Jump to content


ลูกชาวสวน

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 3 พฤศจิกายน 2554
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2556 18:35
-----

#146814 สื่อพม่าชี้ 'อภิสิทธิ์' จริงๆเป็นแค่นักการเมืองห่วยแตก(lousy politici...

โดย คนกรุงธน on 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 14:23

เว็บไซต์ www.foreignpolicy.com ซึ่งเป็นของนิตยสาร “ฟอรีน โพลิซี” (Foreign Policy) เจ้าของเดียวกับหนังสือพิมพ์ เดอะวอชิงตัน โพสต์ ได้ตีพิมพ์บทความที่ชื่อว่า Bad Exes หรือ “อดีตผู้นำที่เลว” โดยผู้เขียนที่ชื่อ Joshua E.Keating เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเนื้อหาในเว็บไซต์แห่งนี้ ยังตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Foreign Policy ซึ่งแบ่งออกเป็น 7 ภาษา ได้แก่ อารบิก บูกาเรีย ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น โปรตุเกส เกาหลี และ สเปน อีกด้วย

บทความดังกล่าวมีเนื้อหาโดยสรุประบุถึงพฤติกรรมผู้นำประเทศ ที่เป็นตัวอย่างไม่ดีในการบริหารประเทศ โดยในตอนต้น บทความดังกล่าว ระบุว่า นายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดีเกือบทั้งหมด เมื่อลาจากตำแหน่งอันยิ่งใหญ่แล้ว ก็มักจะอุทิศชีวิตสร้างสรรค์สิ่งที่งดงามให้แก่โลก หรืออย่างน้อยก็หลีกเร้นเข้าสู่โลกสมถะ แต่ยังมีอดีตผู้นำอีก 5 คน ซึ่งไม่เคยมีวิถีเช่นนั้นเลย

สำหรับอดีตผู้นำประเทศที่ถูกพูดถึงในบทความ ได้แก่ นายแกร์ฮาร์ด ชโรเดอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีของเยอรมนี, นายโคเซ มารีอา อัซนาร์ อดีตนายกรัฐมนตรีของสเปน, นายโอลูเซกัน โอบาซันโจ อดีตประธานาธิบดีของไนจีเรีย, นายโจเซฟ เอสตราดา อดีตประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย โดยมีเนื้อหาที่กล่าวถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ดังต่อไปนี้

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในปี 2543-2549 ท่ามกลางข้อกล่าวหาคอร์รัปชัน และละเมิดสิทธิมนุษยชน เหตุการณ์รัฐประหารในปี 2549 ก็ได้ทำให้ทักษิณหลุดพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้น เขาก็ใช้ชีวิตไม่เป็นหลักเป็นแหล่ง ต้องเดินทางไปมาหลายประเทศ ในการนี้อดีตเศรษฐีนักธุรกิจอย่างทักษิณ ก็ได้รับตำแหน่งอีกหลายตำแหน่งจากบรรดามิตรประเทศ เช่น ทูตพิเศษของนิการากัว ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของกัมพูชา และกลายมาเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี เป็นเวลาสั้นๆ อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า ทักษิณต้องปลอมชื่อตนเอง เพื่อหลบลี้ภัยอยู่ในเยอรมนีนับปี อีกทั้งยังได้ใช้หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ที่ออกโดยผิดกฎหมายจากหลายประเทศ ทว่า ตอนนี้เขาพำนักอยู่กับบ้านของเขาที่ดูไบ

ในปีนี้ กลุ่มเสื้อแดง ผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ยึดพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ และสร้างความโกลาหลเผาทำลายศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ นี่คือ ความโกรธเกรี้ยวที่ตอบโต้ความพยายามของรัฐบาลในการสลายการชุมนุม ในการปะทะระหว่างผู้ชุมนุมที่ติดอาวุธกับตำรวจก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะยินยอม ยุติ ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 90 คน ศาลได้พิพากษา พ.ต.ท.ทักษิณผู้หลบหนีคดี ว่า ยุยงปลุกปั่นให้เกิดการชุมนุมประท้วง แม้ครั้งหนึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ เคยเดินสายบอกกับชาวบ้าน ว่า ผมจะทำให้คนไทยทุกคนเป็นคนรวย ถ้าหากพวกผมได้กลับมามีอำนาจทางการเมือง แต่ทักษิณก็ยังคงปฏิเสธว่าเขาให้เงินทุนแก่กลุ่มเสื้อแดง แม้ว่าทักษิณจะอ้างว่า ทุกข้อกล่าวหาที่เขาได้รับเป็นแรงกดดันทางการเมือง แต่เขาก็ได้ถูกตัดสินไปแล้วว่ามีความผิดฐานคอร์รัปชันจริง นับแต่วันที่เขาหลบหนีออกนอกประเทศ


#146794 สื่อพม่าชี้ 'อภิสิทธิ์' จริงๆเป็นแค่นักการเมืองห่วยแตก(lousy politici...

โดย amplepoor on 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 14:08

คนพม่าไม่โง่แฮะ :D


คนพม่าโง่ป่าวไม่รู้

แต่คุณน่ะโง่แน่

คนเขียนเขาเป็นคนพม่ารึ

Roger Mitton is a former senior correspondent with Asiaweek and a former bureau chief in Washington and Hanoi for the Straits Times of Singapore.


#146787 สื่อพม่าชี้ 'อภิสิทธิ์' จริงๆเป็นแค่นักการเมืองห่วยแตก(lousy politici...

โดย MissAnn on 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 14:05

ผมว่าคนพม่าไม่ได้โง่ครับ เพียงแต่เขาคิดและเห็นในมุมมองคนภายนอก เหมือนกับคนที่ไทยมองรัฐบาล (อดีตทหาร) พม่าว่าถอดชุดทหารมาใส่ชุดสูท
แต่ถามว่า พม่าแคร์ขี้ปากคนไทยอย่างเรามากมั้ย
มันก็เป็นเพียงอีกหนึ่งมุมมองจากสังคมเพื่อนบ้านครับ


#132404 อีกด้านหนึ่งของนิติราษฎร์ !!!

โดย ตะกวด กากๆ on 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 19:19

ผมบอกไปแล้วนะครับว่าผมจะขอหยุดแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ พอผมเงียบก็ว่าผม กลัว ขี้หดตด หายบ้างละ คิด

อ่านหนังสือไม่แตก และฟังแบบจับใจความไม่เป็น แถมยังหูเบา ฟังคนพูดแค่ไม่กี่ครั้งก็เชื่อ

เชื่อผมเถอะครับ อย่าเขียนอะไรยาวๆแล้วเปลือยประจานตัวเองอีกเลย -- จาก แมนจริงๆ



ผมงงครับ ? การที่ผมเห็นด้วยบางประเด็นของ นิติราษฏร์แปลว่าผม เข้าข้างนิติราษฏร์ ? ผมกะแล้วว่าการนำเสนอความเห็นที่แตกต่าง จะเป็นเป้าให้โดนแบบนี้

แล้วยังไงครับ อยากให้บางคนลองกลับไปอ่านสิ่งที่ผมคอมเม้นท์ใหม่ดูนะครับ จะได้ทราบว่าผมมีเจตนาอย่างไร ไม่ใช่สักแต่จะด่าจะว่าตามกระแส

ขอบคุณพี่ๆ หลายๆคนที่สื่อให้ผมเข้าใจว่า คนบางคนเงินซื้อไม่ได้ แต่มีความโลภในแง่ชื่อเสียงหรือการยอมรับมากกว่า ^^ ขอบคุณครับ

ผมขอสรุปเลยนะครับว่า ผมได้อ่าน แถลงการณ์ของนิติราษฏร์อย่างละเอียดแล้ว และผมก็เห็นด้วยกับความเห็นแค่บางข้อ เช่น

การแก้ ม.112 เนี่ย เราสามารถแยกความผิดออกเป็น 4 ประเภทได้จริงๆ เพราะมี ในเมื่อมี กฏหมายกำหนดให้แยกประเภทความผิดในการสังหารบุคคลทั้ง 4 กลุ่มต่างกันออกไป

ดังนั้น ความผิดในการหมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาตร้ายเนี่ย มันสามารถแยกประเภทได้ มันมีน้ำหนักพอ

แต่ในส่วน บทลงโทษ ผมยังไม่เห็นด้วยเพราะว่า โดยรวมแล้วมัน 1-3 ปีซึ่งผมว่ามันน้อยเกินไป ถ้าเทียบกับตัวเก่า ดังนั้น แยกประเภทได้แต่บทลงโทษไม่ได้

และโดยภาพรวมของแถลงการณ์ผม ไม่เคยบอกเลยว่าเห็นด้วย หรือบอกว่านิติราษฎร์ ดีเลิศแต่อย่างไร

ผมใช่คำว่าอาจ อาจจะ ผมพยายามสื่อเพียงว่าลองให้มองมุมอื่นๆบ้าง ซึ่งที่ผมบอกว่า มันทำให้ผมตาสว่าง คือ ผมอคติจนไม่ฟังความคิดของพวกเค้าเลย

เพราะบางทีสื่อก็จ้องที่จะทำอะไรให้มันเป็นข่าวอยู่เสมอ โดยมันเป็นการมอมเมาผู้เสพโดยไม่รู้ตัว ! ผมยอมรับว่าผมเคยเกลียดนิติราษฏร์แบบไม่ฟังเสียงพวกเค้าเลย

และตอนนี้ผมยอมรับฟังเสียงพวกเค้าแต่ใช่ว่าผมจะยอมรับ บางสิ่งโอเค มีเหตุผล เช่นการจำแนกบุคคล ใน ม. 112 ผมยอมรับได้ผมก็เห็นด้วย

แต่บทลงโทษ 1-3 ปีที่ลงโทษน้อยกว่าการหมิ่นประมาทผู้นำประเทศอื่นผมไม่เห็นด้วยนะ มันไม่ make sense

ส่วนในเรื่องล้มเจ้าหรือพวกเค้ามีเจตนาไม่ดี อันนี้ผมยังไม่ได้จะชี้ชัดอะไรผมยังเฝ้าสังเกตุพฤติกรรมพวกเค้าอยู่ ใช่มันอาจจะดูไม่ถูกต้องและผมก็ไม่ได้จะเห็นด้วยกับสิ่ง

ที่พวกเค้าแสดงออกมา แต่.... การรับฟังเสียงของคนไทย นี่ไม่ใช่หรือคือแนวทางประชาธิปไตย แม้เค้าจะเสนอแนวทางที่ผิด หรือไม่ถูกใจเรา แต่ถ้าไม่ผิดกฏหมาย อยู่ในกรอบที่

กฏหมายกำหนด เค้าสามารถทำได้ ส่วนประชาชนจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยนั่นคืออีกเรื่องนึง ซึ่งผมก็ไม่เคยบอกว่าผมเห็นด้วย แต่ผมฟัง... และพยายามคิดตามกรอบความคิดของเค้า

ส่วนในเรื่องบางประเด็นที่จะเกี่ยวกับสถาบันผมไม่ขอพูดถึงครับ ในทุกกรณีครับ ผมขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่ตอบอะไรที่จะเสี่ยงต่อตัวผมเอง

หลายคนมองว่าผม หัวอ่อน หลงประเด็น อ่านหนังสือไม่แตก บลา ๆ ๆ ๆ ดูถูกและว่าต่างๆนาๆ

ดีครับ เชิญว่าผมได้ ถ้าคุณอ่านทุกคอมเม้นท์ที่ผมพิมพ์ และเข้าใจเจตนาผมเหมือนที่พี่ๆ หลายคนในนี้เข้าใจ คุณจะไม่พิมพ์ข้อความเหล่านั้นครับ

เพราะผมไม่เคยด่า ไม่เคยดูถูกพี่ๆน้องๆ ในเวปนี้ครับ ผมให้เกียรติทุกคนแม้ว่ามันจะเป็นเวปบอร์ดสาธารณะ !

แต่ผมจะไม่ชอบคนที่มาด่าผมแบบไม่มีเหตุผล ไม่มีสาระ ด่าเอามันตามกระแส พยายามจะตามน้ำรุมเหยียบ

ผมจะชกกลับ ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมครับ ... ผมไม่สนว่าจะแก่จะเด็ก ถ้าคุณไม่ให้เกียรติผม ผมก็ไม่ให้เกียรติคุณ แค่นั้น !

ขอบคุณหลายๆคนที่รับฟังความเห็นของผมนะครับ แม้ผมจะคิดต่างไปบ้าง แต่เชื่อว่ายังแนวทางเดียวกัน

การที่เราต่อต้าน สิ่งที่เราไม่ชอบ จะไม่ยอมรับฟังอะไรเลยจะอคติเหล่านั้น บางทีมันก็ใช่ว่าจะเป็นผลดีกับตัวเราครับ ผมเชื่อว่าอย่างนั้น

นี่คือ จุดยืนของผมทั้งหมดนะครับ และ ขอบอกอีกครั้งว่า ผมขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่แสดงความคิดเห็นอีกแล้วในประเด็นเรื่องนิติราษฏร์

ปล. เสรีไทย คือ บ้านที่สามารถแสดงความคิดต่าง ความเห็นต่าง ให้ตกผลึกเป็นความรู้ใหม่ได้ ดังนั้นให้เกียรติความคิดเห็นคนอื่นๆก็เป็นสิ่งที่ดี ที่จะนำไปสู่


กระบวนการ การหาทางออกในคำถามต่างๆได้แน่นอนครับ ผมดีใจที่มีคนให้ความสนใจกระทู้ผมขนาดนี้ เกือยดังเท่า JAIDEE20 ละเนี่ย 555555

ผมว่า คุณ เจ๋งดีนะ ที่กล้ายอมรับ ผมยอมรับว่าผมเคยเกลียดนิติราษฏร์แบบไม่ฟังเสียงพวกเค้าเลย บ่างที่อคติ มันก็มาแบบที่เราไม่รู้ตัว การรับฟังไม่ใช่
การจะยอมรับสิ่งนั้น การรับฟัง คือการเรียนรู้ที่จะเข้าใจ ในปัญหานั้นๆ


#131998 อีกด้านหนึ่งของนิติราษฎร์ !!!

โดย หนูอ้อย on 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 14:37


นิติราษฎร์ได้แต่ต่อว่าพวกเห็นต่างว่าก้าวร้าว ล้าหลัง อยู่ในกะลา
แต่นิติราษฎร์ก็ไม่สามารถยกเหตุผลที่จับต้องได้ เชื่อมโยงถึงได้ ให้เป็นที่ประจักษ์ หรือกระทั่งหักล้างความเชื่อเดิมของคนนิยมเจ้าได้เลย


พวกที่ล้าหลัง ตกกระแสโลก คือนิติราษฎร์และเสื้อแดงครับ พวกนี้สนับสนุนทุนให้กลืนชาติครองอำนาจการเมืองไทย

แต่กระแสโลกตอนนี้คือ occupy wall street http://www.bangkokbi...1%E0%B9%88.html

เพื่อต่อต้านทุนผูกขาดที่มีอิทธิพลทางการเมือง อันนี้แหละกระแสใหม่ของโลก พวกเรา สรท. คือหัวก้าวหน้า ส่วนไอ้ นิติ+เรด คือพวกล้าหลัง ยังกับพึ่งออกจากป่า

มีบทความก้าวหน้าของoccupy Wall Street มาฝาก ให้สมกับเป็นชาว สรท.ที่ก้าวหน้ากว่าพวกหลงยุค 555

ทุนนิยมเพื่อพวกพ้องกับระเบิดเวลาที่กำลังปะทุ
เร็วๆนี้เดวิด สต็อกแมนอดีตผู้อำนวยการสำนักงบประมาณสมัยโรนัลด์ เรแกนให้สัมภาษณ์ทีวีว่า สหรัฐกำลังถูกครอบงำด้วยอำนาจเงินตราทำให้กลไกตลาดเสรีถูกบิดเบือนและระบบประชาธิปไตยถูกทำลาย ด้วยเหตุนี้สหรัฐขณะนี้จึงไม่มีทุนนิยมธรรมดาแบบเดิมและไม่มีประชาธิปไตย ”ที่เรามีตอนนี้คือ ทุนนิยมเพื่อพวกพ้อง (crony capitalism)”

ชนชั้นที่มีอำนาจมากสุดในสหรัฐขณะนี้คือ กลุ่มนายธนาคารวอลล์สตรีทและซีอีโอบริษัทยักษ์ทั้งหลายซึ่งเป็นตัวแทนทุนนิยมเพื่อพวกพ้อง แม้แต่บารัก โอบามาและนักการเมืองสภาคองเกรสยังต้องสยบกับระบบเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยต่อประโยชน์ส่วนรวม แต่ปูนบำเหน็จรางวัลให้แก่พวกอภิมหาเศรษฐีและบรรดาบริษัทในตลาดหุ้นซึ่งสนอย่างเดียวว่า ทำไงหุ้นของตัวเองจะมีมูลค่าเพิ่มไปเรื่อยๆ

สต็อกแมนกล่าวว่านายธนาคารวอลล์สตรีทและซีอีโอบริษัทยักษ์ใหญ่เป็นอภิสิทธิ์ชนที่เชื่อว่าการมีรัฐบาลอยู่ก็เพื่อเป็นเครื่องมือทำให้เกมการเงินของประเทศดำเนินไปเรื่อยๆและจะต้องสร้างมูลค่าหุ้นของตนให้สูงขึ้นๆไปเรื่อยโดยไม่สนอะไรทั้งนั้นและไม่มีที่สิ้นสุด

อำนาจวอลล์สตรีท ดูได้จากอะไร ดูได้ชัดจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐพิมพ์เงินออกมากลางอากาศมากมาย (เอ๊ะ..คล้ายใครนะจะเสกเงินจากอากาศ...555) สหรัฐเสกออกมาถึง 16 ล้านล้านดอลลาร์เพื่ออุ้มระบบการเงินที่ล้มจากพิษฟองสบู่แตกในปี 2008 และยุคนั้นบุชยังได้เข็นมาตรการการคลังมาเสริมอีก 7 แสนล้านดอลลาร์เพื่อช่วยบริษัทยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์ที่ล่มจากการทำตัวองในการเก็งกำไรเกินควรในช่วงสิบปีก่อนหน้านั้น

ความล้มเหลวของระบบทุนนิยมประชาธิปไตยสะท้อนออกมาจากอัตราว่างงานสองหลักที่สูงในสหรัฐที่มีประชากรกว่า 300 ล้านคน.....ที่ไม่น้อยกว่า 25 ล้านคนไม่มีงานทำ และอีกกว่า 40 ล้านคนต้องพึ่งคูปองอาหาร (food stamp) เพื่อความอยู่รอด

โดยสรุป...หนึ่งในสามของประชากรสหรัฐวันนี้เป็น“ผู้มีรายได้น้อย” แต่โอบามากลับสานต่อนโยบายบุชโดยการอุ้มกลุ่มทุนวอลล์สตรีทและบริษัทในตลาดหุ้นต่อไปโดยไม่คำนึงถึงคำสัญญาที่ให้กับประชาชนในช่วงหาเสียงว่าจะปฏิรูปเศรษฐกิจสหรัฐบนพื้นฐานความเท่าเทียม

อาการ “รวยกระจุก จนกระจาย” ในระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกทำให้เกิดมีกระแสต่อต้านจาก Occupy Wall Street ซึ่งแพร่กระจายไปทั่วประเทศเป็นพลังประชาชน 99 % ที่โดนกลุ่มวอลล์สตรีท 1% เอาเปรียบอยู่ ซึ่งในระบบทุนนิยมเพื่อพวกพ้องดังกล่าวแล้วนี้ พวกนายธนาคารและซีอีโอจะอยู่บนยอดของห่วงโซ่อาหาร ท้ายที่สุดจะกินรวบ เพราะว่ากลไกทุกอย่างจะถูกล็อกโดยระบบธนาคารพาณิชย์ โดยตลาดหุ้น โดยตลาดทุน โดยมีการเชื่อมโยงกับธนาคารกลางที่เอื้อผู้ถือหุ้นธนาคารและบริษัทยักษ์ในตลาดหุ้น

ทุนนิยมการเงินได้เอาประชาธิปไตยบังหน้า คนที่ได้ประโยชน์ไม่มีวันยอมเสียประโยชน์ ส่วนประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะชนชั้นกลางมีรายได้น้อยลง มีหนี้สินมากขึ้นเป็นระเบิดเวลาที่รอวันจะระเบิดออกมา

(เรียบเรียงจาก “หน้าต่างอาเซียน” โดย ทนง ขันทอง นสพ.คมชัดลึก ฉ.3761 ปีที่ 11)


#131993 อีกด้านหนึ่งของนิติราษฎร์ !!!

โดย pochi on 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 14:34

สมมติฐานของนิติราดคืออนาคตค่ะ แต่ตอนนี้คือปัจจุบัน ;)


#131175 อีกด้านหนึ่งของนิติราษฎร์ !!!

โดย No more on 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:16

Maslow กล่าวว่าความปรารถนาของมนุษย์นั้นติดตัวมาแต่กำเนิดและความปรารถนาเหล่านี้จะเรียงลำดับขั้นของความปรารถนา ตั้งแต่ขั้นแรกไปสู่ความปรารถนาขั้นสูงขึ้นไปเป็นลำดับ

ลำดับขั้นความต้องการของมนุษย์ ( The Need –Hierarchy Conception of Human Motivation ) Maslow เรียงลำดับความต้องการของมนุษย์จากขั้นต้นไปสู่ความต้องการขั้นต่อไปไว้เป็นลำดับดังนี้
1. ความต้องการทางด้านร่างกาย ( Physiological needs )
2. ความต้องการความปลอดภัย ( Safety needs )
3. ความต้องการความรักและความเป็นเจ้าของ ( Belongingness and love needs )
4. ความต้องการได้รับความนับถือยกย่อง ( Esteem needs )
5. ความต้องการที่จะเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง ( Self-actualization needs )
ลำดับขั้นความต้องการของมาสโล มีการเรียงลำดับขั้นความต้องการที่อยู่ในขั้นต่ำสุด

http://www.kmitnbxmi...5354814&Ntype=3

บางคนอาจไม่ชอบแนวคิดทางศาสนา
ผมเลยยกเอาทฤษฎีของมาสโลว์
จะเห็นว่า เงินทองมันตอบสนองได้แค่กายภาพ
ความต้องการระดับสูงๆ ขึ้นไป ล้วนเป็นเรื่องของจิตใจเสียมากกว่า
ถึงแม้เงินทองอาจจะได้ทดแทนได้บางส่วนจนถึงข้อ 3 แต่จากนั้น
เงินทองใช้ไม่ได้แล้ว คนบางคนเมื่อมีสิ่งตอบสนองทางร่างกายเพียง
เขาก็ไม่ค้นหามาเพิ่ม แต่จะยกระดับความต้องการทางจิตใจเพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะ "ชื่อเสียง"


I was gonna post something like this.
Money is not the only motive.
As shown above, there are other factors too.


#131123 อีกด้านหนึ่งของนิติราษฎร์ !!!

โดย SPDZ on 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 20:22

ควรจะลดโทษค้ายาบ้า หรือเพิ่มโทษตำรวจที่ยัดยาบ้า


#131321 อีกด้านหนึ่งของนิติราษฎร์ !!!

โดย เจดีย์ on 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 23:57

จากกระแสต่อต้านนิติราษฏร์ ที่สะท้อนออกมาในทั่วประเทศขณะนี้
ผมจึงลองพยายามสืบค้นความสงสัยของผม โดยตนเอง เพราะผมรู้จักอาจารย์ 2-3 คนที่ธรรมศาสตร์
เรารู้จักมักคุ้นกันในระดับหนึ่ง และ เธอเห็นด้วยในหลายๆมุมของนิติราษฏร์ !!!

ผมขอสรุปดังนี้
1 คุณลูกชาวสวนสงสัยนิติราษฏร์1. พวกเค้าต้องการทำเพื่อเสรีภาพของประชาชนไทยจริงๆ
2. พวกเค้าหาทางลงจากหลังเสือยังไม่ได้

นิติราษฎร์ไม่เคยมีผลงานอะไรเพื่อประชาชนมีแต่ข้อเสนอขาดๆวิ่นๆเรื่องแก้ไขผลจากการรัฐประหารย้อนหลังไปเท่าที่คนอยู่ดูไบได้รับประโยชน์
ข้อเสนอเรื่อง ม112 ก็ลามปามจะไปแก้รัฐธรรมนูญหมวดพระมหากษัตริย์ มีข้อเสนอแปลกๆเช่นห้ามมีพระราชดำรัส ต้องสาบาน อ้างว่าเป็นวิชาการแต่มีขบวนการทนายต่างประเทศและกลุ่มการเมืองรับลูก
อยากจะเรียนคุณลูกชาวสวนว่าการกระทำเช่นนี้เขาเรียกว่าการเคลื่อนไหวทางการเมืองถ้าถูกต้องก็เป็นประโยชน์กับประเทศชาติถ้าผิดพลาดก็เป็นอันตรายกับบ้านเมือง
เมื่อไม่ใช่วิชาการก็จะได้รับการตอบโต้ทางการเมืองและจะมีผลกับชีวิตในอนาคตเช่นอาจจะต้องไปตายต่างประเทศ
2 คุณลูกชาวสวนไปคุยกับอาจารย์2คน
คุณลูกชาวสวนโชคดีที่ได้คุยกับชาวเสรีไทยลองใคร่ครวญดูดีๆ
3 คุณลูกชาวสวนสรุปว่าสิ่งที่นิติราษฎร์กำลังทำ ทำเพื่อป้องกันอะไรจากใคร ผมว่าหลายๆคนอาจจะยังคิดไม่ออก !!!!
ชาวนิติราษฎร์มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองและเลือกค่ายแล้วถ้าไม่รู้ตัวว่าทำอะไรอยู่คิดว่าเป็นวิชาการเขาเรียกว่าพวกไร้เดียงสาทางการเมือง
4 คุณลูกชาวสวนมีความเห็นว่าผมว่าถ้าตอนนั้นเรามองย้อนกลับมาดูจะกลายเป็นว่า นิติราษฎร์ อาจไม่ใช่ความคิดที่เลวร้ายเลยซักนิดก็ได้นะ
ไม่มีใครรู้อนาคต อาจจะกลายเป็นว่านิติราษฎร์ สร้างความแตกแยกร้ายแรงในสังคมก็เป็นได้
เมื่อนิติราษฎร์มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองเขาจะได้รับการตอบโต้ทางการเมืองทุกรูปแบบ ความถูกต้องในความคิดของเขา จะได้รับการตรวจสอบจากสังคม เมื่อสังคมตัดสินแล้วก็ถือว่ากฏแห่งกรรมทำงานเขาจะเป็นผู้ได้รับผลของกรรมนั้น คมที่เลือกค่ายผิด อเสวนาจะพาลานัง(อย่าคบคนพาล)ก็จะได้รับผลแห่งกรรมนั้นดัวย ถ้าแก่กล้าทางวิชาการแต่ยังละอ่อนทางการเมืองแต่เคลื่อนไหวทางการเมืองก็ต้องรับกรรมเช่นกัน เหล็กร้อนแดงจะรู้หรือไม่ถ้าจับแล้วก็มือพองเสมอกัน


#131158 อีกด้านหนึ่งของนิติราษฎร์ !!!

โดย wat on 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 20:58

สำหรับผมเห็นด้วยกับ จขกท อยู่ 2 อย่างนะครับ

คือ 1. การมองอะไรในมุมมองที่ต่างจากความเชื่อเดิมของตนบ้างเป็นสิ่งที่ดี เพราะบางครั้งมันทำให้เราเห็นอะไรดีๆที่เรามองจากมุมเดิมๆของเราไม่ออก

2. เงินน่าจะซื้อกลุ่มนิติราดไม่ได้จริงๆ


ข้อแรก โดยส่วนตัวผมก็ใช้หลักแบบนี้บ่อยครับ ในชีวิตประจำวัน ไม่เว้นแต่ กรณีของกลุ่มนิติราดก็เช่นกัน เนื่องจากได้ฟังสิ่งที่นิติราดก็อ้างว่า สิ่งที่พวกเขาคิดก็เป็นการรักษาไว้ซึ่งสถาบัน .......... แต่เมื่อนำมาคิดทบทวนด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง มันมีแต่คำถามโผล่ขึ้นมาตลอดว่า นั่นเป็นแค่ข้ออ้างหรือไม่ ทำไมจึงต้องทำหลายๆ ในช่วงเวลานี้ทั้งๆที่รู้อยู่ว่า มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีต่อสถาบันกำลังเคลื่อนไหวอยู่เป็นจำนวนมาก ดังที่เพื่อนเสรีไทยได้โชว์ภาพตัวอย่างให้ดู
ข้อสอง ในหมู่นักวิชาการ เท่าที่ผมได้สัมผัสมา เงินไม่ใช่รางวัลอันสูงสุดครับ แต่สิ่งที่มีค่ามากที่สุดคือ "ความสำเร็จ" "การได้รับความยกย่อง ยอมรับ" ในอุดมการณ์หรือความคิดของตน ที่ได้นำเสนอสู่สังคม ผมจึงมองว่า พวกเขากำลังต่อสู้ไม่ใช่เพื่อสถาบัน หรือ ชาติ แต่เพื่อความคิดหรืออุดมณ์ที่ตนเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น โดยไม่สนว่าเวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมหรือไม่ คนหรือประชาชนทั่วไปพร้อมกับสิ่งที่พวกเค้าคิดหรือไม่
เอาง่ายๆ แบบเห็นภาพกันชัดๆไปเลย ประชาธิปไตยของไทย ในทุกวันนี้ คนไทยส่วนเข้าใจกันหรือยังจนทำให้ประเทศตกอยู่ในสภาพอย่างนี้




ปล. ครับ ด้วยความเคารพนะครับ สำหรับบางท่าน อาจมองหรือมีความเห็นไม่ตรงกับ จขกท. เช่นเดียวกับผม แต่อยากขอให้ให้เกียรติกันครับ อย่ามองแค่ว่าเค้าเป็นคนอายุน้อยกว่าแล้วมองอะไรด้อยกว่าครับ อาจคิดอยู่ในใจได้ครับ แต่ก็น่าจะใช้ภาษาที่ให้เกียรติกันครับ

ความคิดใหม่ๆ ใช่ว่าจะคิดล้มเจ้ากันหมดนะครับ


:) คนนึงล่ะที่ไม่ได้มองว่าเค้าเป็นคนอายุน้อยกว่าแล้วมองอะไรด้อยกว่า...แต่พยายามอธิบาย...มุมมอง...ที่ท่านเรียกเช่นนั้นมากกว่า ใครคิดยังไงก็ว่ากันไป...

1.ถ้านิติราด (ขี้เกียจพิมพ์เต็มๆ ไม่มีค่าพอให้ต้องประดิษฐ์ ประดอยให้) บอกว่านี่เป็นช่องทางของพวกเจ้าทฤษฎีล่าแม่มด ทำให้คนบริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อผู้ไม่หวังดีได้ง่ายๆ หรือเป็นเครื่องมือของฝ่ายผู้มีอำนาจใช้ได้อย่างไม่เป็นธรรมได้ ฯลฯ ... นี่มันยุคไหนแล้ว เอาแค่ไอ้ที่ติดคุกอยู่วันนี้ ถ้าเมิงบริสุทธิ์ เมิงก็ร้องสิ สื่อพวกเมิงก็มี แล้วมีหรือถ้าพวกเมิงไม่ผิดจริงเมิงจะยอม เมิงผิดกันเห็นๆ คลิปเกลื่อนบ้านเกลื่อนเมือง เมิงยังบอก...ไม่ใช่พวกกรูเลย...นี่แค่ตัวอย่างเล็กๆ ยุคนี้ ถ้าเทียบกับไอ้บ้าอะไรที่เอา 6 ตุลา' อะไรมาอ้าง ลองแหกตาดูหน่อยสิ ปี' 19 เอาแค่รังสิต ไม่ต้องถึงอยุธยาก็ได้จะโทรติดต่อกันที โน่น....ปากทาง ตจว.ยิ่งแล้วทั้งหมู่บ้านมีโทรฯอยู่เครื่องเดียว แถม...เจ๊งตลอด...กับยุคนี้สมัยนี้อย่าว่าแต่โทรฯเลย เมิงยิงกันตรงนี้ ทั่วโลกมันยังรู้ได้ไม่ทันข้ามวันเลย อย่าบอกนะ พวกเมิงไม่รู้...ไม่ได้ใช้เป็นเครื่องมือเช่นกัน..

2.เมิงจะทำด้วยเหตุผลกลใดก็เหอะ หรือจะเป็นพวกคณะ...หนีจากนรกมาเกิดใหม่ก็เหอะ...แหกตา แหกสมองคิดแค่นิดเดียวก็พอแล้ว หากจะบอกกรูเกิดไม่ทันพระองค์ไม่รู้นิทำไรไว้มั่ง ชื่อทุนของพระองค์ แต่ภาษีโว๊ยยยย เงินภาษี...ประทานโทษ ชื่อทุนคือผู้เริ่มดำริ เริ่มดำริเมิงคิดว่าท่านไปแบมือขอเงินรัฐบาลก่อนหรือ เมิงคิดว่าถ้าเป็น ปชต. อย่างฝรั่งเศส เยอรมัน มันจะให้โอกาสเมิงงี้มั้ย แล้วให้เพื่ออะไร ให้ไปแหกหูแหกตาดู...ความแตกต่าง...แล้วนำมาปรับปรุงใช้กับบ้านเราให้...เจริญวัฒนาถาวร...หรือต่อกรกับพวกมันได้ อย่างพระราชดำริของ ร.5 ต้องรู้เขา รู้เรา จะได้รู้เค้าคิดยังไง เพื่อเราจะได้ตั้งรับได้ แต่ไม่ใช่ไป...งมงายกับลมตูดพวกมัน...แล้วก็แว้งมากัดแผ่นดินตัวเอง...เหมือน(อัป)ปรี...ตัวหนึ่ง...ตามเหตุผลข้อ 1 กับสถานการณ์บ้านเมือง ณ วันนี้ ถ้าเมิงบอกเมิงไม่เนรคุณแผ่นดิน เอาแค่เมิงแก้ กม. ลดอภิสิทธิ์นักการเมือง หาวิธีให้มันแดกกันไม่ได้ หรือหมดไปจากแผ่นดินนี้ซะ ...แล้วรักษา,ทำนุบำรุง...ผลประโยชน์ของปวงประชาชนทั้งมวล...ไม่ใช่แค่กลุ่มใด พวกใคร ฝูงใครคนหนึ่ง...เผลอๆ ปชช.เค้าก็จะไปแห่ให้เมิงเป็น รมต. เองแล้ว...

-_- เอาแค่ 2 ข้อพอ อ่านแล้วของขึ้นเล็กน้อย ที่เหลือเดี๋ยวเค้าก็ต่อกันเองแร๊ะ...


#131105 อีกด้านหนึ่งของนิติราษฎร์ !!!

โดย Anubitz on 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 20:02

สำหรับผมเห็นด้วยกับ จขกท อยู่ 2 อย่างนะครับ

คือ 1. การมองอะไรในมุมมองที่ต่างจากความเชื่อเดิมของตนบ้างเป็นสิ่งที่ดี เพราะบางครั้งมันทำให้เราเห็นอะไรดีๆที่เรามองจากมุมเดิมๆของเราไม่ออก

2. เงินน่าจะซื้อกลุ่มนิติราดไม่ได้จริงๆ


ข้อแรก โดยส่วนตัวผมก็ใช้หลักแบบนี้บ่อยครับ ในชีวิตประจำวัน ไม่เว้นแต่ กรณีของกลุ่มนิติราดก็เช่นกัน เนื่องจากได้ฟังสิ่งที่นิติราดก็อ้างว่า สิ่งที่พวกเขาคิดก็เป็นการรักษาไว้ซึ่งสถาบัน .......... แต่เมื่อนำมาคิดทบทวนด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง มันมีแต่คำถามโผล่ขึ้นมาตลอดว่า นั่นเป็นแค่ข้ออ้างหรือไม่ ทำไมจึงต้องทำหลายๆ ในช่วงเวลานี้ทั้งๆที่รู้อยู่ว่า มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีต่อสถาบันกำลังเคลื่อนไหวอยู่เป็นจำนวนมาก ดังที่เพื่อนเสรีไทยได้โชว์ภาพตัวอย่างให้ดู
ข้อสอง ในหมู่นักวิชาการ เท่าที่ผมได้สัมผัสมา เงินไม่ใช่รางวัลอันสูงสุดครับ แต่สิ่งที่มีค่ามากที่สุดคือ "ความสำเร็จ" "การได้รับความยกย่อง ยอมรับ" ในอุดมการณ์หรือความคิดของตน ที่ได้นำเสนอสู่สังคม ผมจึงมองว่า พวกเขากำลังต่อสู้ไม่ใช่เพื่อสถาบัน หรือ ชาติ แต่เพื่อความคิดหรืออุดมณ์ที่ตนเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น โดยไม่สนว่าเวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมหรือไม่ คนหรือประชาชนทั่วไปพร้อมกับสิ่งที่พวกเค้าคิดหรือไม่
เอาง่ายๆ แบบเห็นภาพกันชัดๆไปเลย ประชาธิปไตยของไทย ในทุกวันนี้ คนไทยส่วนเข้าใจกันหรือยังจนทำให้ประเทศตกอยู่ในสภาพอย่างนี้




ปล. ครับ ด้วยความเคารพนะครับ สำหรับบางท่าน อาจมองหรือมีความเห็นไม่ตรงกับ จขกท. เช่นเดียวกับผม แต่อยากขอให้ให้เกียรติกันครับ อย่ามองแค่ว่าเค้าเป็นคนอายุน้อยกว่าแล้วมองอะไรด้อยกว่าครับ อาจคิดอยู่ในใจได้ครับ แต่ก็น่าจะใช้ภาษาที่ให้เกียรติกันครับ

ความคิดใหม่ๆ ใช่ว่าจะคิดล้มเจ้ากันหมดนะครับ


#130812 อีกด้านหนึ่งของนิติราษฎร์ !!!

โดย O2Giant on 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 16:31

ทำไมผมเข้าใจนะว่าคุณลูกชาวสวนต้องการสื่ออะไร

ก็แค่มองในอีกมุมที่คนทั่วไป คนที่ไม่โจมตีนิติราษฏร์ เค้ามองกัน

ก็แค่นั้น.......บางคนก็นะ......เอามันจริงๆ แหละ - -"

ความเห็นผมเรื่องนี้ ผมไม่มีความเห็น เพราะผมตั้งธงไว้แล้ว ใครอย่ามาแตะต้องพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักของผม

แค่นั้นจบ...


#130681 อีกด้านหนึ่งของนิติราษฎร์ !!!

โดย tonythebest on 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 15:22

ผมว่า ผมพอเข้าใจ จขกท นะครับ
จขกท ไม่ได้พูดถึงเวลานี้ แต่พูดไปถึงอนาคตข้างหน้า
เรื่องนั้น เป็นเรื่องที่หลายคนทำนายกันไปมาเยอะครับ
หลายคนจึงเตรียมการไว้ก่อนที่ “อาจจะ” ไม่ทันการ

แต่ผมไม่เห็นตามนั้นเสียทีเดียว
ผมว่า อนาคต มันก้เป็นเรื่องอนาคต
วันนี้ คุณลุกขึ้นทำอะไรได้เยอะแยะ เอาเมืองนอกเข้ามาเป็นเครื่องมือยังทำได้
แล้วอนาคต ผมไม่เชื่อว่า หากเกิดไปในทางร้าย ทางลบ เราจะทำอะไรไม่ได้
แต่ทั้งหมด คืออนาคต ที่ยังไม่มีข้อสรุปไปเหมือนที่คาดเดาไปเสียหน่อยครับ
ต่อให้คุณวางแผนอะไรไว้ คุณมั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรือปล่าว ว่ามันจะเป็นอย่างที่คุณคิด
ยังไม่มีคำตอบได้แน่นอนหรอกครับ

แต่การเคลื่อนไหววันนี้ มันส่งผลกระทบต่อปัจจุบันนี้ด้วยครับ
ต้องถามว่า เวลาปัจจุบันนี้ มีอะไรผิด

หากจะนับรวมอีแอบที่จะหากิน หาเศษหาเลยกับเรื่องนี้ล่ะครับ
ผมว่า มันยิ่งใหญ่โตไปกันใหญ่นะครับ
เพราะหากการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มนับหนึ่งได้ มันก็อาจจะนับสองไปในทางร้ายได้
(แถม ความเป็นไปได้มันมีให้เห็นๆ นะครับ ผมว่า)

แต่ทุกอย่าง ทั้งด้านดี ด้านร้าย มันเป็นเรื่องอนาคตทั้งนั้นนะครับ
เราไม่อาจทำนายอะไรได้เลย จากปัจจุบัน
ผมยังแอบคิดไว้ด้วยซ้ำ ว่าปัจจุบัน ก็เตรียมการสำหรับอนาคตไว้แล้ว
เพียงแต่เราไม่รู้ ก็เป็นได้ครับ

แต่ที่แน่ๆ ผมไม่ร่วมสังคกรรมกับกลุ่มบุคคลที่ไม่มีความชัดเจน
มีอะไรแอบแฝงทับซ้อนกันอยู่
เพราะความเคลื่อนไหวร่วมของผมวันนี้ อาจจะมีผลต่ออนาคตได้
และผมเชื่ออย่างสนิทใจว่า นิติราษฏร์ ไม่ชัดเจนและไม่บริสุทธิ์ครับ
ไม่นับไอ้และอีแอบเบื้องหลังเสียด้วยซ้ำ

ผมมองว่า ปัญหานี้ซับซ้อนและประกอบด้วยองค์ประกอบมากมายเกินไป
เกินกว่าที่จะให้กลุ่มบุคคลใดเพียงกลุ่มเดียวชี้วัดครับ
ผมเลือกจะอยู่อย่างผู้สังเกตุการณ์และรอไปก่อน
อย่างน้อย อนาคตข้างหน้า หากผู้เคลื่อนไหว ตัดอีแอบล้มเจ้าและทำลายเจ้าเพื่อผลประโยชน์ตัวเองไปได้แล้ว
ค่อยมาพูดให้ผมฟัง ถึงอนาคตข้างหน้า
ผมว่ายังไม่สายครับ


#130566 อีกด้านหนึ่งของนิติราษฎร์ !!!

โดย sendou tiger on 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 14:17

ถึงแม้จะมีเจตนาดี แต่ก็ไม่ควรจะไปร่วมมือ หรือ ยอมเป็นเครื่องมือให้กับสิ่งชั่วร้ายมิใช่เหรอครับ
ผมเข้าใจ จขกท. นะครับ การถอยออกมาแล้วมองกลับไปที่เดิม มันจะเห็นภาพที่กว้างขึ้น แต่ เขาจะดีหรือเลว ผมก็ไม่สนใจหรอกครับ คนดีความคิดแย่ๆก็มี คนเลวความคิดดีๆ ก็อาจจะมีบ้าง
แต่ดูแล้ว การกระทำอันใดก็ตาม ไม่ว่าจะจากคนดี หรือ คนเลว ถ้าเรื่องที่เขาจะกระทำมันเป็นเรื่องไม่เหมาะสม(ผมไม่ใช้คำว่า ถูก/ผิด ละกันครับ เพราะ เมื่อเวลาผ่านไป บริบทเปลี่ยนไป สิ่งเหล่านี้ก็อาจเปลี่ยนได้ ไม่จีรัง)
ก็คงจะต้อง คัดค้านล่ะครับ


#130341 อีกด้านหนึ่งของนิติราษฎร์ !!!

โดย DarkSwan on 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 12:15

ครับ ผมเข้าใจสิ่งที่ จขกท. บอกครับ แต่ผมก็มองว่า

อ.เหล่านั้น มีอุมการณ์ เงินซื้อไม่ได้ อาจจะจริง
แต่อย่าลืมว่า มนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวที่อ้างสิ่งที่เรียกว่า "อุดมการณ์" เพื่อฆ่าฟันกันเอง

ความดี เป็น ข้อเท็จจริง ที่เป็นจริง ความดีก็คือเรื่องทีดี ความดีไม่มีข้อโต้แย้ง
แต่มุมมองอุดมคติของแต่ละคนต่อการให้ความหมายของความว่า "ดี" นั้นกำกวม
ผมจึงไม่สามารถที่จะใช้มุมมองของเพื่อนของ จขกท. ว่า อาจารย์เหล่านั้นเป็นคนดี มาตัดสินว่าเขาเป็นคนดีได้

แต่ข้อเท็จจริงตอนนี ผมเห็นด้วยกับ ท่าน Blue เป็นอย่างยิ่งครับ
- ในหลวงของเราท่านเป็นกษัตริย์ที่ดีมาก และมีหลายคน พวกที่คอยจะใส่ร้ายและทำร้ายท่านอยู่เสมอ การที่มาริดรอนข้อกฏหมายเพียงข้อเดียวที่ช่วยปกป้องท่านจากคนเหล่านี้ มันสมควรหรือ นั่นคือสิ่งที่เรียกว่าหวังดีได้อย่างไร? ผมไม่สามารถที่จะยอมรับหรือทำความเข้าใจได้

- ผู้ที่ถูกลงโทษจากข้อกฏหมายนี้ จนถึงวันนี้ ผมยังไม่เห็นบุคคลใดที่จะเข้าข่ายว่า ถูกใส่ร้าย หรือ เป็นแพะ หลักฐานและคำตัดสินของศาลชัดเจนว่า จำเลยแต่ละคน ผิดจริง ดังนัี้้น ผู้ทีถูกลงโทษทั้งหมด คือผู้ทำกระทำผิดกฏหมาย การที่จะปรับแก้กฏหมายเพื่อลดทอนบรรทัดฐานของสังคม ย่อมไม่ใช่เรื่องที่สมควร ผมก็ไม่ทราบว่า อ. เหล่านี้คิดอะไร? จะลดทอนบรรทัดฐานของกฏหมาย ของสังคมไปถึงไหน? แค่นี้ สังคมก็เละเทะ กฏหมายก็อ่อนยอบแยบอยู่แล้ว

- การเรียกร้องของ อ. เหล่านี้ ผิดธรรมเนียมวัฒนธรรมประเพณี ผิดทั้งเรื่องความเหมาะสม จารีต ศีลธรรมจรรยา นั่นก็เพราะสิ่งที่เรียกว่า "อุดมการณ์สมัยใหม่" ความคิดใหม่ๆ อยากได้อะไรใหม่ๆ เหล่านี้แหละที่ทำให้ วัฒนธรรม ประเพณี จารีต สิ่งจรรโลงใจที่มีมาช้านานของชาติ ต้องถูกทำลาย และผมไม่เห็นว่า มันจะทำให้ประเทศหรือสังคมดีขึ้นตรงไหน มีแต่นำพาไปสู่ความเสื่อม

- การแก้ไข ม. 112 ไม่ได้ทำให้ใครได้อะไร นอกจากจะได้ความสะใจ ของกลุ่มคนที่ต้องการทำลายท่าน พวกมันจะบอกว่า เห็นมั้ยเราทำได้ เราชนะ ที่ทำทั้งหมดนี้ ก็ด้วย ทิฐิ ที่ต้องการเอาชนะของพวกคนเหล่านั้นเท่านั้น ถ้าสำเร็จแล้วจะได้อะไร ชาวบ้านจะมีระดับที่ดีขึ้นหรือ? มีเสรีภาพอย่างที่ควรเป็นหรือ? ไม่เลย ชะตาของประชาชน ก็ยังคงถูกกำหนดด้วยมือของนักการเมือง ผู้คนยังคนบูชาคนรวย ไม่ว่าเขาจะเลวแค่ไหน ผู้คนจะคนให้ใ้ต้โต๊ะ วิ่งเต้นเข้าหา ยอมเป็นข้ารับใช้ผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นอยู่ดี พวกเขานั่นแหละที่สร้างอำมาตย์หรือศักดินาขึ้น ด้วยการกดก้มหัวตัวเองลงไป
อะไรจะเปลี่ยน? ไม่มีเลย

- การเรียกร้องในเวลานี้ เรื่องนี้ นำพาไปสู่ความขัดแย้ง แตกหัก ของคนในชาติ ไม่มีใครรู้ว่า ความรุนแรงนั้นจะไปถึงไหน และจะมีการสูญเสียใดๆ บ้าง ทำไมถึงต้องทำ? ตอนนี้? เรื่องนี้? ทำแบบนี้? และความสูญเสียความเสียหายที่เกิดขึ้น และจะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต อ. เหล่านี้ พร้อมจะรับผิดชอบหรือไม่? จะรับผิดชอบอย่างไร? และจะัรับผิดชอบไหวหรือ? ผมฟันธงว่า พวกเขาจะไม่รับผิดชอบอะไรเลย ซึ่งนั่นจะเป็นเรื่องที่แย่มากๆ

ทุกสิ่งนำกลับมาสู่คำถามว่า ทำแล้วจะได้อะไร? ทำไมถึงทำ? แล้วผลของมันใครจะรับผิดชอบ?
อุดมการณ์ที่พวกอาจารย์เหล่านั้นเห็นว่าสูงส่ง ดีเลิศ สำหรับผมไม่ต่างอะไรกับทิฐิ ดื้อรั้น ด้วยความหลงเท่าันั้น พวกเขาก็แต่ต้องการ เอาชนะ แล้วมาอวดโม้กับตนเองว่า "นี่ไง ข้าทำได้แล้ว ข้าชนะ" ก็เท่านั้น

ผมไม่อาจจะมองจุดประสงค์หรือแนวคิดของคนกลุ่มนี้ว่ามีเจตนาดีได้ครับ
ด้วยความเคารพ และขอบคุณ จขกท. ที่ได้นำเรื่องในอีกมุมมองหนึ่งของท่านมาให้ได้อ่านครับ

ที่เขียนมายืดยาวคือ แนวคิดและทิฐิส่วนตัวของผมเองครับ
เพราะผมเอง ก็ไม่ได้เป็นมนุษย์ดีเ่ด่นอะไรเช่นกันครับ