ผลผลิตเลวจากอาจารย์ที่เลว (เป็นศิษย์สมศักดิ์เจียม)
Posted 9 September 2013 - 13:20
ไม่ว่า ศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ จุฬาฯ รามฯ
ระยะหลังๆมานี่ ถ้าไม่ใช่ขี้ข้านักการเมือง ก็เป็นพวกตามน้ำเอาตัวรอด
นิสิต นักศึกษา ปัจจุบัน เสียสละอะไรให้สังคมบ้าง
เห็นมีแต่เรื่องแบรนด์เนม มือถือ เน็ทฯ เพศ หรือไม่ก็ให้ไอ้เจียม ไอ้ทรเจตน์มันล้างสมองเอา
อย่ามาอ้างยูนิฟอร์ม ไม่ยูนิฟอร์ม จะเป็นลิเบอรัลลิสท์หรือข้าทาส
ที่ทำตัวอยู่ทุกวันนี้ไม่ได้มีสาระอะไรเลย
Posted 9 September 2013 - 13:23
เคยเสนอหลายครังเเล้วว่าให้ตรวจสุขภาพจิตผู้เข้าเรียน ผํ้รับจ้างสอน เป็นประจำ เพราะป่วยการที่จะให้ที่นั่งเเก่พวกจิตใจไม่ปกติมีปัญหาต้องรักษา มันก็เป็นซะเเบบนี้เเหละ
ดูไม่ออกกันหรือไงว่าคนพวกนี้อยู่ผิดที่ ที่ของมันไม่ใช่โรงเรียนมหาวิทยาลัย เเต่เป็นโรงพยาบาลโรคจิตต่างๆ
รำคาญสลิ่มเที่ยมที่เข้ามาปล่อยสารพิษเรียกร้องความรุนเเรงเสดงออกถึงความคลั่งสงครามกลางเมืองยุเเยงสร้างภาพชั่วๆ
เอียนวะ เห็นคนเเถวนี้ไอคิวต่ำกว่า 90 หรือไง
Posted 9 September 2013 - 13:39
จากประกาศจาบจ้วงเบื้องสูงของคณะราษฎร์ ตอนนี้มันกลายเป็นว่า
กาลเวลาหลายสิบปีผ่านไปหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง มาถึงวันนี้
วาทกรรมที่ว่า ประเทศเรานี้เป็นของราษฎร เป็นแค่คำหลอกลวง
เพราะเอาเข้าจริงๆ ประเทศเรากลายเป็นของกลุ่มนักการเมืองไม่กี่ตระกูล
งบประมาณชาติกลายเป็นสมบัติผลัดกันกิน ซ้ำยังสร้างความแตกแยกในหมู่ราษฎรด้วยกัน
และราษฎรบางคนมองเห็นแต่ผลประโยชน์เฉพาะหน้าของตัวเองเท่านั้น
Edited by อู๋ ฮานามิ, 9 September 2013 - 13:40.
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
Posted 9 September 2013 - 14:46
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Instagram good_kpn
อั้ม เนโกะ นักศึกษาธรรมศาสตร์ประท้วง อาจารย์ มธ. บังคับใส่เครื่องแบบนักศึกษา ทำโปสเตอร์ล่อแหลม กู๊ด kpn ของขึ้น บอก ถ้าไม่ให้เกียรติเครื่องแบบธรรมศาสตร์ก็ไปเรียนที่อื่น
กลายเป็นประเด็นฮือฮา เมื่อ อั้ม เนโกะ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกมาทำกิจกรรมประท้วงการบังคับใส่เครื่องแบบนักศึกษาของอาจารย์บางวิชา ทั้งที่ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่มีการบังคับให้ใส่ชุดนักศึกษา นักศึกษาสามารถแต่งชุดไปรเวทที่สุภาพไปเรียนได้ ยกเว้นตอนสอบและในงานพิธีการ โดย อั้ม เนโกะ ได้ประท้วงด้วยการติดภาพโปสเตอร์ล่อแหลม สื่อถึงการร่วมเพศในชุดนักศึกษา ตามบอร์ดในมหาวิทยาลัย จนถูกเรียกไปตักเตือน เนื่องจากแนวทางการประท้วงของเธออาจจะเกินขอบเขตมากเกินไป จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก ซึ่งก็มีทั้งเสียงสนับสนุนการออกมาเคลื่อนไหวของนักศึกษากลุ่มนี้ และเสียงคัดค้านและมองว่าวิธีการเรียกร้องครั้งนี้ไม่ค่อยเหมาะสม
ล่าสุด เมื่อกลางดึกวานนี้ (8 กันยายน 2556) กู๊ด kpn ชยพล ปัญหกาญจน์ หนึ่งในคนดังที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์อินสตาแกรมเป็นภาพตอนที่เขาใส่ชุดนักศึกษา พร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ดังนี้
"ผม เป็นนักศึกษาที่ภูมิใจกับชุดนักศึกษาของผม และขอบคุณ TU BAND ที่ให้ใส่ชุดนี้ขึ้นร้องเพลง ซึ่งเป็นการใส่ชุดนักศึกษาแล้วทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ "พวกคุณ" ควรให้เกียรติกับเครื่องแบบ สัญลักษณ์ และความเป็นธรรมศาสตร์ ถ้าทำไม่ได้และออกมาเรียกร้องเสรีภาพด้วยวิธีการดูหมิ่น ก็ไปเรียนที่อื่น ที่ที่คุณพึงพอใจซะ อย่ามาถ้าไม่เคารพ เสียดายที่ให้คนอื่น #โมโหจริง ๆ นะ #นั่งพิมนานมาก ๆ ๆ ๆ #มันขึ้นอ่ะ #เป็นคนหนึ่งที่ไม่ใส่ชุด นศ. ทุกวัน #แต่ภูมิใจที่ได้ใส่นะ #ปลวกจิต #ฝันดีนะที่รักทุกคน #ฝันร้ายซะพวกที่ทำ #โมโหเหวี่ยงเขวี้ยงงา"
งานนี้เรียกได้ว่า หนุ่ม กู๊ด kpn ถึงขั้นของขึ้นเลยทีเดียว !
http://fb.kapook.com/women-70786.html
บ้านมีกฏของบ้าน เมืองมีกฏของเมือง โรงเรียนก็มีกฏของโรงเรียน สังคมก็มีกฏของสังคม ถ้าทำตามกฏไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องไปอยู่ในคุกนะจ๊ะ นายเนโก๊ะจ๋า
Posted 9 September 2013 - 17:25
กลุ่มที่ทำโพสเตอร์มันเป็นแค่คนกลุ่มน้อยใน มธ. เพียงแต่ปลาเน่าตัวเดียวมันเหม็นไปทั้งมหาลัย
อย่าได้คิดว่ากระเทยตนนี้จะสำนึกเชียว
https://www.facebook.com/cute.aum
http://www.thairath....tent/edu/368565
สรุปเลยนะ มันเป็นกระเทยตามกฎต้องใส่ชุดนักศึกษาชาย มันอยากแต่งหญิงเลยเดือดร้อนไง
ธรรมศาสตร์กระเทยใส่ชุดนักศึกษาหญิงได้ครับ
Posted 9 September 2013 - 18:25
กลุ่มที่ทำโพสเตอร์มันเป็นแค่คนกลุ่มน้อยใน มธ. เพียงแต่ปลาเน่าตัวเดียวมันเหม็นไปทั้งมหาลัย
อย่าได้คิดว่ากระเทยตนนี้จะสำนึกเชียว
https://www.facebook.com/cute.aum
http://www.thairath....tent/edu/368565
สรุปเลยนะ มันเป็นกระเทยตามกฎต้องใส่ชุดนักศึกษาชาย มันอยากแต่งหญิงเลยเดือดร้อนไง
ธรรมศาสตร์กระเทยใส่ชุดนักศึกษาหญิงได้ครับ
โทษทีครับลืมไปว่า ท่านอาจารย์สมคิดท่านใจกว้า
ศ.ดร.สมคิด. กล่าวอีกว่า. นอกจากนี้ทปอ. ยังหารือกรณี มธ. อนุญาตให้นักศึกษาชายแต่งชุดครุยหญิงเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรได้ ซึ่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยหลายแห่งได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ของแต่ละมหาวิทยาลัยในการดำเนินการเรื่องนี้ พบว่า มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ,มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มหาวิทยาลัยบูรพา ก็อนุญาตให้นิสิตนักศึกษาข้ามเพศ แต่งชุดครุยเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรได้ แต่มีเงื่อนไขต้องมีการขออนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย ต้องมีกระบวนการพิสูจน์ทางการแพทย์และต้องมีใบรับรองจากแพทย์มายืนยันโดยไม่เปิดกว้าง อีกทั้งเห็นว่าขณะนี้สังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปมาก และมหาวิทยาลัยหลายแห่งก็อนุญาตให้นักศึกษาชายแต่งชุดครุยหญิงเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรได้ แต่มหาวิทยาลัยบางแห่งก็ยังไม่อนุญาต จึงมีข้อสรุปว่า ขอให้เรื่องนี้เป็นการพิจารณาของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง เนื่องจากมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งมีประวัติ จารีตประเพณี และความพร้อมที่แตกต่างกันดังนั้น ให้เป็นอิสระของแต่ละมหาวิทยาลัย
http://www.dailynews...ducation/151629
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้พูดตัดพ้อกับคนที่เดินทางไปพบว่า “พรรคเพื่อไทยมีคนเก่งๆ เยอะ ทั้งนักวิชาการ ด็อกเตอร์ ทูต แต่ไม่กล้าออกมาสู้ คนหน้าตาดีไม่ออกมา พวกที่ออกมาหน้าตาไม่ค่อยดี ไม่เหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์ ฝ่ายตรงข้าม คนมีความรู้ นักวิชาการออกมาเยอะแยะเลย คนจริงใจกับผมมันน้อย วางยาผม เพราะตัวเองอยากอยู่นานๆ เห็นว่านายกฯ ไม่แข็ง แต่ท่านนายกฯ ก็ดี แต่คนรอบข้างไม่เป็นการเมือง ผมส่งคนเป็นการเมืองไปนายกฯ ก็ไม่เอา ผมก็สงสารนายกฯ จึงไม่อยากจู้จี้ แต่คนที่เมืองไทยมันไม่ได้ดั่งใจ”
แปลสั้นๆ เขาด่าไอ้เสร่อแกนนำแดงว่า"โง่แต่ขยัน"
Posted 9 September 2013 - 20:22
ไม่รู้นะ แต่ผมรู้สึกแค่เหมือน น้องคนนี้ก็แค่ต้องการเด่นดัง
เพื่อปกปิดปมในใจตัวเอง
น่าจะเคยมีเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับระบบชนชั้น จน พาดงวงพาดงา ไปทั่ว
น่าเห็นใจ^^
กฎหมายมันก็แค่สิงที่สร้างมาอย่างมีเป้าหมาย แต่หาก เอาแต่บอกว่ากฎหมายเป็นแบบนี้ แบบนั้น โดยไม่สนใจว่าเป้าหมายจริงๆ นันคืออะไร ก็คงไม่ใช่
Posted 9 September 2013 - 21:04
ไม่ให้ลูกหลานผมเรียนหรอก พวก รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ บ้าเข้าข้างตัวเองหรือผลดีที่ตัวเองได้
เรียนวิศวกรรม เคมี ฟิสิกส์ ดีกว่า
เราตระกูลชินจัง ขอยก ฐานะ เสื้อแดง จาก ไพร่ เป็น ควายแดง ณ.บัดนี้
ถึงแม้ พ่อแม่ เองจะให้ฐานะความเป็น คน มาแต่กำเนิดก็ตาม
Posted 9 September 2013 - 21:26
พวกนี้ไม่ใช่ลูกศิษย์จานหงอกแน่ๆ
ลูกศิษย์จานหงอกของแท้ต้อง threesome เท่านั้น
Posted 9 September 2013 - 21:42
ไม่มีอะไรหรอก
แค่ให้ อมธ. หรือ สโมสรนักศึกษาคณะวิทยาฯ ยื่นเงื่อนไขกับ อาจารย์ในภาควิชาวิทยาศาสตร์ว่า
เพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีกับนักศึกษา ขอให้อาจารย์ใส่ uniform เข้ามาสอนด้วยเช่นกัน ถ้าไม่มีก็ให้ไปตกลงกันเองว่าจะใส่ uniform แบบไหน
ถ้าอาจารย์คนที่สั่งยังทำไม่ได้ ก็อย่ามาสั่งนักศึกษาให้่ทำให้สิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้
อีกอย่างถ้าอาจารย์เขาอ้างว่า เพื่อสร้างจิตสำนึก ก็ให้ นักศึกษาอ้างเช่นเดียวกันว่า อยากปลูกจิตสำนักให้อาจารย์เช่นกัน ไม่งั้นมหาลัยจะมีแต่คนแบบหงอกเจียม กับ วรเจตน์
ถ้ามหาวิทยาลัยแห่งนี้ ให้เสรีภาพในการวิพากย์วิาจารย์สถาบันพระมหากษัตริย์ได้ แต่ให้เสรีภาพในการแต่งกายของนักศึกษาไม่ได้
ผมว่า มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ไม่ใช่ธรรมศาสตร์ น่าจะเรียกว่า อธรรมศาสตร์ มากกว่า
Posted 9 September 2013 - 21:43
ดูคลิปอีบ้านี่เต้น
Posted 9 September 2013 - 21:52
แบบนี้หรือเปล่าที่เขาเรียกกันว่า พวกโลกสวย อยู่อุดมคติที่ไม่สามารถปฏิบัติได้ในความเป็นจริง
Posted 9 September 2013 - 21:58
ต่อต้านการดัดจริตตอแหล...ด้วยการทำตัวดัดจริตตอแหลให้ชาวบ้านดูเนี่ยนะ
ถ้าคิดว่าดีก็ทำต่อไป
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
Posted 9 September 2013 - 22:00
ไม่มีอะไรหรอก
แค่ให้ อมธ. หรือ สโมสรนักศึกษาคณะวิทยาฯ ยื่นเงื่อนไขกับ อาจารย์ในภาควิชาวิทยาศาสตร์ว่า
เพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีกับนักศึกษา ขอให้อาจารย์ใส่ uniform เข้ามาสอนด้วยเช่นกัน ถ้าไม่มีก็ให้ไปตกลงกันเองว่าจะใส่ uniform แบบไหน
ถ้าอาจารย์คนที่สั่งยังทำไม่ได้ ก็อย่ามาสั่งนักศึกษาให้่ทำให้สิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้
อีกอย่างถ้าอาจารย์เขาอ้างว่า เพื่อสร้างจิตสำนึก ก็ให้ นักศึกษาอ้างเช่นเดียวกันว่า อยากปลูกจิตสำนักให้อาจารย์เช่นกัน ไม่งั้นมหาลัยจะมีแต่คนแบบหงอกเจียม กับ วรเจตน์
ถ้ามหาวิทยาลัยแห่งนี้ ให้เสรีภาพในการวิพากย์วิาจารย์สถาบันพระมหากษัตริย์ได้ แต่ให้เสรีภาพในการแต่งกายของนักศึกษาไม่ได้
ผมว่า มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ไม่ใช่ธรรมศาสตร์ น่าจะเรียกว่า อธรรมศาสตร์ มากกว่า
1. ผมสงสัย อาจารย์มียูนิฟอร์มด้วยหรือ?
2. การใช้รูปร่วมเพศทำเป็นโปสเตอร์เป็นเสรีภาพ?
Posted 9 September 2013 - 22:05
ไม่มีอะไรหรอก
แค่ให้ อมธ. หรือ สโมสรนักศึกษาคณะวิทยาฯ ยื่นเงื่อนไขกับ อาจารย์ในภาควิชาวิทยาศาสตร์ว่า
เพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีกับนักศึกษา ขอให้อาจารย์ใส่ uniform เข้ามาสอนด้วยเช่นกัน ถ้าไม่มีก็ให้ไปตกลงกันเองว่าจะใส่ uniform แบบไหน
ถ้าอาจารย์คนที่สั่งยังทำไม่ได้ ก็อย่ามาสั่งนักศึกษาให้่ทำให้สิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้
อีกอย่างถ้าอาจารย์เขาอ้างว่า เพื่อสร้างจิตสำนึก ก็ให้ นักศึกษาอ้างเช่นเดียวกันว่า อยากปลูกจิตสำนักให้อาจารย์เช่นกัน ไม่งั้นมหาลัยจะมีแต่คนแบบหงอกเจียม กับ วรเจตน์
ถ้ามหาวิทยาลัยแห่งนี้ ให้เสรีภาพในการวิพากย์วิาจารย์สถาบันพระมหากษัตริย์ได้ แต่ให้เสรีภาพในการแต่งกายของนักศึกษาไม่ได้
ผมว่า มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ไม่ใช่ธรรมศาสตร์ น่าจะเรียกว่า อธรรมศาสตร์ มากกว่า
1. ผมสงสัย อาจารย์มียูนิฟอร์มด้วยหรือ?
2. การใช้รูปร่วมเพศทำเป็นโปสเตอร์เป็นเสรีภาพ?
ระวัง อ ประชด ใส่เสื้อ T Shirt ขาว กางเกงขายาว แสลค สีดำ มาสอน หนังสือนะครับ
Posted 9 September 2013 - 22:07
แบบนี้หรือเปล่าที่เขาเรียกกันว่า พวกโลกสวย อยู่อุดมคติที่ไม่สามารถปฏิบัติได้ในความเป็นจริง
อีนี่ มันด่าสถานศึกษาของตัวเอง
เหมือนกับอีหญิงชั่วที่ด่าประเทศตัวเองให้ต่างชาติฟัง
...
ชาวนา เกษตรกร กรรมกร และประชาชน เป็นเจ้าของประเทศ
แต่ หลงจู๊ ผู้รับเหมา นายทุน และนักการเมือง เป็นเจ้าของโฉนด
คนชั่วที่ชอบใช้ประชาธิปไตยเป็นข้ออ้างว่า "มาจากการเลือกตั้ง"
ก็ไม่ต่างกับพระปลอมที่นำ "จีวร" มาห่มเพื่อหลอกชาวบ้าน
Posted 9 September 2013 - 22:47
ดูคลิปอีบ้านี่เต้น
ไม่รู้นะ แต่การติดประกาศ ปกติ ต้องได้รับอนุญาต จากเจ้าของ หรือผู้ดูแล
การที่ผู้ดูแลจะทำอะไร ก็สิทธิ์ ของเขา ถ้าติดแล้วเขาเอาออก แล้วไปว่า
ก็แสดงว่า แค่สิทธิขั้นพื้นฐานแบบนี้ ยังตอบกลับแบบนี้ มันก็บ่งบอกอยู่แล้ว
เพื่อนๆ กระเทยผม น่ารักจะตาย ผมว่ามีปม แน่ๆๆ เหมือนเด็กมีปํญหาจากทางบ้านนะ ผมว่า
กฎหมายมันก็แค่สิงที่สร้างมาอย่างมีเป้าหมาย แต่หาก เอาแต่บอกว่ากฎหมายเป็นแบบนี้ แบบนั้น โดยไม่สนใจว่าเป้าหมายจริงๆ นันคืออะไร ก็คงไม่ใช่
Posted 9 September 2013 - 23:56
ที่โพส ไม่ได้บอกว่า เห็นด้วยกับโปสเตอร์ท่าร่วมเพศ กรุณาแยกประเด็นด้วย เพ้อเจ้อได้ไม่เคยว่า แต่อย่ากล่าวหาบิดประเด็น
คำว่า uniform แปลว่าแต่งตัวด้วยแบบฟอร์มเดียวกันหมด จะประชดด้วยการแก้ผ้ามาสอน ก็ได้ก็ถือเป็น uniform
แต่ในสังคมประชาธิปไตยที่เขาสอนให้คนมีจิตสำนึก ครูบาอาจารย์ไม่ควรสั่งให้คนอื่นทำในสิ่งที่พวกตัวเองก็ทำไม่ได้
ประเทศไทยตอนนี้ไม่ใช่สังคมนาย บ่าว ไพร่ อำมาตย์ แต่เป็นสังคมที่ต้องเครารพสิทธิเสรีภาพของกันและกัน
ครูบาอาจารย์ และ นักศึกษา ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพ
ถ้ามหาวิทยาลัย ไม่ได้กำหนดให้นักศึกษาต้องใส่ uniform ทุกครั้งที่เข้าเรียน นักศึกษาก็มีสิทธิจะไม่แต่ง
แต่ถ้าเป็นการกำหนดด้วยหมู่คณะ ของครูบาอาจารย์ เขาก็เรียกว่ากฎหมู่ กฎคณะ ไม่ใช่กฎหรือระเบียบของทางมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ
ที่นี้ก็ต้องมาดูว่า ไอ้กฎหมู่ กฎคณะนั้น นักศึกษาต้องทำตามหรือไม่ นักศึกษาจ่ายเงินค่าหน่วยกิจทุกวันนี้่เท่าไหร่ พวกคุณออกนอกระบบ เก็บเงินค่าเล่าเรียนเขาแพงแสนแพง แล้วยังถูกเขาริดรอนสิทธิเสรีภาพในการใช้ชีวิต และ การศึกษา
พวกคุณ อยากรวย อยากได้เงินค่าหน่วยกิจนักศึกษาเยอะๆ แต่พวกคุณยังทำตัวปานประหนึ่งว่า นักศึกษามาง้อพวกคุณเรียนหนังสือเหมือนสมัยก่อน ที่บอกว่าให้ใส่เราก็ใส่ เพราะรัฐบาลต้องเอาเงินภาษีมา subsidise ค่าเทอม ดังนั้นนักศึกษาจึงอยู่ในสถานะที่ต้องสำนึกบุญคุณ เขาบอกให้ทำอะไรเราก็ทำ
ถ้าพวกคุณสอนฟรี แล้วตั้งกฎระเบียบขึ้นมาเยอะแยะมากมาย อยากให้นักศึกษาทำไรก็ได้เพื่อที่จะได้เรียน ผมจะไม่ว่าพวกคุณสักคำเลย
แต่นี่เงินเขาก็ไปขูดรีดเยอะๆ เงินเดือนตัวเองก็อยากได้เยอะๆ แต่มาบังคับนักศึกษาให้ทำโน่นนั่นนี้ อ้างว่าปลูกจิตสำนึก แต่ตัวเองบางคนไม่มีจิตสำนึกเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ
Edited by arch_freeman, 10 September 2013 - 00:08.
Posted 10 September 2013 - 00:01
ที่โพส ไม่ได้บอกว่า เห็นด้วยกับโปสเตอร์ท่าร่วมเพศ กรุณาแยกประเด็นด้วย เห็นมาหลายครั้งแล้วคนนี้ทำตัวน่ารำคาญไม่อยากจะด่า
คำว่า uniform แปลว่าแต่งตัวด้วยแบบฟอร์มเดียวกันหมด จะประชดด้วยการแก้ผ้ามาสอน ก็ได้ก็ถือเป็น uniform
แต่ในสังคมประชาธิปไตยที่เขาสอนให้คนมีจิตสำนึก ครูบาอาจารย์ไม่ควรสั่งให้คนอื่นทำในสิ่งที่พวกตัวเองก็ทำไม่ได้
ประเทศไทยตอนนี้ไม่ใช่สังคมนาย บ่าว ไพร่ อำมาตย์
หมายถึงผมหรอครับ
Posted 10 September 2013 - 00:08
แบบนี้หรือเปล่าที่เขาเรียกกันว่า พวกโลกสวย อยู่อุดมคติที่ไม่สามารถปฏิบัติได้ในความเป็นจริง
ผมว่า พวกนี้เป็นโรค "กดสถาบันษัตริย์ให้ต่ำ เพื่อยกตัวเองให้สูงขึ้น"
ถ้ามีปัญหากับมธ.มาก ไม่ถูกใจไม่พอใจ ลาออกไปอยู่ม.อื่นก็ได้นะครับ แบบม.เที่ยงคืนก็ได้
พวกเดียวกัน
Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 10 September 2013 - 00:08.
Posted 10 September 2013 - 00:21
ที่โพส ไม่ได้บอกว่า เห็นด้วยกับโปสเตอร์ท่าร่วมเพศ กรุณาแยกประเด็นด้วย เพ้อเจ้อได้ไม่เคยว่า แต่อย่ากล่าวหาบิดประเด็น
คำว่า uniform แปลว่าแต่งตัวด้วยแบบฟอร์มเดียวกันหมด จะประชดด้วยการแก้ผ้ามาสอน ก็ได้ก็ถือเป็น uniform
แต่ในสังคมประชาธิปไตยที่เขาสอนให้คนมีจิตสำนึก ครูบาอาจารย์ไม่ควรสั่งให้คนอื่นทำในสิ่งที่พวกตัวเองก็ทำไม่ได้
ประเทศไทยตอนนี้ไม่ใช่สังคมนาย บ่าว ไพร่ อำมาตย์ แต่เป็นสังคมที่ต้องเครารพสิทธิเสรีภาพของกันและกัน
ครูบาอาจารย์ และ นักศึกษา ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพ
ถ้ามหาวิทยาลัย ไม่ได้กำหนดให้นักศึกษาต้องใส่ uniform ทุกครั้งที่เข้าเรียน นักศึกษาก็มีสิทธิจะไม่แต่ง
แต่ถ้าเป็นการกำหนดด้วยหมู่คณะ ของครูบาอาจารย์ เขาก็เรียกว่ากฎหมู่ กฎคณะ ไม่ใช่กฎหรือระเบียบของทางมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ
ที่นี้ก็ต้องมาดูว่า ไอ้กฎหมู่ กฎคณะนั้น นักศึกษาต้องทำตามหรือไม่ นักศึกษาจ่ายเงินค่าหน่วยกิจทุกวันนี้่เท่าไหร่ พวกคุณออกนอกระบบ เก็บเงินค่าเล่าเรียนเขาแพงแสนแพง แล้วยังถูกเขาริดรอนสิทธิเสรีภาพในการใช้ชีวิต และ การศึกษา
พวกคุณ อยากรวย อยากได้เงินค่าหน่วยกิจนักศึกษาเยอะๆ แต่พวกคุณยังทำตัวปานประหนึ่งว่า นักศึกษามาง้อพวกคุณเรียนหนังสือเหมือนสมัยก่อน ที่บอกว่าให้ใส่เราก็ใส่ เพราะรัฐบาลต้องเอาเงินภาษีมา subsidise ค่าเทอม ดังนั้นนักศึกษาจึงอยู่ในสถานะที่ต้องสำนึกบุญคุณ เขาบอกให้ทำอะไรเราก็ทำ
ถ้าพวกคุณสอนฟรี แล้วตั้งกฎระเบียบขึ้นมาเยอะแยะมากมาย อยากให้นักศึกษาทำไรก็ได้เพื่อที่จะได้เรียน ผมจะไม่ว่าพวกคุณสักคำเลย
แต่นี่เงินเขาก็ไปขูดรีดเยอะๆ เงินเดือนตัวเองก็อยากได้เยอะๆ แต่มาบังคับนักศึกษาให้ทำโน่นนั่นนี้ อ้างว่าปลูกจิตสำนึก แต่ตัวเองบางคนไม่มีจิตสำนึกเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ
ยูนิฟอร์มอาจารย์ธรรมศาสตร์หน้าตาเป็นอย่างไร?
เรื่องที่อาจารย์สั่งแล้วตัวเองทำไม่ได้ ผมเห็นว่า
เป็นเรื่องปกติ ไม่อย่างนั้น โลกไม่มีวันเจริญหรอก
เอาง่ายๆ พวกสต๊าฟโค้ชทั้งหลายในกีฬาทำได้
เหมือนอย่างที่สั่ง เหมือนอย่างที่สอนไหม
มันไม่ได้เกี่ยวกัน สิ่งที่สำคัญคือ กฎระเบียบนั้นมันถูกต้อง
หรือเปล่า ไม่ใช่ว่าอ้างว่าครูทำไม่ได้ ถ้าไม่ต้องการระเบียบ
ไม่ต้องการมรรยาท ไม่ต้องการค่านิยม ก็ไม่เห็นต้องมา
สอบเข้าเลย
อย่างศาสดาแอ๊ปเปิ้ลไม่เห็นชอบ ก็ออกจากการศึกษา
ไม่เห็นต้องไปเปลี่ยนแปลง ต่อต้าน หรือทำลาย
ก็แค่ออกไปสร้างสรรค์สิ่งที่ตัวเองเชื่อก็พอ
เสรีภาพ ไม่ใช่การกระทำตัว "โส-โครก" แบบนั้น
จะว่าไป ผมก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับธรรมศาสตร์
ถ้าคนในธรรมศาสตร์คิดว่า "เสรีภาพ" คือทำอะไรก็ได้
ก็ตามใจ
Posted 10 September 2013 - 00:41
ฝั่งอาจารย์เขาชี้แจงเหตุผลแล้ว
รศ.ปกรณ์ เสริมสุข คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ.กล่าวว่า ได้มีการประชุมผู้บริหารคณะ และนำเรื่องที่นักศึกษาแสดงความเห็นคัดค้านการแต่งชุดนักศึกษาเข้าเรียนวิชาสหวิทยาการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยวิชานี้เป็นวิชาบังคับของนักศึกษาปี 1 ทุกคนและทุกคณะต้องเรียนสำหรับเทอมนี้มีนักศึกษาเรียน 1,900 คน มีอาจารย์ผู้สอน 15 คน ซึ่งได้มีการชี้แจงนักศึกษาตั้งแต่ชั่วโมงแรกแล้วว่า เป้าประสงค์ของวิชานี้ ซึ่งจัดสอนโดยคณะวิทยาศาสตร์ ต้องการปลูกฝังระเบียบวินัยของนักศึกษา เพราะวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องของการทดลอง ซึ่งมีขั้นตอนและต้องมีระเบียบวินัยในการทดลอง และการแต่งชุดนักศึกษาก็จะเป็นดัชนีตัวหนึ่งในการวัดการมีระเบียบวินัยของนักศึกษาที่คณะต้องการปลูกฝัง ซึ่งนักศึกษาก็เข้าใจดี และปฏิบัติกันมาตั้งแต่ต้นเทอม และวิชานี้ก็เปิดมาเป็น 10 ปี ส่วนข้อกำหนดนี้มาตั้งแต่ต้น ก็ไม่มีปัญหาอะไร อย่างไรก็ตาม เมื่อนักศึกษาคัดค้านทางคณะก็รับฟังและนำมาหารือ และได้ข้อสรุปว่า คณะได้กำหนดเป้าประสงค์ที่จะต้องระเบียบวินัย จึงยืนยันที่จะให้นักศึกษาแต่งชุดนักศึกษาเข้าเรียนเหมือนเดิม ทั้งนักศึกษาก็ทราบเรื่องระเบียบนี้มาตั้งแต่ต้น
อาจารย์เขาไม่มียูนิฟอร์มนี่ มาเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มีมันไร้สาระนะฟรีด้อม
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้พูดตัดพ้อกับคนที่เดินทางไปพบว่า “พรรคเพื่อไทยมีคนเก่งๆ เยอะ ทั้งนักวิชาการ ด็อกเตอร์ ทูต แต่ไม่กล้าออกมาสู้ คนหน้าตาดีไม่ออกมา พวกที่ออกมาหน้าตาไม่ค่อยดี ไม่เหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์ ฝ่ายตรงข้าม คนมีความรู้ นักวิชาการออกมาเยอะแยะเลย คนจริงใจกับผมมันน้อย วางยาผม เพราะตัวเองอยากอยู่นานๆ เห็นว่านายกฯ ไม่แข็ง แต่ท่านนายกฯ ก็ดี แต่คนรอบข้างไม่เป็นการเมือง ผมส่งคนเป็นการเมืองไปนายกฯ ก็ไม่เอา ผมก็สงสารนายกฯ จึงไม่อยากจู้จี้ แต่คนที่เมืองไทยมันไม่ได้ดั่งใจ”
แปลสั้นๆ เขาด่าไอ้เสร่อแกนนำแดงว่า"โง่แต่ขยัน"
Posted 10 September 2013 - 00:45
ส่วนอันนี้เพื่อนพูดถึง
บอกเล่าได้จาก แหล่งข่าววงใน ผู้ซึ่งเคยเรียน และรู้จักตัวตนของเธอเป็นอย่างดี สำหรับแหล่งข่าวลับคนนี้ เธอบอกว่า
"ตัวหนูเองเคยเรียนวิชาเดียวกับอั้ม เนโกะ เวลาที่เห็นอะไรไม่โอเค หรือไม่ถูกต้อง เธอจะทำให้เป็นประเด็นขึ้นมา เหมือนตั้งคำถามกับสังคมว่า ถ้าฉันทำแบบนี้ มันจะมีการเรียกร้องหรือมีอะไรเกิดขึ้นมาหรือไม่ เหมือนท้าทายสังคมอะค่ะว่าท้ายที่สุดแล้วคุณบอกว่าคุณให้เสรีภาพ มันทำได้จริงๆ หรือเปล่า อีกอย่างคือเขาเคยใส่ชุดบิกินี่ถ่ายภาพกลางโรงอาหาร แต่มีชุดคลุมเหมือนพ่อมด แม่มดคลุมทับอีกที"
"หรือเวลาเข้าเรียน เขาจะแต่งชุดสั้น ๆ ไม่ค่อยถูกกาลเทศะเท่าไร ทีนี้กฎมหา'ลัยที่อนุญาตให้ใส่ชุดธรรมดามาได้ มันมีที่มาที่ไปจากอดีตที่ว่า มียุคหนึ่งที่ธรรมศาสตร์ถูกเพ่งเล็งเรื่องการเมือง การที่ใส่ชุดนักศึกษามา มันบ่งบอกถึงการเป็นเด็กธรรมศาสตร์ และอาจถูกทำร้ายได้ ดังนั้นจึงมีระเบียบให้ใส่ชุดนอกมาได้ ก็เลยเป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยปฏิบัติอยู่ทุกวันนี้ เพียงแต่ว่า สิ่งที่มหา'ลัยให้เสรีภาพเรามา ตัวเราก็ต้องคิดเองด้วยว่า กาลเทศะคืออะไร ซึ่งก็ต้องดูความเหมาะสมด้วย แต่สิ่งที่อั้ม เนโกะแสดงออกมา เขานุ่งสั้นมาแบบ อื้อหือ เสมอ...เลยค่ะ ผ่าหน้า ผ่าหลังอะไรแบบนี้ ซึ่งบางทีก็ดูไม่เหมาะสม"
สุดท้ายนี้ แหล่งข่าววงใน ได้เอ่ยปากชม อั้ม เนโกะ ด้วยใจจริงก่อนจะจบบทสนทนาด้วยว่า "เขาเป็นคนฉลาดและมีความรู้มากคนหนึ่ง เพียงแต่นการนำเสนอความคิดออกมา มันไม่ถูกวิธีก็เท่านั้นเอง อย่างกรณีนี้ เขาน่าจะใช้วิธีที่สร้างสรรค์กว่านี้"
ถ้าอ่านมาจะเห็นว่า กระเทยคนนี้ทำผิดกฎระเบียบที่บอกให้แต่งการสุภาพเรียบร้อยมาเรียน แม้กระทั้งเขาให้แต่งชุดไปรเวทมาเรียน อียังรักษากฎไม่ได้ ส่งสัยจบมาคงต้องกลับไปทำงานกับสมศักดิ์เจียมแล้วมั้ง
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้พูดตัดพ้อกับคนที่เดินทางไปพบว่า “พรรคเพื่อไทยมีคนเก่งๆ เยอะ ทั้งนักวิชาการ ด็อกเตอร์ ทูต แต่ไม่กล้าออกมาสู้ คนหน้าตาดีไม่ออกมา พวกที่ออกมาหน้าตาไม่ค่อยดี ไม่เหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์ ฝ่ายตรงข้าม คนมีความรู้ นักวิชาการออกมาเยอะแยะเลย คนจริงใจกับผมมันน้อย วางยาผม เพราะตัวเองอยากอยู่นานๆ เห็นว่านายกฯ ไม่แข็ง แต่ท่านนายกฯ ก็ดี แต่คนรอบข้างไม่เป็นการเมือง ผมส่งคนเป็นการเมืองไปนายกฯ ก็ไม่เอา ผมก็สงสารนายกฯ จึงไม่อยากจู้จี้ แต่คนที่เมืองไทยมันไม่ได้ดั่งใจ”
แปลสั้นๆ เขาด่าไอ้เสร่อแกนนำแดงว่า"โง่แต่ขยัน"
Posted 10 September 2013 - 01:13
ดูคลิปอีบ้านี่เต้น
คุณภาพประเทศตกต่ำลงทุกวัน เพราะเราเห็นอนาคตประเทศจากไอพวกแบบนี้
นึกดูหากมีคนแบบนี้มากกว่าผู้คนปกติเมื่อไหร่ ผมและทุกคนคงเห็นสภาพประเทศไทยในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร
ถ้าแยกเสียงส่วนใหญ่ กับความถูกต้องไม่ออก ก็อย่ามาอ้างว่ามาจากประชาธิปไตยเลย
Posted 10 September 2013 - 01:51
นึกถึงคำที่พวกพี่ๆHR ชอบพูดกันประจำเลยว่า
เรื่อง ทัศนคติ สำคัญที่สุด ไม่ต้องเก่งมากก็ได้ ขอแค่เป็นงานก็พอ เรื่องความเก่งมาสร้างเอาทีหลังได้
Posted 10 September 2013 - 04:43
เฟลเลย ...
ปกติถ้าผมจะต้องโต้กับพวกความคิดจิตแปลกแบบนี้ข้างนอก
ผมจะสวนไปว่า "งั้นถ้าวันหนึ่งคุณมีลูก คุณก็ให้ลูกคุณทำแบบที่คุณว่าไปก็แล้วกัน"
แล้วพวกมันก็จะ "เงิบ"
แต่บังเอิญ อินี่ มันเป็น กระเทย
จบข่าว
Posted 10 September 2013 - 05:08
ดูคลิปอีบ้านี่เต้น
ไอ้พวกคลั่งนี่มันก็จะคลั่งจริงๆนะครับ ขนาดชุดนักศึกษามันยังโยงไปได้
คนเราเกิดมาไม่มีใครพร้อมไปหมดทุกอย่างหรอกครับ ถึงร่างกายจะขาดๆเกินๆไปบ้าง มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกครับ
อย่าไปทำให้โลกต้องหดหู่ตามจิตสำนึกของตัวเองเลย
Posted 10 September 2013 - 06:30
เลี้ยงลูกท่าไหน ถึงผลักไสให้เขา กลายเป็น Generation ME
» Gen ที่หลงตัวเองที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมามีข่าวที่ฮือฮามากในนิตยสาร “TIME” ที่ทำสกู๊ปหน้าปกเรื่อง “ME ME ME Generation” พร้อมภาพเด็กหญิงวัยสาวกำลังนอนราบกับพื้นและยกกล้องจากโทรศัพท์มือถือขึ้นโน้มลงมาถ่ายรูปหน้าตัวเอง
เนื้อหาเกี่ยวข้องกับคนรุ่นใหม่ ที่อ้างข้อมูลของโจเอล สไตน์ จาก “The National Institutes of Health” (สถาบันสุขภาพแห่งชาติอเมริกา) พบว่า
คนรุ่นใหม่กว่า 80 ล้านคนในอเมริกาที่เกิดระหว่างปี ค.ศ. 1980-2000 นั้นหลงตัวเองเป็นสามเท่าของคนรุ่นพ่อแม่ และกว่า 80% ของคนรุ่นนี้ที่มีอายุต่ำกว่า 23 ปี ต้องการได้งานที่มีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่
คนรุ่นใหม่นั้นได้รับการปลูกฝังเลี้ยงดูภายใต้วัฒนธรรม “แค่เข้าร่วมก็ได้ประกาศนียบัตร” โดยไม่สนใจถึงประสิทธิผลหรือวิธีการหรือความสำคัญของการเข้าร่วม
ซึ่งทำให้พวกเขามักคิดว่า หากทำงาน พวกเขาควรได้รับการโปรโมตเลื่อนขั้นทุกๆ สองปีโดยไม่จำเป็นต้องพิจารณาที่ผลงานหรือประสิทธิภาพ
และจากข้อมูลดังกล่าว เขาเรียกคนกลุ่มนี้ว่า Generation ME หรือกลุ่มที่มองตัวเองสำคัญที่สุด มองว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งอย่าง หรืออีกคำที่เขาเรียกว่าเป็นกลุ่มหลงตัวเอง
::::::::::::::::::
คนที่มี “บุคลิกภาพหลงตัวเอง” สรุปคร่าว ๆ มักจะมีอาการและพฤติกรรม ดังนี้
1) ปฏิกิริยาต่อการวิพากษ์วิจารณ์ ด้วยความโกรธแค้น สร้างความน่าละอาย/ขายหน้า และความอัปยศน่าอดสู
2) เอาเปรียบผู้อื่น เพื่อตอบสนองความต้องการชนะ หรือวัตถุประสงค์ของตนเอง
3) มีความรู้สึกว่าตนเองเป็นคนสำคัญมากเกินพอดี
4) พูดขยายเกินกว่าความเป็นจริงเกี่ยวกับความสำเร็จหรือความสามารถของตนเอง
5) มีใจหมกมุ่นกับจินตนาการความสำเร็จ พลัง อำนาจ ความงาม สติปัญญา หรือรักในอุดมคติ
6) ใช้เหตุผลที่ไม่สมเหตุสมผล กับสิ่งที่ตนเองชื่นชอบ หลงใหล คาดหวัง
7) ต้องการเป็นที่ชื่นชม ยอมรับและหลงใหลอยู่ตลอดเวลา
8. เพิกเฉย ไม่เอาใจใส่ต่อความรู้สึกของผู้อื่น และมีความพยายามเพียงน้อยนิดที่จะแสดงความเห็นใจผู้อื่น
9) คิดหมกมุ่นอยู่กับผลประโยชน์และความต้องการของตนเอง
10) ไล่ตามเป้าหมายที่เห็นประโยชน์แก่ตนเอง
::::::::::::::::::
แม้จะมีความพยายามในการวิเคราะห์สาเหตุว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น แต่ส่วนหนึ่งซึ่งเป็นส่วนใหญ่และส่วนสำคัญที่สุดก็คือ การเลี้ยงดูของพ่อแม่มีส่วนอย่างมาก
แล้วเด็กแบบไหนกันที่มีแนวโน้มถูกเลี้ยงดูให้กลายเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่ถูกเรียกว่า Generation ME !!
• ประการแรก : ลูกเป็นศูนย์กลางของบ้าน
ถ้าเปรียบเทียบกับการเลี้ยงดูของชาวจีนก็ประมาณว่าจักรพรรดิน้อย ที่พ่อแม่คอยพะเน้าพะนอ อยากได้อะไรก็ได้ ไม่ว่าจะกิน จะนอน จะเล่น จะเที่ยว จะให้ลูกเป็นผู้กำหนดตั้งแต่เล็ก ยกให้ลูกเป็นผู้ตัดสินใจ เพราะรักลูกอยากตามใจลูก
โดยหารู้ไม่ว่าสิ่งเหล่านี้กำลังหล่อหลอมให้ลูกของเรากลายเป็นเด็กที่เอาแต่ใจตัวเอง และมองตัวเองสำคัญที่สุด ไม่สนใจความรู้สึกของผู้อื่น
--
• ประการที่สอง : ลูกไม่เคยผิดหวัง
สืบเนื่องมาจากการเป็นศูนย์กลางของบ้าน เพราะฉะนั้นเมื่อผู้ใหญ่ในบ้านไม่เคยขัด และตามใจมาโดยตลอด จึงมักตอบสนองในทุกเรื่อง แม้บางเรื่องเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม
เช่น การที่ลูกอยากได้ของเล่นของคนอื่น พ่อแม่ก็จะต้องพยายามหาทางให้ลูกได้ของเล่นชิ้นนั้น ไปขอยืมมา หรือไม่ก็ต้องดิ้นรนหาซื้อของเล่นชิ้นใหม่จนได้ เป็นต้น
--
• ประการที่สาม : ลูกไม่เคยแพ้
ในที่นี้เป็นเรื่องการแข่งขันที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เล็ก เป็นเด็กที่ต้องชนะ ไม่ว่าจเะเป็นการเล่นเกม หรือการเรียนก็ตาม
ยกตัวอย่าง พ่อแม่ที่เล่นกับลูก ถ้าเป็นเกมที่ต้องมีผู้แพ้ชนะ พ่อแม่มักยอมให้ลูกเป็นฝ่ายชนะตลอด เวลาลูกแพ้ ลูกมักร้องไห้หรืออารมณ์เสีย
แทนที่พ่อแม่จะสอนให้ลูกรู้จักการแพ้ชนะอย่างเป็นธรรมชาติและถูกต้องตามกฎกติกา และให้เขาได้รู้จักการจัดการกับอารมณ์นั้น
แต่พ่อแม่มักอ้างว่ารักลูก กลัวว่าลูกเสียใจก็เลยยอมแพ้ลูกตลอด จนเมื่อลูกต้องไปมีสังคมของเขาเอง เมื่อเขาแพ้ก็จะรู้สึกทนไม่ได้ ไม่ชอบหน้าอีกฝ่าย หรือบางทีก็กลายเป็นโกรธผู้นั้นไปเลย
--
• ประการที่สี่ : ลูกไม่เคยลำบาก
ข้อนี้มักเกิดกับกลุ่มพ่อแม่ชนชั้นกลางขึ้นไป ที่ไม่อยากให้ลูกลำบาก ยิ่งถ้าเป็นพ่อแม่ที่เคยผ่านความลำบากมาแล้ว ก็เลยมีความคิดว่าไม่อยากให้ลูกลำบากอีกต่อไป
ซึ่งเป็นความคิดและความเข้าใจที่ผิด เพราะความลำบากจะทำให้ลูกมีภูมิต้านทานชีวิตที่ดี
--
• ประการที่ห้า : ลูกไม่เคยแก้ปัญหา
พ่อแม่จัดการแก้ปัญหาให้ลูกหมด เพราะคิดว่าลูกยังเด็ก ลูกคงแก้ปัญหาเองไม่ได้หรอก ทั้งที่บางเรื่องเป็นเรื่องเล็ก ๆ และเป็นเรื่องของเด็ก แต่พ่อแม่ก็ไม่ปล่อยวางให้ลูกได้ฝึกเจอสถานการณ์ด้วยตัวเอง
พ่อแม่เข้าไปแก้ปัญหาและจัดการให้หมด กลายเป็นจุ้นจ้านต่อชีวิตของลูกไปซะอีก เวลาลูกเจอปัญหาอะไรต้องให้เขาฝึกเผชิญด้วยตัวเอง มิเช่นนั้นแล้ว เขาก็จะมองเห็นแต่ตัวเอง
เมื่อเกิดอะไรขึ้นมา เขาจะมองไม่เห็นปัญหาของคนอื่น หรือโทษว่าเพราะคนอื่นทำให้ฉันเกิดปัญหา
--
• ประการที่หก : ลูกได้รับคำชื่นชมและชมเชยแบบพร่ำเพรื่อ
การชื่นชมหรือชมเชยหรือให้กำลังใจลูกเป็นเรื่องจำเป็น แต่ต้องมีความพอดีและเหมาะสมกำกับอยู่ด้วย เพราะถ้าชื่นชมมากเกินไป พร่ำเพรื่อเกินไปก็กลายเป็นสร้างปัญหาด้วยซ้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชื่นชมเพียงแค่เปลือก ชมที่ภายนอก
เช่น ชมว่าลูกแต่งตัวสวย หล่อ หรือหน้าตาดี แต่ไม่ได้ชมที่พฤติกรรมของการทำดี ก็จะทำให้ลูกหลงและถือดีว่าตัวเองหน้าตาดี และนำไปสู่อาการหลงตัวเองได้
::::::::::::::::::
• ฝากทิ้งท้าย
ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วมีส่วนทำให้ลูกของคุณเข้าข่ายเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่คิดถึงตัวเอง หรือภาษาของคนชาวอเมริกันที่เขาบอกว่าเข้าข่ายหลงตัวเอง
จนถึงกับบัญญัติศัพท์ใหม่ว่า “Generation ME” ที่ต้องการสะท้อนให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่มักมองแต่ตัวเอง
จะว่าไปแล้วอีกปัจจัยหนึ่งที่เป็นตัวส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่เกิดพฤติกรรมหลงตัวเองก็คือ “สื่อยุคไร้พรมแดน” เพราะสื่อและเทคโนโลยีที่พุ่งเป้ามาที่ตัวเด็กโดยตรง
และมองว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สุดแสนจะโอชะ เพราะใช้เงินง่าย ตกเข้าไปในกระแสทุนนิยมก็ง่าย ยิ่งบรรดาสมาร์ทโฟนที่เด็กรุ่นใหม่ใช้กันเกลื่อนเมือง ก็ยิ่งเท่ากับเป็นการกระตุ้นให้กลุ่มคนรุ่นใหม่มีแนวโน้มอย่างมากที่ก้าวเข้าสู่การเป็น Generation ME ได้ง่ายขึ้น
ตรงกันข้าม ถ้าเด็กเหล่านี้ได้รับการเลี้ยงดูที่เหมาะสมและถูกวิธี มีการปลูกฝังทักษะชีวิตที่เหมาะสมกับวัย เมื่อถึงวันที่กระแสบริโภคนิยมเข้ามาปะทะตัวเด็กเต็ม ๆ มีสื่อไฮเทคเข้ามาถึงบ้าน แต่ทักษะชีวิตที่ได้รับการปลูกฝังมาดี
เมื่อถึงเวลานั้น ทักษะที่มี มันจะทำหน้าที่ป้องกันตัวเองได้เป็นอย่างดี
::::::::::::::::::
Credit : สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน / Quality of Life / Manager.co.th
ที่มา: https://www.facebook...&type=1
Posted 10 September 2013 - 09:03
รูปประกอบ
ทั้งหลายทั้งปวงที่มิอาจเลี่ยง หรืออาจกล่าวได้ว่า "เป็นเพราะสถาบัน" สถาบันบ่มเพาะคนที่มีอคติต่อสังคมและส่วนรวม
สถาบันให้เสรีภาพแก่ผู้ที่เรียกว่าเป็น คณาจารย์ นิสิต นักศึกษา แต่กลับไร้สามัญสำนึกพื้นฐานในการเป็นเสรีภาพของสังคม
ซึ่งสังคมยังคงมีเสรีภาพในการให้เกียรติ กฏ ข้อบังคับ ระเบียบ อันพึงมีร่วมกันเพื่อการรวมกันของสังคม
ไม่ว่าจะเป็นนามธรรม รูปธรรม แต่สถาบันไม่ได้ขัดเกลาหรือติเตียน ชี้ทางในส่วนของสิทธิ์อันพึงกระทำได้ไม่ให้กระทบสิทธิ์เสรีภาพทางความคิด
ของผู้อื่น จากหลายเหตุการณ์ยังคงเห็นประเด็นอื้อฉาวอยู่เรือยมา
ถามว่ามาจากไหน ? ส่วนใหญ่มาจากผู้มากด้วยสิทธิ์เสรีภาพจากสถาบันชื่อดัง
หลายคนเอาตัวเองเข้าไปแอบอ้างสถาบันเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการมีอคติต่อสังคมให้กับตนเอง
คิดใหม่ ทำใหม่ คิดนอกกรอบ ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ที่แปลกคือ คนส่วนใหญ่เขามีสิทธิ์เสรีภาพในส่วนที่ต้องเคารพร่วมกัน
แต่ดันมีพวกนอก(รีด)กรอบ อ้างสิทธิ์เสรีภาพ ประชาธิปไตย(ลวงโลก) มาสร้างความเสื่อมให้กับเสรีภาพของผู้อื่น
ตัวบุคคนนั้นสำคัญ แต่สถาบันก็เลี่ยงไม่ได้ กับคำครหา
"ธรรมศาสตร์" ในวันนี้ มีเรื่องดีๆ ข่าวๆดี ให้สังคมได้เชิดชูสมเกียรติประวัติแต่นานมาหรือไม่
Edited by Lincoln16, 10 September 2013 - 09:08.
People shouldn't be afraid of their government.
Governments should be afraid of their people
Posted 10 September 2013 - 19:02
เฟลเลย ...
ปกติถ้าผมจะต้องโต้กับพวกความคิดจิตแปลกแบบนี้ข้างนอก
ผมจะสวนไปว่า "งั้นถ้าวันหนึ่งคุณมีลูก คุณก็ให้ลูกคุณทำแบบที่คุณว่าไปก็แล้วกัน"
แล้วพวกมันก็จะ "เงิบ"
แต่บังเอิญ อินี่ มันเป็น กระเทย
จบข่าว
ผมกำลังนึกภาพพอมันโตขึ้นแล้วได้ไปอยู่ในองค์กรเรียกร้องสิทธิกะเทย
พวกองค์กรแนวๆนี้อยากได้พวกหัวรุนแรงแบบนี้มาเข้าร่วมนักแล
Posted 10 September 2013 - 20:35
Posted 10 September 2013 - 20:40
ผมไม่ได้รังเกียจคนข้ามเพศหรือเพศทางเลือกนะ รุ่นพี่รุ่นน้องผมที่รู้จักก็เป็นกะเทยหลายคน
แต่มุมมองและการกระทำของอั้ม มันเสียสถาบันกะเทยหมด
กะเทยที่ดีๆ มีเยอะแยะ เสียดายที่เสียภาพลักษณ์เพราะคนไม่กี่คน
Edited by อู๋ ฮานามิ, 10 September 2013 - 20:42.
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
Posted 10 September 2013 - 23:29
ผมอยากรู้ว่า ไอ้พวกอาจารย์ รุ่น ๆ เดียวกับ สมฯเจียม ที่ออกมาเย้ว ๆ ตอนนี่ว่า มธ. แดนเสรี สนับสนุนการไม่ใส่ชุดนักศึกษา และสนับสนุนตัวห้อยโหนรูป'จารย์ปรีดีนี่ เวลาออกไปเดินสาย ไฮปาร์ค หรือออกไปเดินขบวนทำกิจกรรมสมัยเป็นนักศึกษา ทำไมต้องใส่ชุดนักศึกษาออกไปละครับ หรือเครื่องแบบมันขลังจนทำให้คนใส่รู้สึกไปเองว่า ฉลาดกว่าพี่น้องประชาชนทั้งหลาย ตอบหน่อยซิ มันอัลไลกรันนนนน
รูปใครก็ไม่รู้ แต่ขอ cap มาจากกระทู้ยอดนิยมในเสรีไทย ยุคหนึ่งเรื่อง สมฯเจียม ส่งโอเลี้ยง ดูแล้วขนลุกซู่เลย จัดเต็มชุดนักศึกษา หรือจะกลัวคนไม่รู้ว่าเป็นปัญญาชน
Edited by Mojimaru, 10 September 2013 - 23:33.
Posted 10 September 2013 - 23:36
จะเข้าใจเด็กยุคนี้ แก่ๆที่นี่ ควรหาเวลาไปดู Series เรื่อง ฮอร์โมนบ้าง
แล้วจะเข้าใจว่า ทำไมประเทศถึงมีเด็กแบบนี้ และ เด็กแบบเนติวิทย์
แล้วจะเข้าใจอีกว่า ทำไมมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ถึงมีคนแบบ วรเจตน์ และ สมศักดิ์ เจียม เป็น ครูบาอาจารย์
แล้วจะเข้าใจอีกว่า วิธีการปลูกฝังจิตสำนึกอะไรที่ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ อ้างนั้น ไม่ใช่กุศโลบายที่ใช้ได้กับเด็กยุคนี้
ผมว่า ไอ้ที่เข้ามาโพส โวยวายในกระทู้นี้ ส่วนใหญ่ก็เป้นศิษย์เก่ากึ๊กเลือดเหลืองแดง รักสถาบัน ทั้งนั้นแหละ
ส่วนตัวไม่ได้เห็นด้วยกับการทำโปสเตอร์ แต่เข้าใจว่าทำไมเขาคิดแบบนี้ และ สื่อสารการต่อต้านการแต่งกายออกมาด้วยรูปแบบที่ไม่เหมาะสม
วัยกระเตาะของจริงในมหาลัย เขาก็มีความคิดแตกแยก เป็นกลุ่มๆ
บางคนก็ไม่เห้นด้วยกับโปสเตอร์ แต่ก็ไม่เห้นด้วยกับการบังคับให้่แต่งชุดนักศึกษา (ส่วนใหญ่จะคิดแบบนี้)
บางคนก็เห้นด้วยกับโปสเตอร์
บางคนก็ไม่เห็นด้วยเลยทั้งโปสเตอร์ กับ การไม่แต่งชุดนักศึกษา
พวกอาจารย์ชอบปลุกฝัง ให้เด็กรู้สึกว่า มหาลัยตัวเองนั้นเด่นดีกว่าชาวบ้านต้องภูมิใจที่เกิดมาเป็นลูกแม่โดมอะไรก็แล้วแต่ ด้วยการบังคับให้ใส่ชุดนักศึกษา
จะเห็นว่า กรณีพวกอาชีวะ ก็วิวัฒนาการกลายเป็น ยกพวกตีกัน เพราะรักสถาบัน หยิ่งในสถาบันมากเกินไป
แต่โลกแห่งความเป้นจริงนั้น เวลาไปเรียนเมืองนอก แทบอวดไม่ได้ว่า จบมาจากไหน แม้กระทั้ง จุฬา เพราะเขาไม่รู้จักกันเท่าไหร่ ไม่สามารถเดินใส่ชุด นิสิต อวดเบ่งได้เหมือนเมืองไทย
สิ่งที่อาจารย์ควรปลูกฝังนั้นคือ การเป้นคนดี มีคุณธรรม มากกว่า การปลูกฝังให้ภูมิใจหรือรักสถาบันด้วยการแต่งกายด้วยชุดนักศึกษาอย่างเดียว
Edited by arch_freeman, 10 September 2013 - 23:47.
Posted 11 September 2013 - 13:01
จะเข้าใจเด็กยุคนี้ แก่ๆที่นี่ ควรหาเวลาไปดู Series เรื่อง ฮอร์โมนบ้าง
ผมดูแล้วก็ไม่เห็นจะมีอะไร ซีรีย์ฝรั่งแรงกว่านี้ผมก็ดูมาแล้ว
แต่ผมว่าคำอธิบายนิสัยของเด็กยุคใหม่ที่เพื่อนสมาชิกนำมาโพสครอบคลุมแล้วครับ
Generation ME
» Gen ที่หลงตัวเองที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
เอาเข้าจริงๆ พวกริบือรัล ก็ไม่พยายามที่จะเข้าใจคนอื่นว่าทำไมเขาคิดไม่เหมือนตัวเอง
Edited by แม้ว ถั่งเช่า, 11 September 2013 - 13:36.
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้พูดตัดพ้อกับคนที่เดินทางไปพบว่า “พรรคเพื่อไทยมีคนเก่งๆ เยอะ ทั้งนักวิชาการ ด็อกเตอร์ ทูต แต่ไม่กล้าออกมาสู้ คนหน้าตาดีไม่ออกมา พวกที่ออกมาหน้าตาไม่ค่อยดี ไม่เหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์ ฝ่ายตรงข้าม คนมีความรู้ นักวิชาการออกมาเยอะแยะเลย คนจริงใจกับผมมันน้อย วางยาผม เพราะตัวเองอยากอยู่นานๆ เห็นว่านายกฯ ไม่แข็ง แต่ท่านนายกฯ ก็ดี แต่คนรอบข้างไม่เป็นการเมือง ผมส่งคนเป็นการเมืองไปนายกฯ ก็ไม่เอา ผมก็สงสารนายกฯ จึงไม่อยากจู้จี้ แต่คนที่เมืองไทยมันไม่ได้ดั่งใจ”
แปลสั้นๆ เขาด่าไอ้เสร่อแกนนำแดงว่า"โง่แต่ขยัน"
Posted 11 September 2013 - 13:11
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Instagram good_kpn
อั้ม เนโกะ นักศึกษาธรรมศาสตร์ประท้วง อาจารย์ มธ. บังคับใส่เครื่องแบบนักศึกษา ทำโปสเตอร์ล่อแหลม กู๊ด kpn ของขึ้น บอก ถ้าไม่ให้เกียรติเครื่องแบบธรรมศาสตร์ก็ไปเรียนที่อื่น
กลายเป็นประเด็นฮือฮา เมื่อ อั้ม เนโกะ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกมาทำกิจกรรมประท้วงการบังคับใส่เครื่องแบบนักศึกษาของอาจารย์บางวิชา ทั้งที่ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่มีการบังคับให้ใส่ชุดนักศึกษา นักศึกษาสามารถแต่งชุดไปรเวทที่สุภาพไปเรียนได้ ยกเว้นตอนสอบและในงานพิธีการ โดย อั้ม เนโกะ ได้ประท้วงด้วยการติดภาพโปสเตอร์ล่อแหลม สื่อถึงการร่วมเพศในชุดนักศึกษา ตามบอร์ดในมหาวิทยาลัย จนถูกเรียกไปตักเตือน เนื่องจากแนวทางการประท้วงของเธออาจจะเกินขอบเขตมากเกินไป จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก ซึ่งก็มีทั้งเสียงสนับสนุนการออกมาเคลื่อนไหวของนักศึกษากลุ่มนี้ และเสียงคัดค้านและมองว่าวิธีการเรียกร้องครั้งนี้ไม่ค่อยเหมาะสม
ล่าสุด เมื่อกลางดึกวานนี้ (8 กันยายน 2556) กู๊ด kpn ชยพล ปัญหกาญจน์ หนึ่งในคนดังที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์อินสตาแกรมเป็นภาพตอนที่เขาใส่ชุดนักศึกษา พร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ดังนี้
"ผม เป็นนักศึกษาที่ภูมิใจกับชุดนักศึกษาของผม และขอบคุณ TU BAND ที่ให้ใส่ชุดนี้ขึ้นร้องเพลง ซึ่งเป็นการใส่ชุดนักศึกษาแล้วทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ "พวกคุณ" ควรให้เกียรติกับเครื่องแบบ สัญลักษณ์ และความเป็นธรรมศาสตร์ ถ้าทำไม่ได้และออกมาเรียกร้องเสรีภาพด้วยวิธีการดูหมิ่น ก็ไปเรียนที่อื่น ที่ที่คุณพึงพอใจซะ อย่ามาถ้าไม่เคารพ เสียดายที่ให้คนอื่น #โมโหจริง ๆ นะ #นั่งพิมนานมาก ๆ ๆ ๆ #มันขึ้นอ่ะ #เป็นคนหนึ่งที่ไม่ใส่ชุด นศ. ทุกวัน #แต่ภูมิใจที่ได้ใส่นะ #ปลวกจิต #ฝันดีนะที่รักทุกคน #ฝันร้ายซะพวกที่ทำ #โมโหเหวี่ยงเขวี้ยงงา"
งานนี้เรียกได้ว่า หนุ่ม กู๊ด kpn ถึงขั้นของขึ้นเลยทีเดียว !
http://fb.kapook.com/women-70786.html
บ้านมีกฏของบ้าน เมืองมีกฏของเมือง โรงเรียนก็มีกฏของโรงเรียน สังคมก็มีกฏของสังคม ถ้าทำตามกฏไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องไปอยู่ในคุกนะจ๊ะ นายเนโก๊ะจ๋า
ขอบคุณคุณกู๊ด
จากรุ่นพี่ TU Band คนหนึ่ง
ที่ได้ใส่ชุดนักศึกษาทุกครั้งที่เล่นดนตรีในนามวงดนตรีมหาวิทยาลัย ด้วยความภูมิใจ
Posted 11 September 2013 - 13:13
เลี้ยงลูกท่าไหน ถึงผลักไสให้เขา กลายเป็น Generation ME
» Gen ที่หลงตัวเองที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมามีข่าวที่ฮือฮามากในนิตยสาร “TIME” ที่ทำสกู๊ปหน้าปกเรื่อง “ME ME ME Generation” พร้อมภาพเด็กหญิงวัยสาวกำลังนอนราบกับพื้นและยกกล้องจากโทรศัพท์มือถือขึ้นโน้มลงมาถ่ายรูปหน้าตัวเอง
เนื้อหาเกี่ยวข้องกับคนรุ่นใหม่ ที่อ้างข้อมูลของโจเอล สไตน์ จาก “The National Institutes of Health” (สถาบันสุขภาพแห่งชาติอเมริกา) พบว่า
คนรุ่นใหม่กว่า 80 ล้านคนในอเมริกาที่เกิดระหว่างปี ค.ศ. 1980-2000 นั้นหลงตัวเองเป็นสามเท่าของคนรุ่นพ่อแม่ และกว่า 80% ของคนรุ่นนี้ที่มีอายุต่ำกว่า 23 ปี ต้องการได้งานที่มีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่
คนรุ่นใหม่นั้นได้รับการปลูกฝังเลี้ยงดูภายใต้วัฒนธรรม “แค่เข้าร่วมก็ได้ประกาศนียบัตร” โดยไม่สนใจถึงประสิทธิผลหรือวิธีการหรือความสำคัญของการเข้าร่วม
ซึ่งทำให้พวกเขามักคิดว่า หากทำงาน พวกเขาควรได้รับการโปรโมตเลื่อนขั้นทุกๆ สองปีโดยไม่จำเป็นต้องพิจารณาที่ผลงานหรือประสิทธิภาพ
และจากข้อมูลดังกล่าว เขาเรียกคนกลุ่มนี้ว่า Generation ME หรือกลุ่มที่มองตัวเองสำคัญที่สุด มองว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งอย่าง หรืออีกคำที่เขาเรียกว่าเป็นกลุ่มหลงตัวเอง
::::::::::::::::::
คนที่มี “บุคลิกภาพหลงตัวเอง” สรุปคร่าว ๆ มักจะมีอาการและพฤติกรรม ดังนี้
1) ปฏิกิริยาต่อการวิพากษ์วิจารณ์ ด้วยความโกรธแค้น สร้างความน่าละอาย/ขายหน้า และความอัปยศน่าอดสู
2) เอาเปรียบผู้อื่น เพื่อตอบสนองความต้องการชนะ หรือวัตถุประสงค์ของตนเอง
3) มีความรู้สึกว่าตนเองเป็นคนสำคัญมากเกินพอดี
4) พูดขยายเกินกว่าความเป็นจริงเกี่ยวกับความสำเร็จหรือความสามารถของตนเอง
5) มีใจหมกมุ่นกับจินตนาการความสำเร็จ พลัง อำนาจ ความงาม สติปัญญา หรือรักในอุดมคติ
6) ใช้เหตุผลที่ไม่สมเหตุสมผล กับสิ่งที่ตนเองชื่นชอบ หลงใหล คาดหวัง
7) ต้องการเป็นที่ชื่นชม ยอมรับและหลงใหลอยู่ตลอดเวลา
8. เพิกเฉย ไม่เอาใจใส่ต่อความรู้สึกของผู้อื่น และมีความพยายามเพียงน้อยนิดที่จะแสดงความเห็นใจผู้อื่น
9) คิดหมกมุ่นอยู่กับผลประโยชน์และความต้องการของตนเอง
10) ไล่ตามเป้าหมายที่เห็นประโยชน์แก่ตนเอง
::::::::::::::::::
แม้จะมีความพยายามในการวิเคราะห์สาเหตุว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น แต่ส่วนหนึ่งซึ่งเป็นส่วนใหญ่และส่วนสำคัญที่สุดก็คือ การเลี้ยงดูของพ่อแม่มีส่วนอย่างมาก
แล้วเด็กแบบไหนกันที่มีแนวโน้มถูกเลี้ยงดูให้กลายเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่ถูกเรียกว่า Generation ME !!
• ประการแรก : ลูกเป็นศูนย์กลางของบ้าน
ถ้าเปรียบเทียบกับการเลี้ยงดูของชาวจีนก็ประมาณว่าจักรพรรดิน้อย ที่พ่อแม่คอยพะเน้าพะนอ อยากได้อะไรก็ได้ ไม่ว่าจะกิน จะนอน จะเล่น จะเที่ยว จะให้ลูกเป็นผู้กำหนดตั้งแต่เล็ก ยกให้ลูกเป็นผู้ตัดสินใจ เพราะรักลูกอยากตามใจลูก
โดยหารู้ไม่ว่าสิ่งเหล่านี้กำลังหล่อหลอมให้ลูกของเรากลายเป็นเด็กที่เอาแต่ใจตัวเอง และมองตัวเองสำคัญที่สุด ไม่สนใจความรู้สึกของผู้อื่น
--
• ประการที่สอง : ลูกไม่เคยผิดหวัง
สืบเนื่องมาจากการเป็นศูนย์กลางของบ้าน เพราะฉะนั้นเมื่อผู้ใหญ่ในบ้านไม่เคยขัด และตามใจมาโดยตลอด จึงมักตอบสนองในทุกเรื่อง แม้บางเรื่องเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม
เช่น การที่ลูกอยากได้ของเล่นของคนอื่น พ่อแม่ก็จะต้องพยายามหาทางให้ลูกได้ของเล่นชิ้นนั้น ไปขอยืมมา หรือไม่ก็ต้องดิ้นรนหาซื้อของเล่นชิ้นใหม่จนได้ เป็นต้น
--
• ประการที่สาม : ลูกไม่เคยแพ้
ในที่นี้เป็นเรื่องการแข่งขันที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เล็ก เป็นเด็กที่ต้องชนะ ไม่ว่าจเะเป็นการเล่นเกม หรือการเรียนก็ตาม
ยกตัวอย่าง พ่อแม่ที่เล่นกับลูก ถ้าเป็นเกมที่ต้องมีผู้แพ้ชนะ พ่อแม่มักยอมให้ลูกเป็นฝ่ายชนะตลอด เวลาลูกแพ้ ลูกมักร้องไห้หรืออารมณ์เสีย
แทนที่พ่อแม่จะสอนให้ลูกรู้จักการแพ้ชนะอย่างเป็นธรรมชาติและถูกต้องตามกฎกติกา และให้เขาได้รู้จักการจัดการกับอารมณ์นั้น
แต่พ่อแม่มักอ้างว่ารักลูก กลัวว่าลูกเสียใจก็เลยยอมแพ้ลูกตลอด จนเมื่อลูกต้องไปมีสังคมของเขาเอง เมื่อเขาแพ้ก็จะรู้สึกทนไม่ได้ ไม่ชอบหน้าอีกฝ่าย หรือบางทีก็กลายเป็นโกรธผู้นั้นไปเลย
--
• ประการที่สี่ : ลูกไม่เคยลำบาก
ข้อนี้มักเกิดกับกลุ่มพ่อแม่ชนชั้นกลางขึ้นไป ที่ไม่อยากให้ลูกลำบาก ยิ่งถ้าเป็นพ่อแม่ที่เคยผ่านความลำบากมาแล้ว ก็เลยมีความคิดว่าไม่อยากให้ลูกลำบากอีกต่อไป
ซึ่งเป็นความคิดและความเข้าใจที่ผิด เพราะความลำบากจะทำให้ลูกมีภูมิต้านทานชีวิตที่ดี
--
• ประการที่ห้า : ลูกไม่เคยแก้ปัญหา
พ่อแม่จัดการแก้ปัญหาให้ลูกหมด เพราะคิดว่าลูกยังเด็ก ลูกคงแก้ปัญหาเองไม่ได้หรอก ทั้งที่บางเรื่องเป็นเรื่องเล็ก ๆ และเป็นเรื่องของเด็ก แต่พ่อแม่ก็ไม่ปล่อยวางให้ลูกได้ฝึกเจอสถานการณ์ด้วยตัวเอง
พ่อแม่เข้าไปแก้ปัญหาและจัดการให้หมด กลายเป็นจุ้นจ้านต่อชีวิตของลูกไปซะอีก เวลาลูกเจอปัญหาอะไรต้องให้เขาฝึกเผชิญด้วยตัวเอง มิเช่นนั้นแล้ว เขาก็จะมองเห็นแต่ตัวเอง
เมื่อเกิดอะไรขึ้นมา เขาจะมองไม่เห็นปัญหาของคนอื่น หรือโทษว่าเพราะคนอื่นทำให้ฉันเกิดปัญหา
--
• ประการที่หก : ลูกได้รับคำชื่นชมและชมเชยแบบพร่ำเพรื่อ
การชื่นชมหรือชมเชยหรือให้กำลังใจลูกเป็นเรื่องจำเป็น แต่ต้องมีความพอดีและเหมาะสมกำกับอยู่ด้วย เพราะถ้าชื่นชมมากเกินไป พร่ำเพรื่อเกินไปก็กลายเป็นสร้างปัญหาด้วยซ้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชื่นชมเพียงแค่เปลือก ชมที่ภายนอก
เช่น ชมว่าลูกแต่งตัวสวย หล่อ หรือหน้าตาดี แต่ไม่ได้ชมที่พฤติกรรมของการทำดี ก็จะทำให้ลูกหลงและถือดีว่าตัวเองหน้าตาดี และนำไปสู่อาการหลงตัวเองได้
::::::::::::::::::
• ฝากทิ้งท้าย
ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วมีส่วนทำให้ลูกของคุณเข้าข่ายเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่คิดถึงตัวเอง หรือภาษาของคนชาวอเมริกันที่เขาบอกว่าเข้าข่ายหลงตัวเอง
จนถึงกับบัญญัติศัพท์ใหม่ว่า “Generation ME” ที่ต้องการสะท้อนให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่มักมองแต่ตัวเอง
จะว่าไปแล้วอีกปัจจัยหนึ่งที่เป็นตัวส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่เกิดพฤติกรรมหลงตัวเองก็คือ “สื่อยุคไร้พรมแดน” เพราะสื่อและเทคโนโลยีที่พุ่งเป้ามาที่ตัวเด็กโดยตรง
และมองว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สุดแสนจะโอชะ เพราะใช้เงินง่าย ตกเข้าไปในกระแสทุนนิยมก็ง่าย ยิ่งบรรดาสมาร์ทโฟนที่เด็กรุ่นใหม่ใช้กันเกลื่อนเมือง ก็ยิ่งเท่ากับเป็นการกระตุ้นให้กลุ่มคนรุ่นใหม่มีแนวโน้มอย่างมากที่ก้าวเข้าสู่การเป็น Generation ME ได้ง่ายขึ้น
ตรงกันข้าม ถ้าเด็กเหล่านี้ได้รับการเลี้ยงดูที่เหมาะสมและถูกวิธี มีการปลูกฝังทักษะชีวิตที่เหมาะสมกับวัย เมื่อถึงวันที่กระแสบริโภคนิยมเข้ามาปะทะตัวเด็กเต็ม ๆ มีสื่อไฮเทคเข้ามาถึงบ้าน แต่ทักษะชีวิตที่ได้รับการปลูกฝังมาดี
เมื่อถึงเวลานั้น ทักษะที่มี มันจะทำหน้าที่ป้องกันตัวเองได้เป็นอย่างดี
::::::::::::::::::
Credit : สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน / Quality of Life / Manager.co.th
ที่มา: https://www.facebook...&type=1
อ่านเร็วๆ นึกว่า เจนเนอเรชั่น ลี
Posted 11 September 2013 - 13:17
ไปทำงานคงหางานทำไม่ได้
เพราะเค้าให้ใส่ยูนิฟอร์มตามแบบที่กำหนด
บางที่ถึงจะไม่กำหนดรูปแบบตายตัว
แต่ยังไงก็มีขีดจำกัดของเสื้อผ้าที่ให้ใส่ได้
งงกับพวกรักเสรีแบบไร้ขีดจำกัด
Posted 11 September 2013 - 13:22
ขายังกับโต๊ะสนุ๊ก หน้าก็บานยังกับกะโล่ พุงก็ยื่น ตูดก็ย้อย...
Posted 11 September 2013 - 13:24
ในที่สุดเด็กโรคจิตก็ได้ดังสมใจอยาก
รำคาญสลิ่มเที่ยมที่เข้ามาปล่อยสารพิษเรียกร้องความรุนเเรงเสดงออกถึงความคลั่งสงครามกลางเมืองยุเเยงสร้างภาพชั่วๆ
เอียนวะ เห็นคนเเถวนี้ไอคิวต่ำกว่า 90 หรือไง
Posted 11 September 2013 - 13:44
Edited by zeedzaad, 11 September 2013 - 13:47.
Posted 11 September 2013 - 16:11
ลิเบอรัล เขาว่าแบบนี้
https://fbcdn-sphoto...3450_n.jpg?dl=1
อ่านเผินๆ ราวกับว่าอั้ม เนโก๊ะ สิงสู่อยู่ตามห้องน้ำโรงภาพยนต์ในเครือเมเจอร์อยู่เป็นกิจวัตร
Posted 11 September 2013 - 17:13
จะเข้าใจเด็กยุคนี้ แก่ๆที่นี่ ควรหาเวลาไปดู Series เรื่อง ฮอร์โมนบ้าง
ผมดูแล้วก็ไม่เห็นจะมีอะไร ซีรีย์ฝรั่งแรงกว่านี้ผมก็ดูมาแล้ว
แต่ผมว่าคำอธิบายนิสัยของเด็กยุคใหม่ที่เพื่อนสมาชิกนำมาโพสครอบคลุมแล้วครับ
Generation ME
» Gen ที่หลงตัวเองที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
เอาเข้าจริงๆ พวกริบือรัล ก็ไม่พยายามที่จะเข้าใจคนอื่นว่าทำไมเขาคิดไม่เหมือนตัวเอง
ริบอรอลที่ผมรู้จัก
เขาจะบอกว่า "ถ้าแน่จริงหาข้อมูลเหตุผลมางัดกันเพื่อเอาชนะความเป็นสากลให้ได้สิ"
Edited by Maratiraj_, 11 September 2013 - 17:13.
Posted 11 September 2013 - 17:45
....สมัยเรียนผมก็ไม่ยึดติดกับเครื่องแบบนะ สิ่งที่สัมผัสได้จากการแต่งตัวแบบคนธรรมดาทั่วๆไป (เสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าสาน) ก็คือ เวลาที่เราเดินออกจากมหา'ลัยออกไปปะปนกับผู้คนภายนอกที่่ท่าพระจันทร์ หรือสนามหลวง เราจะรู้สึกว่าเราเป็นประชาชนธรรมดาๆคนหนึ่ง ไม่ได้เป็นสิทธิชนที่แปลกแยกแตกต่างจากประชาชนคนอื่นๆ คำที่สอนว่า "ฉันรักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้ฉันรักประชาชน" จึงเป็นจริงได้สำหรับเรา เพราะเราก็คือประชาชนคนหนึ่ง
และมันเปิดโอกาสให้เราเฝ้าสังเกตสังคมได้โดยกลมกลืนตัวเองเข้าไปกับสังคม ดูมันอย่างที่มันดำเนินไปจริงๆรอบตัว ไม่ใช่ไปศึกษาวิจัยแบบเป็นแต่งชุดลงไป ทำแบบสอบถาม ขอสัมภาษณ์ เป็นทางการ ซึ่งก็ไม่แปลกที่ผลที่ได้รับก็จะเป็นข้อมูลจำเพาะเฉพาะหัวข้อ จงใจตกแต่ง บิดเบือนจากความเป็นจริงโดย Source และถูกจำกัดบิดเบือนต่อโดยมุมมองและทฤษฎีของผู้วิจัย อย่างที่พวกนักสังคมศาสตร์หอคอยงาช้างศึกษาแล้วเอาไปสรุปตามอคติตัวเอง จนมองสังคมเอียงกระเท่เร่ กลายเป็นยกรากหญ้า ข่มคนชั้นกลางจนสุดขั้วอย่างที่เป็นๆกันอยู่เดี๋ยวนี้
...แต่ถ้าเป็นเสรีภาพการแต่งกายที่เชิดชูอัตตาของตัวเอง แสดงว่าไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้องของเสรีภาพในการแต่งกายแล้วล่ะ...
Posted 11 September 2013 - 17:47
จะเข้าใจเด็กยุคนี้ แก่ๆที่นี่ ควรหาเวลาไปดู Series เรื่อง ฮอร์โมนบ้าง
แล้วจะเข้าใจว่า ทำไมประเทศถึงมีเด็กแบบนี้ และ เด็กแบบเนติวิทย์
แล้วจะเข้าใจอีกว่า ทำไมมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ถึงมีคนแบบ วรเจตน์ และ สมศักดิ์ เจียม เป็น ครูบาอาจารย์
แล้วจะเข้าใจอีกว่า วิธีการปลูกฝังจิตสำนึกอะไรที่ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ อ้างนั้น ไม่ใช่กุศโลบายที่ใช้ได้กับเด็กยุคนี้
ผมว่า ไอ้ที่เข้ามาโพส โวยวายในกระทู้นี้ ส่วนใหญ่ก็เป้นศิษย์เก่ากึ๊กเลือดเหลืองแดง รักสถาบัน ทั้งนั้นแหละ
ส่วนตัวไม่ได้เห็นด้วยกับการทำโปสเตอร์ แต่เข้าใจว่าทำไมเขาคิดแบบนี้ และ สื่อสารการต่อต้านการแต่งกายออกมาด้วยรูปแบบที่ไม่เหมาะสม
วัยกระเตาะของจริงในมหาลัย เขาก็มีความคิดแตกแยก เป็นกลุ่มๆ
บางคนก็ไม่เห้นด้วยกับโปสเตอร์ แต่ก็ไม่เห้นด้วยกับการบังคับให้่แต่งชุดนักศึกษา (ส่วนใหญ่จะคิดแบบนี้)
บางคนก็เห้นด้วยกับโปสเตอร์
บางคนก็ไม่เห็นด้วยเลยทั้งโปสเตอร์ กับ การไม่แต่งชุดนักศึกษา
พวกอาจารย์ชอบปลุกฝัง ให้เด็กรู้สึกว่า มหาลัยตัวเองนั้นเด่นดีกว่าชาวบ้านต้องภูมิใจที่เกิดมาเป็นลูกแม่โดมอะไรก็แล้วแต่ ด้วยการบังคับให้ใส่ชุดนักศึกษา
จะเห็นว่า กรณีพวกอาชีวะ ก็วิวัฒนาการกลายเป็น ยกพวกตีกัน เพราะรักสถาบัน หยิ่งในสถาบันมากเกินไป
แต่โลกแห่งความเป้นจริงนั้น เวลาไปเรียนเมืองนอก แทบอวดไม่ได้ว่า จบมาจากไหน แม้กระทั้ง จุฬา เพราะเขาไม่รู้จักกันเท่าไหร่ ไม่สามารถเดินใส่ชุด นิสิต อวดเบ่งได้เหมือนเมืองไทย
สิ่งที่อาจารย์ควรปลูกฝังนั้นคือ การเป้นคนดี มีคุณธรรม มากกว่า การปลูกฝังให้ภูมิใจหรือรักสถาบันด้วยการแต่งกายด้วยชุดนักศึกษาอย่างเดียว
แล้วถ้าเกิดนายเนะโก๊ะหรือคนอื่นๆอยากได้อาจารย์หุ่นล่ำๆ หล่อๆ ใหญ่ๆ โดยปฏิเสธการสอนของอาจารย์ชะนีหรือไม่ถูกใจหลักสูตรหรือตำราเรียนวิชาไหน แล้วมาแต่งชุดโชว์ตุด โชว์ก้นแบบเดิมอีก
ทางมหาลัยต้องปรับตัวแบบไหนหรือยังไงอีกบ้างครับ
รบกวนแนะแนวทางให้กับทางมหาลัยเผื่ออนาคตเลยครับ
Posted 11 September 2013 - 21:54
มันวาดเอาฮาใช่ไหมเนี่ย
https://www.facebook...&type=1
Edited by Maratiraj_, 11 September 2013 - 22:05.
Posted 11 September 2013 - 22:34
Posted 12 September 2013 - 06:45
ในฐานะศิษย์เก่าธรรมศาสตร์คนหนึ่ง และมีโอกาสได้เรียนต่อ Graduate Schools (ผมนึกคำไทยไม่ออกครับ) ในสหรัฐและญี่ปุ่น
ส่วนตัวผมเฉยๆกับการใส่หรือไม่ใส่เครื่องแบบนักศึกษา (สมัยผมเรียน ถ้าใครไปเรียนวิชาโทที่บัญชีต้องใส่ชุดนักศึกษาเพราะคณะนั้นบังคับ)
คณะเศรษฐศาสตร์ที่ผมจบมา ก็ไม่มีการบังคับให้ใส่เครื่องแบบแต่อย่างใด แต่เป็นที่รู้กันว่าต้องแต่งตัวไปมหาวิทยาลัยให้เรียบร้อยในระดับหนึ่ง
จริงอยู่ที่ในธรรมศาสตร์มีเสรีภาพมากกว่ามหาวิทยาลัยอื่นๆ (เป็นที่เดียวที่เขียนป้ายวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของอธิการบดีได้โดยไม่ถูกยกเอาไปทิ้ง)
แต่ขณะเดียวกัน พฤติกรรมของกระเทยที่อยากดังในทางที่แย่ๆ อย่างไอ้คนนี้ (เพื่อนผมเป็นเพศที่สามก็หลายคน ไม่เห็นเขาทำตัวแรงแบบนี้กันเลย)
หรืออย่างพฤติกรรมของนักศึกษาหลายๆคน มันทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ว่า วัยวุฒิ วุฒิภาวะของเด็กรุ่นใหม่มันด้อยลงหรือเปล่า (เมื่อเทียบกับประเทศอื่น) และมีความเข้าใจผิดอย่างแรงว่า การมีเสรีภาพ คือการทำอะไรก็ได้ตามใจฉัน
แต่ที่จริงมันไม่ใช่ เมื่อมีสิทธิเสรีภาพ มันต้องมีความรับผิดชอบต่อตนเอง และคนรอบข้างด้วย การแสดงออกอย่างก้าวร้าว และเอาคำว่าเสรีภาพ สิทธิส่วนบุคคลมาเป็นเกราะกำบัง ผมว่ามันเป็นเรื่องตลก
แถมเผลอๆ เจ้าตัวก็รู้ลึกๆในใจว่าทำอะไรแย่ๆออกไป
ธรรมศาสตร์ในวันนี้ ถูกเข้าใจผิดเพียงเพราะคนแค่หยิบมือเอาเรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวข้องกับธรรมศาสตร์ไม่ว่าอดีต หรือ ปัจจุบัน มาบิดเบือนเพือให้ตนเองมีความชอบธรรมในการกระทำเลวๆได้ (แถมบางเรื่องถูกบิดไปซะจนยากที่จะแก้ไขความเข้าใจผิดนั้นๆของสังคมไปแล้ว) แต่ขณะเดียวกันก็เกิดคำถามขึ้นครับว่า เพราะสื่อบางตัวเลือกที่จะเล่นเรื่องกระเทยอยากดังนี้ เพื่อที่จะเบี่ยงประเด็นสำคัญๆ ที่เกี่ยวข้องกับปากท้องของประชาชนหรือเปล่า ผมก็ว่าเป็นเรื่องที่น่าคิด
เพราะสุดท้ายแล้วไอ้กระเทยอยากดังคนนั้น พอจบออกมาก็จะพบความจริง และจะไม่มีคนคบ ทำงานก็คงโดนให้ออก เพราะทำตัวเอง ซึ่งผมรู้สึกว่าประเทศเรามีเรื่องใหญ่ๆที่ต้องคอยตรวจสอบอีกเยอะครับ
Edited by Yasuhiro, 12 September 2013 - 07:02.
"Hoot": When I go home people'll ask me, "Hey Hoot, why do you do it man? What, you some kinda war junkie?" You know what I'll say? I won't say a goddamn word. Why? They won't understand. They won't understand why we do it. They won't understand that it's about the men next to you, and that's it. That's all it is.
Quote from Black Hawk Down
0 members, 0 guests, 0 anonymous users