เครดิต.......จากคอลัมน์ของ ลมเปลี่ยนทิศครับ
แม้เป็น “ข่าวเล็กๆ” ในสื่อ แต่ก็ “ช็อก” คนเป็นพ่อแม่ผู้ปกครองนักเรียนหลายสิบล้านคนทั่วแผ่นดินไทย เมื่อ คุณภาวิช ทองโรจน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีศึกษา เปิดเผยผลการจัดอันดับ ความสามารถในการแข่งของประเทศทั่วโลกด้านการศึกษา ของ เวิลด์ อี โคโนมิก ฟอรัม ล่าสุด พบว่า อันดับคุณภาพการศึกษาไทย อยู่ในอันดับเกือบบ๊วยใน กลุ่มอาเซียน 10 ประเทศ โดยอยู่ใน อันดับที่ 8
แพ้ กัมพูชา และ เวียดนาม
8 อันดับในกลุ่มอาเซียนที่ คุณภาวิช นำมาเปิดเผยก็คือ 1. สิงคโปร์ 2.มาเลเซีย 3.บรูไน 4.ฟิลิปปินส์ 5.อินโดนีเซีย 6.กัมพูชา 7.เวียดนาม 8.ไทย
คุณ ภาวิช ให้สัมภาษณ์ว่า ข้อมูลนี้ถือว่าน่าตกใจ เพราะอันดับของเราตํ่ามาก แต่เมื่อเทียบในอันดับโลก เราก็ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ตํ่าขนาดนี้ จึงต้องวิเคราะห์ข้อมูลให้ชัดเจนก่อนว่าเป็นเพราะอะไร การศึกษาไทยต้องปรับใหญ่ทั้งระบบ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการปรับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก่อนหน้า นี้ กระทรวงศึกษาไทย ก็มี ข่าวช็อก คนไทยทั้งประเทศมาแล้ว เมื่อผลสอบเอ็นทีที่กำหนดให้นักเรียนต้อง สอบอ่านออกเสียง เขียนเรียงความ คิดเลขจริง พบว่า มีเด็ก ป.3 กว่า 80,000 คน ที่อ่านไม่ได้หรืออ่านไม่คล่อง จากเด็ก ป.3 ทั้งหมด 1.6 ล้านคน
เมื่อมีการ เปลี่ยนรัฐมนตรีคนที่ 3 ในรอบ 2 ปีจาก คุณพงศ์เทพ เทพกาญจนา เป็น คุณจาตุรนต์ ฉายแสง ก็มีการสั่งให้ ปฏิรูปหลักสูตรและตำราการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้งหมด เพื่อแก้ปัญหาอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ของนักเรียนให้เสร็จภายในต้นเดือน กันยายนนี้
สองวันก่อน คุณชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ก็ออกมาเปิดเผยว่า กระทรวงศึกษาได้คิดวิธีแก้ปัญหาเด็กไทยอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ได้แล้ว นั่นคือ ได้พัฒนาเครื่องมือ ที่จะนำไป สแกนวัดระดับทักษะการอ่านเขียนของนักเรียนชั้น ป.3 และ ป.6 หลังจากนี้จะนำไปชี้แจงให้ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา เพื่อให้นำ
เครื่องมือ นี้ไป สแกนเด็ก 2 ชั้น จำนวน 1.6 ล้านคน โดยวางปฏิทินให้ลงมือสแกนก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ในเดือนกันยายนนี้ เพื่อนำตัวนักเรียนที่มีปัญหาการอ่านเขียนไปรับการฟื้นฟูช่วงปิดภาคเรียน
ผม ไม่รู้ว่า เครื่องมือวิเศษ ที่ กระทรวงศึกษาฯ พัฒนาขึ้นมา สแกนความสามารถในการอ่านเขียนของเด็กได้ เป็นเครื่องมืออะไร ชื่ออะไร พัฒนาขึ้นเองจริง หรือว่า ไปซื้อมาเครื่องละเท่าไร ต้องใช้เงินกี่ล้าน เพราะ คุณชินภัทร ไม่ได้ให้รายละเอียด
เทียบกับนาฬิกาเรือนละ 75,000 บาทของรัฐสภา เครื่องมือที่สามารถสแกนความสามารถในการอ่านเขียนของคนได้ ต้องวิเศษกว่านาฬิกาหลายร้อยเท่า ราคาจะเครื่องละเท่าไร ถ้าต้องสแกนเด็ก 1.6 ล้านคนให้เสร็จก่อนเปิดเทอมเดือนนี้ จะต้องใช้เครื่องนี้กี่พันกี่หมื่นเครื่อง ต้องใช้คนสแกนอีกเท่าไร ใช้คนประเมินอีกเท่าไร
ผมหวังว่า คนในกระทรวงศึกษาจะไม่ใช้ความโง่ของเด็กไทยไปหากินในครั้งนี้อีก
ความ ล้มเหลวของการศึกษาไทย เป็นที่รู้กันมานานแล้ว แต่ไม่เคยมีรัฐบาลไหนให้ความสนใจจริง แม้แต่ รัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็สนใจวัตถุ ซื้อแท็บเล็ตแจก แต่ไม่สนใจเนื้อหา สองปีเปลี่ยนรัฐมนตรีศึกษาไป 4 คน แต่ละคนที่เข้ามาก็มีโปรเจกต์ใหม่เพื่อปฏิรูปการศึกษา จน สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น เคยมีบทความเขียนถึง ระบบการศึกษาไทย ว่า แย่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ แย่ลงไปทุกปี
ซีเอ็นเอ็น บอกว่า ระบบการศึกษาไทยงี่เง่าที่สุดในโลก มีการ เปลี่ยนกฎเกณฑ์และแนวทางการศึกษาทุกเทอม ทั้ง เนื้อหา แผนการเรียนการสอน การทดสอบ ทุกปี รัฐมนตรีศึกษาฯ จะมีไอเดียใหม่เพื่อปฏิรูปการศึกษาทุกปี แต่ก็ล้มเหลวมาโดยตลอด
ผมก็ได้แต่กราบเรียน นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไว้ตรงนี้ เพื่อเห็นแก่ลูกหลานไทย ที่จะเป็นกำลังของชาติบ้านเมืองในอนาคต ช่วยลงมาดูแลเรื่องการศึกษาของชาติให้เข้มแข็งกว่านี้เถิด โดยเฉพาะ เนื้อหาการศึกษา และการทุจริตคอร์รัปชันในกระทรวงนี้ ก่อนที่การศึกษาไทยจะล้าหลัง ลาว พม่า ไปอยู่อันดับบ๊วยในอาเซียน.
“ลม เปลี่ยนทิศ”
เมื่อตอนเที่ยง ไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวระหว่างนั่งทานไปก้อหยิบนสพ.มาอ่าน ก้อตามเนื้อหาด้านบนน่ะครับแล้วกลับมานั่งคิดต่อที่ทำงานว่าเพราะเหตุใดมันถึงกลายเป็นเช่นนี้จากประเทศที่เคยเป็นหนึ่งหลายๆเรื่องในภูมิภาคนี้ แต่กลายเป็นว่าเดี๋ยวนี้สาละวันเตี้ยลงทุกอย่าง ทั้งเรื่อง สังคม การเมือง เศรษฐกิจ และการศึกษา
เลยโทรหาเพื่อนที่เป็นอาจารย์สอนหนังสือสังกัด สพฐ ในบ้านนอก ว่าอ่านข่าวเรื่องนี้แล้วรู้สึกยังงัย มันเริ่มเลยว่า ก้อครูมีหน้าที่สอนหนังสือแต่ทางราชการก้อมีงานให้ไปประชุมเกือบทั้งอาทิตย์ เข้าค่ายธรรมมะธรรมกาย เยอะแยะหมด ไหนจะสมศ.เข้าตรวจอีกจะเอาเวลาที่ไหนไปสอนเด็กเต็มที่วะ ส่วนไอ้พวกแก่หน่อย นู่นยุ่งแต่เรื่องส่วนตัว เรื่องทำคศ.2 คศ.3 ไม่มีเวลามานั่งสอนหนังสือ ยิ่งแก่ยิ่งเก๋า วันนึงสอนไม่กี่ชั่วโมงหนีกลับไปกินข้าวบ้านกว่าจะเข้าโรงเรียนนู่นเกือบเย็น เดือนๆนึงกินเงินเดือนหลายหมื่นยิ่งกว่าเช้าชามเย็นชาม เด็กบรรจุใหม่แม่มใช้สากกระเบือยันเรือรบชั่วโมงสอนเยอะมาก เงินเดือนก้อน้อยกว่าเยอะ มันกำลังอารมณ์ขึ้น เลยถามเรื่องไอ้เครื่องสแกนเด็กอ่านหนังสือ ได้ไม่ไม่ได้มันคือไรวะ โอ้วอารมณ์ขึ้นยิ่งกว่าเดิม มันบอกว่า ก้อคงงบหาแดร-กเหมือนไอ้ไม้ล้างป่าช้านั่นแหล่ะ แค่นี้นะก-รูสอนอยู่ วางสาย
Edited by อาบังคนเหนือ, 6 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:03.