ชาวเสรีไทย ไม่ได้สนับสนุนปฏิวัติ พวกเราสนับสนุนประชาธิปไตยเหมือนกัน
แต่เป็นประชาธิปไตยแท้จริง ที่ไม่ได้มาจากการล้างสมอง ป่าวประกาศโจมตีทุกเรื่องผ่านวิทยุชุมชน หรือเวทีแกนนำ จนได้มาซึ่งเสียงของประชาชน
ชาวเสรีไทย ไม่ได้สนับสนุน ปชป. ตลอดกาล หากแต่มีพรรคไหนที่มีความสามารถมากกว่า และพร้อมที่จะบริหารประเทศ ทำเพื่อประเทศ พวกเราก็พร้อมจะสนับสนุนทุกเมื่อ
พวกเราไม่ได้เห็นนักการเมืองเป็น Idol ที่จะรักจะชอบไปจนวันตาย พวกเรามองคนที่ความสามารถ ไม่ทำเพื่อพวกพ้อง
แค่อยากให้รู้ไว้ครับ 
-------------------------------------
ผมดีใจมากที่ได้อ่านความคิดเห็นนี้ โดยเฉพาะในแถวแรค
ที่ผ่านๆมาผมก็เห็นทุกฝ่ายทุกสีมักจะอ้างว่า"รักประชาธิปไตย" "ต่อต้านเผด็จการเหมือนๆกัน แต่บางทีการกระทำก็ไม่ได้เป็นไปตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด
ทำให้รู้สึกคลางแครงสงสัยในพฤติกรรมดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง การกล่าวหาโจมตี ใส่ร้ายฝ่ายตรงข้ามด้วยสื่อในเครือหรือจากแกนนำของฝ่ายต่างๆ ผมก็
ไม่เห็นด้วยเช่นกัน สำหรับผมแล้วก็ไม่ได้ยึดติดเช่นกันว่า หัวหน้าพรรคการเมืองไหนจะมาเป็นผู้นำประเทศ หรือพรรคการเมืองใดจะมาเป็นรัฐฐาล
ขอแค่ให้พรรคการเมืองนั้นๆ หรือคนๆนั้นได้รับเสียงฉันทามติส่วนใหญ่จากประชาชนก็พอ และ,หรือ หากเมื่อเลือกมาแล้วไม่พอใจในผลงานของรัฐบาลนั้นๆ
ก็ให้อดใจรอ 4 ปี ค่อยเลือกใหม่ตามกฏ,กติกา ไม่ต้องสร้างเงื่อนไข ตีรวน เล่นการเมืองนอกสภาฯ จนเลยเถิดไปถึงขั้นเข้าไปเชิญกองทัพออกมา
เพราะนั่นแสดงให้เห็นว่า กลุ่มคนฝ่ายนั้นๆที่มีพฤติกรรมดังกล่าวไม่ได้ยอมรับกฏกติกา หรือรักประชาิธิปไตย ตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด ... 
ผมว่าที่คุณ @Algorithm พูดมาก็ชัดนะครับ
ก็ยินดีครับที่คุณดูเหมือนจะเป็นผู้ศัทธาในระบอบประชาธิปไตยมาก ก็ขอยกย่องครับ แต่การพัฒนาการเมืองหรือระบอบประชาธิปไตยขอให้
คุณอย่าติดในตำราเก่าๆ แค่อยู่ที่การเลือกตั้ง เสียงส่วนใหญ่ ปัญหาทางสังคมปัจจุบันมันซับซ้อนขึ้น ระบอบประชาธิปไตยกำลังถูกนายทุนใช้
เพื่อประโยชน์ของกลุ่มตนเอง คุณลองคิดดู ในประเทศที่ประชาชนมีการศึกษาไม่เพียงพอ นายทุนใช้เงินทุ่มในการซื้อเสียง ไม่ว่าจะรูปแบบไหน
ก็ตาม มีการใช้ทุนและอิทธิพลในการแทรกแทรงสื่อ (เรื่องนี่สำคัญมาก พูดกันยาว) การเข้ามาบริหารบ้านเมืองแล้วแทรกแทรงองค์กรอิสระโดย
ใช้อิทธิพลทางสังคม ทางเศรษฐกิจ เข้ากดดันเป็นตัน การเข้ามาโดยระบอบประชาธิปไตย แล้วเข้ามาเปลี่ยนกฏหมายเพื่อให้ตอบสนององค์กร
ธุรกิจของตน ใช้อำนาจการเมืองทำลายคู่แข่งทางเศรษฐกิจ อย่างนี้เรียกประชาธิปไตยเต็มใบหรือเปล่าครับ ไม่นับรวมไปถึงเรื่องการคอร์รัปชั่น
ในรูปแบบต่างๆ (พูดกันยาว) ซึ่งประชาชนที่ขาดการติดตามข่าวสารอย่างแท้จริงจะไม่มีทางรู้เลย
ความจริงผมก็เห็นด้วยก้บ อาจารย์ วรเจตน์ (ธรรมศาสตร์) นะครับที่บอกว่า จะเกิดอะไรขึ้นก็ตามขอให้ประชาชนเป็นฝ่ายเรียนรู้ไม่ว่าจะอีกกี่
ปีก็ตาม แต่พวกเราที่เข้าถึงข้อมูลถ้าเห็นอะไรไม่ถูก ไม่ดี ก็มีสิทธิที่จะออกมาพูดมากล่าว ใช่หรือไม่
การออกมาเรียกร้องของคนกลุ่มหนึ่งต่อการที่รัฐบาลคอร์รัปชั่น มันเป็นสิ่งที่เกิดได้ในระบอบประชาธิปไตย ถ้ารัฐบาลมีจิตสำนึก หรือไม่หลง
อำนาจมากเขาก็รู้สึกตัวแล้ว จะยุบสภาหรือลาออกเป็นตัวบุคคลก็ว่ากันไป อย่างประเทศที่ประชาชนมีการศึกษาเช่น เกาหลีใต้ ญึ่ปุ่น หรือ
เยอรมันนี เป็นต้น
แต่ที่มันเกิดปัญหาขึ้น ก็เพราะรัฐบาลบ้าอำนาจ มีอำนาจสูงขึ้น (ไปศึกษาการเติบโตของพรรคแรงงานสังคมนิยมแห่งชาติเยอรมัน ดูครับ) ผม
ว่าถ้าคุณสนใจต่อสู้เรื่องระบอบประชาธิปไตย ควรจะต่อสู้ในทุกๆแง่ ไม่ใช่แค่แง่ของรัฐประหารอย่างเดียว ผมจะยกตัวอย่างให้ดู เช่น
ระบอบประชาธิปไตยที่ดี ควร
มีประชาชนที่มีการศึกษาครอบคลุมมาตราฐานขององค์การสหประชาชาติ
นักการเมืองควรเป็นนักการเมืองมืออาชีพ ไม่มีธุรกิจเกี่ยวเนื่อง (ดูตัวอย่างประเทศเยอรมันนีได้ ภาษาที่คุณใช้ตั้งชื่อแหละ) นักการ
เมืองของประเทศนี้ทำการเมืองตั้งแต่อยู่ที่มหาวิทยาลัยครับ
การเมืองจะต้องไม่แทรกแทรงสื่อในทุกแง่ อย่าใช้อำนาจทางสังคม ธุรกิจแทรกแทรงกดดัน
การคอร์รัปชั่นจะต้องได้รับการตรวจสอบโดยองค์กรอิสระที่ปราศจากการแทรกแทรง อย่างแท้จริง
ยังมีอีกเยอะครับ ไว้วันหลังค่อยมาคุยเรื่องนี่แบบละเอียดอีกที ถ้าคุณสนใจ
ตอนนี้เอาแค่นี้ก่อนดีกว่า
ถ้าคุณรักระบอบประชาธิปไตยจริง ขอให้ต่อสู้ให้ครบทุกกระบวนความครับ อย่าจับแค่เปลือก จับให้ถึงแก่นครับ
-------------------------------------
ขอบคุณครับ ผมไม่ทราบว่าประชาธิปไตยในตำราใหม่ๆ(ที่ไม่เก่า)ในความคิดของคุณเป็นอย่างไรบ้าง
ถ้าคุณจะกรุณาอธิบายสั้นๆให้พอเข้าใจได้ก็ขอขอบคุณด้วย ถ้าหากจะคิดว่าประชาชนมีการศึกษาไม่เพียงพอ (ซึ่งผมไม่กล้าคิด)
ผมว่าน่าจะไม่ถูกต้องนัก ถึงแม้คุณหรือใครจะมีความคิดเช่นนั้น ซึ่งก็มีสิทธิ์ที่จะคิดได้ แต่ก็ควรให้ขบวนการประชาธิปไตยพัฒนา
ไปตามขั้นตอน ไม่ใช่ไม่ชอบใจ ไม่ถูกใจ ก็คิดจะล้มทำลายรัฐบาล
ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชแล้วยัดเยียดกลุ่มคนที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้เลือก เข้ามาบริหารประเทศแทน
ถ้าเป็นเสียอย่างนี้ คิดอย่างนี้ ทำแบบนี้ ความวุ่นวายไม่มีที่สิ้นสุดแน่ เรื่องการซื้อเสียง,การแทรกแทรงสื่อ แทรกแทรง
องค์กรอิสระ มีอยู่จริงครับ ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งทุกวันนี้ผมเชื่อว่าประชาชนในชาติส่วนใหญ่ก็เห็นใส้เห็นพุงกันหมดแล้ว
แทบจะไม่ต้องอธิบายกันให้ยาวเลย
ผมดีใจนะที่คุณเห็นด้วยกับอจ.วรเจษน์ ไม่ผิดหรอกครับที่คุณจะออกมาแสดงความคิดเห็นในสิ่งที่คุณเห็นหรือรับรู้มา
นั่นเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐานในการปกครองแบบระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้ว เพียงแต่ถ้าเราอยากให้เขาฟังเรา เราก็ต้องรับฟังเขาด้วยเช่นกัน และที่สำคัญเมื่อมีการแลกเปลี่ยนถกเถียงกันแล้ว หากมีการลงฉันทามติ เราก็ต้องยอมรับเสียงส่วนใหญ่ แม้ว่าเราอาจจะคิดว่าสิ่งที่เราเห็น เราพูด เราคิด เราแสดงออกมานั้นน่าจะถูกต้องแล้ว
ผมว่าการเมืองไทยตั้งแต่หลัง 19 กันยาฯ ปี 49 เป็นต้นมานั้น ถ้าเอาไปเปรียบเทียบกับประเทศเยอรมัน,เกาหลี,ญี่ปุ่น
ไม่น่าจะสมเหตุสมผลนัก ถ้าเปรียบเทียบกับประเทศแถบๆรอบๆบ้านเรา เรายังดูด้อยกว่าเขาเสียด้วยซ้ำ
การเมืองในประเทศรอบบ้านเราดูจะเป็นเอกภาพมากว่าการเมืองในบ้านเราเสียอีก
ผมรักและศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยจริงครับ ผมก็ต่อสู้ในขีดความสามารถที่ผมพอมี ไม่ต้องคาดหวังในตัวผม
อะไรมากมายนัก ผมเป็นเพียงแค่เสียงเล็กๆเสียงหนึ่งเท่านั้น สิ่งที่ผมคาดหวังก็เหมือนที่ผมตอบคุณAlgorithm ใ
นความคิดเห็นที่ 42 "นั่นแหละครับ
