมาย


ฉันหวังเก็บอะไรไปมากมาย


สุดท้ายให้กระดาษฉันแผ่นเดียว
 

 

บทกวีจากวิทยากร เชียงกูล

 

<_<  ได้มาก็กองอยู่ตรงนั้น... เพราะวันนี้ฉันไปด้วยปริญญาชีวิต...

 

-_-  กระดาษแผ่นเดียวใช้ครั้งเดียวตอนเปิดประตูโอกาส... ที่เหลือน้อยลงไปทุกทีๆ... ในวันนี้...


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#8 อาบังคนเหนือ

อาบังคนเหนือ

    สมาชิกระดับรากหญ้า

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,535 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:09

กระผมว่างานมีเยอะแยะนะ....แต่เด็กจบใหม่เดี๋ยวนี่มันเลือกมากเกินไป อยู่ที่ไหนก้อไม่อดทน ดุนิดว่าหน่อย น้อยใจลาออก ...........เงินเดือนน้อย งานหนัก อยากสบายเป็นเจ้าของเอง....รีบออกมาทำเอง ทั้งที่ประสบการณ์ช่างน้อยนิด สังคมเดี๋ยวนี้ มีแต่เขี้ยวๆทั้งนั้นแข่งขันกันแทบทุกแห่ง.....ไม่ลองเป็นลูกน้องเค้าก่อนแล้วจะเป็นงานได้ยังงัย


"ดาบวิเศษแสนคมอยู่ในมือลิงย่อมไร้ประโยชน์_กลับกัน_ยอดฝีมือที่บรรลุแล้ว ใช้กิ่งไม้ไผ่ก็ฆ่าคนได้ "


#9 ryukendo

ryukendo

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,383 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:14

ยุคทรราชเป็นใหญ่ คนรวยคือคนดี ดังนั้น.......ใครเข้มแข็งก็อยู่รอด อ่อนแอก็ต้องตาย โง่ฉิกหายได้เป็นนายก :lol:


บ้านเมืองไม่ใช่ของเล่นที่จะทำพังแล้วร้องไห้ขออันใหม่

#10 คนสับปรับ

คนสับปรับ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,410 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:17

เปิดaecแล้ว ผมว่า คงมีพม่า เขมร  ลาว เวียดนาม มาปั่นกระทู้ในบอร์ดนี้แน่ครับ เพราะราคาถูกกว่า และอ่านคำด่าภาษาไทยไม่เข้าใจ



#11 sigree

sigree

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,883 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:17

เล่าให้ฟังนิด

 

ผมเชิญอาจาร์ยมาเลย์ท่านหนึ่งมาบรรยายด้านสถาปัตย์

 

ผมจัดคนแปลทั้งภาษามาเลย์ และอังกฤษ ในที่สุดตอนท้ายได้รับการร้องขอจากผู้ร่วมเข้าฟังให้เป็นภาษามาเลย์ เพราะหลายคนเป็นคนท้องถิ่นเข้าใจได้ทันที

 

อาจาร์ยที่เชิญมา แกมาเลย์นะ  แกบอกแปลกๆเพราะปกติแกไม่เคยบรรยายเป็นภาษามาเลย์  แกบรรยายภาษาอังกฤษตลอดแม้แต่ในมาเลย์......

 

บางครั้งผมเกิดคำถามว่า เราส่งเสริมภาษามาเลย์เพื่อรับอาเซียน  เราไปถูกทางแน่นะ



#12 คนทุกที่

คนทุกที่

    ชนชั้นกลาง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,480 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:23

กระผมว่างานมีเยอะแยะนะ....แต่เด็กจบใหม่เดี๋ยวนี่มันเลือกมากเกินไป อยู่ที่ไหนก้อไม่อดทน ดุนิดว่าหน่อย น้อยใจลาออก ...........เงินเดือนน้อย งานหนัก อยากสบายเป็นเจ้าของเอง....รีบออกมาทำเอง ทั้งที่ประสบการณ์ช่างน้อยนิด สังคมเดี๋ยวนี้ มีแต่เขี้ยวๆทั้งนั้นแข่งขันกันแทบทุกแห่ง.....ไม่ลองเป็นลูกน้องเค้าก่อนแล้วจะเป็นงานได้ยังงัย

เด็กสมัยนี้อย่างเป็นอย่างสตีบ จ็อบ น่ะค่ะ อยากออกนอกกรอบ ไม่ต้องเรียนจบก็รวยได้ แต่ไม่ดูว่าตัวเองมีกึ๋นพอรึเปล่า พอโดดออกไปนอกกรอบก็ตาย



#13 แอบดูที่รูเดิม

แอบดูที่รูเดิม

    ขาประจำอำเช็ด!!!

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,025 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:31

เล่าให้ฟังนิด

 

ผมเชิญอาจาร์ยมาเลย์ท่านหนึ่งมาบรรยายด้านสถาปัตย์

 

ผมจัดคนแปลทั้งภาษามาเลย์ และอังกฤษ ในที่สุดตอนท้ายได้รับการร้องขอจากผู้ร่วมเข้าฟังให้เป็นภาษามาเลย์ เพราะหลายคนเป็นคนท้องถิ่นเข้าใจได้ทันที

 

อาจาร์ยที่เชิญมา แกมาเลย์นะ  แกบอกแปลกๆเพราะปกติแกไม่เคยบรรยายเป็นภาษามาเลย์  แกบรรยายภาษาอังกฤษตลอดแม้แต่ในมาเลย์......

 

บางครั้งผมเกิดคำถามว่า เราส่งเสริมภาษามาเลย์เพื่อรับอาเซียน  เราไปถูกทางแน่นะ

 

เรียนถามคุณSigreeครับ

 

กรณีภาษายาวี ถือเป็นภาษากลางในแถบภูมิภาคอินโด มาเล สิงคโปร์ ฟิลิปินส์ ได้ไหมครับ


ทำอาชีพยาม เงินเดือนน้อย ไม่ค่อยมีปัญหากะใคร

#14 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:33

กระผมว่างานมีเยอะแยะนะ....แต่เด็กจบใหม่เดี๋ยวนี่มันเลือกมากเกินไป อยู่ที่ไหนก้อไม่อดทน ดุนิดว่าหน่อย น้อยใจลาออก ...........เงินเดือนน้อย งานหนัก อยากสบายเป็นเจ้าของเอง....รีบออกมาทำเอง ทั้งที่ประสบการณ์ช่างน้อยนิด สังคมเดี๋ยวนี้ มีแต่เขี้ยวๆทั้งนั้นแข่งขันกันแทบทุกแห่ง.....ไม่ลองเป็นลูกน้องเค้าก่อนแล้วจะเป็นงานได้ยังงัย

เด็กสมัยนี้อย่างเป็นอย่างสตีบ จ็อบ น่ะค่ะ อยากออกนอกกรอบ ไม่ต้องเรียนจบก็รวยได้ แต่ไม่ดูว่าตัวเองมีกึ๋นพอรึเปล่า พอโดดออกไปนอกกรอบก็ตาย

 

คิดต่างเพื่อเอาเท่อย่างเดียว ระวังชีวิตจะไปไม่รอด


ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#15 ramboboy26

ramboboy26

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,532 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:35

สิงคโปร์จากที่ไปเห็นมาแทบไม่พูดภาษายาวีนะครับ มีแต่จีนและอังกฤษ

ส่วนมาเลย์ที่ไม่ใช่เชื้อแขกก็จะพูดจีนครับ 

ผมเห็นมากับตา เจอมากับหู แขกมาเลย์คุยกะจีนมาเลย์เป็นภาษาอังกฤษครับ


กูขอปฏิญาณ ต่อหน้าสถูปสถานศักดิ์สิทธิ์ ต่อหน้าอิฐหินดินทราย ขอจองล้างจองผลาญจนตาย ต่อผู้ทำลาย แผ่นดิน...

#16 sigree

sigree

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,883 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:40

เล่าให้ฟังนิด

 

ผมเชิญอาจาร์ยมาเลย์ท่านหนึ่งมาบรรยายด้านสถาปัตย์

 

ผมจัดคนแปลทั้งภาษามาเลย์ และอังกฤษ ในที่สุดตอนท้ายได้รับการร้องขอจากผู้ร่วมเข้าฟังให้เป็นภาษามาเลย์ เพราะหลายคนเป็นคนท้องถิ่นเข้าใจได้ทันที

 

อาจาร์ยที่เชิญมา แกมาเลย์นะ  แกบอกแปลกๆเพราะปกติแกไม่เคยบรรยายเป็นภาษามาเลย์  แกบรรยายภาษาอังกฤษตลอดแม้แต่ในมาเลย์......

 

บางครั้งผมเกิดคำถามว่า เราส่งเสริมภาษามาเลย์เพื่อรับอาเซียน  เราไปถูกทางแน่นะ

 

เรียนถามคุณSigreeครับ

 

กรณีภาษายาวี ถือเป็นภาษากลางในแถบภูมิภาคอินโด มาเล สิงคโปร์ ฟิลิปินส์ ได้ไหมครับ

ยาวี เป็นตัวอักษร ครับ

 

ดินแดนแถบนี้ใช่มลายูเป็นภาษากลางนานมาก และมีอักษิณเขียนแทนคำมลายูเยอะเช่น เรนจง กาวี  ฯลฯ

 

อักษรที่ใช่เขียนในภาษามลายูปัจจุบันคือ อักษรชวา ยาวี และที่นิยมที่สุดคือ โรมัน(มาเลย์เรียก รูมี อินโดเรียก ลาติน)

 

ถามว่ามลายูเป็นภาษากลางได้ไหม? ผมว่าได้ เพราะผมรู้จัก คนจีนในพื้นที่ชายแดนใต้หลายคนที่ไปถึงสิงคโปรแล้วอยู่ที่นั้นโดยใช่ภาษามลายู

 

แต่

 

เมื่อเป็นเรื่องการค้าและธุรกิจ ทุกคนจะย้อนกลับมาใช่ภาษาอังกฤษทุกคนทุกฝ่าย

 

ผมอยากถามว่าตอนนี้เราพร้อมไหมในภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ  ร่างสัญญาภาษาอังกฤษ ฯลฯ

 

นี้ประเด็นใหญ่กว่าการส่งเสริมภาษามลายู  เอาเท่าที่เรามีฐานบ้างแล้วตอนนี้พร้อมไหม?



#17 แอบดูที่รูเดิม

แอบดูที่รูเดิม

    ขาประจำอำเช็ด!!!

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,025 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:43

ขอบคุณคุณSigreeครับ ได้ความรู้เพิ่มเติมดีทีเดียว


ทำอาชีพยาม เงินเดือนน้อย ไม่ค่อยมีปัญหากะใคร

#18 จีรนุช

จีรนุช

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,934 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:43

เราว่าเด็กไทยพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ไม่ใช่ความผิดมหาวิทยาลัย  มันน่าจะพูดกันได้คล่องกันหมดเเล้วก่อนจบม.6มากกว่า   ส่วนเรื่องของการตกงาน ส่วนหนึ่งไม่ได้เป็นเพราะเด็กมันไม่มีคุณภาพ เเต่มันมีให้เลือกใช้มากเกินไปต่างหาก    พูดไปก็กระทบเจ้าใหญ่นายโตอีก ปล่อยปะละเลย เปิดคณะเปิดสาขากันเยอะ ทั้งภาคเช้าภาคพิเศษ  พอเด็กออกมาไม่ได้งาน ก็ลงไปโทษเด็กว่าไม่มีมาตรฐาน   ให้มันสอบเอาใบกว  มันก็ไปสอบกัน  ถ้าเด็กมันสอบผ่านเเล้วยังบอกไม่ได้มาตรฐาน เเล้วอะไรคือมาตรฐาน  


รำคาญสลิ่มเที่ยมที่เข้ามาปล่อยสารพิษเรียกร้องความรุนเเรงเสดงออกถึงความคลั่งสงครามกลางเมืองยุเเยงสร้างภาพชั่วๆ

เอียนวะ   เห็นคนเเถวนี้ไอคิวต่ำกว่า 90 หรือไง


#19 sigree

sigree

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,883 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:43

ลองฟังดูครับ

นี้ตัวอย่าง เราพร้อมรับคนพวกนี้ไหม? เอาว่าเอาฐานจากภาษาอังกฤษที่เรามี

 

ปล. ผมก็ฟังไม่ค่อยเข้าใจ



#20 yenmanovic

yenmanovic

    สมาชิกรากหญ้า

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,418 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:44

*
POPULAR

ส่วนนึงเพราะคนไทยดูถูกสายอาชีพด้วย

 

คนไทยมองว่าสายอาชีพด้อยกว่าสานสามัญ ทั้งๆที่ความจริงสายอาชีพนี่ล่ะสำคัญ

 

เยอรมัน นี่สร้างชาติมาด้วยสายอาชีพเลยนะ มีเรียนถึงดอกเตอร์เลยด้วย


รักเสื้อแดง แช่งอำมาตย์ อาฆาตม๊ากนาซี ขอเชิญมาร่วมกันที่นี่เลย!!!!!!

 

https://www.facebook.../KawaiiRedshirt


#21 เพลิงสีนิล

เพลิงสีนิล

    สมาชิก ชั้น 7 โฟร์ซีซั่น

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,629 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:44

สิงคโปร์จากที่ไปเห็นมาแทบไม่พูดภาษายาวีนะครับ มีแต่จีนและอังกฤษ

ส่วนมาเลย์ที่ไม่ใช่เชื้อแขกก็จะพูดจีนครับ 

ผมเห็นมากับตา เจอมากับหู แขกมาเลย์คุยกะจีนมาเลย์เป็นภาษาอังกฤษครับ

 

คนสิงคโปร์  พูดภาษาัอังกฤษได้ดีอะครับ    ฟังแล้วชัดเจน   คนรุ่นใหม่ที่อายุไม่เกิน 40 ปี นี่ ภาษาอักกฤษเรียกว่าดี  เลยก็ว่าได้  

 

ส่วนคนมาเลย์  ไม่ว่าคนจีน  หรือ  คนมลายู    เวลาพูดภาษาอักกฤษ  แต่ติดสำเนียงเดิม   คือ  คนจีนก็จะพูดอักกฤษสำเนียงจีน  ซึ่งบางครั้งฟังยาก  คนมาเลย์เองก็เช่นกัน 

แล้ว  

 

ส่วนคนไทยชายแดน อย่างพวกผม   คงไม่ต้องอธิบายนะครับ    รู้ๆ กัน


[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ     เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]


#22 เพลิงสีนิล

เพลิงสีนิล

    สมาชิก ชั้น 7 โฟร์ซีซั่น

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,629 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:50

ลองฟังดูครับ

 

นี้ตัวอย่าง เราพร้อมรับคนพวกนี้ไหม? เอาว่าเอาฐานจากภาษาอังกฤษที่เรามี

 

ปล. ผมก็ฟังไม่ค่อยเข้าใจ

 

เท่าที่ฟังก็ไม่แปล่ง เท่าไรอะครับ    

 

อย่างคน ออสเตรีย  เขาพูดภาษาอักกฤษ  ก็มีสำเนียงถิ่นปนๆ  อยู่เหมือนกัน     คำบางคำก็ทับศัพท์คำพื้นเมือง   

 

ผมว่าสำคัญคือ  สื่อให้เข้าใจกันได้ก็ ok แล้วนะ   


Edited by เพลิงสีนิล, 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:51.

[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ     เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]


#23 idecon

idecon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,580 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 18:02

เราว่าเด็กไทยพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ไม่ใช่ความผิดมหาวิทยาลัย  มันน่าจะพูดกันได้คล่องกันหมดเเล้วก่อนจบม.6มากกว่า   ส่วนเรื่องของการตกงาน ส่วนหนึ่งไม่ได้เป็นเพราะเด็กมันไม่มีคุณภาพ เเต่มันมีให้เลือกใช้มากเกินไปต่างหาก    พูดไปก็กระทบเจ้าใหญ่นายโตอีก ปล่อยปะละเลย เปิดคณะเปิดสาขากันเยอะ ทั้งภาคเช้าภาคพิเศษ  พอเด็กออกมาไม่ได้งาน ก็ลงไปโทษเด็กว่าไม่มีมาตรฐาน   ให้มันสอบเอาใบกว  มันก็ไปสอบกัน  ถ้าเด็กมันสอบผ่านเเล้วยังบอกไม่ได้มาตรฐาน เเล้วอะไรคือมาตรฐาน  


เห็นด้วยครับ
มหาวิทยาลัย เป็นการฝึกฝนเพื่อเตรียมออกไปทำงานตามสายวิชาที่เรียน
ภาษาเพื่อการสื่อสารทั้งอ่านและเขียน ต้องฝึกตั้งแต่เด็ก
ไปฝากไว้แค่4ปี ไม่ทันครับ

#24 คนกินข้าว

คนกินข้าว

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,422 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 18:11

ประชาชนที่ต้องการศึกษาหาความรู้มีเป็นจำนวนมาก

จะให้มหาวิทยาลัยจำกัดการรับ แล้วประชาชนที่เหลือจะให้เขาไปทำอะไร

มหาวิทยาลัยมีหน้าที่สอนให้ความรู้แก่คนทุกคนที่ต้องการความรู้

แต่เรื่องการมีงานทำหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ของรัฐในการสร้างงานให้คน

มหาวิทยาลัยไม่ได้มีหน้าที่ในการหางานให้ทำ


"การเมือง เป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนตน ผลประโยชน์ประชาชน เป็นข้ออ้าง"

#25 อมพระมาพูด

อมพระมาพูด

    ไอ้มดแดง V 5 สู้ว้อย

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,701 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 18:20


เราว่าเด็กไทยพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ไม่ใช่ความผิดมหาวิทยาลัย  มันน่าจะพูดกันได้คล่องกันหมดเเล้วก่อนจบม.6มากกว่า   ส่วนเรื่องของการตกงาน ส่วนหนึ่งไม่ได้เป็นเพราะเด็กมันไม่มีคุณภาพ เเต่มันมีให้เลือกใช้มากเกินไปต่างหาก    พูดไปก็กระทบเจ้าใหญ่นายโตอีก ปล่อยปะละเลย เปิดคณะเปิดสาขากันเยอะ ทั้งภาคเช้าภาคพิเศษ  พอเด็กออกมาไม่ได้งาน ก็ลงไปโทษเด็กว่าไม่มีมาตรฐาน   ให้มันสอบเอาใบกว  มันก็ไปสอบกัน  ถ้าเด็กมันสอบผ่านเเล้วยังบอกไม่ได้มาตรฐาน เเล้วอะไรคือมาตรฐาน

เห็นด้วยครับ
มหาวิทยาลัย เป็นการฝึกฝนเพื่อเตรียมออกไปทำงานตามสายวิชาที่เรียน
ภาษาเพื่อการสื่อสารทั้งอ่านและเขียน ต้องฝึกตั้งแต่เด็ก
ไปฝากไว้แค่4ปี ไม่ทันครับ


คงลำบากอ้ะคับ ระดับประถม มัธยม ในเมืองครูสอนเก่งๆ ยังหาได้น้อยมากเลยคับ ตัว H ถ้ายังอ่าน "เฮ็ดชู่" จบเห่เลยคับ นักการเมืองบ้านเราไม่อยากพัฒนาคนเท่าไหร่กลัว ฉลาด จูงจมูกไม่ได้
The wise man doubts often, and his views are changeable.The fool is constant in his opinions, and doubts nothing,because he knows everything, except his own ignorance (Pharaoh Akhenaton, c.1250BCE)

#26 CanisLupus

CanisLupus

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 770 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 18:24

หากจะให้ไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียน ต้องทำให้ภาษาไทยเป็นภาษาที่สองรองจากอังกฤษครับ ไม่ใช่โยนไปให้ภาษามาเลย์เอาไปกินอีก
 
เพราะหากไม่นับอินโดที่มีประชากรเยอะและเวียดนามที่ไม่มีใครพูด ภาษาไทยน่าจะเป็นภาษาที่มีคน "จำเป็นต้องใช้" มากที่สุดภาษาหนึ่งในอาเซียน
ทั้งลาว เขมร และคนพม่าที่เข้ามาทำงานในเมืองไทย พูดภาษาไทยได้ทุกคน 
 
ในขณะที่เรามองกันเองว่าประเทศไทยห่วย เพื่อนบ้านของเราเขามองด้วยความอิจฉาและชื่นชมในความสำเร็จของเรา และหลายๆ ประเทศมองเราเป็นต้นแบบที่จะเดินตาม 
 
สินค้า made in thailand ถือเป็นสินค้าระดับพรีเมี่ยมของอาเซียน บริษัทไทยปัจจุบันออกไปตั้งสำนักงาน/โรงงาน/takeover ธุรกิจในประเทศต่างๆ ทั่วอาเซียน บริษัทไทยหลายแห่งเป็นบริษัทที่มีคนอยากเข้าทำงานมากที่สุดในหลายประเทศแถบนี้
 
ทำให้ปัจจุบันมีนักเรียนในลาว กัมพูชา พม่า เวียดนาม ขวนขวายเรียนภาษาไทยกันมากขึ้นเพื่อโอกาสในการทำงานกับบริษัทต่างชาติที่มาจากเมืองไทย แม้แต่จึนเองเขาก็เห็นความสำคัญของเมืองไทยในฐานะศูนย์กลางของอาเซียน เขาจึงสนใจศึกษาภาษาไทยมากขึ้นเพื่อเชื่อมต่อกับอาเซียน
 
ส่วนภาษามาเลย์ ผมไม่เห็นความน่าดึงดูดใจสำหรับคนในภูมิภาคนี้เลยที่จะหันไปใช้ แค่มีอินโดที่เขามีประชากรมากกว่าเท่านั้นทำให้มีคนใช้มากกว่า
 
หากเราเอาจริง ขึงขัง ไม่ยกเอาไปให้ภาษามาเลย์อีก ภาษาไทยเราเหมาะสมที่สุดแล้วครับ


#27 sorrow

sorrow

    REFORM BEFORE ELECTION

  • Members
  • PipPipPip
  • 717 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 18:31

 

เล่าให้ฟังนิด

 

ผมเชิญอาจาร์ยมาเลย์ท่านหนึ่งมาบรรยายด้านสถาปัตย์

 

ผมจัดคนแปลทั้งภาษามาเลย์ และอังกฤษ ในที่สุดตอนท้ายได้รับการร้องขอจากผู้ร่วมเข้าฟังให้เป็นภาษามาเลย์ เพราะหลายคนเป็นคนท้องถิ่นเข้าใจได้ทันที

 

อาจาร์ยที่เชิญมา แกมาเลย์นะ  แกบอกแปลกๆเพราะปกติแกไม่เคยบรรยายเป็นภาษามาเลย์  แกบรรยายภาษาอังกฤษตลอดแม้แต่ในมาเลย์......

 

บางครั้งผมเกิดคำถามว่า เราส่งเสริมภาษามาเลย์เพื่อรับอาเซียน  เราไปถูกทางแน่นะ

 

เรียนถามคุณSigreeครับ

 

กรณีภาษายาวี ถือเป็นภาษากลางในแถบภูมิภาคอินโด มาเล สิงคโปร์ ฟิลิปินส์ ได้ไหมครับ

ยาวี เป็นตัวอักษร ครับ

 

ดินแดนแถบนี้ใช่มลายูเป็นภาษากลางนานมาก และมีอักษิณเขียนแทนคำมลายูเยอะเช่น เรนจง กาวี  ฯลฯ

 

อักษรที่ใช่เขียนในภาษามลายูปัจจุบันคือ อักษรชวา ยาวี และที่นิยมที่สุดคือ โรมัน(มาเลย์เรียก รูมี อินโดเรียก ลาติน)

 

ถามว่ามลายูเป็นภาษากลางได้ไหม? ผมว่าได้ เพราะผมรู้จัก คนจีนในพื้นที่ชายแดนใต้หลายคนที่ไปถึงสิงคโปรแล้วอยู่ที่นั้นโดยใช่ภาษามลายู

 

แต่

 

เมื่อเป็นเรื่องการค้าและธุรกิจ ทุกคนจะย้อนกลับมาใช่ภาษาอังกฤษทุกคนทุกฝ่าย

 

ผมอยากถามว่าตอนนี้เราพร้อมไหมในภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ  ร่างสัญญาภาษาอังกฤษ ฯลฯ

 

นี้ประเด็นใหญ่กว่าการส่งเสริมภาษามลายู  เอาเท่าที่เรามีฐานบ้างแล้วตอนนี้พร้อมไหม?

 

ผมว่าการเขียนภาษาอังกฤษนี่จะเป็นปัญหาของคนไทยต่อไปในอนาคต

 

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะขาดความรู้เรื่องไวยากรณ์ การเขียนนั้นจำเป็นต้องเขียนให้ถูกต้อง จึงจะสื่อความหมายได้ตรง

 

ยิ่งเป็นเอกสารสำคัญ การเขียนให้ถูกต้อง สื่อความหมายได้ตรงเป็นเรื่องสำคัญมาก

 

อีกส่วนหนึ่งของปัญหามาจากทักษะในการเขียนเพื่อสื่อสาร

 

หลายๆ คน มีปัญหาในการลำดับความคิดและเรียบเรียงออกมาเป็นข้อความให้อ่านแล้วเข้าใจได้ตามต้องการ


ร่วมกันทำลายล้างระบอบทักษิณ-เผด็จการชินวัตรให้หมดไปจากแผ่นดินไทย

 

โลกมนุษย์ย่อมจะดีกว่านี้แน่      เพราะมีผู้ไม่ยอมแพ้แม้ถูกหยัน
คงยืนหยัดสู้ไปใฝ่ประจัญ      ยอมอาสัญก็เพราะปองเทิดผองไทย


#28 eAT

eAT

    ผมเป็นเสื้อแดงฮับ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,589 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 18:39

เราว่าเด็กไทยพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ไม่ใช่ความผิดมหาวิทยาลัย  มันน่าจะพูดกันได้คล่องกันหมดเเล้วก่อนจบม.6มากกว่า   ส่วนเรื่องของการตกงาน ส่วนหนึ่งไม่ได้เป็นเพราะเด็กมันไม่มีคุณภาพ เเต่มันมีให้เลือกใช้มากเกินไปต่างหาก    พูดไปก็กระทบเจ้าใหญ่นายโตอีก ปล่อยปะละเลย เปิดคณะเปิดสาขากันเยอะ ทั้งภาคเช้าภาคพิเศษ  พอเด็กออกมาไม่ได้งาน ก็ลงไปโทษเด็กว่าไม่มีมาตรฐาน   ให้มันสอบเอาใบกว  มันก็ไปสอบกัน  ถ้าเด็กมันสอบผ่านเเล้วยังบอกไม่ได้มาตรฐาน เเล้วอะไรคือมาตรฐาน  


เห็นด้วยครับ
มหาวิทยาลัย เป็นการฝึกฝนเพื่อเตรียมออกไปทำงานตามสายวิชาที่เรียน
ภาษาเพื่อการสื่อสารทั้งอ่านและเขียน ต้องฝึกตั้งแต่เด็ก
ไปฝากไว้แค่4ปี ไม่ทันครับ

 

 

เดี๋ยวนี้ตอนเข้ามหาวิทยาลัย ไม่สอบภาษาอังกฤษแล้วหรือ

ผมยืนยันว่า เรียน ม.6 ภาษาอังกฤษเพียงพอครับ พูดได้ไม่ได้

อยู่ที่ตัวเอง อย่าไปโทษครู ภาษาต้องใช้ทักษะมากกว่าองค์ความรู้

 

 

 

-----------------------------

 

รอคนกางมาโพสต์ว่า

ใครเอาปืนจ่อหัวให้เรียน เรียนมาหางานไม่ได้ ไม่ใชความผิดยิงลัก

โง่เอง ดันอยากเรียน ป.ตรี

 

%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%



#29 CanisLupus

CanisLupus

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 770 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 18:59

เราว่าเด็กไทยพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ไม่ใช่ความผิดมหาวิทยาลัย  มันน่าจะพูดกันได้คล่องกันหมดเเล้วก่อนจบม.6มากกว่า   ส่วนเรื่องของการตกงาน ส่วนหนึ่งไม่ได้เป็นเพราะเด็กมันไม่มีคุณภาพ เเต่มันมีให้เลือกใช้มากเกินไปต่างหาก    พูดไปก็กระทบเจ้าใหญ่นายโตอีก ปล่อยปะละเลย เปิดคณะเปิดสาขากันเยอะ ทั้งภาคเช้าภาคพิเศษ  พอเด็กออกมาไม่ได้งาน ก็ลงไปโทษเด็กว่าไม่มีมาตรฐาน   ให้มันสอบเอาใบกว  มันก็ไปสอบกัน  ถ้าเด็กมันสอบผ่านเเล้วยังบอกไม่ได้มาตรฐาน เเล้วอะไรคือมาตรฐาน  


เห็นด้วยครับ
มหาวิทยาลัย เป็นการฝึกฝนเพื่อเตรียมออกไปทำงานตามสายวิชาที่เรียน
ภาษาเพื่อการสื่อสารทั้งอ่านและเขียน ต้องฝึกตั้งแต่เด็ก
ไปฝากไว้แค่4ปี ไม่ทันครับ

 

 

ถูกครับ ดังนั้นเราจึงควรบังคับโรงเรียนที่มีครู 2 คน นักเรียน 20 คน ให้สอนนักเรียนให้ใช้ภาษาอังกฤษให้ได้

ไม่ว่าเขาจะใช้วิธีอะไรก็แล้วแต่


แต่ห้ามยุบเขาไปเรียนโรงเรียนใหญ่ที่มีครูสอนวิชาภาษาอังกฤษแยกต่างหากโดยเด็ดขาด


Edited by CanisLupus, 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:00.


#30 conservative

conservative

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 762 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:14

ส่วนนึงเพราะคนไทยดูถูกสายอาชีพด้วย
 
คนไทยมองว่าสายอาชีพด้อยกว่าสานสามัญ ทั้งๆที่ความจริงสายอาชีพนี่ล่ะสำคัญ
 
เยอรมัน นี่สร้างชาติมาด้วยสายอาชีพเลยนะ มีเรียนถึงดอกเตอร์เลยด้วย

ตอนนี้บ้านเรามีแต่วิศวกรที่มีใบ กว.

แต่พวกช่างฝีมือหรือโฟร์แมน ดันไม่มีใบประกอบวิชาชีพ

ความก้าวหน้าของหน้าที่การเงินและรายได้ แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ทางภาครัฐควรเริ่มต้นมองปัญหานี้อย่างจริงจังได้แล้ว

#31 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:14

หากจะให้ไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียน ต้องทำให้ภาษาไทยเป็นภาษาที่สองรองจากอังกฤษครับ ไม่ใช่โยนไปให้ภาษามาเลย์เอาไปกินอีก
 
เพราะหากไม่นับอินโดที่มีประชากรเยอะและเวียดนามที่ไม่มีใครพูด ภาษาไทยน่าจะเป็นภาษาที่มีคน "จำเป็นต้องใช้" มากที่สุดภาษาหนึ่งในอาเซียน
ทั้งลาว เขมร และคนพม่าที่เข้ามาทำงานในเมืองไทย พูดภาษาไทยได้ทุกคน 
 
ในขณะที่เรามองกันเองว่าประเทศไทยห่วย เพื่อนบ้านของเราเขามองด้วยความอิจฉาและชื่นชมในความสำเร็จของเรา และหลายๆ ประเทศมองเราเป็นต้นแบบที่จะเดินตาม 
 
สินค้า made in thailand ถือเป็นสินค้าระดับพรีเมี่ยมของอาเซียน บริษัทไทยปัจจุบันออกไปตั้งสำนักงาน/โรงงาน/takeover ธุรกิจในประเทศต่างๆ ทั่วอาเซียน บริษัทไทยหลายแห่งเป็นบริษัทที่มีคนอยากเข้าทำงานมากที่สุดในหลายประเทศแถบนี้
 
ทำให้ปัจจุบันมีนักเรียนในลาว กัมพูชา พม่า เวียดนาม ขวนขวายเรียนภาษาไทยกันมากขึ้นเพื่อโอกาสในการทำงานกับบริษัทต่างชาติที่มาจากเมืองไทย แม้แต่จึนเองเขาก็เห็นความสำคัญของเมืองไทยในฐานะศูนย์กลางของอาเซียน เขาจึงสนใจศึกษาภาษาไทยมากขึ้นเพื่อเชื่อมต่อกับอาเซียน
 
ส่วนภาษามาเลย์ ผมไม่เห็นความน่าดึงดูดใจสำหรับคนในภูมิภาคนี้เลยที่จะหันไปใช้ แค่มีอินโดที่เขามีประชากรมากกว่าเท่านั้นทำให้มีคนใช้มากกว่า
 
หากเราเอาจริง ขึงขัง ไม่ยกเอาไปให้ภาษามาเลย์อีก ภาษาไทยเราเหมาะสมที่สุดแล้วครับ

 

นึกถึงกระทู้นี้เลย

 

  จงพร้อมจะส่งออกภาษาไทยในอาเซียน

http://webboard.seri...อกภาษาไทยในอาเ/


ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#32 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:17

 

เราว่าเด็กไทยพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ไม่ใช่ความผิดมหาวิทยาลัย  มันน่าจะพูดกันได้คล่องกันหมดเเล้วก่อนจบม.6มากกว่า   ส่วนเรื่องของการตกงาน ส่วนหนึ่งไม่ได้เป็นเพราะเด็กมันไม่มีคุณภาพ เเต่มันมีให้เลือกใช้มากเกินไปต่างหาก    พูดไปก็กระทบเจ้าใหญ่นายโตอีก ปล่อยปะละเลย เปิดคณะเปิดสาขากันเยอะ ทั้งภาคเช้าภาคพิเศษ  พอเด็กออกมาไม่ได้งาน ก็ลงไปโทษเด็กว่าไม่มีมาตรฐาน   ให้มันสอบเอาใบกว  มันก็ไปสอบกัน  ถ้าเด็กมันสอบผ่านเเล้วยังบอกไม่ได้มาตรฐาน เเล้วอะไรคือมาตรฐาน  


เห็นด้วยครับ
มหาวิทยาลัย เป็นการฝึกฝนเพื่อเตรียมออกไปทำงานตามสายวิชาที่เรียน
ภาษาเพื่อการสื่อสารทั้งอ่านและเขียน ต้องฝึกตั้งแต่เด็ก
ไปฝากไว้แค่4ปี ไม่ทันครับ

 

 

ถูกครับ ดังนั้นเราจึงควรบังคับโรงเรียนที่มีครู 2 คน นักเรียน 20 คน ให้สอนนักเรียนให้ใช้ภาษาอังกฤษให้ได้

ไม่ว่าเขาจะใช้วิธีอะไรก็แล้วแต่


แต่ห้ามยุบเขาไปเรียนโรงเรียนใหญ่ที่มีครูสอนวิชาภาษาอังกฤษแยกต่างหากโดยเด็ดขาด

ดูอีปู เป็นตัวอย่าง ว่าเรียนจากทีไ่หนมา มีครูแค่ 2 คนหรือเปล่า ทั้งภาษาไทย ทั้งภาษาอังกฤษ ห่วยชิบ....



#33 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:44

ถ้าเราจะเน้นปัญหาคนไทยใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้  และภาษาอังกฤษต้องเริ่มสอนให้เป็นตั้งแต่มัธยม

ผมสามารถบอกได้เลยว่าปัญหาคืออะไร  เพราะผมคือคนหนึ่งที่ตัดสินใจออกจากรร.มัธยมทั้งที่อยู่ปีสุดท้ายเพราะปัญหานี้ครับ

 

ตอนนั้นอายุ 16 กว่า  แต่เล็งเห็นว่าต่อไปภาษาอังกฤษจะกลายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผมก้าวหน้าได้ ไม่ใช่ปริญญา

แล้วรร.ของผมที่ถือว่าอันดับท้อปของประเทศ ให้สิ่งนี้กับผมไม่ได้

เนื่องจากการเรียนการสอนภาษาอังกฤษล้าหลังมาก 

อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาอังกฤษของผม ออกข้อสอบได้ แต่กลับสื่อสารกับฝรั่งเองยังไม่ได้

เครื่องมือที่ใช้สอน ยังใช้เทปแบบ "ฝึกพูดภาษาอังกฤษ"  เสียงแก่ๆ ยานๆ อยู่เลย

บทความภาษาอังกฤษที่ให้เด็กเรียนก็ใช้แค่นสพ.ทำเอง คือ Student Weekly ที่นร.ถูกบังคับซื้อ

 

ผมเลยขอพ่อ ลาออกจากรร.กลางคัน เพื่อมุ่งมั่นสอบเข้ารร.เครืออังกฤษ ที่พูด เขียน และเรียนภาษาอังกฤษ 24 ชม.

แม่ผมเสียใจมาก เพราะหวังให้ลูกได้ปริญญาตรี  พ่อผมพูดประโยคเดียวเอาอยู่ "ถ้าตัดสินใจแล้วให้เลือกเดินตามสิ่งที่เชื่อ"

แต่พ่อก็บอกว่า "ต้องไม่มีคำว่าพลาด  พลาดไม่ได้อีกแล้วนะเพราะเลือกเอง"

 

ที่รร.ใหม่  พวกเราถูกบังคับให้ กิน นอน หายใจ กับตำราภาษาอังกฤษล้วน

สาเหตุทีนร.รร.ใหม่ของผม สามารถสื่อสารด้วยการใช้ศัพท์แสงที่ดีมาก เพราะเราถูกฝึกให้ท่องศัพท์วันละ 30 คำ

ดูน้อยนะครับ  แต่ไม่น้อย  เพราะ... เราต้องท่องศัพท์ภาษาอังกฤษพร้อมจำคำแปลภาษาอังกฤษ

แล้วมายืนหน้าโต๊ะครู  ครูจะ "สุ่ม" ถามเรา  โดยถามคำศัพท์ แล้วให้เราบอกความหมายภาษาอังกฤษ

หรือสุ่มบอกความหมายภาษาอังกฤษ แล้วให้เราเฉลยว่ามันเป็นคำแปลของศัพท์อะไร

จากนั้น ครูจะฝึกให้เรา "สร้างประโยคด้วยคำศัพท์ 30 คำนั้น" ทำแบบนี้ทุกวัน เป็นกิจวัตรทุกคาบเช้าจนเรียนจบ

คิดดูว่ากว่าจะเรียนจบ นักเรียนจะจำศัพท์ได้กี่พันคำ ที่เอาไปใช้ได้ในการติดต่องานของจริง

 

กิจกรรมบนเวที โรงเรียนผมขึ้นชื่อมากว่าโต้วาทีภาษาอังกฤษทีไรชนะทุกที  

เพราะที่รร.จะเรียนเรื่องข่าวสารบ้านเมืองตลอด  มันก็เลย "ทันโลกภายนอก"

กิจกรรมละครของรร. ครูที่รร.ผมเลือกเอาวรรกรรมร่วมสมัยที่คลาสสิกมาแสดงทั้งนั้น

ทำให้ผมรู้จัก เทนเนสซี่ วิลเลียมส์ อย่างเรื่อง "ตุ๊กตาแก้ว The Glass menagerie" ตั้งแต่อายุ 18

เรื่อง "หมอผีครองเมือง" ของอาร์เธอร์ มิลเลอร์ ที่เสื้อแดงชอบเอามาอ้างปาวๆ "ล่าแม่มดๆ" นั่นน่ะ

ผมเล่นละครเรื่องนั้นเป็นภาษาเดิมของต้นฉบับตั้งแต่อายุ 18  แล้ว

 

ขณะที่รร.เก่าผมตอนผมกลับไปหาเพื่อนๆ เพื่อนยังเรียนภาษาอ.จาก Student Weekly อยู่เลย!

 

นี่คือตัวอย่างของการเรียนการสอนที่ "เข้มข้น+เอาจริง" ต่างกันครับ


Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:54.

gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#34 RedAlcohol

RedAlcohol

    น้องเก่า

  • Banned
  • PipPip
  • 123 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:46

พวกช่างฝีมือ เช่นช่างก่อสร้าง ประปา เดินสายไฟ ค่าแรงวันละ 700 กว่าบาท เข้าไปแล้ว สำหรับคนไทย

 

เห็นเหมือนกรรมกร ไส่เสื้อสีน้ำเงินแขนยาว ล้วนมี ไอโฟน กาแลคซี เครื่องละ สองหมื่น ใช้แล้วทุกคน

 

ใครเห็นพวกรถกะบะ ที่คนงานนั่งข้างหลัง นั่นแหละ พวกกรรมกร รวยๆ ทั้งนั้น 



#35 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:47

พวกช่างฝีมือ เช่นช่างก่อสร้าง ประปา เดินสายไฟ ค่าแรงวันละ 700 กว่าบาท เข้าไปแล้ว สำหรับคนไทย

 

เห็นเหมือนกรรมกร ไส่เสื้อสีน้ำเงินแขนยาว ล้วนมี ไอโฟน กาแลคซี เครื่องละ สองหมื่น ใช้แล้วทุกคน

 

ใครเห็นพวกรถกะบะ ที่คนงานนั่งข้างหลัง นั่นแหละ พวกกรรมกร รวยๆ ทั้งนั้น 

ตื่นๆ  :D



#36 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:51

เข้ามาตอบ ลี เพิ่ม

 

ถูกครับ ดังนั้นเราจึงควรบังคับโรงเรียนที่มีครู 2 คน นักเรียน 20 คน ให้สอนนักเรียนให้ใช้ภาษาอังกฤษให้ได้

ไม่ว่าเขาจะใช้วิธีอะไรก็แล้วแต่

 

จะบอกว่า ตอนอยู่รร.เก่า  พวกกลุ่มผมคือเด็กขบถที่เอา "เพลงฝรั่ง" จากวงดังๆมาทำรายงาน "แปลภาษาอังกฤษ"

พวกผมท่องศัพท์จาก "บทสัมภาษณ์นักฟุตบอลอังกฤษ" จากนสพ.เดอะซัน ซึ่งเป็นนสพ.เก่า เราขอจากร้านกาแฟนักท่องเที่ยวมา

 

ทุกอย่างเหล่านี้ หล่อหลอมให้ผมสอบผ่าน pass ชั้นรร.ใหม่  ข้ามปี 1 ไปเรียนปี 2 ได้เลย เพื่อทุ่นเงินค่าเทอมให้พ่อแม่

 

ทั้งหมดผมเป็นหนี้บุญคุณนิตยสารฝรั่งแนวขวัญใจวัยรุ่น และนสพ..มือสองเก่าๆ ทั้งสิ้น

ครูของผมคือบทเพลงของวง Manic Street Preacher (ที่กำลังดังในขณะนั้น) Madonna+U2+Savage Gardenฯลฯ

 

ไม่เกี่ยวกับรร.จะเด่น ดี ดัง รวย มุ่งอังกฤษล้วนแบบที่ลีว่า

 

เพราะรร.เก่าผมก็เด่น ดี ดัง รวยจริง  แต่ไม่ได้ช่วยให้ผมบรรลุความฝันได้


Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:52.

gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#37 คนสับปรับ

คนสับปรับ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,410 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:56

พวกช่างฝีมือ เช่นช่างก่อสร้าง ประปา เดินสายไฟ ค่าแรงวันละ 700 กว่าบาท เข้าไปแล้ว สำหรับคนไทย

 

เห็นเหมือนกรรมกร ไส่เสื้อสีน้ำเงินแขนยาว ล้วนมี ไอโฟน กาแลคซี เครื่องละ สองหมื่น ใช้แล้วทุกคน

 

ใครเห็นพวกรถกะบะ ที่คนงานนั่งข้างหลัง นั่นแหละ พวกกรรมกร รวยๆ ทั้งนั้น 

ที่ไหนจ้างครับ วัน700ผมจะขออาสา สมัครไปทำหน่อย เป็นนายหัวโคตรเหนื่อยเลย



#38 RedAlcohol

RedAlcohol

    น้องเก่า

  • Banned
  • PipPip
  • 123 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:00

พวกช่างฝีมือ เช่นช่างก่อสร้าง ประปา เดินสายไฟ ค่าแรงวันละ 700 กว่าบาท เข้าไปแล้ว สำหรับคนไทย

 

เห็นเหมือนกรรมกร ไส่เสื้อสีน้ำเงินแขนยาว ล้วนมี ไอโฟน กาแลคซี เครื่องละ สองหมื่น ใช้แล้วทุกคน

 

ใครเห็นพวกรถกะบะ ที่คนงานนั่งข้างหลัง นั่นแหละ พวกกรรมกร รวยๆ ทั้งนั้น 

ที่ไหนจ้างครับ วัน700ผมจะขออาสา สมัครไปทำหน่อย เป็นนายหัวโคตรเหนื่อยเลย

บณั

บริษัทที่ติดพวกชายแดน ภาคอีสาน ไงละครับ พวกแรงงานมีฝีมือ เขารับไปทำเลย



#39 CanisLupus

CanisLupus

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 770 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:04

 

 

เราว่าเด็กไทยพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ไม่ใช่ความผิดมหาวิทยาลัย  มันน่าจะพูดกันได้คล่องกันหมดเเล้วก่อนจบม.6มากกว่า   ส่วนเรื่องของการตกงาน ส่วนหนึ่งไม่ได้เป็นเพราะเด็กมันไม่มีคุณภาพ เเต่มันมีให้เลือกใช้มากเกินไปต่างหาก    พูดไปก็กระทบเจ้าใหญ่นายโตอีก ปล่อยปะละเลย เปิดคณะเปิดสาขากันเยอะ ทั้งภาคเช้าภาคพิเศษ  พอเด็กออกมาไม่ได้งาน ก็ลงไปโทษเด็กว่าไม่มีมาตรฐาน   ให้มันสอบเอาใบกว  มันก็ไปสอบกัน  ถ้าเด็กมันสอบผ่านเเล้วยังบอกไม่ได้มาตรฐาน เเล้วอะไรคือมาตรฐาน  


เห็นด้วยครับ
มหาวิทยาลัย เป็นการฝึกฝนเพื่อเตรียมออกไปทำงานตามสายวิชาที่เรียน
ภาษาเพื่อการสื่อสารทั้งอ่านและเขียน ต้องฝึกตั้งแต่เด็ก
ไปฝากไว้แค่4ปี ไม่ทันครับ

 

 

ถูกครับ ดังนั้นเราจึงควรบังคับโรงเรียนที่มีครู 2 คน นักเรียน 20 คน ให้สอนนักเรียนให้ใช้ภาษาอังกฤษให้ได้

ไม่ว่าเขาจะใช้วิธีอะไรก็แล้วแต่


แต่ห้ามยุบเขาไปเรียนโรงเรียนใหญ่ที่มีครูสอนวิชาภาษาอังกฤษแยกต่างหากโดยเด็ดขาด

ดูอีปู เป็นตัวอย่าง ว่าเรียนจากทีไ่หนมา มีครูแค่ 2 คนหรือเปล่า ทั้งภาษาไทย ทั้งภาษาอังกฤษ ห่วยชิบ....

 

 

 

ที่คั่นหู ผมไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้นะ เดี๋ยวคุณก็ว่าผมเลียนายกยิ่งลักษณ์และดูถูกคุณอีก
แต่คุณพูดขึ้นมา ผมก็ขอพูดสักหน่อยก็แล้วกัน อย่าโกรธผมนะ
 
ผมฟังที่ยิ่งลักษณ์ไปปาฐกถาครั้งล่าสุดที่มองโกเลียแล้ว พูดตรงๆ เลยผมว่าภาษาอังกฤษแกน่าจะดีกว่าภาษาอังกฤษคุณนะ
 
ผมคิดว่ายิ่งลักษณ์เขาไม่ได้มีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษมาก เขาจึงมีปัญหาการใช้งานไม่คล่อง ลิ้นพันกันบ้าง แต่ผมว่าสำเนียงเขาที่มองโกเลียดีพอสำหรับการเป็นผู้นำจากประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษประจำวันนะครับ สำเนียงเขาดีกว่าและฟังได้ง่ายกว่าคนสิงคโปร์ทั่วไป เพียงแต่เขาพูดยังไม่คล่องเท่านั้น
 
พื้นฐานภาษาอังกฤษเขาผมว่าน่าจะดีกว่าคุณมาก เขามีความมั่นใจมากพอที่จะปาฐกถาต่อหน้าคนระดับผู้นำของประเทศทั้งห้อง และเขาเข้าใจในเนื้อหาที่เขาพูด
 
ผมไม่คิดว่าคุณที่คั่นหูกล้าที่จะไปปาฐกถาต่อหน้าคนเป็นภาษาอังกฤษให้คนทั้งห้องฟังอย่างที่เขาทำหรอก และผมไม่อยากถามนะว่าคุณเรียนมาจากโรงเรียนไหน  :D 
 
แต่หากนักเรียนไทย ใช้ภาษาอังกฤษได้เท่านายกยิ่งลักษณ์ทุกคน ก็น่าจะเกินพอแล้วนะครับ


#40 CanisLupus

CanisLupus

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 770 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:10

เข้ามาตอบ ลี เพิ่ม

 

 

ถูกครับ ดังนั้นเราจึงควรบังคับโรงเรียนที่มีครู 2 คน นักเรียน 20 คน ให้สอนนักเรียนให้ใช้ภาษาอังกฤษให้ได้

ไม่ว่าเขาจะใช้วิธีอะไรก็แล้วแต่

 

จะบอกว่า ตอนอยู่รร.เก่า  พวกกลุ่มผมคือเด็กขบถที่เอา "เพลงฝรั่ง" จากวงดังๆมาทำรายงาน "แปลภาษาอังกฤษ"

พวกผมท่องศัพท์จาก "บทสัมภาษณ์นักฟุตบอลอังกฤษ" จากนสพ.เดอะซัน ซึ่งเป็นนสพ.เก่า เราขอจากร้านกาแฟนักท่องเที่ยวมา

 

ทุกอย่างเหล่านี้ หล่อหลอมให้ผมสอบผ่าน pass ชั้นรร.ใหม่  ข้ามปี 1 ไปเรียนปี 2 ได้เลย เพื่อทุ่นเงินค่าเทอมให้พ่อแม่

 

ทั้งหมดผมเป็นหนี้บุญคุณนิตยสารฝรั่งแนวขวัญใจวัยรุ่น และนสพ..มือสองเก่าๆ ทั้งสิ้น

ครูของผมคือบทเพลงของวง Manic Street Preacher (ที่กำลังดังในขณะนั้น) Madonna+U2+Savage Gardenฯลฯ

 

ไม่เกี่ยวกับรร.จะเด่น ดี ดัง รวย มุ่งอังกฤษล้วนแบบที่ลีว่า

 

เพราะรร.เก่าผมก็เด่น ดี ดัง รวยจริง  แต่ไม่ได้ช่วยให้ผมบรรลุความฝันได้

 

 

ผึ้งเอ๊ย 

หากคุณเรียนหนองกระโทก นักเรียน 18 ครู 2 คนตั้งแต่เด็กๆ นะ

ตอนคุณอายุ 16 หน่ะ คุณอ่าน A ถีง Z ได้แล้วยังยังไม่รู้เลย

 

ยังไปด่าโรงเรียนเก่าที่เขาสอนคุณมาอีก



#41 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:10

 

 

 

เราว่าเด็กไทยพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ไม่ใช่ความผิดมหาวิทยาลัย  มันน่าจะพูดกันได้คล่องกันหมดเเล้วก่อนจบม.6มากกว่า   ส่วนเรื่องของการตกงาน ส่วนหนึ่งไม่ได้เป็นเพราะเด็กมันไม่มีคุณภาพ เเต่มันมีให้เลือกใช้มากเกินไปต่างหาก    พูดไปก็กระทบเจ้าใหญ่นายโตอีก ปล่อยปะละเลย เปิดคณะเปิดสาขากันเยอะ ทั้งภาคเช้าภาคพิเศษ  พอเด็กออกมาไม่ได้งาน ก็ลงไปโทษเด็กว่าไม่มีมาตรฐาน   ให้มันสอบเอาใบกว  มันก็ไปสอบกัน  ถ้าเด็กมันสอบผ่านเเล้วยังบอกไม่ได้มาตรฐาน เเล้วอะไรคือมาตรฐาน  


เห็นด้วยครับ
มหาวิทยาลัย เป็นการฝึกฝนเพื่อเตรียมออกไปทำงานตามสายวิชาที่เรียน
ภาษาเพื่อการสื่อสารทั้งอ่านและเขียน ต้องฝึกตั้งแต่เด็ก
ไปฝากไว้แค่4ปี ไม่ทันครับ

 

 

ถูกครับ ดังนั้นเราจึงควรบังคับโรงเรียนที่มีครู 2 คน นักเรียน 20 คน ให้สอนนักเรียนให้ใช้ภาษาอังกฤษให้ได้

ไม่ว่าเขาจะใช้วิธีอะไรก็แล้วแต่


แต่ห้ามยุบเขาไปเรียนโรงเรียนใหญ่ที่มีครูสอนวิชาภาษาอังกฤษแยกต่างหากโดยเด็ดขาด

ดูอีปู เป็นตัวอย่าง ว่าเรียนจากทีไ่หนมา มีครูแค่ 2 คนหรือเปล่า ทั้งภาษาไทย ทั้งภาษาอังกฤษ ห่วยชิบ....

 

 

 

ที่คั่นหู ผมไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้นะ เดี๋ยวคุณก็ว่าผมเลียนายกยิ่งลักษณ์และดูถูกคุณอีก
แต่คุณพูดขึ้นมา ผมก็ขอพูดสักหน่อยก็แล้วกัน อย่าโกรธผมนะ
 
ผมฟังที่ยิ่งลักษณ์ไปปาฐกถาครั้งล่าสุดที่มองโกเลียแล้ว พูดตรงๆ เลยผมว่าภาษาอังกฤษแกน่าจะดีกว่าภาษาอังกฤษคุณนะ
 
ผมคิดว่ายิ่งลักษณ์เขาไม่ได้มีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษมาก เขาจึงมีปัญหาการใช้งานไม่คล่อง ลิ้นพันกันบ้าง แต่ผมว่าสำเนียงเขาที่มองโกเลียดีพอสำหรับการเป็นผู้นำจากประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษประจำวันนะครับ สำเนียงเขาดีกว่าและฟังได้ง่ายกว่าคนสิงคโปร์ทั่วไป เพียงแต่เขาพูดยังไม่คล่องเท่านั้น
 
พื้นฐานภาษาอังกฤษเขาผมว่าน่าจะดีกว่าคุณมาก เขามีความมั่นใจมากพอที่จะปาฐกถาต่อหน้าคนระดับผู้นำของประเทศทั้งห้อง และเขาเข้าใจในเนื้อหาที่เขาพูด
 
ผมไม่คิดว่าคุณที่คั่นหูกล้าที่จะไปปาฐกถาต่อหน้าคนเป็นภาษาอังกฤษให้คนทั้งห้องฟังอย่างที่เขาทำหรอก และผมไม่อยากถามนะว่าคุณเรียนมาจากโรงเรียนไหน  :D 
 
แต่หากนักเรียนไทย ใช้ภาษาอังกฤษได้เท่านายกยิ่งลักษณ์ทุกคน ก็น่าจะเกินพอแล้วนะครับ

นี่ รีทาร์ด 

 

คุณรู้ได้ไงครับ ว่าภาษาอังกฤษของยิ่งลักษณ์ดีกว่าผม ในเมื่อคุณยังไม่เคยฟังผมพูดเลย  :lol: จะบอกว่า ผมจบนอก คุณคงไม่เชื่อ อิอิ ผมไม่จำเป็นต้องอวดเหมือนคุณนะ 

แล้วคุณรู้ได้ไงว่า ผมไม่กล้าไปพูดที่ต่อหน้าคนระดับผู้นำของประเทศอื่น ไปอ่านแบบพกโพย อย่ามาพูดกับผมครับ ว่าเก่งกว่าผม ฮา 

ทำเสล่อรู้ไปหมดนะ เผลอๆ สำเนียงคุณกับผม คุณอาจจะแพ้ผมก็ได้นะ เพราะฝรั่งที่ผมไปอยู่ด้วยตอนเรียนที่นั่น ยังบอกว่า สำเนียงผมถ้าไม่มองหน้ายังกับ native speaker  :lol:

 

อ้อ ถ้าอีปู มันเป็นผู้นำประเทศ แล้วพกโพย เรียกคนมาบอกข้างๆ หู ว่า โอบาม่าพูดอะไร ก็ไม่ต้องมาบอกว่า มันเก่งแล้วล่ะ สำหรับคนจบ ป. โท อเมริกา กร๊าก 

ส่วนบอกว่า อีปูมันเข้าใจที่มันพูด คุณรู้ได้ไงว่าที่มันพูด ไม่มีคนแปลไทยให้ฟังก่อน คุณเชือว่า มันร่างปาฐกถาเองหรือ ฮา

 

1ljb9824-new.jpg

48165160e.jpg


Edited by Bookmarks, 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:28.


#42 CanisLupus

CanisLupus

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 770 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:12

 

 

 

 

เราว่าเด็กไทยพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ไม่ใช่ความผิดมหาวิทยาลัย  มันน่าจะพูดกันได้คล่องกันหมดเเล้วก่อนจบม.6มากกว่า   ส่วนเรื่องของการตกงาน ส่วนหนึ่งไม่ได้เป็นเพราะเด็กมันไม่มีคุณภาพ เเต่มันมีให้เลือกใช้มากเกินไปต่างหาก    พูดไปก็กระทบเจ้าใหญ่นายโตอีก ปล่อยปะละเลย เปิดคณะเปิดสาขากันเยอะ ทั้งภาคเช้าภาคพิเศษ  พอเด็กออกมาไม่ได้งาน ก็ลงไปโทษเด็กว่าไม่มีมาตรฐาน   ให้มันสอบเอาใบกว  มันก็ไปสอบกัน  ถ้าเด็กมันสอบผ่านเเล้วยังบอกไม่ได้มาตรฐาน เเล้วอะไรคือมาตรฐาน  


เห็นด้วยครับ
มหาวิทยาลัย เป็นการฝึกฝนเพื่อเตรียมออกไปทำงานตามสายวิชาที่เรียน
ภาษาเพื่อการสื่อสารทั้งอ่านและเขียน ต้องฝึกตั้งแต่เด็ก
ไปฝากไว้แค่4ปี ไม่ทันครับ

 

 

ถูกครับ ดังนั้นเราจึงควรบังคับโรงเรียนที่มีครู 2 คน นักเรียน 20 คน ให้สอนนักเรียนให้ใช้ภาษาอังกฤษให้ได้

ไม่ว่าเขาจะใช้วิธีอะไรก็แล้วแต่


แต่ห้ามยุบเขาไปเรียนโรงเรียนใหญ่ที่มีครูสอนวิชาภาษาอังกฤษแยกต่างหากโดยเด็ดขาด

ดูอีปู เป็นตัวอย่าง ว่าเรียนจากทีไ่หนมา มีครูแค่ 2 คนหรือเปล่า ทั้งภาษาไทย ทั้งภาษาอังกฤษ ห่วยชิบ....

 

 

 

ที่คั่นหู ผมไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้นะ เดี๋ยวคุณก็ว่าผมเลียนายกยิ่งลักษณ์และดูถูกคุณอีก
แต่คุณพูดขึ้นมา ผมก็ขอพูดสักหน่อยก็แล้วกัน อย่าโกรธผมนะ
 
ผมฟังที่ยิ่งลักษณ์ไปปาฐกถาครั้งล่าสุดที่มองโกเลียแล้ว พูดตรงๆ เลยผมว่าภาษาอังกฤษแกน่าจะดีกว่าภาษาอังกฤษคุณนะ
 
ผมคิดว่ายิ่งลักษณ์เขาไม่ได้มีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษมาก เขาจึงมีปัญหาการใช้งานไม่คล่อง ลิ้นพันกันบ้าง แต่ผมว่าสำเนียงเขาที่มองโกเลียดีพอสำหรับการเป็นผู้นำจากประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษประจำวันนะครับ สำเนียงเขาดีกว่าและฟังได้ง่ายกว่าคนสิงคโปร์ทั่วไป เพียงแต่เขาพูดยังไม่คล่องเท่านั้น
 
พื้นฐานภาษาอังกฤษเขาผมว่าน่าจะดีกว่าคุณมาก เขามีความมั่นใจมากพอที่จะปาฐกถาต่อหน้าคนระดับผู้นำของประเทศทั้งห้อง และเขาเข้าใจในเนื้อหาที่เขาพูด
 
ผมไม่คิดว่าคุณที่คั่นหูกล้าที่จะไปปาฐกถาต่อหน้าคนเป็นภาษาอังกฤษให้คนทั้งห้องฟังอย่างที่เขาทำหรอก และผมไม่อยากถามนะว่าคุณเรียนมาจากโรงเรียนไหน  :D 
 
แต่หากนักเรียนไทย ใช้ภาษาอังกฤษได้เท่านายกยิ่งลักษณ์ทุกคน ก็น่าจะเกินพอแล้วนะครับ

นี่ รีทาร์ด 

 

คุณรู้ได้ไงครับ ว่าภาษาอังกฤษของยิ่งลักษณ์ดีกว่าผม ในเมื่อคุณยังไม่เคยฟังผมพูดเลย  :lol: จะบอกว่า ผมจบนอก คุณคงไม่เชื่อ อิอิ 

แล้วคุณรู้ได้ไงว่า ผมไม่กล้าไปพูดที่ต่อหน้าคนระดับผู้นำของประเทศอื่น ไปอ่านแบบพกโพย อย่ามาพูดกับผมครับ ว่าเก่งกว่าผม ฮา 

ทำเสล่อรู้ไปหมดนะ เผลอๆ สำเนียงคุณกับผม คุณอาจจะแพ้ผมก็ได้นะ เพราะฝรั่งที่ผมไปอยู่ด้วยตอนเรียนที่นั่น ยังบอกว่า สำเนียงผมถ้าไม่มองหน้ายังกับ native speaker  :lol:

 

อ้อ ถ้าอีปู มันเป็นผู้นำประเทศ แล้วพกโพย เรียกคนมาบอกข้างๆ หู ว่า โอบาม่าพูดอะไร ก็ไม่ต้องมาบอกว่า มันเก่งแล้วล่ะ สำหรับคนจบ ป. โท อเมริกา กร๊าก

 

 

 

Native Thai Speaker อะสิ  :D 



#43 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:13

ผึ้งเอ๊ย 

หากคุณเรียนหนองกระโทก นักเรียน 18 ครู 2 คนตั้งแต่เด็กๆ นะ

ตอนคุณอายุ 16 หน่ะ คุณอ่าน A ถีง Z ได้แล้วยังยังไม่รู้เลย

 

ยังไปด่าโรงเรียนเก่าที่เขาสอนคุณมาอีก

 

บอกมาซิว่าประโยคไหนที่ผมด่ารร.


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#44 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:18

ผมฟังที่ยิ่งลักษณ์ไปปาฐกถาครั้งล่าสุดที่มองโกเลียแล้ว พูดตรงๆ เลยผมว่าภาษาอังกฤษแกน่าจะดีกว่าภาษาอังกฤษคุณนะ

 

แล้วคุณเคยได้ยินเขาพูดหรือ?  คุณถึง "ตัดสิน" เขาทั้งๆที่ตัวเองก็ยังไม่รู้?

 

 

แต่หากนักเรียนไทย ใช้ภาษาอังกฤษได้เท่านายกยิ่งลักษณ์ทุกคน ก็น่าจะเกินพอแล้วนะครับ

 

พูด Welcome เป็น Overcome ลีก็หลับหูหลับตาเลียจนพื้นเปียกได้

 

 

จะเกาะกระโปรงผู้หญิงไต่เต้า ก็เอาแต่พอหอมปากหอมคอ  ทำมากไปมันดูเหมือนเที่ยวเร่ขายศักดิ์ศรียังไงไม่ทราบ

 


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#45 CanisLupus

CanisLupus

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 770 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:18

ผึ้งเอ๊ย 

หากคุณเรียนหนองกระโทก นักเรียน 18 ครู 2 คนตั้งแต่เด็กๆ นะ

ตอนคุณอายุ 16 หน่ะ คุณอ่าน A ถีง Z ได้แล้วยังยังไม่รู้เลย

 

ยังไปด่าโรงเรียนเก่าที่เขาสอนคุณมาอีก

 

บอกมาซิว่าประโยคไหนที่ผมด่ารร.

 

 

 

"เนื่องจากการเรียนการสอนภาษาอังกฤษล้าหลังมาก "

 

ผมถามว่า หากคุณเรียนหนองกระโทก คุณคิดว่าตอน 16 คุณจะมีความรู้มากพอที่จะอ่านหนังสืออังกฤษออกเหมือนที่คุณมีความรู้จากโรงเรียนที่คุณว่า "การเรียนการสอนภาษาอังกฤษล้าหลังมาก" หรือเปล่า?



#46 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:30

 

 

 

 

 

เราว่าเด็กไทยพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ไม่ใช่ความผิดมหาวิทยาลัย  มันน่าจะพูดกันได้คล่องกันหมดเเล้วก่อนจบม.6มากกว่า   ส่วนเรื่องของการตกงาน ส่วนหนึ่งไม่ได้เป็นเพราะเด็กมันไม่มีคุณภาพ เเต่มันมีให้เลือกใช้มากเกินไปต่างหาก    พูดไปก็กระทบเจ้าใหญ่นายโตอีก ปล่อยปะละเลย เปิดคณะเปิดสาขากันเยอะ ทั้งภาคเช้าภาคพิเศษ  พอเด็กออกมาไม่ได้งาน ก็ลงไปโทษเด็กว่าไม่มีมาตรฐาน   ให้มันสอบเอาใบกว  มันก็ไปสอบกัน  ถ้าเด็กมันสอบผ่านเเล้วยังบอกไม่ได้มาตรฐาน เเล้วอะไรคือมาตรฐาน  


เห็นด้วยครับ
มหาวิทยาลัย เป็นการฝึกฝนเพื่อเตรียมออกไปทำงานตามสายวิชาที่เรียน
ภาษาเพื่อการสื่อสารทั้งอ่านและเขียน ต้องฝึกตั้งแต่เด็ก
ไปฝากไว้แค่4ปี ไม่ทันครับ

 

 

ถูกครับ ดังนั้นเราจึงควรบังคับโรงเรียนที่มีครู 2 คน นักเรียน 20 คน ให้สอนนักเรียนให้ใช้ภาษาอังกฤษให้ได้

ไม่ว่าเขาจะใช้วิธีอะไรก็แล้วแต่


แต่ห้ามยุบเขาไปเรียนโรงเรียนใหญ่ที่มีครูสอนวิชาภาษาอังกฤษแยกต่างหากโดยเด็ดขาด

ดูอีปู เป็นตัวอย่าง ว่าเรียนจากทีไ่หนมา มีครูแค่ 2 คนหรือเปล่า ทั้งภาษาไทย ทั้งภาษาอังกฤษ ห่วยชิบ....

 

 

 

ที่คั่นหู ผมไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้นะ เดี๋ยวคุณก็ว่าผมเลียนายกยิ่งลักษณ์และดูถูกคุณอีก
แต่คุณพูดขึ้นมา ผมก็ขอพูดสักหน่อยก็แล้วกัน อย่าโกรธผมนะ
 
ผมฟังที่ยิ่งลักษณ์ไปปาฐกถาครั้งล่าสุดที่มองโกเลียแล้ว พูดตรงๆ เลยผมว่าภาษาอังกฤษแกน่าจะดีกว่าภาษาอังกฤษคุณนะ
 
ผมคิดว่ายิ่งลักษณ์เขาไม่ได้มีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษมาก เขาจึงมีปัญหาการใช้งานไม่คล่อง ลิ้นพันกันบ้าง แต่ผมว่าสำเนียงเขาที่มองโกเลียดีพอสำหรับการเป็นผู้นำจากประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษประจำวันนะครับ สำเนียงเขาดีกว่าและฟังได้ง่ายกว่าคนสิงคโปร์ทั่วไป เพียงแต่เขาพูดยังไม่คล่องเท่านั้น
 
พื้นฐานภาษาอังกฤษเขาผมว่าน่าจะดีกว่าคุณมาก เขามีความมั่นใจมากพอที่จะปาฐกถาต่อหน้าคนระดับผู้นำของประเทศทั้งห้อง และเขาเข้าใจในเนื้อหาที่เขาพูด
 
ผมไม่คิดว่าคุณที่คั่นหูกล้าที่จะไปปาฐกถาต่อหน้าคนเป็นภาษาอังกฤษให้คนทั้งห้องฟังอย่างที่เขาทำหรอก และผมไม่อยากถามนะว่าคุณเรียนมาจากโรงเรียนไหน  :D 
 
แต่หากนักเรียนไทย ใช้ภาษาอังกฤษได้เท่านายกยิ่งลักษณ์ทุกคน ก็น่าจะเกินพอแล้วนะครับ

นี่ รีทาร์ด 

 

คุณรู้ได้ไงครับ ว่าภาษาอังกฤษของยิ่งลักษณ์ดีกว่าผม ในเมื่อคุณยังไม่เคยฟังผมพูดเลย  :lol: จะบอกว่า ผมจบนอก คุณคงไม่เชื่อ อิอิ 

แล้วคุณรู้ได้ไงว่า ผมไม่กล้าไปพูดที่ต่อหน้าคนระดับผู้นำของประเทศอื่น ไปอ่านแบบพกโพย อย่ามาพูดกับผมครับ ว่าเก่งกว่าผม ฮา 

ทำเสล่อรู้ไปหมดนะ เผลอๆ สำเนียงคุณกับผม คุณอาจจะแพ้ผมก็ได้นะ เพราะฝรั่งที่ผมไปอยู่ด้วยตอนเรียนที่นั่น ยังบอกว่า สำเนียงผมถ้าไม่มองหน้ายังกับ native speaker  :lol:

 

อ้อ ถ้าอีปู มันเป็นผู้นำประเทศ แล้วพกโพย เรียกคนมาบอกข้างๆ หู ว่า โอบาม่าพูดอะไร ก็ไม่ต้องมาบอกว่า มันเก่งแล้วล่ะ สำหรับคนจบ ป. โท อเมริกา กร๊าก

 

 

 

Native Thai Speaker อะสิ  :D 

ผมก็ไม่พูดคำว่า คอ-นก-รีต ล่ะ  :D



#47 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:31

 

ผมฟังที่ยิ่งลักษณ์ไปปาฐกถาครั้งล่าสุดที่มองโกเลียแล้ว พูดตรงๆ เลยผมว่าภาษาอังกฤษแกน่าจะดีกว่าภาษาอังกฤษคุณนะ

 

แล้วคุณเคยได้ยินเขาพูดหรือ?  คุณถึง "ตัดสิน" เขาทั้งๆที่ตัวเองก็ยังไม่รู้?

 

 

>แต่หากนักเรียนไทย ใช้ภาษาอังกฤษได้เท่านายกยิ่งลักษณ์ทุกคน ก็น่าจะเกินพอแล้วนะครับ

 

พูด Welcome เป็น Overcome ลีก็หลับหูหลับตาเลียจนพื้นเปียกได้

 

 

จะเกาะกระโปรงผู้หญิงไต่เต้า ก็เอาแต่พอหอมปากหอมคอ  ทำมากไปมันดูเหมือนเที่ยวเร่ขายศักดิ์ศรียังไงไม่ทราบ

 

มันอยากจะอวดนะครับ ว่ามันจบนอก คนจบนอกในนี้มีครับ แต่เค้าไม่จำเป็นต้องอวดเหมือนมัน  :D



#48 eAT

eAT

    ผมเป็นเสื้อแดงฮับ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,589 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:32

ศูนย์กลางรถเข็น ไม่รู้จักเขา

ดันรู้ว่าภาษาเขาดีไม่ดีอีก

สุดยอดจริงๆ



#49 อมพระมาพูด

อมพระมาพูด

    ไอ้มดแดง V 5 สู้ว้อย

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,701 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:39

อวยกะโม้ ไปวันๆ ภูมิใจญ.ชั่วขายชาติ มากสินะ
The wise man doubts often, and his views are changeable.The fool is constant in his opinions, and doubts nothing,because he knows everything, except his own ignorance (Pharaoh Akhenaton, c.1250BCE)

#50 sorrow

sorrow

    REFORM BEFORE ELECTION

  • Members
  • PipPipPip
  • 717 posts

ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:46

คนเขาคุยกันอยู่ดีๆ ไอ้ลีหมาป่า เ สื อ ก เข้ามาขี้เรี่ยราดอีกแล้ว


ร่วมกันทำลายล้างระบอบทักษิณ-เผด็จการชินวัตรให้หมดไปจากแผ่นดินไทย

 

โลกมนุษย์ย่อมจะดีกว่านี้แน่      เพราะมีผู้ไม่ยอมแพ้แม้ถูกหยัน
คงยืนหยัดสู้ไปใฝ่ประจัญ      ยอมอาสัญก็เพราะปองเทิดผองไทย





ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน