Jump to content


Gingerbread

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 21 พฤศจิกายน 2554
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2556 08:05
-----

#503020 รัฐบาลไทยจะเซ็นต์ MOU เรื่องข้าวกับรัฐบาลจีนในโอกาสนายกฯจีนมาไทยแต่......

โดย Gingerbread on 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 12:39

ขอที่มาครับ


ถ้าหมายถึงอันนี้

โฆษกสำนักนายกฯบอกว่า ณ เวลานี้ภาคเอกชนของจีนกับไทยรวม 10 รายได้ลงนามใน MOU ในการซึ้อขายข้าวระหว่างเอกชนกับเอกชน จำนวน 2.6 แสนตัน มูลค่า 6240 ล้านบาท

งงวุ้ย !!!!!! :o

การซื้อขายระหว่างเอกชนกับเอกชนเค้าเรียกเอ็มโอยูด้วยเหรอ
:o :o


ที่มา
MOUข้าวไทย-จีน ในที่สุดรัฐบาลก็โกหกคนไทย

Posted Image



การโชว์ศักยภาพการขายข้าวแบบจีทูจี ด้วยการลงนามเอ็มโอยู กับนายเวิน เจีย เป่า นายกรัฐมนตรีของจีน

(21 พ.ย) ภายใต้การแสดงความเชื่อมั่นด้วยการโชว์ศักยภาพในการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี ด้วยการลงนามเอ็มโอยู กับนายเวิน เจีย เป่า นายกรัฐมนตรีของจีนวันนี้ ดูเหมือนว่ารัฐบาลสามารถสยบคำสบประมาสว่าไม่สามารถระบายข้าวจากโครงการรับ จำนำออกไปได้ แต่เมื่อพิจารณาในรายละเอียดและย้อนกลับไปตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงขั้นตอน การระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจีของรัฐบาล กลับพบของมูลข้อเท็จจริงที่ทำให้สามารถเข้าใจได้ว่า ที่แล้วๆมากระทรวงพาณิชย์

โดยนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี โกหกคนไทยมาโดยตลอด เมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมารัฐบาลได้ทำการส่งสัญญาเอ็มโอยูการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐให้ทาง การจีนพิจารณา แต่ได้ถูกจีนขอตัดการระบุปริมาณข้าวและกรอบเวลาที่จะซื้อขายข้าวระหว่าง 2 ประเทศออก ซึ่งในข้อตกลงฉบับเดิมที่ไทยเสนอไป ได้กำหนดจะซื้อขายข้าวไม่เกิน 5 ล้านตัน/ปีระหว่างปี 2556-2558

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ พยายามชี้แจงว่า ไทยและจีนได้ มีการร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือการค้าข้าวระหว่างหน่วย งานภาครัฐและภาคเอกชนของไทยและจีน โดยการลงนามแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 เป็นการลงนามของภาครัฐ ระหว่างกระทรวงพาณิชย์ไทยกับกระทรวงพาณิชย์จีน โดยเนื้อหาสาระหลักของบันทึกความเข้าใจฯ รัฐบาลของ 2 ประเทศจะส่งเสริมสนับสนุนหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและบริษัทเอกชนทุกรูปแบบในการ ผลักดันการค้าข้าวและความร่วมมือการค้าข้าวให้เพิ่มมากขึ้น โดยฝ่ายจีนจะพยายามนำเข้าข้าวจากไทยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การค้าข้าวของทั้ง 2 ประเทศ

ซึ่งจะส่งผลดีและเป็นประโยชน์ต่อตลาดการค้าข้าวในอนาคต ส่วนที่ 2 เป็นการลงนามของภาคเอกชนระหว่างรัฐวิสาหกิจและบริษัทเอกชนจีนกับบริษัทผู้ ส่งออกข้าวไทย โดยฝ่ายจีนจะนำเข้าข้าวจากฝ่ายไทยประกอบด้วย 3 ชนิด ได้แก่ ข้าวหอมมะลิไทย, ข้าวขาว และข้าวเหนียว รวมปริมาณ 300,000 ตัน ในราคาตันละ 800 เหรียญสหรัฐฯ มูลค่ารวม 240 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นมูลค่า 7,200 ล้านบาท นอกจากนี้ ฝ่ายจีนยังแสดงความต้องการที่จะนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้นอีกในปีหน้าที่คาด ว่าจะมีปริมาณนำเข้าจากต่างประเทศสูงถึงปริมาณ 1.5 ล้านตัน

รมว.พาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันไทยเป็นแหล่งนำเข้าข้าวที่สำคัญอันดับ 1 ของจีน โดยครองส่วนแบ่งตลาดข้าวในจีนกว่าร้อยละ 50 ซึ่งข้าวไทยโดยเฉพาะข้าวหอมมะลิเป็นที่นิยมและชื่นชอบเป็นอย่างมากในกลุ่ม ผู้บริโภคชาวจีน การชี้แจงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ดูเป็นการสร้างความสับสนมากกว่า การทำความเข้าใจ เนื่องจากเป็นที่รับรู้กันโดยง่ายว่า การซื้อขายข้าวระหว่างเอกชนกับเอกชนนั้น ไม่เรียกว่าจีทูจี และที่ชวนผิดสังเกตมากกว่านั้นก็คือ การอ้างถึงตัวเลขข้าวเอกชนของรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์กลับไม่ตรงกับการอ้าง อิงตัวเลขของรัฐฯ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าภาคเอกชนของ จีนและไทยได้ลงนามในเอ็มโอยูการซื้อขายจากไทย ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ ข้าวขาว และข้าวเหนียว จำนวน 2.6 แสนตัน มูลค่า 6,240 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมาโดย เป็นการลงนามของบริษัท 10 ราย ในสัญญาซื้อขาย 8 ฉบับ ซึ่งตัวเลขดังกล่าว ขัดแข้งกับตัวเลขของรัฐมนตรีพาณิชย์ที่ระบุเอาไว้ที่รวมปริมาณ 300,000 ตัน มูลค่า 7,200 ล้านบาท

นอกจากนี้ นพ.ทศพร ยังอ้างถึงการที่กระทรวงพาณิชย์ของไทยและจีน ลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ว่าด้วยความร่วมมือการค้าข้าวทวิภาคี ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนนั้น เอ็มโอยูดังกล่าวไม่ได้ระบุปริมาณและระยะเวลาการซื้อขาย เนื่องจาก ทางการจีนร้องขอไว้ไม่ให้ระบุ แต่การหารือระหว่างฝ่ายไทยและจีนในเบื้องต้น ได้พูดถึงเรื่องปริมาณและกรอบเวลาการซื้อขายข้าวไว้แล้ว เมื่อปริมาณการซื้อขายถูกเปลี่ยนแปลงจากจีน ไม่ใช่ 5 ล้านตันตามที่รัฐบาลไทยกล่าวอ้าง แม้แต่ห้วงเวลาก็ถูกยกเลิกออกไป จนไม่รู้ว่าจะมีการซื้อขายข้าวเมื่อไร วันไหน จึงเท่ากับว่ารัฐบาลก็จะยังไม่สามารถขายข้าว หรือได้เงินจากจีนมาโปะ หนี้ของธ.ก.ส.

ซึ่งวันนี้กำลังขาดสภาพคล่องอย่างหนักสัญญาการซื้อขายข้าวแบบจีทูจี ที่ทางการจีนปรับแก้ไข มีดังนี้

1.ทั้งสองฝ่ายจะสนับสนุนการพัฒนาการค้าข้าวระหว่างสองประเทศให้มีความมั่นคง

2.ทั้งสองฝ่ายจะสร้างบรรยากาศความร่วมมือที่มีเสถียรภาพ เป็นธรรมและโปร่งใส

3.ทั้งสองฝ่ายจะส่งเสริมสนับสนุนหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและบริษัททุกรูปแบบในการผลักดันการค้าข้าวระหว่างสองประเทศ
และ

4.ประเทศใดประเทศหนึ่งสามารถทบทวนแก้ไขบันทึกความเข้าใจ เพิ่มเติมได้โดยต้องเป็นการยอมรับร่วมกันของทั้งสองฝ่าย หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องการยุติการดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจ ต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบล่วงหน้า ซึ่งจะมีผลสิ้นสุดในทางปฏิบัติในอีก 6 เดือนข้างหน้า

พิจารณาจากสัญญาเอ็มโอยูที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ลงนามร่วมรัฐบาลจีนในวันนี้ ไม่มีเนื้อหาส่วนใดเลยที่บอกว่าจีนจะต้องซื้อข้าวจากไทย ยิ่งไปกว่านั้น เงื่อนไขข้อที่ 4 ยังระบุด้วยซ้ำไปว่าประเทศใดประเทศหนึ่งสามารถทบทวนแก้ไขบันทึกความเข้าใจ เพิ่มเติมได้ และ หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องการยุติการดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจก็สามารถทำ ได้ หรือจีนจะไม่ซื้อข้าวจากไทยก็สามารถทำได้ ข้อเท็จจริงดังกล่าวที่ปรากฏคงไม่ทำให้คนไทยทั้งประเทศเสียความรู้สึกและ เกิดความผิดหวังมากเท่านี้ หากก่อนหน้านี้รัฐบาลไม่โกหกคนไทยทั้งประเทศว่าสามารถทำสัญญาเอ็มโอยูและ ตกลงทำสัญญาจะซื้อจะขายข้าวกับจีนและประเทศคู่ค้าอีก 4 ประเทศ เป็นที่เรียบร้อย

และเมื่อ 11 ตุลาคม 2555 นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงการขายข้าวแบบจีทูจี ด้วยความมั่นอกมั่นใจว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ทำสัญญาการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐแล้ว 7.3 ล้านตัน กับประเทศผู้ซื้อ ซึ่งบางประเทศได้ชำระเงินและรับมอบข้าวไปแล้วบางส่วน อีกทั้งกระทรวงพาณิชย์ก็ได้ส่งคืนเงินให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การ เกษตรแล้ว 4.2 หมื่นล้านบาท

สำหรับคู่สัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ กับรัฐบาล 5 ประเทศ มีอยู่ด้วยกัน 6 สัญญาประกอบด้วยประเทศจีน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย บังกลาเทศ และโกตดิวัวร์ จำนวน 7,300,000 ตัน โดยส่งมอบไปแล้วกว่า 1.46 ตัน และอยู่ในระหว่างการส่งมอบเดือนตุลาคม –ธันวาคม 2555 0.3 ล้านตัน และอีกกว่า 5.56 ตัน ภายในปี 2556 ขณะนั้น นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ยังเข้าชี้แจงต่อ คณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา เกี่ยวกับการขายข้าวในระบบ จีทูจี

โดยยืนยันว่า เป็นวิธีการที่ใช้มานานแล้ว เพื่อเป็นการยกระดับราคาข้าวไทยในตลาดโลกให้สูงขึ้น และการขายข้าววิธีการดังกล่าว ทำให้ข้าวไทยราคาสูงกว่าเวียดนาม ซึ่งขณะนี้ ขายข้าวไปแล้ว 7.33 ล้านตัน ให้ 5ประเทศ โดยมีการเจรจาและทำสัญญาแบบรัฐต่อรัฐชัดเจนแต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียด ได้ เพราะคู่สัญญาบางประเทศ มีกลุ่มต่อต้านไม่ให้ซื้อข้าวจากต่างประเทศอย่างรุนแรงและ ที่เจ็บใจมากกว่านั้นก็คือ กระทรวงพาณิชย์ยังยืนยันในตอนนั้นอีกว่า รัฐบาลจะมีรายได้จากการขายข้าวล่วงหน้า 2.6 แสนล้านบาท ภายในสิ้นปี 2556

สำหรับการนำเงินจากการขายข้าวส่งคืนให้ธ.ก.ส.นั้น มีการรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า มียอดรวมจนถึงปี 2556 ประมาณ 2.6 แสนล้านบาท แยกเป็น ไตรมาสที่ 4 ของปี 2555 จำนวน 8.5 หมื่นล้านบาท ไตรมาส 1 ปี 2556 จำนวน 3.99 หมื่นล้านบาท ไตรมาส 2 จำนวน 3.007 หมื่นล้านบาท ไตรมาส 3 จำนวน 4.960 หมื่นล้านบาท และไตรมาส 4 จำนวน 5.580 หมื่นล้านบาท จากวันนั้นจนถึงวันนี้ จึงเท่ากับว่ารัฐบาลไม่มีความชัดเจนใดๆเลยเกี่ยวกับการระบายข้าวแบบจีทูจี แล้วจะไม่ให้คนไทยสงสัยได้อย่างไรว่าความลับเรื่องการระบายข้าวที่รัฐบาล อ้างมาโดยตลอดนั้น แท้ที่จริงถือเป็นแค่เพียงการปกปิดขบวนการทุจริตคอรัปชั่นที่มีอยู่ใช่หรือ ไม่
วัน-เวลา 2012-11-22 08:13:26


http://www.tnews.co.th/html/news/45555/#.UK24Y8Vfxcg


#502520 นายกไทยตกหลุมรักโอบาม่า เรื่องฮาระดับโลก

โดย Gingerbread on 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 06:56

ในสายตาของชาติตะวันตก มองอองซานซูจีอย่างชื่นชมในฐานะนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ผู้ต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในพม่าอย่างสงบและอดทน แม้จะถูกลงโทษโดยรัฐบาลทหารพม่าโดยการกักบริเวณเป็นเวลาถึง 20 ปี เธอก็ไม่ย่อท้อ อองซานซูจีได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติมากมายจากหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 1991 น่าเศร้าที่เธอไม่สามารถเดินทางไปรับรางวัลด้วยตัวเองได้เพราะถูกกักบริเวณ

ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา อองซานซูจีได้เดินทางไปสหรัฐอเมริกา (หลังจากรัฐบาลนายพลเต็งเส่งยกเลิกการกักบริเวณและอนุญาตให้เธอเดินทางออกนอกประเทศได้) เพื่่อรับรางวัลเชิดชูเกียรติ Congressional Gold Medal ซึ่งเป็นรางวัลชั้นสูงสุดที่สภาคองเกรสของสหรัฐพิจารณามอบให้บุคคลที่เป็นพลเรือนที่ทำคุณงามความดีและสมควรจะได้รับ (ความจริงรางวัลนี้ผ่านสภาตั้งแต่ปี 2008 แต่เพิ่งมามอบให้ปีนี้เพราะเธอยังถูกกักกันโดยรัฐบาลทหารพม่า)

การเดินทางไปสหรัฐครั้งนี้ อองซานซูจีได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ ในงานเลี้ยงดินเนอร์เพื่อต้อนรับเธอมีประธานาธิบดีของสหรัฐถึง 3 คนที่ไปร่วมในงานเลี้ยงนั้น คือ โอบาม่า จอร์จ บุช(ผู้ลูก) และ ประธานาธิบดีคลินตัน รวมทั้งมิเชล ภรรยาของโอบาม่าได้เชื้อเชิญให้เธอพักที่ทำเนียบขาวด้วย จะเห็นได้ว่าแม้ซูจีจะเป็นเพียงฝ่ายค้านจากประเทศด้อยพัฒนาประเทศเล็กๆอย่างพม่า แต่สหรัฐได้ให้เกียรติต้อนรับเธออย่างยิ่งใหญ่และอบอุ่น ผิดกับการต้อนรับยิ่งลักษณ์ผู้นำจากเมืองไทยที่เป็นไปตามธรรมเนียมการทูตปกติเหมือนกับการต้อนรับผู้นำประเทศอื่นๆโดยทั่วไปไม่มีอะไรพิเศษ

ที่เล่ามาทั้งหมดเพียงเพื่อจะบอกว่า จากรูปอองซานซูจีน่าจะสนิทสนมกับฮิลลารี่พอสมควรจากครั้งเมื่อเธอไปเยือนทำเนียบขาว (เธอพูดภาษาอังกฤษได้ดีมากๆ) คนที่สนิทสนมกัน เมื่อต้องลาจากกันก็ต้องอาลัยเป็นธรรมดา ส่วนนัยยะอื่นๆทางการเมืองไม่ขอกล่าวถึง


อองซานซูจีกล่าวสุนทรพจน์ในงานรับมอบรางวัล Congressional Gold Medal (September 2012) ที่สหรัฐอเมริกา




#501623 อ่ะโห้ ไปกันใหญ่ นายกหญิงคนแรกของไทยกลายเป็น animation อีกแล้ว

โดย Gingerbread on 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 13:50

พูดอะไรไม่ออกเลย ลองอ่านที่คุณบูรพ์วิจารณ์ไว้ในไทยโพสต์ดีกว่า



*** ผู้นำทั่วโลกมองซูจี-อย่างเคารพรัก.. แต่มองยิ่งลักษณ์อย่าง-ชู้สาว***
------------------------------------------------------------------------------
*** คำวิจารณ์ที่พาดหัว-ของผมนี้เกินจริงไปหรือไม่?//... พิสูจน์กันง่ายๆ จากภาพถ่ายของผู้นำประเทศต่างๆที่เดินทางมาเยือน ประเทศไทยในรอบหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ได้เลย //... ย้อนไปดูกลุ่มผู้นำเวียดนาม และสายตารัฐมนตรีทุกๆคนในคณะ ที่คุณยิ่งลักษณ์ของเราเดินทางไปเยือนได้นะครับ //... เราลูกผู้ชายด้วยกัน - หรือเป็นใครๆ ก็จะดูออกทันทีว่า ในสายตาของผู้นำและรัฐมนตรีเหล่านั้นคิดอะไร - กับท่านนายกหญิงคนแรกของเรา?//... โลกมันแคบลงนิ๊ดเดียวละครับทุกวันนี้... ประวัติส่วนตัวของคุณยิ่งลักษณ์ พร้อมกับภาพต่างๆที่เคยแอ่นระแน้-ตาปรือยามเมานั้น... ไม่จำเป็นต้องเป็นมืออาชีพหรอกครับ... ผู้ชายคนไหนๆในโลกเขาก็ต่างรู้ว่าได้ที่แล้ว //... ย้อนกลับมาดูผู้นำเกาหลีนั้นยังไม่เท่าไร 50/50,... ลองไปดูภาพของผู้นำอูกานด้า
4-5คนที่ยืนมองคุณปู เมื่อวันก่อนหน้าท่านโอบามา-จะมาสิครับ.. ว่าไอ้มืด-กลุ่มนี้มันคิดอะไรอยู่ในใจ?//...
*** แต่ถึงอย่างไร ภาพต่างๆเหล่านี้เรายังจะพอแก้ตัวกันได้ว่า //...อ้าว , ก็เพราะนายกของเราสวยละซิว๊ะ... แล้วใครจะไปห้ามสายตาผู้ชายเหล่านั้นได้ //...*** จนกระทั่งมาถึงการมาเยือนของท่านโอบามา-สุดหล่อ, สูงยาวเข่าดี,ตัวดำเข้าตำรานี่ละครับ... เราท่านจึงต่างรู้กันดีว่า แท้จริงแล้วคุณยิ่งลักษณ์ของเราเอง นั้นต่างหากที่เก็บอาการหลง - เอาไว้ไม่อยู่ , สำเนียงส่อภาษา กริยาส่อสกุล , กระดี้กระด้าจนออกอาการ เอ๋อ-อ๋อ,อี๋,และอ้าซ่า - จนเกินสถานะตำแหน่งผู้นำประเทศไทยไป //...
*** ปวดร้าวไหมครับ?//... ผมจะไปปวดร้าว-หาห่าอะไร?//... ผมไม่ใช่คุณอนุสรณ์ อมรฉัตร - สามีของหล่อน , แต่ในฐานะสื่อและคนไทยในต่างประเทศ ผมอับอายขายหน้าแทนผู้หญิงไทยทั้งประเทศ... *** กราบขออภัยเถิดนะครับ , ถ้าประโยคต่อไปนี้จะหยาบคายเกินไป... อตีดที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นพัทยา หรือ เพชรบุรีตัดใหม่... เราก็เจ็บใจกันมากมายพอแล้ว - กับความง่ายและราคาถูกของผู้หญิงไทย... แต่หล่อนทั้งหลายเรานั้น ทั่วโลกเขาต่างเข้าใจกันดีว่าหล่อนจำเป็นต้องเป็นโสเภณี-เพราะความจำเป็น //... แต่ที่บัดซบที่สุดวันนี้คือ.. คนที่เป็นถึงนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย.. ได้กระจายบาดแผลแห่งเพศแม่ - ของคนไทยทั้งประเทศ ให้ทั่วโลกเข้าใจผิดไปหมดว่า ; แท้จริงแล้ว , คือความง่ายและหิวเงินพอๆกัน //... ดูแต่นายกของประเทศมันซิ - ว่าง่ายขนาดไหน?//... แล้วผู้หญิงอื่นๆจะไปเหลืออะไร?//...

*** ไม่สำคัญหรอกครับที่ระหว่างคุณทักษิณ และท่านโอบามานั้น.. ""ใครจะญาติดีกับใครก่อน""... ตอนที่ท่านโอบามา-มาเยือนประเทศไทยนั้นผมฝากสื่อที่เมืองไทย ให้ถามเรื่อง MR. CROOK. แล้ว - แต่ก็ไม่มีหน้าไหนกล้าถาม... เพราะสื่อไทยมันหน้าบาง และเห็นแก่ได้กันเป็นส่วนใหญ่... *** คำตอบทั้งหมดมันจึงอยู่แต่เพียงว่า ; แน่นอนครับ , ท่านโอบามา-รักษาผลประโยขน์ของอเมริกา ,... แต่คุณทักษิณนั้น ทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวเท่านั้นเอง ///...


เครดิต: Boon Palagab


#499963 นายกไทยตกหลุมรักโอบาม่า เรื่องฮาระดับโลก

โดย Gingerbread on 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 13:55

อ่านจนจบจะรู้ว่าเขาเยาะเย้ยถากถางนายกไทยอย่างแสบทรวงมาก

ไม่รู้ว่าพี่น้องเสื้อแดงจะรู้สึกรู้สมอะไรบ้างไหม ที่นายกเราทำตัวให้เขาดูหมิ่นได้ถึงเพียงนี้

แต่สำหรับเราแล้ว ยุคนี้เป็นยุคที่คนไทยตกต่ำ (โดยเฉพาะหญิงไทยถูกต่างชาติดูหมิ่น) อย่างที่สุด !!!!!!!!!!!!!!!



#499586 ใครรู้จัก "ไอ้นักข่าว" ที่ลุกขึ้นถามโอบามาบ้าง

โดย Gingerbread on 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 08:43

พอดีดูข่าว "บลูสกาย" เมื่อวาน..............เห็นมี "ไอ้นักข่าวนรก" คนหนึ่งมันลุกขึ้นถามคำถามโอบามา...........

เกี่ยวกับ สถาบันเบื้องสูงของไทย...........ประมาณว่า โอบามา คิดอย่างไร ที่ประเทศไทยยังมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างสูงสุด........

มีนักโทษที่ยังติดคุกเพราะข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ม.112 อยู่มาก .........ประมาณว่า อเมริกา ทำไมไม่มาจัดการให้หน่อย.....ประมาณนี้

อยากรู้จริงๆ...........ว่ามันเป็นใคร............รู้คราวๆว่า มันมาจากเครือ "ข่าวสลด"...........แล้วเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ไม่คิดจะทำอะไรมันบ้างเลยหรือ.............


มาจากค่ายมติชน-ข่าวสด ไม่ได้เป็นนักข่าว ปกติทำงานแปลข่าวต่างประเทศอยู่ในสำนักงาน แต่พูดภาษาอังกฤษคล่อง จึงได้รับมอบหมายให้มาถามคำถามโอบาม่า-ยิ่งลักษณ์

http://www.manager.c...D=9550000141258


#499454 ความผิดมันสำเร็จไปแล้ว...สุกำพลจะมาอ้อนไปทำไม

โดย Gingerbread on 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 05:31

เกียรติของทหารมันหายไปไหนหมดวะ ทุ กำ กวม


ขี้ข้าทักษิณมีเกียรติด้วยเหรอ ???


#499448 นายกไทยตกหลุมรักโอบาม่า เรื่องฮาระดับโลก

โดย Gingerbread on 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 05:18

มั่นใจหรือเปล่าครับว่า


เมื่อแปลที่สื่อต่างชาติเขียนออกมาแล้วจะได้ความหมายอย่างที่พวกคุณเข้าใจกัน ? <_<

Posted Image


ถามจริง แกล้งโง่หรือเปล่าเนี่ย :o :o


#499381 ...ผมจะขอให้ ict ปิดเว็บเสรีไทย !...

โดย Gingerbread on 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 02:02

นาทีนี้บรรดาเว็บต่างๆ พากันล้อเลียนโอบาม่ากับนังยกไทยอย่างสนุกสนาน

ข้างล่างนี้มาจากเว็บหนึ่งใน U.S.

Posted Image


#499348 ...ผมจะขอให้ ict ปิดเว็บเสรีไทย !...

โดย Gingerbread on 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 01:02

สงสัยจขกทต้องฟ้อง ICT ไล่ปิดเว็บไซต์ทั่วโลก

ตอนนี้ข่าวนายกไทยอ้อล้อกับโอบาม่าไปไกลถึงไนจีเรียแล้ว :lol: :lol:


www.nairaland.com/1107792/obama-flirting-thai-pm - Nigeria
You +1'd this publicly. Undo
President Obama is practicing a new brand of foreign relations, appearing to flirt with Thailand's attractive prime minister on his first stop of his three-day tour of ...

(0) (Reply) Agiliti(m): 5:15pm

President Obama is practicing a new brand of foreign relations, appearing to flirt with Thailand’s attractive prime minister on his first stop of his three-day tour of Southeast Asia.

The president and Prime Minister Yingluck Shinawatra could be seen laughing together and exchanging playful glances through a state dinner at the Government House in Bangkok on Sunday.




#499278 นายกประเทศกรู....หรือ...มุตา...วะเนี่ยะ...??

โดย Gingerbread on 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 23:52

"นายกเจ้าเสน่ห์" ??????? :o

ไปดูสิ ต่างชาติเขาวิจารณ์กันอย่างไร

ไม่ต้องอื่นไกล เอาแค่เว็บมาเลเซียประเทศใกล้ๆเรานี่แหละ

http://forum.lowyat.net/topic/2594964


Yesterday, 11:44 AM

Show posts by this member only | Post #18


Posted Image

Surfing LYN instead of Working.
Posted ImagePosted ImagePosted ImagePosted ImagePosted ImagePosted ImagePosted Image
Group: Senior Member
Posts: 3,852

Joined: Mar 2006

Posted Image Posted Image
Posted Image

wah she looks like she wants to drag him into her room and ravage him liao


#493010 ขอคาราวะใจของเธอ ที่สวยมาก...

โดย Gingerbread on 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 20:22

โอ๊ม๊ายก๊อดดด.... กลัวน้องเขาจะถูกอุ้มจริงๆครับ แต่ผมชอบมาก อิอิ


น่าเป็นห่วงคุณสมจิตต์ กลัวว่ามันจะส่งหมามาลอบกัดเธอ

แต่ถ้ามันกร่างขนาดลอบกัดผู้หญิงตัวเล็กๆที่ไม่มีทางสู้

ขอประณามมันล่วงหน้าไว้เลยว่า ไอ้ หน้า ตัว MIA


#490083 มีจริงๆหรือภาพนี้.... "ตั้งแต่...เมิง" มาเป็นผู้นำ...

โดย Gingerbread on 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 05:57

ได้รับภาพนี้เหมือนกัน เพื่อนส่งให้แต่เมื่อวาน โดนใจมั่กๆ :]

ยังคิดว่า โห...ใครนะช่างกล้า

ข้าน้อยขอคารวะ


#486528 ศึกน้ำดำ โค๊ก, เป๊ปซี่, เอส, บิ๊กโคล่า

โดย Gingerbread on 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 01:29

ชอบกระทู้นี้จัง อ่านสนุก หลายๆท่านให้ความรู้และสาระดีมาก

ขอร่วมแชร์ด้วยคนนะคะ



ส่วน เอสโคล่า ที่เขียนว่า EST นั่นน่ะ หลายกระแสหลายลิ้นก็พูดถึงรสชาติในมุมมองและความรู้สึกที่ต่างกันไป ถ้าเป็นผม ผมจะบอกว่า ถ้ากินแบบใส่ถุงอัดน้ำแข็ง รสชาติจะต่างจากเป๊ปซี่เพราะรสซ่านำ ไม่ค่อยหวานเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะลิขสิทธิ์ของเป๊ปซี่หรือเปล่า ผมเองก็ยังไม่ได้กินแบบกระป๋องกับขวด PET นะครับ

ที่เซเว่นตอนนี้ยังไม่มีขายเลยครับ


สูตรของ pepsi กับ coca cola เป็นความลับทางการค้า ที่ไม่มีกฎหมายคุ้มครองครับ
ลิขสิทธิ์ ตามความหมายใน พรบ.ลิขสิทธิ์ ก็ไม่ครอบคลุมถึงสูตรอาหารหรือเครื่องดื่ม
ดังนั้น หากใครทำออกมาได้เหมือน pepsi หรือ coca cola เป๊ะ ก็สามารถขายได้โดยไม่ผิดกฎหมาย

ถามว่าทำไมไม่จดสิทธิบัตร ก็เพราะว่าการจดสิทธิบัตรจะทำให้ต้องเปิดเผยสูตรที่ใช้อย่างละเอียด
สาธารณชนก็จะรู้หมดว่าผสมอย่างไร ไปผสมเองกินที่บ้านก็ยังได้เลย

แล้วอย่างนี้มันมีวิธีการรักษาความลับของสูตรอาหารต่าง ๆ ได้ยังงัย
ในเมื่อมันต้องไปผลิตที่ต่างประเทศไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่ผลิตที่อเมริกาทั้งหมด
อย่างพวกน้ำดำ หรือ KFC หรือ พวกพิซซ่าต่าง ๆ พวกนี้อะ


ยืนยันว่าสูตรผสมน้ำดำเป็นความลับสุดยอดของทางบริษัทผู้ผลิต เล่าลือกันว่าในสมัยเริ่มแรกที่เริ่มผลิตโค้ก มีคนเพียงสองคนเท่านั้นที่กุมความลับและรู้สูตรฉบับเต็มในการผลิตโค้ก ดังนั้นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการเดินทาง คนสองคนนี่จึงถูกห้ามไม่ให้โดยสารเครื่องบินลำเดียวกัน นัยว่าเพื่อป้องกันการสูญเสียในกรณีเครื่องบินตก ปัจจุบันสูตรดั้งเดิมของโค้กถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีในห้องนิรภัยในโรงงานผลิตใหญ่ที่สุดของโค้กซื่งตั้งอยู่ที่เมืองแอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา การรักษาความปลอดภัยสูตรลับของโค้กนี้เข้มงวดมาก ขนาดมียามเฝ้า 24 ชม. หากมีผู้บุกรุกเพื่อขโมยสูตร ยามได้รับอนุญาตให้ยิงผู้บุกรุกได้ทันที


#471678 เสนองี้มีอึ้ง : จีนเสนอเงินกู้ก้อนโตให้ “นายกฯปู” ซื้อแท็บเล็ตแจก นร.ครบทุกชั้น

โดย Gingerbread on 31 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 01:33

ตกลงเรามีควายบริหารประเทศ จริงหรือนี่ !!!!! :o

คิดว่าเป็นแค่วาทกรรมเสียอีก

ไม่โง่จริงคิดไม่ได้นะเนี่ย กู้เพื่อซื้อแท็บเล็ตแจกเด็กนักเรียนทั้งประเทศ

อยากรู้นักว่านโยบายจำนำข้าวที่กู้กันมาและพินาศshipหายไปแล้ว 5 แสนล้านน่ะจะว่าไง
!!!!!!!!!!


#470246 "กูและเพื่อนกัดมึงไม่ปล่อยแน่" เพจชั่วที่ยุให้คนไทยฆ่ากัน

โดย Gingerbread on 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:52

ไม่มี Like จะกดให้เพื่อน ขอโทษนะ.

เรื่อง โพสต์หมิ่นฯ นี่มันจะมีมาก ในเฟซฯ

ความรับผิดชอบ มันอยู่ที่ใคร เราก็รู้กันอยู่

แต่ผู้นำประเทศ ไม่ใส่ใจ...ก็จบ...


ขอคอนเฟิร์มว่าท่านพระฤาษีพูดถูก โพสต์หมิ่นฯมีมากในเฟสบุ๊ค เคยเจอมากับตัวเมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่พวกเราโพสต์ชื่นชมพระจริยวัตรของพระองค์ท่าน จู่ๆมีสมาชิกคนนึงโพสต์ด่าท่านใช้คำแรงมากๆ เพื่อนสมาชิกหลายคนโพสต์โต้ตอบด่าคนที่ว่าร้ายพระองค์ท่าน ชายคนนั้น (หลังจากตามไปดูที่เฟส เข้าใจว่าน่าจะเป็นเสื้อแดง) ยิ่งใช้คำแรงขี้นถึงขั้นหยาบคาย จนคนนึงบอกจะแจ้งตำรวจ ชายคนนั้นยังท้าทายให้ไปแจ้งเลย ประมาณว่ามันไม่กลัว...

ตอนนี้ไม่ทราบว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว อย่างที่ท่านพระฤาษีว่าละค่ะ ถ้าแจ้งตำรวจแล้วเขาไม่ใส่ใจเอาผิด ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน