แกนนำนปช...."อย่าเป็นวัวลืมตีน"
โดย....นิติพันธุ์ สุขอรุณ
แนวทางการปรองดองเวลานี้เป็นเป้าหมายหลักของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประกาศไว้ หลังจากปราศรัยต่อหน้าคนเสื้อแดง ณ เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ยืนยันต้องการกลับไทย พร้อมวาทกรรม “ใครขวางปรองดองช่างแม่มัน”
ทว่า คราบน้ำตาของคนอีกกลุ่มที่เรียกร้องให้นำคนผิดมาลงโทษ นำโดย พะเยาว์ อัคฮาด แม่ของ น.ส.กมนเกด หรือ “น้องเกด” พยาบาลอาสาสมัครที่ถูกยิงเสียชีวิตภายในวัดปทุมวนาราม ในช่วงกระชับพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เธอประกาศก่อนหน้านี้ “ไม่ขอปรองดองด้วย ถ้ายังหาคนผิดมาลงโทษไม่ได้” จน พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ที่กัมพูชา เรียกร้องอีกครั้งให้แม่น้องเกด ก้าวข้ามความขัดแย้งให้ได้ เลิกเอาผิดต่อกัน เพื่อการปรองดองของชาติ
ณัทพัช อัคฮาด หรือ “กันต์” น้องชาย น.ส.กมนเกด เปิดใจกับโพสต์ทูเดย์เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ด้วยท่าทีอึดอัดใจต่อฝ่ายเพื่อไทยที่บีบบังคับการปรองดอง
ณัทพัช
“หัวเด็ดตีนขาดยังไงผมก็ไม่เห็นด้วยกับการปรองดองแน่นอน การที่คุณทักษิณบอกว่าคนเสื้อแดงบางส่วนต้องยอมเสียสละ พูดอย่างนี้ไม่ถูก ผมว่าเสียสละคนในครอบครัว 1 คนเป็นการเสียสละที่มากเกินไปแล้ว ต้องถามกลับว่าปรองดองใครได้ประโยชน์ เวลานี้นักการเมืองคิดถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักหรือเปล่า ที่ผมเสียใจแล้วคัดค้านการปรองดองก็เพราะว่า เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นมันมาจากนักการเมืองทั้งนั้น ใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือสุดท้ายเขาจะปรองดองกันเอง แล้วประชาชนที่ยืนอยู่ข้างเขามาตลอดล่ะ”
ณัทพัช บอกว่า เขาก็อยากได้การปรองดองเหมือนกัน แต่ระหว่างประชาชนกับประชาชน ที่ความยุติธรรมบังเกิดแก่ผู้เสียชีวิตแล้ว มีการลงโทษผู้กระทำความผิด จากนั้นจะนิรโทษกรรมก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ขั้นตอนขณะนี้ มันกระโดดข้ามไปเป็นการนิรโทษกรรมอย่างรวดเร็ว
“รัฐบาลมีเสียงส่วนใหญ่ในสภา เวลาดันกฎหมายนิรโทษกรรมยังไงมันก็ผ่านอยู่แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นต่างฝ่ายต่างบอกว่าตัวเองไม่ผิด ฝ่ายหนึ่งบอกไม่ได้เผา ฝ่ายหนึ่งบอกไม่ได้ฆ่า สุดท้ายแล้วใครผิดล่ะครับ ถ้าคิดจะทำกันแบบนี้ผมว่ากระบวนการยุติธรรมก็ไม่ต้องมีในประเทศไทย พอฆ่าเสร็จก็นิรโทษไปไม่ต้องให้ใครรับผิด อย่างนี้ง่ายกว่า”
เขาเรียกร้องความชัดเจนจากรัฐบาลเรียงลำดับจากนายกรัฐมนตรี ลงมาจนถึง สส.พรรคเพื่อไทย ให้เร่งค้นหาความจริงให้ปรากฏก่อน
“พี่สาวผมตายไปแล้ว สิ่งแรกที่ผมเรียกร้องคือ เรียกร้องความยุติธรรมให้คนตาย และผมจะไม่ยอมให้ความอยุติธรรมปกคลุมประเทศไทย จะต้องเอาคืนมาให้ได้ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ดังนั้นตราบใดที่ตระกูลฮัคฮาด หรือตัวผมยังอยู่ ไม่มีทางที่นิรโทษกรรมจะเกิดขึ้น เรื่องของคุณทักษิณก็ควรสู้คดีกันไป คุณทักษิณอย่าเอาเรื่องคนตายมาเหมารวม ผมไม่ได้สู้เพื่อทักษิณ การเมืองก็ไม่ได้ยุ่ง พี่สาวผมที่ตายไปเขามีใจบริสุทธิ์เข้าไปช่วยแม้จะเป็นเสื้อเหลือง เสื้อแดง เขาก็เข้าไปช่วยเพียงแต่เขาไปตายที่การชุมนุมของคนเสื้อแดง”
ณัทพัช ถอนหายใจพลางว่า ที่คุณทักษิณ ประกาศบนเวทีที่กัมพูชาว่า ใครขวางปรองดองช่างแม่มันก็ให้เป็นเรื่องของเขาไป แต่ส่วนตัวยืนยันว่า ถ้ารัฐบาลจะเอาปรองดองแล้วนิรโทษกรรมแบบนี้จริงๆ...(นิ่งเงียบสักพัก)...เรา ได้เจอกันแน่
เขาเปิดเผยความรู้สึกในใจว่า เวลานี้ถ้าจะแก้ปัญหาความขัดแย้งจะต้องก้าวข้าม พ.ต.ท.ทักษิณ ไปให้ได้ ไม่ใช่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำอะไรหรือต้องการอะไร แต่ต้องถามกลับว่าประเทศต้องการอะไร ในขณะที่รัฐบาลนี้มีอำนาจในการตัดสินใจ เพราะ 15 ล้านเสียงที่เลือกเพื่อไทยขึ้นมา ข้อแรกคือ เลือกให้มาหาตัวคนผิดว่าใครฆ่าประชาชนที่สี่แยกคอกวัว และแยกราชประสงค์
“แม้ว่ารัฐบาลประชาธิปัตย์ จะมีต้นทุนมาจากการปฏิวัติขึ้นมาเป็นรัฐบาล ขณะที่พรรคเพื่อไทยคุณต้องใช้ชีวิตคนถึง 91 ศพ บาดเจ็บกว่าอีก 2,000 และคนที่ติดคุกอยู่ยังไม่ได้ออกมา จึงจะก้าวขึ้นมาเป็นรัฐบาลได้ ทำให้เห็นว่าต้นทุนทางการเมืองของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยหนักกว่าของพรรคประชา ธิปัตย์เสียด้วยซ้ำ เพราะคุณต้องสังเวยชีวิตของประชาชน พรรคเพื่อไทยต้องรีบหันกลับมาคิดถึงตรงนี้แล้วอย่าให้เหมือนวัวลืมตีน”
ณัทพัช ตั้งคำถามกลับว่า ในจำนวน 91 ศพ ถ้ามีนามสกุลของนักการเมืองหรือแกนนำนอนตายอยู่ข้างถนน อย่างนี้กล้าปรองดองหรือไม่ แต่ในความเป็นจริงมันไม่มี ทั้งที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตนับได้ว่าเป็นขาสำคัญของการปรองดอง นอกจากรัฐบาลและฝ่ายการเมืองหรือองค์กรอิสระแล้ว ไม่ใช่ให้ 7.75 ล้านบาท แล้วจบๆ กันไป ทำอย่างนี้ไม่มีทางจบหรอก
“จะเอาเงินคืนไปก็ได้ผมบอกแล้วว่าผมไม่เอา ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่ได้เงินอะไรและผมก็ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำ” เขาย้ำหนักแน่น
Edited by คนกรุงธน, 19 เมษายน พ.ศ. 2555 - 21:07.