Octavarium

แทบลงแดง

ฝากขังไปเรื่อยๆก็ดีครับ

ช่องทางทุจริตใหม่ๆเพียบเลยนะครับ

 

สนับสนุนตู่ 10 ปี

ตู่ จตุพร เหรอครัฟ 

.

.

.

.

.

.

 

ผมล้อเล่งคร้าฟฟฟฟ ไปหล่ะ ฟิิ้ววว

 

รายนั้นก็ 10 ปีครับ แต่ในคุกนะ

 

Home  »  บทความรับเชิญ, เรื่องแนะนำวันนี้  »  ภาณุมาศ ทักษณา เสียดาย จาตุรนต์ ฉายแสง

ภาณุมาศ ทักษณา เสียดาย จาตุรนต์ ฉายแสง

• วันจันทร์ 8 มิถุนายน 2552 12:59

                                              

 

 น่าเสียดาย  อนาคต “จาตุรนต์ ฉายแสง”

                                                                             ภาณุมาศ ทักษณา

          ผม ไม่รู้จักคุณจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทยเป็นการส่วนตัว แต่ในฐานะคนที่หากินกับข่าวมาตลอดชีวิต ติดตามการทำงานของนักการเมืองมาไม่ได้ขาด

 โดยเฉพาะนักการเมืองรุ่นใหม่ที่ “แจ้งเกิด” ใน ๒ ทศวรรษนี้ ผม ยอมรับว่า คุณจาตุรนต์ ฉายแสง เป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ ที่น่าจะเป็น “ความหวัง” ของสังคมไทยได้ไม่น้อยหน้านักการเมืองรุ่นใหม่ที่แจ้งเกิดในเวลาไล่เรียงกัน

          ย้อน ไปปี ๒๕๔๒ ช่วงที่คุณจาตุรนต์ ฉายแสง เป็นเลขาธิการพรรคความหวังใหม่ ผมเคยหวังอยู่ลึก ๆ ว่า วันใดที่ ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายทหารยศพลเอกที่ลาออกจากราชการมาตั้งพรรคการเมือง และดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคความหวังใหม่คนแรกรามือไปแล้ว

คุณ จาตุรนต์ ฉายแสง น่าจะก้าวขึ้นมาเป็น หัวหน้าพรรคที่มีความสดใส พอฟัดพอเหวี่ยงกับคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ขณะนั้นเป็นเพียงรองหัวหน้าพรรค รอคิวเป็น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ

          ประสบการณ์ ทางการเมืองของทั้งสองคนก็ไม่ต่างกันนัก แม้ คุณจาตุรนต์ จะลงสนามในนามพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่การเติบในทางการเมืองก็ไม่อ่อนด้อยว่ากัน

คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จบเศรษฐศาสตร์ จากอังกฤษ คุณจาตุรนต์ ฉายแสง ก็จบเศรษฐศาสตร์จากอเมริกา

          หาก คุณจาตุรนต์ ฉายแสง จะเป็นรอง คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อยู่บ้างก็ตรง “ความหล่อ” แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาสำคัญของทั้งสองคน เพราะต่างก็มีภรรยาแล้วทั้งคู่ – ฮา

          นิตยสารเอเชียวีค (Asia Week) เคยจัดให้ คุณจาตุรนต์ ฉายแสง เป็น ๑ ใน ๒๐ ผู้นำชาติในเอเซีย ที่มีบทบาทในศตวรรษที่ ๒๐ เมื่อปี ๒๕๔๒

แต่ในปี ๒๕๔๐ นิตยสารไทม์ ก็เคยจัดให้คุณอภิสิทธื เวชชาชีวะ เป็น ๑ ใน ๖ นักการเมืองที่เป็นความหวังของเอเซียมาแล้วเหมือนกัน

          คุณ จาตุรนต์ ฉายแสง มาเสียจังหวะก้าวทางการเมืองอย่างน่าเสียดายอย่างยิ่ง เมื่อ ชวลิต ยงใจยุทธ ยอมศิโรราบต่อ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายตำรวจยศพันตำรวจโทและอดีตนายกรัฐมนตรี ด้วยการยอมควบรวมพรรคความหวังใหม่ไปเป็นส่วนหนึ่งของพรรคไทยรักไทย

ทำให้โอกาสที่จะเป็น “หมายเลข ๑”บทถนนการเมืองของคุณจาตุรนต์ ฉายแสง “วูบลง” อย่างน่าเสียดาย

          ปี ๒๕๔๔ คุณจาตุรนต์ ฉายแสง มีตำแหน่งเป็น รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และอยู่ในตำแหน่งนั้น จนพรรคไทยรักไทยใกล้สูญพันธุ์จึงได้รับแต่งตั้งให้เป็น ผู้รักษาการหัวหน้าพรรค ที่แทบไม่มีความหมายในทางการเมืองแม้แต่นิดเดียว

          แล้ว ในที่สุด คุณจาตุรนต์ ฉายแสง ก็เป็น ๑ ใน ๑๑๑ คนที่ต้องหลุดจากวงจรการเมืองไปพร้อมกับเพื่อน ๆ ที่เป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่ถูก “จำกัดสิทธิ” ทางการเมือง

ภาพ และเสียงของคุณจาตุรนต์ ฉายแสง ไม่ถึงกับเงียบหายไปเสียทีเดียว นาน ๆ ครั้งจึงปรากฎเป็นข่าวประเภทเฮโลสาระพา เช่น ไปเรียนภาษาจีนเพิ่มเติมบ้าง ออกเทปเพลงบ้าง และซุ่มเขียนหนังสือแล้วจัดพิมพ์ออกขายบ้าง เสมือนหนึ่งไม่ต้องการให้ชาวบ้านลืมชื่อไปเสียเลย

          ผม มองว่าการดำรงตนของคุณจาตุรนต์ ฉายแสง ในลักษณ์นี้น่ารักดี สำหรับนักการเมืองที่ยังมีอนาคตอีกคนหนึ่งพึงกระทำ และควรจะทำในลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง แม้ห้วงเวลาที่ถูกจำกัดสิทธิ์ทางการเมือง จะดูเหมือนว่ายังเหลือเวลาอีกนานเหลือเกิน สำหรับคนเคย และขยันทำงานบ้างก็ตาม แต่ก็ควรอดทนอดกลั่น รอคอย

          ผมจึงรู้เสียดายครับ เสียดายที่ คุณจาตุรนต์ ฉายแสง “ตบะแตก” หลังจากที่ได้รับเชิญให้ไปปรากฎตัวในต่อหน้าสมาชิกกลุ่มคนเสื้อแดงในงานแสดง สินค้า “ร่วมมือประสานใจ นำเอสเอ็มอี-โอท๊อปไทย ข้ามพ้นวิกฤติ ครั้งที่ ๑” ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๕๒ ที่ผ่านมา

 

          คุณ จาตุรนต์ ฉายแสง ได้รับเชิญให้กล่าวปาฐกถาเรื่อง “ธุรกิจเอสเอ็มอี-โอท๊อป ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย” ซึ่งคุณจาตุรนต์ น่าจะฉวยจังหวะนั้น แสดงวิสัยทัศน์ของนักเศรษฐศาสตร์ระดับปริญญาเอก ให้กลุ่มคนเสื้อแดงได้รับฟัง ว่าควรพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสอย่างไร เฉกเช่นนักการเมืองคนอื่น อาทิ คุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ หรือ คุณโอฬาร ไชยประวัติพึงกระทำในหลาย ๆ ครั้ง

          แต่ คุณจาตุรนต์ กลับใช้เวทีดังกล่าว ระบาบอารมณ์แค้น ด้วย“โจมตีรัฐบาล” ด้วยเรื่องที่อาจทำให้คุณจาตุรนต์ต้อง “เสียแต้ม” ด้วยการย้อนไปสู่เหตุการณ์ในเดือนเมษายน ๒๕๕๒ ที่ “คนไทยหลายคนกำลังจะลืม” โดยคุณจาตุรนต์กล่าวว่า

          “การ ที่นายอภิสิทธิ์บอกว่า ผู้นำต่างประเทศและนักลงทุนไม่กล้ามาประชุมในประเทศไทย เพราะกลัวการชุมนุมของคนเสื้อแดง ถือเป็นคำพูดที่บิดเบือน เนื่องจากการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นการชุมนุมกินเลี้ยงสังสรรค์ หรือการประชุมวิชาการเท่านั้น ไม่มีการใช้ความรุนแรงทั้งสิ้น

          เหตุการณ์ จลาจลที่พัทยาจนเป็นเหตุให้การประชุมอาเซียนล้มเลิกนั้น เป็นการสร้างสถานการณ์ของรัฐบาล ที่ต้องการให้การประชุมล้มเลิก เพื่อมาใช้เป็นข้อกล่าวหาคนเสื้อแดง ทั้ง ๆ ที่ในความจริง นักการฑูตของประเทศต่าง ๆ พูดกันว่า

          เหตุ ที่ผู้นำประเทศของเขาไม่มาร่วมประชุมที่ประเทศไทยอีก ไม่ใช่ประเด็นกลัวความไม่ปลอดภัย แต่เป็นเพราะไม่พอใจที่นายกฯและรัฐมนตรีต่างประเทศของไทย ที่หนีเอาตัวรอดตามลำพัง และไม่ได้จัดกำลังทหารตำรวจมารักษาความปลอดภัยให้กับผู้นำประเทศเขาต่างหาก”

          คุณจาตุรนต์ ครับ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่า คนที่มีวุฒิภาวะทางการเมืองค่อนข้างสูงอย่างคุณ จะ “กล้าพูด”ในสิ่งที่ “สวนกับความเป็นจริง” อย่างชัดถ้อยชัดคำออกมาอย่างนั้น

          จริง อยู่ คุณกำลังพูดต่อหน้า “กลุ่มคนเสื้อแดง” ที่คุณอาจจะต้องการ “พูดเอาใจ” เพื่อให้ได้รับเสียงปรบมือด้วยความสะใจหรือ “สาแก่ใจ” แต่คุณไม่คิดบ้างหรือครับว่า

คุณกำลังพูดอยู่ในใจกลางเมืองหลวงของประเทศ ในท่ามกลางเครื่องมือสื่อสารที่ล้ำยุค

คุณ ไม่ได้พูดในหุบห้วยกลางป่าในฐานะ “สหายสุภาพ” ที่รายล้อมด้วย “สหายชาย-หญิง” ที่อยู่ไกลปืนเที่ยง และไม่สามารถรับรู้เหตุการณ์ใน “เขตเมือง” ได้จากเครื่องมือสื่อสารใด ๆ

          คุณจาตุรนต์พูดได้อย่างไรว่า  “การชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นการกินเลี้ยงสังสรรค์ หรือประชุมทางวิชาการ ไม่มีการใช้ความรุนแรงทั้งสิ้น”

          คุณ จาตุรนต์พูดได้อย่างไรว่า “เหตุการณ์จลาจลที่พัทยาจนกาประชุมอาเซียนล้มเลิก เป็นการสร้างสถานการณ์ของรัฐบาล ที่ต้องการให้การประชุมล้มเลิกเพื่อมากล่าวหาคนเสื้อแดง”

          คุณ จาตุรนต์พูดได้อย่างไรว่า” ผู้นำต่างชาติไม่ประชุมเพราะไม่ได้กลัวความไม่ปลอดภัย แต่ไม่พอใจที่นายกฯและรัฐมนตรีหนีเอาตัวรอด และไม่จัดกำลังทหารตำรวจไว้ดูแล”

          คุณ จาตุรนต์ครับ ผมนั้นใช่ว่าจะกระดี๊กระด๊ากับการทำงานของรัฐบาลผสมที่มีพรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำ และมีคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี สักเท่าไหร่หรอกนะครับ

หลาย เรื่องที่รัฐบาลชุดนี้ทำไม่ดี ผมก็ “ด่า” ทั้งด้วยเหตุผล และบางครั้งด้วยอารมณ์ เมื่อเห็นว่าบางเรื่อง รัฐบาลทำเหมือน “แกล้งโง่” (ทั้งที่โง่จริง ๆ – ฮา) มาแล้ว

          แต่เมื่อเห็นคำปาฐกถาของคุณในหนังสือพิมพ์วันนี้แล้ว ผมขอตำหนิคุณจาตุรนต์ ฉายแสง ว่า

“คุณนั่นแหละ กำลังบิดเบือนข่าว” อย่างไร้ยางอายที่สุด

คุณพูดได้อย่างไรว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดงเป็นการชุมนุมเพื่อกินเลี้ยงประชุมทางวิชาการ ไม่มีเหตุรุนแรง

ก่อน เกิดเหตุการณ์จลาจลที่เมืองพัทยานั้น คนไทยส่วนหนึ่งนั่งเฝ้าหน้าจอ รอชมการถ่ายทอดสดการประชุมอาเซียนผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง ๑๑ อย่างใจจดใจจ่อ เพราะเป็นการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ เพราะไทยเป็นเจ้าภาพ ทุกคนลุ้นระทึก อยากเห็นการประชุมประสบความสำเร็จ

เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีเสียงสั่งการให้ล้มการประชุมครั้งนี้ให้ได้ – คุณก็น่าจะรู้น่ะ

ทั้ง ๆ ที่คนสั่งการรู้ดีว่า ผลการประชุมครั้งนี้ ของแต่ละคณะนั้น ประเทศไทยจะได้รับผลประโยชน์อย่างเอกอุ

แต่สิ่งที่ทุกคนเห็นคือ คนไทยกลุ่มหนึ่งมีพฤติการณ์เยี่ยง “กองโจรเสื้อแดง” แห่แหน และโห่ร้องกึกก้องไปตลอดทางขึ้นไปสู่โรงแรมที่ประชุม  ด้วย ข้ออ้างว่าจะขอยื่นข้อเรียกร้องต่อผู้ร่วมประชุมฯ ซึ่งก็ได้รับอนุญาตให้ส่งตัวแทนเข้าไปยืนหนังสือได้ หลังจากนั้นแทนที่ทุกอย่างจะยุติอย่างสงบ

กลุ่ม คนเสื้อแดงได้อาศัยช่วงจังหวะ อันเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่เต็มไปด้วยความประหวั่น พรั่นพรึงของแขกเหรือและผู้นำชาวต่างชาติที่กำลังจะประชุม กรูกันเข้าไปยึดโรงแรมซึ่งเป็นสถานที่จัดงานด้วยการประกาศผ่านการถ่ายทอดสด ทันที

คุณจาตุรนต์ครับ ผู้นำกลุ่มเสื้อแดงวันนั้นเป็นใครครับ เป็นคนของรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่างนั้นหรือ ?

เปล่าเลย ผู้นำกลุ่มคนเสื้อแดงในวันนั้นคือคนสำคัญของพรรคไทยรักไทย และเป็นคนที่ “ทักษิณสั่งได้”ไม่ใช่หรือ

หลัง กลุ่มคนเสื้อแดงยึดโรงแรมได้แล้ว คุณไปมุดหัวอยู่ที่ไหนหรือ จึงไม่เห็นภาพข่าวทางโทรทัศน์ฉายวนเวียนจนน่ารำคาญให้เห็นว่าคณะรัฐบาลไทย ไปยืนส่งอาคันตุกะจากนานาชาติ สู่ยานพาหนะเพื่อพาเขาเหล่านั้นไปสู่สถานที่ปลอดภัยที่สุด ก่อนที่จะทิ้งความอัปยศไว้ที่โรงแรมแห่งนั้น

คุณ จาตุรนต์ครับ ผมเสียดายจริง ๆ ที่คุณเปลี่ยนไปเหมือนไม่ใช่จานุรนต์คนเดิม คุณกลายเป็นคนขาดเหตุขาดผล จนดูไม่ต่างไปจากสมาชิกคนเสื้อแดงบางคนที่ “คนไร้การศึกษา” อย่างไรอย่างนั้น

หาก คุณยังมีเป้าหมายในทางการเมืองอยู่ละก้อ ยุติบทบาทตัวเองไว้เพียงเท่านี้ก่อน แล้วเดินทางไปเรียนต่อที่ไหนก็ได้ รอเวลาเมื่อฟ้าเปิดแล้วกลับมาใหม่นะครับ

ผมเชื่อว่า คุณยังมีศักยภาพพอที่จะเป็น ผู้นำประเทศไทย หากคุณยังมีหิริโอตตัปปะมากกว่าคนอื่น ๆ ในพวกเดียวกัน

 

ความเห็น

•  
  ปู๋นา wrote on 1 สิงหาคม, 2009, 14:21

  กาย แปลว่าแสงฉายออกมา ถ้ากระจายไปทั่วเรียกว่าปกาย=ประกายครับ กายคน คือ ฉายแสงออกมาจากร่างคน จิตของคนใดขุ่นมัว ทำให้กายของคนนั้น หมองหม่นมองดูน่าเกลียด ขณะจิตของคนใดแจ่มใส ทำให้กายของคนนั้น ผ่องใสมองดูน่ารัก คุณทักษณา มองดูคุณจาตุรนต์ ขณะนี้ เห็นประกายของคนหมองหม่นน่าเกลียด แต่ขณะอื่นเห็นประกายของคนผ่องใสน่าชื่นชม คุณจาตุรนต์ยืนพูดท่ามกลางพี่น้องร่วมอุดมการณ์ เห็นกายของคนน่าสงสาร มองเหตุการณ์พัทยา ถูกกระทำให้น่าสงสารมากขึ้น เมื่อเห็นเสื้อสีขาบทาบมาด้านหลัง ตั้งอาวุธน่ากลัว หรือคุณทักษณาเห็นเป็นธรรมดา ๆ ครับ

•  
  สิทธิ1เสียง wrote on 12 กันยายน, 2009, 12:33

  ทุก คนก็มีหน้าที่ของแต่ละคน และทุกคนก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และทำให้ถูกต้อง แต่ก็ไม่รู้ว่าชีวิตของทุกคนนี้จะทำสิ่งที่ถูกต้องหรือว่าดีได้ทุกเรื่อง หรือเปล่า ถ้าทำไม่ได้ ก็อย่าทำอะไรที่ดูหน้าเกลียดมากจนเกินไปทำให้ดูแล้วพอดีบางก็ได้ (ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชมคุณจตุรนต์ครับ)

•  
  คนไท wrote on 12 เมษายน, 2010, 10:09

  ถ้า จำได้ ก่อนวันศาลตัดสินยุบไทยรักไทย ท่านผู้นี้แหละที่พูดออกทีวีได้ยินทั่วประเทศว่าจะยอมรับคำตัดสิน ฟังแล้วท่านเป็นสุภาพบุรุษจริงๆ แต่พอถูกยุบเข้าจริง ท่านเดียวกันนี้แหละที่ออกอาการมากที่สุด ทุรนทุรายมากที่สุด ตรงกับที่โบราณว่าไว้ว่า ดูคนให้ดูที่พฤติกรรม ผมเคยชื่นชมท่านเพราะท่านเคยเป็นนักต่อสู้ยุค14ตุลา แต่วันนี้ผมถือว่าท่านไม่มีราคาอะไร เป็นเพียงมนุษย์ที่เห็นแก่ตัวคนนึง และทำอะไรได้ทุกอย่าง

   

   

  http://www.chaopraya...กษณา-เสียดาย-จ/

   

   

 

ให้ราคามากเกินไปเยอะเลยครับ นักการเมืองรุ่นใหม่อะไรกัน ความหวังของใครกัน

ตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีมาเคยทำอะไรที่เป็นประโยชน์บ้าง ผลงานมีอะไรบ้าง อับจนทางความคิด ไร้ปัญญา

ก่อนจะเป็นความหวังเอเชีย เลิกเล่นการเมืองซะทั้งตระกูลแล้วให้คนอื่นมาพัฒนาการศึกษาของไทย เป็นสิ่งที่คนนี้จะทำประโยชน์ให้ชาติได้มากที่สุดแล้วครับ

อย่างเก่งก็ดีแต่เห่าแบบนี้ ไอ้จาตุรนต์ ไอ้คอมเก่า

คอมเก่า ไม่ยอมอัพเกรด... รุ่นไหนหรือครับ สงสัย CPU 80486

แล้วถ้าพบเพจเสี้ยมปลุกปั่นยุยงเราจะสามารถแจ้ง ได้ที่ไหนครับ

ได้คำตอบกันหมดแล้วนะครับสำหรับชัชชาติที่บางท่านบอกว่าดูดีที่สุดในคณะรัฐบาล บางคนบอกว่าเกลียดคนนี้ไม่ลง

เมื่อสีสวยๆที่พ่นไว้มันหลุดลอก ข้างในก็เป็นอย่างที่เห็นนั่นเอง

ดูท่ามีแววหัวจะเป็นรูจาก 9 มม. นะครับคนนี้

สุเทพนะครับ ไม่ใช่ บรรหาร

ปล. สงสัยใครบางคน แม่มีสามีเป็นนิโกรเหรอครับ เห็นชอบใช้รูปจัง

เกรียน + กลวง + เสี้ยม ไม่ได้แดงนะครับ จ่าเป็นกลาง ด่าทั้งสองฝั่ง

ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับ สำหรับลูกอีช่างเสี้ยมเพจนี้ บอกว่าตัวเองด่าทั้งสองฝั่ง แต่เน้นโจมตีฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามพรรคที่ตัวเองเลือกตลอด

เกลียด ปชป เกลียดหม่อมสุขุมพันธ์ ด่าคนรักเจ้าว่าคลั่ง ฯลฯ ตีแผ่สันดานตัวเองออกมาเรื่อยๆ บอกว่าตัวเองไม่ใช่สื่อ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร

ปล. ไปคอมเม้นท์ยังไงหรือครับ หยาบคายหรือเปล่า

 

 

จริงๆนะ  ผมอยากจะสมัครมาตำหนิพวกคุณตั้งแต่  เรื่องการแทงคนส่งน้ำแข็งของการ์ด กปปส ตั้งแต่เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้แล้ว  มีการใช้ความเห็นที่เลวร้ายมากของพวกคุณ อาทิเช่น เข้าไปทำไมเขตที่เค้าชุมนุม  หรือบอกว่า เป็นคนเมาบ้าง   พวกคุณเองถ้ายังมีจิตใจที่เป็นธรรม ก็คงจะบอกได้นะครับว่า   การที่เค้าไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามที่ไม่ส่งผลต่อ ชีวิตของพวกคุณและผู้ร่วมชุมนุม  คุณไม่มีสิทธิ์ ไปทำร้ายร่างกายคนอื่นครับ  การแสดงความเห็น คุณควรจะนึกถึงใจ  ครอบครัว ญาติผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิตบ้างก็ดีครับ (แถมพวกคุณบางคนก็ไม่ช่วยเบรคคนของพวกคุณอีกต่างหาก)

 

-ขอทราบว่าการ์ด กปปส เป็นคนทำจริงเหรอครับ ข่าวจากไหน 

 

อันนี้จากแฟนผู้เสียหาย

credit คุณผึ้งน้อย

 

http://www.manager.c...D=9570000052962

 

สอบปากคำเมียคนส่งน้ำแข็งที่อ้างถูกการ์ด กปปส.ทำร้าย เผยชายชุดดำรุมยำสามี

 

เมียคนส่งน้ำแข็งเข้าให้ปากคำ ตร. เผยวันเกิดเหตุสามีไม่ได้ดื่มสุรา ระบุชายชุดดำเป็นคนทำร้ายร่างกาย ชี้กล้องวรจรปิดย่านนั้นเป็นกล้องดัมมี เตรียมเร่งหาข้อมูลล่าตัวผู้กระทำความผิด 
       
       วันนี้ (13 พ.ค.) ที่ สน.พญาไท ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ส้ม (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ภรรยา นายธนกฤต ปิ่นวิเศษ อายุ 29 ปี คนขับรถส่งน้ำแข็งที่อ้างว่าถูกกลุ่มการ์ด กปปส.ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังขับรถชนกรวยของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ตั้งขวางไว้บนถนนพหลโยธิน หน้าสถานีโทรทัศกองทัพบกช่อง 5 โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 22.00 น.ของวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา เดินทางมาที่ สน.พญาไท เพื่อให้นักสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำต่อหน้าพนักงานสอบสวน สน.พญาไท โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนเดินทางกลับโดยไม่ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด
       
       พ.ต.อ.วิชัย แดงประดับ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สน.พญาไท กล่าวว่า วันนี้พนักงานสอบสวนได้นัดผู้เสียหายซึ่งเป็นภรรยาของนายธนกฤตมาให้นักสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำ วันนี้เป็นการสอบปากคำอย่างละเอียดทั้งหมด ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ โดยในสำนวนการสอบสวน น.ส.ส้มให้การว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงหัวค่ำของวันเกิดเหตุได้ขับรถไปส่งน้ำแข็งบริเวณใกล้พื้นที่ชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ก็ยังไม่มีอะไรผิดปกติ กระทั่งขากลับต้องผ่านเส้นทางดังกล่าวเพื่อมุ่งหน้ากลับย่านประดิพัทธ์ ช่วงนั้นฝนตกหนัก รถจึงไปเฉี่ยวชนกับกรวยของกลุ่มผู้ชุมนุม ก่อนเกิดเหตุชุลมุน น.ส.ส้มจึงวิ่งหนีไปประมาณ 200 เมตร เพื่อร้องขอความช่วยเหลือ กระทั่งอีก 10 นาทีกลับมาก็พบนายธนกฤตนอนกับพื้นถนนถูกห่อด้วยถุงพลาสติกสีดำ จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
       
       พ.ต.อ.วิชัยกล่าวต่อว่า น.ส.ส้ม ยืนยันว่าวันเกิดเหตุนายธนกฤตไม่มีอาการมึนเมาและไม่ได้ดื่มสุราแต่อย่างใด ส่วนกลุ่มที่มาทำร้ายนายธนกฤตนั้นทราบเพียงเป็นชายแต่งชุดดำ ใส่ผ้าปิดบังใบหน้าและผูกผ้าพันคอ สำหรับกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นกล้องดัมมี ไม่สามารถบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ส่วนกล้องวงจรปิดของธนาคารกรุงศรีอยุธยาอยู่ฝั่งตรงข้ามที่เกิดเหตุตรวจสอบแล้วพบว่ามุมกล้องแคบเกินไปไม่สามารถจับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะได้ให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวและพยานแวดล้อมรวมทั้งพยานในที่เกิดเหตุมาสอบปากคำเพื่อเป็นข้อมูลในการติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

 

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

 

อันนี้ตำรวจ   

 

จากกรณีนายธนกฤต ปิ่นวิเศษ อายุ 29ปี เเละ น.ส.นันทวดีช่วยมาลีชม อายุ 17ปี สองสามีภรรยาพนักงานส่งน้ำแข็งกำลังขับรถส่งน้ำเเข็งตามร้านอาหารต่างๆจนมาถึงบริเวณถนนพหลโยธินฝั่งตรงข้ามสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง5 แขวงสามเสนในเขตพญาไทแต่นายธนกฤตมองไม่เห็นกรวยยางที่กลุ่มผู้ชุมนุมตั้งขวางถนนไว้ทำให้พุ่งชนกรวยโดยไม่ได้ตั้งใจก่อนที่นายธนกฤตจะถูกกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้ายด้วยการแทงเข้าที่ท้องและหน้าอกไม่ยั้งจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องเข้ารักษาตัวที่ รพ.ราชวิถี ซึ่ง น.ส.นันทวดี พยายามวิ่งเข้าไปช่วยเลยโดนทำร้ายไปด้วย ก่อนที่สื่อออนไลน์จะมีการแชร์ภาพสุดรันทดที่นายธนกฤตนอนจมกองเลือด โดยมีภรรยาที่อยู่ในอาการช็อกนั่งอยู่ข้างกาย ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์ว่า ผู้บาดเจ็๋บรายนี้ตกเป็นเหยื่อของ "กรวยต้องห้าม"

 

 

 

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 12 พ.ค.  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท ยังไม่สามารถถระบุได้ว่าคนร้ายเป็นกลุ่มใดเนื่องจากการสอบปากคำภรรยาของผู้เสียหายในเบื้องต้นนั้นก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าคนที่รุมทำร้ายนายธนกฤตนั้นเป็นการ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุมจริงหรือไม่ต้องรอให้นายธนกฤตอาการดีขึ้นก่อน ตำรวจจึงจะเข้าไปสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เชื่อว่าเจ้าตัวน่าจะจดจำใบหน้าเเละรูปพรรณของคนร้ายได้โดยขณะนี้อาการล่าสุดถือว่าพ้นขีดอันตรายเเล้วเเต่เเพทย์ยังคงให้รอดูอาการอยู่ในห้องไอซียูโดยวันที่ 13 พ.ค. ทางตำรวจและสหวิชาชีพจะทำการสอบสวนภรรยาผู้บาดเจ็บส่วนกรณีที่มีกระเเสข่าวว่าทางกลุ่มผู้ชุมนุมออกมาระบุว่านายธนกฤตมีอาการมึนเมานั้นเบื้องต้นภรรยาของนายธนกฤตยืนยันว่าสามีไม่ได้ดื่มเเอลกอฮอล์หรือเสพสารเสพติดเเต่อย่างใดซึ่งต้องรอผลตรวจจากแพทย์มาชี้ชัดอีกครั้ง

 

 

ขณะที่กล้องวงจรปิดในบริเวณจุดเกิดเหตุพบว่ามีกล้องวงจรปิดอยู่ 2ตัวตัวแรกเป็นของธนาคารกรุงศรีอยุธยาเเต่มุมกล้องนั้นส่องไปไม่ถึงจุดเกิดเหตุขณะที่อีกตัวหนึ่งเป็นกล้องของ กทม.ที่อยู่บริเวณปากซอยพหลโยธิน3แต่พบว่ากล้องตัวนี้ไม่ได้ต่อสายไว้จึงคาดว่าน่าจะไม่มีการบันทึกภาพไว้ได้

http://www.dailynews... _กรวยต้องห้าม_

 

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อันนี้คนถ่ายภาพห่อถุงดำผู้บาดเจ็บ

 

• 
• 
•  
•  
•  
•  
•  
•  
•  
•  
•  
•  

•  

  

   

  Akkaradet Muangtaen ผมไม่ใช่ทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ใช่เสื้อแดง ไม่ใช่ กปปส. แต่ผมต้องการแค่ว่าทำไมข่าวมันบดเบือนความจริง

  23 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 23

   

   

   

  •  
  • 

     

    Akkaradet Muangtaen @keith Charles ตรงถุงดำไงคับ คุณได้ดูข่าวไหม การ์ดมัดถุงดำเตรียมเอาไปทิ้ง พวกผมคนช่วยเขาเสียความรู้สึกนะคับ ผมค่ายกำลังช่วยเหลือ ไม่ได้จะฆ่าเขานะคับ พี่ ผญ หมวกเหลืองในรูปก็กำลังรักษาพยาบาลเบื้องต้นให้เขา แผลโดนน้ำเลยเอาถุงมาคลุมไว้ แล้วดูข่าวโจมตีสิ ผมเสื่อมศรัทธากับข่าวที่ผมส่งไปมาก ไม่คิดว่าจะออกมาเกินจริงแบบนี้

    20 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 21
  • 

     

    Akkaradet Muangtaen ผมไม่ได้โน้มไปทางไหนช่วยฝั่งไหน "คนทำมันก็เลว" คนช่วยหนะสิ "โดนตราหน้าว่าจับเขามัดใส่ถุงดำ" ถ้าม๊อบทำมันก็เลว ผมมีหน้าที่แค่ช่วยเขา ข่าวมันแรง ผมรับไม่ได้

    20 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 13

   

   
• 

   

  Akkaradet Muangtaen เรื่องกรวยผมก็งง ผมไม่รู้ต้นสายปลายเหตุที่เขาโดนทำร้าย จิงๆผมก็อยากรู้เรื่องกรวย

  19 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 8
• 

   

  Akkaradet Muangtaen ตอนนี้ กลุ่มบางกลุ่มคิดว่าผมแก้ต่างให้ การ์ด หรือเป็นฝ่าย กปปส. ได้โปรดอย่างอ้างอิงผมเลย เนื้อความผมไม่มีพูดถึงใครแทงใครไม่แทงเลย ผมโดนด่ายับ

  17 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 7

 

 

• 

   

  Akkaradet Muangtaen ผมถ่ายไม่เห็นรูปผมอยู่แล้วคับ ถูกไหมละ กปปส. ช่วยเหลือก็จริงครับ พี่เขาพยายามช่วยกันทุกคน

  3 ชั่วโมงที่แล้ว · ที่ถูกแก้ไข · ถูกใจ · 1
• 

   

  Akkaradet Muangtaen ถ้าผมไปพบเหตุการณ์ทีหลังแล้วถ่ายไว้ ผมจะถ่ายรูปเขานอนกลางถนนทันไหม ถูกไหมละ ผมถ่ายตอนที่เจอแรกๆแล้วทุกคนเข้ามาช่วย

  3 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ
• 

   

  Akkaradet Muangtaen คนแทงผมไม่รู้ ผมรู้แต่คนช่วยคับ จบนะ คนช่วยเขาก็ดี คนแทงมันก็ระยำไป

  3 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

 

 

สรุปสั้นๆ ง่ายๆครับ ผมรู้คุณขี้เกียจอ่าน

"รอผู้เสียหายให้การครับ เพราะ เมีย ตำรวจ ผู้เห็นเหตุการณ์ไม่รู้ว่าใครแทง"

 

 

 

 

 

ส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยในเรื่องการทะเลาะกันอยู่แล้ว

ถ้าใครทำผิดก็สมควรโดนลงโทษ ผมเกลียดคนเลวครับ

 

แต่ที่ผมเกลียดพอๆกันก็คือคนบิดเบือนนะครับ

 

 

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณจะมาตอบผมนะ

 

 

 

 

ปล.ผมไม่ใช่สลิ่มนะเออ โดนแดงด่ามาหลายรอบแล้วเลยดักไว้ก่อน 

 

เมีย ตำรวจ และคนถ่ายภาพจะไปรู้ดีกว่าจ่าพิชิตได้ยังไงครับ

แทงแค่เกือบตาย...รู้ดียิ่งกว่าอยู่ในเหตุการณ์

.

สมาคมนักข่าวว่ายังไง คุกคามสื่อไหมครับแบบนี้ หรือว่าไม่เป็นไร