Moo3storey

คือถ้าเป็นตาสีตาสายังพอว่านะครับ แต่นี่เจ๊ติ่งเป็นสื่อ แถมเรียกได้ว่าอยู่วงในมีโอกาสเช็คข่าวได้มากกว่าคนทั่วไป แต่ดันพลาดบ่อย งงจะเจ๊ติ่งจริงๆ ตกลงแกอยู่วงในแต่ข้อมูลไม่ต่างกับที่แม้วบนดอยแชร์ต่อๆกันเลย

พอๆกัน คงไม่สบายใจเหมือนกัน คงไม่มีใครเป็นข่าวแบบนี้แล้วรู้สึกดี ขนาดดาราหนังโป๊เมืองนอกที่มีข่าวชู้สาว ยังหน้าหงิกทำท่าจะร้องไห้กัน

ของใบเตย ผมมองว่าส่วนหนึ่งเกิดจากผลกรรมของตัวเอง เริ่มแรกมันมาจากรอบแรกที่ใบเตยคุยโว ว่าไปทานข้าวช็อปปิ้งกับแม้วมา คุยว่าได้เงินห้าแสน ได้บ้าน พอรอบหลังมีภาพคนหน้าเหมือนจึงไม่แปลกที่หวยจะไปลงที่ใบเตย แล้วอย่างนี้จะโทษใคร ?

แต่ของใบเตย ประเด็นมันอยู่ที่ทักษิณ ไม่ใช่ใบเตย คือใบเตยจะไปจริงไม่จริงไม่มีใครสนใจ แต่ที่คนสนใจเพราะมันเป็นทักษิณ เพราะทักษิณหลอกเสื้อแดงไปนอนกลางถนน กินข้างถนน ตากแดด ตากลม ขนาดโฟนอืนแล้วฝนตก ทักษิณยังบอกว่าไม่ต้องหลบฝน แบบนี้แหละชุ่มเย็นสบาย ที่คนด่าเขาด่าตรงนี้ ....เข้าใจตรงกันนะ

ถ้าจะเปรียบเทียบกันกับกนกต่อให้ฟันหญิงจริง แต่ประเด็นคือ แล้วกนกเอาเปรียบใคร เอาเปรียบม็อบมั๊ย เอาเปรียบเมียมั๊ย เอาเปรียบสาวคนที่ว่าโดนฟันมั๊ย ทุกวันนี้เจ้าทุกข์อยู่ไหน ? สรุปจนแล้วจนรอดก็ไม่มี

อ่านเจอพวกเสื้อแดงแถกันเต็มเลย ส่วนใหญ่จะบอกว่า "รู้สึกเฉยๆ ไม่แปลก ชุมนุมก็เป็นแบบนี้เหมือนกันแทบทุกที่ แค่ทำความสะอาด เดี๋ยวก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม สลิ่มดิ้นกันเรื่องไร้สาระ"

New CanThai

ไทยรัฐเขียนข่าวกวนตีน จงใจใส่สถานที่ตอนท้ายที่จริงคนละพื้นที่ คนละฝ่ายควรแยกให้ชัด

จ่อขอหมายศาลค้น คปท.ซุกอาวุธ

เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า เวทีการชุมนุมของ กปปส.ในขณะนี้ทั้งหมดมี 5 จุด คือสวนลุมพินี สะพานชมัยมรุเชฐ สะพานผ่านฟ้า ถนนแจ้งวัฒนะ และถนนอักษะ โดยพบว่ามีเหตุเกิดใกล้เคียงบริเวณที่คปท.ชุมนุม มีทหารที่ตระเวนหาข่าวถูกยิง 2 รายได้รับบาดเจ็บสาหัส เบื้องต้นทราบว่าวิถีกระสุนมาจากแนวการชุมนุมของ คปท. ซึ่งบ่งบอกได้ว่ามีการครอบครองอาวุธปืนอยู่ จึงให้เจ้าหน้าที่ขออำนาจศาลขอเข้าตรวจค้น และต้องเพิ่มมาตรการตั้งด่านให้เข้มแข็งขึ้น ส่วนเหตุแทรกซ้อนอื่นๆ มีเสียงประทัดยักษ์ดังบริเวณหน้าโรงเรียนราชวินิต นอกจากนี้ ยังตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาพร้อมปืนพก 5 กระบอก และประทัดยักษ์อีก 1 ราย ที่บริเวณการชุมนุมถนนอักษะ[/b]

ตอนที่เล่นเป็นคนใช้เอมมี่ มรกต ตอนนั้นทรายก็ท้วมๆนะครับ ซึ่งมันก็ไม่ได้น่าเกลียดนะ ก็ตามวัย ไม่เข้าใจพวกผู้หญิงว่าจะอยากผอมไปทำไม

อีกคนที่ผอมจนน่ากลัว น่ากลัวกว่าทรายอีก คนนั้นเป็นผู้ประกาศข่าว เมื่อก่อนผมว่าคนนั้นสวยนะ แต่ตอนนี้ผอมแบบสยองขวัญจริงๆ คือถ้าผอม น้ำหนักลด เพราะป่วย เพราะเรื่องสุขภาพอย่างนี้รับได้ ต่อให้ผอมเหมือนผีผมก็จะว่าสวยเหมือนเดิม แต่ถ้าผอมเพราะวิตกจริตอยากผอม คิดว่าตัวเองอ้วนอันนี้น่ากลัว ผมว่าคนรอบข้างก็คงรู้สึกกลัว

เรื่องความสวย สูง ต่ำ อ้วน ผอม อันนี้มันรสนิยมส่วนตัวนะครับ อยากให้พวกผู้หญิงเข้าใจว่า ผู้ชายไม่ใช่ว่าทุกคนจะชอบผู้หญิงผอมหรอก ค่านิยมที่อยากผอมเกินพอดีมันผิด

ปล. ส่วนตัวผมชอบคนอ้วนนะ คือจริงๆไม่ใช่ว่าอ้วนหรอก จริงๆจะผอมหรืออ้วนก็ได้ แต่ผมชอบคนนมใหญ่ (ขออภัยที่โพสไม่สุภาพครับ) ซึ่งส่วนมากพวกที่อ้วนมันจะมาพร้อมออฟชั่นเสริมคือนมใหญ่

เวลาพูดเรื่องแบบนี้บางทีมันก็ลำบากนะครับ พูดก็เสีย ปล่อยไว้ก็เสีย เงียบๆแล้วก็เหมือนเดิมไม่เคยพัฒนาขึ้น พอพูดดังก็หาว่าทำลายกันเอง แตกแยกไม่สามัคคี

คนยิงมอเตอร์ไซค์ ถ้าไม่ใช่ คปท. แล้วทำไมพอรถล้ม การ์ดคปท.ถึงวิ่งออกมาเอาปืนจ่อทหาร ?


ส่วนตัวผมคิดว่า คนยิงควรจะมอบตัว อะไรที่มันไม่ดี ไม่เหมาะสม ผู้บริหารองค์กร และ คนในองคค์กรต้องช่วยกันทำให้มันถูกต้อง ต้องควบคุมคนในองค์กรให้เดินไปในทางสันติอหิงสาให้ได้ ไม่ควรปล่อยปละให้มีพวกดื้อแพ่งฮาร์ดคอร์ออกมาสร้างภาพความรุนแรง ส่วนกองเชียร์ก็ต้องเลิกอวย เลิกให้ท้าย บางทีแถกันมากๆบ่อยๆมันก็น่าเกลียด ไม่ใช่ตำรวจเตะระเบิดก็บอกว่าระเบิดกันเอง หาว่าปากันเอง หาว่าเด้งหลังคาเต้นท์ ....ไม่ใช่ว่ายิงใครก็อ้างโดนป่วน คือเวลาใช้อาวุธสงครามไปยิงคนอื่น ไม่ต้องอ้างคุณวสุ ไม่ต้องเอาชื่อคุณสุทินมาอ้าง เพราะพวกเขาไม่เคยสนับสนุนความรุนอรง กองเชียร์ก็ไม่ต้องตามอวยว่าต้องมีอาวุธสงครามไว้ต่อสู้ศัตรู คือทำแบบนี้มากๆ ปล่อยปละกันมากๆ มันก็เสียภาพรวมไปเรื่อยๆ

I Support PM Abhisit

อมร อมรรัตนานนท์

แก้ข่าว....จากการตรวจสอบกับฝ่ายทหาร แล้วยืนยันจากฝ่ายทหาร ว่าทหารที่ได้รับบาดเจ็บเป็นการถูกลอบยิงจากอันธพาลการเมืองไม่เกี่ยวกับการ์ดของ คปท.ครับ วันนี้คงมีการแถลงข่าว อย่างเป็นทางการครับ

กระทู้นี้ขออุทิศให้เสื้อแดง เผอิญ คุณคำนูน เขียนเรื่องมาตรา 7 พอดี เห็นเสื้อแดงชอบตั้งกระทู้ถามกันเยอะ

เสื้อแดง! เข้าใจตรงกันนะ

คำนูณ สิทธิสมาน

'มาตรา 7' ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีพระราชทาน !

ถ้า – ขอย้ำว่าถ้า – ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามมาตรา 182 (7) เพราะเหตุกระทำการอันเป็นการต้องห้ามตามมาตรา 268 ประกอบมาตรา 266 ย้ายคุณถวิล เปลี่ยนสีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายตามนัยแห่งคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดคดีหมายเลขแดงที่ อ.33/2557 ในช่วงปลายเดือนเมษายนไปจนถึงต้นพฤษภาคม 2557 แล้วการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป

ที่แน่ ๆ คือยิ่งลักษณ์ ชินวัตรสิ้นสภาพแน่นอน

ที่ยังไม่แน่คือคณะรัฐมนตรีคนอื่นจะสิ้นสภาพตามไปด้วยตามมาตรา 180 (1) หรือไม่

เพราะยังมีข้อกฎหมายที่เป็นคุณให้ต้องวินิจฉัยอยู่อีก ทั้งมาตรา 181 และพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 10 วรรคสี่

แต่ต่อให้คณะรัฐมนตรียังคงอยู่การณ์ก็จะเป็นไปตามมาตรา 180 วรรคสองที่ระบุว่า “ในกรณีที่ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามมาตรา 182 (1) (2) (3) (4) (5) (7) หรือ (8) ให้ดำเนินการตามมาตรา 172 และมาตรา 173 โดยอนุโลม” ซึ่งก็คือ...

ให้มีการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ในสภาผู้แทนราษฎร !

โดยมีกฎเกณฑ์และเงื่อนเวลากำหนดไว้ในมาตรา 172 และ 173 เป็นต้นว่าผู้ที่ได้การเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และต้องได้รับเสียงเกินกึ่งหนึ่ง ถ้าได้เสียงไม่ถึงให้ประชุมใหม่ภายใน 30 วัน ถ้ายังไม่ได้อีกให้ถือเสียงข้างมาก ฯลฯ ที่โดยปรกติเป็นการกระทำภายหลังการเลือกตั้งทั่วไป

แต่สถานการณ์ในขณะนี้ไม่มีสภาผู้แทนราษฎร ไม่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และก็ไม่รู้ว่าจะมีเมื่อไร

เพราะมีความเป็นไปได้สูงมากว่า ณ วันที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยก็จะยังไม่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปขึ้นใหม่แทนวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ที่เป็นโมฆะไป

บ้านเมืองจำเป็นต้องมีนายกรัฐมนตรี

เพราะต่อให้มีคณะรัฐมนตรียังอยู่ตามมาตรา 181 และพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 10 วรรคสี่ ก็จะมีอำนาจจำกัดยิ่ง นอกจากจะจำกัดตามมาตรา 181 แล้วยังจำจำกัดมากไปกว่านั้นตามพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 10 วรรคสุดท้ายอีกต่างหาก

ก็ต้องไปดูรัฐธรรมนูญมาตราที่พูดกันมากและก่อให้เกิดความเข้าใจผิดกันมาก

มาตรา 7 !

ซึ่งไม่ใช่การขอพระราชทานนายกรัฐมนตรีจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

แต่เป็นการอุดช่องว่างของกฎหมาย

ซึ่งเป็นปรกติธรรมดาของประเทศที่ระบบกฎหมายลายลักษณ์อักษร ไม่มีทางที่กฎหมายลายลักษณ์อักษรจะบัญญัติครอบคลุมเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในสังคมได้ทั้งหมด จึงจะมีบทบัญญัติอุดช่องว่างไว้

“มาตรา 7 ในเมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด ให้วินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”

ในกรณีนี้ก็ต้องดูแนวทางการอุดช่องว่างของกฎหมายที่มีอยู่ในประเทศไทย

ก็จะไปลงที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 134 และโดยเฉพาะอย่างยิ่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 4 วรรคสอง

“ไม่ว่ากรณีใด ๆ ห้ามมิให้ศาลที่รับฟ้องคดีไว้ปฏิเสธไม่ยอมพิพากษาหรือมีคำสั่งชี้ขาดคดี โดยอ้างว่าไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่จะใช้บังคับแก่คดี หรือว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่จะใช้บังคับนั้นเคลือบคลุมหรือไม่บริบูรณ์” (มาตรา 134 ป.วิ.แพ่ง)

“เมื่อไม่มีบทกฎหมายที่จะยกมาปรับคดีได้ ให้วินิจฉัยคดีนั้นตามจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่น ถ้าไม่มีจารีตประเพณีเช่นว่านั้น ให้วินิจฉัยคดีอาศัยเทียบบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง และถ้าบทกฎหมายเช่นนั้นก็ไม่มีด้วย ให้วินิจฉัยตามหลักกฎหมายทั่วไป” (มาตรา 4 วรรคสอง ปพพ.)

ในกรณีนี้ก็ต้องอาศัยเทียบบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง

ให้วุฒิสภาทำหน้าที่สภาผู้แทนราษฎรเฉพาะกรณีตามมาตรา 172 และ 173

เพราะตามมาตรา 122 สมาชิกวุฒิสภาเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยเช่นเดียวกันกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อไม่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และยังไม่รู้ว่าจะมีเมื่อไร จะปล่อยปละละเลยให้บ้านเมืองไร้ทางออกเดินหน้าไม่ได้ถอยหลังไม่ได้ก็จะเป็นการกระทำที่ขัดกับมาตรา 122 นี้เสียเองที่กำหนดให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของปวงชนชาวไทยโดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์

เมื่อได้ผู้ที่เหมาะสมแล้ว ประธานวุฒิสภาก็นำความขึ้นกราบบังคมทูลเพื่อทรงมีพระบรมราชโอการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ต่อไป

ก็เท่านั้นละครับในมุมทางกฎหมาย

ไม่ใช่เรื่องขอพระราชทานนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่พระมหากษัตริย์ใช้พระราชอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ

และก็ไม่ได้ขัดกับพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้ายู่หัวแต่ประการใดทั้งสิ้น ทุกท่านกรุณาศึกษาพระราชดำรัสองค์วันที่ 25 เมษายน 2549 ที่พระราชทานพระบรมราโชวาทแก่คณะตุลาการศาลปกครองสูงสุดให้ดี ผมไม่ประสงค์จะคัดมาเฉพาะตอนใดตอนหนึ่ง

แต่ในกรณีนี้จะเดินไปได้ยากกว่าหาก ณ วันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ได้มีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปขึ้นใหม่แทนวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 แล้ว เพราะถือว่ายังมีทางออกที่พอมองเห็นได้ข้างหน้า

นี่เป็นการมองในด้านกฎหมายล้วน ๆ ในขณะที่มุมมองทางด้านมวลชนที่ละเลยไม่ได้ก็อีกเรื่องหนึ่ง

มุมมองของนปช.คัดค้านแน่นอน

แต่จะคัดค้านถึงที่สุดแค่ไหน อย่างไร สุดท้ายคงต้องอยู่ที่การตัดสินใจของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรด้วย เพราะเอาเข้าจริงแนวทางนี้ที่จะทำให้มีนายกรัฐมนตรีคนนอกขึ้นมาชั่วคราวหาได้มีผลเสียหายต่อเครือข่ายของเขาทั้งหมดโดยสิ้นเชิงไม่ ยังไม่ตัวแปรอีกมาก

มุมมองของกปปส.ยังไม่แน่ใจว่าที่สุดแล้วจะตัดสินใจอย่างไร

กปปส.มี 2 แนวทางที่ประกาศมาในรอบ 4 – 5 เดือนนี้ ระยะแรกชัดเจนว่ายอมรับบทบาทของวุฒิสภาที่อาจจะก้าวเข้ามาทำหน้าที่ตามมาตรา 172, 173 ระยะต่อมาท่านออกไปในแนวทางปฏิวัติโดยประชาชนเสมือนหนึ่งว่าให้กปปส.มีความเป็นรัฏฐาธิปัตย์ที่จะดำเนินการกระบวนการตั้งรัฐบาลประชาชนและสภาประชาชนได้เองโดยไม่พูดถึงวุฒิสภาอีกต่อไป ในระยะนี้ท่านถึงกับออกแถลงการณ์และประกาศบางฉบับที่มีนัยบ่งบอกความเป็นรัฏฐาธิปัตย์ แต่ก็ไม่ได้สานต่อ จวบจนระยะหลัง ๆ ท่านกลับมาพูดถึงบทบาทของวุฒิสภาในกรณีนี้อีกครั้งหนึ่ง

แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2557 ท่านกลับมาประกาศถึงแนวทางความเป็นรัฏฐาธิปัตย์ของกปปส.อีกครั้งหนึ่ง

สถานการณ์ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะออกไปในทางใด

ณ นาทีนี้เพียงแต่อยากจะบอกว่าหากมีการหาทางออกให้บ้านเมืองโดยรัฐธรรมนูญมาตรา 7 ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะไปพูดว่าเป็นเรื่องนายกรัฐมนตรีพระราชทานแต่ประการใด

เหตุผลจริงๆคือ มันปิดเชียงใหม่แล้วไม่ได้อะไรครับ กเดันใครก็ไม่ได้ แถมตัวเองเดือดร้อน เสียคะแนนเสียง

แล้วมันก็มีคนต้านเยอะนะครับ ผมบอกเลยว่าแค่มันแห่ขบวนบนรถ หรือตั้งเวทีตามข้างทางเนี่ย มีคนด่า มีคนไม่พอใจเยอะนะครับ คือถ้ามันจัดในพื้นที่จริง

1. มันจะมีภาพคนที่ไม่เห็นด้วยออกมาชนกัน คืออาจจะไม่ปะทะ แต่มันทำให้เสียความนิยมได้ ชาวบ้านจะรู้สึกว่า อ้าว!ไม่ได้มีแต่เสื้อแดงนี่ มีคนที่ไม่เอาแดงเยอะเหมือนกัน

2. คนที่เดือดร้อนจากการชุมนุม มันจะมีเพิ่มมากขึ้น แลง้วกายเป็นเกลียดแดง ก็เสียคะแนนอีก

ทางเดียวที่จะชุมนุมได้คือต้องชุมนุมสถานที่ปิด อย่างในสนามกีฬา อยู่เงียบๆไม่ป่วนใคร ซึ่งมันไม่ใช่แนวของแดง

ผมว่าเรื่องมันจบได้ ไม่บาดหมาง ไม่ยุ่งยาก แค่คปท.รีบออกมาชี้แจง ส่วนใครยิงก็ต้องรับผิดชอบออกมามอบตัว ก็ไปว่ากันตามกฎหมาย ก็จะเคลียร์กันได้ ผมมองแบบคุณ blue ครับ ว่าถ้าเกิดเป็นชาวบ้านล่ะ คือมันจะทำให้ชาวบ้านรู้สึกว่าคปท.เป็นภัยคุกคามได้นะครับ ออกบ้านกลางคืนมีสิทธิ์โดนคปท.สอยได้ *ถ้าเป็นฝีมือคปท.นะครับ*

ไม่อยากให้อ้างกันว่าโดนหนักเลยป้องกันตัว คืออันนั้นเข้าใจ เห็นใจครับ แต่กรณีนี้ *ถ้าเป็นฝีมือคปท.นะครับ* เล่นยิงออกมาก่อนแบบนี้มันไม่ใช่ป้องกันตัวแล้วครับ

Siriwanna Jill
เรื่องจริงเหตุการณ์คืนที่ผ่านมา อ่านก่อนนะคะ แล้วขอแรงกระจายด้วย เดี๋ยวจะเข้าใจผิดใหญ่โต เข้าทางศัตรู แย่กันเลย เรื่องนี้ไม่ได้มโน เข้าไปล้วงลึกมาเลยค่ะ .... เรื่องนี้มีแผน เสี้ยมให้ทหาร กับ คปท.ผิดใจกัน ส่วนฝีมือใครนั้นขออุบไว้ก่อนเด้อ กลัวตายเหมือนกันฮิ !

แผนนี้เริ่มจาก การสร้างสถานการณ์ขึ้น โดยก่อนเกิดเหตุ มีเสียงดังคล้ายระเบิดดัง ที่หน้า รร.ราชวินิต ใกล้กับแยกนางเลิ้ง ประมาณ 20 เมตรและห่างจากแนวบังเกอร์ ของกลุ่มผู้ชุมนุม คปท. ประมาณ 20 เมตร ด้วยการปาประทัดชนิดกระจับหรือ ระเบิดประดิษฐ์ขึ้นเอง เพราะไม่มีร่องรอยสะเก็ดระเบิด พบแต่เศษกระดาษปลิวว่อน กับเขม่าดินระเบิดของประทัดบริเวณพื้น

ข่าวว่าเสียงระเบิดทำเอาผวามาอีกแล้วตรู การ์ด คปท.แตกตื่น แต่เตรียมพร้อมรับมือเต็มที่ เพื่อป้องกันมวลชน โดยจอมวางแผนชั่ว ปาประทัด เป็นการนำร่อง ก่อนที่ขบวนลาดตระเวนทหาร กำลังจะผ่านมา หวังให้ คปท. กับทหารผิดใจกัน เป็นไปตามแผนเจ้าค่ะ เพราะพอขบวน จยย. ลาดตระเวนทหารสังกัด ร.29 พัน 2 จำนวน 3 คันเข้ามาในซอยลิขิต โดยใส่ชุดนอกเครื่องแบบผ่านมา ทำให้เกิดการเข้าใจผิด การ์ดกำลังเข้มและตกใจ จึงยิงใส่ทันที ด้วยสัญชาตญาน เข้าที่บริเวณหน้าอกขวา กระสุนทะลุด้านหลัง นายสิบ 2 คน ขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว

เมื่อรถจยย.ล้มลง กลุ่มการ์ดคปท. จึงวิ่งกรูออกมาจาก แนวบังเกอร์ ก่อนจะใช้ปืนลูกโม่ ขนาด .38 จี้ที่ศีรษะทหาร เมื่อแสดงตัวว่าเป็น ทหารชุดลาดตระเวนนอกเครื่องแบบ การ์ดจึงเก็บอาวุธ
ที่ผ่านมาทหารชุดนี้ ได้ออกลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณนี้ ทุกคืนตั้งแต่ 3 ทุ่ม อาจจะไม่ซ้ำเส้นทางเป็นประจำทุกคืน แต่ไม่เคยมีเหตุการณ์ รุนแรงเกิดขึ้น และกับบรรดาการ์ดของคปท. จะรู้จักกันดี

ขณะนี้ทางฝ่ายทหาร ได้พยายามกดดัน ให้ทางคปท.ส่งตัวคนที่ยิงเจ้าหน้าที่ ทหารลาดตระเวนออกมามอบตัว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะเดียวกัน ส่วนทหารใส่นอกเครื่องแบบจะต้องสอบสวนต่อ เพราะทำผิดคำสั่ง

ตอนนี้มีการทำ IO ของฟากรัฐกบาลหนัก เพื่อให้ทหารกับ คปท. และ กปปส ผิดใจกัน และทหารจะทำการปฎิวัติ อย่างหลงเป็นเหยื่อเด้อ แค่ทหารแตกแถว ไม่แต่งเครื่องแบบ กับ การ์ด คปท. สติแตก เพราะระเบิดลงแทบทุกคืน

I Support PM Abhisit

อมร อมรรัตนานนท์

แก้ข่าว....จากการตรวจสอบกับฝ่ายทหาร แล้วยืนยันจากฝ่ายทหาร ว่าทหารที่ได้รับบาดเจ็บเป็นการถูกลอบยิงจากอันธพาลการเมืองไม่เกี่ยวกับการ์ดของ คปท.ครับ วันนี้คงมีการแถลงข่าว อย่างเป็นทางการครับ


รอแถลงข่าวอีกทีครับ อันที่เป็นข่าวเก่านี้ใส่สปอยล์ไว้ก่อน ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงค่อยลบ

ป่านนี้ทักษิณคง......

ป่านนี้ยิ่งลักษณ์คง.......