beta

ขอความเห็นจากมุมมองของท่าน ที่เคยสัมผัสเสื้อแดงในชนบทจริงๆ

 

หากจะถามว่าคัดค้านเลยมั๊ย โดยส่วนตัวกระผมเองยังไม่ถึงกับคิดที่จะคัดค้านเต็มร้อย เพราะหากเงินที่รัฐบาลกู้มาแล้วนำมาพัฒนาประเทศจริงๆ กระผมว่าประโยชน์มันก้อจะเกิดกับประเทศชาติอยู่นา ส่วนความคิดที่ค้านก้อคือกลัวว่ากู้มาแล้วจะเอามาถลุงโกงกินมูมมามจนพุงกางกันนะสิครับ นั่นแหล่ะคือสิ่งที่น่ากลัว ก้อคงต้องรอความหวังทางฝ่ายค้านละครับว่าจะหาแนวทางตรวจสอบรัฐบาลอย่างไรให้เงินที่กู้มาใช้ประโยชน์ได้เต็มที่โดยไม่มีการโกงหรือหากโดนโกงกินก้อขอให้น้อยที่สุด................

อ่านเพจสมศักดิ์ เจียมฯแล้ว ความคิดชั่วร้ายเข้าจู่โจมทันที ถ้าเพียงเสี้ยวแวป เข้าสู่ด้านมืดได้เลยทีเดียว

ความคิดชั่วร้ายที่ว่า คือ

"อยากให้รางวัลใครก็แล้วแต่ หนึ่งล้านบาท ช่วยทำให้หงอกเจียม และ แว่นวรเจตน์ สาปสูญไปจากแผ่นดินนี้ที"

แต่นั่นก็เป็นความคิดชั่วร้าย กลัวว่าถ้าอ่านเพจนั้นต่อไป คงไม่วานใครจัดการแล้ว คงจะลุกไปจัดการด้วยตัวเอง

เห็นไหม แค่นิดเดียวถลำเข้าด้านมืด จะเป็น ฆาตกรได้ไม่รู้ตัว

ปล. เอ......ถ้าผมทำไปเกิดเขาขอนิรโทษกรรม หรือ มี พรบ.ปรองดองออกมา ผมจะได้ผลพลอยได้ไปด้วยไหมนะ

คือจริงแล้วผมยังอยู่ในครอบครัวใหญ่ครับ

อยู่กันหลายคน โดยปลูกบ้านติดต่อกับหลังใหญ่หลายหลังแต่ทุกหลัง มันก็อยู่บนเนื้อที่ของ คุณปู่ ซึ่ง

นั่นก็คือพ่อของผมเองนี่แหละ

แต่เดิม ปู่ เป็นคนสร้างบ้านหลังนี้ครับ

ส่วนบ้านที่ปลูกติดๆกันตามมาหรือแม้แต่ลูกๆผม หลานๆผมที่ปลูกห่างออกไปจากบ้านหลังนี้ทุกคนแต่เดิมนั้น

ก็เคยอยู่ที่บ้านหลังนี้ทั้งหมดอยู่ดี

ก่อนหน้าที่ ทั้งผม ทั้งลูกทั้งหลานผมเกิมาแม่ก็ไม่ได้คลอดแผ่นดินหรือบ้านออกมาด้วย

ก็ต้องอาศัยบ้านหลังนี้ไปก่อน

เมื่อหลายคนอยู่ดีมีแรงแล้ว ก็แยกออกไปไม่ว่ากัน แต่จะแยกยังไงก็ยังคงอยู่บนแผ่นดินของปู่ อยู่ดี

ปู่ จะได้ที่ดินนี้มาอย่างไรผมไม่รู้มากนัก

รู้ต่อๆกันมาว่า ปู่ของปู่ บรรพบุรุษของปู่ ใด้ปกป้องแผ่นดินนี้มาด้วยเลือด เนื้องของเขาเอง

ปู่ เป็นคนหลักคนใหญ่ของบ้านหลังนี้ ทุกคนจึงให้ความเคารพ รวมไปถึงหมู่บ้านข้างและหรือ บ้านข้างๆหลายหลัง

มาวันนี้ เมื่อมีคนบางคน เริ่ม อยู่ดีมีแรง ปีกกล้า ขาแข็งเดินเองได้ อยากจะด่าปู่ผม

อยากจะดูหมิ่มปู่ผม อยากจะให้ปู่ ซึ่งเลี้ยงผมมา เป็นเหมือนลูกหลานที่ ตีได้ ด่าได้ เตะได้

ไปนั่งพูดอยู่ศาลากลางบ้านป่าวๆอยู่เช่นนั้น

ทั้งๆที่ปู่ ไม่เคยไปนั่งต่อล้อต่อเถียงชายคนนั้นเลย

ทั้งๆที่ปู่ ไม่เคยไปยุยงให้ลูกๆ หลานๆของผมเผาบ้าน เผาเมือง ยุให้ตีกัน ทะเลาะกันเองเลย

ปู่ สอนให้ผม ประหยัด รู้จักประมาณในการครองเรือน รู้จักประมาณตน ในการปกครองคน รู้จักผิดชอบ ชั่ว ดี 

มาวันนี้ อ้าง อยากให้บ้านใหญ่หลังนี้ เป็นเหมือนบ้านหลังนั้น หรือหลังโน้น

ทำไมคุณ ไม่ไปอยู่บ้านหลังที่อยากอยู่ละครับ มาอยู่บนผืนแผ่นดินของปู่ทำไม

คุณรู้ไหม ช่วงที่คุณพูดอยู่นั้น ผม ในฐานะที่เป็นลูกของปู่ ผมอยากจะถีบคุณ ให้หงายท้องตกเก้าอี้ไป

คุณ เป็นถึงอาจารย์ คุณรู้จักคำว่า ประชาธิปไตยดีแค่ไหน?

คุณลำบากใจมากกับคำคม ลำบากมากกับโอวาทของคนหลักคนใหญ่ที่ออกมาตักเตือนลูก-หลานอยู่บ่อยๆ คุณก็ไปโดดลงบ่อจรเข้สามพรานซะสิ เผื่อชีวิตของคุณจะมีค่าขึ้นมาบ้างสักนิด

คุณรู้ไหม อาจารย์อยา่งคุณ ค่าของคความเป็นคนอย่างคุณผมมองว่า

ลูกหมาบางแก้ว ยังมีค่ามากกว่าเยอะแยะ

เปรียบเทียบได้ไม่ยาก

ลูกหมาบางแก้ว คุณ นำมันมาเลี้ยงข้าวเพียง10วัน มันจะรู้จักบ้าน เฝ้าบ้านได้

มันจะเห่าคนอื่นเพื่อนเตือนเจ้าของหรือเข้าไกล้บ้านหรือพื้นที่ของเรา

เพียงสิบวันนะครับ

แล้วชีวิตของคุณ ที่อาศัยบ้านปู่ที่คุณก่นด่าแบบ ตีวัวกระทบคราดอยู่เนืองๆนั่นน่ะ คุณอาศัยแผ่นดินของปู่มากี่สิบปีแล้ว

คนอย่างคุณ มันมีค่าน้่อยกว่าหมาจริงๆ

มีค่าน้อยกว่าลูกหมามากนัก

สิ่งที่คุณทำได้ตอนนี้คือ อย่าทนอยู่บนผืนแผ่นดินนี้ครับ

ชีวิตคุณมันไม่มีค่าเลย

อย่าไปโดดให้รถชนนะครับ เดี๋ยวชาวบ้านเขาจะเดือดร้อน

ให้โดนลงบ่อจรเข้ หรือให้,ลูกหลานท่าน นำไปฝังไต้ต้นไม้เป็นปุ๋ยก็ได้ ยังพอมีประโยชน์บ้าง

ปล

อย่ามาด่าปู่ให้ผมเห็นะครับ

หากผมเห็น ผมก็จะด่าคุณอีก

หากข้องใจ ก็ติดต่อกลับมา

ผมพร้อมเสมอ

ผมเข้าใจลุงแกนะครับ

สมัยก่อนผมก็ไม่ชอบพรรคปชป. เพราะรู้สึกว่าคนในพรรค "มาจากชนชั้นสูง การศึกษาสูงทั้งนั้น"  

คนละเรื่องกับชนชั้นผม คือชนชั้นกลางระดับล่างที่หาเช้ากินค่ำ พ่อขับแท็กซี่ แม่รับราชการ

 

นั่นคือภาพลักษณ์สูงส่งที่ปชป.แก้ไม่ได้

พอมาเจอ "มหาเศรษฐีขี้ฉ้อ" ที่ทั้งชีวิตตัวเองก็ทำตัวศักดินามาตลอด ไม่เก่งอะไร แต่อาศัยใช้ปากหลอกคนอื่นไปวันๆ

มาทำตัว "เข้าถึงรากหญ้าและคนจน" ขึ้นมา  ชนชั้นล่างก็หลงคารมเศรษฐีขี้ฉ้อไปได้อย่างง่ายๆ

 

 

ปชป.มาได้ใจผมจริงๆคือช่วงล้มประชุมอาเซียน เผาบ้านเผาเมืองครับ

ผมเห็นข้อเปรียบเทียบชัดเจนมากระหว่างนักการเมืองที่ "ปากพร่ำบอกว่าทำเพื่อรากหญ้า ลุยๆ จริงใจ"

กับรัฐบาล "เด็กสองคน" ที่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานแก้ไขปัญหาวิกฤตชาติแบบไม่ได้เงยหัว

เห็นกำนันปริญญาอย่างเทพเทือกที่ออกหน้ารับแทนนายก และไม่เคยทิ้งนายกเลย

เห็นคุณกรณ์มุ่งมั่นเอาจริงเอาจังกับหนี้นอกระบบและ "ไมโครไฟแนนซ์"(การปล่อยกู้ให้พ่อค้าแม่ขายตัวเล็กๆ)

แบบที่พรรคเศรษฐีขี้ฉ้อไม่เคยคิดจับ (เพราะมันเสียผลประโยชน์)

ผมเริ่มมองปชป. "มุมมองใหม่"

 

คนที่เรามองว่าศักดินาสุดๆ กลับกลายเป็นนักสู้ตัวฉกาจ  ลงมาคลุกวงใน เจอเรื่องร้ายแรงแต่ละทีก็ไม่เคยหนีหาย  ใจสู้โคดๆ

ผมก็เลยไม่ได้มองปชป.ว่าศักดินาอีก

 

เพียงแต่ภาพลักษณ์เดิมที่คนไม่เข้าใจและยังแก้ไม่ได้ บวกกับเสียงยุงยงปลุกปั่น ทำให้ดูว่าพรรคปชป.ไม่ใช่พรรคของรากหญ้า

อันนี้ฝ่ายมวลชนของพรรคก็ต้องรับหน้าที่แก้ไปครับ

ถ้าอยากรู้เคล็ดลับ "กระชับและฟิต"
แนะนำให้ไปถามวิศวกร 15,000 ผู้เชี่ยวชาญและตำนานแห่งการขมิบตูดประจำเสรีไทยครับ

ทำไมประชาชนผู้รักชาิติ จึงไม่ให้การยอมรับคนที่หนีทหาร และ สั่งฆ่าประชาชน

นั้นสิ สั่งฆ่าคนเป็น ร้อยที่กรือเซะและตากใบ แต่หนีทหารเสียงั้น

ทำไมประชาชนผู้รักชาติ จึงไม่ให้การยอมรับพรรคการเมืองเก่าแ่ก่ที่อยู่ตรงข้ามกะฝ่ายประชาธิปไตย

นั้นสิ ักชาติจนเผาบ้านเมืองตัวเอง จนทำลายประชุมอาเซียน ฯลฯ
เขารักชาติจริงๆแหละ

ทำไมผลไม้พิษ และ กระบอกปืน จึงเป็นที่เกลียดชัง ของประชาชนผู้รักชาติทั้งประเทศ

นั้นสิ ไม่รู้นะไปถามไอ้ปื้ดสิ กระบอกปืนที่มันยิงจ่ายิ้ม จะกระเทือนถึงลูกหลาน ปู่พ่อมันไหม?

ผมว่างานวิจัยชิ้นนี้คำถามมันอยู่คนละไฟลั่มเลยนะครับ
เอามาถามให้เลือกตอบแบบนี้ไม่ได้พิสูจน์อะไร ลองมาพิจารณากันดูนะครับ

1. ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ยอมรับเงินจากผู้สมัครแต่ไม่เลือกผู้สมัครรายนั้น ถึงร้อยละ 46.79
นี่คือกลุ่มที่รับเงินแต่ไม่ไปเลือก เพราะไม่ใช่เบอร์ที่ตั้งใจไว้
แล้วถ้าเป็นเบอร์ที่ชอบอยู่ให้เงินแล้วจะรับหรือเปล่า?
(คงรับมั้ง ขนาดไม่ชอบก็ยังรับ)
แต่ว่ารับแล้วจะเลือกไหมล่ะ พรรคที่ชอบเขาซื้อเสียงนี่? รับได้เหรอ?

2. ที่ตอบว่าแม้ไม่ได้รับเงินก็จะเลือก มีร้อยละ 48.62
อันนี้ว่าแม้ไม่ได้รับเงินก็จะเลือก
แล้วถ้าได้รับล่ะก็คงยิ่งจะเลือกงั้นสิ (ใช่ไหม?)
ฐานนี้มันแยกจากฐานข้างบนได้ยังไง
คือเหมือนข้างบนรับของแจกน้ำท่วมแม้นว่าจะไม่ได้ใช้
ข้อนี้เป็นจะใช้ของนั้นแม้นว่าจะไม่ได้รับบริจาคงั้นหรือ ผมว่าโพลมันเละตั้งแต่คำถามแล้ว

3. ส่วนผู้ที่ตอบว่าเลือกเพราะได้รับเงินมีเพียง 4.59
นี่ยิ่งไปกันใหญ่ มันเป็นคำถามให้สารภาพบาป
ใครจะสารภาพกันสักกี่เปอร์เซนต์ก็ไม่รู้
ก็ด่ากันเรื่องขายสิทธิขายเสียงโครมๆ แล้วจะให้เขาตอบว่าเขาขายงั้นหรือ
ทีมวิจัยใช้คนแบบไหนไปถาม วิธีการถามยังไง คนตั้ง 1 ใน 20 กว่าคนยอมรับผมถือว่ามากนะครับ
น่าจะมากเกินไป มันเหมือนคุณถามว่าถ้ามีโอกาสโกงชาติได้คุณจะทำไหม?
คนทำกันเยอะแน่ ดูจากการโกงภาษีเล็กๆน้อยๆ การยัดเงินใบสั่ง ฯลฯ
แต่คนจะสารภาพกันน้อยมากครับถ้าถาม
(งานวิจัยพวกนี้ถ้าเป็นฝรั่งทำเขาจะใช้งบมากแต่เชื่อถือได้พอควร
เช่นถามคำถามแล้วให้เลือกว่าจะรับเงินหนึ่งพันบาทหรือว่าจะไม่รับ นี่เป็นงบหลวงท่านอยากประหยัดงบให้ชาติหรือไม่ ฯลฯ)

สรุปคือผมว่าข้อมูลพวกนี้ใช้ไม่ได้ครับ
การซื้อเสียงเดี๋ยวนี้เขาก็ไม่ได้ทำกันเฉพาะตอนก่อนเลือกตั้งแล้ว

เดี๋ยวนี้เขาแนบเนียนกว่านั้น ซื้อใจกันมาตลอด ทั้งงบหลวงหรือใส่ซองช่วยงานกันเนืองๆ
ใครไปซื้อเสียงกันหลังยุบสภาหรือ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งก็สอบตกแน่นอน

ทว่าสิ่งที่ทั้ง 3 คำถามนี้ชี้ชัดให้เห็นก็คือประเทศไทยมีการซื้อเสียงกันแน่นอน
อย่างเป็นที่ยอมรับกันกลายๆด้วย (เกินกว่า 50%ได้รับเงินแน่ ที่เหลือตอบว่าถ้าได้ก็รับ)
รับกันแหลกทั้งพรรคที่ชอบและไม่ชอบ

คณิตศาสตร์ง่าย ๆ ระดับมัธยม

สมมุติ คนมาเลือกตั้งปาร์ตี้ลิสต์ 100 คน เลือกเพื่อไทย 50 ปชป 30 ปลาไหล 20 แต่ละพรรคก็จะได้เปอร์เซนต์ตามนั้น

แต่ถ้า 100 คน เลือกเืพื่อไทย 50 เลือก ปชป 25 เลือกปลาไหล 15 โหวตโน 10

10 คนจากโหวตโนจะถูกโยนทิ้งไปจากการคำนวณ คะแนนฐานจะลดลงเหลือ 90

และเปอร์เซนต์เพื่อไทยจะกลายเป็น 50/90 x 100 = 55%

ได้ที่นั่งเพิ่มขึ้น 5% แบบชิว ๆ โดยที่คะแนนเสียงตัวเองไม่ต้องเพิ่ม

เห็นมั้ย โหวตโนได้มากกว่าความสะใจ

'beta', on 01 Apr 2012 - 15:05, said:

สรุปครับ

อันนี้ ATOM เหมือนจะรู้

'ATOM', on 01 Apr 2012 - 07:10, said:

ถามไปทำไมละครับ ผมมีปัญญาสอบเอนทรานช์ได้ เรื่องแค่นี้หมูๆ ..หึหึ
แค่จำสูตร แล้วมาแทนค่าลง อ้ายข้อสอบแบบนี้ผมว่ามันไม่ต่างอะไรกับการท่องจำ
ผมว่ามันวัดอะไรไม่ค่อยได้มากนัก ถ้าจะให้จ๊าบ มันต้องรู้ที่ไปที่มาของสูตร มันค่อยดูดีหน่อย ว่ามั๊ยครับ จขกท

'ATOM', on 01 Apr 2012 - 07:12, said:

'Et tu Brute?', on 01 Apr 2012 - 07:07, said:

(1+n) * n/2


ถืกป่าว

ท่านครับ ท่านลองแทนค่า 1+2+3+4 ชิครับว่าสูตรที่ท่านให้มามันใช่มั๊ย

แต่ซักพัก ATOM ดันไม่ีรู้ เหอะๆ โชว์โง่ซะงั้น


นี่ึครับ ที่มา ATOM เก็ทมั่งมั๊ย

'eAT', on 01 Apr 2012 - 07:33, said:

อาจารย์เล่าให้ฟังว่า วิธีคิด มาจากเด็กประถม ครูขี้เกียจสอน
เลยให้เด็กบวกเลข 1 ถึง 100 จนมีเด็กคนหนึ่ง คิดเสร็จเร็วมาก
ครูเลยถามว่าคิดยังไง เด็กบอกว่า ง่ายมาก

1 + 100, 2 + 99 , 3 + 98 จับคู่บวกัน จะมีค่าเท่ากัน ดูว่ามีกี่คู่
เท่านั้นเอง ง่ายมากๆ

จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้


ถามความรู้วิชาอังกฤษบ้าง


Overcome
Missspelt

แปลว่าไร?

ถ้า ATOM เก็ท ลองอธิบายที่มาซิ เอาที่เขาเฉลยมาแล้วพูดให้คนเข้าใจพอ
แต่ผมว่า ATOM ไม่เข้าใจหรอกมั้ง

สนุกดีกระทู้แบบนี้ ชอบๆ

เอาง่ายๆ แค่นึกในใจว่ามีเลข 1 ถึง100 เรียงกัน 2 แถว

แถวแรกเรียง 1 ถึง 100 แถวที่สองเรียง 100 ถึง 1 แล้วนำทั้ง 2 แถว มาบวกกันตามแนวตั้ง เราจะได้คำตอบคือ 101 เป็นจำนวน 100 ครั้ง

ผมรวมก็คือ 101*100 แต่พอดีมีอยู่ 2 แถว เลยต้องหารสอง ก็จะได้คำตอบ


สามบรรทัดพอดี

5คูณ5คูณ5ลบ5หาร5ครับ ได้24พอดี

'เช neverdie', on 29 Feb 2012 - 02:57, said:

'wat', on 29 Feb 2012 - 02:45, said:

'เช neverdie', on 29 Feb 2012 - 02:42, said:

'อาวุโสโอเค', on 29 Feb 2012 - 02:29, said:

ขึ้นราคาไปเลยน้าเช รายได้ไอ้พวกนี้ดี เดือนไหนมีรวมพลจะรายได้ดีมาก ข้าวแพงยังไม่มีบ่นซักแอะ

เท่าที่คุยๆกันกับพรรคพวก ส่วนมากก็คิดแนวๆเดียวกันครับ คือขึ้นค่าเช่าหลักร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือพูดง่ายๆก็ขึ้นค่าเช่าอีกเป็นเท่าตัว หลายเท่าตัว ก่อนนี้ตอนที่กฏหมายภาษีที่ดินอยู่ในสภา ยังลูกผีลูกคน ก็เคยปรึกษากันว่าเราจะทำคล้ายๆว่าขายที่ไปแล้ว แต่ทำคล้ายๆสัญญาเงินกู้ รูปแบบมันจะเหมือนใช้ชื่อผู้เช่าพวกนี้มาสวมสิทธิเป็นเจ้าของที่แทนเรา แต่โดยเนื้อแท้ ด้วยสัญญาเงินกู้นั้น ผู้เช่าก็ยังต้องเช่าที่เราอยู่เหมือนเดิม แต่เราไม่ต้องไปจ่ายภาษีแพงๆ เพราะไม่ใช่ที่ของเราโดยนิตินัย จะทำอย่างนั้นได้มันก็ต้องรักษาสัมพันธ์กับผู้เช่าเอาใว้ เก็บค่าเช่าถูกๆ รักษาน้ำใจกัน มีมิตรจิตรมิตรใจต่อกัน จะทำได้ แต่เมื่อพี่ๆเสื้อแดงคว่ำพระราชบัญญัติฉบับนี้ตกสภาไป พวกผมก็เหมือนเสือติดปีกดีๆนี่เอง ลำพังคำว่าเสือก็น่ากลัวแล้ว แล้วถ้าเป็นเสือที่มีปีก บินได้ มันไม่ยิ่งน่ากลัวไปกว่าหรือ ถึงตอนนี้ เมื่อไม่มีกฏหมายฉบับนี้ออกมา ก็ไม่จำเป็นที่เราจะต้องไปรักษาสัมพันธ์อันดีกับผู้เช่า(ที่ส่วนใหญ่เป็นพี่ๆเสื้อแดง) เมื่อไม่จำเป็นต้องรักษาสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน จะอยู่ทำมาหากินต่อก็จ่ายมา ถ้าไม่มีปัญญาจ่าย ก็ไสหัวไปทำมาหาแดรกที่อื่นซะ แค่นั้นครับ

มันก็แค่พัฒนาที่ไม่ให้เป็นแค่พื้นที่ว่างเปล่าก็ไม่เข้าข่ายแล้วไม่ใช่หรือ...ช่วยขยายความรู้หน่อยจิ่...

เท่าที่อ่านดูคร่าวๆ เค้าจำกัดการถือครองเพื่อทำประโยชน์ ส่วนที่เกินจากการจำกัด "จะถูกคิดคำนวนภาษีในอัตราก้าวหน้า" เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากที่ดินอย่างคุ้มค่า และลดบทบาทของการเก็งกำไรที่ดินครับ ที่แสบที่สุดของคุณกรณ์ก็อีตรง "จะถูกคิดคำนวนภาษีในอัตราก้าวหน้า" นี่แหละครับ คนถือครองที่ดินแค่ห้าไร่สิบไร่ อาจเสียภาษีแค่ ร้อยสองร้อยบาท แต่คนที่ถือครองส่วนเกินระดับหลายๆร้อยไร่อาจต้องเสียภาษีที่ดินเป็นหมื่น ส่วนคนที่ถือครองระดับ พันไร่หมื่นไร่ อาจต้องเสียภาษีที่ดินระดับล้าน สิบล้าน ร้อยล้าน ฯลฯ ด้วยหลักคิดว่า ถ้าคุณทำประโยชน์บนพื้นที่กว้างใหญ่ขนาดนั้น แน่นอนคุณต้องมีผลกำไรคุ้มพอที่จะเสียภาษี ทีนี้ไอ้พวกที่ถือครองที่ดินใว้มากๆเพื่อเก็งกำไร โดยไม่ได้ทำประโยชน์อะไรบนที่ดิน มันจะมานั่งเสียภาษี เป็นร้อยล้านทุกปีๆ มันต้องไม่ใหวแน่นอน ท้ายสุดไอ้พวกนี้ก็ต้องปล่อยที่ดินออกมาในราคาถูกๆ ดีกว่าไปนั่งกอดใว้แล้วต้องจ่ายภาษีแพงๆ คนที่ต้องการที่ทำกินเล็กๆ สิบไร่ยี่สิบไร่ ก็จะมีที่ดินทำกินเป็นของตนเองได้ง่ายๆ โดยรวมมันจะส่งผลดีต่อทั้งระบบครับ

ยกเลิกภาษีถูกต้องแล้วครับ

ที่ดินว่างเปล่าไม่ทำประโยชน์ มันดีนะ























หญ้าขึ้นเยอะดี