หนุ่มเกาหลีมีแฮงคัก

ขอโทษ อภิสิทธิ์ไม่ใช่ตัวแทนความคิดของผม.

และผมก็ไม่คิดว่าควรจะให้คนปกติไปดีเบทกับโจร

การปฏิเสธเงินบาป 200 ล้านนั้นไม่ยากหรอก มันจะยากอีตรงที่คุณรู้ดีว่าการทำแบบนั้น หมายถึงการพาชีวิตอันน้อยนิดของตัวเอง ไปเป็นศัตรูกับผู้มีอิทธิพล มีเงินทองมากมาย และมีใจบาปหยาบช้ามากพอที่จะผูกเวรผูกกรรมกับคุณและครอบครัวไปอีกนาน และแน่ใจได้ว่าความสงบสุขในชีวิตของเราจะหายไปนับแต่วินาทีนั้น ดังนั้นคนที่ทำได้ ใจต้องนิ่งและหนักแน่นอย่างมาก

...อ่านแต่ละความเห็นแล้ว... เหนื่อยครับ

ถ้าอย่างนั้นก็จงสังหารศัตรูเสียให้สิ้น กำจัดคนคิดต่างให้หมด เพื่อชาติครับ

 

พี่ชายผมกปปส พ่อแม่ผมนปช. ผมคงเลือกไม่ได้หรอก

ใครเค้าถามเรื่องพี่ชาย กับพ่อแม่มืงวะ

หนุ่ยจะคิดยังไงในเรื่องการเมืองผมไม่สน แต่เพลงหนุ่ยโคตรกาก

 

ถ้าคิดจะแหกปากร้องเพลง เอาให้ได้แบบนี้ครับ เสียงไม่เอาไหนช่างมัน แต่ดนตรีเทพไว้ก่อน

 

คนไทย จะให้คน ไร้ราก มากำหนดทิศทาง วางรากฐานประเทศเหรอครับ? ผมตอบให้เลย ไม่มีทาง

พี่ปูแกไม่ชอบทักษิณครับ เหมือนอาหงา หรืออาหมูคาราวาน

แกชัดเจนนะ  แต่แกไม่ได้พูดออกสื่อเหมือนอาทั้ง 2 เท่านั้นครับ

แต่ถ้าตามคำสัมภาษณ์แกบ่อยๆ  จะรู้เป็นนัยเลยว่าแกชัดมากเรื่องนี้

Michael Yon shared a video.

Now: 12 Women plotting to improve Thai rice farming
ตอนนี้: ผู้หญิง 12 คนกำลังวางโครงการพัฒนาการทำนาข้าวของไทย

สุภาพสตรี 12 ท่านสร้างกลุ่มระดับรากหญ้าขนาดเล็ก พวกเธอเรียกว่า ผูกปิ่นโตข้าว (pookpintokao) แนวคิดพื้นๆที่สง่างาม และข้ามอุปสรรคที่เกิดจากรัฐบาล ข้าวปลอดสาร (ข้าวออเกนิค)สามารถที่ให้ราคาสูงขึ้นโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมมาก แต่ชาวนาก็ไม่ต้องการที่จะเสื่ยงเรื่องรายได้ในการเปลี่ยน นอกจากนั้น ชาวนาจำนวนมากก็ไม่มีเงิน

ดังนั้นแนวคิดที่จะจับคู่ ครอบครัวคนกรุงเทพกับครอบครัวชาวนาเฉพาะราย โดยสัญญาว่าจะซื้อข้าวปลอดสาร และ พร้อมใจที่จะช่วยเหลือ พวกเธอยังเชื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคนกรุงเทพกับ ชาวนาและทำลายกำแพงชนชั้นที่ขวางกั้นโดย การจับคู่ครอบครัวกับครอบครัว พวกเธอบอกว่าชาวนาบางคนจะไม่กินข้าวที่ตนเองปลูกเพราะสารเคมี ความคิดที่สง่างามของสุภาพสตรีเหล่านี้ตอบโจทย์ในทุกๆประเด็นด้วยโครงการ เพียงโครงการเดียว

ผมว่าลุงกำนันเขาชนะแล้วนะ เพราะคนในประเทศแสดงตัวว่าไม่เอาเสื้อแดง ไม่เอาเพื่อทุยมากขนาดนี้

มติศาล รธน. ชี้พรบ.กู้ 2 ล้านล้าน ขัดกม.ร่างตกไป-วิรัตน์จ่อชงปปช.ถอดนายก #smsINN

 

 

สาทิตย์ ประกาศสวนลุม ศาล รธน.คว่ำร่างพรบ.2ล้านล้าน เผยทีมกม.ปชป.เตรียมยื่นถอดถอนยิ่งลักษณ์ซ้ำ ชี้ รบ.ผ่านกม.การเงินไม่ได้ควรลาออก #ThaiPBS

แบมือขอเงินรัฐบาลทั้งปี ดันคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ถึงขนาดจะแยกประเทศได้

แยกไปแล้วจะเอาอะไรแดรกมิทราบ 

ถามไม่คิด    คู่มือการปลูกหญ้าเนเปียร์ปากช่อง 1

2 เดือนก็เก็บเกี่ยวได้แล้ว ไร่นึงได้ 10 ตัน สบายๆ นึกว่าจะง้อเหรอ

พี่สาวเป็นหมอฟันใน รพ.ทางเหนือ กลางดงแด๊งแดง แต่หมอๆ เกลียดทักษิณสุดๆ มีนกหวีด ธงชาติ เกือบทุกคน อยู่ไกลไปม็อบไม่ได้ก็ฝากเงินฝากของไปแทน

คุณหมอมีเกียรติในฐานะผู้ช่วยชีวิตมนุษย์  เป็นฐานะที่ใครก็มาช่วงชิง หรือทำให้ตกต่ำลงไปไม่ได้ นอกจากเจ้าตัวจะไม่เห็นค่าความเป็นหมอของตัวเอง

ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนอย่างไร ก็สามารถคงความเป็นหมออยู่วันยังค่ำ ด้วยฐานะอันนี้ทำให้คุณหมอไม่เกรงกลัวอำนาจทางการเมือง ในขณะที่คุณครูทั้งหลาย

มีเกียรติก็จริง แต่คนที่จะเกรงใจก็มีเพียงลูกศิษย์ที่เคยสอนกันมาเท่านั้น อาชีพครูถ้าต้องตกงาน หรือถูกกลั่นแกล้ง จนไม่มีการสอน ไม่มีลูกศิษย์ ความเป็นครูก็ไม่อาจคงอยู่

ยิ่งสายงานมหาดไทยนี่ ยิ่งขึ้นอยู่กับการเมืองใหญ่ ถ้าออกจากราชการ ชีวิตก็ต้องไปเผชิญความยากลำบากกว่าเดิม เพราะพื้นฐานไม่ได้ถูกฝึกฝนมาในด้านธุรกิจการงานอื่น

นี่แหละ ทำให้การแสดงออกของแต่ละอาชีพแตกต่างกันไป

หมอเค้ามีความรู้สึกว่า  ระบอบทักษิณมองว่า  หมอดีๆทำงานเพื่อคนไข้  กลายเป็นไอ้หน้าโง่  ที่มีไว้ใช้งานและส่งส่วยผลประโยชน์เพื่อนักการเมืองเท่านั้น

ไม่ใช่แค่หมอหรอก  เค้ามอง  "คนดี  คือไอ้หน้าโง่  มีไว้ให้หลอกใช้งาน  มีไว้หาผลประโยชน์ "  ทั้งหมดทุกวงการนั่นล่ะ  พวกเค้าสำคัญตนผิดว่าตัวเอง

คือผู้ทำเพื่อประชาชน  ดังนั้น  หมอที่ดี  ก็ต้องทำเพื่อเค้า(เพราะเค้าทำเพื่อประชาชน)  ดังนั้นเค้าจะใช้งานหมอแบบไหนก็ได้  วางกฎเกณฑ์แบบไหนก็ได้

หมอจะเหนื่อย  จะทุกข์ยากลำเค็ญอย่างไร  จะไม่พอใจยังไง  ก็ห้ามบ่น  ห้ามโวยวาย  มิฉะนั้น  แสดงว่าเป็นหมอไม่ดี  ไม่จำเป็นต้องแคร์

 

ปรากฎว่า  ว่าหมอแม่งเหรี้ย  (เนื่องจากต่อต้านระบอบทักษิณ) ทุกโรงบาลเลย  เหรี้ยกันเกินกว่า  90% อีก  อาชีพนี้แมร่งอำมาตย์สุดๆ

ผมว่าความอึดอัด ที่ได้รู้ ได้เห็นสิ่งที่ระบอบทักษิณกระทำต่อวงการแพทย์ หรือแม้แต่ความชั่วช้าที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยก็ส่วนนึงครับ..

แต่ถ้าพูดถึงความ"กล้า" ที่จะออกมา"ท้าชน" กับระบอบทักษิณอย่างที่ จขกท ถาม..ผมว่า น่าจะเกิดจากความพร้อมครับ

คือ พร้อมทั้งปัญญา พร้อมทั้งปัจจัยในการดำรงชีพ และที่สำคัญ ผมว่า อาจเพราะ การเจริญเติบโตทางหน้าที่การงานของหมอ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากฝีมือ ไม่ใช่จากน้ำลาย และการเป็นขี้ข้ารับใช้ครับ..

เพราะหมอเป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับความเป็นความตาย ถ้าไม่เก่งจริง ก็คงเติบโตได้ยากนะ

ส่วนกระทรวง ทบวง กรมอื่นๆ ที่ยังไม่กล้าออกมากันมาก สังเกตดูระดับใหญ่ๆ หลายๆตำแหน่ง สามารถเป็นได้ อย่างมีวันนี้เพราะพี่ให้ ได้ดีเพราะเป็นขี้ข้าก็มีเยอะแยะ

ก็อย่างที่ไอ้คุณ aiaiss2 บอกนะแหละ แม้หัวอาจโตมาได้เพราะรับใช้นาย แต่ถ้าไม่ใช่คนเก่ง คนดีจริง ลูกน้องมันก็ต้องมีอึดอัดกันลับหลังบ้าง แต่ก็คงทำอะไรไม่ได้มาก 

เหตุเพราะด้วยปัจจัยดำรงชีพอย่างที่ว่า ที่หมอมี แต่คนเหล่านี้อาจยังไม่พร้อม ถ้าหากโดนกลั่นแกล้ง ตำแหน่งหน้าที่การงานมันก็คำ้คออยู่ละครับ

แต่ถ้าแก้เรื่องของระบบราชการ ให้เป็นอิสระจากระบบการเมืองได้ คนสามารถเติบโตได้ด้วยความสามารถจริงๆ เมื่อนั้น..ผมเชื่อว่า การต่อสู้ กับ ทรราช กับการทุจริต ก็น่าจะสมน้ำสมเนื้อ และทำได้ดีกว่านี้ครับ..

เอากันชัดๆก็ต้องรอคุณหมอมาตอบเองนะครับ

 

แต่เท่าที่ผมสัมผัสมา (พี่ชายกับพี่สะใภ้ผมเป็นหมอทั้งคู่)

 

นโยบาย 30 บาท ที่นักการเมืองหาเสียงว่าเป็นความสำเร็จ

 

เบื้องหลังความสำเร็จบรรดาหมอๆเหนื่อยกันเลือดตากระเด็นครับ

 

 

คือถ้าหมอทั้งหลายไม่ร่วมแรงร่วมใจกัน  นโยบายนี้ก็เจ๊งแน่

 

ทว่าพอนโยบายเดินต่อไปได้   เห็นผลเป็นรูปธรรม

 

ทักษิณกลับเอาหน้าคนเดียว  ไม่เคยให้เครดิตหมอเลย

 

 

รายหัวก็บีบ  ทว่าความรับผิดชอบก็มากขึ้นเรื่อยๆ

 

ถ้า รพ.บริหารจัดการไม่ดีนี่ไปไม่รอดหรอกครับ

 

ทว่าคนเราได้ร่ำเรียนเป็นหมอ  เขาก็มีสติปัญญาดีกันทั้งนั้น

 

เรื่องยากมันก็เลยพอทำได้

 

 

และแล้วรัฐก็มาริเริ่มระบบให้คะแนน  ระบบที่ต้องแข่งกันทำแต้มกับผู้ป่วย

 

ตรงนี้หมอดีๆเขารับไม่ได้กันครับ

 

หมอดีๆเขาให้เวลากับคนไข้  เขาไม่ต้องการมาแข่งกันเก็บสกอร์

 

 

อีกทั้งหมอเขาก็รู้สึกนะครับว่า  เขาบริหารจัดการงบกันแทบตาย

 

แต่นโยบายประชานิยมอย่าง  จำนำข้าว กลับใช้เงินกันอีลุ่ยฉุยแฉก

 

โกงกันสะบัด  แต่คนที่เหนื่อยกลับเหนื่อยหนักเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้คนขี้โกง

 

เรื่องน่ารังเกียจแบบนี้  สังคมที่มีประสิทธิภาพจะตื่นรู้ก่อนครับ

 

แพทย์ทั้งหลายเขาก็เลยค่อนข้างพร้อมเพรียงกัน

 

 

แต่ส่วนสังคมอื่นๆเขายังไม่รู้สึกตัวกันเท่าไหร่

 

เป็นเรื่องปรกติครับ  โลกนี้มีคนโง่มากกว่าคนฉลาดเสมอ

 

ขออนุญาตสนับสนุนความคิดของพี่คลำปมครับ แฟนผมเป็นหมอก็เล่าให้ฟังคล้ายกับที่พี่ชายของคุณคลำปมเล่าให้ฟังครับ