พงศาวดารแบ้งค์นี้ เป็นจุดด่างของระบบธนาคารไทยอย่างแท้จริง
ตั้งขึ้นโดยการเมือง เติบโตโดยการเมือง ดังนั้นขึงแคระแกร็น เพราะเป็นธนาคารในวงจำกัด
คึกฤทธิ์เองก็เคยเป็นผู้บริหารแบ้งค์นี้ แน่ละ เพราะพี่เขยเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง
ธนาคารโตมาในระบบขุนนางดั้งเดิม หรือเรียกว่าระบบข้าเก่าเต่าเลี้ยง
ไม่ใช่ธนาคารที่ทุ่มซื้อตัวคนหนุ่มไฟแรงมาใช้งาน
แล้วพอจะปรับตัวเอง ก็ดันเลือกลูกชายที่ไม่ปรากฏความสามารถเด่นชัดมาบริหารเสียอีก
เราน่าจะบอกสายสัมพันธ์เครือญาติให้ทราบก่อน เพื่อจะได้เห็นอะไรชัดขึ้น
คึกฤทธิ์มีพี่สาว พี่สาวแต่งงานกับคนเชื้อสายจีนที่ต่อมาได้เป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
และร่วมก่อตั้งแบ้งค์นี้ ชื่อว่าพระพินิจชนคดี
พระพินิจมีลูกสาว ก็คือแม่ของเสี่ยตั้วเกริกเกียรติ เป็นนักเรียนนอก ทำงานที่แบ้งค์ชาติ
ต่อมา แม่ของเสี่ยปฏิบัติการยึดแบ้งค์ แล้วขอให้ลูกชายมาเป็นผู้บริหาร ตอนนั้นแบ้งค์เริ่มมีปัญหามากแล้ว
เพราะการทำธนาคารแบบเจ้าขุนมูลนายนั้น ทวงหนี้ยากเย็นแสนเข็ญ
เกริกเกียรติมาทำงานแบ้งค์ให้แม่ โดยการขอยืมตัวจากแบ้งค์ชาติอีกต่างหาก
แสดงว่าสายสัมพันธ์นั้น ไม่ธรรมดา
สุวินัย โคทข้อควาามมาลงชัดๆ ว่า
http://www.dragon-pr...85-82661-1.html“ในเดือนกันยายน 2535 นายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ ได้เข้ารับตำแหน่ง เป็นกรรมการผู้จัดการและได้เลือกพนักงาน ธปท. 2 คน เข้าไปรับตำแหน่งบริหาร และแต่งตั้งนายวีรพงษ์ รามางกูร เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการของธนาคาร ด้วยความเห็นชอบของ ธปท.” ผู้เห็นชอบของธปท. คือผู้ว่า
คือผู้ว่าที่วีรพงษ์เป็นคนตั้ง ....ก็ไอ้โกร่งงัยล่ะครับ
เก๊ทหรือยังครับ
Edited by amplepoor, 2 February 2012 - 02:56.