ดีกว่านะครับ น่าจะมีคนที่มีความรู้ที่จะตอบคุณได้ ผมจะรอเข้าไปอ่านนะครับ
Edited by อานุง อัน รามา, 22 เมษายน พ.ศ. 2555 - 20:17.
ตอบ 22 เมษายน พ.ศ. 2555 - 20:16
Edited by อานุง อัน รามา, 22 เมษายน พ.ศ. 2555 - 20:17.
ตอบ 22 เมษายน พ.ศ. 2555 - 20:25
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 22 เมษายน พ.ศ. 2555 - 20:59
ลูกหลานที่รัก จงจำปฏิปทานี้ไว้ “ถ้ามีความจำเป็นเราต้องเสียสละเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และปวงชนชาวไทย แม้แต่ชีวิตก็ต้องยอม”
ตอบ 22 เมษายน พ.ศ. 2555 - 21:37
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 23 เมษายน พ.ศ. 2555 - 10:31
Edited by ไร้สีไร้กลิ่น, 23 เมษายน พ.ศ. 2555 - 11:07.
ตอบ 23 เมษายน พ.ศ. 2555 - 11:19
ตอบ 23 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:56
....แสดงว่ายังไง คุณ chackrapbong ก้อจะนอนกอดตำราอยู่ใช่ไหมครับ ถ้าอย่างนั้นผมคงไม่คงต้องอธิบายอะไรต่อน่ะครับ
เพราะเวลาที่ผมศึกษาทั้งในพระไตรปิฎก ทั้งจากครูบาอาจารย์ แล้วผมจะน้อมเอาไปปฏิบัติทันทีครับ
ผมจะไม่นั่งคิดเอาเองว่าอันนั้นถูกอันนี้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้
อย่างเช่นครูบาอาจารย์บอกว่า...พวกคุณไปปฏิบัติน่ะ เวลาอารมณ์สมาธิมันเกิดขึ้นอย่างนี้ๆๆมันเป็นแบบนี้ๆๆเรียกว่าอย่างนี้ๆๆน่ะ
ผมก้อสงสัยว่าเอ๋..จะจริงหรือเปล่า ผมก้อน้อมไปปฏิบัติ
อย่างเช่น อารมณ์ ฌาน 4 มันมีอะไรบ้าง
เริ่มตั้งแต่ฌาน 1 ไล่เรื่อยไปจนถึงฌาน 4 เวลาที่เราปฏิบัติไปเราก้อจะเจอครับ อย่างที่ครูบาอาจารย์ท่านบอกทุกอย่าง
เราก้ออ๋อ...มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
เอาแค่อารมณ์ปีติของสมาธิ...คุณอธิบายถูกไหม เวลาที่คุณไปอ่านเจอในหนังสือในตำรา เค้าจะบอกว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
แต่เวลาที่น้อมนำมาปฏิบัติแล้วมันมาก มากกว่าที่เค้าอธิบายอีกครับ ฉะนั้นครูบาอาจารย์ท่านถึงบอกว่าปัญญาที่เกิดจากเวลาปกติ
กับปัญญาที่เกิดจากสมาธิ มันต่างกันมาก มากจนคุณคาดไม่ถึงเลยครับ ยิ่งอารมณ์สมาธิละเอียดมากเท่าไหร่ ปัญญาก้อจะเฉียบคม
มากยิ่งขึ้น
อันนี้คือสิ่งที่ผมทำอยู่ตลอดเวลาครับ
น่ะครับ ผมไม่ถนัดเรื่องการท่องจำจากพระไตรปิฎกหรอก ส่วนมากถ้าผมไม่รู้อันไหนผมก้อจะค้นคว้าจากตำรา
หรือไม่ก้อถามผู้รู้...จากนั้นก้อเอามาทำเลย
กัมมัฎฐาน 40...ศึกษาให้ละเอียดครับ
จริตต่างๆ...ก้อควรจะดูด้วย อย่าเก่งแต่ในตำราครับ ถ้าไปเจอผู้รู้จริงๆเราจะกลายเป็นคนโง่ในสายตาเค้าทันที
เพราะ...จะกลายเป็นเถรใบลานเปล่า....ทันทีครับ
เออ..ขอโทษน่ะครับที่ต้องยกเอาตัวเองมาอธิบายทุกทีเลย...คุณลองไปศึกษาประวัติหลวงตามหาบัวน่ะครับ
หรือไม่ก้อหลวงปู่หลวงตา ครูบาอาจารย์ต่างๆ หลายๆองค์จะพบว่าท่านเอาชีวิตเข้าแลกครับท่านถึงได้คุณธรรมอันยิ่งนั้นมา
บางองค์ถึงกับเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดด้วยซ้ำไป
ผมยังไม่เจอองค์นั่งอ่านตำรา เกาะตำราแล้วแล้วบรรลุสักองค์เลย แหะๆ...หรืออาจจะมีก้อไม่รู้เนอะ
(ถ้าจะเอาตำรามาคุยกัน...ผมขอยอมแพ้ครับ)
ออ...ผมจบนักธรรมเอกครับ...ส่วน ปธ. ผมไม่ขอบอกน่ะครับ...
ขอขมาโทษทุกท่านน่ะครับ หากว่าเยอะไป.....
Edited by ter162525, 23 เมษายน พ.ศ. 2555 - 14:12.
ตอบ 23 เมษายน พ.ศ. 2555 - 17:56
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 23 เมษายน พ.ศ. 2555 - 17:59
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 24 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:33
Edited by ไร้สีไร้กลิ่น, 24 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:54.
ตอบ 24 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:48
ส่วนคุณ chackrapbong ผมตอบแล้วนะครับ หลักฐานยืนยันของผม คือ พระปัจวัตคีย์ ทั้ง 5 พวกท่าน ไม่ได้ศึกษา แต่มีเพียงผู้ชี้ทางเท่านั้น
ส่วนคำถามผม ตอบหน่อยได้ไหมครับ ว่า คุณจะเชื่อแผนที่นั้นได้หรือไม่ถ้ามันบอกว่าจะไม่มีใครไปถึง จุดหมาย แค่นี้ครับ
Edited by ter162525, 24 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:50.
ตอบ 24 เมษายน พ.ศ. 2555 - 13:30
Edited by ไร้สีไร้กลิ่น, 24 เมษายน พ.ศ. 2555 - 14:10.
ตอบ 24 เมษายน พ.ศ. 2555 - 17:36
…..นายครับ ผมออกจากบ้าน มานานแล้วครับนาย…..
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 24 เมษายน พ.ศ. 2555 - 17:37
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 24 เมษายน พ.ศ. 2555 - 21:03
Edited by ไร้สีไร้กลิ่น, 24 เมษายน พ.ศ. 2555 - 21:05.
ตอบ 24 เมษายน พ.ศ. 2555 - 21:52
-มาถึงบรรทัดนี้ ขอคุยแบบเพื่อนคุยกัน แล้วคุณจะรู้ว่า ผมไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดเอง ไม่เคยออกจากบ้าน
/พระสงฆ์ องค์เจ้าผมไม่ขอบอกที่ใหน เพราะไม่สำคัญไปกว่าคำสอนของพระพุทธเจ้า
/ผมเกือบถูก รีไทร์ ตอนปีสอง เพราะสนุกกับชีวิตนักศึกษา กลางคืน กินเหล้า เล่นดนตรี
ต้องได้ A เท่านั้น ในวิชาเศรษฐกิจเปรียบเทียบ (มี multiple choice เพียง วิชาการใช้ห้องสมุด )
วิ่งไปหา adviser ขอความช่วยเหลือ ถูกปฎิเสธ แต่ให้สิทธิอธิบายปากเปล่า ได้เพิ่มเติม
ผมรอดมาได้ ไม่ไช่การ กาผิด กาถูก ทุกเรื่องต้องอธิบายได้
ที่อยากจะบอกแบบเพื่อนบอกเพื่อนคือ…..นายครับ ผมออกจากบ้าน มานานแล้วครับนาย…..
Edited by ไร้สีไร้กลิ่น, 24 เมษายน พ.ศ. 2555 - 22:06.
ตอบ 24 เมษายน พ.ศ. 2555 - 22:41
คงไม่เป็นการกลืนน้ำลายตัวเองที่ต้องออกมาตอบอีกครั้งเพราะเหมือนจะชี้ตรงมาให้ผมตอบอีก
ด้วย 3 เหตุคือ
-ปัญหา วน loop หลายๆที่ ผมได้แสดงความเห็นไปแล้วก็นำมาถามซ้ำ
-ไม่นำสาระสำคัญมาพิจารณา มุ่งตีความ เหมือนนักอักษรศาสตร์ ซึ่งผิดไปจากเป้าหมายที่เราตั้งไว้
ว่าเป็นไปเพื่อความเห็นถูก แลกเปลี่ยนควมเห็น เกื้อกูลกันในทางธรรม
......
Edited by ไร้สีไร้กลิ่น, 24 เมษายน พ.ศ. 2555 - 22:53.
ตอบ 24 เมษายน พ.ศ. 2555 - 23:24
พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นตรัสคาถานี้แล้ว
จึงรับสั่งถามพระอานนทเถระว่า ดูก่อนอานนท์
ภิกษุทั้งหลายถูกคำว่าเย้ยหยันอย่างนี้แล้วพูดอย่างไร.
กราบทูลว่า มิได้พูดอะไรเลย พระเจ้าข้า.
ตรัสว่า ดูก่อนอานนท์ เราเป็นผู้มีศีลมิใช่หรือ
เพราะฉะนั้นควรนิ่งในเรื่องทั้งหมด
แม้รู้อยู่ก็ไม่พูด เพราะคนพาลกับบัณฑิตเข้ากัน ไม่ได้.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต
เล่ม ๑ ภาค ๖ - หน้าที่ 715 อรรถกถาทุฏฐัฏฐกสูตร
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 24 เมษายน พ.ศ. 2555 - 23:30
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 25 เมษายน พ.ศ. 2555 - 09:13
ผมยกมาให้ดูตั้งแต่ rep# 50- 51- 100
จนถึงตอนนี้ rep# 218
แล้วคุณก็ยังจะมาตีความ
ตามสบายเลยครับ เล่นกับจินตนาการต่อไปด้วยการตีความเอง เพื่อสนับสนุนเหตุผลคัวเอง
ผมคงทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้วครับ
ตอบ 25 เมษายน พ.ศ. 2555 - 09:37
Edited by ไร้สีไร้กลิ่น, 25 เมษายน พ.ศ. 2555 - 10:49.
ตอบ 25 เมษายน พ.ศ. 2555 - 11:03
Edited by ไร้สีไร้กลิ่น, 25 เมษายน พ.ศ. 2555 - 11:06.
ตอบ 25 เมษายน พ.ศ. 2555 - 13:01
ผมตอบให้คุณแล้ว นะครับแต่ของผมคุณไม่ตอบ เลย
ส่วนคุณไร้สีไร้กลิ่น ผมเห็นว่าในพุทธวจนะ นั้นน่าอ่านมากกว่าพระไตรปิฏก เพราะว่า พระไตรปิฏก พึ่งจะมีการจดบันทึกเมื่อประมาณ 500 ปีหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพาน และตลอดมาจนบันทึก ใช้วิธี จดจำ เอาแล้วยังมีการอธิบายตามความรู้หรือความนึกคิดของผู้บันทึกซึ่งเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเข้าใจถูก สัญญาไม่เที่ยง ครับ แม้แต่พระอรหันต์ที่ครองขันต์อยู่ก็ตาม แค่เกมกระซิบข่าวก็พอครับ ไม่เกินชั่วโมง ข่าวเปลี่ยน แค่ 5ทอด เท่านั้น ไม่งั้นจะมีนิกายนั้นนิกายนี้หรือ ผมถถึงว่าพระพุทธวจนะ น่าอ่านมากกว่าเพราะสิ่งที่พระพุทธเจ้าพูด คำพูด อาจจะบิดเบียงนิดหน่อยแต่ถ้าเราทำความเข้าใจประกอบจะรู้ได้
ตอบ 25 เมษายน พ.ศ. 2555 - 14:31
ตอบ 25 เมษายน พ.ศ. 2555 - 15:33
Edited by ไร้สีไร้กลิ่น, 25 เมษายน พ.ศ. 2555 - 15:57.
ตอบ 25 เมษายน พ.ศ. 2555 - 20:41
ตอบ 25 เมษายน พ.ศ. 2555 - 22:01
ตอบ 26 เมษายน พ.ศ. 2555 - 15:41
(คัดลอกมาจาก กรณีวัดธรรมกายตีความพระไตรปิฎกเรื่อง นิพพาน อนัตตา เป็น อัตตา)
ทรรศนะของพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตโต) ที่มีต่อพระไตรปิฎก
ธรรมและวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงและบัญญัติไว้ ไม่ใช่ธรรมและวินัยที่ใคร ก็ตามจะมาอ้างว่าตนได้รู้ได้เห็น จากการปฏิบัติของตน หรือจากญาณหยั่งรู้ของตน เพราะธรรม หรือวินัยที่บุคคลนั้นเห็นก็เป็นธรรมหรือวินัยของผู้นั้น ไม่ใช่ธรรมหรือวินัยของพระพุทธเจ้า ธรรมและวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงและบัญญัติไว้เท่าที่เก็บรวบรวมมาได้ มีอยู่ในพระไตรปิฎก คือ พุทธพจน์ใน พระไตรปิฎกนั้น รวมมาได้และรักษาไว้ได้เท่าไร ก็มีเท่านั้น พระพุทธพจน์ในพระไตรปิฎกเป็นองค์แทนของพระพุทธเจ้า ที่ จะตัดสินคำสอน การปฏิบัติ และผลการปฏิบัติในพระพุทธศาสนา จึงมีความสำคัญสูงสุด และเราก็มีพุทธพจน์ที่แสดง ธรรมและวินัย ของพระพุทธองค์อยู่เท่านั้น กับที่ท่านนำจากพระไตรปิฎกไปอ้างอิงไว้ในคัมภีร์อรรถกถาเป็นต้น จะหาที่อื่นไม่ได้แล้ว เพราะ ฉะนั้น พระอรหันต์สาวกและพระเถราจารย์ตลอดมาทุกรุ่นจึงถือเป็นหน้าที่สำคัญสูงสุด ที่จะรักษาพระไตรปิฎก ไว้ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ไว้อย่างดีที่สุดเท่าที่ท่านจะทำได้ เมื่อใดพุทธพจน์ในพระไตรปิฎกหมดไป ก็ต้องยอบรับความจริงว่า เมื่อนั้นมาตราฐานของพุทธศาสนาได้หมดสิ้นไปแล้วEveryone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 26 เมษายน พ.ศ. 2555 - 16:30
ลูกหลานที่รัก จงจำปฏิปทานี้ไว้ “ถ้ามีความจำเป็นเราต้องเสียสละเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และปวงชนชาวไทย แม้แต่ชีวิตก็ต้องยอม”
ตอบ 26 เมษายน พ.ศ. 2555 - 16:41
ปล.2 นึกไม่ถึงว่าพระไตรปิฎกที่เป็นหลักแก่พุทธศาสนิกชน เป็นสิ่งที่ช่วยต่ออายุพระศาสนา จะกลับกลายเป็นดาบสองคม ให้คนไม่รับรู้ความเป็นจริง เพิกเฉยต่อพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบได้ แต่จริงๆจะโทษหนังสือก็ไม่ถูก โทษอวิชชาดีกว่าที่ทำให้เราต้องมาเวียนว่ายตายเกิดกันอยู่แบบนี้
ตอบ 26 เมษายน พ.ศ. 2555 - 16:59
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
ตอบ 26 เมษายน พ.ศ. 2555 - 17:08
ผมกลับมองว่า การเชื่ออะไรอย่างไม่ลืมหูลืมตานั้นเป็นอันตรายมาก ไม่ว่าอ่านอะไรก็ตาม คนอ่านมีหน้าที่ "พิจารณา" สิ่งที่ตัวเองอ่าน ถ้าข้อความนั้นกล่าวถึงสิ่งที่เหนือกว่าความรู้ หรือความสมารถของตนเอง ถ้าผู้อ่านต้องการพิสูจน์ข้อความน้ัน ก็มีหน้าที่ปฏิบัติ เพื่อให้เห็นว่า ข้อความนั้นจริงหรือไม่
พระไตรปิฎกเองก็ไม่พ้นกฏข้อนี้ สำหรับผม ข้อความไดๆที่ผมเห็นว่าไม่สามารถตัดสินได้เอง ผมก็ปล่อยไว้ ไม่ได้ตัดสินว่าถูกหรือผิด ถ้าปฏิบัติไม่ถึงขั้น ข้อความต่างๆนั้นผมเชื่อว่าไม่มีทางเข้าใจได้เลยครับ บางทีเรานึกว่าเข้าใจ อย่างอนัตา ความว่าง ความไม่เที่ยง แต่พอเจอความทุกข์หนักๆเข้าไป ผมถึงได้รู้ตัวว่าผมไม่ได้เข้าใจอะไรจริงๆเลย ดังนั้นการอ่านพระไตรปิฎก(หรือหนังสือธรรมะไดๆ)แล้วมานั่งตีความ ว่าข้อความนั้นหมายถึงอย่างนั้น หมายถึงอย่างนี้โดยภูมิธรรมยังต่ำอยู่ ผมคงไม่ทำครับ เพราะเราไม่มีทางรู้เลย ว่าสิ่งที่เราคิดเอาเองนั้นจริงหรือไม่??
ตอบ 26 เมษายน พ.ศ. 2555 - 18:11
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 26 เมษายน พ.ศ. 2555 - 23:52
Edited by ไร้สีไร้กลิ่น, 27 เมษายน พ.ศ. 2555 - 09:31.
ตอบ 27 เมษายน พ.ศ. 2555 - 11:42
ผมเคารพวิธีคิดคุณ gop ครับ
และยอมรับเหตุผลที่ว่ามาดี และควรรับฟัง
แต่ถ้าใช้วิธีเดียวกัน วัดพระธรรมกายก็คงไปตัดสินเค้าไม่ได้ กรณีการเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
ว่าผิด หรือ ถูก เพราะต้องขึ้นอยู่ว่าคุณปฎิบัติได้ถึงจริงแล้วหรือ เพราะพระไตรปิฎกก็ไม่พ้นไปจากข้อนี้
ถ้าจะสรุปกันในบรรทัดนี้ ผมทำได้แค่นี้ครับ และจะตรวจสอบวิธีคิดของตัวผมเองด้วย
ขอบคุณที่ให้ข้อคิดที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาตัวเอง
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
ตอบ 27 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:03
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 27 เมษายน พ.ศ. 2555 - 15:07
ตอบ 27 เมษายน พ.ศ. 2555 - 15:31
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 27 เมษายน พ.ศ. 2555 - 16:55
Edited by ter162525, 27 เมษายน พ.ศ. 2555 - 17:37.
ตอบ 27 เมษายน พ.ศ. 2555 - 17:35
ปล. เรื่องจิตมีหรือไม่มีตัวตน เกิดดับยังไงผมคงไม่กล้าให้ความเห็น เพราะยังไม่เคยภาวนาจนเห็นจิตเลย แต่ถ้ามองว่าจิตก็คือผู้รู้ ความคิดของแต่ละคนมีอยู่จริงแต่ความคิดนั้นไม่มีตัวตนให้สามารถมองเห็นกันได้ด้วยตาเนื้อ (ส่วนที่เค้าเห็นกันเป็นแสงสว่างจ้านั่นก็คงเหมือนเหมือนเราเห็นแสงแดด จะบอกว่าแสงแดดมีตัวตนก็คงไม่ใช่ แต่แสงแดดก็มีอยู่จริง) ในแต่ละนาทีหรือแม้แต่วินาทีเราสามารถคิดได้เป็นร้อยเรื่อง แต่ละครั้งที่คิดเรื่องหนึ่งก็คือจิต(ผู้รู้)เกิดขึ้น พอหยุดคิดก็คือจิตดับลง พอคิดใหม่จิตก็เกิดขึ้นอีก แบบนั้นรึเปล่า ??
Edited by ter162525, 27 เมษายน พ.ศ. 2555 - 17:38.
ตอบ 27 เมษายน พ.ศ. 2555 - 17:49
Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 27 เมษายน พ.ศ. 2555 - 17:50.
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน