มหาอำมาตย์แดง ชั้นที่ 1.(ระดับเดียวกับท่านตู่,ท่านเต้น)
Posted 28 May 2013 - 20:12
ตกลงมีกรณีไหนที่เสียงส่วนใหญ่ผิด ยกมาชัด ๆ เถอะครับ อย่าวกวน
ยกตัวอย่างให้ดูซักกรณีก็ได้ เพื่อเป็นวิทยาทานให้ด็อคฯ
ก็กรณีฮิตเลอร์นำพรรคนาซีเยอรมันชนะเลือกตั้ง แล้วไปเข่นฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชาวยิวนี่ไง
อย่าบอกนะว่าฮิตเลอร์ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เดี๋ยวคนเค้าจะว่าเอาได้ว่าประเทศไทยมีแต่ด็อคเตอร์โง่ๆ
อิอิอิ ...
มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล
ขาประจำ
Posted 28 May 2013 - 20:22
เรียน คุณ เช
คุณนี่ไม่ได้อ่านที่ผมเขียน จึงไม่รู้ว่าผมอธิบายให้คุณรู้เรื่องฮิตเลอร์ อย่างไร
กลับไปอ่านก่อน . . . ด่วนเลยครับ
ขาประจำ
Posted 28 May 2013 - 20:23
เรียน คุณ Wuddy.
คุณยกกาลิเลโอ แสดงว่าคุณไม่ได้อ่านที่ผมเขียนเลย
กลับไปอ่านให้ดี ๆ หายใจลึก ๆ แล้วค่อยมาโต้เถอะครับ
มหาอำมาตย์แดง ชั้นที่ 1.(ระดับเดียวกับท่านตู่,ท่านเต้น)
Posted 28 May 2013 - 20:25
เรียน คุณ เช
คุณนี่ไม่ได้อ่านที่ผมเขียน จึงไม่รู้ว่าผมอธิบายให้คุณรู้เรื่องฮิตเลอร์ อย่างไร
กลับไปอ่านก่อน . . . ด่วนเลยครับ
แล้วด็อคตอบที่ผมถามด็อคหรือยัง เรื่องใช้เงิน 150000 บาท แล้วได้คะแนนเสียง 1144 คะแนน ตกคะแนนละกี่บาทครับ ไม่เห้นด็อคจะตอบผมเลย ที่บ้านผมไม่มีเครื่องคิดเลขครับ
มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล
มหาอำมาตย์แดง ชั้นที่ 1.(ระดับเดียวกับท่านตู่,ท่านเต้น)
Posted 28 May 2013 - 20:26
เรียน คุณ เช
คุณนี่ไม่ได้อ่านที่ผมเขียน จึงไม่รู้ว่าผมอธิบายให้คุณรู้เรื่องฮิตเลอร์ อย่างไร
กลับไปอ่านก่อน . . . ด่วนเลยครับ
ด็อคกำลังจะบอกว่าฮิตเลอร์ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของเสียงส่วนใหญ่ในเยอรมันนีหรือครับ ตำราไหนครับ
มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล
ขาประจำ
Posted 28 May 2013 - 20:29
ด็อกๆๆ ช่วยไปอ่านใหม่ว่าใครยกกาลิเลโอ แล้วผมยกตัวอย่างไหนบ้าง
ขาประจำ
Posted 28 May 2013 - 20:35
นี่ไงครับ คุณบอกให้ผมอ่านเรื่องกาลิเลโอของ OPOL ไงครับ
ปล. ส่วนที่คุณเพิ่มเติม ผมไม่ตอบเพราะคุณใส่ link มา แน่จริงต้องสรุปมาให้ชัด ๆ ไม่ใช่อ้างส่งเดชครับ
ตกลงมีกรณีไหนที่เสียงส่วนใหญ่ผิด ยกมาชัด ๆ เถอะครับ อย่าวกวน
>กาลิเลโอ ค้นพบดวงจันทร์4ดวงของดาวพฤหัส และจุดดับบนดวงอาทิตย์ อีกทั้งค้นพบดาวอีกมากในทางช้างเผือก เขาจึงเห็นด้วยกับโคเปอร์นิคัสว่า โลกไม่ใช่ศูนย์กลางของจักรวาล และเขียนหนังสือชื่อ Dialogue สนับสนุนความคิดนี้ และเป็นเหตุให้ถูกกล่าวหาว่าต่อต้านศาสนา และถูกบังคับให้ถอนคำพูด เขาคงถูกประหารไปแล้วถ้าไม่สร้างผลงานดีเอาไว้มากและเป็นคนมีชื่อเสียง แต่ก็ถูกกักบริเวณจนวันตาย บั้นปลายเป้นคนตาบอด
กรณีในเมืองไทย ก็มีในยุคสงครามกลางเมือง ที่เสียงส่วนใหญ่ บอกว่า"ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป "
กรณีการ ล่าแม่มด สังหารและเผาทั้งเป็น ที่เสียงส่วนใหญ่ในยุโรปยุคนั้นเห็นว่าเป็นเรือ่งธรรมดาและช่วยกันแจ้งเบาะแสผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป้นแม่มดแลกกับค่าหัวที่เป้นทรัพย์ส่วนนึงของผู้ต้องหา ไม่มีการต่อต้านศาสนจักรเพราะนั่นหมายถึงบทลงโทษอย่างรุนแรง
ฯลฯๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงส่วนใหญ่ถูกต้องหรือเปล่า?????
มีอีกเยอะมากที่เสียงส่วนใหญ่เป็นเสียงที่โง่งม มืดบอดทางปัญญา ด๊อกกลับไปเรียนประวัติศาสตร์ ป.6 มาใหม่นะครับ โลกนี้คงไม่มีสงครามหรอกครับถ้าเสียงส่วนใหญ่ถูกต้องไปหมดด็อกๆๆๆ อ่านทุกกระทู้ที่เค้าตอบด็อก หรือเปล่า หรืออ่านเฉพาะที่ด็อกตอบได้
ปล. เอามาเติมอีกอันนึง http://en.wikipedia....wandan_Genocide ลองไปอ่านดูว่าชนกลุ่มใหญ่กับชนกลุ่มน้อย ว่าเสียงส่วนใหญ่คืออะไร
มหาอำมาตย์แดง ชั้นที่ 1.(ระดับเดียวกับท่านตู่,ท่านเต้น)
Posted 28 May 2013 - 20:47
เรียน คุณ เช
คุณนี่ไม่ได้อ่านที่ผมเขียน จึงไม่รู้ว่าผมอธิบายให้คุณรู้เรื่องฮิตเลอร์ อย่างไร
กลับไปอ่านก่อน . . . ด่วนเลยครับ
ด็อคกำลังจะบอกว่าฮิตเลอร์ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของเสียงส่วนใหญ่ในเยอรมันนีหรือครับ ตำราไหนครับ
เป็นประจำ ไอ้ด็อกฯนี้ ถ้าจนแต้มเมื่อไหร่มันจะไม่ตอบ แต่ไล่ไปอ่านห่าเหวอะไรของมันข้างๆคูๆไปเรื่อย ....
มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล
สมาชิกขั้นสูง
Posted 28 May 2013 - 20:55
คุณโส...(เติมคำในช่องว่าง)
ทำไมคิดนานจัง ตอบได้แล้ว
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
สมาชิกขั้นสูง
Posted 28 May 2013 - 21:27
ขออนุญาต ลบ ค่ะ
Edited by bird, 28 May 2013 - 21:31.
ขาประจำ
Posted 28 May 2013 - 21:42
ผมไม่มีรูปสีซอฯ ครับ
ก่อนจะสีซอ หัดเล่นก่อนไหมครับ กลัวสีซอควายยังไม่ฟัง(คนสีฟังอยู่คนเดียว55555+)
อ่านเรฟ116หรือยังครับ และช่วยอธิบายด้วยว่า ความหมายอันไหน คือสิ่งที่ถูก ด้วยระดับ ตำแหน่งคำนำหน้า ผมว่าคงไม่ยาก เนอะ
น้องใหม่
Posted 28 May 2013 - 22:45
ตกลงมีกรณีไหนที่เสียงส่วนใหญ่ผิด ยกมาชัด ๆ เถอะครับ อย่าวกวน
ผมเป็นคนมีความรู้น้อย อาจจะเข้าใจคำถามของ จขกท. คลาดเคลื่อน
ขอยกตัวอย่างตามที่ตัวผมเองพอจะเข้าใจ เสียงส่วนใหญ่ผมเข้าใจเอาว่าหมายถึงการตัดสินใจของคนหมู่มาก
ดังนั้นตัวอย่างของเหตุการณ์ที่คนหมู่มากตัดสินใจผิด ผมว่าผมเห็นอยู่บ่อยครั้งในตลาดหุ้น
คนหมู่มากมักตัดสินใจผิดๆ และเหลือคนกลุ่มเล็กๆที่จะรอดจากตลาด
ตัวอย่างนี้ผมแค่พูดเพื่อให้เห็นภาพเท่านั้น แต่สิ่งที่ผมอยากจะพูดจริงๆก็คือ การที่เราไปยึดติดกับคำว่าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง แล้วถ้าอย่างงั้นจะอธิบายเหตุการณ์ที่ สมัยหนึ่งเสียงส่วนใหญ่เลือกพรรคการเมืองหนึ่ง ต่อมาเวลาเปลี่ยนเสียงส่วนใหญ่กลับมาเลือกอีกพรรคการเมืองหนึ่ง ว่าอย่างไร
ถ้าเช่นนั้น เรียกได้ว่าเสียงส่วนใหญ่ไม่ใช่ความถูก ผิดใดๆทั้งสิ้นหรอกครับ ถ้าวัดความถูก-ผิด ด้วยปริมาณแล้วผมว่ามันน่าตลก ความจริงแล้วความถูกต้องควรวัดกันที่ศีลธรรม และกรอบของกฏหมายไม่ใช่หรือครับ
ขาประจำ
Posted 29 May 2013 - 13:56
ตกลงมีกรณีไหนที่เสียงส่วนใหญ่ผิด ยกมาชัด ๆ เถอะครับ อย่าวกวน
ผมเป็นคนมีความรู้น้อย อาจจะเข้าใจคำถามของ จขกท. คลาดเคลื่อน
ขอยกตัวอย่างตามที่ตัวผมเองพอจะเข้าใจ เสียงส่วนใหญ่ผมเข้าใจเอาว่าหมายถึงการตัดสินใจของคนหมู่มาก
ดังนั้นตัวอย่างของเหตุการณ์ที่คนหมู่มากตัดสินใจผิด ผมว่าผมเห็นอยู่บ่อยครั้งในตลาดหุ้น
คนหมู่มากมักตัดสินใจผิดๆ และเหลือคนกลุ่มเล็กๆที่จะรอดจากตลาด
ตัวอย่างนี้ผมแค่พูดเพื่อให้เห็นภาพเท่านั้น แต่สิ่งที่ผมอยากจะพูดจริงๆก็คือ การที่เราไปยึดติดกับคำว่าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง แล้วถ้าอย่างงั้นจะอธิบายเหตุการณ์ที่ สมัยหนึ่งเสียงส่วนใหญ่เลือกพรรคการเมืองหนึ่ง ต่อมาเวลาเปลี่ยนเสียงส่วนใหญ่กลับมาเลือกอีกพรรคการเมืองหนึ่ง ว่าอย่างไร
ถ้าเช่นนั้น เรียกได้ว่าเสียงส่วนใหญ่ไม่ใช่ความถูก ผิดใดๆทั้งสิ้นหรอกครับ ถ้าวัดความถูก-ผิด ด้วยปริมาณแล้วผมว่ามันน่าตลก ความจริงแล้วความถูกต้องควรวัดกันที่ศีลธรรม และกรอบของกฏหมายไม่ใช่หรือครับ
อะๆๆๆ ท่าน ดร.ครับ ข้อความนี้อีกหนึ่งข้อความครับ อ่านแล้วตีความให้หน่อยครับ เสียงส่วนใหญ่ คือะไรกันแน่ ผมละสงสัยจริงๆ 
ปล.กระทู้ตกแล้วนะท่าน ดร.เข้ามาช่วยอธิบายหน่อยที่ผมสงสัยหน่อยครับ
Edited by ฟังทั้งสองฝ่าย, 29 May 2013 - 13:57.
ห้ามให้อาหารสัตว์
Posted 29 May 2013 - 14:04
วันหนึ่ง ณ.ทะเลอันดามัน
เกิดเหตุการณ์เรือล่ม มีคน10คนติดเกาะอยู่ด้วยกัน ชายหนุ่ม9คน หญิงสาว1คน แรกๆก็ช่วยกันหาทางรอด หาของกิน หาที่อยู่ที่พักอาศัย
ผ่านไป1อาทิตเหล่าชายหนุ่มเริ่มที่จะกลัดมัน จึงประชุมกันว่าหญิงสาวควรจะมาปลดเปลื้องอารมพวกเขา ชายหนุ่มทั้ง9เลยจับหญิงสาวมารุมข่มขืน
ถามด๊อกหน่อยครับ เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้องจริงหรือไม่
ขาประจำ
Posted 1 June 2013 - 21:50
ขาประจำ
Posted 1 June 2013 - 21:51
ขาประจำ
Posted 1 June 2013 - 22:13
ขาประจำ
Posted 1 June 2013 - 22:43
อ้างเสียงส่วนใหญ่ แต่พอให้ทำประชามติว่าประชาชนต้องการให้แก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ กลับไม่กล้า
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้พูดตัดพ้อกับคนที่เดินทางไปพบว่า “พรรคเพื่อไทยมีคนเก่งๆ เยอะ ทั้งนักวิชาการ ด็อกเตอร์ ทูต แต่ไม่กล้าออกมาสู้ คนหน้าตาดีไม่ออกมา พวกที่ออกมาหน้าตาไม่ค่อยดี ไม่เหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์ ฝ่ายตรงข้าม คนมีความรู้ นักวิชาการออกมาเยอะแยะเลย คนจริงใจกับผมมันน้อย วางยาผม เพราะตัวเองอยากอยู่นานๆ เห็นว่านายกฯ ไม่แข็ง แต่ท่านนายกฯ ก็ดี แต่คนรอบข้างไม่เป็นการเมือง ผมส่งคนเป็นการเมืองไปนายกฯ ก็ไม่เอา ผมก็สงสารนายกฯ จึงไม่อยากจู้จี้ แต่คนที่เมืองไทยมันไม่ได้ดั่งใจ”
แปลสั้นๆ เขาด่าไอ้เสร่อแกนนำแดงว่า"โง่แต่ขยัน"
หน้าตาดี มีอุดมการณ์
Posted 2 June 2013 - 06:04
เท่าที่อ่านๆ มาพบว่าเสียงส่วนใหญ่ในบอร์ดนี้ไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของด็อก
หากเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง นั่นแปลว่าความคิดเห็นของด็อกมันผิด!!!
เคลียร์นะจ๊ะ
แค่ใช้ EDIT คห. แกยังไม่ทำเลยครับ ฟลัดกระทู้อยู่ได้
ดูเอา
VVV
รัฐธรรมนูญโจร โจรบอกว่าถ้าไม่รับจะเอาฉบับเลวกว่านี้มาใช้ ก็รับเพื่อแก้ แต่สมุนทรราชไม่ยอมครับ
คุณริวมะคุงครับ สมมติ ไม่เอา เอาเหตุการณ์จริงมีไหมครับ
เสียงส่วนใหญ่ย่อมถูกต้องจริงๆ นะครับ
ขาประจำ
Posted 2 June 2013 - 06:39
ขาประจำ
Posted 2 June 2013 - 06:40
ขาประจำ
Posted 2 June 2013 - 06:41
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ
Posted 2 June 2013 - 06:41
ผมเชื่อว่าถ้าทำรัฐธรรมนูญใหม่ ปชช จะรับท่วมท้นครับ
ผมเชื่อว่าถ้า ดร.หายไปจากที่นี่ คนที่นี่หรือที่ไหน ๆ ก็ไม่เฮครับ
ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ
Posted 2 June 2013 - 06:42
ตกลงแล้ว นอกจากเรื่องสมมติ มีเรื่องจริงที่คนส่วนใหญ่ผิดบ้างไหมครับ
อนิจจา คนระดับดร.เถียงข้าง ๆ คู ๆ เหมือนเด็กอนุบาล ลงไปดิ้นแด่ว ๆ กับพื้นเวลาพ่อแม่ไม่ซื้อของเล่นให้
เขาก็ยกตัวอย่างของจริงให้แร้ว ยังหาว่าสมมติ
ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
ขาประจำ
Posted 2 June 2013 - 06:49
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ
Posted 2 June 2013 - 06:52
คือที่นี่ เปนคนส่วนน้อยครับ
คือที่นี่ ดร.ยิ่งกว่าเปนคนส่วนน้อยอีกครับ
ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
ขาประจำ
Posted 2 June 2013 - 06:52
ขาประจำ
Posted 2 June 2013 - 06:53
ขาประจำ
Posted 2 June 2013 - 06:54
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ
Posted 2 June 2013 - 06:59
เรียน คุณ phoebus
ไหนล่ะตัวอย่างจริงครับ มีแต่สมมติและเข้าใจผิด
เรียน ดร. pornchokchai
คุณอ่านทุกข้อความในนี้หรือเปล่า
ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ
Posted 2 June 2013 - 07:00
ไม่จริง สมาชิกมากมาย ที่มาด่าเปนคนส่วนน้อยครับ
จริง ลองนับดูดิ ที่นี่มีสมาชิกกี่คน ชื่อซ้ำกัีนกี่คน แร้วที่มาด่า ดร.กี่คน
ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ
Posted 2 June 2013 - 07:01
คนทั้งหมดบอร์ดก็ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ของสังคมครับ
แร้วเสียงส่วนใหญ่ของสังคมอยู่ที่ไหน
ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
สมาชิกขั้นสูง
Posted 2 June 2013 - 07:22
เสียงส่วนใหญ่ในบอร์ดนี้ (ถ้ามี) คือกฏหมู่ ไม่ใช่ของแท้ครับ
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
ขาประจำ
Posted 2 June 2013 - 08:22
ที่คุณริวมะคุงถาม เป็นเหตุการณ์สมมุติก็จริง เเต่ มันใช้วัดระดับจริยะธรรมของคนได้คุณริวมะคุงครับ สมมติ ไม่เอา เอาเหตุการณ์จริงมีไหมครับ
Edited by PeaceMan, 2 June 2013 - 08:44.
ขาประจำ
Posted 2 June 2013 - 15:15
เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
16 มิถุนายน 2554
ดร.โสภณ พรโชคชัย
ในระบอบประชาธิปไตย เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง คือเสียงสวรรค์ แต่พวกเผด็จการทรราชพยายามบิดเบือนสัจธรรมข้อนี้อยู่เสมอ
เรามายืนยันความถูกต้องกันเถิด เสียงส่วนใหญ่คือสัจธรรม หรือสัจธรรมยืนอยู่ข้างคนส่วนใหญ่ การตัดสินใจของคนส่วนใหญ่ย่อมไม่ผิดพลาด ย่อมถูกต้องเสมอ ในกรณีของผู้เขียนซึ่งประกอบอาชีพเป็นผู้ประเมินค่าทรัพย์สินนั้น วิธีการประเมินค่าทรัพย์สินสำคัญวิธีหนึ่งก็คือ การเปรียบเทียบตลาด (Market Comparison Approach) ผู้ประเมินค่าทรัพย์สินต้องหาข้อมูลให้เพียงพอ ซึ่งเมื่อหาพบแล้ว เราก็จะทราบได้ว่าในตลาดมีระดับราคาที่เรียกว่า “ช่วงชั้นราคาตลาด” (Zone of Market Prices) หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ “หั่งเส็ง” หรือ “หั่งเช้ง” ที่คนส่วนใหญ่ซื้อบ้านในราคาตลาด (Market Prices) ราคานั้นก็จะสะท้อนมูลค่าที่แท้จริง (Market Value) ของทรัพย์สินที่เราประเมินซึ่งอาจแตกต่างไปบ้างตามลักษณะเฉพาะของทรัพย์สิน
พฤติกรรมตลาด (Market Behavior หรือ Market Practices) ในท้องตลาด เป็นผู้กำหนดราคาตลาด ซึ่งสะท้อนจากความเป็นไปได้ทั้งทางกายภาพ ตลาด การเงิน และกฎหมาย เช่น ในท้องถิ่นหนึ่ง ๆ ที่ดินที่เป็นที่นากับที่ดินที่เป็นสวนยางพารา หรือที่ดินที่มีระบบชลประทานกับที่ดินที่ไม่มี หรือที่ดินที่ถือครองเป็นโฉนดกับที่เป็น สปก.4-01 ย่อมมีราคาที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนตามพฤติกรรมตลาด อย่างไรก็ตามในตลาดที่ไม่สมบูรณ์ (Imperfect Market) กลไกตลาดอาจถูกบิดเบือนไปได้ในบางขณะสั้น ๆ แต่ไมใช่ตลอดไป
อาจกล่าวได้ว่าเมื่อมีตลาด ก็จะมีราคา เพราะตลาดเป็นแหล่งสังเคราะห์อุปสงค์และอุปทานให้ออกมาเป็นราคาตลาด ถ้าเราไม่ฟังเสียงตลาดหรือคนส่วนใหญ่ เราก็จะไม่สามารถทราบราคาที่แท้จริงได้ มีตัวอย่างว่า ครั้งหนึ่งก้อนหินจากดวงจันทร์ถูกขโมยหายไปจากองค์การนาซา ปรากฏว่าหินก้อนนี้มีราคา 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่มีราคาเช่นนี้ก็เพราะมีพฤติกรรมตลาดที่แน่ชัดที่ผ่านการซื้อขายมาหลายต่อหลายครั้งในตลาด จนสามารถทราบได้นั่นเอง นักวิทยาศาสตร์ประเทศอื่นคงไม่สามารถไปดวงจันทร์ได้โดยง่าย แต่ก็อยากได้หินมาทดลองทางวิทยาศาสตร์ ดังนั้นจึงมีระบบตลาดของหินดวงจันทร์เกิดขึ้น นี่แสดงให้เห็นว่า พฤติกรรมตลาดเป็นตัวกำหนดมูลค่าทรัพย์สิน
อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงอาจมีข้อมูลที่สูงหรือต่ำผิดปกติ (Outliers) อยู่บ้าง ซึ่งย่อมเป็นความผิดพลาด (Errors) ที่อธิบายได้หรือยังอธิบายไม่ได้อันเป็นผลมาจากการจดบันทึกหรือเก็บข้อมูลมีความคลาดเคลื่อน มีตัวแปรพิเศษ หรือกลุ่มตัวอย่างแตกต่างไปจากกลุ่มส่วนใหญ่จริง เช่น จากการเก็บข้อมูลในจำนวนที่เพียงพอพบว่า ปกติบ้านแบบเดียวกันในย่านนี้ มีราคา 1 ล้านบาท บวก/ลบ 10% แต่มีบางคนซื้อเพียง 5 แสนบาท เพราะเป็นบ้านเก่าที่ทรุดโทรม หรือมีคนฆ่าตัวตายในบ้าน คนเลยกลัว ในทางตรงกันข้าม บางคนก็อาจซื้อในราคา 2 ล้านบาท เพราะจำเป็นต้องซื้อหรือเพราะความไม่รู้ เป็นต้น เราจึงต้องร่อนเอาข้อมูล Outliers เหล่านี้ออกก่อนการวิเคราะห์และประมวลผล ไม่เช่นนั้นก็จะถือเป็นข้อมูลขยะ ถ้าเราเอาขยะเข้ามาวิเคราะห์ เราก็จะได้ขยะออกมา (Garbage In, Garbage Out).
ในพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าไม่ให้สาวกยึดมั่นในพระพุทธองค์แต่ให้ยึดมั่นในพระธรรมวินัยเป็นศาสดาแทนหลังพระองค์ปรินิพพาน ในสมัยพุทธกาลและหลังจากนั้นมาอีกนับร้อย ๆ ปี ก็ไม่มีการสร้างพระพุทธรูป แม้แต่พระวินัยบางข้อ ถ้าที่ประชุมสงฆ์เห็นควรละเว้นแก้ไข พระองค์ก็อนุญาตให้ทำได้ นี่แสดงว่าพระพุทธองค์ยอมรับปัญญา และความเป็นอิสระของคณะสงฆ์ส่วนใหญ่ นอกจากนี้พระพุทธเจ้ายังปฏิเสธการแบ่งชั้นวรรณะ เห็นคนเท่าเทียมกัน ทรงบวชจัณฑาลเป็นพระสงฆ์ จึงนับว่าพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งประชาธิปไตย และจึงถูกทำลายหรือไม่ก็ถูกควบคุมให้อยู่ใต้อาณัติของวรรณะพราหมณ์และวรรณะกษัตริย์เรื่อยมา
บางคนอ้างผิด ๆ ว่าเสียงส่วนใหญ่ก็ตัดสินใจผิดพลาดได้ เช่น กรณีการเถลิงอำนาจของนาซี เยอรมนี โดยอ้างว่าฮิตเลอร์ก็มาจากการเลือกตั้ง แต่ในความเป็นจริงก็คือ การเลือกตั้งในปี 2476 ดังกล่าว นาซีไม่ได้ชนะด้วยเสียงส่วนใหญ่ นาซีได้คะแนนเสียงเพียง 44% เท่านั้น ทั้งนี้ยังเป็นการเลือกตั้งสกปรก รวมทั้งการทำลายคู่แข่งของฮิตเลอร์ และแม้นาซีจะชนะการเลือกตั้งใน 33 จาก 35 เขตเลือกตั้ง ก็เป็นการชนะด้วยเสียงที่ได้มากที่สุดแต่ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่อยู่ดี โดยสรุปแล้วในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง เป็นเรื่องของปุถุชน ทุกคนรู้เท่าทันกัน เสียงส่วนใหญ่ย่อมถูกต้องเสมอ ไม่มีใครโง่กว่าใคร เราจึงเชื่อมั่นในเสียงส่วนใหญ่ได้
อย่างไรก็ตาม “กฎทุกกฎย่อมมีข้อยกเว้น” เช่น เสียงส่วนใหญ่ของโจรย่อมใช้ไม่ได้ เพราะในความเป็นจริง โจรก็ยังเป็นคนส่วนน้อยในสังคม ในเชิงเทคนิควิทยาการ เช่น การสร้างจรวดไปดวงจันทร์ เราจะถือเสียงส่วนใหญ่ไม่ได้ เราต้องถามผู้รู้ หรือเรื่องความเชื่อแต่เดิมว่าโลกแบน ถ้าให้ประชาชนผู้ไม่รู้วิทยาการออกเสียงในสมัยโบราณว่าโลกกลมหรือแบน ส่วนใหญ่ก็ต้องออกเสียงว่าโลกแบน เป็นต้น
ด้วยข้อยกเว้นเหล่านี้ พวกเผด็จการทรราชจึงนำมาบิดเบือน สร้างความสับสนด้วยการอุปโลกน์ตนเป็นผู้นำ เป็นผู้รู้ เป็นอภิชนเหนือคนอื่น และข่มว่ามหาชนเป็นคนโง่ ถูก “ฟาดหัวด้วยเงิน” ได้โดยง่าย ไร้สามารถ ขาดศักยภาพในการตัดสินใจ จำเป็นต้องมีผู้ยิ่งใหญ่ที่สวรรค์ส่งมาเพื่อนำทางให้อยู่เสมอ ๆ การบิดเบือนเหล่านี้เกิดขึ้นเพื่อให้ท้ายพวกเผด็จการทรราชมาทำการรัฐประหาร แล้วมาควบคุมประชาชน แต่เมื่อเข้ามาแล้ว ก็มาโกงกิน ดังเช่นที่เห็นตั้งแต่สมัยสฤษดิ์ สามทรราช รสช. หรืออาจรวม คมช. ด้วยก็ได้ มีใครเชื่อบ้างว่ารัฐบาลสุรยุทธ์และรัฐมนตรีเหล่านั้นใสสะอาดกว่ายุคอื่น ในยุคเผด็จการทรราชมักมีการโกงกินมากกว่าพวกนักการเมืองพลเรือนเพราะขาดการตรวจสอบและเพราะมักอ้างตนมีคุณธรรมเหนือผู้อื่น
เผด็จการทรราชยังใช้อำนาจเขียนประวัติศาสตร์บิดเบือนต่าง ๆ นานา เช่น เมื่อจะโค่นล้มรัฐบาล ป. พิบูลสงคราม ก็กล่าวหาว่ารัฐบาลดังกล่าวโกงเลือกตั้ง ทั้งที่การโกงกันเพียงบางส่วนจากทั้งสองฝ่าย และอาจเป็นการสร้างสถานการณ์การโกงเพื่อก่อรัฐประหาร ในสมัย 6 ตุลาคม ก็หาว่านักศึกษาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และเพื่อตอกย้ำความชอบธรรมของคณะรัฐประหาร ก็จัดแสดงนิทรรศการอาวุธในธรรมศาสตร์ที่สนามไชย ซึ่งผู้เขียนในฐานะนักศึกษาผู้ร่วมชุมนุมคนหนึ่งเชื่อว่าไม่เคยมีอาวุธสงครามเช่นนั้น หาไม่ตำรวจ ทหารและกลุ่มฝ่ายขวาที่บุกเข้าไปคงต้องเสียชีวิตกันมากมายไปแล้ว
ประชาชนมักถูกมองว่าเป็นแค่ “ฝุ่นเมือง” หรือ “ปุถุชน” (บุคคลผู้มีกิเลสหนา) แต่ในความเป็นจริง ปุถุชนหรือสามัญชนนี่แหละคือเจ้าของประเทศตัวจริง ไม่ว่าชนชั้นปกครองจากชาติใด ราชวงศ์ใด หรือลัทธิใดมาครอบครอง สามัญชนก็ยังอยู่สร้างชาติ รักษาความเป็นชาติ เช่นที่เห็นได้ในประวัติศาสตร์จีน เกาหลี หรือล่าสุดในสมัยสงครามเวียดนามที่มีเพียงประชาชนระดับบนที่มีฐานะและโอกาสที่ดีกว่าที่หลบหนีออกนอกประเทศเพื่อความอยู่รอดส่วนตัว ดังนั้นเราจึงต้องตระหนักถึงคุณค่าของมวลมหาประชาชน ดังบทกวีที่ว่า
“ไม่มีอำนาจใดในโลกหล้า
ผู้ปกครองต่างมาแล้วสาบสูญ
ไม่มีใครล้ำเลิศน่าเทิดทูน
ประชาชนสมบูรณ์นิรันดร์ไป
เมื่อยืนหยัดต่อสู้ผู้กดขี่
ประชาชนย่อมมีชีวิตใหม่
เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ
ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ในแผ่นดิน”
หมายเหตุ:
ผู้เขียน เขียนบทความนี้ขึ้นเพื่อแสดงคารวะถึงเกียรติศักดิ์ของสามัญชนที่มักถูกมองข้าม หยามหมิ่น ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาที่จะให้บทความนี้เป็นผลบวกหรือลบต่อการเมืองฝ่ายใด และที่ผ่านมาและจากนี้ไป ผู้เขียนก็ไม่ได้คิดไปรับใช้การเมืองฝ่ายใด
เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
16 มิถุนายน 2554
ดร.โสภณ พรโชคชัย
ในระบอบประชาธิปไตย เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง คือเสียงสวรรค์ แต่พวกเผด็จการทรราชพยายามบิดเบือนสัจธรรมข้อนี้อยู่เสมอ
เสียงส่วนใหญ่คือความคิดเห็นส่วนใหญ่ของคนในสังคมต่อประเด็นใดประเด็นหนึ่ง
หากมีการลงมติในประเด็นนั้น ถ้าสังคมยังคงยอมรับกติกาประชาธิปไตย เสียงส่วนใหญ่คือการตัดสินใจของสังคมนั้น
ท่านโสภณ ไม่ควรกล่าว เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง เสียงส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องเป็นความถูกต้อง มันไม่ใช่เสียงสวรรค์(ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นเสียงใคร)
และยิ่งไม่ใช่สัจธรรมใดๆทั้งนั้น เพราะเสียงส่วนใหญ่เปลี่ยนแปลงได้ แต่สัจธรรมไม่เคยเปลี่ยน
เรามายืนยันความถูกต้องกันเถิด เสียงส่วนใหญ่คือสัจธรรม หรือสัจธรรมยืนอยู่ข้างคนส่วนใหญ่ การตัดสินใจของคนส่วนใหญ่ย่อมไม่ผิดพลาด ย่อมถูกต้องเสมอ
ในกรณีของผู้เขียนซึ่งประกอบอาชีพเป็นผู้ประเมินค่าทรัพย์สินนั้น วิธีการประเมินค่าทรัพย์สินสำคัญวิธีหนึ่งก็คือ
การเปรียบเทียบตลาด (Market Comparison Approach) ผู้ประเมินค่าทรัพย์สินต้องหาข้อมูลให้เพียงพอ ซึ่งเมื่อหาพบแล้ว
เราก็จะทราบได้ว่าในตลาดมีระดับราคาที่เรียกว่า “ช่วงชั้นราคาตลาด” (Zone of Market Prices) หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ “หั่งเส็ง” หรือ “หั่งเช้ง” ที่คนส่วนใหญ่ซื้อบ้านในราคาตลาด (Market Prices)
ราคานั้นก็จะสะท้อนมูลค่าที่แท้จริง (Market Value) ของทรัพย์สินที่เราประเมินซึ่งอาจแตกต่างไปบ้างตามลักษณะเฉพาะของทรัพย์สิน
พฤติกรรมตลาด (Market Behavior หรือ Market Practices) ในท้องตลาด เป็นผู้กำหนดราคาตลาด
ซึ่งสะท้อนจากความเป็นไปได้ทั้งทางกายภาพ ตลาด การเงิน และกฎหมาย เช่น ในท้องถิ่นหนึ่ง ๆ ที่ดินที่เป็นที่นากับที่ดินที่เป็นสวนยางพารา หรือที่ดินที่มีระบบชลประทานกับที่ดินที่ไม่มี
หรือที่ดินที่ถือครองเป็นโฉนดกับที่เป็น สปก.4-01 ย่อมมีราคาที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนตามพฤติกรรมตลาด อย่างไรก็ตามในตลาดที่ไม่สมบูรณ์ (Imperfect Market)
กลไกตลาดอาจถูกบิดเบือนไปได้ในบางขณะสั้น ๆ แต่ไมใช่ตลอดไป
อาจกล่าวได้ว่าเมื่อมีตลาด ก็จะมีราคา เพราะตลาดเป็นแหล่งสังเคราะห์อุปสงค์และอุปทานให้ออกมาเป็นราคาตลาด ถ้าเราไม่ฟังเสียงตลาดหรือคนส่วนใหญ่
เราก็จะไม่สามารถทราบราคาที่แท้จริงได้ มีตัวอย่างว่า ครั้งหนึ่งก้อนหินจากดวงจันทร์ถูกขโมยหายไปจากองค์การนาซา ปรากฏว่าหินก้อนนี้มีราคา 1 ล้านเหรียญสหรัฐ
ที่มีราคาเช่นนี้ก็เพราะมีพฤติกรรมตลาดที่แน่ชัดที่ผ่านการซื้อขายมาหลายต่อหลายครั้งในตลาด จนสามารถทราบได้นั่นเอง นักวิทยาศาสตร์ประเทศอื่นคงไม่สามารถไปดวงจันทร์ได้โดยง่าย
แต่ก็อยากได้หินมาทดลองทางวิทยาศาสตร์ ดังนั้นจึงมีระบบตลาดของหินดวงจันทร์เกิดขึ้น นี่แสดงให้เห็นว่า พฤติกรรมตลาดเป็นตัวกำหนดมูลค่าทรัพย์สิน
อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงอาจมีข้อมูลที่สูงหรือต่ำผิดปกติ (Outliers) อยู่บ้าง ซึ่งย่อมเป็นความผิดพลาด (Errors)
ที่อธิบายได้หรือยังอธิบายไม่ได้อันเป็นผลมาจากการจดบันทึกหรือเก็บข้อมูลมีความคลาดเคลื่อน มีตัวแปรพิเศษ หรือกลุ่มตัวอย่างแตกต่างไปจากกลุ่มส่วนใหญ่จริง
เช่น จากการเก็บข้อมูลในจำนวนที่เพียงพอพบว่า ปกติบ้านแบบเดียวกันในย่านนี้ มีราคา 1 ล้านบาท บวก/ลบ 10% แต่มีบางคนซื้อเพียง 5 แสนบาท
เพราะเป็นบ้านเก่าที่ทรุดโทรม หรือมีคนฆ่าตัวตายในบ้าน คนเลยกลัว ในทางตรงกันข้าม บางคนก็อาจซื้อในราคา 2 ล้านบาท เพราะจำเป็นต้องซื้อหรือเพราะความไม่รู้ เป็นต้น
เราจึงต้องร่อนเอาข้อมูล Outliers เหล่านี้ออกก่อนการวิเคราะห์และประมวลผล ไม่เช่นนั้นก็จะถือเป็นข้อมูลขยะ ถ้าเราเอาขยะเข้ามาวิเคราะห์ เราก็จะได้ขยะออกมา (Garbage In, Garbage Out).
ท่านโสภณครับ ท่านเอาความรู้เรื่องการตลาด มาอธิบายสังคมโดยรวมของมนุษย์ไม่ได้หรอกครับ เศรษฐศาสตร์จะเป็นคู่หูของคณิตศาสตร์ มันทำงานร่วมกัน
แต่ผู้เชี่ยวชาญทางคณิตศาสตร์ ยังจำกัดความถูกต้องแค่ในแบบจำลองที่เอาปัจจัยต่างๆมาตั้งคำนวณได้ ปัจจัยที่มีผลกระทบกับระบบ แต่เอามาคำนวณไม่ได้ เขาก็ออกตัวว่า อาจทำให้การคำนวณผิดพลาด
มนุษย์มีความซับซ้อนในแต่ละบุคคล อารมณ์แต่ละช่วงเวลาก็แตกต่างกัน ท่านจะเอาวิธีการหาราคาบ้านที่คนส่วนใหญ่ยอมรับ มาบอกว่า เหมือนกับการตัดสินใจของคนในสังคม มันเป็นการวิธีการสรุปที่หยาบมากครับ
และผมก็ไม่อยากจะเขียนอะไรซับซ้อนแบบท่าน คนอ่านเขาจะเครียด พวกเสื้อแดงเห็นท่านบรรยายวิชาการและดูขลังดี จะพาลเห็นว่าที่ท่านเขียนมาทุกอย่าง ถูกต้องไปหมด จะไปกันใหญ่
ในพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าไม่ให้สาวกยึดมั่นในพระพุทธองค์แต่ให้ยึดมั่นในพระธรรมวินัยเป็นศาสดาแทนหลังพระองค์ปรินิพพาน
ในสมัยพุทธกาลและหลังจากนั้นมาอีกนับร้อย ๆ ปี ก็ไม่มีการสร้างพระพุทธรูป แม้แต่พระวินัยบางข้อ ถ้าที่ประชุมสงฆ์เห็นควรละเว้นแก้ไข พระองค์ก็อนุญาตให้ทำได้
นี่แสดงว่าพระพุทธองค์ยอมรับปัญญา และความเป็นอิสระของคณะสงฆ์ส่วนใหญ่ นอกจากนี้พระพุทธเจ้ายังปฏิเสธการแบ่งชั้นวรรณะ เห็นคนเท่าเทียมกัน
ทรงบวชจัณฑาลเป็นพระสงฆ์ จึงนับว่าพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งประชาธิปไตย และจึงถูกทำลายหรือไม่ก็ถูกควบคุมให้อยู่ใต้อาณัติของวรรณะพราหมณ์และวรรณะกษัตริย์เรื่อยมา
ที่ท่านกล่าวถึงพุทธองค์ ท่านก็กล่าวไม่ผิด แต่ท่านอาจได้บาปติดตัวไป
ท่านบอกว่าพุทธองค์ทรงอนุญาตให้มีการแก้พระวินัย ถึงท่านไม่พูดตรงๆ คนอ่านก็ทราบว่าท่านโยงเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ
หรือ การที่ท่านบอกว่าพุทธองค์ปฏิเสธการแบ่งชั้นวรรณะ ท่านก็คงจะโยงเรื่อง ไพร่ อำมาต
ที่ประชุมสงฆ์เป็นที่ประชุมของอริยบุคคลผู้บริสุทธิ์ ท่านเหล่าแก้พระวินัย ท่านก็แก้เพื่อให้พระวินัยได้นำไปปฏิบัติเพื่อความดี ความบริสุทธิ์ ความหลุดพ้นแห่งจิต
แล้วท่านคิดว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลชุดนี้ ที่ประชุม ส.ส นั้น เป็นผู้มีเจตนาบริสุทธิ์ และแก้เพื่อความดี เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนหรือ?
เรื่องที่พุทธองค์ปฏิเสธการแบ่งชั้นวรรณะ มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่อง ไพร่ อำมาต อะไรเลย
คนไทยทุกวันนี้ หรือนับตั้งแต่อดีตกาล ก็ไม่ต้องการให้ใครมากดขี่ แต่เราก็มีค่านิยมที่จะนับถือผู้ทำคุณงามความดีให้กับเรา แล้วยกให้เป็นบุคคลพิเศษ อย่างน้อยก็พ่อแม่
ท่านไม่ควรนำสิ่งที่บริสุทธิ์ มาเขียนเทียบเคียงให้เข้ากับอคติของท่านเพื่อหาประโยชน์ เป็นบาปนะท่าน
บางคนอ้างผิด ๆ ว่าเสียงส่วนใหญ่ก็ตัดสินใจผิดพลาดได้ เช่น กรณีการเถลิงอำนาจของนาซี เยอรมนี โดยอ้างว่าฮิตเลอร์ก็มาจากการเลือกตั้ง
แต่ในความเป็นจริงก็คือ การเลือกตั้งในปี 2476 ดังกล่าว นาซีไม่ได้ชนะด้วยเสียงส่วนใหญ่ นาซีได้คะแนนเสียงเพียง 44% เท่านั้น
ทั้งนี้ยังเป็นการเลือกตั้งสกปรก รวมทั้งการทำลายคู่แข่งของฮิตเลอร์ และแม้นาซีจะชนะการเลือกตั้งใน 33 จาก 35 เขตเลือกตั้ง
ก็เป็นการชนะด้วยเสียงที่ได้มากที่สุดแต่ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่อยู่ดี โดยสรุปแล้วในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง เป็นเรื่องของปุถุชน ทุกคนรู้เท่าทันกัน เสียงส่วนใหญ่ย่อมถูกต้องเสมอ
ไม่มีใครโง่กว่าใคร เราจึงเชื่อมั่นในเสียงส่วนใหญ่ได้
พฤติกรรมของฮิตเลอร์และพรรคนาซีที่ท่านเขียนมา ทำให้ผมนึกถึง ทักษิณและพรรคของเขาเลย
หลังการชนะเลือกตั้ง ฮิตเลอร์ได้ปลูกฝังแนวคิดที่ผิดให้กับประชาชน จนทำให้คนทั้งประเทศซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่ตัดสินใจผิดไปสนับสนุนฮิตเลอร์เข้าสู่สงครามในฐานะผู้รุกราน
ผมก็เกรงว่า ทักษิณและพรรคพวก ก็กำลังทำแบบฮิตเลอร์เป๊ะเลย
อย่างไรก็ตาม “กฎทุกกฎย่อมมีข้อยกเว้น” เช่น เสียงส่วนใหญ่ของโจรย่อมใช้ไม่ได้ เพราะในความเป็นจริง โจรก็ยังเป็นคนส่วนน้อยในสังคม
ในเชิงเทคนิควิทยาการ เช่น การสร้างจรวดไปดวงจันทร์ เราจะถือเสียงส่วนใหญ่ไม่ได้ เราต้องถามผู้รู้ หรือเรื่องความเชื่อแต่เดิมว่าโลกแบน
ถ้าให้ประชาชนผู้ไม่รู้วิทยาการออกเสียงในสมัยโบราณว่าโลกกลมหรือแบน ส่วนใหญ่ก็ต้องออกเสียงว่าโลกแบน เป็นต้น
ท่านเขียนขัดแย้งกันเองครับ ท่านบอกว่า " เสียงส่วนใหญ่ของโจรย่อมใช้ไม่ได้ เพราะในความเป็นจริง โจรก็ยังเป็นคนส่วนน้อยในสังคม "
ในเมื่อโจรเป็นเสียงส่วนน้อยในสังคม แล้วจะเอาเสียงส่วนใหญ่ของโจรมาจากไหน
ผมว่า ตอนที่ท่านเขียนบทความนี้ ท่านคงมึนๆกับสิ่งที่ท่านเขียนพอสมควร
ท่านพูดเรื่องการสร้างจรวดก็ดีแระ ท่านบอกว่า "การสร้างจรวดไปดวงจันทร์ เราจะถือเสียงส่วนใหญ่ไม่ได้ เราต้องถามผู้รู้ "
นั่นแสดงว่า ท่านก็ยอมรับในหลักการที่ว่า ไม่ใช่ทุกเรื่องในประเทศไทยใช่ไหม ที่จะเอาเสียงส่วนใหญ่มาตัดสิน
ท่านยอมรับในกฏที่ว่า “กฎทุกกฎย่อมมีข้อยกเว้น” ดังนั้น ก็จงยอมรับด้วยว่า เสียงส่วนใหญ่ ไม่จำเป็นต้องถูกต้อง ไม่ใช่เสียงสวรรค์ และไม่ใช่สัจจธรรม
ด้วยข้อยกเว้นเหล่านี้ พวกเผด็จการทรราชจึงนำมาบิดเบือน สร้างความสับสนด้วยการอุปโลกน์ตนเป็นผู้นำ เป็นผู้รู้ เป็นอภิชนเหนือคนอื่น
และข่มว่ามหาชนเป็นคนโง่ ถูก “ฟาดหัวด้วยเงิน” ได้โดยง่าย ไร้สามารถ ขาดศักยภาพในการตัดสินใจ จำเป็นต้องมีผู้ยิ่งใหญ่ที่สวรรค์ส่งมาเพื่อนำทางให้อยู่เสมอ ๆ
การบิดเบือนเหล่านี้เกิดขึ้นเพื่อให้ท้ายพวกเผด็จการทรราชมาทำการรัฐประหาร แล้วมาควบคุมประชาชน แต่เมื่อเข้ามาแล้ว ก็มาโกงกิน
ดังเช่นที่เห็นตั้งแต่สมัยสฤษดิ์ สามทรราช รสช. หรืออาจรวม คมช. ด้วยก็ได้ มีใครเชื่อบ้างว่ารัฐบาลสุรยุทธ์และรัฐมนตรีเหล่านั้นใสสะอาดกว่ายุคอื่น
ในยุคเผด็จการทรราชมักมีการโกงกินมากกว่าพวกนักการเมืองพลเรือนเพราะขาดการตรวจสอบและเพราะมักอ้างตนมีคุณธรรมเหนือผู้อื่น
ผมว่าท่านกำลังเข้าใจผิดอย่างรุนแรงนะครับ
ผมคิดว่าประชาชน ไม่มีใครชอบเผด็จการ หรือ รัฐประหารหรอกครับ
การรัฐประหาร ย่อมมีสาเหตุอะไรซักอย่างที่ ไม่สามารถหาทางออกของประเทศได้
เอาอย่างกรณีล่าสุด ก่อนรัฐประหารของ คมช. ประชาชนลุกขึ้นต่อต้านการโกงของทักษิณนานเป็นแรมปี
ทักษิณไม่ยอมแพ้ สร้างสถานการณ์โดยดึงประชาชนฝ่านที่สนับสนุนตัวเองมาเป็นเกราะกำบัง
จนความขัดแย้งบานปลายถึงขึ้นนองเลือด เหตุการณ์แบบนี้ ท่านไม่นำมาเขียน เนื้อหาวิชาการของท่านก็ไม่สมบูรณ์ มีอคติ และเชื่อถือไม่ได้
เผด็จการทรราชยังใช้อำนาจเขียนประวัติศาสตร์บิดเบือนต่าง ๆ นานา เช่น เมื่อจะโค่นล้มรัฐบาล ป. พิบูลสงคราม ก็กล่าวหาว่ารัฐบาลดังกล่าวโกงเลือกตั้ง
ทั้งที่การโกงกันเพียงบางส่วนจากทั้งสองฝ่าย และอาจเป็นการสร้างสถานการณ์การโกงเพื่อก่อรัฐประหาร ในสมัย 6 ตุลาคม
ก็หาว่านักศึกษาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และเพื่อตอกย้ำความชอบธรรมของคณะรัฐประหาร ก็จัดแสดงนิทรรศการอาวุธในธรรมศาสตร์ที่สนามไชย
ซึ่งผู้เขียนในฐานะนักศึกษาผู้ร่วมชุมนุมคนหนึ่งเชื่อว่าไม่เคยมีอาวุธสงครามเช่นนั้น หาไม่ตำรวจ ทหารและกลุ่มฝ่ายขวาที่บุกเข้าไปคงต้องเสียชีวิตกันมากมายไปแล้ว
ท่านก็เป็นอีกหนึ่ง ที่ฝังใจกับเหตุการณ์ในอดีต ในยุค 6 ตุลาคม ในสมองของท่าน เต็มไปด้วยบรรยากาศการต่อสู้ในสมัยนั้น
ท่านเลยเอามาผสมปนเปกับสภาพความขัดแย้งในปัจจุบัน ซึ่งเป็นคนละบรรยากาศกัน
ความขัดแย้งในอดีต คือ ประชาชนขัดแย้งกับรัฐ แต่ปัจจุบัน ประชาชนขัดแย้งกับประชาชน ซึ่งต้นเหตุเกิดจากการโกงของนักการเมือง
สมองของท่านเลือกเอาประชาชนฝั่งหนึ่งเป็นประชาชนเหมือน 6 ตค
แต่เอาประชาชนอีกฝั่งหนึ่งเป็นคณะปกครอง อ่านแล้วไม่อยากเขียนต่อเลย
ประชาชนมักถูกมองว่าเป็นแค่ “ฝุ่นเมือง” หรือ “ปุถุชน” (บุคคลผู้มีกิเลสหนา) แต่ในความเป็นจริง
ปุถุชนหรือสามัญชนนี่แหละคือเจ้าของประเทศตัวจริง ไม่ว่าชนชั้นปกครองจากชาติใด ราชวงศ์ใด หรือลัทธิใดมาครอบครอง
สามัญชนก็ยังอยู่สร้างชาติ รักษาความเป็นชาติ เช่นที่เห็นได้ในประวัติศาสตร์จีน เกาหลี หรือล่าสุดในสมัยสงครามเวียดนามที่มีเพียงประชาชนระดับบนที่มีฐานะและโอกาสที่ดีกว่า
ที่หลบหนีออกนอกประเทศเพื่อความอยู่รอดส่วนตัว ดังนั้นเราจึงต้องตระหนักถึงคุณค่าของมวลมหาประชาชน ดังบทกวีที่ว่า
“ไม่มีอำนาจใดในโลกหล้า
ผู้ปกครองต่างมาแล้วสาบสูญ
ไม่มีใครล้ำเลิศน่าเทิดทูน
ประชาชนสมบูรณ์นิรันดร์ไป
เมื่อยืนหยัดต่อสู้ผู้กดขี่
ประชาชนย่อมมีชีวิตใหม่
เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ
ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ในแผ่นดิน”
เอาความเป็นจริงมาพูดกันม๊ะ
ไม่มีใครเป็นเจ้าของอะไรอย่างแท้จริงหรอกครับ เกิดมาอยู่แผ่นดินไทย พอตายไป ก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน
แม้แต่ชนชั้นผู้ปกครอง ในอดีต ก็เปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อย ดังนั้น ไม่มีใครเป็นเจ้าของอะไรอย่างแท้จริง
ส่วนตัวผมว่า สิ่งที่มีคุณค่าที่แท้จริงของการมีชีวิตอยู่ก็คือ "ความสงบสุขและความมั่นคงในการดำเนินชิวิตให้มีความสุขกายสุขใจ"
ไม่ว่าท่านโสภณ จะเป็นคนไทย จีน เกาหลี หรือ เวียดนาม ถ้าท่านอยากเห็นคนในชาติของท่าน มีความสงบสุขและความมั่นคงในการดำเนินชิวิตให้มีความสุขกายสุขใจ
ท่านควรเขียนบทความที่บอกข้อเท็จจริงต่อประชาชนให้ครบถ้วน คนในชาติจะได้ตัดสินใจได้อย่างถูกต้องว่า
ประเทศจะเดินทางไปในเส้นทางใดจึงถูกต้องที่สุด
ผมก็มีบทกลอนมาฝากเหมือน
"ไม่มีอำนาจใดในโลกหล้า
ที่จะมาแก้ไขในสิ่งผิด
ยกเว้นว่าเราจะได้คิด
ยอมรับผิดแก้ไขใหม่ให้ถูกทาง
ความยากจนคนส่วนใหญ่ได้รับรู้
แต่ถ้ากู้มาแก้คงแย่กว่า
เพิ่มรายได้รายจ่ายเพิ่มใครปรีดา
รัฐบาลหน้าอย่าเป็นทักพรรคเพื่อไทย "
หมายเหตุ:
ผู้เขียน เขียนบทความนี้ขึ้นเพื่อแสดงคารวะถึงเกียรติศักดิ์ของสามัญชนที่มักถูกมองข้าม หยามหมิ่น ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาที่จะให้บทความนี้เป็นผลบวกหรือลบต่อการเมืองฝ่ายใด และที่ผ่านมาและจากนี้ไป ผู้เขียนก็ไม่ได้คิดไปรับใช้การเมืองฝ่ายใด
ไม่เชื่อครับ
ขาประจำ
Posted 2 June 2013 - 17:42
ขาประจำ
Posted 2 June 2013 - 17:44
เมพ
Posted 2 June 2013 - 17:51
อย่างไรก็ตาม “กฎทุกกฎย่อมมีข้อยกเว้น” เช่น เสียงส่วนใหญ่ของโจรย่อมใช้ไม่ได้ เพราะในความเป็นจริง โจรก็ยังเป็นคนส่วนน้อยในสังคม ในเชิงเทคนิควิทยาการ เช่น การสร้างจรวดไปดวงจันทร์ เราจะถือเสียงส่วนใหญ่ไม่ได้ เราต้องถามผู้รู้ หรือเรื่องความเชื่อแต่เดิมว่าโลกแบน ถ้าให้ประชาชนผู้ไม่รู้วิทยาการออกเสียงในสมัยโบราณว่าโลกกลมหรือแบน ส่วนใหญ่ก็ต้องออกเสียงว่าโลกแบน เป็นต้น
วิธีคิดที่ว่า เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง ก็หนีไม่พ้นกฏนี้ด้วยเช่นกัน
[color=#000080;]จันทร์เอ๋ย จันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง[/color]
ผมเป็นกลางนะครับ[color=#000080;] 
[/color]
Reporter Activated
Posted 2 June 2013 - 17:53
15 ล้านเสียง เลือก ส.ส. พรรคควายไทย และ ส.ส. เลือกโหวต นังยกปูว์ เป็นนายก
ผ่านมา เกือบ 2 ปี นอกจากผลาญงบประมาณประเทศชาติ ตั้งหน้าตั้งตากู้ ทำประเทศชาติขาดทุน ประชานิยมบ้าบอคอแตก หาแต่เรื่องคอรัปชั่น มุ่งแต่จะนิรโทษกรรมไม่สนใจประชาชน
เรียกว่า 15 ล้านเสียงที่อ้างว่าเป็นเสียงส่วนใหญ่ตัดสินใจผิดหรือไม่?
ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม
ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า
อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน
ขาประจำ
Posted 2 June 2013 - 17:53
ขาประจำ
Posted 2 June 2013 - 17:55
Reporter Activated
Posted 2 June 2013 - 17:56
แล้วด็อก ให้คำจำกัดความและสเกลของเสียงส่วนใหญ่ว่าอย่างไร?
ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม
ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า
อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน
ขาประจำ
Posted 2 June 2013 - 17:57
ขาประจำ
Posted 2 June 2013 - 18:03
เรียน คุณ Neo
สรุป ยกตัวอย่างมา 1 para หน่อย ว่าเสียงส่วนใหญ่ผิด
ผมไม่ได้สรุปว่าเสียงส่วนใหญ่ผิดนะครับ
แต่ผมค้านที่ท่านโสภณ กล่าวว่า เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง คือเสียงสวรรค์ คือสัจธรรม
แต่จะให้ผมยกกรณีเสียงส่วนใหญ่หนึ่งกรณีก็ได้ เช่น
ในประเทศอินเดีย สมัยมหาตมะคานธี ประชากรที่นับถือฮินดู มีมากกว่า นับถืออิสลาม
คนส่วนใหญ่ต้องการให้อินเดีย เป็นฮินดู ทำให้ประเทศแตกแยก มีการเช่นฆ่ากันในแต่ละส่วนของประเทศ
สุดท้าย ประชากรที่นับถืออิสลาม ต้องอพยพไปอยู่ปากีสถาน
อันนี้คือตัวอย่างว่า เสียงส่วนใหญ่ไม่คำนึงถึงเสียงส่วนน้อย ทำให้เกิดกลียุคกับประเทศ
ประชาธิปไตยแบบท่านโสภณ จะมีประโยชน์อะไรครับ ท่านลองตรองดู
มหาอำมาตย์แดง ชั้นที่ 1.(ระดับเดียวกับท่านตู่,ท่านเต้น)
Posted 2 June 2013 - 18:03
เรียน คุณ Gop
สมาชิกในนี้มีมากนับพัน ที่ชอบหยาบกับผมเปนส่วนน้อย
หากแม้ส่วนใหญ่ (ซึ่งไม่จริง) เกลียดผม ก็ยังเปนคนส่วนน้อยในสังคมไทย
ด็อคฯครับ ปรกติผมก็ไม่ค่อยหยาบกับใครนะครับ ตลอดมาผมก็สุภาพกับด็อคฯมาตลอด แต่ด็อคเป็นห่าอะไรหรือครับ จึงไม่ตอบผมมาซะทีว่า "ที่แหกปากคุยโม้ว่าใช้งบหาเสียง 150,000 บาท (ซึ่งผมไม่เชื่อ เพราะเฉพาะค่าพริ้ตตี้ก็เกินแล้ว) แล้วแหกปากคุยโม้ว่าได้คะแนนเสียงตั้ง 1144 " ถามด็อคฯมาจะสิบครั้งแล้ว ด็อคไม่เคยตอบผมซักที บอกให้ผมไปเอาเครื่องคิดเลขคูนเอาเอง ผมก็บอกด็อคไปว่าบ้านผมจน ไม่มีเครื่องคิดเลข ด้อคก็หายเงียบไปทุกที ตกลงเมื่อไหร่ผมจะได้คำตอบจากด็อคครับ ...
มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล
เมพ
Posted 2 June 2013 - 18:03
ในเมื่อ “กฎทุกกฎย่อมมีข้อยกเว้น” แล้วเราจะไปหาข้อยกเว้นทำไม
คุณไม่ได้บอกว่า “กฎบางกฎย่อมมีข้อยกเว้น” ถ้าคุณบอกแบบนี้
ผมจึงสมควรจะไปหาข้อยกเว้นมาโต้แย้งกับคุณ
เพราะฉะนั้น จากคำว่ากล่าวข้างบนสุด ผมจึงไม่ต้องไปค้นหาอะไรโดยอัตโนมัติทันที
[color=#000080;]จันทร์เอ๋ย จันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง[/color]
ผมเป็นกลางนะครับ[color=#000080;] [/color]
ขาประจำ
Posted 2 June 2013 - 18:05
เข้ามาส่งการบ้านกันใหญ่เลย ดร ช่วยสอนมันที ว่าผิดจุดใหน 
0 members, 1 guests, 0 anonymous users
Community Forum Software by IP.Board 3.4.6
Licensed to: serithai.net
