http://www.isranews..../24598-hrw.html
ตามลิงค์ข่าวแนบครับ ถ้าสภา ทำตาม ข้อเสนอของ human right ม๊ากติดคุกแน่ครับ
ดังนั้น เชียร์ ดร ซุป ครับผม
โดย เมพเชือก on 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 22:44
http://www.isranews..../24598-hrw.html
ตามลิงค์ข่าวแนบครับ ถ้าสภา ทำตาม ข้อเสนอของ human right ม๊ากติดคุกแน่ครับ
ดังนั้น เชียร์ ดร ซุป ครับผม
โดย redfrog53 on 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 04:22
โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 14:15
IMG_20131008_013052.jpg
คำพูดเหล่านี้ คิดเองหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย
IMG_20131008_013052.jpg
คำพูดเหล่านี้ คิดเองหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย
เมริงไปพูดแบบนี้หน้าหลุมศพชาวกรือเซะ กับคนที่โดนวิสามัญคดีฆ่าตัดตอนด้วยนะ
อยากรู้ว่าเมริงกล้าไหม
โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 01:25
ข้อแตกต่างระหว่างอภิสิทธิ์ กับ สนธิ ที่สาวกแก๊งลิ้มไม่เคยมองเห็น คือ
สนธิโกงบัญชีจนถูกตัดสินจำคุก 80 ปี แต่เสื-อกหน้าด้านเที่ยวได้ชี้หน้าด่าคนนั้นคนนี้ว่าไม่ดียังงั้นยังงี้ ทั้งที่ตัวเองเอาตัวยังไม่รอด
แล้วสนธิจะมีหน้ามาตั้งตนเป็นวีรบุรุษผู้ขาวสะอาด เก่งเทพเมพขิงๆอยู่ตัวเดียวในโลกได้อย่างไร
ไม่รู้จักอับอายตัวเองบ้าง
โดย isa on 30 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:20
กรณีของอดีตหลวงพ่อมิสึโอะ ผมอยากจะตบท้ายเพียงแค่นี้...
1. ท่านไม่ใช่คนไทยเสียด้วยซ้ำ ท่านเป็นคนญี่ปุ่น
2. ตลอดหลายปีที่ท่านอยู่ในผ้าเหลือง ท่านไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสีย
3. หลายปีที่ท่านบวช ท่านทำประโยชน์ให้กับศาสนาพุทธมากมาย ก่อสร้างวัดหลายแห่ง ก่อตั้งมูลนิธิมายาโคตมี ที่ให้ทุนการศึกษาแก่เด็กยากไร้ถึง 6000 กว่ากองทุน
การสอนศิลปะผ้าทอมือ ที่สร้างรายได้ให้ผู้คนมากมาย ...ท่านสร้างสิ่งดีๆไว้ให้กับเมืองไทย "ที่ไม่ใช่แผ่นดินเกิดของท่านด้วยซ้ำ!"
4. คำสอนหลายๆอย่างของท่าน ช่วยเยียวยาจิตใจของคนที่เหนื่อยล้าในสังคมมามากมาย ในคำสอนในหนังสือท่าน ท่านไม่เคยอวดอ้างเป็นผู้บรรลุ
ท่านสอนเพียงหลักในการบำรุงจิตใจให้มีพลังต่อสู้ชีวิต ...เราจะตำหนิท่านว่าหลอกลวง สอนในสิ่งที่ท่านไม่เป็นจริงๆได้อย่างไร
5. ท่านจะรู้จักกับสีกามานานแค่ไหนเราไม่ทราบ แต่การที่ท่านสละผ้าเหลืองแทนที่จะดื้อดึงครองต่อไปอย่างที่อลัชชีไทยแท้ๆหลายๆคนทำอยู่ แสดงให้เห็นถึงจิตสำนึกที่ดีของท่านต่อศาสนา...
แม้แต่พระที่ต้องปาราชิก นักศึกษาศาสนาหลายๆท่านก็ยืนยันตรงกันว่า ถ้ายังดื้อครองผ้าเหลืองต่อไป จิตใจจะวุ่นวายเดือดร้อนตลอดเวลา ไม่อาจก้าวหน้าในศาสนา
แต่ถ้าสึกไปเป็นอุบาสกและปฏิบัติต่อ ก็มีโอกาสที่จะก้าวหน้าในธรรมะไปถึงขั้นอนาคามี
...การที่คนๆหนึ่งที่ไม่ใช่คนเชื้อชาติเดียวกับเรา มาอุทิศเวลาหลายๆปีให้กับศาสนาพุทธ ให้กับการทำสิ่งดีๆให้กับสังคมของเรา แม้ในตอนจบของมัน อาจจะไม่ได้งดงามอย่างที่เราคาดหวัง
แต่อย่างน้อยท่านก็สมควรจะได้รับความเคารพและยกย่องในที่สิ่งที่ท่านทำทิ้งไว้ให้กับเราไม่ใช่หรือ ผมเห็นความเห็นบางแห่งพูดราวกับว่าวัด หรือมูลนิธีที่ท่านสร้างไว้ให้ กลายเป็นภาระของพระศาสนา
ไปเสียหยั่งงั้น แทนที่จะถามตัวเองว่าทำไมถึงไม่มีปัญญาบำรุงรักษาสิ่งที่มีคนอุตส่าห์มาสร้างไว้ให้ จะต้องรออัศวินม้าขาวมาอุทิศตัวเองให้ทั้งชีวิตเลยหรืออย่างไร ถ้าเขาทำให้ไม่ได้อีก ก็ก่นด่าไล่หลัง
คนไทยเรามีความสามารถเพียงแค่นี้เองหรือ?
...ข้อเสียอย่างหนึ่งของคนไทยเราก็คือเราหิวกระหายคนดีที่มีแต่ให้ไม่หยุดยั้งอย่างพระเวสสันดร เราแสวงหาคนดี พอได้คนดีมาเราก็เชิดชูและช่วยกันสูบพลังงานและทรัพยากรทุกอย่างจากเขาจนเหือดแห้ง
หากเขาปฏิเสธที่จะให้ หรือหากเขาให้ไม่ได้อีกต่อไป เราก็จะก่นด่าเขาว่าไม่ใช่คนดีอีกต่อไป ...ท้ายที่สุด เราจึงมีแต่คนดีที่จากไปแล้วและกำลังจะจากไป คนดีที่เสียแล้ว
และคนดีจอมปลอมหน้าไหว้หลังหลอกแบบที่สร้างความวอดวายให้กับสังคมไทยในปัจจุบัน...แล้วเมื่อไหร่เราจะเรียนรู้กันเสียที "ว่าแทนที่จะหาคนดี
เราช่วยมาเป็นคนดีกันคนละเล็กละน้อย เพื่อให้สังคมไทยดีขึ้น เพื่อให้คนดีที่เรามีอยู่น้อยคนเต็มทีไม่เหนื่อยจนเกินไป หรือไม่เหนื่อยหน่ายจนตัดสินใจเลิกเป็นคนดีไม่ดีกว่าหรือ"
ในหลวงเองท่านก็เตือนผ่านเรื่องมหาชนก ให้เป็นสังคมที่สร้างสรรค์ด้วยความเพียรแบบมหาชนก เลิกเป็นสังคมพระเวสสันดรแบบดั้งเดิมที่ถือกันแบบผิดๆ
ที่มีแต่ผู้ให้ถาวร กับผู้ขอถาวรที่ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนตัวเองเป็นผู้ให้ จนกลายเป็นเสพย์ติดประชานิยมแบบปัจจุบันเสียที ถ้าเราเองที่เป็นคนชั้นกลาง
ยังผิดหวังที่ไม่ได้ประโยชน์จากคนต่างชาติคนหนึ่งเท่าที่เราหวังไว้ แล้วเราจะหวังให้รากหญ้าเปลี่ยนนิสัยได้อย่างไร
คนใกล้ตัวผมหลายๆคนรวมทั้งคนที่ทำงาน วิจารณ์ท่านมิสุโอะกันอย่างมันปาก ราวกับว่าท่านเป็นอลัชชีรูปหนึ่ง ทำให้ผมสะท้อนใจ
...คนที่พูดเองหากไปเทียบกับท่านแล้วก็ไม่เคยทำประโยชน์อะไรให้กับสังคมอะไรมากมาย และความรู้ทางศาสนา ก็ไม่ได้เท่าสะเก็ดเล็บของท่าน
ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ท่านเคยเป็นพระนักปฏิบัติ และแม้จะออกมาเป็นฆราวาสครองเรือน ผมก็เชื่อว่าท่านจะปฏิบัติต่อไป และนักปฏิบัติที่ทำความดีมามากมาย
และมีความก้าวหน้าในระดับหนึ่ง หากเราที่มีคุณความดีน้อยกว่าไปวิจารณ์นินทาด้วยวจีทุจริต ก็สร้างบาปสร้างกรรมใส่ตัวเปล่าๆ
...ท่านมิสุโอะอาจจะหมดบุญกับผ้าเหลือง แต่ใช่ว่าท่านจะหมดบุญกับศาสนาพุทธ ด้วยความรู้พุทธเถรวาทที่ท่านเรียนรู้ไป เส้นทางธรรมะก็ยังรอท่านอยู่ทุกเสี้ยววินาที
แค่มีสติรู้สึกตัวทั่วพร้อมเท่านั้นก็หวนกลับสู่เส้นทางได้อีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ท่านจะเดินไม่ใช่ในฐานะพระ แต่เป็นฐานะฆราวาส
และผมเชื่อสิ่งที่ท่านหลวงพ่อพุธ ฐานิโยท่านกล่าวไว้ว่า "จิตรู้คือพระพุทธ จิตที่รู้ดี-ชั่วคือพระธรรม จิตที่ตระหนักรู้และหลีกเลี่ยงความชั่วสร้างความดีคือพระสงฆ์"
ผ้ากาสาวพัตรเป็นแค่ยูนิฟอร์ม คนที่ประพฤติธรรมไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใด แต่งกายแบบใด ก็ประพฤติธรรมได้ทั้งสิ้น
ในที่นี้ ผมขออนุโมทนากับท่านมิสุโอะ สำหรับสิ่งดีๆในหลายปีมานี้ที่ท่านทำให้กับสังคมไทยมากเท่าที่คนต่างแดนคนหนึ่งจะทำให้ได้
และจากผลของสิ่งดีๆที่ท่านทำไป ขอให้ท่านประสบความสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรมในอนาคตครับ (-/\-)
และขออภัยถ้าโพสต์นี้กระทบใจบางท่านด้วยครับ
โดย ทัชชี่ on 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 01:42
คนไทยเริ่มรู้จักประชาธิปไตยมานานกว่า 700 ปีแล้วในประัวัติศาสตร์ เพียงแต่ในตอนนั้นมันไม่ได้ชื่อประชาธิปไตย มันอยู่ในชื่ออื่นเท่านั้นเอง
หลักการประชาธิปไตยในเบื้องต้นนั้น มีอยู่ในพุทธศาสนามานานกว่า 2600 ปีแล้ว แค่คนไทยเพิ่งจะมาศรัทธาศาสนาพุทธในเวลาราวๆ ไม่ถึง 1000 ปีมานี้เอง
หลักการที่ว่านั้นชื่อ "เยภุยยสิกา" เป็นหนึ่งในวิธีการปกครองแบบพุทธที่เรียกว่า "วิภัชชวาท" ก็จะแยกแยะเป็นกรณีไปดังนี้
เหตุผลที่ผมบอกไว้ในเบื้องต้นว่า เมืองไทยยังไม่พร้อมสำหรับระบอบประชาธิปไตย เพราะ
ด้วยเหต 4 ข้อที่ว่ามา...จึงยังไม่ควรที่จะใช้ระบอบประชาธิปไตยเป็นฐานในการปกครอง ควรที่จะให้การศึกษากับประชาชนให้มีความพร้อมเสียก่อน จึงจะสามารถเปลี่ยนไปในระบอบประชาธิปไตยได้อย่างสมบูรณ์
โดย kornthana on 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 15:51
คนที่ด่าท่านทักษิณ เคยคิดไหมว่า ถ้าประเทศนี้ไม่มีท่านทักษิณหรือคนในตระกูลชินวัตรเข้ามาบริหารประเทศ ๆ นี้จะแย่แค่ไหน
ดูจากนโยบายที่จับตั้งได้ จนมีคำกล่าวถึงนโยบายต่างๆ ที่ผลุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ไม่ว่า 30 บาทรักษาทุกโรค จำนำข้าว รถคันแรก การแปลงสินทรัพย์เป็นทุน การเปิดโอกาสให้คนเข้าถึงแหล่งเงินกู้สารพัด และอื่นๆ อีกมาก ที่ดูเหมือนคนทุกคนได้ประโยชน์จากนโยบายเหล่านี้กันถ้วนหน้า
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ได้รับอนิงสงค์ส่วนบุญส่วนกุศลไปตามด้วย ก็คงมีบางคนที่ฐานะดี ถึงดีมาก ก็คงบอกว่า ฉันไม่ได้ต้องการนโยบายเหล่านี้ แต่ฉันต้องการให้ประเทศมั่นคง เงินที่เอามาจ่ายเป็นนโยบายก็ควรทำเป็นแบบสร้างคน สร้างงาน หรือสร้างสาธารณประโยชน์ ให้ คนจน คนด้อยโอกาส การเอาเงินมาเหวี่ยงแหแบบนี้มันดูไม่มีประโยชน์ แถมอนาคตประเทศจะเกิดวิกฤติได้ อันนี้ก็สุดแล้วแต่ว่าใครจะคิดเห็นอย่างไร
ทำให้ผมนั่งคิดเปรียบเทียบ ช่วงเวลาที่ผมเคยจนแบบดักดาน แบบไม่มีข้าวจะกิน ด้วยมีพี่น้องหลายคน พ่อซึ่งเป็นกำลังหลักของครอบครัวป่วยจนทำงานไม่ได้ มีเพียงแม่ที่ความรู้น้อยมาก ต้องทำงานหาเลี้ยงลูก 5 คนที่ต้องเรียนหนังสือกันหมด นั่งนึกไปว่าตอนนั้นแม่ผมสอนอะไรกับลูกๆ จนลูกๆ ทุกคนตั้งใจเรียนจนจบ ปริญญาโท ปริญญาเอกกัน แล้วผมซึ่งมีความรู้ก็มากมาย เงินเดือนสูงพอควร แต่รู้สึกลำบากถึงแม้มีลูกแค่ 2 คน ก็พยายามนั่งนึกถึงเรื่องในอดีต ตอนนั้นพ่อที่มีอาการป่วย ก็ต้องเข้า รพ.รักษาตัว แต่บ้านไม่มีเงิน ทุกครั้งที่พ่อไปหาหมอ หมอก็รักษาด้วยดีและไม่เคยคิดค่ารักษาพยาบาล ก็คงติดปัญหาเรื่องค่ายา ค่าห้องพัก และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ครอบครัวก็มีตังค์ไม่พอจ่าย นั่งคิดก็เศร้ากันทั้งแม่ลูก พยาบาลซึ่งดูเหมือนดุหน่อย มาเห็นก็บอกว่า ถ้าไม่มีตังค์ รพ.มีหน่วยสังคมสงเคราะห์ที่จะดูแลเรื่องพวกนี้ไม่ต้องกังวล แม่ไม่รีรอที่เข้าไปรออนุเคราะห์ ไม่น่าเชื่อใช้เวลาเพียง 10 นาที ครอบครัวเราก็ได้รับการอนุมัติเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต (ไม่ได้เป็นเงินสด แต่ได้รับยาที่มีคุณภาพและมาตรฐานตามที่คนมีเงินได้รับ เบ็ดเสร็จรวมแล้วเป็นเงินเกือบ 3 หมื่น เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว)
พอท่านทักษิณมาบริหารประเทศ ก็พลิกประเทศ เกิดนโยบาย 30 บาท ผมเข้าใจหัวอกคนจนที่ต้องเข้ารักษาตัวใน รพ. แต่เท่าที่ฟังและสัมผัสเอง ก็พบว่านโยบายนี้สร้างปัญหาให้กับคนจนมาก เพราะนั่นหมายความว่า หน่วยสังคมสงเคราะห์ตาม รพ.คงไม่ต้องทำงานหนักเพื่อช่วยเหลือคนจนอีกต่อไปแล้ว คนจนทุกคนจะถูกผลักไปที่ 30 บาททั้งหมด ซึ่งถ้านโยบายนี้ดีก็คงช่วยให้สังคมไทยดีขึ้น แต่ผลที่ได้รับคือ นโยบายนี้ทำให้คนจนที่มีเกียรติและศักดิ์ศรีกลายเป็นคนชั้นล่างสุดไปเสียแล้ว นโยบายมีการปรับเปลี่ยน เปลียนแปลง จำกัดจำนวนยา ระบุชนิดยา ซึ่งการกำหนดเรื่องพวกนี้ถือเป็นปัญหามาก เพราะยาแรงไม่พอที่จะรักษา หรือตัวยาเสื่อมคุณภาพ (ยาทุกชนิดจะถูกกำหนดจาก สปสช. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้) ดังนั้นการที่หมอจะสั่งยาที่รักษาให้ตรงกับโรคจึงทำไม่ได้ หมอที่ดูเหมือนกระอักกระอ่วนใจ แต่เมื่อนโยบายเป็นแบบนี้เขาก็ทำอะไรไม่ได้มาก ซึ่งก็ต่างจากอดีตที่หมอมีโอกาสสั่งยาได้อิสระ ถ้าคนไข้ไม่มีตังค์ก็เข้าไปขอความช่วยเหลือได้ บางคนอาจคิดว่าหน่วยงานนี้มีเงินมากขนาดพอช่วยเหลือคนจนทั้งประเทศได้หรอ ขอบอกว่าต่อให้คนจนในประเทศนี้มีมากกว่านี้อีก 10 เท่า เงินนี้ก็พอรับได้ เพราะเงินนี้เป็นเงินที่ได้รับการอุดหนุนจากหลายหน่วยงาน รวมถึงคนที่มีจิตศรัทยามาบริจาคด้วย
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเมื่อเพื่อนแม่ผมคนหนึ่ง ป่วยเป็นมะเร็งปอด ระยะ 2 เข้ารักษาตัวใน รพ.รัฐแห่งหนึ่ง หมอทำการผ่าตัดให้อย่างดี หลังจากนั้นหมอเรียกญาติเข้าไปพบบอกว่า ถ้าใช้สิทธิ 30 บาท ทางการระบุให้จ่ายยาชนิดนี้ แต่ถ้าให้หมอแนะนำอยากให้ใช้ยาอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งคงต้องหาซื้อเอง โดยหมอจะสั่งจ่ายยาให้ แต่ยาตัวนี้มีราคาแพงอาจต้องใช้เงินถึง 7 หมื่นบาท ผมฟังเพื่อนเล่าผมก็บอกให้เพื่อนไปติดต่อสังเคราะห์ รพ. เหมือนตอนสมัยพ่อผม เพื่อนผมบอกว่าเขาไม่รับแล้วเพราะเขาถามว่าทำไมไม่ใช้ 30 บาท (เป็นไงละไปไม่ถูกเลยเพื่อนผม) จึงต้องยอมรับยา 30 มากิน กินได้ไม่ถึง 2 อาทิตย์ แม่เพื่อนตาย
ในใจคิด ถ้าวันนั้นไม่มีท่านทักษิณมาบริหารประเทศ แล้วหาเสียงกับความตายของคนไทย ปานนี้ระบบสาธารณะสุขไทยก็คงยังให้สิทธิคนจน คนรวย ที่มีสิทธิเข้าถึงยาเท่าเทียมกัน แม้ไม่มีตังค์เลยก็ตาม แม่เพื่อนผมก็คงไม่ตายเร็วขนาดนี้ แล้วคำถามใหญ่ในหัวตอนนี้คือ เพื่อนผมซึ่งตอนนี้อพยพครอบครัวไปอยู่เชียงใหม่ เป็นคนเสื้อแดงขนาดแท้จะรู้ไหมว่า แม่เขาตายเพราะอะไร แต่ผมว่าเพื่อนผมมันคงไม่รู้หรอก เพราะขนาดแม่มันตายมันยังให้รีบเผาศพแม่มัน (แม่อยู่กรุงเทพ) เพื่อไปให้ทันเลือกตั้ง กลัวเจ๊แดงญาติทักษิณไม่ได้เป็น สส.
ส่วนผมซึ่งพอมีพอกินอยู่บ้าง ก็คงตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เข้าร่วมกันนโยบายนี้ ที่บ้านพอใครไม่สบายก็จะไป รพ.เอกชน ซึ่งก็ดูเหมือนว่าท่านทักษิณจะกรุณาคนชั้นกลางอย่างผมมาก เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหนทนายท่านทักษิณก็ซื้อกว้านซื้อกิจการ รพ. นั้นไปหมดแล้ว ทำให้ตอนนี้ค่ารักษาแพงมาก ขนาดลูกเป็นหวัด พาไปตรวจให้แน่ว่าไม่ใช่โรคร้าย หมอจับตรวจจมูกและเจาะเลือด ผลตรวจจมูกออกมาเป็นไข้หวัด ส่วนเลือดที่เจาะหมอบอกไม่ได้ตรวจ (เอาไปทิ้ง) จึงถามว่าแล้วทำไมไม่ตรวจจมูกก่อน ถ้าไม่เจอค่อยเจาะเลือด หมอตอบทันทีว่ามันเป็นแพ็คเกต ที่ รพ.บังคับไว้ นั่นก็คือ ทุกคนที่ไป รพ.จะโดนกันหมด ถามว่า ระบบนี้คนที่คิดเขาเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า แต่ผมก็ต้องยอมเพราะไม่มีทางเลือก แล้วสุดท้ายผมก็ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเกือบ 3 พัน เพื่อให้พวกมันได้ดูดเดือดครอบครัวผม อันนี้ยังไม่นับรวมที่แฟนผมปวดท้องขี้ไม่ออก หมอ รพ.เดียวกัน จับส่องกล้อง หมดไปเกือบ 4 หมื่น เพื่อแลกกับคำพูดของหมอที่ว่า ดีใจด้วยคุณไม่เป็นมะเร็งลำไส้
นี่เอาแค่นโยบายเดียวผมก็ว่า ประเทศไทยถ้าไม่มีท่านทักษิณมาบริหารประเทศ คนไทยคงมีสุขภาพแข็งแรงได้มากกว่านี้ เพราะระบบต่างๆ ของ รพ.รัฐแต่ละแห่ง เขาก็ดูแลคนจนด้วยดีตลอดมา มาวันนี้คนจนถูกหลอกว่าจะรักษาฟรี มันกลายเป็นการจำกัดคนจนให้ตายหมดประเทศไป ส่วนคนชั้นกลางที่ดูเหมือนมีปากมีเสียงมาก ก็กำลังถูกลดระดับฐานะให้เป็นคนจนอีกไม่ช้า เพราะทักษิณยึด รพ.เอกชน ผูกขาดการรักษาพยาบาลคนไทยไปแล้วนั้นเอง
นี่ยังไม่กล่าวถึงนโยบายอื่นที่ผมว่า ตอนนี้ผมมีลูก 2 คน ค่าใช้จ่ายเลี้ยงลูกแต่ละเดือนไม่พอกับรายรับ ทำให้นั่งถึงแม่ผมซึ่งเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ต้องดูแลสามีและลูก 6 คน ทั้งที่เงินเดือนน้อยมากแถมการศึกษาก็แทบไม่มี ผมว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะรุ่นแม่ผมไม่มีนโยบายของทักษิณที่เอาเงินมาแห่แจกกันสนั่นเมือง แต่เขามุ่งสร้างความแข็งแกร่งให้กับคนในชาติ ที่คนจนรัฐบาลให้ความช่วยเหลือมากกว่าคนรวย ซึ่งเป็นเรื่องปกติ มันต่างจากทักษิณ ที่คิดว่าคนในชาติคือ แหล่งผลประโยชน์มหาศาลที่ต้องตักตวง คนจนจึงถึงบังคับให้กินยาเสื่อมคุณภาพ เพื่อเอาเปอร์เซ็นต์เข้ากระเป๋าตัวเอง คนชั้นกลางและคนรวยก็ถูกบังคับให้เข้า รพ.ของทักษิณ อย่างงี้แล้วผมจะต้องบอกพวกคุณไหมว่า ถ้าทักษิณไม่เข้ามาบริหารประเทศ ประเทศนี้จะแย่แค่ไหน แต่ไม่ว่าตอบกันยังไง ผมคิดว่าผมโชคดีที่ผมเป็นคนจนในสมัยที่ยังไม่มีทักษิณ ไม่เช่นนั้นปานนี้ครอบครัวผมคงไม่ได้อยู่กันครบหน้ากันแบบนี้ ปานนี้ผมคงถูกหลอกให้ไปกู้เงินมาขับมอไซค์รับจ้างแล้วบอกว่าจะไม่ให้มีมาเฟียมาเก็บค่าคุ้มครอง แต่ผลที่ได้คือ การส่งพวกตัวเองมาเก็บแทนที่ต้องจ่ายสูงกว่าเก่า หรืออาจต้องไปขับแท๊กซี่ ซึ่งก็หลอกให้ใช้บัตรเครดิต ที่ให้แน่ใจว่าคนขับจะมีเงินจ่ายค่าแก๊สที่สูงขึ้นเท่าตัว หรือผมอาจเป็นชาวนาที่บอกว่าปลูกข้าวแล้วจะให้ราคาสูง แต่เขาก็ส่งพวกพ้องมาโกงเอาไปหน้าด้านๆ
ผมเป็นคนหนึ่งที่เกิดมามองเห็นภาพ 2 ยุค คือ ยุคก่อนทักษิณ ที่คนเสื้อแดงเรียกว่ายุคอำมาตย์ กับยุคทักษิณและพวก มองเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน ยุคก่อนทักษิณ ไทยเรามีนักการเมืองที่ถึงแม้เลว แต่พวกเขาก็ทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง พวกนี้จึงคิดทำทุกอย่างเพื่อให้ประเทศพัฒนา โดยที่ตัวเองคอยแต่หาเศษหาเลยกับโครงการต่างๆ ต่างกับยุคทักษิณที่ทำอะไรนึกถึงตัวเองและครอบครัวเป็นหลัก โดยให้ประชาชนไปหาเศษหาเลยกันเอาเอง จึงไม่ต้องแปลกใจว่ายุคทักษิณมีความคิดแปลกๆ ไม่ว่าการซื้อที่รัชดา ที่ก่อนซื้อจะต้องทำราคาที่ดินให้ตก เพื่อจะได้ซื้อราคาถูก พอซื้อได้ก็ทำให้ราคามันสูง จนประชาชนไม่มีโอกาสได้ซื้อ หรือแม้แต่การที่ตัวเองใช้อำนาจกำหนดความเป็นไปของประชาชนได้หมดในประเทศนี้ ประชาชนคนไทยจึงตกเป็นคนคอยรับเศษรับเลยจากทักษิณกันไป
มีสิ่งหนึ่งที่อยากฝากคนรักทักษิณไว้อย่างหนึ่งว่า ถ้าคนเสื้อแดงเป็นทักษิณ อายุ 60 กว่าๆ รวยระดับแสนล้าน จะมีใครสักกี่คนที่ยังคิดโกงประเทศกันอยู่อีก ผมว่าอาจไม่มีเลย เพราะอายุที่เหลืออยู่ ต่อให้ต้องยืนยาวไปอีก 100 ปี เงินที่มีอยู่คงยังใช้ไม่หมด แม้แต่จะทำตัวรวยแสนรวยอย่างไรก็ตาม แต่ทำไมทักษิณทำไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ทักษิณเป็นคนโรคจิตที่มีจิตใจไม่เอื้อเฟือเพื่อนคนไทยด้วยกัน แม้รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองมีอยู่จะใช้มันไม่หมด แต่ทักษิณก็เลือกที่จะไม่แบ่งให้ใคร มันก็จึงเหมือนสุภาษิตไทยที่ว่า ขี้ไม่ให้สุนัขกิน อย่างงี้แล้วยังมีคนไทยยังเชื่อมันได้อีกหรือ
ผมยังไม่รู้ว่าตอนนี้พวกคุณสรุปได้หรือยังว่า ถ้าประเทศนี้ไม่มีพวกทักษิณมาบริหารประเทศ ประเทศจะแย่แค่ไหน แต่ในฐานะที่ผมเป็นคนสองยุค ฟันธงได้ว่า ถ้าวันนี้ประเทศไม่มีทักษิณและพวกมาบริหาร ปานนี้คนจนที่ยังจนดักดานเหมือนผมสมัยก่อน คงได้ลืมตาอ้าปากกันได้บ้าง แต่ทุกวันนี้คนจนนอกจากจะรวยกันไม่ได้แล้ว ยังหลงติดกับดัดที่ทักษิณวางไว้ ด้วยการสร้างหนี้ให้กับคนไทย เพื่อทักษิณจะได้ผลประโยชน์จากหนี้เหล่านั้น มันก็เหมือนการให้คนไทยไปกู้เงินมาให้ทักษิณใช้ ผลที่ได้คือ ทักษิณรวยขึ้นทุกวัน แต่คนไทยกับจนลงทุกนาที นั่นเอง
โดย บัวทอง... on 20 เมษายน พ.ศ. 2556 - 22:24
เราว่า เขมรมันทำถึงขนาดนี้ แล้ววันนี้จะพูดเรื่องการจัดการร่วมกันไป
มิสายไปแล้วหรือ
เราว่าการมี MOU 43 ก็เป็นการลดความขัดแย้งแล้ว เพื่อให้มี
การจัดการร่วมกัน แล้ว 10 กว่าปีผ่านไป เขมรเอาเราขึ้นศาลแล้วยัง
จะเรียกร้องให้จัดการร่วมกันกับคนที่ตั้งหน้าตั้งตาทำร้ายแผ่นดินของไทย
ต้องการเขมือบแผ่นดินไทย
ยังไม่ถึงเวลาที่เราจะทำอะไรให้เด็ดขาดอีกหรือ?
เราว่าคนไทยส่วนที่ชอบทำเป็นคนดี ต้องประมวลผลให้ได้ ว่า
เราควรทำอย่างไรตามกาลเวลา มิเช่นนั้นประเทศไทยคงไม่ตกอยู่ในอำนาจ
มืด อำนาจของคนเอี้ย ๆ แม้แต่ทำผิดกฎหมาย โกงชาติบ้านเมือง
แสดงให้เห็นตามคำพูดของมันว่า
"ถ้ามันอยู่ไม่เป็นสุข ใครก็อย่าหวังว่าจะได้อยู่เป็นสุข" พร้อมทั้งแสดงให้เห็น
โดยการทำลายการประชุมอาเซียน เผาบ้านเผาเมือง ส่งกองกำลังติดอาวุธ
มาพร้อมการชุมนุม ทำให้ทหารตาย คนบริสุทธิ์ตาย คนดียังยอมปรองดอง
จะนิรโทษกรรม ให้มันกลับมาอย่างเท่ ขณะที่คนทำงานดูแลบ้านเมืองถูกข้อหา
ว่าเป็นฆาตรกรฆ่าคนตาย
คนไทยที่คิดว่าตัวเองเป็นคนดี คนกลาง
คนไทยพวกนี้เอาสมองส่วนไหนคิดครับผม
เขมรเอาเราขึ้นศาลแล้วยัง จะเรียกร้องให้จัดการร่วมกัน - คุณหมายถึงเขมรเรียกร้องให้จัดการร่วมกัน หรือครับ มันใช่จริงเหรอ
แล้วคำว่าเด็ดขาดคุณคืออะไร
เท่าที่ผมคิด ก็คือการรบ แล้วก็สมัยมาร์คก็รบกันไปแล้วไง แล้วเขมรก็ฟ้องศาลตีความ จนเกิดเรื่องแบบที่เราดูถ่ายทอดสดในศาลโลกเนี่ยแหล่ะ
แล้วคุณไปยกเรื่องอื่นมาเยอะแยะ เรื่องที่ผมตั้งกระทู้มันจะจบไหมนี่
อ้าว! ก็คุณจั่วหัวซะเป็นคนดีขนาดนี้ การแก้ปัญหาชายแดน ลดความขัดแย้ง การจัดการร่วมกัน จะเป็นทางออกที่ดี"
ก็คุณเป็นคนเรียกร้องให้จัดการร่วมกันมิใช่หรือครับผม เมื่อคุณยังไม่เข้าใจที่เราเขียนข้างต้น
เรากำลังบอกคุณว่า ประเทศไทยก็พยายามที่จะแก้ปัญหาร่วมกันโดยมี MOU 2543 เป็นข้อ
ตกลงในเรื่องการปักปันเขตแดนทางบกร่วมกันระหว่าง ไทย-เขมร แล้วใน MOU 2543 มี
พูดถึงคำสั่งศาลปี 2505 ก็เปล่า แล้ววันดีคืนดีก็นึกอยากได้พื้นที่ 4.6 ตารางก.ม ก็เอา
ประเทศไทยขึ้นศาล แล้วเจ้าของกระทู้ยังจะคิดเรียกร้องให้ จัดการร่วมกันอีกได้หรือครับผม
และการกระทำของเขมรไม่ถึงเวลาที่ประเทศไทยใช้มาตรการเด็ดขาดอีกหรือ ไม่ควรปล่อย
ให้เขมรทำลายประเทศไทย และคนไทยได้อีกเลย รวมทั้งสมควรต่อต้านคนไทยที่มีใจเขมรอีกด้วย
มิใช่่คนไทยที่ไร้สมอง คิดว่าเป็นคนดี ยอมรับ ยอมทำดีกับคนอย่างคนเอี้ยหนีคุกที่โกงบ้านโกงเมือง
ถึงขนาดเผาบ้านเผาเมือง ทำร้ายทำลายคนไทยและยังมีใจเขมรอีก แถมเขมรยังใช้คำแถลงการร่วม
ที่นายนพดลเซนให้มาใช้ คุณยังคิดว่าจะให้คนไทยอย่างเราลดความขัดแย้ง และพยายามจัดการร่วมกัน
ปรองดองกับพวกเอี้ย ๆ ได้อีกหรือครับผม
แล้วปล่อยให้มาหลอกหลอนประเทศไม่รู้จบเช่นนี้หรือครับผม
แหะๆ คุยกับคนไทยใจเขมรคงไม่รู้เรื่องหรอก ใจมันไปแล้ว
โดย ดอกปีบ on 16 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:54
เป็นไปได้ไหมคะ ที่เจ๊ ด. จะโดนชาวเชียงใหม่สั่งสอนให้ สอบตก
โทษฐานที่สั่งให้ สส.ลูกน้องลาออกโดยไม่มีเหตุผล แถมรัฐต้องเสียเงินเลือกตั้งใหม่อีก..
ยากครับ ถิ่นของเค้า ให้มันลงมาเล่นการเมืองเต็มตัวเลยครับ ไม่มีผลดีหรอกมีเเต่ผลเสีย ผมถึงอย่ากให้ลงมาเร็วๆ
ถึงจะยากอย่างไรเราต้องมีความหวังค่ะ
เผื่อมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นเมื่อชาวเชียงใหม่ตาสว่าง เราจะได้เห็น "ช้างล้ม"
Community Forum Software by IP.Board 3.4.6
Licensed to: serithai.net