เทคนิคทำอาหารประหยัดและอร่อย ในยุคข้าวยากหมากแพง
#51
ตอบ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 10:53
อาทิ คุณดราม่า คุณตะนิ่นตาญี คุณGermanmaniac
มีนักชิม อย่างสาวน้อยมะจัง คุณ Pinkpanda คุณZombie ภูธร
มีสาวสวยที่คุณแม่ทำขนมไทยเก่งมากกกก... อย่างคุณ Ploychanpen
คงต้องมีใครสักคนที่ตอบได้ละว่า
ไอ้ที่ห้อยต่องแต่งข้างบนน่ะ
มันคือขั้นตอนการทำอาหารอะไร
- ploychanpen likes this
#52
ตอบ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 14:16
โตงเตง ต่องแต่ง น้ำหยดติ๋งๆ
นี่มันคืออะไรอ่ะ???
ไม่เกี่ยวกับเทคนิคทำอาหารประหยัดและอร่อย
บอกใบ้ให้ว่า เป็นขั้นตอนการทำอาหารอย่างหนึ่ง
ต้องจับมาห้อยต่องแต่ง ให้หยดติ๋งๆ จนน้ำออกหมด จึงจะนำมาใช้ในขั้นตอนต่อไปได้
ลองทายกันดูว่า เมื่อทำเสร็จแล้ว จะกลายมาเป็นอาหารอะไร
ในบอร์ด สรท นี้ มีผู้เชี่ยวชาญการทำอาหารอยู่หลายคน
อาทิ คุณดราม่า คุณตะนิ่นตาญี คุณGermanmaniac
มีนักชิม อย่างสาวน้อยมะจัง คุณ Pinkpanda คุณZombie ภูธร
มีสาวสวยที่คุณแม่ทำขนมไทยเก่งมากกกก... อย่างคุณ Ploychanpen
คงต้องมีใครสักคนที่ตอบได้ละว่า
ไอ้ที่ห้อยต่องแต่งข้างบนน่ะ
มันคือขั้นตอนการทำอาหารอะไร
ยกมือ ขอตอบครับ
ในห่อผ้าขาวบางนั้น คือ เนื้อลูกตาลสุก ครับ
หลังจากเราคั้นน้ำด้วยการขยำๆแล้ว ก็นำน้ำที่ได้มาห่อผ้าขาวบาง แล้วก็ห้อยไว้ให้น้ำมันหยดลงภาชนะที่รองไว้ด้านล่างครับ เพื่อให้เหลือแต่เนื้อ
ขอตอบว่า อาหาร นั้นคือ "ขนมตาล" ครับ
(ถ้าไม่ใช่ขนมตาล ก็ ขนมขี้หนูครับ ใช้ตาลสุกมาขยำๆแล้วก็ใช้ผ้าขาวบางช่วยแยกเนื้อ-น้ำ เหมือนกัน)
Edited by GermanManiac, 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 16:04.
- Gop likes this
#54
ตอบ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 17:26
โตงเตง ต่องแต่ง น้ำหยดติ๋งๆ
นี่มันคืออะไรอ่ะ???
ไม่เกี่ยวกับเทคนิคทำอาหารประหยัดและอร่อย
บอกใบ้ให้ว่า เป็นขั้นตอนการทำอาหารอย่างหนึ่ง
ต้องจับมาห้อยต่องแต่ง ให้หยดติ๋งๆ จนน้ำออกหมด จึงจะนำมาใช้ในขั้นตอนต่อไปได้
ลองทายกันดูว่า เมื่อทำเสร็จแล้ว จะกลายมาเป็นอาหารอะไรในบอร์ด สรท นี้ มีผู้เชี่ยวชาญการทำอาหารอยู่หลายคน
อาทิ คุณดราม่า คุณตะนิ่นตาญี คุณGermanmaniac
มีนักชิม อย่างสาวน้อยมะจัง คุณ Pinkpanda คุณZombie ภูธร
มีสาวสวยที่คุณแม่ทำขนมไทยเก่งมากกกก... อย่างคุณ Ploychanpen
คงต้องมีใครสักคนที่ตอบได้ละว่า
ไอ้ที่ห้อยต่องแต่งข้างบนน่ะ
มันคือขั้นตอนการทำอาหารอะไร
ยกมือ ขอตอบครับ
ในห่อผ้าขาวบางนั้น คือ เนื้อลูกตาลสุก ครับ
หลังจากเราคั้นน้ำด้วยการขยำๆแล้ว ก็นำน้ำที่ได้มาห่อผ้าขาวบาง แล้วก็ห้อยไว้ให้น้ำมันหยดลงภาชนะที่รองไว้ด้านล่างครับ เพื่อให้เหลือแต่เนื้อ
ขอตอบว่า อาหาร นั้นคือ "ขนมตาล" ครับ
(ถ้าไม่ใช่ขนมตาล ก็ ขนมขี้หนูครับ ใช้ตาลสุกมาขยำๆแล้วก็ใช้ผ้าขาวบางช่วยแยกเนื้อ-น้ำ เหมือนกัน)
คุณ GermanManiac เก่งจริงๆ ครับ
ตะนิ่นตาญี นั่งเล็งอยู่นานสองนาน นึกไม่ออก
มาร้อง อ๋อ...จริงด้วย ตอน คุณ GermanManiac เฉลยในความเห็นที่ ๕๒
แหะๆๆๆ ไว้ว่างๆ คุณ GermanManiac ลองทำมาให้ชิมด้วยสิครับ
ไม่งั้นจะไม่เชื่อนะเออ....
ตะนิ่นตาญี
- G.Maniac likes this
#55
ตอบ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 20:07
แม่เราได้ไปทำธุระที่ ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ในวันหนึ่งก่อนที่น้องน้ำจะมาเยือน
ระหว่างทางที่เดินจากหอสมุดไปยังโรงพยาบาล สายตาก็ไปป๊ะกันแหมกับลูกตาลสีน้ำตาลดำมีขั้วสีเขียวตกอยู่บนทางเท้า ซึ่งปลูกต้นตาลเรียงรายไปตลอดทาง
คุณนายจึงไม่รอช้า เก็บใส่ถุงผ้ากลับบ้านมาเสียสองหน่วย
แต่กระนั้นเพื่อความชัวร์ จึงได้ถามเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยว่า เก็บเอาไปได้ไหม
เจ้าหน้าที่หญิงผู้นั้นก็แสนดี เห็นๆว่า ลูกตาลได้สถิตย์ในถุงอย่างเรียบร้อยแล้ว จึงเอื้อนเอ่ยด้วยมธุรสวาจาว่า ลูกตาลสุกที่หล่นจากต้น มีมากมาย เชิญคุณป้าเอาไปได้ตามสบาย
เมื่อกลับถึงบ้าน ลูกสาวอย่างเราจึงถามแม่ตามบทสนทนาดังนี้
เรา...แม่เอามาทำไม หนักมิใช่น้อยเลยนะนั่น
แม่...เอามาทำขนมตาลน่ะสิ
เรา...แม่ทำเป็นเหรอ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นแม่ทำเลยนะ
แม่...ไม่เคยทำหรอก แต่คงไม่ยาก ใช้แป้ง น้ำตาล กะทิใส่เนื้อลูกตาลลงไป นึ่งให้สุกเป็นใช้ได้
เรา...โห!! แม่ ง่ายอย่างนั้นเลยเหรอ???? แล้วสูตรล่ะ ต้องใส่อะไรเท่าไหร่
แม่...จะไปรู้เหรอ
เรา...อ้าว!
แม่...จะยากอะไรยะ อินเทอร์เน็ตมีไว้ทำอะไร
เรา...เอ๋อไปเลย
เรากับน้องสาวจึงต้องค้นคว้าหาวิธีการนำเนื้อตาลออกมาจากลูกให้ได้ก่อน
จนได้เว็ปที่สอนการยีลูกตาลอย่างละเอียด
ซึ่งต้องขอบคุณ เว็ป ครัวบ้านพิม มา ณ ที่นี้ด้วย
http://www.pim.in.th...palm-fruit.html
นี่คือเมล็ดตาลที่ผ่านการยีจนเหลือแต่เส้นใย
นี่คือเนื้อตาลที่ผ่านการยีและเกรอะ เอาน้ำออกจนหมดแล้ว พร้อมจะนำไปทำขนม
- G.Maniac and ตะนิ่นตาญี like this
#56
ตอบ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:04
ขนมตาลนุ่มๆหอมๆที่เอาใส่ปากเคี้ยวอย่างง่ายดายนั้น มีกรรมวิธีขั้นตอนการทำที่แสนจะยุ่งยากซับซ้อน กินเวลานานมากกกกกกก
ใครที่ทำขนมตาลแท้ๆได้อร่อย ต้องขอบอกว่าช่างเป็นสุดยอดกุ๊กแดนสุวรรณภูมิเลยทีเดียว
(ที่บอกว่าขนมตาลแท้ๆนั้น เพราะปัจจุบันมีเนื้อลูกตาลสุกขายใส่ขวด บางคนเอาเนื้อลูกตาลจากขวดมาใช้นิดเดียว แต่กระหน่ำผงฟูลงไปในแป้งให้ขึ้นฟู ใส่สีเหลืองลงไป เนื้อขนมจะฟูจริงแต่กลิ่นและรสชาติจะเจือจาง)
สุดยอดกุ๊กแดนสุวรรณภูมิ ในการทำขนมตาล
ต้องมีพละกำลังมาก
ลำแขนจะต้องแข็งแรง เรียกว่าแรงต้องดีไม่มีตก เพื่อจะได้ยีตาลจากเส้นใยได้หมด เส้นใยนี้แข็งมากและยึดเกาะกับเนื้อตาลอย่างเหนียวแน่น จึงต้องออกแรงมากๆๆๆๆๆขูดเนื้อตาลผ่านตะแกรง
ต้องมีความอดทนรอ
เนื่องจากหลังจากแยกเนื้อตาลออกมาแล้วต้องเกรอะ เอาน้ำออกให้หมด ดังรูปที่ห้อยโตงเตงต่องแต่งนั่นแหละ
กรรมวิธีนี้อาศัยแรงโน้มถ่วงของโลกล้วนๆ ใช้เวลาข้ามวันข้ามคืน เพื่อให้ได้เนื้อตาลที่แห้งจริงๆ
ต้องมีศิลปะในการผสมแป้งกับเนื้อตาล ไม่ให้เป็นเม็ด ต้องนวดจนแป้งเนียนไปกับเนื้อตาล นวดไปเติมกะทิละลายน้ำตาลปึกไปทีละน้อย ใส่ทีเดียวโครมครามไม่ได้
นี่คือส่วนผสมของ เนื้อตาล แป้งข้าวเจ้า กะทิซึ่งละลายน้ำตาลปึก ผสมเข้ากันดีแล้ว โปรดสังเกตไม่ได้ใส่ผงฟู เพราะในเนื้อตาลธรรมชาติจะมียีสต์อยู่ ทำให้ขนมฟูได้เอง
จากนั้นก็ต้องเอาไปผึ่งแดด ให้ขนมขึ้นฟู สังเกตจากการที่มีฟองอากาศปุดๆอยู่เต็มไปหมด
วันที่ทำขนม บังเอิญมืดครึ้มไม่มีแดด ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการเอาโคมไฟส่องให้เกิดความร้อน
ทำแบบตำรวจเอาไฟส่องหน้าคนร้ายให้รับสารภาพยังไงยังงั้นเลย
ถึงตรงนี้ ก็ได้แต่ รอ ร้อ รอ เสียเวลาไปอีกหลายชั่วโมงเลยทีเดียว
ระหว่างรอขนมขึ้นฟู สุดยอดกุ๊ก ยังต้องเตรียมกระทงใบตองไว้รองรับขนม
ซึ่งสำหรับเราใช้ไม้กลัด ค่อยๆบรรจงเย็บกระทง งานนี้ไม่ใช้ลวดเย็บกระดาษ เนื่องจากกลัวสารพิษ
แล้วยังต้องขูดมะพร้าวทึนทึกไว้โรยหน้าขนมอีกด้วย
แต่ในที่สุดก็ได้้เห็นฟองอากาศปุดๆจนเต็มอ่างจนได้
ตักขนมใส่กระทง แล้วลงมือนึ่งกันเลย
ลองดูว่า ขนมที่ออกมาหน้าตาจะเป็นอย่่างไร
Edited by asawinee, 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 10:01.
- G.Maniac likes this
#57
ตอบ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:54
ขนมหน้าตาเป็นอย่างนี้นี่เอง
ส่วนนี่ กระทงใบตองหมด เลยใส่ชามซะเลย อิ อิ
สิริรวมใช้เวลาทำขนมตาล 2 วันเต็ม
วันแรกยีลูกตาล ปล่อยให้น้ำหยดข้ามวัน
วันที่สอง ตอนเช้า ผสมแป้งกับเนื้อลูกตาล กะทิละลายน้ำตาลปึก กว่าจะได้นึ่งก็บ่ายแก่ๆ
รสชาติก็โอเคนะสำหรับการทำครั้งแรก
สีสันออกส้มเหลืองเข้มมาก เพราะใส่เนื้อตาลเยอะ แถมน้ำตาลที่ใช้ยังเป็นน้ำตาลปึก ไม่ใช่น้ำตาลทรายอีก เลยทำให้สัสันจัดจ้านมากๆ
ตอนนึ่งกลิ่นขนมตาลฟุ้งกระจายไปสามบ้านแปดบ้าน ตอนกินกลิ่นตาลสุกก็แรงสมใจ
#59
ตอบ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 22:02
สปาเก็ตตี้ เขียวหวานกุ้ง + ไก่ทอด ครับ
ผมกับแฟนคิดและทดลองประดิษฐ์มันขึ้นมาน่ะครับ ไม่เคยลองมาก่อน
ขั้นแรก ทอดไก่ก่อน เราแล่ไก่เป็นชั้นขนาดประมาณฝ่ามือ ชุบแป้งทอดกรอบและเกล็ดขนมปัง ทอดให้เหลือง แล้วเอามาพักไว้
ต่อมา ก็ลวกเส้นสปาเก็ตตี้แล้วพักไว้ก่อนเช่นกันครับ
ต่อมาก็เตรียมน้ำแกง วันนี้เพื่อความรวดเร็ว เราใช้แบบสำเร็จรูปของรอยไทย ครับ ซึ่งรสชาติน้ำแกงจะค่อนข้างจืด เราต้องปรุงเพิ่ม
ที่ทำนี่ก็ ใส่พริกแกงเพิ่มอีก 1 กระป๋องเล็ก(ขนาดเดียวกับผักกาดดองกระป๋อง) เติมนมสด รสจืดลงไปเพิ่มอีกเล็กน้อย
แล้วก็ใส่น้ำปลา น้ำตาลปึก ปรุงรสเพิ่มด้วย
ใส่ถั่วลันเตา พริกชี้ฟ้า และกุ้งที่แกะเปลือกและลวกไว้แล้ว ลงในน้ำแกง ครับ
เดือดสักพัก ก็ยกเทลงชามครับ แล้วโรยใบโหระพา
น้ำเส้นสปาเก็ตตี้ลงไปผัดในกระทะ แล้วราดน้ำแกงลงไปนิดก่อน ก่อนผัดให้ทั่วๆ (ขั้นตอนนี้ไม่ต้องทำก็ได้ ถ้าต้องการทานเร็วๆ)
น้ำเส้นที่ได้จัดใส่จาน น้ำแกงเขียวหวานมาราด หั่นไก่ทอดวางด้านบน เท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟ พร้อมทานแล้วครับ
(ขอโทษนะครับ เตรียมกล้องไม่ทัน ใช้มือถือถ่าย เลยไม่ค่อยชัด)
Edited by GermanManiac, 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 22:04.
- ตะนิ่นตาญี, pinkpanda, asawinee and 1 other like this
#61
ตอบ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 09:54
สภาพต้นยังดี ไม่ได้ล้มหายตายจากเพราะฤทธิ์ของน้องน้ำ
แต่คิดว่ายังบอบช้ำสำลักน้ำใต้ดินอยู่ ต้องอาศัยเวลาเยียวยาซักพัก
ใครที่คิดจะไปเก็บลูกตาลที่ร่วงจากต้น คงต้องร้องเพลงรอไปก่อน
- G.Maniac likes this
#62
ตอบ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 18:37
คุณ สอง คน กำลัง ทำบาป-ทำกรรม กับ คนแก่ ไว้มหันต์
ให้ดูแต่รูป ไม่ยอมทำของจริง มาให้ ลิ้ม-ชิม-ลอง สักที...โกรธแล้วน๊า
ตะนิ่นตาญี
#63
ตอบ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:17
นี่ๆๆๆ ทั้ง คุณ GermanManiac และ คุณ asawinee รู้ตัวบ้างไหม
คุณ สอง คน กำลัง ทำบาป-ทำกรรม กับ คนแก่ ไว้มหันต์
ให้ดูแต่รูป ไม่ยอมทำของจริง มาให้ ลิ้ม-ชิม-ลอง สักที...โกรธแล้วน๊า
ตะนิ่นตาญี
เอ่อ คุณตะนิ่นตาญีคะ
ต้องขออภัยอย่างสุดซึ้งเลยนะคะ
ขนมตาลที่อยู่ในรูปน่ะ ทำแค่ครั้งเดียวในชีวิตนะคะ
ถ้าจะให้ทำอีกครั้ง
คงต้องขอนุญาตไปฝึกกล้ามแขนไบเซ็ป ไตรเซ็ปให้แข็งแกร่งกว่านี้
ไม่งั้นตอนยีลูกตาล คงได้แขนเดี้ยงไปสามวันเหมือนคราวที่แล้ว
- G.Maniac likes this
#64
ตอบ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:40
เอาอาหารวันวาเลนไทน์มาฝากครับ ทานกับแฟนครับ ทั้งเช้าและเย็น
ไม่ได้มี ว.5 ที่ไหน อิอิ
Edited by GermanManiac, 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:40.
- ตะนิ่นตาญี, pinkpanda, asawinee and 1 other like this
#65
ตอบ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 22:27
คุณตะนิ่นตาญี บ่นยังไม่ทันขาดคำ
ท่านเค้าจัดมาชุดใหญ่มาให้เลย 5555
- G.Maniac and ตะนิ่นตาญี like this
#66
ตอบ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 22:40
Edited by ดราม่า, 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 22:41.
#67
ตอบ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 09:21
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอแนะนำ การทำอาหารที่ "ดูเหมือน"จะหรู แต่ราคาย่อมเยา และรสชาติอร่อยไว้อีก 1 รายการ ในกระทู้นี้นะครับ
สปาเก็ตตี้ เขียวหวานกุ้ง + ไก่ทอด ครับ
ผมกับแฟนคิดและทดลองประดิษฐ์มันขึ้นมาน่ะครับ ไม่เคยลองมาก่อน
ขั้นแรก ทอดไก่ก่อน เราแล่ไก่เป็นชั้นขนาดประมาณฝ่ามือ ชุบแป้งทอดกรอบและเกล็ดขนมปัง ทอดให้เหลือง แล้วเอามาพักไว้
ต่อมา ก็ลวกเส้นสปาเก็ตตี้แล้วพักไว้ก่อนเช่นกันครับ
ต่อมาก็เตรียมน้ำแกง วันนี้เพื่อความรวดเร็ว เราใช้แบบสำเร็จรูปของรอยไทย ครับ ซึ่งรสชาติน้ำแกงจะค่อนข้างจืด เราต้องปรุงเพิ่ม
ที่ทำนี่ก็ ใส่พริกแกงเพิ่มอีก 1 กระป๋องเล็ก(ขนาดเดียวกับผักกาดดองกระป๋อง) เติมนมสด รสจืดลงไปเพิ่มอีกเล็กน้อย
แล้วก็ใส่น้ำปลา น้ำตาลปึก ปรุงรสเพิ่มด้วย
ใส่ถั่วลันเตา พริกชี้ฟ้า และกุ้งที่แกะเปลือกและลวกไว้แล้ว ลงในน้ำแกง ครับ
เดือดสักพัก ก็ยกเทลงชามครับ แล้วโรยใบโหระพา
น้ำเส้นสปาเก็ตตี้ลงไปผัดในกระทะ แล้วราดน้ำแกงลงไปนิดก่อน ก่อนผัดให้ทั่วๆ (ขั้นตอนนี้ไม่ต้องทำก็ได้ ถ้าต้องการทานเร็วๆ)
น้ำเส้นที่ได้จัดใส่จาน น้ำแกงเขียวหวานมาราด หั่นไก่ทอดวางด้านบน เท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟ พร้อมทานแล้วครับ
(ขอโทษนะครับ เตรียมกล้องไม่ทัน ใช้มือถือถ่าย เลยไม่ค่อยชัด)
หนูอ้อยมีทริก และที่มาที่ไปของการลวกเส้นสปาเก็ตตี้มาฝากนะคะ
ปรกติคุณเลี่ยนจะทานแบบเส้นออกกรุบนิดนึง หนูเคยมีแฟนเลี่ยน (คบประมาณ 3 wks.) 555
คุยกันกับเค้าเรื่องราชวงศ์ซาวอย และเส้นกรุบแบบที่เรียกว่า al dente
ตอนลวกเส้นจะมีระบุเวลาไว้ที่ข้างกล่องแล้วแต่ยี่ห้อ ใส่เส้นดิบตอนที่น้ำเดือดแล้ว และจับเวลาตามนั้น
ถ้าเคยทานเส้นพาสต้าที่ลวกขนาด al dente แล้วจะรู้ว่าสวรรค์นั้นมีจริง - ฮา
พี่ๆลองดูนะคะ. . .
stage ของเส้นพาสต้า แบบอิตาเลียน
http://www.oknation....0/05/28/entry-1
อิตาลีนั้นมีชื่อเสียงและขึ้นชื่อมากๆในเรื่องกาแฟ (สูตรการคั่วกาแฟของ Starbucks ก็พัฒนามาจากกาแฟอิตาเลียนนี่แหละ), พิซซ่า (ต้นตำรับ), และอาหาร โดยเฉพาะพาสต้า ทำไมฝรั่งจึงคลั่งไคล้อาหารอิตาเลียนกันนัก คำตอบแรกก็เหมือนกับงานสถาปัตยกรรมนั่นเอง คือเพราะว่ามันคลาสสิค ยุโรปโดยเฉพาะอิตาลีเป็นแหล่งรากวัฒนธรรมของฝรั่งเค้า อะไรที่มันเป็นสูตรดั้งเดิม มีความเป็นออริจินอล มันก็จะเพิ่มคุณค่าให้แก่สิ่งนั้นๆ (Value added) โดยปริยาย พอมันมีความคลาสสิคเป็นทุนเดิมแล้ว อะไรๆมันก็ดี คล้ายๆอุปทานนั่นแหละ นั่นคือคำตอบแรกซึ่งไม่สามารถจะเกิดขึ้นได้ ถ้าไม่มีคำตอบมที่สอง นั่นคือของเค้าดีจริงๆนิ รสชาติอาหารอิตาเลียนนั้นถูกปากคนทั่วโลก โดยเฉพาะชาวอเมริกัน ซึ่งมีจำนวนมาก แล้วพูดอะไรก็เสียงดังกว่าชาวบ้านเขา ลองคนอเมริกัน นิยมแล้ว มันก็ติดตลาดโลกได้ไม่ยาก อาหารอิตาเลียนจริงๆนั้นจะมีรสชาติจัดกว่าอาหารอิตาเลียนในอเมริกา แต่ไม่จัดเกินไปเหมือนอาหารของประเทศในเขตร้อนอื่นๆ (ทุกคนสามารถทานได้)
เมนูคลาสสิค Linguine alle Vongole เมนูยอดนิยม Pesto
อาหารอิตาเลียนนั้นมีเคล็ดลับหลักๆที่เปิดเผยอยู่สองอย่าง
หนึ่ง...(เคล็ดลับที่ร้านในเมืองไทยทุกร้านต้องพูดเวลาให้สัมภาณ์ออกสื่อ) นั่นก็คือ...ของต้องสด เป็นที่รู้กันว่า รสชาติที่นุ่มลึกของอาหารอิตาเลียน(ที่อิตาลี)นั้น มาจากส่วนประกอบที่สดมาก มากกว่ามากจากเครื่องปรุง เค้าสามารถแยกรสที่มาจากเนื้อสด กับเนื้อที่ผ่านการแช่แข็งได้อย่างแม่นยำ (ลิ้นคนไทยทั่วไปแยกไม่ค่อยออกนักเพราะคนไทยกินรสชาติจากเครื่องปรุง-seasoning มากกว่า)
สอง...เทคนิคการประกอบอาหาร ใจความก็คืออยากกินของที่สุกแล้ว แต่ก็ไม่อยากให้ของสดนั้น เสียรสชาติ โดยเฉพาะพาสต้านั้น เน้นเป็นพิเศษ ข้อห้ามที่จะต้องย้ำนักย้ำหนา เป็นหัวใจในครัวพาสต้าก็คือ ห้ามปรุง(โดยความร้อน)นานเกินไป ขอเรียกว่า overcook แล้วกันนะ
Overcooking นั้นเป็นต้นเหตุใหญ่ของการทำให้ส่วนประกอบของสดเสียรสชาติ ต่อให้ของสดแค่ไหนก็จบถ้าโดนความร้อนนานเกินไป เพราะว่าฝรั่งเค้ากินรสชาติจากส่วนประกอบจริงๆ ไม่ใช่เครื่องปรุง เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่คำว่า overcook ในครัวพาสต้านั้นพิเศษกว่าชาวบ้านเค้า มีศัพท์คำนึงที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่คุณอาจจะต้องเคยได้ยิน ถ้าคุณซีเรียสในเรื่องอาหาร หรือมีโอกาสได้เป็นกินข้าวกับฝรั่ง จะได้คุยกะเค้ารู้เรื่อง นั่นก็คือ "อัล เดนเต้"
อัล เดนเต้ (Al dente) คืออะไร? โดยความหมายที่รู้กันทั่วไปก็คือ เทคนิคการประกอบอาหารของครัวอิตาเลียน โดยเฉพาะกับพวกที่ไวต่อความร้อน เช่นผักต่างๆและพาสต้า หลักๆของศัพท์คำนี้ใช้กับการลวกเส้นพาสต้า ใครที่เคยไปกินพาสต้าที่ร้านมีชื่อที่อิตาลี ก็จะพูดเหมือนๆกันว่า "ทำไมมันแข็งจังวะ" หรือ "สงสัยเส้นยังไม่สุก" แต่นั่นคือวัฒนธรรมของเค้า
อัล เดนเต้ (เปิดดิกชันนารี แปลว่า "to the teeth") นั้นคือการที่ของสุกพอดี (เลยดีกรีความดิบมานิดนึง) กรุบๆ ไม่เละ ไม่นิ่มและไม่สุกมาก (บางร้านถึงกับแข็งเลยทีเดียว). โดยทั่วไป ในการทำพาสต้า พ่อครัวก็จะลวกเส้นจับเวลาไว้ 4-6 นาที (ทั่วไปเราลวก 7-10นาที,แล้วแต่ยี่ห้อ) จากนั้น ก็จะหันไปทำซอสทันที ทั้งหมดทั้งปวงจะต้องให้เสร็จ 95% ภายใน 4-6นาทีนี้ หลังจากนั้นก็เอาเส้นขึ้นมา สะบัดน้ำแล้วก็เทตูมลงไปในกระทะซอส เขย่าๆ คนๆอีกซะหน่อย ให้เส้นดูดน้ำเข้าไปในเนื้อแป้งแป๊ปนึง เส้นก็จะสุกกำลังดี ทีนี้ เป็นอันเสร็จพิธี ทั้งหมดทั้งปวงแป๊ปเดียวเท่านั้น
ที่นี้ปัญหาก็คือทำยังไงให้สุกทั่วกัน และผสมผสานกันดี ในเวลาที่จำกัดมากๆ
หนึ่ง...ไฟต้องแรงและปรับได้ เพราะต้องปรับเพิ่ม ลด ตลอดเวลา ส่วนใหญ่ก็ลดลงเรื่อยๆเมื่อใกล้เสร็จ กระทะควรจะเป็นกระทะเหล็กหรือแสตนเลส เพราะการส่งผ่านความร้อนจะดีกว่า ร่นระยะเวลาประกอบอาหารได้มาก
สอง...ต้องเขย่ากระทะมือนึงและคนด้วยมืออีกข้างตลอดเวลา เพื่อ ให้ส่วนผสมเข้ากันดี สุกพร้อมๆกันอย่างทั่วถึง และไม่ติดก้นกระทะอีกด้วย
เป็นไง เรื่องมากดีมั้ย จะกินแต่ละที.......อิอิ
- G.Maniac, ตะนิ่นตาญี, ดราม่า and 1 other like this
AMAZING coup d'etat , THAILAND ONLY ..
#68
ตอบ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 09:34
#69
ตอบ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 11:19
ขอบคุณที่นำอาหารวาเลนไทน์มาฝากค่ะ
หน้าตาดูดี ทุกอย่างเลย
เห็นแล้วความอยากอาหารพุ่งพรวด
ผีตะกละเข้าสิงอีกแล้ว แหะ แหะ
- G.Maniac and ตะนิ่นตาญี like this
#70
ตอบ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 17:31
ขอบคุณคร้าบ
ยังมีหน้ามาขอบคุณอีก เอาแต่รูปมาให้ดู ทำให้ต้องดิ้นรนหาของทานที่มีหน้าตาเหมือนกับรูปที่เอามาลง
รู้ไหมต้องดิ้นรนไปแสวงหาของทานนั้นเหนื่อยแค่ไหน รถติดแค่ไหน
ทีหลังทำมาเพื่อ บ้างน๊า.....
ตะนิ่นตาญี
- G.Maniac likes this
#71
ตอบ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 17:39
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอแนะนำ การทำอาหารที่ "ดูเหมือน"จะหรู แต่ราคาย่อมเยา และรสชาติอร่อยไว้อีก 1 รายการ ในกระทู้นี้นะครับ
สปาเก็ตตี้ เขียวหวานกุ้ง + ไก่ทอด ครับ
ผมกับแฟนคิดและทดลองประดิษฐ์มันขึ้นมาน่ะครับ ไม่เคยลองมาก่อน
ขั้นแรก ทอดไก่ก่อน เราแล่ไก่เป็นชั้นขนาดประมาณฝ่ามือ ชุบแป้งทอดกรอบและเกล็ดขนมปัง ทอดให้เหลือง แล้วเอามาพักไว้
ต่อมา ก็ลวกเส้นสปาเก็ตตี้แล้วพักไว้ก่อนเช่นกันครับ
ต่อมาก็เตรียมน้ำแกง วันนี้เพื่อความรวดเร็ว เราใช้แบบสำเร็จรูปของรอยไทย ครับ ซึ่งรสชาติน้ำแกงจะค่อนข้างจืด เราต้องปรุงเพิ่ม
ที่ทำนี่ก็ ใส่พริกแกงเพิ่มอีก 1 กระป๋องเล็ก(ขนาดเดียวกับผักกาดดองกระป๋อง) เติมนมสด รสจืดลงไปเพิ่มอีกเล็กน้อย
แล้วก็ใส่น้ำปลา น้ำตาลปึก ปรุงรสเพิ่มด้วย
ใส่ถั่วลันเตา พริกชี้ฟ้า และกุ้งที่แกะเปลือกและลวกไว้แล้ว ลงในน้ำแกง ครับ
เดือดสักพัก ก็ยกเทลงชามครับ แล้วโรยใบโหระพา
น้ำเส้นสปาเก็ตตี้ลงไปผัดในกระทะ แล้วราดน้ำแกงลงไปนิดก่อน ก่อนผัดให้ทั่วๆ (ขั้นตอนนี้ไม่ต้องทำก็ได้ ถ้าต้องการทานเร็วๆ)
น้ำเส้นที่ได้จัดใส่จาน น้ำแกงเขียวหวานมาราด หั่นไก่ทอดวางด้านบน เท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟ พร้อมทานแล้วครับ
(ขอโทษนะครับ เตรียมกล้องไม่ทัน ใช้มือถือถ่าย เลยไม่ค่อยชัด)
...หนูอ้อยมีทริก และที่มาที่ไปของการลวกเส้นสปาเก็ตตี้มาฝากนะคะ
ปรกติคุณเลี่ยนจะทานแบบเส้นออกกรุบนิดนึง หนูเคยมีแฟนเลี่ยน (คบประมาณ 3 wks.) 555
คุยกันกับเค้าเรื่องราชวงศ์ซาวอย และเส้นกรุบแบบที่เรียกว่า al dente
ตอนลวกเส้นจะมีระบุเวลาไว้ที่ข้างกล่องแล้วแต่ยี่ห้อ ใส่เส้นดิบตอนที่น้ำเดือดแล้ว และจับเวลาตามนั้น
ถ้าเคยทานเส้นพาสต้าที่ลวกขนาด al dente แล้วจะรู้ว่าสวรรค์นั้นมีจริง - ฮา
พี่ๆลองดูนะคะ
เป็นไง เรื่องมากดีมั้ย จะกินแต่ละที.......อิอิ
อ่า...คุณ หนูอ้อย ครับ หากจะกรุณา ครั้งต่อไป "ไม่เอา" ทริก-วิธีการ หรือรูปถ่าย ได้ไหมครับ
ขอเป็นแบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว "ทานได้เลย" ก็จักเป็นพระคุณอย่างยิ่งครับ
ตะนิ่นตาญี
วันศุกร์ที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕
เวลา ๑๗.๔๐ นาฬิกา
#72
ตอบ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 19:23
สูตรที่ลงตัวสำหรับแป้งพาสต้าก็คือ
1:10:100
คือไข่ 1 ฟอง ต่อ น้ำมันมะกอก 10 ml ต่อ แป้งสาลี 100 กรัม
ทำแป้งเป็นหลุมตรงกลาง เอา extra virgin (น้ำมันมะกอก-มีขายที่แอมเวย์ช็อป) ใส่ไปเลย ตามด้วยไข่ที่ตีแตกแล้วลงไป (ในแป้งใส่เกลือซักหยิบมือนะคะ) ค่อยๆใช้ส้อมคนๆเขี่ยๆให้แป้งซึมของเหลว
เริ่มจับตัวเป็นก้อนแล้วค่ะ
เริ่มนวด
บางทีสัดส่วนที่ให้อาจจะต้องเพิ่มแป้งนวลอีกหน่อยนะคะ ถ้ารู้สึกว่าแป้งแฉะไป ค่อยๆเติมเอาค่ะ
....แบบว่าหอมน้ำมันมะกอก
AMAZING coup d'etat , THAILAND ONLY ..
#73
ตอบ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 19:28
ตอนตัดก็เปลี่ยนหัว
AMAZING coup d'etat , THAILAND ONLY ..
#74
ตอบ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 19:41
http://www.bloggang....group=1&gblog=4
พาสต้าสด
วันนี้วันเสาร์เราสองคนแม่ลูกหลังจากไปฟิตเนส รีบไปหาซื้อเครื่องทำพาสต้า ซึ่งหาข้อมูลมาจากinternet ว่ามีขายที่กล้วยน้ำไทเตาอบ เป็นของนำเข้าจากอิตาลี ไม่กล้าสั่งซื้อทางไปรษณีย์ ต้องไปดูของจริงที่ร้านแถวถนนพระราม 4 ระหว่างทางที่ไปแวะคาร์ฟู ซื้อเครื่องปรุง พาร์มาซานชีสแบบก้อน เพสโต้ มะเขือเทศลูกกลม เตรียมไว้ก่อน
ความจริงเราเคยชิมพาสต้าสดครั้งหนึ่ง มีผู้ใจดีสั่งเชฟร้านอาหารอิตาเลียนทำมาเผื่อเราด้วย ตอนนั้นเราไม่ค่อยคุ้นกับของสด รู้สึกไม่ค่อยชอบ เราคิดว่าเส้นนุ่มไป
พอเราไปถึงร้าน เห็นของถามรายละเอียดของแต่ละรุ่น แต่ละขนาดแล้ว ตัดสินใจซื้อขนาด 180 (เขามีขาย 150 ด้วย ไม่ทราบหมายความว่าอะไรค่ะ) ราคา 4000 บาท ค่อนข้างแพงแต่เห็นว่า เราไม่มีปัญญาแบกมาเองจากต่างประเทศเพราะหนักเอาการ . . .
AMAZING coup d'etat , THAILAND ONLY ..
#75
ตอบ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:58
- asawinee likes this
#76
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 08:01
วิธีทำเหมือนบะหมี่ไข่มาก ส่งสัยมาโคโบโลก๊อบไปจากจีน
จริงเท็จประการใดไม่ยืนยันนะครับ คุณ ดราม่า
เคยอ่าน หรือเคยได้ยินใครพูด มานานแล้ว ว่า เส้นพาสต้า-เส้นมักกะโรนี นั้น
ฟารั้ง มันเอา วิธีคิด-วิธีทำ ไปจากการทำ บะหมี่ ของจีน จริงจริง
แล้วนำไปประยุกต์จนกลายเป็น เส้นพาสต้า-เส้นมักกะโรนี ในเราได้ทานกันอร่อยปาก
จนถึงทุกวันนี้...จริงเท็จประการใดไม่ขอยืนยันนะครับ
ตะนิ่นตาญี
วันอาทิตย์ที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕
เวลา ๘.๐๐ นาฬิกา
#77
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 08:29
ใช้น้ำมันมะกอกประกอบอาหารแล้วดีต่อสุขภาพนะคะ
น้ำมันนั้นร่างกายก็ต้องการเพราะจะเป็นตัวนำพาให้สารอาหารอื่นๆเข้าสู่เซลล์
แต่ก็ต้องเลือกประเภทของน้ำมันที่จะเอาเข้าปากด้วย
มันหมู กะทิ หรือไขมันอิ่มตัวต่างๆเป็นน้ำมันต้องห้ามค่ะ
น้ำมันมะกอกอาจดูเหมือนแพงในยุคข้าวยากหมากแพง
แต่เทียบกับค่ายา-ค่ารักษาตัวที่เกิดจากการกินไม่ระวัง
ค่ายาก็แพงกว่าค่ะ
AMAZING coup d'etat , THAILAND ONLY ..
#79
ตอบ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 19:24
วิธีทำเหมือนบะหมี่ไข่มาก ส่งสัยมาโคโบโลก๊อบไปจากจีน
แต่ของจีนไม่ต้องใช้เครื่องรีดแผ่นแป้งให้แบนแล้วตัด
เห็นในทีวี กุ๊กใช้มือยืดเส้นแล้วสะบัดๆ แป้งบะหมี่ก็แยกกระจายเป็นเส้นๆ
Noodles being hand made at a food court in Bejing, China. Specifically, the Shi Dan shopping district.
http://www.youtube.com/watch?v=6rfu1ZHiMP8
- asawinee likes this
AMAZING coup d'etat , THAILAND ONLY ..
#80
ตอบ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 13:34
วิธีทำเหมือนบะหมี่ไข่มาก ส่งสัยมาโคโบโลก๊อบไปจากจีน
แต่ของจีนไม่ต้องใช้เครื่องรีดแผ่นแป้งให้แบนแล้วตัด
เห็นในทีวี กุ๊กใช้มือยืดเส้นแล้วสะบัดๆ แป้งบะหมี่ก็แยกกระจายเป็นเส้นๆ
บะหมี่ไข่แบบจีน ที่เราทานกันใช้มีดตัดครับผม แต่ผมเคยเห็นบางคนใช้ที่ตัดเส้นพาส์ต้ามาทำด้วยซ้ำ
#81
ตอบ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:16
แต่เอามือดึงนี่น่าใช้ทักษะมากหน่อย หนูเคยลองแล้วไม่เป็นเส้น - ฮา
ต้องคลึงรีดแป้งให้เป็นแผ่นก่อน ใช้ขวดรีดก็ได้ (ตามรูป) บางคนใช้ไม้เบสบอล 555
ต่อมาม้วนแผ่นแป้งแล้วใช้มีดคมๆตัดตามขวาง ( cross-section )
มีอีกคลิปที่ฝรั่งใช้มือดึงเค้าเรียกว่า Hand Pulled Noodles
http://www.youtube.com/watch?v=8sw61Yoy4jI&feature=related
- asawinee likes this
AMAZING coup d'etat , THAILAND ONLY ..
#82
ตอบ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 11:12
ลองดูซิว่า ไอ้สองหน่วยที่เห็นเป็นส่วนประกอบของอาหารอะไร
ปริศนาชิ้นนี้ทายง่ายมากกกกกก
Edited by asawinee, 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 09:46.
#84
ตอบ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 17:35
ขอสมาชิก สรท ท่านอื่นช่วยตอบทีน้าาาาา
ว่า สองหน่วยเนี่ย เป็นส่วนประกอบของอาหารอะไร
#85
ตอบ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 17:41
ระดับคุณ Germanmaniac ต้องตอบได้อยู่แล้ว
ขอสมาชิก สรท ท่านอื่นช่วยตอบทีน้าาาาา
ว่า สองหน่วยเนี่ย เป็นส่วนประกอบของอาหารอะไร
อยาก ทาน ครับ ไม่อยาก ทาย แต่ถ้าจะให้ ทาย ก็ต้องบอกว่า
ปลาช่อนนึ่งบ๊วย-ปลากระพงนึ่งบ๊วย ฯลฯ
พูดแล้วอยากทาน ปลาบู่นึ่งซีอิ๊ว ครับ
ตะนิ่นตาญี
#86
ตอบ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 17:44
ระดับคุณ Germanmaniac ต้องตอบได้อยู่แล้ว
ขอสมาชิก สรท ท่านอื่นช่วยตอบทีน้าาาาา
ว่า สองหน่วยเนี่ย เป็นส่วนประกอบของอาหารอะไร
อยาก ทาน ครับ ไม่อยาก ทาย แต่ถ้าจะให้ ทาย ก็ต้องบอกว่า
ปลาช่อนนึ่งบ๊วย-ปลากระพงนึ่งบ๊วย ฯลฯ
พูดแล้วอยากทาน ปลาบู่นึ่งซีอิ๊ว ครับ
ตะนิ่นตาญี
เสียใจด้วยนะคร้าาาาาา
ตอบผิดคร่าาาาาาา
สองหน่วยที่เห็น ไม่ใช่บ๊วยนะคะ
- ตะนิ่นตาญี likes this
#87
ตอบ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 19:35
รอ ร้อ รอ........
#91
ตอบ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 20:41
ข้างล่างคือ ผัดกะเพราเนื้อใส่ถั่วฝักยาว และ.............................. อะไรครับที่เห็นเยอะๆในภาพ
ใบ้ว่า ผมไปทานที่ เกาะเกร็ด จังหวัด นนท์ ครับ อร่อยมาก
- ตะนิ่นตาญี and asawinee like this
#92
ตอบ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:14
อ๋อครับ พี่ตะนิ่นตาญี / เล่นทายเรื่องของทานกันต่ออีกหน่อยแล้วกันนะครับ
ข้างล่างคือ ผัดกะเพราเนื้อใส่ถั่วฝักยาว และ.............................. อะไรครับที่เห็นเยอะๆในภาพ
ใบ้ว่า ผมไปทานที่ เกาะเกร็ด จังหวัด นนท์ ครับ อร่อยมาก
ไหลบัวใช่ไหมคะ
#93
ตอบ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:15
อ๋อครับ พี่ตะนิ่นตาญี / เล่นทายเรื่องของทานกันต่ออีกหน่อยแล้วกันนะครับ
ข้างล่างคือ ผัดกะเพราเนื้อใส่ถั่วฝักยาว และ.............................. อะไรครับที่เห็นเยอะๆในภาพ
ใบ้ว่า ผมไปทานที่ เกาะเกร็ด จังหวัด นนท์ ครับ อร่อยมาก
หน่อกะลา แน่ๆ
หนูเคยไปเที่ยวเกาะเกร็ดเห็นเค้าเอามาทำทอดมันหน่อกะลา
มันเป็นพืชสมุนไพรคล้ายๆพวกขิง ข่า ค่ะ
Edited by หนูอ้อย, 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:19.
- G.Maniac, ตะนิ่นตาญี and asawinee like this
AMAZING coup d'etat , THAILAND ONLY ..
#94
ตอบ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:17
อ๋อครับ พี่ตะนิ่นตาญี / เล่นทายเรื่องของทานกันต่ออีกหน่อยแล้วกันนะครับ
ข้างล่างคือ ผัดกะเพราเนื้อใส่ถั่วฝักยาว และ.............................. อะไรครับที่เห็นเยอะๆในภาพ
ใบ้ว่า ผมไปทานที่ เกาะเกร็ด จังหวัด นนท์ ครับ อร่อยมาก
หน่อกะลา แน่ๆ
หนูเคยไปเที่ยวเกาะเกร็ดเห็นเต้าเอามาทำทอดมันหน่อกะลา
มันเป็นพืชสมุนไพรคล้ายๆพวกขิง ช่า ค่ะ
ถูกต้องนะคร้าบบบบบบบบบบบบบ....!!!!!
รสชาติแบบข่าครับ เอามาใส่ในผัดเผ็ด อร่อยสุดๆ ครับ
Edited by GermanManiac, 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:18.
#95
ตอบ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:17
อาหารจีนเสฉวน มักจะเอา ต้นกระเทียม มาผัดอย่างนี้
ไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับ
ตะนิ่นตาญี
#97
ตอบ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:18
ตะนิ่นตาญี
#98
ตอบ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:21
อ๋อครับ พี่ตะนิ่นตาญี / เล่นทายเรื่องของทานกันต่ออีกหน่อยแล้วกันนะครับ
ข้างล่างคือ ผัดกะเพราเนื้อใส่ถั่วฝักยาว และ.............................. อะไรครับที่เห็นเยอะๆในภาพ
ใบ้ว่า ผมไปทานที่ เกาะเกร็ด จังหวัด นนท์ ครับ อร่อยมาก
หน่อกะลา แน่ๆ
หนูเคยไปเที่ยวเกาะเกร็ดเห็นเต้าเอามาทำทอดมันหน่อกะลา
มันเป็นพืชสมุนไพรคล้ายๆพวกขิง ช่า ค่ะ
ถูกต้องนะคร้าบบบบบบบบบบบบบ....!!!!!
รสชาติแบบข่าครับ เอามาใส่ในผัดเผ็ด อร่อยสุดๆ ครับ
โอ๊ะ โอ ทายผิดแว้ววว
ลืมดูคำใบ้ว่าไปทานที่เกาะเกร็ด
ซึ่งเป็น geographic index ท่ี่สำคัญและเฉพาะเจาะจง
เลยทายผิดซะ
#99
ตอบ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:21
เมื่อไรจะเฉลยน้อออออ
รอ ร้อ รอ........
มะนาวดองเอาไว้ตุ๋นเป็ดไก่ค่ะ
AMAZING coup d'etat , THAILAND ONLY ..
#100
ตอบ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:22
ตอบก็ช้า แถมตอบผิดอีก
ตะนิ่นตาญี
ตอบผิดเป็นเพื่อนกันเลย อิ อิ
- ตะนิ่นตาญี likes this
ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน