(มีคนฝากมา) ขอขอบคุณ คนไทยในแฟรงก์เฟิร์ต ครับ
7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 08:33
(มีคนฝากมา) ขอขอบคุณ คนไทยในแฟรงก์เฟิร์ต ครับ
31 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 16:55
เอาโมเดลพี่ตู้ก็ได้ ให้ข้าราชการบริหารบ้านเมือง แล้วเอานักการเมืองมาตรวจสอบข้าราชการก็พอ ผมว่าดีกว่าปัจจุบันแน่ ... ไม่ไหวจะทน
"เอาโมเดลพี่ตู้ก็ได้ ให้ข้าราชการบริหารบ้านเมือง แล้วเอานักการเมืองมาตรวจสอบข้าราชการก็พอ"
ไปรวบรวมไว้ที่ "อิกโนเบล ทางการเมือง"
ว่าจะไปพักแล้ว ... มาเห็นย้ำประเด็นโมเดลพี่ตู้นี้ เลยขอถกด้วยเหตุด้วยผล+เสนอความคิดผม ซะหน่อยละกัน
คือ ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับโมเดลพี่ตู้ เพราะเท่ากับว่า ข้าราชการ จะได้ "โควต้าผูกขาด ตลอดกาลถาวร"
ไม่พ้น พวกเลวๆ ก็กระ***กระสน มุ่งไปสู่เส้นทางข้าราชการอยู่ดี ... กลายเป็น "เผด็จการข้าราชการ"
ข้าราชการ ก็แก้กฏหมาย เพื่อเพิ่มเงินเดือน ให้บำนาญตัวเองได้ ...
แถมกลายเป็นว่า "ประชาชน หมดสิทธิ์เลือก ผู้นำที่จะบริหารประเทศ ด้วยตัวเองอีก"
สรุป ผมว่ามันแก้ปัญหาไม่ถูกจุด (ยกคำพังเพยให้เห็นภาพเฉยๆ ไม่ได้จะดูถูกนะ ... มันเหมือน "ขี่ช้างจับตักแตน" )
ในความคิดผม ... *** การแก้ปัญหา ที่ Core "เฉพาะประเด็นนี้"
ประเด็นปัญหาที่ผมรู้สึกมานาน คือ มันไม่สมเหตุสมผลเลย ที่
นักการเมือง สามารถ *แก้ไข เปลี่ยนแปลง*
1. คุณสมบัติของพวกตัวเองบ้างล่ะ(เพื่อไปใช้ในการเลือกตั้ง)
2. ผลประโยชน์โดยตรงของนักการเมืองบ้างล่ะ(เช่น เงินเดือน บำนาญ ฯลฯ)
3. ฯลฯ
มันเข้าข่าย "ผลประโยชน์ทับซ้อน" ... แต่ ทำไมส่งศาล ฟาดไม่ได้(ฟ่ะ )
*** แสดงว่ารัฐธรรมนูญ ยังมี "ช่องโหว่" ที่สมควรต้องแก้ไขแน่ๆ ***
เราจำเป็นต้อง แก้รัฐธรรมนูญ เพื่อไป บังคับใช้รูปแบบอื่นๆ ไปซะ ***เพื่อตัดสิทธิ์ส่วนนี้ของนักการเมือง***
จริงๆ มันต้องเป็นประชาชนไม่ใช่หรอ ที่ตัดสินใจว่าเงินเดือน สส สว ควรได้เท่าไหร่?
บำนาญควรมีไหมหรือบำเน็จดีกว่า? จำนวนเท่าไหร่ ยังไง? (ถ้าพวกเราเป็นเจ้านายเขาจริงๆ อ่ะ ... นี่เราเป็นทาสนี่หว่า )
อะไรที่มันเชื่อมโยงกับผลประโยชน์โดยตรงของนักการเมือง มันสมควรต้องถูกแยกออกมา
ให้ อีกองค์กรหนึ่ง (เช่น ยกตัวอย่าง อุดมคติ "สภาประชาชน") เป็นคนมีอำนาจในการร่าง
... ถ้า "สภาประชาชน" มันจะนำมาซึ่งปัญหาบานปลายอีก
หนักนัก ก็เป็น "โหวตเสริมพ่วงไปกับตอนเลือกตั้ง สส สว" หรือถ้าสุดโต่งกว่า ก็ "ประชามติ"
(ถ้า mix กับ แนวความคิดกระจายอำนาจไปตามท้องถิ่น อาจจะ Hybrid เข้าด้วยกันได้ ... เพื่อ ช่วยลด Scale)
คือ ไม่ใช่ สส สว "ตัวแทนประชาชน" ไปตัดสินใจเรื่องของพวกคุณเอง
เพราะ "พวกคุณมีส่วนได้ส่วนเสีย" พวกคุณไม่ชอบธรรมที่จะมีสิทธิ์
เรื่องปัญหานี้ที่พวกคุณมีได้เสีย ... จะต้องให้ "ประชาชนโดยตรง" ตัดสินใจเอง
ถ้าจะมีปฏิรูปการเมือง สำหรับผม ... มันควรต้องมี อะไรแบบนี้
ถ้าท่านใดเห็นต่าง ขอเชิญถกนะครับ .... ผมไม่เคยปักใจเชื่อว่าความคิด,วิธีตัวเอง คือ ดีที่สุด
อยากฟังความเห็นมากๆ หลากหลายๆ นะครับ ผมจะได้นำไปปรับปรุง refine ความคิดตัวเอง
ปล. ไปจริงๆ แล้ว ไว้ซักพักมาใหม่นะครับ เสียการเสียงานจนโดนด่าแล้ว
ใครอยากค้านจุดไหน เชิญเต็มที่นะครับ ... ขอบคุณท่านที่อ่านไว้ล่วงหน้านะครับ
31 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 11:17
สวัสดีครับ คุณ บุญยอด
จากข่าวช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เรื่อง "เงินเบี้ยยังชิพตลอดชีวิต สส สว" http://www.thairath....tent/pol/366572 http://www.dailynews...politics/229496 จนทำให้ประชาชนหลายท่าน เกิด "ความไม่พอใจและความคับข้องใจ" แม้กระทั่งใน Fb เสรีไทย หรือบอร์ด เสรีไทย https://www.facebook...559877364067697 http://webboard.seri...ธมิตรละ-เลิกระ/
อยากให้ คุณ บุญยอด ช่วยตอบ ข้อข้องใจของสมาชิกในบอร์ดเสรีไทย ด้วยครับ ... อ้างอิง เนื้อความ จากสมาชิกท่านหนึ่ง ดังนี้
---Quote:------------------------------------------------ ลักษณะการเก็บเงินจากส.ส. ถึงเก็บจริง มันก็ทำเป็นลักษณะ บำนาญ ไม่ได้ คือเบี้ยเลี้ยงชีพตลอดชีวิต ไม่ใช่บำนาญแล้วมันเป็นอะไร เดือนละ 15,000 จนกระทั่งตาย มันตลกตรงที่ บริษัทเอกชนเขาก็ทำกัน คือ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ แต่ลักษณะของมันคือ มันต้องทำเป็น "บำเน็จ" คือ เป็นเงินก้อนเดียว รับครั้งเดียว บำนาญมันกินยาวมากๆ แล้ว มันประเมินเงินงบประมาณที่จะต้องใช้ไม่ได้ อนาถตรงที่ ราชการเวลานี้ พยายามจะใช้ระบบ บำเน็จแล้ว แต่ ส.ส. กลับจะไปใช้ระบบบำนาญ *** 1 เงินมันเยอะไงครับ งบประมาณรัฐมันเยอะ จะเก็บเงิน ส.ส.เดือนละเท่าไหร่ก็ไม่คุ้ม เพราะบางคนเป็นส.ส.แค่ 2 เดือน ก็ลาออก ตรงนี้ก็มีสิทธิได้บำนาญห้าเหวนี้ด้วยสิ *** 2 ระบบคิดตั้งแต่ เบี้ยเลี้ยงชีพตลอดชีวิต = บำนาญ มันก็ผิดและส่อแนวทุจริตเชิงนโยบายเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวแล้ว *** 3 ไม่ต้องคิดไปถึงว่า เงินส่วนนึง มาจาก ส.ส. เองหรอก ส่วนนึง มันกี่เปอร์เซ็น ล่ะ ส่วนนี้มันมากขนาดจัดให้ตลอดชีวิตได้เลยเหรอ ทำเป็นบำนาญ รับไม่ได้จริงๆ มันเกินไป *** 4
ประเด็นของผม ย้ำนะครับ บำนาญ คือ ตลอดชีพ ผมไม่ยอมรับตรงนี้ครับ ---Quote:------------------------------------------------
ผมจำเป็นต้องเอา ข้อความนี้ ที่ผมส่งให้คุณ บุญยอด ลงในเสรีไทย เพื่อให้เพื่อนสมาชิกได้รับทราบทั่วกันนะครับ ว่า "ข้อความนี้ได้ถูกส่งไปแล้ว" ... เหลือเพียงแค่ "การรอคำตอบ"
หวังว่าจะได้รับ "ความชัดเจน และ คำตอบที่สมเหตุสมผล" จากท่านนะครับ (โดยเฉพาะส่วน ***1, ***2, ***3, ***4)
หาก ท่าน ไม่ตอบกลับโดยตรง แต่ชี้แจงสาธารณะทางอื่น ... กรุณาแจ้งให้ทราบด้วยนะครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ (รอคำตอบอยู่นะครับ)
31 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 09:53
จริงๆไม่ได้เน้นว่าจะด่าคุณหรอก
เพียงแต่บังเอิ๊ญคุณออกความเห็นมาสอดรับกับเขาพอดี
เดี๋ยวนี้เขาใช้ความคลุมเครือมาแก้ตัวในการทำความผิดครับ
ไม่ว่าจะเป็นเรือง ปตท. หรือ เรื่องนี้ก็เหมือนกัน
เขาทำให้มันเกิดเพื่อที่จะเอาทีมโฆษณาเขามาแย้งได้
เพื่อทำลายการโจมตี
ประเด็นคือไอ้คนมาแย้งก็ไม่มีข้อมูลชัดเจนหรอก
เพียงแค่ส่วนเดียวก็เอามาอ้างแย้งได้แล้ว
ดูง่ายๆ
ลักษณะการเก็บเงินจากส.ส. ถึงเก็บจริง มันก็ทำเป็นลักษณะ บำนาญ ไม่ได้
คือเบี้ยเลี้ยงชีพตลอดชีวิต ไม่ใช่บำนาญแล้วมันเป็นอะไร
เดือนละ 15,000 จนกระทั่งตาย
มันตลกตรงที่ บริษัทเอกชนเขาก็ทำกัน คือ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
แต่ลักษณะของมันคือ มันต้องทำเป็น "บำเน็จ" คือ เป็นเงินก้อนเดียว รับครั้งเดียว
บำนาญมันกินยาวมากๆ แล้ว มันประเมินเงินงบประมาณที่จะต้องใช้ไม่ได้
อนาถตรงที่ ราชการเวลานี้ พยายามจะใช้ระบบ บำเน็จแล้ว
แต่ ส.ส. กลับจะไปใช้ระบบบำนาญ
เงินมันเยอะไงครับ งบประมาณรัฐมันเยอะ
จะเก็บเงิน ส.ส.เดือนละเท่าไหร่ก็ไม่คุ้ม
เพราะบางคนเป็นส.ส.แค่ 2 เดือน ก็ลาออก ตรงนี้ก็มีสิทธิได้บำนาญห้าเหวนี้ด้วยสิ
ระบบคิดตั้งแต่ เบี้ยเลี้ยงชีพตลอดชีวิต = บำนาญ มันก็ผิดและส่อแนวทุจริตเชิงนโยบายเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวแล้ว
ไม่ต้องคิดไปถึงว่า เงินส่วนนึง มาจาก ส.ส. เองหรอก
ส่วนนึง มันกี่เปอร์เซ็น ล่ะ ส่วนนี้มันมากขนาดจัดให้ตลอดชีวิตได้เลยเหรอ
ตรรกะแค่นี้มองไม่เห็นหรือ
นี่แหละที่ผมงง แล้วเริ่มรู้สึกว่า เฮ้ย มองกันไม่ออกจริงๆเหรอ
ถ้ารุนแรงไปผมก็ขอโทษด้วยแล้วกัน
แต่ทำเป็นบำนาญ ผมรับไม่ได้จริงๆ มันเกินไป
คุณลองไปถามบุญยอดดูก็ ว่า มันเป็นยังไง จะได้ชัดเจน
ประเด็นของผม ย้ำนะครับ บำนาญ คือ ตลอดชีพ ผมไม่ยอมรับตรงนี้ครับ
ขอบคุณสำหรับ ความรู้ ครับ m(_ _)m
เดี๋ยวผมลองหาช่องทางที่จะให้ได้ ความชัดเจน ... ข้องใจในหลายประเด็นเหมือนกันครับ
ปล. จริงๆ ท่านจูกัด บึ้กข้อมูลขนาดนี้ น่าจะซัดเองเลยนะ บอกต่ง (ไอ้ผม แค่ facebook ยังงงอยู่เลย )
31 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 08:00
เขามาขำผู้ที่อ้างว่า “หักจากเงินเดือน3000"
พี่โง่จริงหรือแกล้งโง่กันแน่เนี่ย
ยังมาบอกว่าให้ชี้แจง
บ้างก็บอกว่าด่าได้ไม่เต็มปาก
ยุคนี้มันเป็นยุคโส โคร กจริงๆ
เอาความจริงแค่ส่วนเล็กๆเพื่อมาแหกตาเรื่องใหญ่
เหมือนกันไหมวะครับ
ถ้าผมจะบอกว่า
นาฬิกาสภาเรือนละ4.7 หมื่น โต๊ะหลุยส์ 3แสน
ถ้ามันอ้างว่า เฮ้ยมันเงินของส.ส.เขาเรี่ยไรกันเองนะ
บริจาคคนละ50บาท
ดังนั้น อย่ามาโวย แค่ชี้แจงก็พอ หรือ อยากจะด่าแต่ด่าได้ไม่เต็มปาก
ผมอยู่กับสังคมกินหญ้าอยู่หรือเปล่าวะครับ
แหมท่าน จะว่ากัน ก็น่าจะ quote ถึงกันซักหน่อย
ผมรับคำด่าท่านได้เสมอแหละ ไม่โกรธหรอก
ก็ผมไปตามอ่านจากที่อื่น เนื้อข่าวในเรื่อง "ที่มาของเงินกองทุน"
พิจารณากับความรู้เท่าที่ผมมี มันยังไม่สามารถเคลียร์ตรรกะ ให้แจ้งได้
ผมยังต้องการข้อมูลเพิ่มเพื่อคิดพิจารณาต่อ
แต่ยังไม่มีเวลาจะไปหาเช็คหาจากแหล่งอื่นๆอีก ... ผมก็ยัง ด่าได้ไม่เต็มปาก
... มุมมองมันต่างกันอ่ะแค่เนี๊ยะ ผมต้องถูกผลักไปกินหญ้าเลยเหรอ ท่าน ...ขอเป็นมนุษย์ได้ไหม
เรื่องผลประโยชน์ของส่วนรวม ใช้หลักยุติธรรมแบบ ปล่อยคนทำผิด 10 คน ดีกว่าสั่งลงโทษคนดีเพียง 1 คน ไม่ได้ เพราะนั่นเป็นการทำลายอนาคตคนดี... แต่นี่แค่ติเตียน สังคมจะดีได้ ผมว่าคนต้องตื่นตัวและช่วยกัน ตำหนิคนทำถูก10 คน ดีกว่าปล่อยให้คนทำผิดเพียง 1 คนรอดตัว .....
กรณีนี้ต่อให้ทำถูกจริงก็ยังมีผิดในถูก เพราะเอาสมบัติของส่วนรวมไปสร้างประโยชน์ส่วนตน เหมือนงุบงิบกันเอง จะหาข้อมูลเพื่อวิเคราะห์เหตุและผล ก็หายากเหลือเกิน ทำเหมือนไม่เกรงใจพวกเราประชาชนคนไทย คุณ XqOres ถึงพยายามหาแล้วผมก็ไม่คิดว่าจะพบเหตุผลที่ชัดเจน สื่อก็ไม่สนใจจะขุดข้อมูลมาชี้แจง อย่างนี้เราประชาชนก็ต้องช่วยกันด่าทั้งประเทศให้เกรงใจประชาชนซะบ้างครับ ... เค้ากินเงินภาษีเรา เค้าต้องเกรงใจเรา ถ้ายังไม่มีตรรกะที่ชี้แจงไดัก็ไม่ควรทำ
จริงครับ ท่าน ... ข้อมูลแจ้งๆ เรื่องนี้หายากจริงๆ
(ตอนแรก ผมยังคิดว่า จะไปจี้ บุญยอด ที่หน้า facebook เลยดีไหม? ... เสียเวลาน้อยกว่ามานั่งหา)
(ติดตรงที่ผมไม่ใช่นักกฏหมาย ผมสายวิทย์ ... ผมยังไม่มั่นใจพอจะไปเถียงนักการเมืองใน Field ของเขาได้)
ผมเข้าใจสิ่่งที่ท่านอธิบายมาทั้งหมด ไม่ได้คิดค้านเลยครับ
ถ้าฝั่ง พธม จะยกเรื่องนี้เป็น
Campaign หลัก **เพื่อไปล้ม นักการเมืองทั้งแผง**
ผมก็จะ ไม่พูด ไม่บ่น ไม่ห้าม ซักคำเลยครับ
ผมถึงไม่แก้ตัวอะไรให้ ทั้งนั้น
แต่ก่อนจะให้ผมด่าใครเต็มปาก ขอผมคิดพิจารณาดีๆ ก่อน
(ชีวิตผมพลาดก่ับเรื่องแบบนี้มาเยอะ ตอนวัยรุ่น ... มันเป็น บทเรียนฝังใจ ครับ)
อยากขอแค่ว่า พูดคุยกันดีๆก็ได้ ... "เอาด้วยเหตุด้วยผล มาแจกแจงหักล้างกันไป"
... ด่ากันไป มันรังแต่ทำให้เกิดอารมณ์ซึ่งกันและกันนะครับ
ถ้าส่วนไหนผมยังโง่เขลาเบาปัญญา ... ก็ช่วยอธิบาย สอน เปิดมุมมองผมหน่อย ... ผมก็พร้อมรับฟังนะครับ
Community Forum Software by IP.Board 3.4.6
Licensed to: serithai.net