ผมกลับเห็นด้วยกับผู้เขียน เป็นส่วนใหญ่
คุณธรรมจริยธรรมความเป็นไทย คืออะไร สามารถยัดเยียดให้ได้ ด้วยการอบรม และทดสอบจนผ่าน กระนั้นหรือ เอาง่ายๆ ผมเชื่อว่า ตะกวดทุกตัว ก่อนจบ ผ่านการทดสอบเวรเนี่ยทุกตัว แล้วทำไม
ระบบ ตะกวดถึงได้ เละขนาดนั้น
ประโยคนี้ก็สำคัญ
ดิฉันไม่ปฏิเสธการสอนคุณธรรมหรือจริยธรรม แต่ดิฉันปฏิเสธการสอนแบบการศึกษาไทยทำอยู่ตอนนี้ คือการยัดเยียดข้อมูลศีลธรรมเพียงชุดเดียวสอนเป็นไม้บรรทัดว่าการเป็นคนดีต้องอย่างไร ปราศจากการถกเถียง การใช้เหตุผลคิดวิเคราะห์ออกมา
แปลกครับ เราอยากให้เด็กเราคิดเป็น มันถึงมีโรงเรียนสอนแบบบูรณาการเพราะอยากให้คิดเป็น เพราะ ระบบการศึกษาหลักกลับ ไม่สอนให้คิด ไม่มีทางเลือก ใครคิดไม่เหมือน ไม่ได้ ต้องโน่นต้องนี่ ผมว่าผิด
เด็กควรจะคิดได้เองว่า ถ้าจะอยู่เมืองไทย อย่าง มีความสุขเข้ากับสังคมได้ เค้าควรจะมี คุณธรรมจริยธรรมความเป็นไทย เอง
ไม่ใช่้ ยัดเยียดว่า ต้องมี
วิธีการคิด ไม่ต่างอะไรกับการ ปฏิวัติ 49 คิดว่า เมื่อคนเห็น ทักษิณโดนศาลตัดสินแล้ว จะ หมดความนิยม โดยการยัดเยียดข้อมูล ชุดความรู้ให้
แต่ ที่ไหนได้ พวกมันก็กลับมา และก็ไม่ต่างอะไรกับ ยุบสภาหลัง เผาเมือง คิดว่า เมื่อคนเห็น กรุงเทพถูกเผา ก็จะลงโทษพวกมัน แต่ ที่ไหนได้ พวกมันก็กลับมา
ชุดความคิดเหล่านี้ อยู่บนพื้นฐานที่คิดว่า สามารถครอบงำความคิด ประชาชน จากการ อบรม หรือ โฆษณาชวนเชื่อได้ โดยลืมไปว่า
ปัจจเจกบุคล มีความคิดเป็นของตนเอง
รับรองครับ ให้ ทักกี้ อิปู นพดล มันมาทำข้อสอบ ถ้าไม่ bias หรือ ไม่รู้ชื่อมัน ไม่เห็นหน้ามัน มันผ่านกันทุกคนละครับ
สุดยิดจริงๆ คิดแบบโรงเรียน นึกอะไรไม่ออก จับอบรม จับสอบ
ประเด็นคือ
มึนจะไปทดสอบหาเวรอะไร เด็กมันตอบได้กันหมดแหละ
ผมนึกไม่ออกจริงๆ นอกจาก พยายามสร้างภาพ
เรื่องความเป็นไทย ความเป็นญี่ปุ่น ความเป็นจีน ความเป็นอเมริกัน แต่ไหนแต่ไรมา มันจะมีการถ่ายทอดกันมาเป็นธรรมชาติอยู่แล้วนะครับ กลไกการถ่ายทอดคือสังคม ไม่มีใครต้องตั้งคำถามหรอกครับว่าความเป็นไทยคืออะไร มันอยู่ในตัวทุกคนอยู่แล้ว แต่ทุกวันนี้มันโลกาภิวัตน์ ทำให้การถ่ายทอดทางวัฒนธรรมข้ามชาติ ซึ่งมันก็มีข้อดี ข้อเสีย คือ เราได้รับทั้งสิ่งที่ดี และสิ่งที่เลวจากชาติอื่นมา จึงเป็นธรรมดาที่จะมีความพยายามในการรักษาสิ่งที่ดีของตนเองไว้ อันนี้ก็ถือเป็นธรรมชาติของสังคมมนุษย์อีกเช่นกันครับ ไม่ต้องกังวลกับสิ่งนี้ครับ มันไม่ใช่การยัดเยียดแต่อย่างใด
เรื่องการทดสอบที่วัดไม่ได้จริง ผมก็เห็นด้วยนะครับ ทั้งนี้เพราะผู้ที่จะสอนในเรื่องคุณธรรม จริยธรรมได้ดีที่สุด คือ "สังคม" ไม่ใช่ "โรงเรียน" อย่างไรก็ตาม โรงเรียนก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคม ก็ไม่ผิดที่โรงเรียนจะพยายามสอนในสิ่งนี้ ความจริงชาติที่ยิ่งใหญ่อย่างจีน เล่าจื้อ ขงจื้อสอนเรื่องพวกนี้มาเป็นพันๆปีแล้วครับ ถึงแม้คนเลวมันจะทำข้อสอบจริยธรรมผ่านหมด ดูเหมือนไม่มีประโยชน์ แต่ผมคิดว่าอย่างน้อยก็ทำให้เค้ารู้อยู่ในใจลึกๆว่าสิ่งที่เค้าทำนั้นคือสิ่งที่ผิดนะครับ
สรุปคำตอบสุดท้ายสำหรับ การสร้าง จริยธรรม คุณธรรม หรือแม้แต่ความเป็นไทย คือ "สังคม" แต่เท่าที่ดูทุกวันนี้ คือ สังคมมันป่วยครับ ทุกภาคส่วนจึงต้องช่วยกัน โรงเรียนช่วยด้วยเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่ผมว่า พ่อแม่ ผู้ปกครอง จะทำได้ดีกว่า อย่ามัวแต่หาตังค์กัน
ความเป็น โน่นเป็นนี่ ผมว่าถ้าเป็นสิ่งดี เด็กก็จะพยายามเป็นเอง ไม่ต้องจับยัด ผมว่าประเด็นของ ผู้เขียนคือ ทำไมต้อง บังคับ หรือ ยัดเยียดด้วย ว่า ต้อง เป็นแบบนี้ ผ่านแบบนี้ ก่อน แล้วจึงมีสิทธิสมัคร
ตรรก การคิดแบบนี้ สะท้อนถึง อำนาจนิยม และ ความตื้นเขิน ในการมอง และ แก้ไขปัญหา
บ้านเราก็แบบนี้ละครับ ขอให้ได้พูดว่า "ได้ทำแล้ว" หรือ "ก็พยายามแล้ว"
ความเห็นผมนะครับ วิธีที่ถูกต้องที่ควรทำ คือ การลงโทษของสังคม เช่น ถ้าทำไม่ถูก ไม่เคารพผู้ใหญ่ ไม่เคารพครู เพื่อนๆ หรือ สังคมต้องทำการ sanction เช่นไม่พูดด้วย ไม่สมาคมด้วย เพื่อให้เห็นว่า
ถ้าจะอยู่ในสังคม หรือเข้ากับสังคมได้ต้อง ทำอย่างไร
ไม่มีทางหรอกครับ ที่จะจับ พวกนี้ เช่น ก้านธูป ไปอบรม สอบบ้าๆบอๆ แล้ว บอกว่า ผ่านหรือไม่ผ่าน ถ้าผ่านแล้วแสดงว่า โอเค ผมว่า แค่คิดก็ โง่พอๆกะ อิปู แล้ว
การที่คิดไม่เหมือนคนส่วนใหญ่ไม่ผิด แต่ ก็ต้องรับผลที่จะตามมาถ้ามันไปขัดกับสังคม แล้วคนเค้าไม่ยุ่งด้วย
แต่ ตราบใด้ที่เค้ายังมีเพื่อน คนในสังคมเห็นเค้าปกติ เค้าก็อยู่ได้ครับ เพราะ สังคมไม่ได้ลงโทษเค้า ก็ โทษใครไม่ได้
ถ้าพูดแบบนี้ การสอบเข้าก็เป็นการบังคับยัดเยียดวิชาการให้เด็กเหมือนกันมั้งครับ