Jump to content


Photo
- - - - -

มหา'ลัย มหาหลอก? เมื่อป.ตรีเตะฝุ่นทะลุแสน!


  • Please log in to reply
117 ความเห็นในกระทู้นี้

#101 DarkSwan

DarkSwan

    Reporter Activated

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,689 posts

ตอบ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:07

การเรียนการสอนบ้านเราเรียนเยอะไปหรือเปล่า?

เยอะในที่นี้ไม่ใช่เรื่องปริมาณของเนื้อหา

แต่เยอะด้วยวิชาที่เยอะแยะมากกินไป

เรียนในวิชาที่ไม่จำเป็นต่อวิชาชีพ

เรียนแบบไม่เจาะจงตามความถนัดของนักศึกษา

 

ยกตัวอย่าง น้องชายผมที่ไปเรียนที่อินเดียไปเรียนเน็ตเวิร์ค

ปีแรกเรียนกว้างมากแต่กว้างในวิชาเน็ตเวิร์ค

ปีที่สองเป็นการเลือกสายว่าจะเรียนสาย Windows หรือสาย Unix

เลือกไปแล้วต้องเรียนเฉพาะสายที่ตัวเองเลือกเท่านั้นจะไม่มีข้องแวะอีกเลย

ปีที่ ๓ ปีที่ ๔ ก็เจาะจนเก่งไปเลย~

 

บ้านเราเรียนอะไรไม่รู้มาก เยอะแยะ ซึ่งไม่จำเป็นต่อวิชาชีพซะส่วนใหญ่

 

ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับคุณตัวเกร็งนะครับ ผมว่าบ้านเราน่าจะลดความหลากหลายของรายวิชาให้น้อยลง

แล้วไปเน้นวิชาเฉพาะด้านให้มากขึ้น อาจะเพิ่มสายการเรียนก็ได้ จากเพิ่มความลึกของเนื้อหาให้รู้ลึกรู้จริง มากขึ้น

เพราะอย่างนั้น ผมว่า น่าจะให้ความสำคัญกับการ แนะแนว มากกว่านี้ ว่าควรให้เด็กรู้จักทำความเ้ข้าใจว่า

ตนเองเก่งอะไร อยากเป็นอะไร ทำอะไรได้ ควรไปทางไหน แล้วก็ให้ไปทางนั้นๆ ไปเลย

 

ทุกวันนี้ ทั้งที่ได้เรียนมา หรือญาติพี่น้องที่ไปเรียน ทั้งปกติ และเพิ่มเติม มักจะพูดเหมือนกันว่า

เรียนไปก็ไม่เห็นสอนอะไรเลย บอกแต่เรื่องที่รู้อยู่แล้ว กะอะไรก็ไม่รู้ ไอ้ที่น่าสอนกลับไม่สอน เรียนจบเหมือนไม่ได้อะไรเลย 

อันนี้คนที่พูดเป็นคนตั้งใจเรียนนะครับ เรียนเก่งด้วย ได้เกรด 4 เกือบทุกวิชา แต่ไม่ต่ำกว่า 3 สักวิชา

 

ผมก็เห็นว่าจริง ตรงที่บ้านเรา ส่วนใหญ่ จบออกมาเป็น "เป็ด" ได้ทุกอย่าง อย่างละกระจิ๊ด แต่ไม่เก่งจริง ใ้ช้จริงไม่ได้สักกะอย่าง 

-_-


ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม

ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า

อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน


#102 gears

gears

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,450 posts

ตอบ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:40


หากจะให้ไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียน ต้องทำให้ภาษาไทยเป็นภาษาที่สองรองจากอังกฤษครับ ไม่ใช่โยนไปให้ภาษามาเลย์เอาไปกินอีก

เพราะหากไม่นับอินโดที่มีประชากรเยอะและเวียดนามที่ไม่มีใครพูด ภาษาไทยน่าจะเป็นภาษาที่มีคน "จำเป็นต้องใช้" มากที่สุดภาษาหนึ่งในอาเซียน
ทั้งลาว เขมร และคนพม่าที่เข้ามาทำงานในเมืองไทย พูดภาษาไทยได้ทุกคน

ในขณะที่เรามองกันเองว่าประเทศไทยห่วย เพื่อนบ้านของเราเขามองด้วยความอิจฉาและชื่นชมในความสำเร็จของเรา และหลายๆ ประเทศมองเราเป็นต้นแบบที่จะเดินตาม

สินค้า made in thailand ถือเป็นสินค้าระดับพรีเมี่ยมของอาเซียน บริษัทไทยปัจจุบันออกไปตั้งสำนักงาน/โรงงาน/takeover ธุรกิจในประเทศต่างๆ ทั่วอาเซียน บริษัทไทยหลายแห่งเป็นบริษัทที่มีคนอยากเข้าทำงานมากที่สุดในหลายประเทศแถบนี้

ทำให้ปัจจุบันมีนักเรียนในลาว กัมพูชา พม่า เวียดนาม ขวนขวายเรียนภาษาไทยกันมากขึ้นเพื่อโอกาสในการทำงานกับบริษัทต่างชาติที่มาจากเมืองไทย แม้แต่จึนเองเขาก็เห็นความสำคัญของเมืองไทยในฐานะศูนย์กลางของอาเซียน เขาจึงสนใจศึกษาภาษาไทยมากขึ้นเพื่อเชื่อมต่อกับอาเซียน

ส่วนภาษามาเลย์ ผมไม่เห็นความน่าดึงดูดใจสำหรับคนในภูมิภาคนี้เลยที่จะหันไปใช้ แค่มีอินโดที่เขามีประชากรมากกว่าเท่านั้นทำให้มีคนใช้มากกว่า

หากเราเอาจริง ขึงขัง ไม่ยกเอาไปให้ภาษามาเลย์อีก ภาษาไทยเราเหมาะสมที่สุดแล้วครับ

ผมเห็นด้วย ตอนนี้ติดต่อลูกค้าที่ปีนังทีนึงต้องใช้ล่าม มาลายู
คุณพอมีแนวทางปะละ ปัญหานี้มันมีมานานแล้ว เริ่มจากต่างคนอยากผลักดันภาษาตัวเอง
ให้เพื่อนบ้านใช้กันหมด ???

#103 arch_freeman

arch_freeman

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,286 posts

ตอบ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 18:04

ไม่ใช่ว่าตกงาน แต่ไม่มีใครอยากเอาไปทำงานต่างหาก

 

จะแก้ปัญหา คุณต้องแก้ปัญหาที่คุณภาพของมหาวิทยาลัย บางคนทำไรไม่เป็นแต่มีวุฒิปริญญา แม้กระทั้งมหาวิทยาลัย top ten ก็มีเด็กพวกนี้อยู่

 

แต่เด็กที่จบมาไม่มีคุณภาพ ไม่มีคนเอา

 

ทุกวันนี้หลายบริษัทยังขาดแคลน คนดีมีฝึมือ เพราะ เต็มไปด้วยเด็กจบใหม่ที่ไร้คุณภาพ ยังไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรได้


ประชาชนต้องใช้นักการเมืองเป็นเครื่องมือ ไม่ใช่ตกเป็นเครื่องมือของนักการเมือง

#104 gears

gears

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,450 posts

ตอบ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 18:05

แต่ตอนนี้ให้ผมมอง ผมอยากไปทางเวียดนามมากกว่านะ
โซนล่างประเทศไทย เหมือนไปช้า
ยิ่งมีโครงการ เวียดนาม ไทย พม่า
ตัด โทรลเวย์ยาวผ่านประเทศ โซนนั้นผมน่าจะทำเงินได้มากกว่า

#105 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:07

ผึ้ง คุณมั่วแล้ว

 
มันคนละเรื่องกันผึ้ง
อยู่ในโลกแห่งความจริงหน่อย
นักเรียนโรงเรียนหนองกระโทก ครู 2 คน นักเรียน 18 คน  ณ ปี 2556 ไม่มีทางได้โงหัวหรอกครับ
อ่านภาษาไทยออกก็เก่งแล้ว ไม่ต้องนึกถึงภาษาอังกฤษหรอกครับ

 

วนอันนี้หากผึ้งบอกว่าไม่ใช่การด่าหรือดูถูกโรงเรียนตัวเิองซึ่งสอนให้คุณมีความรู้ขนาดอ่านหนังสือภาษาอังกฤษออกได้

ผมก็ไม่รู้จะว่าไงแล้วครับ

ผมเชื่อว่ามีนักเรียนที่จบจากโรงเรียนเก่าคุณที่ภาษาอังกฤษเขาดีกว่าคุณแน่

หรือคุณว่าไม่มี?

 

ฝากให้ลีทาร์ด 

 

ถ้าไอ้ลีทาร์ดได้ครูดีๆ ป่านนี้มันคงรู้จักคิด รู้จักประมาณตนมากกว่านี้  -_- 

 

ครูก็มีส่วนทำให้นักเรียนมีเหตุและผลที่ดี แต่มันมองไปได้ถึงครอบครัวของนักเรียนด้วยครับ ว่าสอนกันมาแบบไหน คนๆ หนึ่งจะยอมเป็นขี้ข้าไอ้แม้วได้นี่่ ทั้งๆ ที่มีความรู้ มันต้องมีขาดจริยธรรมอย่างหนักเลยนะครับ  :lol:


Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:07.

gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#106 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:13

ยกตัวอย่าง น้องชายผมที่ไปเรียนที่อินเดียไปเรียนเน็ตเวิร์ค

ปีแรกเรียนกว้างมากแต่กว้างในวิชาเน็ตเวิร์ค

ปีที่สองเป็นการเลือกสายว่าจะเรียนสาย Windows หรือสาย Unix

เลือกไปแล้วต้องเรียนเฉพาะสายที่ตัวเองเลือกเท่านั้นจะไม่มีข้องแวะอีกเลย

ปีที่ ๓ ปีที่ ๔ ก็เจาะจนเก่งไปเลย~

 

บ้านเราเรียนอะไรไม่รู้มาก เยอะแยะ ซึ่งไม่จำเป็นต่อวิชาชีพซะส่วนใหญ่

 

 

อันนี้ผมมาต่อยอดเพิ่มเติม  เผื่อคนผ่านมาไม่เข้าใจ...ทำไมต้องไปเรียนที่อินเดีย?

เผอิญเพื่อนซี้ผมทำงานสายนี้ คือสาย CG เขาบอกผมมาตั้งกะ 2 ปีที่แล้วว่า...อินเดียคือซิลิคอนวัลเลย์ของโลกปัจจุบันครับ

ตลาดเกี่ยวกับไอทีและคอมพิวเตอร์ก้าวหน้ามากอย่างน่าทึ่ง

เขาบอกว่าขณะที่คนไทยเพิ่งเห่อจีน อะไรก็จีนๆๆๆ คนไทยไม่ยอมมองตลาดใหญ่อันดับ 2 คืออินเดียเลย

 

 

แต่อย่าถามผมเพิ่มนะครับ ผมม่ายลู้  ผมเล่นแต่เกมอย่างเดียว ฮี่ๆ


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#107 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

ตอบ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:06

ยกตัวอย่าง น้องชายผมที่ไปเรียนที่อินเดียไปเรียนเน็ตเวิร์ค

ปีแรกเรียนกว้างมากแต่กว้างในวิชาเน็ตเวิร์ค

ปีที่สองเป็นการเลือกสายว่าจะเรียนสาย Windows หรือสาย Unix

เลือกไปแล้วต้องเรียนเฉพาะสายที่ตัวเองเลือกเท่านั้นจะไม่มีข้องแวะอีกเลย

ปีที่ ๓ ปีที่ ๔ ก็เจาะจนเก่งไปเลย~

 

บ้านเราเรียนอะไรไม่รู้มาก เยอะแยะ ซึ่งไม่จำเป็นต่อวิชาชีพซะส่วนใหญ่

 

 

อันนี้ผมมาต่อยอดเพิ่มเติม  เผื่อคนผ่านมาไม่เข้าใจ...ทำไมต้องไปเรียนที่อินเดีย?

เผอิญเพื่อนซี้ผมทำงานสายนี้ คือสาย CG เขาบอกผมมาตั้งกะ 2 ปีที่แล้วว่า...อินเดียคือซิลิคอนวัลเลย์ของโลกปัจจุบันครับ

ตลาดเกี่ยวกับไอทีและคอมพิวเตอร์ก้าวหน้ามากอย่างน่าทึ่ง

เขาบอกว่าขณะที่คนไทยเพิ่งเห่อจีน อะไรก็จีนๆๆๆ คนไทยไม่ยอมมองตลาดใหญ่อันดับ 2 คืออินเดียเลย

 

 

แต่อย่าถามผมเพิ่มนะครับ ผมม่ายลู้  ผมเล่นแต่เกมอย่างเดียว ฮี่ๆ

เพื่อนสนิทที่เป็นวิศวกร ได้เคยบอกผมนานมาแล้วครับว่า

อินเดีย เก่งด้าน softwareเพราะ คณิตศาสตร์เยี่ยม

 

มีนักฟิสิกส์ เยียมอยู่หลายคน เช่น Sir Chandrasekhava Venkata Raman/Subrahmanyan Chandrasekhar เป็นต้น

นี้ระดับ Nobel Prize


Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#108 so what?

so what?

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,807 posts

ตอบ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:51

เข้ามายืนยันอีกเสียงครับ ว่าแขกเก่งๆมีเยอะ

 

Indian boy solves 350-year-old Math problem set by Newton

http://www.dailymail...-350-years.html



#109 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

ตอบ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:39

ไม่ใช่ว่าตกงาน แต่ไม่มีใครอยากเอาไปทำงานต่างหาก

 

จะแก้ปัญหา คุณต้องแก้ปัญหาที่คุณภาพของมหาวิทยาลัย บางคนทำไรไม่เป็นแต่มีวุฒิปริญญา แม้กระทั้งมหาวิทยาลัย top ten ก็มีเด็กพวกนี้อยู่

 

แต่เด็กที่จบมาไม่มีคุณภาพ ไม่มีคนเอา

 

ทุกวันนี้หลายบริษัทยังขาดแคลน คนดีมีฝึมือ เพราะ เต็มไปด้วยเด็กจบใหม่ที่ไร้คุณภาพ ยังไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรได้

เรื่องนี้ เป็นปัญหาระดับ โลก ไปแล้ว เมื่อนิตยสาร Time  โดย Joel Stein คอลัมนิสม์ ชื่อดัง ได้เขียนบทความ

เกี่ยวกับ เด็กยุค me(milinium) generation สรุปโดยย่อคือ สำหรับ คนที่เกิด ปี 1980-2000 มีลักษณะที่เด่น

คือ บุคคลิกภาพ แปรปรวน หลงตัวเอง ขี้เกียจ เห็นแก่ตัว และ ไม่อดทน  ขาดทักษะในการทำงาน บางคนเก่งเฉพาะทฤษฏี

แต่ปฎิบัติจริงไม่ได้  สะกด คำว่า รอ ไม่เป็น ต้องการความสำเร็จในทางลัด

 

นี้เป็นผลผลิต ของ คนรุ่น baby boom และ gen X ที่ได้ลูกหลานในลักษณะนี้  เนื่องมาจาก ลัทธิบริโภคนิยมที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก

เด็กพวกนี้ส่วนใหญ่โตมาโดยไม่มี แบบอย่างในการดำเนินชีวิต  โตมากับหน้า TV หมกหมุ่นเรื่องตัวเอง ติดมือถือ และ คอมพิวเตอร์

ข้อดีของ Me Generation คือ มีความมั่นใจตัวเองสูง ปรับเปลี่ยนตัวเองได้เร็วมาก

 

มาคอยดูกันครับว่า หลังจากรุ่นเราส่งไม้ต่อให้ Me Gen ไปแล้ว สังคมจะเปลี่ยนไปทางใหนกัน

ช่วงนี้ก็คอยอบรม ลูกหลาน ให้เห็นถูกเป็นถูก เห็นผิดเป็นผิด และสร้างค่านิยมที่ดีงาม

คงทำกันได้แค่นี้ครับ สำหรับโลกที่นับวันจะหมุนเร็วขึ้น

Attached Images

  • generation.JPG

Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#110 ก๊องส์ไข่กวน

ก๊องส์ไข่กวน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,012 posts

ตอบ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 07:52

อินเดียเก่งจริงและถูก

#111 พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,450 posts

ตอบ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 15:04

จ่ายครบ จบแน่ ... นิยามมหาลัยไทย 


อยากรู้ว่าประชาธิปไตยไทยเป็นแบบไหน ให้ดูการใช้รถใช้ถนนรู้จักกันแต่สิทธิ แต่ไม่เคยรู้จักหน้าที่ ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่วางไว้

#112 hentai

hentai

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,046 posts

ตอบ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 15:42

ถ้าเราจะเน้นปัญหาคนไทยใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้  และภาษาอังกฤษต้องเริ่มสอนให้เป็นตั้งแต่มัธยม

ผมสามารถบอกได้เลยว่าปัญหาคืออะไร  เพราะผมคือคนหนึ่งที่ตัดสินใจออกจากรร.มัธยมทั้งที่อยู่ปีสุดท้ายเพราะปัญหานี้ครับ

 

ตอนนั้นอายุ 16 กว่า  แต่เล็งเห็นว่าต่อไปภาษาอังกฤษจะกลายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผมก้าวหน้าได้ ไม่ใช่ปริญญา

แล้วรร.ของผมที่ถือว่าอันดับท้อปของประเทศ ให้สิ่งนี้กับผมไม่ได้

เนื่องจากการเรียนการสอนภาษาอังกฤษล้าหลังมาก 

อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาอังกฤษของผม ออกข้อสอบได้ แต่กลับสื่อสารกับฝรั่งเองยังไม่ได้

เครื่องมือที่ใช้สอน ยังใช้เทปแบบ "ฝึกพูดภาษาอังกฤษ"  เสียงแก่ๆ ยานๆ อยู่เลย

บทความภาษาอังกฤษที่ให้เด็กเรียนก็ใช้แค่นสพ.ทำเอง คือ Student Weekly ที่นร.ถูกบังคับซื้อ

 

ผมเลยขอพ่อ ลาออกจากรร.กลางคัน เพื่อมุ่งมั่นสอบเข้ารร.เครืออังกฤษ ที่พูด เขียน และเรียนภาษาอังกฤษ 24 ชม.

แม่ผมเสียใจมาก เพราะหวังให้ลูกได้ปริญญาตรี  พ่อผมพูดประโยคเดียวเอาอยู่ "ถ้าตัดสินใจแล้วให้เลือกเดินตามสิ่งที่เชื่อ"

แต่พ่อก็บอกว่า "ต้องไม่มีคำว่าพลาด  พลาดไม่ได้อีกแล้วนะเพราะเลือกเอง"

 

ที่รร.ใหม่  พวกเราถูกบังคับให้ กิน นอน หายใจ กับตำราภาษาอังกฤษล้วน

สาเหตุทีนร.รร.ใหม่ของผม สามารถสื่อสารด้วยการใช้ศัพท์แสงที่ดีมาก เพราะเราถูกฝึกให้ท่องศัพท์วันละ 30 คำ

ดูน้อยนะครับ  แต่ไม่น้อย  เพราะ... เราต้องท่องศัพท์ภาษาอังกฤษพร้อมจำคำแปลภาษาอังกฤษ

แล้วมายืนหน้าโต๊ะครู  ครูจะ "สุ่ม" ถามเรา  โดยถามคำศัพท์ แล้วให้เราบอกความหมายภาษาอังกฤษ

หรือสุ่มบอกความหมายภาษาอังกฤษ แล้วให้เราเฉลยว่ามันเป็นคำแปลของศัพท์อะไร

จากนั้น ครูจะฝึกให้เรา "สร้างประโยคด้วยคำศัพท์ 30 คำนั้น" ทำแบบนี้ทุกวัน เป็นกิจวัตรทุกคาบเช้าจนเรียนจบ

คิดดูว่ากว่าจะเรียนจบ นักเรียนจะจำศัพท์ได้กี่พันคำ ที่เอาไปใช้ได้ในการติดต่องานของจริง

 

กิจกรรมบนเวที โรงเรียนผมขึ้นชื่อมากว่าโต้วาทีภาษาอังกฤษทีไรชนะทุกที  

เพราะที่รร.จะเรียนเรื่องข่าวสารบ้านเมืองตลอด  มันก็เลย "ทันโลกภายนอก"

กิจกรรมละครของรร. ครูที่รร.ผมเลือกเอาวรรกรรมร่วมสมัยที่คลาสสิกมาแสดงทั้งนั้น

ทำให้ผมรู้จัก เทนเนสซี่ วิลเลียมส์ อย่างเรื่อง "ตุ๊กตาแก้ว The Glass menagerie" ตั้งแต่อายุ 18

เรื่อง "หมอผีครองเมือง" ของอาร์เธอร์ มิลเลอร์ ที่เสื้อแดงชอบเอามาอ้างปาวๆ "ล่าแม่มดๆ" นั่นน่ะ

ผมเล่นละครเรื่องนั้นเป็นภาษาเดิมของต้นฉบับตั้งแต่อายุ 18  แล้ว

 

ขณะที่รร.เก่าผมตอนผมกลับไปหาเพื่อนๆ เพื่อนยังเรียนภาษาอ.จาก Student Weekly อยู่เลย!

 

นี่คือตัวอย่างของการเรียนการสอนที่ "เข้มข้น+เอาจริง" ต่างกันครับ

 

โรงเรียนเก่าซวยไป...    นี่ขนาด top ของประเทศ ยัง ไม่สามารถ ปรนเปรอความค้องการ ของ แมงวันได้เลย..

มันต้องถามตัวเองละครับว่า  ... โีรงเรียนเก่านั้น.. เค้า เน้น อังกฤษ หรือ เน้นอะไร..  

ทำไมเค้าไม่เน้นแบบที่ท่าน ต้องการ...  เค้าโง่จัด...  หรือ...

ผมว่า  ท่านตอบได้.. 

 

ตอนนี้ ผมเชื่อว่า เด็กเตรียมอุดม  ภาษาิัอังกฤษ ทางด้านพูดอ่านฟัง..  สู้ เด็กเรียน inter ไม่ได้ครับ...  

แต่ลองให้มาทำ physic แข่งกันดิครับ...  

 

:D


"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"

"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"

"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"


#113 CanisLupus

CanisLupus

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 770 posts

ตอบ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 15:56

ถ้าเราจะเน้นปัญหาคนไทยใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้  และภาษาอังกฤษต้องเริ่มสอนให้เป็นตั้งแต่มัธยม

ผมสามารถบอกได้เลยว่าปัญหาคืออะไร  เพราะผมคือคนหนึ่งที่ตัดสินใจออกจากรร.มัธยมทั้งที่อยู่ปีสุดท้ายเพราะปัญหานี้ครับ

 

ตอนนั้นอายุ 16 กว่า  แต่เล็งเห็นว่าต่อไปภาษาอังกฤษจะกลายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผมก้าวหน้าได้ ไม่ใช่ปริญญา

แล้วรร.ของผมที่ถือว่าอันดับท้อปของประเทศ ให้สิ่งนี้กับผมไม่ได้

เนื่องจากการเรียนการสอนภาษาอังกฤษล้าหลังมาก 

อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาอังกฤษของผม ออกข้อสอบได้ แต่กลับสื่อสารกับฝรั่งเองยังไม่ได้

เครื่องมือที่ใช้สอน ยังใช้เทปแบบ "ฝึกพูดภาษาอังกฤษ"  เสียงแก่ๆ ยานๆ อยู่เลย

บทความภาษาอังกฤษที่ให้เด็กเรียนก็ใช้แค่นสพ.ทำเอง คือ Student Weekly ที่นร.ถูกบังคับซื้อ

 

ผมเลยขอพ่อ ลาออกจากรร.กลางคัน เพื่อมุ่งมั่นสอบเข้ารร.เครืออังกฤษ ที่พูด เขียน และเรียนภาษาอังกฤษ 24 ชม.

แม่ผมเสียใจมาก เพราะหวังให้ลูกได้ปริญญาตรี  พ่อผมพูดประโยคเดียวเอาอยู่ "ถ้าตัดสินใจแล้วให้เลือกเดินตามสิ่งที่เชื่อ"

แต่พ่อก็บอกว่า "ต้องไม่มีคำว่าพลาด  พลาดไม่ได้อีกแล้วนะเพราะเลือกเอง"

 

ที่รร.ใหม่  พวกเราถูกบังคับให้ กิน นอน หายใจ กับตำราภาษาอังกฤษล้วน

สาเหตุทีนร.รร.ใหม่ของผม สามารถสื่อสารด้วยการใช้ศัพท์แสงที่ดีมาก เพราะเราถูกฝึกให้ท่องศัพท์วันละ 30 คำ

ดูน้อยนะครับ  แต่ไม่น้อย  เพราะ... เราต้องท่องศัพท์ภาษาอังกฤษพร้อมจำคำแปลภาษาอังกฤษ

แล้วมายืนหน้าโต๊ะครู  ครูจะ "สุ่ม" ถามเรา  โดยถามคำศัพท์ แล้วให้เราบอกความหมายภาษาอังกฤษ

หรือสุ่มบอกความหมายภาษาอังกฤษ แล้วให้เราเฉลยว่ามันเป็นคำแปลของศัพท์อะไร

จากนั้น ครูจะฝึกให้เรา "สร้างประโยคด้วยคำศัพท์ 30 คำนั้น" ทำแบบนี้ทุกวัน เป็นกิจวัตรทุกคาบเช้าจนเรียนจบ

คิดดูว่ากว่าจะเรียนจบ นักเรียนจะจำศัพท์ได้กี่พันคำ ที่เอาไปใช้ได้ในการติดต่องานของจริง

 

กิจกรรมบนเวที โรงเรียนผมขึ้นชื่อมากว่าโต้วาทีภาษาอังกฤษทีไรชนะทุกที  

เพราะที่รร.จะเรียนเรื่องข่าวสารบ้านเมืองตลอด  มันก็เลย "ทันโลกภายนอก"

กิจกรรมละครของรร. ครูที่รร.ผมเลือกเอาวรรกรรมร่วมสมัยที่คลาสสิกมาแสดงทั้งนั้น

ทำให้ผมรู้จัก เทนเนสซี่ วิลเลียมส์ อย่างเรื่อง "ตุ๊กตาแก้ว The Glass menagerie" ตั้งแต่อายุ 18

เรื่อง "หมอผีครองเมือง" ของอาร์เธอร์ มิลเลอร์ ที่เสื้อแดงชอบเอามาอ้างปาวๆ "ล่าแม่มดๆ" นั่นน่ะ

ผมเล่นละครเรื่องนั้นเป็นภาษาเดิมของต้นฉบับตั้งแต่อายุ 18  แล้ว

 

ขณะที่รร.เก่าผมตอนผมกลับไปหาเพื่อนๆ เพื่อนยังเรียนภาษาอ.จาก Student Weekly อยู่เลย!

 

นี่คือตัวอย่างของการเรียนการสอนที่ "เข้มข้น+เอาจริง" ต่างกันครับ

 

โรงเรียนเก่าซวยไป...    นี่ขนาด top ของประเทศ ยัง ไม่สามารถ ปรนเปรอความค้องการ ของ แมงวันได้เลย..

มันต้องถามตัวเองละครับว่า  ... โีรงเรียนเก่านั้น.. เค้า เน้น อังกฤษ หรือ เน้นอะไร..  

ทำไมเค้าไม่เน้นแบบที่ท่าน ต้องการ...  เค้าโง่จัด...  หรือ...

ผมว่า  ท่านตอบได้.. 

 

ตอนนี้ ผมเชื่อว่า เด็กเตรียมอุดม  ภาษาิัอังกฤษ ทางด้านพูดอ่านฟัง..  สู้ เด็กเรียน inter ไม่ได้ครับ...  

แต่ลองให้มาทำ physic แข่งกันดิครับ...  

 

:D

 

 

โรงเรียนเก่าแมลงวันน้อยเขามันไม่ได้แย่อย่างนั้นหรอกครับ

มันอยู่ที่ตัวแมลงวันน้อยเองนั่นแหล่ะที่ไม่เอาถ่าน

ผมพนันกันก็ได้ว่า มีนักเรียนโรงเรียนเก่าเขาที่ภาษาอังกฤษดีกว่าเขามากมาย ทั้งตอนนั้น และตอนนี้

:D 



#114 ริวมะคุง

ริวมะคุง

    ห้ามให้อาหารสัตว์

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,577 posts

ตอบ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 16:01

จริงๆงานมันเยอะแต่ค่าแรงส่วนมากก็ 9,000 - 12,000

 

15,000 หรือฝันไปเถอะ เลือกมากก็ตกงานไป ครั้กๆๆๆๆๆ 

 

ข้าวของราคาขึ้น ค่าแรงย่ำอยู่กับที่ ฮ่าๆๆๆๆ


Posted Image

#115 BearFamily

BearFamily

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 849 posts

ตอบ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 16:10

 

 

ผมฟังที่ยิ่งลักษณ์ไปปาฐกถาครั้งล่าสุดที่มองโกเลียแล้ว พูดตรงๆ เลยผมว่าภาษาอังกฤษแกน่าจะดีกว่าภาษาอังกฤษคุณนะ

 

แล้วคุณเคยได้ยินเขาพูดหรือ?  คุณถึง "ตัดสิน" เขาทั้งๆที่ตัวเองก็ยังไม่รู้?

 

 

>แต่หากนักเรียนไทย ใช้ภาษาอังกฤษได้เท่านายกยิ่งลักษณ์ทุกคน ก็น่าจะเกินพอแล้วนะคร

ับ

 

พูด Welcome เป็น Overcome ลีก็หลับหูหลับตาเลียจนพื้นเปียกได้

 

 

จะเกาะกระโปรงผู้หญิงไต่เต้า ก็เอาแต่พอหอมปากหอมคอ  ทำมากไปมันดูเหมือนเที่ยวเร่ขายศักดิ์ศรียังไงไม่ทราบ

มันอยากจะอวดนะครับ ว่ามันจบนอก คนจบนอกในนี้มีครับ แต่เค้าไม่จำเป็นต้องอวดเหมือนมัน  :D

 

(ประ)จบนอก(ประเทศไทย) -  สลิ่มเขร วิ้ว



#116 คำปู้จู้

คำปู้จู้

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 387 posts

ตอบ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 16:36

ปัจจัยหลายอย่าง

 

โทษมหาวิทยาลัยอย่างเดียวก็ไม่ถูก

 

แต่หลาย ๆ คนก็พูดกัน เด็กจบใหม่ทำงานสมัยนี้ ไม่แคร์อะไรอยู่แล้ว ถูกเตือน ตำหนิ ไม่พอใจ ก็ลาออก

 

เพราะทางบ้านไม่เดือดร้อนเีรื่องการเงิน ไม่เหมือนรุ่นพ่อแม่เรา ที่ไม่มีใครหนุนหลัง ต้องดิ้นรนชีวิตกันเอาเอง

 

งานอะไรก็ทำ ขอให้ได้เงิน ไม่เกี่ยงหนักเบา :( 

 

 

เดี๋ยวนี้มีแต่คนเกี่ยงงาน อยากได้งานสบาย เงินเยอะ ๆ 

 

แต่ทำงานแบบให้มันผ่านไปวัน ๆ ไม่คุ้มค่าจ้าง

 

ธุริจที่ต้องใช้คนงานอีกหน่อยคงค่อยๆหายไปเรื่อย ๆ :(


สิ่งที่กดสันดานดิบของคนเอาไว้  มันชักจะเหลือน้อยลงไปทุกที

 


#117 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 05:51

โรงเรียนเก่าแมลงวันน้อยเขามันไม่ได้แย่อย่างนั้นหรอกครับ

มันอยู่ที่ตัวแมลงวันน้อยเองนั่นแหล่ะที่ไม่เอาถ่าน

ผมพนันกันก็ได้ว่า มีนักเรียนโรงเรียนเก่าเขาที่ภาษาอังกฤษดีกว่าเขามากมาย ทั้งตอนนั้น และตอนนี้

:D 

 

ก็ไม่รู้ว่าเพื่อนมัธยมรร.เก่าผมภาษาอังกฤษดีกว่าผมหรือเปล่า ณ ตอนนั้น

แต่ผมออกจากรร.นั้นก็ไปสอบโทเฟล สอบผ่านได้คะแนนดีด้วย(ท่องตำราเองด้วยนะ ไม่มีติว เพราะไม่มีตังค์)

จากนั้นสอบพาสชั้น เข้าเรียนปี 2 ได้เลยแหละ ไม่ต้องเรียนปี 1

 

ส่วนตอนนี้...ผมว่าคงสู้เพื่อนที่เรียนจบนอกไม่ได้แน่นอน  

เพราะผมไม่เคยเรียนเมืองนอกเลย อยู่เมืองไทยมาตลอด  เพราะพ่อแม่ไม่มีเงินส่งผมเรียนขนาดนั้น

ที่ได้ทำงานกับต่างชาติตลอดมานี้ เพราะศึกษาเล่าเรียนด้วยตัวเองทั้งสิ้น

 

 

ภาษาอังกฤษลีอาจจะดีกว่าผมนะ  คุณจะข่มผมกดผม แล้วจะได้ยกตัวเองให้สูงขึ้นได้ ก็ทำไปเหอะ ไม่ว่ากัน

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ความเก่งพวกนี้ก็เป็นของนอกกาย  

สิ่งที่เราจะเอาติดตัวไปได้หลังเราตายมีแต่ความเป็นคนของเราเท่านั้นนะลี


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#118 nastyfunky

nastyfunky

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 395 posts

ตอบ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 04:03

ไม่แปลกครับ มหาลัยให้วิชาชีพ

 

แต่มืออาชีพไปหาเอาเอง

 

เรียนเก่งแค่ไหน ประยุกต์ใช้ไม่ได้ก็ล่มครับ คนบางคนยังดิ้นรนไปทำงานต่างเมืองได้เงินดีมีความรู้ก็เยอะ


Savoir…
Savoir parler…
Savoir parler pour ne rien dire…





ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน