บาปของโกร่ง
#101
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 12:45
จะมีการเสนอเงื่อนไขงามๆ ให้ไม่มีการไถ่ถอน
และอื่นๆ อีกมากมาย
ส่วนเรื่องปตท. ผมยังไม่สามารถตีความให้ชัดเจนครับ
ต้องรอดูแผลเน่าว่าลุกลามหรือเปล่า
อิอิ
น้องแพทน่าจะชำนาญเรื่องนี้นะ
#102
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 12:51
โห
รู้ทั้งรู้ว่ากองทุนถังแตก ทำไม อจโกร่งถึงได้ เอ่ยปากว่าจะให้ขายปตทให้ กองทุน
แถมปีหน้าหมดอายุ
คิดอะไรกัน
#103
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 12:55
ธีระชัย เฟซบุ๊คสาวไส้รัฐมุ่ง ประชานิยม
“ธี ระชัย ภูวนาถนรานุบาล” ลากไส้รัฐบาล แฉลงเฟซบุ๊ค กดตัวเลขหนี้ต่ำกว่าจริงหวังใช้ “ประชานิยม” เรียกคะแนน ชี้แปรรูป ปตท.-บินไทยผ่านกองทุนวายุภักษ์ ไม่ต่างโอนหนี้กองทุนฟื้นฟูให้แบงก์ชาติ ซัดเข้าข่ายโอนกันภายในครอบครัว เตือนระวังไทยซ้ำรอยล่มจมแบบอาร์เจนตินา “นลินี” กอดเก้าอี้แน่นแถลงไม่ทิ้งตำแหน่ง รมต. อ้างไม่ได้ติดแบล็กลิสต์แค่ถูกคว่ำบาตรทางการเงินยันกับจอมเผด็จการ “โรเบิร์ต มูกาเบ” แค่เพื่อน ไม่เคยทำธุรกิจร่วมกัน ปชป. แจงความสัมพันธ์ “ทักษิณ-นลินี” เพราะดูแลกิจการเหมืองแร่ใน ปท.แอฟริกา แนะนายกฯ ยังไม่ต้องให้นลินีถวายสัตย์ “แม้ว” กลัวคนลืมโผล่อีกหลวงพระบาง
ขุนคลังสาวไส้รัฐบาล
นาย ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊ค Thirachai Phuvanatnaranubala เมื่อคืนวันที่ 21 ม.ค. ในหัวข้อ “วินัยการคลัง กับการพยายามลดตัวเลขหนี้สาธารณะ” ว่า การที่มีคนมาถามกรณีไม่เห็นด้วยกับขบวนการโยกหนี้สาธารณะนั้น แสดงว่าไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลจะกู้เงินเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น มองว่ารัฐบาลจำเป็นจะต้องกู้เงิน เพื่อใช้พัฒนาระบบบริหารน้ำและระบบขนส่ง เพราะการที่รัฐบาลจะกู้เงินเพิ่ม หากใช้ในโครงการที่เป็นประโยชน์จริงๆ หากไม่มีการฉ้อราษฎร์บังหลวง และหากทำให้ประเทศมีความสามารถในการหารายได้ที่ยั่งยืนมั่นคงมากขึ้นก็จะ เป็นเรื่องที่ดี ตนไม่ขัดข้องหากรัฐบาลจะลดสัดส่วนการถือหุ้นในรัฐวิสาหกิจ หากจะเป็นกรณีที่ทำให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และไม่เป็นการโอนอำนาจผูกขาดของรัฐวิสาหกิจไปให้แก่เอกชนเฉพาะกลุ่ม แต่ประเด็นที่ต้องการชี้ให้เห็นเพราะขณะนี้ระดับหนี้สาธารณะของไทยซึ่งมี ประมาณร้อยละ 42 ของรายได้ประชาชาตินั้นไม่สูง โดยระดับหนี้ที่สูงคือร้อยละ 60 ดังนั้นในวันนี้รัฐบาลยังจะสามารถกู้ได้อีกเกือบ 2 ล้านล้านบาท โดยไม่กระทบความเชื่อมั่นในตลาดเงินตลาดทุน และไม่มีความจำเป็นต้องไปซ่อนตัวเลขให้ดูต่ำกว่าจริง ซึ่งยังสามารถกู้ได้ไม่ยาก ส่วนความพยายามที่จะสำแดงตัวเลขหนี้สาธารณะให้ต่ำกว่าที่เป็นจริง ตนไม่อยากกล่าวหาผู้ใดว่าคิดร้ายกับประเทศ แต่การที่ตัวเลขหนี้สาธารณะต่ำลงนั้น ย่อมจะมีผลทำให้รัฐบาลไม่มีแรงกดดันที่จะต้องหารายได้ และไม่มีแรงกดดันที่จะต้องขึ้นอัตราภาษี เพราะหากสำแดงตัวเลขหนี้สาธารณะตามเดิม ในอนาคตอันใกล้ รัฐบาลจะต้องขอขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือภาษีสรรพสามิตน้ำมัน หรือรายได้อื่นๆ ซึ่งย่อมจะทำให้พรรคการเมืองนั้นเสียคะแนน แต่หากสำแดงตัวเลขที่ต่ำลง รัฐบาลจะสามารถใช้นโยบายประชานิยมไปได้อีก ทำให้ประชาชนมีการกินการใช้ที่ฟุ้งเฟ้อ ไม่พอเพียง ไม่ประหยัด สำคัญผิดว่าร่ำรวยกันแล้ว สำคัญผิดว่ายังไม่จำเป็นต้องเริ่มเก็บเงินมาเพื่อชำระหนี้
ระวังชาติเจ๊งแบบอาร์เจนตินา
อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังระบุต่อว่า สำหรับวิธีการสำแดงหนี้สาธารณะที่ถูกต้องตามหลักวิชาการนั้น ทางไอเอ็มเอฟมีการกำหนดคู่มือหรือเรียกว่า Government Finance Statistics Manual 2001 ซึ่งระบุว่าหนี้สาธารณะ (Public Sector Debt) ประกอบด้วยหนี้ของรัฐบาล (General Government) และหนี้ขององค์กรสาธารณะ (Public Corporations) ซึ่งในประเทศไทยได้มีการออก พ.ร.บ.หนี้สาธารณะ พ.ศ.2548 เพื่อป้องกันมิให้นักการเมืองหรือนักวิชาการบิดเบือนในการสำแดงหนี้สาธารณะ โดยมาตรา 4 ได้กำหนดให้ “หนี้สาธารณะ” หมายความว่า หนี้ที่กระทรวงการคลัง หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจกู้…แต่ไม่รวมถึงหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ทำธุรกิจให้กู้ยืม เงินโดยกระทรวงการคลัง มิได้ค้ำประกัน และเนื่องจากมาตรา 4 ได้กำหนดด้วยว่า “รัฐวิสาหกิจ” หมายความว่าบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ที่หน่วยงานของรัฐมีทุนรวมอยู่ด้วยเกินร้อยละห้าสิบ โดยให้คำนวณเฉพาะทุนตามสัดส่วนที่เป็นของหน่วยงานของรัฐเท่านั้น จึงทำให้เกิดมีช่องว่างคิดว่าถ้าโอนหุ้นไปให้กองทุนวายุภักษ์ จนกระทรวงการคลังถือต่ำกว่าร้อยละ 50 ก็จะหลุดออกไปจากกฎหมายนี้ จะทำให้หนี้ของการบินไทยและ ปตท. ไม่นับเป็นหนี้สาธารณะ ซึ่งหนี้สาธารณะจะลดลงเป็นระดับแสนล้าน ทำให้ตัวเลขหนี้ลดลงฉับพลัน ไม่ต้องชำระหนี้กันจริงๆ เช่นเดียวกับแนวคิดที่ต้องการจะโอนหนี้กองทุนฟื้นฟูไปให้ธนาคารแห่งประเทศ ไทย “แต่อย่าลืมว่ากองทุนวายุภักษ์นั้นมีกระทรวงการคลังควบคุมอยู่ การโอนหุ้นจึงเข้าลักษณะเป็นการโอนจากตั้วเฮียไปให้เสี่ยวเจ๊ มันเป็นการโอนกันภายในครอบครัว ผมอาจจะหัวโบราณสักหน่อย แต่อยากจะแนะนำให้ทำแบบตรงไปตรงมาดีกว่า หากมีหนี้มากก็ยอมรับว่ามาก และขอร้องให้ประชาชนก้มหน้าก้มตาช่วยกันหาเงินมาใช้หนี้ เพราะเรื่องวินัยการเงินการคลังเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และต้องอิงวิชาการที่บริสุทธิ์เป็นสำคัญ แต่หากเอาการเมืองนำ ระวังนะครับ วันหนึ่งจะต้องร้องเพลง Don’t cry for me Argentina กันทั้งประเทศ”
#104
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 13:04
#105
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 13:13
คุณamplepoor ธีระชัยกระเด็นเพราะไปขวางทางทำมาหากินของตระกูลเจ้าของพรรคเผาไทยหรือเปล่า?
ผมมักจะมองโลกแบบเหยียบเรือสองแคม....ฮา
1 ธีระชัย พลันนึกได้ว่า เอ....แม้วมันเชี่ยนี่หว่า
2 ธีระชัยพลันนึกได้ว่า เอ......กรูเอาขาแหย่ในตารางแล้วนี่หว่า
3 แม้วอาจจะพลันนึกได้ว่า เอ....จ่ายแพงกว่าทำไม
ผมไม่ให้ราคาธีระชัย แต่เอาไปเทียบกับกิตติรัตน์
ก็เหมือนเอาจากัวร์ไปทำแท็กซี่อะ
มันคนละชั้นกันครับ
#108
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 13:36
คุณแอม
คุณธีระชัยมาพูดมาทำตอนนี้ สายไปไหมคะ
มันคือซาตานิคเทคนิคครับ
ฆ่าคนไปแล้ว ก็ไปไถ่บาปเสียหน่อย
โกงไปแล้ว ก็ทำบุญเสียหน่อย
ขายตัวไปแล้ว ก็พูดสัจจะธรรมเสียหน่อย
ในคนแบ้งค์ชาติที่ห่วยๆ ผมว่าเริงชัยน่านับถือที่สุด
สิบสี่ปีเต็ม แกไม่พูดอะไรเลย ไม่โยนขี้ให้ใคร
ก้มหน้ารับคำแช่งด่าไปเงียบๆ
ผมทราบมาทางส่วนตัวว่า แกพยายามเข้าถึงรสพระธรรม
หวังว่าเมื่อแกตายไป จะไม่มีมรดกให้ลูกหลานรวยปลิ้น
#109
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 14:08
#110
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 15:17
ซันเดย์ ไทม์สระบุว่า นอกเหนือจากบมจ.ปตท.แล้ว ยังมีบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของประเทศอื่นๆที่ให้ความสนใจที่จะเข้าร่วมการประมูลซื้อหุ้นของ Cove Energy ด้วย ซึ่งรวมถึงบริษัท บีพีของอังกฤษ, บริษัท CNOOC ของจีน และบริษัท โคเรีย ก๊าซ คอร์ปอเรชันของเกาหลีใต้, บริษัท ONGC ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของอินเดีย
http://www.tnews.co....hp?hot_id=30990
Edited by overtherainbow, 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 15:18.
#111
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 15:18
#112
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 16:21
ลิ้งค์ที่ให้มา
เปิดมาเป็นจอฟ้า ภาษาคอม
มีภาษาอังกฤษนิดหน่อย
แต่ดูน่ากลัวจัง
ให้แก้ไขตรงที่ Encoding แต่ไม่รู้ว่าตรงไหนยังไงนะครับ ถ้าเป็น Mac ให้เข้าไปที่ View แล้วก็ Encoding จากนั้นเลือกภาษาไทยครับ
- overtherainbow likes this
#113
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 16:32
Two Things Are Infinite: the Universe and Human Stupidity
Albert Einstein
(ขออนุญาติแปลเป็นภาษาอังกฤษเนื่องจากเห็นว่าเสื้อแดงมันชอบไทยคำฝรั่งคำ และนิติขี้ราดชอบอ้างฝรั่งคาดว่าจะเป็นขี้ข้า )
ผมต่อประโยคให้จบ เยี่ยงคู่รักที่รู้ใจกัน เฮ้ววววว...
· "Two things are infinite: the universe and human stupidity; and I'm not sure about the the universe."
#114
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 16:38
สุดยอดเลยครับ ผมพอจะทัน พอได้ได้ทำงานในแวดวงการเงินการธนาคารกับเขาบ้าง ยุคนั้นต้องยอมรับครับว่าพนักงานวิเคราะห์สินเช่ือ หรือผช., ผจก. ทั้งหลายแหล่ รวยกันถ้วนหน้า เอาที่ดินมูลค่าหมื่นบาทไม่ถึงแสน เข้าเป็นหลักประกัน กู้เงินไปหลักล้าน เสร็จแล้วปล่อยหนี้เสียให้ยึดทรัพย์ ประเมินขายทอดตลาด เงินต้นล้านบาท หลักประกันไม่ถึงแสน ทำกันจนร่ำรวยเป็นเศรษฐีกันเป็นแถบ ๆ ผมก็ยังนึกว่าสักวันประเทศไทยต้องล่มสลายทางการเงิน แล้วหลังจากนั้นไม่กี่ปี ก็เป็นความจริง แต่โชคดีไหวตัวมาทันก่อน ผมละเกลียดจริง ๆ เลย ถ้าจำไม่ผิด มันเกิดขึ้นก่อนที่สมัยน้าจิ๋วหวานเจี๊ยบจะมาเป็นนายกอีก มันเริ่มตั้งแต่บรรหาร บานบุรี เข้ามาเป็นนายกแล้ว และ ณ วันนี้ผมคิดว่าอีกไม่นานเกินรอ ขอให้น้องปูคนสวย หมวย ..... บริหารต่อไปตามนโยบายอย่างราบร่ืน ผมคงได้เป็นเศรษฐีอีกแน่ ๆBIBF เป็นการเปิดให้เงินนอกไหลเข้าเสรี
โดยหวังว่ามันจะไหลออกไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน
กระบวนการนี้ ที่จริงไม่มีคนผิด เพราะเป็นการค้าเสรี
รัฐบาลหวังส่วนต่างที่ตกค้าง และการกระตุ้นระบบทุน
คนให้กู้ มีหน้าที่ประเมินความเสี่ยงและเครดิตคนขอกู้
คนขอกู้ต้องสร้างสมชื่อเสียงและหลักทรัพย์ เพื่อค้ำประกันเงินกู้
เสี่ยเหล็กสามไม่ ไม่มีไม่หนีไม่จ่าย มีคุณสมบัติครบ
มันก็เลยเอากิจการตัวเองกู้เงินเข้ามา 1200 ล้านดอลล์
ได้เงินแล้วก็เจอปัญหา คือเงินมันล้น เสี่ยก้ปล่อยต่อในแวดวง
ทั้งหมดเป็นเรื่องของธุรกิจ
ถ้าหากจะมีนอกมีใน ก็มีอยู่บนฐานธุรกิจที่ต้องมีของจริงค้ำ
แต่ธนาคารของโกร่ง ไม่ต้องมีครับ
ธนาคารของโกร่ง ยอมให้เอาที่ดิน 60 ล้าน มาอั๊พราคาเป็น 6 พันล้าน
แล้วปล่อยกู้ออกไป
เงินจริงๆ ไหลออกจากแบ้งค์
โฉนดที่ดินปลอมๆ ไหลเข้ามาแทน
คุณเป็นเจ้าของโฉนด คุณจะมาไถ่ถอนใหม
ไอ้ที่น่าสังเวชที่สุดก็คือ
บางทีการขอกู้ ใช้ห้างหุ้นส่วนจำกัดทุนจดทะเบียนไม่กี่บาท
ขอกู้ทำโครงการระดับพันล้าน
เงินที่ไหลออกไป เป็นเงินฝากของประชาชนที่รัฐบาลค้ำประกัน
วิกฤติต้มยำกุ้ง จึงมีสองชามครับ
คนทั่วไปรู้จักแต่ชามโซรอส/ทักษิณ
น้อยคนจะรู้จักชามออเดิร์ฟที่เสิร์ฟโดยโกร่งและคณะ
#115
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 16:52
เจตนารมณ์ส่วนตัว
- ไม่ใช้ถ้อยคำที่คำหยาบคาย
- ไม่ต่อล้อต่อเถียงอย่างไม่มีเหตุผล
#116
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 16:53
#117
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 17:14
ชมว่า ท่านมารยาได้ชนิดนังเรยา กลายเป็นนางชีไปเลย
ท่านรวยจากต้มยำกุ้งไปเท่าไหร่ ไม่มีใครรู้
แต่มอไซค์รับจ้างที่ตลาดบางรักรู้
เขาบอกผมว่า ตึกนี้ ท่านซื้อไปแล้ว ท่านมาตรวจงานทุกเย็น
ตึกที่ว่า อยู่ติดโรงพะบานเลิศสิน เขาลือกันว่า ท่านจ่ายไปหมื่นห้าพันล้าน
ซื้อต่อมาจากคนกันเองของท่านนั่นแหละ เจ้าแม่ค้าอาวุธคนดัง
แต่แปลกที่ประเทศล้มละลายฉิอ๋ายวายป่วง ท่านเป็นนายกทำพังกับมือ
ไม่โดนด่าสักคำ
แถมไอ้ปานเทวียังรับจ้างท่านเขียนหนังสือห่วยๆ บอกว่าท่านส่งขี้ฑูดไปขอเงินจีนแดง
แต่ล้มเหลว จะบอกว่าท่านน่ะทำทุกอย่างแล้ว แต่โดนหักหลัง
แป๊ะก้อเอาท่านมาประจานว่า ท่านน่าฉงฉาน ถูกแบ้งค์ชาติหลอก
เดี๋ยวๆ ก็ให้ท่านออกทีวีว่า ไทยไม่ลดค่าเงิน เดี๋ยวๆ ก็บอกนักข่าวว่า ฐานะการคลังของเรา ปึ้ก
ทุกคนเอามาหัวเราะเยาะว่า ท่านน่ะโง่ ถูกหลอก
เอ
ทำไมไม่มีใครคิดเหมือนผมนะ ว่าท่านน่ะมารยาซิอ๋าย แดร่กเองจนปากบวม
แต่ทำเป็นปัญญาอ่อน ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อารัยทั้งนั้น
#118
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 17:17
#119
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 17:22
โอ๊ะอีกสิ่งที่ผมเห็นในวิกฤติต้มยำกุ้ง และต้องขอชมท่านจิ๋ว
ชมว่า ท่านมารยาได้ชนิดนังเรยา กลายเป็นนางชีไปเลย
ท่านรวยจากต้มยำกุ้งไปเท่าไหร่ ไม่มีใครรู้
แต่มอไซค์รับจ้างที่ตลาดบางรักรู้
เขาบอกผมว่า ตึกนี้ ท่านซื้อไปแล้ว ท่านมาตรวจงานทุกเย็น
ตึกที่ว่า อยู่ติดโรงพะบานเลิศสิน เขาลือกันว่า ท่านจ่ายไปหมื่นห้าพันล้าน
ซื้อต่อมาจากคนกันเองของท่านนั่นแหละ เจ้าแม่ค้าอาวุธคนดัง
แต่แปลกที่ประเทศล้มละลายฉิอ๋ายวายป่วง ท่านเป็นนายกทำพังกับมือ
ไม่โดนด่าสักคำ
แถมไอ้ปานเทวียังรับจ้างท่านเขียนหนังสือห่วยๆ บอกว่าท่านส่งขี้ฑูดไปขอเงินจีนแดง
แต่ล้มเหลว จะบอกว่าท่านน่ะทำทุกอย่างแล้ว แต่โดนหักหลัง
แป๊ะก้อเอาท่านมาประจานว่า ท่านน่าฉงฉาน ถูกแบ้งค์ชาติหลอก
เดี๋ยวๆ ก็ให้ท่านออกทีวีว่า ไทยไม่ลดค่าเงิน เดี๋ยวๆ ก็บอกนักข่าวว่า ฐานะการคลังของเรา ปึ้ก
ทุกคนเอามาหัวเราะเยาะว่า ท่านน่ะโง่ ถูกหลอก
เอ
ทำไมไม่มีใครคิดเหมือนผมนะ ว่าท่านน่ะมารยาซิอ๋าย แดร่กเองจนปากบวม
แต่ทำเป็นปัญญาอ่อน ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อารัยทั้งนั้น
กลยุทธ์นี้คุ้นๆ
- PeaceMan likes this
#120
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 17:29
อ่านบทความของหนุ่มเมืองจันดูสิครับ นักเขียนระดับแถวหน้า
ยังหลงมนตราปัญญาอ่อนของท่าน
------------------------
ถือเป็นการโยน “ระเบิด” ลูกใหญ่ใส่ธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อรัฐบาลประกาศจะโอนหนี้จากกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จำนวน 1.14 ล้านบาท ให้กับแบงก์ชาติเพื่อลดภาระหนี้สาธารณะของรัฐบาลลง จากร้อยละ 40 เหลือร้อยละ 30 ของจีดีพี เปิดช่องให้รัฐบาลกู้เงินมาฟื้นฟูและซ่อมสร้างเศรษฐกิจภายหลังอุทกภัยครั้งใหญ่
แน่นอน คนที่ไม่พอใจก็คือ แบงก์ชาติ เพราะต้องรับหนี้ก้อนใหญ่เป็นของตัวเอง แต่ฟังคำอธิบายของ “ประสาร ไตรรัตน์วรกุล” ผู้ว่าการแบงก์ชาติแล้ว นึกถึงนิยายเรื่อง “ราโชมอน” ขึ้นมาทันที เรื่องเดียวกัน แต่มองคนละมุม และเล่าคนละเรื่อง
“ประสาร” อธิบายที่มาของหนี้ก้อนนี้ว่ามาจากวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 รัฐบาลรับประกันหนี้ของสถาบันการเงินทั้งระบบ ทั้งเงินฝากและเจ้าหนี้ ทำให้ต้องตั้งกองทุนฟื้นฟูฯขึ้นมารับภาระหนี้
สังเกตไหมครับว่า “ที่มา” ของปัญหาในมุมของแบงก์ชาติ คือ นโยบายรัฐบาลที่รับประกันหนี้
แต่ “ประสาร” ไม่พูดถึงการตัดสินใจต่อสู้ค่าเงินบาทของ “แบงก์ชาติ” จนทำประเทศล้มละลาย
ต้องกู้เงินจากไอเอ็มเอฟ 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากความผิดพลาดของแบงก์ชาติครั้งนั้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการปิดสถาบันการเงิน
และตั้งกองทุนฟื้นฟูฯขึ้นมา “ราโชมอน” ของแบงก์ชาติเริ่มต้นประวัติศาสตร์ของแบงก์ชาติที่รัฐบาลเป็นคนตั้งกองทุนฟื้นฟูฯ และประกาศรับประกันทั้งเงินฝากและเจ้าหนี้ รัฐบาลจึงต้องรับผิดชอบ “ประสาร” เลือกที่จะเริ่มต้นจุดนี้ เพราะรู้ดีว่าถ้าย้อนต่อไปอีกนิดว่าปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจมาจากไหน “แบงก์ชาติ” จะเป็น “ผู้ร้าย” ทันที
ถ้าใครได้อ่านหนังสือ “เล่าเรื่องสมมุติในอดีต” ของ “อำนวย วีรวรรณ” หรือ “บันทึกลับ 2540″ ของ “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” แกนนำพันธมิตร ซึ่งเคยเป็นรองโฆษกพรรคความหวังใหม่ หรือ “โลกสีขาว” ของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ
จะรู้เลยว่า “ความอิสระ” ของแบงก์ชาตินั้นน่ากลัวเพียงใด
ขนาดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังไม่รู้เลยว่าทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของไทย 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นั้นเป็น “ภาพลวงตา” คนที่กระซิบบอก พล.อ.ชวลิต ให้ยืนยันว่าจะไม่ลดค่าเงินบาท คือ ผู้ว่าการแบงก์ชาติ ทั้งที่รู้ว่าสู้ไม่ไหวแล้ว ต้องลอยตัวค่าเงินบาท แต่ก็ยังหลอกคนเป็น “นายกรัฐมนตรี”
ยิ่งอ่านรายงานของคณะกรรมการศึกษาและเสนอแนะมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการ บริหารจัดการระบบการเงินของประเทศ หรือ ศปร.ที่ตั้งขึ้นมาสมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย ยิ่งชัดเจน ครับ ถ้าแบงก์ชาติมีความรู้สึกรับผิดชอบหนี้ก้อนนี้สักนิด เราคงไม่เห็นตัวเลขการชำระเงินต้นที่เป็นหน้าที่ของ “แบงก์ชาติ” ในช่วงเวลา 14 ปี เพียง 300 ล้านบาท ในขณะที่รัฐบาลชำระ “ดอกเบี้ย” ไปแล้ว 840,000 ล้านบาท
เมื่อไม่รู้จักแสดงความรับผิดชอบ การใช้ “ดาบ” ก็จำเป็น !!!
คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12 (มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 31 ธันวาคม 2554)
มติชน, 31 ธันวาคม 2554
#121
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 17:33
จริงหรือเปล่า ที่อึ่งจิ๋วได้เป็น นายกเสียงข้างมาก ชนะนายหัวชวน เพราะ ไฟดับ
เคยอ่านผ่านๆของ น้าเช ซักกระทู้หนึ่ง
ถ้าจริง แม่ม ระยำมาก
โกงแล้ว เสรือกทำบ้านเมืองวิบัติอีก
#122
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 17:36
ตึกทีมีหลังคาเป็นโดมสีทองอีกสิ่งที่ผมเห็นในวิกฤติต้มยำกุ้ง และต้องขอชมท่านจิ๋ว
ชมว่า ท่านมารยาได้ชนิดนังเรยา กลายเป็นนางชีไปเลย
ท่านรวยจากต้มยำกุ้งไปเท่าไหร่ ไม่มีใครรู้
แต่มอไซค์รับจ้างที่ตลาดบางรักรู้
เขาบอกผมว่า ตึกนี้ ท่านซื้อไปแล้ว ท่านมาตรวจงานทุกเย็น
ตึกที่ว่า อยู่ติดโรงพะบานเลิศสิน เขาลือกันว่า ท่านจ่ายไปหมื่นห้าพันล้าน
ซื้อต่อมาจากคนกันเองของท่านนั่นแหละ เจ้าแม่ค้าอาวุธคนดัง
แต่แปลกที่ประเทศล้มละลายฉิอ๋ายวายป่วง ท่านเป็นนายกทำพังกับมือ
ไม่โดนด่าสักคำ
แถมไอ้ปานเทวียังรับจ้างท่านเขียนหนังสือห่วยๆ บอกว่าท่านส่งขี้ฑูดไปขอเงินจีนแดง
แต่ล้มเหลว จะบอกว่าท่านน่ะทำทุกอย่างแล้ว แต่โดนหักหลัง
แป๊ะก้อเอาท่านมาประจานว่า ท่านน่าฉงฉาน ถูกแบ้งค์ชาติหลอก
เดี๋ยวๆ ก็ให้ท่านออกทีวีว่า ไทยไม่ลดค่าเงิน เดี๋ยวๆ ก็บอกนักข่าวว่า ฐานะการคลังของเรา ปึ้ก
ทุกคนเอามาหัวเราะเยาะว่า ท่านน่ะโง่ ถูกหลอก
เอ
ทำไมไม่มีใครคิดเหมือนผมนะ ว่าท่านน่ะมารยาซิอ๋าย แดร่กเองจนปากบวม
แต่ทำเป็นปัญญาอ่อน ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อารัยทั้งนั้น
แรกเริ่มเลยเป็นของ รังสรรค์ ต่อสุวรรณใช่มั้ยคะ
เมืิ่อวานเพิ่งเห็นจากบนทางด่วน
ยังคุยกับแฟนว่าตึกนี้มีคนดังมาจัดงานแต่งงานหลายคู่
อาทิ หน้าเน่าเป้าฟิตแต่งกะนางงาม เป็นต้น
"กูจะสู้แม้รู้ว่าพวกกูน้อย สู้ไม่ถอยแม้รู้ว่าจะดับสลาย แผ่นดินนี้พ่อกูอยู่ปู่กูตาย กูสุดอายถ้าเสียทีไพรีครอง"
#123
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 17:38
หลอกสังคมมาได้อย่างแนบเนียน
ใครอ่านก็ต้องสงสารว่าท่านไม่น่าถูกหลอก
แต่.......
ผมมีความสงสัยอยู่อย่างหนึ่ง ที่บอกว่าแบ้งค์ชาติเป็นรัฐอิสระน่ะ
จริงหรือไม่จริง
มีความสงสัยว่า ที่กล้าสู้ค่าเงินนั้น
รัฐมนตรีคลังรู้หรือไม่ และถ้ารู้ นายกรัฐมนตรีรู้หรือไม่
ถ้าแบ้งค์ชาติสู้ค่าเงินโดยลำพัง นักการเมืองไม่มีสิทธิเข้ามายุ่ง
ผมก็อยากจะถามนักเขียนเครือมติชินคนนี้ว่า
แล้วทำไมอำนวย ถึงได้เปิดห้องหรู เลี้ยงไวน์ประกาศความสำเร็จให้กับแบ้งค์ชาติ
หลังเปิดไวน์ได้ไม่กี่วัน ลูกพี่ผม เคยทาบทามขอเงินบริจาคก้อนหนึ่งจากอำนาย
แกหันไปหาเริงชัย....บอกเสียงดังว่า
นี่ ต้องไปขอคนนี้ เพิ่งรวยมาหลายพันล้าน.....แล้วแกก็หัวร่อแบบลุงปุ
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
อ้อ
ใครก็ได้ ถ้าบังเอิญเจอนักเขียนคนนี้ ช่วยบอกให้แกแก้ตัวเลขหน่อย
ที่บอกว่าแบ้งค์ชาติเพิ่งใช้หนี้กองทุนไป 300 ล้านน่ะ
มันผิดอย่างน่าอาย
#124
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 17:40
แม้แต่ล่วงมาถึงปีนี้ ท่านก็ยังบอรีสุด
อ่านบทความของหนุ่มเมืองจันดูสิครับ นักเขียนระดับแถวหน้า
ยังหลงมนตราปัญญาอ่อนของท่าน
------------------------
ถือเป็นการโยน “ระเบิด” ลูกใหญ่ใส่ธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อรัฐบาลประกาศจะโอนหนี้จากกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จำนวน 1.14 ล้านบาท ให้กับแบงก์ชาติเพื่อลดภาระหนี้สาธารณะของรัฐบาลลง จากร้อยละ 40 เหลือร้อยละ 30 ของจีดีพี เปิดช่องให้รัฐบาลกู้เงินมาฟื้นฟูและซ่อมสร้างเศรษฐกิจภายหลังอุทกภัยครั้งใหญ่
แน่นอน คนที่ไม่พอใจก็คือ แบงก์ชาติ เพราะต้องรับหนี้ก้อนใหญ่เป็นของตัวเอง แต่ฟังคำอธิบายของ “ประสาร ไตรรัตน์วรกุล” ผู้ว่าการแบงก์ชาติแล้ว นึกถึงนิยายเรื่อง “ราโชมอน” ขึ้นมาทันที เรื่องเดียวกัน แต่มองคนละมุม และเล่าคนละเรื่อง
“ประสาร” อธิบายที่มาของหนี้ก้อนนี้ว่ามาจากวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 รัฐบาลรับประกันหนี้ของสถาบันการเงินทั้งระบบ ทั้งเงินฝากและเจ้าหนี้ ทำให้ต้องตั้งกองทุนฟื้นฟูฯขึ้นมารับภาระหนี้
สังเกตไหมครับว่า “ที่มา” ของปัญหาในมุมของแบงก์ชาติ คือ นโยบายรัฐบาลที่รับประกันหนี้
แต่ “ประสาร” ไม่พูดถึงการตัดสินใจต่อสู้ค่าเงินบาทของ “แบงก์ชาติ” จนทำประเทศล้มละลาย
ต้องกู้เงินจากไอเอ็มเอฟ 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากความผิดพลาดของแบงก์ชาติครั้งนั้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการปิดสถาบันการเงิน
และตั้งกองทุนฟื้นฟูฯขึ้นมา “ราโชมอน” ของแบงก์ชาติเริ่มต้นประวัติศาสตร์ของแบงก์ชาติที่รัฐบาลเป็นคนตั้งกองทุนฟื้นฟูฯ และประกาศรับประกันทั้งเงินฝากและเจ้าหนี้ รัฐบาลจึงต้องรับผิดชอบ “ประสาร” เลือกที่จะเริ่มต้นจุดนี้ เพราะรู้ดีว่าถ้าย้อนต่อไปอีกนิดว่าปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจมาจากไหน “แบงก์ชาติ” จะเป็น “ผู้ร้าย” ทันที
ถ้าใครได้อ่านหนังสือ “เล่าเรื่องสมมุติในอดีต” ของ “อำนวย วีรวรรณ” หรือ “บันทึกลับ 2540″ ของ “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” แกนนำพันธมิตร ซึ่งเคยเป็นรองโฆษกพรรคความหวังใหม่ หรือ “โลกสีขาว” ของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ
จะรู้เลยว่า “ความอิสระ” ของแบงก์ชาตินั้นน่ากลัวเพียงใด
ขนาดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังไม่รู้เลยว่าทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของไทย 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นั้นเป็น “ภาพลวงตา” คนที่กระซิบบอก พล.อ.ชวลิต ให้ยืนยันว่าจะไม่ลดค่าเงินบาท คือ ผู้ว่าการแบงก์ชาติ ทั้งที่รู้ว่าสู้ไม่ไหวแล้ว ต้องลอยตัวค่าเงินบาท แต่ก็ยังหลอกคนเป็น “นายกรัฐมนตรี”
ยิ่งอ่านรายงานของคณะกรรมการศึกษาและเสนอแนะมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการ บริหารจัดการระบบการเงินของประเทศ หรือ ศปร.ที่ตั้งขึ้นมาสมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย ยิ่งชัดเจน ครับ ถ้าแบงก์ชาติมีความรู้สึกรับผิดชอบหนี้ก้อนนี้สักนิด เราคงไม่เห็นตัวเลขการชำระเงินต้นที่เป็นหน้าที่ของ “แบงก์ชาติ” ในช่วงเวลา 14 ปี เพียง 300 ล้านบาท ในขณะที่รัฐบาลชำระ “ดอกเบี้ย” ไปแล้ว 840,000 ล้านบาท
เมื่อไม่รู้จักแสดงความรับผิดชอบ การใช้ “ดาบ” ก็จำเป็น !!!
คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12 (มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 31 ธันวาคม 2554)
มติชน, 31 ธันวาคม 2554
อย่าลืมมาสับด้วยนะคะ
#125
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 17:42
คุณ amplepoor
จริงหรือเปล่า ที่อึ่งจิ๋วได้เป็น นายกเสียงข้างมาก ชนะนายหัวชวน เพราะ ไฟดับ
เคยอ่านผ่านๆของ น้าเช ซักกระทู้หนึ่ง
ถ้าจริง แม่ม ระยำมาก
โกงแล้ว เสรือกทำบ้านเมืองวิบัติอีก
ใช่ครับ เป็นข่าวใหญ่สมัยนั้น แต่แม้ปชป. ชนะที่นี่ คะแนนเสียงก็ดูเหมือนไม่ชนะ
และยังงัยจิ๋วก็ได้พรรคอื่นอยู่ในกระเป๋าอยู่แล้ว
นรกขีดชะตากรรมแล้วว่า
มีแต่ขุนพลคนนี้เท่านั้น
ที่จะได้รับเกียรติเป็นคนเสิร์ฟต้มยำกุ้งให้โลก
ถ้านายชวนเป็นนายก ไอเอ็มเอฟก็คงจะไม่ได้เข้ามา
- PeaceMan likes this
#126
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 17:46
แรกเริ่มเลยเป็นของ รังสรรค์ ต่อสุวรรณใช่มั้ยคะ
เมืิ่อวานเพิ่งเห็นจากบนทางด่วน
ยังคุยกับแฟนว่าตึกนี้มีคนดังมาจัดงานแต่งงานหลายคู่
อาทิ หน้าเน่าเป้าฟิตแต่งกะนางงาม เป็นต้น
ยั๊บ
แม่นแล้ว
#127
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 17:48
เหมือนปัจจุบันนี้เลยมั้ยคะ
ต่อไป
เราจะเป็นไงต่อคะ
ศิราณี
#128
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 17:50
ชะตากรรม
เหมือนปัจจุบันนี้เลยมั้ยคะ
ต่อไป
เราจะเป็นไงต่อคะ
ศิราณี
ทำงาน
เก็บเงิน
และพอเพียงครับ
#130
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 18:49
คุณแอม
คุณธีระชัยมาพูดมาทำตอนนี้ สายไปไหมคะ
มันคือซาตานิคเทคนิคครับ
ฆ่าคนไปแล้ว ก็ไปไถ่บาปเสียหน่อย
โกงไปแล้ว ก็ทำบุญเสียหน่อย
ขายตัวไปแล้ว ก็พูดสัจจะธรรมเสียหน่อย
ในคนแบ้งค์ชาติที่ห่วยๆ ผมว่าเริงชัยน่านับถือที่สุด
สิบสี่ปีเต็ม แกไม่พูดอะไรเลย ไม่โยนขี้ให้ใคร
ก้มหน้ารับคำแช่งด่าไปเงียบๆ
ผมทราบมาทางส่วนตัวว่า แกพยายามเข้าถึงรสพระธรรม
หวังว่าเมื่อแกตายไป จะไม่มีมรดกให้ลูกหลานรวยปลิ้น
ตอนนี้แกเดินเครื่องเต็มสูบ
ยังจะมีหวังกลับไปจุ๊บๆกันอีกได้หรือคะ
ได้ข่าวว่ายกเลิกขายปตทกะการบินไทยแล้ว
http://www.komchadlu...%E0%B8%97..html
คลังถอยขายหุ้นบินไทย-ปตท.
"กิตติรัตน์" ถอยขายหุ้นการบินไทย-ปตท.ให้กองทุนวายุภักษ์ ระบุไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนต้องทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายก่อน ด้านพนักงานการไฟฟ้ายื่นหนังสือคัดค้าน พร้อมเห็นใจแบงก์แต่ยันไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากแบงก์รัฐ
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายให้ผู้บริหารกระทรวงการคลังว่า นโยบายการขายหุ้นรัฐวิสาหกิจ เพื่อต้องการให้รัฐวิสาหกิจมีความคล่องตัวในการทำงาน มากกว่าอยู่ในการกำกับดูแลของภาครัฐ และเป็นการขายหุ้นไปอยู่ในมือกองทุนวายุภักษ์ หรือกองทุนอื่นที่รัฐบาลควบคุมดูแล ไม่ใช่เป็นการขายหุ้นให้แก่คนอื่น โดยยืนยันว่าไม่มีวาระแอบแฝง และพร้อมจะรับฟังความเห็นจากทุกด้าน แต่ยังมองว่าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนต้องทำภายในปีนี้หรือปีหน้า เพราะเป็นแผนดำเนินการอีกหลายปี
"นโยบายดังกล่าวไม่ใช่เป็นการตกแต่งบัญชี เพื่อเลี่ยงไม่ให้หนี้สาธารณะเพิ่ม แต่ประเทศที่เจริญแล้วส่วนใหญ่จะปล่อยหุ้นรัฐวิสาหกิจออกไป เพื่อทำธุรกิจโดยอิสระ ทั้งสายการบิน ด้านคมนาคม สถานีโทรทัศน์ และด้านต่างๆ ที่สำคัญรัฐบาลต้องอธิบายให้ทุกฝ่ายเข้าใจจนได้ข้อยุติ หากยังมีข้อสงสัยก็จะไม่ดำเนินการ" นายกิตติรัตน์ กล่าว
ขณะที่นายเพียร ยงหนู ตัวแทนพนักงานการไฟฟ้านครหลวง ยื่นหนังสือถึง รมว.คลัง คัดค้านการขายหุ้นรัฐวิสาหกิจ ทั้ง บมจ.ปตท. การบินไทย เพราะหากลดสัดส่วนการถือหุ้นของรัฐต่ำกว่า 50% จะทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากราคาน้ำมัน ราคาก๊าซ ปรับสูงขึ้น เจรจาต่อรองกับภาครัฐไม่ได้ เพราะจะอ้างว่าเป็นการบริหารงานของเอกชนตามกลไกตลาด และเห็นว่าหากพ้นจากความเป็นรัฐวิสาหกิจ จะมีกลุ่มเอกชนเข้ามาแสวงหาผลกำไร ไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน
นายกิตติรัตน์กล่าวถึงกรณีที่สมาคมธนาคารไทยออกแถลงการณ์คัดค้านการเพิ่มอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เพื่อแก้ปัญหาหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ที่คงค้าง 1.14 ล้านล้านบาทว่า เห็นใจธนาคารพาณิชย์เช่นกันและไม่อยากให้มีภาระการนำส่งเงินสมทบเพิ่มขึ้นจากที่นำส่งในอัตรา 0.4% ของฐานเงินฝาก โดยมองว่าเมื่อสูตรการจัดเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ออกมาแล้ว ธนาคารพาณิชย์น่าจะจ่ายเท่าเดิมที่ 0.4%
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของข้อเรียกร้องให้เรียกเก็บสถาบันการเงินของรัฐด้วยนั้น มองว่าก่อนหน้านี้แบงก์พาณิชย์ก็จ่ายเงินสมทบและที่ไม่ได้เรียกเก็บจากสถาบันการเงินของรัฐ เพราะรัฐบาลคุ้มครองเงินฝาก 100% จึงไม่เข้าใจว่าทำไมเพิ่งมามองว่าไม่ยุติธรรมในช่วงนี้
นักวิชาการรายหนึ่งกล่าวว่า สถาบันการเงินของรัฐมีหน้าที่หลักในการจัดตั้ง เพื่อดำเนินนโยบายของรัฐบาลในส่วนที่ธนาคารพาณิชย์ไม่ทำ หากเกิดการขาดทุน หรือต้องปิดกิจการ ก็ตั้งงบประมาณชดเชย จึงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมที่จะไปเรียกเก็บเงินสมทบด้วย ถ้าหากแบงก์พาณิชย์ไม่สามารถแข่งขันกับธนาคารรัฐได้ ก็ควรปิดกิจการไป
Edited by overtherainbow, 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 18:53.
#131
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 19:01
ก็ถ้าลุงโกร่งค่อยๆทยอยไถ่บาปเงียบๆ ไม่ต้องมารับหน้าเสื่อ
มีหรือที่คุณแอมจะมารื้อนั่งร้านซะจนน่ากลัวว่าจะทรุดไม่เป็นท่า
กางเกงแดงลุงโกร่งหมดขลังแล้ว จึงป่วยการที่เหล่้าเสื้อแดงจะมาวอแวกับคุณแอม & โกที่นี่่่
เฮ!
- wewe likes this
#132
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 19:19
ไม่แปลกที่กระทู้นี้จะมาแรง ฉุดไม่อยู่
ก็ถ้าลุงโกร่งค่อยๆทยอยไถ่บาปเงียบๆ ไม่ต้องมารับหน้าเสื่อ
มีหรือที่คุณแอมจะมารื้อนั่งร้านซะจนน่ากลัวว่าจะทรุดไม่เป็นท่า
กางเกงแดงลุงโกร่งหมดขลังแล้ว จึงป่วยการที่เหล่้าเสื้อแดงจะมาวอแวกับคุณแอม & โกที่นี่่่
เฮ!
เฮ
#133
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 19:24
คุณอารยา มาช่วยเล่าเรื่องสมัยนั้นด้วยค่ะเผื่อคุณแอมตกหล่น
#134
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 19:39
ไม่แปลกที่กระทู้นี้จะมาแรง ฉุดไม่อยู่
ก็ถ้าลุงโกร่งค่อยๆทยอยไถ่บาปเงียบๆ ไม่ต้องมารับหน้าเสื่อ
มีหรือที่คุณแอมจะมารื้อนั่งร้านซะจนน่ากลัวว่าจะทรุดไม่เป็นท่า
กางเกงแดงลุงโกร่งหมดขลังแล้ว จึงป่วยการที่เหล่้าเสื้อแดงจะมาวอแวกับคุณแอม & โกที่นี่่่
เฮ!
โอย
ผมรำหน้าม่าน จนม่านฉีกไปหลายผืนแล้ว
ตัวเอกยังไม่มา
ยินดีต้อนรับครับ
#135
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 20:32
keep going pleaseeeeeeeeee
#136
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 21:04
ยอมรับเองว่า หูกระต่ายเป็นคนดันให้เป็นรัฐมนตรีคลัง
ด้วยเหตุผลบัดซบว่า
อยากทำภาคปฎิบัติ
ตรงนี้ ถ้าคนไม่รู้ก็อาจจะเอออวยว่า แหม ก็ท่านเก่ง
ภาคทฤษฎีแม่นเป๊ะ มาทำปฎิบัติก็ต้องเจ๋งมาก
เจ๊งครับ ไม่ใช่เจ๋ง
มันเอาเหตุผลอะไรมาใช้วะ เป็นรัฐมนตรีคลังเพราะอยากลอง
มันเห็นประเทศเราเป็นชักโครกหรือ ลองซะหน่อยว่าถ่ายคล่องบรื๋อๆๆๆๆ
แต่การที่มันยอมรับเองว่าเป็นซี้กับหูกระต่าย
ก็หมายความว่า มันคือหนึ่งในติ้งแต้งค์เรื่องเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามค้า
ซึ่งแปลเป็นภาษาทำลายบ้านทำลายเมืองว่า เอาเงินนอกมาหมุนทำกำไรในแผ่นดินไทย
นี่คือนโยบายที่น้าชาติทำกรรมกับประเทศมากที่สุด
การเลิกรบเป็นเรื่องดี การขยายการค้าก็เป็นเรื่องดี แต่การบอกเด็กที่บ้านให้ไปกว้านซื้อที่บ้านฉาง
เพราะกำลังจะทำอิสเทิร์นซีบอร์ด อันนี้ไม่ดี
ตัวอย่างของบ้านฉาง ชี้ชัดว่า น้าชาติมีด้านมืด
และด้านมืดของน้าชาติ มีคนแบบหูกระต่ายและโกร่ง แอบอยู่
ถ้าเราดูบทบาทของโกร่งให้ดีๆ มันผู้นี้เป็นพวกทำงานเฉพาะกิจ
เป็นรมต. คลังครั้งนั้น ดูเหมือนคนเดียวที่ได้ประโบชน์ คือซี้อีกคน
วิจิตร
ในบทความของอภิชาต สถิตนิรามัยเรื่องวิจิตร ที่สมาชิกเอาลิงค์มาให้อ่านข้างบน
บอกไว้ว่า เขาได้เป็นผู้ว่่า เพราะเลียนักการเมือง
ที่จริงแล้วไม่ควรได้เป็นผู้ว่า แต่เพราะวิ่งเต้นให้ตัวเองขึ้นเป็นรองผู้ว่า
แล้วจึงขึ้นชั้นเป็นผู้ว่าได้สะดวก ขึ้นชั้นแล้ว ก็เดินหน้าทะลายกำแพงกันเงินนอก
ปล่อยให้มันเข้ามาท่วมตลาดภายใน
ถ้าโกร่งไม่ได้เป็นรมต. คนอื่นก็คงตั้งคนอื่นเป็นผู้ว่าไปแล้ว
ถูกใหม
บาปของโกร่งก็เลยมีสองข้อ
1 เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการไขเงินเข้ามาท่วมประเทศ ทำลายเศรษฐกิจที่กำลังโตให้บิดเบี้ยว
2 เป็นคนชุบชีวิตปีศาจนักเรียนทุนรุ่นหนึ่งให้ครองอำนาจ และร่วมทำลายประเทศในที่สุด
BIBF ที่ธารินทร์เป็นคนอนุมัตินั้นแล้วมันบอกว่าเป็นตัวการแห่งความอิบอ๋ายนั้น
เริ่มมาจากการนั่งเก้าอี้รมต. ของโกร่งนั่นเอง
ปล
มีเรื่องแปลกอยู่ข้อหนึ่ง
นักวิชาการแดงอย่างไอ่หนุ่มเมืองจัน มันด่าว่าแบ้งค์ชาติเป็นรัฐอิสระ
จึงสมควรรับผิดกรณีสู้ค่าเงินและล้มเหลวคดีแบ้งค์คึกฤทธิ์
แต่มันไม่ยักด่าแบ้งค์ชาติที่เป็นเจ้าภาพ BIBF
ดันมาด่าธารินทร์ ซึ่งตามทฤษฎีของพวกมันแล้ว ย่อมจะไม่มีอำนาจควบคุมแบ้งค์ชาติ
แบ้งค์ชาติจึงต้องรับผิดกรณี BIBF แต่ไม่เห็นมันจะด่าเล้ยยย
เห็นหรือยังครับ การเมืองของบ้านเรา มีแค่สองพวก
เอา กับไม่เอาประชาธิปัตย์ อย่างอื่นเป็นแค่เห็บเหา.....
Edited by amplepoor, 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 21:06.
- nokisara, overtherainbow, rinrin1356 and 5 others like this
#137
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 22:01
#138
ตอบ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 - 22:52
#139
ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2555 - 03:37
#140
ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2555 - 06:40
คิดถึงอาจารย์ หายไปนานเลยไม่แปลกที่กระทู้นี้จะมาแรง ฉุดไม่อยู่
ก็ถ้าลุงโกร่งค่อยๆทยอยไถ่บาปเงียบๆ ไม่ต้องมารับหน้าเสื่อ
มีหรือที่คุณแอมจะมารื้อนั่งร้านซะจนน่ากลัวว่าจะทรุดไม่เป็นท่า
กางเกงแดงลุงโกร่งหมดขลังแล้ว จึงป่วยการที่เหล่้าเสื้อแดงจะมาวอแวกับคุณแอม & โกที่นี่่่
เฮ!
#141
ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2555 - 07:30
อยากทราบว่า รัฐบาลแต่ละรัฐบาลได้มาซึ่งอำนาจในการบริหารประเทศ
นอกจากเรื่องคลัง แบงค์ชาติแล้วที่คุณแอมยังสับออกมาไม่หมด
ยังมีกระทรวงใด ที่สร้างความเสียหายให้ประเทศได้ไม่แพ้กันอยู่อีก
ดันกระทู้ค่ะ
#142
ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2555 - 09:50
ยังงัยมันก็เป็นความเห็นส่วนตัว
แม้ว่าจะพยายามอ้างหลักฐานที่เปิดเผยตรวจสอบได้
แต่มันก็ยังมีอคติอยู่ดีนะครับ
ผมอาจจะได้ข้อมูลมาไม่ครบถ้วน จึงทำให้เข้าใจผิดไปว่า
จิ๋ว/แม้ว เป็นพวกขายชาติ เป็นจอมคอรัปชั่น
เป็นคนทำให้บ้านเมืองของเราตกต่ำอยู่อย่างนี้
โดยมีคนอย่างโกร่ง เป็นมือตีนคอยรับใช้
ผมเชื่อมั่นอย่างนี้ จนกว่าจะมีหลักฐานอื่นมาล้มล้างครับ
#143
ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2555 - 09:53
อยากทราบว่า รัฐบาลแต่ละรัฐบาลได้มาซึ่งอำนาจในการบริหารประเทศ
นอกจากเรื่องคลัง แบงค์ชาติแล้วที่คุณแอมยังสับออกมาไม่หมด
ยังมีกระทรวงใด ที่สร้างความเสียหายให้ประเทศได้ไม่แพ้กันอยู่อีก
กระทรวงศึกษาครับเจ๊
ประเทศเราไม่เจริญ รากของมันมาจากกระทรวงนี้
มันเน่าครับ
เน่ากว่ากระทรวงคลังอีก
- PeaceMan and Satan for Vendetta like this
#144
ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2555 - 10:03
กระทรวงศึกษา ไม่มีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือคะ กระทรวงอื่นๆอีกมาก โห คุณแอมไม่ต้องทำงานแระ มาสอนวิชารู้ทันรัฐบาลที่นี่แหล่ะ อิอิ
มันเน่ายังไงคะ
แต่ว่า
อย่าลืมคลังและธปท อันเป็นหัวข้อกระทู้นะคะ
#145
ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2555 - 10:18
ไม่แปลกที่กระทู้นี้จะมาแรง ฉุดไม่อยู่ ก็ถ้าลุงโกร่งค่อยๆทยอยไถ่บาปเงียบๆ ไม่ต้องมารับหน้าเสื่อ มีหรือที่คุณแอมจะมารื้อนั่งร้านซะจนน่ากลัวว่าจะทรุดไม่เป็นท่า กางเกงแดงลุงโกร่งหมดขลังแล้ว จึงป่วยการที่เหล่้าเสื้อแดงจะมาวอแวกับคุณแอม & โกที่นี่่่ เฮ!
โย่ววว ยินดีค่ะคุณอารยา
(ส่วนล่วงหน้ามาคอยนานแล้ว)
มาช่วยคุณแอบเปิ้ลสวดส่งพวกมารให้ไปลงนรกเร็วๆ
ความเท็จแม้นเร้นได้ในปัจจุบัน แต่ก็เหมือนซ่อนสุริยันไว้หลังเมฆ
อย่านึกถึงแต่ความผิดพลาด จงระลึกถึงต้นเหตุของความผิดพลาด
#146
ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2555 - 10:22
สุดยอดเลยครับ ผมพอจะทัน พอได้ได้ทำงานในแวดวงการเงินการธนาคารกับเขาบ้าง ยุคนั้นต้องยอมรับครับว่าพนักงานวิเคราะห์สินเช่ือ หรือผช., ผจก. ทั้งหลายแหล่ รวยกันถ้วนหน้า เอาที่ดินมูลค่าหมื่นบาทไม่ถึงแสน เข้าเป็นหลักประกัน กู้เงินไปหลักล้าน เสร็จแล้วปล่อยหนี้เสียให้ยึดทรัพย์ ประเมินขายทอดตลาด เงินต้นล้านบาท หลักประกันไม่ถึงแสน ทำกันจนร่ำรวยเป็นเศรษฐีกันเป็นแถบ ๆ ผมก็ยังนึกว่าสักวันประเทศไทยต้องล่มสลายทางการเงิน แล้วหลังจากนั้นไม่กี่ปี ก็เป็นความจริง แต่โชคดีไหวตัวมาทันก่อน ผมละเกลียดจริง ๆ เลย ถ้าจำไม่ผิด มันเกิดขึ้นก่อนที่สมัยน้าจิ๋วหวานเจี๊ยบจะมาเป็นนายกอีก มันเริ่มตั้งแต่บรรหาร บานบุรี เข้ามาเป็นนายกแล้ว และ ณ วันนี้ผมคิดว่าอีกไม่นานเกินรอ ขอให้น้องปูคนสวย หมวย ..... บริหารต่อไปตามนโยบายอย่างราบร่ืน ผมคงได้เป็นเศรษฐีอีกแน่ ๆ
BIBF เป็นการเปิดให้เงินนอกไหลเข้าเสรี
โดยหวังว่ามันจะไหลออกไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน
กระบวนการนี้ ที่จริงไม่มีคนผิด เพราะเป็นการค้าเสรี
รัฐบาลหวังส่วนต่างที่ตกค้าง และการกระตุ้นระบบทุน
คนให้กู้ มีหน้าที่ประเมินความเสี่ยงและเครดิตคนขอกู้
คนขอกู้ต้องสร้างสมชื่อเสียงและหลักทรัพย์ เพื่อค้ำประกันเงินกู้
เสี่ยเหล็กสามไม่ ไม่มีไม่หนีไม่จ่าย มีคุณสมบัติครบ
มันก็เลยเอากิจการตัวเองกู้เงินเข้ามา 1200 ล้านดอลล์
ได้เงินแล้วก็เจอปัญหา คือเงินมันล้น เสี่ยก้ปล่อยต่อในแวดวง
ทั้งหมดเป็นเรื่องของธุรกิจ
ถ้าหากจะมีนอกมีใน ก็มีอยู่บนฐานธุรกิจที่ต้องมีของจริงค้ำ
แต่ธนาคารของโกร่ง ไม่ต้องมีครับ
ธนาคารของโกร่ง ยอมให้เอาที่ดิน 60 ล้าน มาอั๊พราคาเป็น 6 พันล้าน
แล้วปล่อยกู้ออกไป
เงินจริงๆ ไหลออกจากแบ้งค์
โฉนดที่ดินปลอมๆ ไหลเข้ามาแทน
คุณเป็นเจ้าของโฉนด คุณจะมาไถ่ถอนใหม
ไอ้ที่น่าสังเวชที่สุดก็คือ
บางทีการขอกู้ ใช้ห้างหุ้นส่วนจำกัดทุนจดทะเบียนไม่กี่บาท
ขอกู้ทำโครงการระดับพันล้าน
เงินที่ไหลออกไป เป็นเงินฝากของประชาชนที่รัฐบาลค้ำประกัน
วิกฤติต้มยำกุ้ง จึงมีสองชามครับ
คนทั่วไปรู้จักแต่ชามโซรอส/ทักษิณ
น้อยคนจะรู้จักชามออเดิร์ฟที่เสิร์ฟโดยโกร่งและคณะ
ด้วยเหตุผลนี้เอง...ทำไมการประมูลของ ปรส. จึงได้ไม่ถึงครึ่งของจำนวนหนี้...
- คนกวาดขยะ likes this
#147
ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2555 - 10:59
ในหลักทรัพย์ค้ำประกันยุคนั้น บางรายการเป็นของเก่า
เช่นพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ซึ่งในช่วงฟองสบู่ เล่นกันหนัก
บางชิ้นที่มีราคาเป็นแสนๆ ถูกตั้งราคาประเมินเป็นสิบๆ ล้าน
กองเต็มโกดังปรส.
ผมเองก็ไม่ได้เห็นพ้องกับกรรมวิธีของปรส/ธารินทร์ไปเสียทุกอย่าง
แต่ลองนึกดูว่า
รัฐบาลต้องเอาเงินภาษีไปค้ำหนี้พวกนี้
แล้วต้องเอาขยะมหาศาลที่พวกนี้เล่นแร่แปรธาตุกัน ออกขาย
จะมีคนซื้อใหม
พวกต่อต้านปชป. เอาเหตุเหล่านี้มาโจมตี
หาว่าสินทรัพย์ตั้งแปดแสนล้าน ขายได้แสนกว่าล้าน
ทำชาติย่อยยับเห็นๆ
แม้แต่รายงานศปร. ก็ตำหนิกระบวนการนี้เช่นกัน
ผมจึงไม่นับถือศปร. เพราะแม้แต่รายงานที่ทำเพื่อชาติ ก็ยังช่วยพวกพ้องกันหน้าด้านๆ
ที่จริงแล้ว ศปร. จะต้องเอาสินทรัพย์ทั้งหมดมาประเมินใหม่
ว่ายอดแปดแสนล้านนั้น มูลค่าที่แท้จริงคือเท่าไร แล้วจึงสามารถตำหนิคนที่รับผิดชอบได้
ซึ่งก็คือพวกนายแบ้งค์พวกกันนั่นเอง ทุกคนทุกบริษัท ล้วนแต่เน่าเท่ากัน
ผ่านวิกฤติการณ์ต้มยำกุ้งมา
ผมจึงบรรลุสัจธรรมว่า ประเทศไทยไม่มีคนดี
มีแต่เลวมาก หรือเลวน้อย
- พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน, paj044 and วันศุกร์ like this
#148
ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2555 - 11:22
#149
ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2555 - 11:49
กระทรวงศึกษา
มันเน่ายังไงคะ
มันสร้างนักการเมืองไทยงัยครับ
#150
ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2555 - 12:04
กระทรวงศึกษา
มันเน่ายังไงคะ
สังคมที่มันเน่าอยู่ทุกวันนี้ กระทรวงศึกษามีส่วนเต็มๆ
ดันไปยกเลิกวิชาหน้าที่พลเมืองและศีลธรรม วิชาจริยธรรม เด็กมันก็ไม่มีความยับยั้งชั่งใจ เพราะมันไม่ได้เรียนศีลธรรม จริยธรรม
อีกวิชาที่ดันยกเลิก ก็วิชาประวัติศาสตร์ชาติไทย เด็กสมัยใหม่มันเลยไม่สนใจว่า ประเทศจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ล่มจมอย่างไรก็ไม่สน
กระทรวงศึกษาตกต่ำสุดๆ สมัยนี้ เด็กหลายคนจบป.6 อ่านหนังสือไม่คล่อง เป็นไปได้อย่างไร คนเป็นรมต.ไม่รู้สึกอะไรเลย
แย่จริงๆ
ผู้ใช้ 2 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 2 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน