Jump to content


onegaishimasu

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 3 มิถุนายน 2555
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2557 03:37
-----

#1142796 มีใครวิเคราะห์เรื่องการสังหารไม้หนึ่งก.กุนทีได้บ้างครับ

โดย onegaishimasu on 24 เมษายน พ.ศ. 2557 - 03:34

ลองไปดูเพจไอ่ gu สิครับ เป็นตุเป็นตะ 555

 

ใครเป็นทหารลองรายงานผู้บังคับบัญชาท่านดูสิครับ จะได้เช็คดูซะที่ว่าไอ่ gu นี่มันเป็นนายทหารใหญ่ที่รับใช้ใกล้ชิดอย่างที่อวดอ้างจริงรึเปล่า

 

https://www.facebook...elevant_count=1




#1085429 ลูกหมายตัวไหนครับ อยากรู้จริง

โดย onegaishimasu on 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 02:17

รณรงค์ให้ชาวเสรีไทยไม่ลบหลู่เจ้าของเพจนี้นะครับ

 

เพราะนี่คือที่ยึดเหนี่ยวจิตใจอย่างสุดท้ายของชาวลากดำนาครับ ถึงกับต้องเรียก ท่านกู กันเลยทีเดียว 555

 

ลองดูได้ครับ http://pantip.com/topic/31711716




#541245 แม่น้องเกด...เธอไม่ทำการทำงานอะไรแล้วหรือ!!!

โดย onegaishimasu on 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 03:32

น้องใหม่ทรงคุณค่า
ข้าน้อยขอคารวะ


"คนที่จะยิงได้ มีแต่คนที่เตรียมใจจะถูกยิงกลับแล้วเท่านั้น"

ผมขออนุญาตยืมประโยคนี้มาจากการที่เห็นเพื่อนสมาชิกคนใดคนหนึ่งในเสรีไทยเคยใช้ ซึ่งผมเองก็ต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถจำได้ว่าเพื่อนสมาชิกคนนั้นเป็นใคร หากแต่เพียงรู้สึกว่าได้เห็นประโยคนี้อยู่บ่อยๆจนรู้สึกว่าคุ้นตาและชอบใจอยู่ไม่น้อย วันนี้ผมอยากจะเขียนถึงเรื่องของแม่กะมนเกดซึ่งเป็นสิ่งที่ผมอยากเขียนมานาน แต่ก็ไม่ได้เขียนซักที ซึ่งการที่ผมอยากเขียนเรื่องแม่กะมนเกดนั้นมันเกิดมาจากประโยคประโยคนึงที่เห็นผ่านตาจากสื่อ จาการโพสต์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่บ่อยๆ ประโยคนี้ครับ

"บางครั้งมีนักเรียนแพทย์ผ่าเส้นเอ็นอะไรไม่เป็นก็มาให้เกดสอน"

เพียงประโยคนี้ประโยคเดียวเท่านั้นครับที่ผมรู้สึกว่ามันถูกจริตกับอคติในจิตใจของผมอย่างรุนแรง เพราะฉะนั้นข้อความต่อจากนี้ไป ผมได้เขียนขึ้นมาจากอคติในหัวใจของผมล้วนๆ จึงไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้มีมนุษยธรรมในหัวใจและนักสิทธิมนุษยชนที่จะอ่านข้อความต่อไปนี้

ผมขอเถอะครับ "เราอย่าไปให้คุณค่ากับกะมนเกดคนนี้นักเลยครับ" จะว่าจะด่าอะไรผมก็ได้ครับหากคุณอ่านประโยคที่ผมได้เขียนเหล่านี้ทั้งหมดแล้ว เพราะผมบอกไว้แล้วว่าถ้าผมได้ตัดสินใจจะเขียน ผมก็พร้อมแล้วครับที่จะรับผลจากการเขียนของผมตามประโยคที่ผมได้ยืมมาจากเพื่อนสมาชิกที่นำมาอ้างไว้ข้างต้น

การสูญเสีย โดยปกติแล้วสำหรับผมเป็นเรื่องใหญ่ครับ ไม่ว่าจะเกิดกับใครก็ตาม ไม่ว่าจะรู้จักหรือไม่รู้จัก อย่าว่าต้องให้ถึงชีวิตเลยครับ แค่เพียงสูญเสียอวัยวะก็มากเพียงพอแล้วที่จะทำให้คนอย่างผมได้รู้สึกสลดใจครับ แต่ความรู้สึกนี้เดียวกันนี้ที่เคยมีให้กับกะมนเกดมันเลือนหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบได้ครับ มันคงหายไปเพราะการกระทำของแม่กะมนเกดครับ

ความตายของกะมนเกดถูกนำมาเพิ่มมูลค่าอย่างมากมายโดยมารดาของเธอครับ เพิ่มจนไม่ธรรมดา เพิ่มจนน่าเกลียด เพื่อให้กะมนเกดดูมีค่ามากมาย เพื่อให้คนต้องเสียดายเมื่อสูญเสียเธอไป เพื่อเรียกร้องเงินค่าชดเชยให้สมน้ำสมเนื้อกับคนที่แสนจะมีค่าอย่างกะมนเกด เพื่อให้ได้กำไรสูงสุดจากการเสียชีวิตของลูกสาวเธอครับ ทั้งๆที่จริงๆแล้วกะมนเกดก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดา ที่ไม่น่าจะมีคุณค่าอะไรมากมายขนาดที่แม่เธอพยายามทำให้ดูเหมือนจะเป็นหากเธอยังคงมีชีวิตอยู่ครับ

ผมไม่ได้รู้จักกะมนเกดเป็นการส่วนตัว แต่ขออนุญาตวิเคราะห์กะมนเกดจากบทความที่เคยได้อ่านมาด้วยอคติส่วนตัวครับครับ

"เกด เป็นคนพูดจาโผงผาง ปากร้ายใจดี" "เกดมีเอกลักษณ์ของตัวเองคือเสียงหัวเราะที่ดังลั่นทุ่ง" "เกดจบชั้นมัธยม เรียนพาณิชย์ได้ไม่เท่าไรก็ต้องลาออกมาเรียน กศน" สามประโยคนี้ทำให้ผมสามารถวิเคราะห์ด้วยอคติได้ว่า กะมนเกด ไม่ใช่พยาบาลที่เรียบร้อยอ่อนหวานอย่างที่พยาบาลส่วนใหญ่เค้าเป็นกันอย่างที่เราๆท่านๆเคยเห็นหรอกครับ ผมว่าออกจะเป็นคนเกเรเสียด้วยซ้ำ กรุณาอย่าทำให้ภาพพจน์เธอดูเป็นนางฟ้าเลยครับ

มาถึงประโยคที่ผมรู้สึกสะอิดสะเอียนที่สุด และทำให้รู้สึกอคติกับกระบวนการสร้างภาพให้กะมนเกดอย่างรุนแรงก็คือประโยคนี้ครับ "บางครั้งมีนักเรียนแพทย์ผ่าเส้นเอ็นอะไรไม่เป็นก็มาให้เกดสอน" ผมอยากทราบจริงๆครับว่า นศพ คนใดที่ต้องให้กะมนเกดสอนผ่าเส้นเอ็น เพราะผมเชื่อลึกๆว่าในปีแรกๆของการเรียนแพทย์นั้น นศพ ทุกคนต้องผ่านการเรียนกายวิภาคศาสตร์มาแล้วไม่ว่าทั้งภาคทฤษฎีหรือภาคปฏิบัติ แล้วเหตุใด นศพ คนนั้นจึงต้องให้กะมนเกดผู้ซึ่งเป็นเพียงผู้ช่วยพยาบาลและผมเองก็เชื่ออยู่ลึกๆว่าเธอไม่เคยผ่านการเรียนวิชากายวิภาคศาสตร์มาอย่างแน่นอนมาสอนการผ่าเส้นเอ็นด้วยเล่า หากผมเป็นอาจารย์ของ นศพ ท่านนั้นจะขอเขกกระโหลกซักสองสามที และจะขออนุญาตตัดคะแนน anatomy ที่คุณเรียนผ่านมาแล้วด้วยในช่วงปีแรกๆครับ เรื่องเหล่านี้คนที่เรียนแพทย์หรือเรียนวิทยาศาสตร์น่าจะรู้ดีที่สุดครับ ไม่ใช้ผู้ช่วยพยาบาลอย่างกะมนเกดซึ่งไม่เคยร่ำเรียนวิชาทางสายแพทย์มาก่อนอย่างแน่นอน นี่เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กะมนเกดที่ผมรับไม่ได้อย่างมากครับ

ประโยคต่อมาคือประโยคที่ว่า "เกดมีฝันว่าต้องการไปสอบเป็ผู้ช่วยพยาบาลในกองทัพบก โดยประกาศเจตนาแน่วแน่ว่า ถ้าสอบติดจะลงไปปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้" ท่านจะเห็นว่ามันน่าชื่นชมใช้มั๊ยครับ แต่ผมก็ไม่เชื่อลมที่ออกจากปากแม่กะมนเกดหรอกครับ เกดตายไปแล้วจะพูดอะไรก็ได้ครับ จะพูดให้ดูดีกว่านี้ร้อยเท่าพันเท่าก็ได้ครับ "ถ้าเกดยังไม่ตายจะ ..." "เกดมีฝันว่า ..." "เกดตั้งใจจะ ..." จะพูดอะไรก็พูดได้ครับ สำหรับผมมันก็แค่การสร้างราคา สร้างมูลค่าให้การตายของกะมนเกด เพื่อให้การตายของลูกทำเงินให้แม่ให้ได้มากที่สุดครับ คุณเชื่อเหรอครับว่าหากเธอยังไม่ตาย แม่ของเธอจะยอมให้เธอลงไปสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขนาดไปอยู่แค่ในม็อบกบฏสีแดงแม่เธอยังไม่อยากให้ไปเลยครับ วิเคราะห์จากประโยคนี้ครับ "หลังจากเกดไปร่วมกับอาสาสมัคร เพื่อคอบปฐมพยาบาลกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงอย่างเต็มตัว เกดก็ไม่ค่อยรับโทรศัพท์ที่บ้านเพราะกลัวโดนตามตัวกลับ" ที่สามจังหวัดชายแดนมันโหดร้ายกว่าในม๊อบกบฏสีแดงหลายล้านเท่าครับ เห็นรึเปล่าครับว่ามันก็แค่การพูดเพื่อเพิ่มมูลค่าเท่านั้นเอง กะมนเกดยังไม่เคยแม้แต่จะเรียนผู้ช่วยพยาบาลด้วยซ้ำ และก็ยังไม่รู้เลยว่าจะสอบได้เป็นผู้ช่วยพยาบาลในกองทัพบกหรือเปล่า แต่ก็เอามาพูดสร้างมูลค่าซะใหญ่โต น่าสะอิดสะเอียนจริงๆครับ

อีกประโยคก็คือประโยคที่แม่เธอพูดเอาดีใส่ตัวที่ว่า "ดิฉันสอนลูกๆทั้งสามคนเสมอว่าครอบครัวเรามันจน มีทางเลือกน้อย หากเรียนจบแล้วมีงานทำก็ควรช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาสกว่า ช่วยเหลือได้ให้ช่วยเหลือ" แต่สิ่งที่ผมได้บริโภคจากสื่อนั้นกลับพบแต่เพียงความเห็นแก่ได้ของเธอ คิดแต่เพียงจะเรียกร้องค่าชดเชยให้ได้มากที่สุด หาได้เคยเห็นถึงความสำนึกในการเสียสละตามคำสอนของเธอไม่ ในใจลึกๆก็อยากถามเธอว่า บัดนี้เธอมั่งมีแล้วจากเงินเจ็ดล้านกว่าๆ เธอได้นำเงินเหล่านั้นช่วยเหลือใครบ้างหรือไม่ อย่างน้อยที่สุดก็ให้เป็นบุญกุศลแก่วิญญาณลูกของเธอก็ยังดีครับ ถ้ายังไม่เคยนำเงินเหล่านั้นไปช่วยเหลือใคร ประโยคนี้ก็แค่อีกประโยคที่สวยหรูใช้ในการเพิ่มมูลค่าการตายของลูกเธอครับ

กะมนเกดก็เป็นเพียงแค่คนเสื้อแดงคนหนึ่งครับ เหมือนคนเสื้อแดงทั่วๆไปที่โชคร้ายต้องมาเสียชีวิตขณะก่อกบฏ โดยที่ยังไม่ทราบเลยด้วยซ้ำว่าเป็นฝีมือใคร บางทีอาจจะเป็นฝีมือพวกเดียวกันเองก็ได้ครับ ซึ่งก็มีอีกหลายๆคนที่เราท่านๆจำชื่อคนเหล่านั้นไม่ได้ครับ เรามาร่วมกันทำชื่อ กะมนเกด ให้เลือนหายไป และไร้ซึ่งมูลค่าใดๆเช่นเดียวกับคนเสื้อแดงหลายๆคนที่เราจำชื่อไม่ได้กันเถอะครับ อย่าอุปโลกน์ให้เธอเป็นนางฟ้าเป็นพยาบาลผู้มาจิตใจเมตตาอารีเลยครับ เพราะผมเชื่ออยู่ลึกๆว่าคนที่อยู่ในหน่วยพยาบาลของเสื้อเหลืองก็ต้องเป็นคนเสื้อเหลืองที่มีแนวคิดมีอุดมการณ์เดียวกัน ในหน่วยพยาบาลในการชุมนุมของ เสธ อ้าย ก็ต้องเป็นคนของ เสธ อ้าย แล้วมันจะยกเว้นคนที่อยู่ในหน่วยพยาบาลของกบฏสีแดงไปได้อย่างไรเล่าครับ กะมนเกดก็แค่คนเสื้อแดงคนหนึ่ง กรุณาอย่าได้ให้ราคาเธอมากกว่านั้นเลยครับ เธอไม่ได้มีค่าอะไรมากมายขนาดที่แม่เธอพยายามทำให้เป็นครับ ถ้าเธอเป็นนางฟ้าจริง ก่อนนั้นเธอน่าจะมีประวัติเป็นอาสาสมัครพยาบาลในหน่วยพยาบาลของเสื้อเหลืองมาก่อนครับ เพราะนางฟ้าผู้มีจิตใจเมตตาอารีต้องไม่มีสีใดๆครับ

จากทั้งหมดที่ผมเขียนมา ผมไม่ให้ราคากะมนเกด มากเท่ากับที่แม่เธอพยายามทำให้เป็นครับ สำหรับผม เธอก็แค่คนเสื้อแดงทั่วๆไปที่โชคร้ายต้องมาเสียชีวิตขณะร่วมกันก่อการกบฏครับ

ผมขอขอบคุณหากเพื่อนสมาชิกได้อ่านข้อความของผมจนจบ และหากใครจะว่าอะไรผมเนื่องมาจากว่ารู้สึกขัดหูขัดตาในความคิดความอ่านของผม ก็ยินดีน้อมรับฟังความคิดเห็น หรือแม้แต่จะเป็นคำด่าว่าครับ เพราะผมคิดของผมอย่างนี้จริงๆว่ามันก็แค่การสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อเรียกร้องเงินชดเชยให้ได้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ของแม่กะมนเกดครับ สำหรับผม แม่กะมนเกดก็เป็นเพียง พยาธิ ครับ ชื่อนี้ผมไม้ได้โมเมเอามาลอยๆครับ เธอเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ผมผวนเอามาจากชื่อกับนามสกุลของเธอครับ พะยาด มาจาก พะยาด ... เฮา ซึ่งผวนมาจาก พะเยา ... ครับ ที่น่าแปลกก็คือ พฤติกรรมบางอย่างเธอคล้ายพยาธิเสียด้วยสิครับ 555




ขอบคุณคุณผึ้งน้อยฯมากๆนะครับ ผมเองก็ติดตามอ่านที่คุณผึ้งน้อยฯเขียนอยู่บ่อยๆ แอบชื่นชมอยู่ก็ไม่น้อย แต่นานๆครั้งถึงจะได้ล็อกอินเข้ามาซักทีนึงครับ


#540166 แม่น้องเกด...เธอไม่ทำการทำงานอะไรแล้วหรือ!!!

โดย onegaishimasu on 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 05:34

"คนที่จะยิงได้ มีแต่คนที่เตรียมใจจะถูกยิงกลับแล้วเท่านั้น"

ผมขออนุญาตยืมประโยคนี้มาจากการที่เห็นเพื่อนสมาชิกคนใดคนหนึ่งในเสรีไทยเคยใช้ ซึ่งผมเองก็ต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถจำได้ว่าเพื่อนสมาชิกคนนั้นเป็นใคร หากแต่เพียงรู้สึกว่าได้เห็นประโยคนี้อยู่บ่อยๆจนรู้สึกว่าคุ้นตาและชอบใจอยู่ไม่น้อย วันนี้ผมอยากจะเขียนถึงเรื่องของแม่กะมนเกดซึ่งเป็นสิ่งที่ผมอยากเขียนมานาน แต่ก็ไม่ได้เขียนซักที ซึ่งการที่ผมอยากเขียนเรื่องแม่กะมนเกดนั้นมันเกิดมาจากประโยคประโยคนึงที่เห็นผ่านตาจากสื่อ จาการโพสต์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่บ่อยๆ ประโยคนี้ครับ

"บางครั้งมีนักเรียนแพทย์ผ่าเส้นเอ็นอะไรไม่เป็นก็มาให้เกดสอน"

เพียงประโยคนี้ประโยคเดียวเท่านั้นครับที่ผมรู้สึกว่ามันถูกจริตกับอคติในจิตใจของผมอย่างรุนแรง เพราะฉะนั้นข้อความต่อจากนี้ไป ผมได้เขียนขึ้นมาจากอคติในหัวใจของผมล้วนๆ จึงไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้มีมนุษยธรรมในหัวใจและนักสิทธิมนุษยชนที่จะอ่านข้อความต่อไปนี้

ผมขอเถอะครับ "เราอย่าไปให้คุณค่ากับกะมนเกดคนนี้นักเลยครับ" จะว่าจะด่าอะไรผมก็ได้ครับหากคุณอ่านประโยคที่ผมได้เขียนเหล่านี้ทั้งหมดแล้ว เพราะผมบอกไว้แล้วว่าถ้าผมได้ตัดสินใจจะเขียน ผมก็พร้อมแล้วครับที่จะรับผลจากการเขียนของผมตามประโยคที่ผมได้ยืมมาจากเพื่อนสมาชิกที่นำมาอ้างไว้ข้างต้น

การสูญเสีย โดยปกติแล้วสำหรับผมเป็นเรื่องใหญ่ครับ ไม่ว่าจะเกิดกับใครก็ตาม ไม่ว่าจะรู้จักหรือไม่รู้จัก อย่าว่าต้องให้ถึงชีวิตเลยครับ แค่เพียงสูญเสียอวัยวะก็มากเพียงพอแล้วที่จะทำให้คนอย่างผมได้รู้สึกสลดใจครับ แต่ความรู้สึกนี้เดียวกันนี้ที่เคยมีให้กับกะมนเกดมันเลือนหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบได้ครับ มันคงหายไปเพราะการกระทำของแม่กะมนเกดครับ

ความตายของกะมนเกดถูกนำมาเพิ่มมูลค่าอย่างมากมายโดยมารดาของเธอครับ เพิ่มจนไม่ธรรมดา เพิ่มจนน่าเกลียด เพื่อให้กะมนเกดดูมีค่ามากมาย เพื่อให้คนต้องเสียดายเมื่อสูญเสียเธอไป เพื่อเรียกร้องเงินค่าชดเชยให้สมน้ำสมเนื้อกับคนที่แสนจะมีค่าอย่างกะมนเกด เพื่อให้ได้กำไรสูงสุดจากการเสียชีวิตของลูกสาวเธอครับ ทั้งๆที่จริงๆแล้วกะมนเกดก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดา ที่ไม่น่าจะมีคุณค่าอะไรมากมายขนาดที่แม่เธอพยายามทำให้ดูเหมือนจะเป็นหากเธอยังคงมีชีวิตอยู่ครับ

ผมไม่ได้รู้จักกะมนเกดเป็นการส่วนตัว แต่ขออนุญาตวิเคราะห์กะมนเกดจากบทความที่เคยได้อ่านมาด้วยอคติส่วนตัวครับครับ

"เกด เป็นคนพูดจาโผงผาง ปากร้ายใจดี" "เกดมีเอกลักษณ์ของตัวเองคือเสียงหัวเราะที่ดังลั่นทุ่ง" "เกดจบชั้นมัธยม เรียนพาณิชย์ได้ไม่เท่าไรก็ต้องลาออกมาเรียน กศน" สามประโยคนี้ทำให้ผมสามารถวิเคราะห์ด้วยอคติได้ว่า กะมนเกด ไม่ใช่พยาบาลที่เรียบร้อยอ่อนหวานอย่างที่พยาบาลส่วนใหญ่เค้าเป็นกันอย่างที่เราๆท่านๆเคยเห็นหรอกครับ ผมว่าออกจะเป็นคนเกเรเสียด้วยซ้ำ กรุณาอย่าทำให้ภาพพจน์เธอดูเป็นนางฟ้าเลยครับ

มาถึงประโยคที่ผมรู้สึกสะอิดสะเอียนที่สุด และทำให้รู้สึกอคติกับกระบวนการสร้างภาพให้กะมนเกดอย่างรุนแรงก็คือประโยคนี้ครับ "บางครั้งมีนักเรียนแพทย์ผ่าเส้นเอ็นอะไรไม่เป็นก็มาให้เกดสอน" ผมอยากทราบจริงๆครับว่า นศพ คนใดที่ต้องให้กะมนเกดสอนผ่าเส้นเอ็น เพราะผมเชื่อลึกๆว่าในปีแรกๆของการเรียนแพทย์นั้น นศพ ทุกคนต้องผ่านการเรียนกายวิภาคศาสตร์มาแล้วไม่ว่าทั้งภาคทฤษฎีหรือภาคปฏิบัติ แล้วเหตุใด นศพ คนนั้นจึงต้องให้กะมนเกดผู้ซึ่งเป็นเพียงผู้ช่วยพยาบาลและผมเองก็เชื่ออยู่ลึกๆว่าเธอไม่เคยผ่านการเรียนวิชากายวิภาคศาสตร์มาอย่างแน่นอนมาสอนการผ่าเส้นเอ็นด้วยเล่า หากผมเป็นอาจารย์ของ นศพ ท่านนั้นจะขอเขกกระโหลกซักสองสามที และจะขออนุญาตตัดคะแนน anatomy ที่คุณเรียนผ่านมาแล้วด้วยในช่วงปีแรกๆครับ เรื่องเหล่านี้คนที่เรียนแพทย์หรือเรียนวิทยาศาสตร์น่าจะรู้ดีที่สุดครับ ไม่ใช้ผู้ช่วยพยาบาลอย่างกะมนเกดซึ่งไม่เคยร่ำเรียนวิชาทางสายแพทย์มาก่อนอย่างแน่นอน นี่เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กะมนเกดที่ผมรับไม่ได้อย่างมากครับ

ประโยคต่อมาคือประโยคที่ว่า "เกดมีฝันว่าต้องการไปสอบเป็ผู้ช่วยพยาบาลในกองทัพบก โดยประกาศเจตนาแน่วแน่ว่า ถ้าสอบติดจะลงไปปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้" ท่านจะเห็นว่ามันน่าชื่นชมใช้มั๊ยครับ แต่ผมก็ไม่เชื่อลมที่ออกจากปากแม่กะมนเกดหรอกครับ เกดตายไปแล้วจะพูดอะไรก็ได้ครับ จะพูดให้ดูดีกว่านี้ร้อยเท่าพันเท่าก็ได้ครับ "ถ้าเกดยังไม่ตายจะ ..." "เกดมีฝันว่า ..." "เกดตั้งใจจะ ..." จะพูดอะไรก็พูดได้ครับ สำหรับผมมันก็แค่การสร้างราคา สร้างมูลค่าให้การตายของกะมนเกด เพื่อให้การตายของลูกทำเงินให้แม่ให้ได้มากที่สุดครับ คุณเชื่อเหรอครับว่าหากเธอยังไม่ตาย แม่ของเธอจะยอมให้เธอลงไปสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขนาดไปอยู่แค่ในม็อบกบฏสีแดงแม่เธอยังไม่อยากให้ไปเลยครับ วิเคราะห์จากประโยคนี้ครับ "หลังจากเกดไปร่วมกับอาสาสมัคร เพื่อคอบปฐมพยาบาลกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงอย่างเต็มตัว เกดก็ไม่ค่อยรับโทรศัพท์ที่บ้านเพราะกลัวโดนตามตัวกลับ" ที่สามจังหวัดชายแดนมันโหดร้ายกว่าในม๊อบกบฏสีแดงหลายล้านเท่าครับ เห็นรึเปล่าครับว่ามันก็แค่การพูดเพื่อเพิ่มมูลค่าเท่านั้นเอง กะมนเกดยังไม่เคยแม้แต่จะเรียนผู้ช่วยพยาบาลด้วยซ้ำ และก็ยังไม่รู้เลยว่าจะสอบได้เป็นผู้ช่วยพยาบาลในกองทัพบกหรือเปล่า แต่ก็เอามาพูดสร้างมูลค่าซะใหญ่โต น่าสะอิดสะเอียนจริงๆครับ

อีกประโยคก็คือประโยคที่แม่เธอพูดเอาดีใส่ตัวที่ว่า "ดิฉันสอนลูกๆทั้งสามคนเสมอว่าครอบครัวเรามันจน มีทางเลือกน้อย หากเรียนจบแล้วมีงานทำก็ควรช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาสกว่า ช่วยเหลือได้ให้ช่วยเหลือ" แต่สิ่งที่ผมได้บริโภคจากสื่อนั้นกลับพบแต่เพียงความเห็นแก่ได้ของเธอ คิดแต่เพียงจะเรียกร้องค่าชดเชยให้ได้มากที่สุด หาได้เคยเห็นถึงความสำนึกในการเสียสละตามคำสอนของเธอไม่ ในใจลึกๆก็อยากถามเธอว่า บัดนี้เธอมั่งมีแล้วจากเงินเจ็ดล้านกว่าๆ เธอได้นำเงินเหล่านั้นช่วยเหลือใครบ้างหรือไม่ อย่างน้อยที่สุดก็ให้เป็นบุญกุศลแก่วิญญาณลูกของเธอก็ยังดีครับ ถ้ายังไม่เคยนำเงินเหล่านั้นไปช่วยเหลือใคร ประโยคนี้ก็แค่อีกประโยคที่สวยหรูใช้ในการเพิ่มมูลค่าการตายของลูกเธอครับ

กะมนเกดก็เป็นเพียงแค่คนเสื้อแดงคนหนึ่งครับ เหมือนคนเสื้อแดงทั่วๆไปที่โชคร้ายต้องมาเสียชีวิตขณะก่อกบฏ โดยที่ยังไม่ทราบเลยด้วยซ้ำว่าเป็นฝีมือใคร บางทีอาจจะเป็นฝีมือพวกเดียวกันเองก็ได้ครับ ซึ่งก็มีอีกหลายๆคนที่เราท่านๆจำชื่อคนเหล่านั้นไม่ได้ครับ เรามาร่วมกันทำชื่อ กะมนเกด ให้เลือนหายไป และไร้ซึ่งมูลค่าใดๆเช่นเดียวกับคนเสื้อแดงหลายๆคนที่เราจำชื่อไม่ได้กันเถอะครับ อย่าอุปโลกน์ให้เธอเป็นนางฟ้าเป็นพยาบาลผู้มาจิตใจเมตตาอารีเลยครับ เพราะผมเชื่ออยู่ลึกๆว่าคนที่อยู่ในหน่วยพยาบาลของเสื้อเหลืองก็ต้องเป็นคนเสื้อเหลืองที่มีแนวคิดมีอุดมการณ์เดียวกัน ในหน่วยพยาบาลในการชุมนุมของ เสธ อ้าย ก็ต้องเป็นคนของ เสธ อ้าย แล้วมันจะยกเว้นคนที่อยู่ในหน่วยพยาบาลของกบฏสีแดงไปได้อย่างไรเล่าครับ กะมนเกดก็แค่คนเสื้อแดงคนหนึ่ง กรุณาอย่าได้ให้ราคาเธอมากกว่านั้นเลยครับ เธอไม่ได้มีค่าอะไรมากมายขนาดที่แม่เธอพยายามทำให้เป็นครับ ถ้าเธอเป็นนางฟ้าจริง ก่อนนั้นเธอน่าจะมีประวัติเป็นอาสาสมัครพยาบาลในหน่วยพยาบาลของเสื้อเหลืองมาก่อนครับ เพราะนางฟ้าผู้มีจิตใจเมตตาอารีต้องไม่มีสีใดๆครับ

จากทั้งหมดที่ผมเขียนมา ผมไม่ให้ราคากะมนเกด มากเท่ากับที่แม่เธอพยายามทำให้เป็นครับ สำหรับผม เธอก็แค่คนเสื้อแดงทั่วๆไปที่โชคร้ายต้องมาเสียชีวิตขณะร่วมกันก่อการกบฏครับ

ผมขอขอบคุณหากเพื่อนสมาชิกได้อ่านข้อความของผมจนจบ และหากใครจะว่าอะไรผมเนื่องมาจากว่ารู้สึกขัดหูขัดตาในความคิดความอ่านของผม ก็ยินดีน้อมรับฟังความคิดเห็น หรือแม้แต่จะเป็นคำด่าว่าครับ เพราะผมคิดของผมอย่างนี้จริงๆว่ามันก็แค่การสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อเรียกร้องเงินชดเชยให้ได้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ของแม่กะมนเกดครับ สำหรับผม แม่กะมนเกดก็เป็นเพียง พยาธิ ครับ ชื่อนี้ผมไม้ได้โมเมเอามาลอยๆครับ เธอเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ผมผวนเอามาจากชื่อกับนามสกุลของเธอครับ พะยาด มาจาก พะยาด ... เฮา ซึ่งผวนมาจาก พะเยา ... ครับ ที่น่าแปลกก็คือ พฤติกรรมบางอย่างเธอคล้ายพยาธิเสียด้วยสิครับ 555


#508612 กระทู้นี้ตั้งขึ้นมาเพื่อขอบคุณ เสธ อ้าย ด้วยความคับแค้นใจอย่างหาที่สุดมิได้ขอ...

โดย onegaishimasu on 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 04:15

กระทู้นี้ผมตั้งขึ้นมาเพื่อขอบคุณ เสธ อ้าย สำหรับเหตุการณ์ในวันที่ 24 พย และในกระทู้เดียวกันนี้ ผมขออนุญาตพี่น้องชาวเสรีไทยในการระบายความอัดอั้นตันใจของตัวผมเองลงไปในคราวเดียวกันนี้เลย หลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่กล่าวถึงในกระทู้นี้ไม่ได้มีที่มาจากแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้ใดๆทั้งสิ้น ทุกๆอย่างถูกกล่าวขึ้นโดยอ้างอิงมาจากความรู้สึกของตัวผมล้วนๆ หากมีความไม่เหมาะสม หรือมีข้อผิดพลาดใดๆเกิดขึ้นในทุกตัวอักษรที่ผมได้พิมพ์ไป ผมขอความกรุณาพี่น้องชาวเสรีไทยช่วยชี้แนะ และผมจะทำการแก้ไขให้ถูกต้องตราบเท่าที่การแก้ไขนั้นจะไม่ขัดกับอุดมการณ์ในการเขียนของผมในครั้งนี้ครับ

ผมรอคอยวันที่ 24 พย นี้มายาวนานเหมือนกันครับ ในใจลึกๆอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นครับ แต่จนถึงตอนนี้แล้ว ก็ต้องพยายามทำใจยอมรับให้ได้ครับ ว่าเหตุการณ์วันนี้ เราแพ้ แต่อย่างไรก็ตาม ผมต้องขอขอบคุณ เสธอ้าย มากๆเลยนะครับ ที่กรุณาเสียสละตัวเองยอมอาสาเป็นผู้นำการชุมนุม ทั้งๆที่คนมีอายุอย่างท่านแถมยังมีอันจะกิน ไม่มีความจำเป็นอันใดเลยครับ ที่จะต้องเอาตัวเองมาตกเป็นเป้ามาเสี่ยงขนาดนี้ ท่านหยิบยื่นโอกาสให้พวกเรา แต่สุดท้ายแล้วพวกเราก็ไม่สามารถคว้าโอกาสนั้นไว้ได้ ถึงแม้พวกเราหลายคนจะพยายามไขว่คว้าโอกาสนั้นแล้วก็ตาม แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่าง สุดท้ายเราก็ไม่สามารถคว้ามันไว้ได้ วันนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆเกิดขึ้นครับ กำลังของพวกเราคงยังไม่มากพอจริงๆที่จะทำการใหญ่ขนาดนั้นได้ครับ ประโยคสุดท้ายของย่อหน้านี้ ผมขอขอบคุณ เสธ อ้าย ครับ

ถึงแม้ว่าวันนี้เราจะแพ้ แต่การแพ้ในวันนี้มันก็ไม่ได้เลวร้ายไปเสียทั้งหมดหรอกครับ อย่างน้อยก็มีอะไรให้เราได้เรียนรู้หลายๆอย่างครับ ถ้าหากมีใครซักคนยอมเสียสละหยิบยื่นโอกาสให้พวกเราแบบ เสธ อ้าย ได้ทำอีกในภายภาคหน้า หวังในใจลึกๆว่าในวันนั้นเราคงจะไม่พลาดโอกาสเหมือนอย่างวันนี้อีก และการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีคงจะได้เกิดขึ้นครับ

ผมเองมีนิสัยเสียอยู่อย่างนึงครับ มักจะอดใจไม่ค่อยได้ที่จะต้องไปแอบอ่านในพันทิป ราชดำเนิน อ่านทุกทีก็ต้องมานั่งเจ็บใจทุกทีครับ ที่ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่าการแอบอ่าน เพราะชีวิตนี้เคยมีก็เพียงแค่บัตรผ่านครับ แต่อย่างน้อยผมก็เคยได้รับเกียรติปะทะคารมกับเสื้อแดงราชดำเนินในโต๊ะข่าวถึงขนาดที่ว่า แดงบักโกรก กับแดงนพละครลิง ต้องไปตั้งกระทู้ในห้องราชดำเนินถึงสามกระทู้ เพื่อลากเสื้อแดงออกจากราชดำเนินมารุมผมในโต๊ะข่าวตามกระทู้นี้ครับ http://topicstock.pa.../P11834374.html ที่เหลือก็มีปะทะกับพวกแดงเหลือขอบ้างประปรายครับ ไม่รู้ว่าแดงพวกนี้หมายหัวผมไว้กี่คนครับ แต่ที่แน่ๆผมหมายหัวพวกมันไว้หลายคนครับ จำชื่อไว้ขึ้นใจหมดแล้วด้วยครับ ถ้ามีพวกแดงราชดำเนินแอบมาอ่านแถวนี้ อย่าลืมคาบข่าวไปบอกลูกพี่ นพละครลิง ด้วยนะครับว่าผมรังเกียจแดงราชดำเนินมากกก

พวกเสื้อแดงมันชอบคิดว่าพวกมันคือประชาธิปไตยครับ พวกมันคือเสียงส่วนใหญ่อยากทำอะไรก็ได้ เวลาพวกมันทำอะไรจึงไม่ค่อยเกรงใจใครไงครับ เอะอะก็อ้างสิบห้าล้าน อย่างหน้าด้านๆครับ เพราะฉะนั้นให้ตายอย่างไรเสีย เราก็ไม่มีทางสู้พวกมันได้หรอกครับ เว้นเสียแต่ว่าเราจะต้องยอม หน้าด้าน กว่ามันครับ ตราบใดที่เรายังหน้าด้านกว่ามันไม่ได้ เราก็ไม่มีทางสู้มันได้หรอกครับ สิ่งเหล่านี้ผมเรียนรู้และอ้างอิงมาจากประสบการณืชีวิตที่ผ่านๆมาของผมเองครับ อาจมีพี่น้องเสรีไทยหลายท่านไม่เห็นด้วย แต่อย่างไรเสีย ผมก็ยังคงเชื่อว่า ถ้าเราจะต้องต่อสู้กับคนหน้าด้าน เราจะต้องหน้าด้านกว่าครับ

ถ้าเราจะต้องไปตีพวกเสื้อแดง แล้วมันเกิดหาว่าเราไม่เป็นประชาธิปไตย เราต้องอย่าไปสนใจครับ ต้องหน้าด้านเข้าไว้อย่าไปสนใจประชาธิปไตยของมัน เพราะมันดันมาหน้าด้านก่อนครับ หน้าด้านว่าพวกมันเป็นประชาธิปไตยครับ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ว่าประชาธิปไตยอะไรของมัน ที่อนุญาตให้พวกที่ได้รับการไว้วางใจจากเสียงส่วนใหญ่ของพวกมันในการเลือกตั้งเพียงแค่ครั้งเดียว มีความชอบธรรมในการทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องสนใจผิดชอบชั่วดี นี่เหรอครับประชาธิปไตยแบบหน้าด้านๆของพวกมัน เราก็จะต้องหน้าด้านกว่ามันให้ได้ครับถึงจะสู้พวกมันได้ ต้องหน้าด้านยอมรับความไม่เป็นประชาธิปไตยที่กล่าวหาโดยพวกมันครับ ถ้ามัวแต่อายกลัวไม่เป็นประชาธิปไตย แล้วเราจะชนะพวกมันได้อย่างไรเล่าครับ

พวกมันชอบอ้างโน่นอ้างนี่ พอเราอ้างบ้างมันจะถามหาหลักฐานครับ แต่ถ้ามันจะหาหลักฐานจากกระทู้นี้ บอกเลยครับ มันเหนื่อยเปล่า หาหลักฐานให้ตายก็หาไม่ได้หรอกครับ ผมอ้างอิงมาจากความรู้สึกผมล้วนๆ

มันชอบบอกว่านานาชาติให้การยอมรับผู้นำที่พวกมันเลือกมากับมือเป็นอย่างดี ก็แน่ล่ะครับ โดยลึกๆแล้ว แต่ละชาติก็เห็นชาติอื่นๆเป็นคู่แข่งอยู่แล้ว ไม่มีใครหวังดีกับเราจริงๆหรอกครับ ที่อยู่กันได้ก็ด้วยผลประโยชน์ทั้งนั้น อันนี้ผมก็คิดเองนะครับ นานาชาติมันจะไม่ชอบผู้นำเราได้ไงล่ะครับ พวกมันไม่ต้องมาเหนื่อย ไม่ต้องมาแข่งขัน ไม่ต้องมานั่งระแวง ผู้นำที่แสนจะไม่เก่งของเราครับ มันมีแต่จะช่วยสนับสนุนผู้นำของเราให้ได้อยู่นานๆครับ ไม่เก่งแบบนี้ เอาเปรียบง่ายดีครับ ลองเป็น อะพิสิด เป็น กอน ดิครับ พวกนี้ระดับโลกครับ มหาวิทยาลัยระดับออกซ์เฟิร์ดให้การยอมรับ คงไม่ธรรมดากระมังครับ ซึ่งก็แน่นอนครับ พอสองคนนี้ได้ขึ้นนมาเป็นผู้นำ ต่างชาติก็ย่อมที่จะต้องยินดีน้อยกว่าเป็นธรรมดาครับ เด็กสองคนนี้มันไม่ธรรมดา ฝีมือมันดีครับ ต่างชาติเอาเปรียบยาก ควบคุมยาก ฉะนั้นต่างชาติชอบ อะพิสิด ชอบ กอน น้อยกว่า ผมว่าไม่แปลก และพอที่จะเข้าใจได้ครับว่าทำไมถึงเป็นไปอย่างนั้น

มีอยู่เพียงที่เดียวในโลกเบี้ยวๆใบนี้ครับที่ อะพิสิด กับ กอน จะกลายเป็นเด็กอมมือ กระจอกงอกง่อย คือที่ พันทิป ราชดำเนิน ครับ ส่วนที่พิกัดอื่นๆ ไม่มีทางได้กินสองคนนี้ครับ ผมยืนยันและอ้างอิงมาจากความรู้สึกของผมอีกแล้วครับ

ขออนุญาตคาดหวังให้มีผู้กล้าอย่าง เสธ อ้าย มาหยิบยื่นโอกาสให้พวกเราอีกครั้งในเร็วๆนี้ด้วยเถอะครับ หากปล่อยไว้นานกว่านี้ ประเทศเราโดนสูบเลือดสูบเนื้อไปเสียจนหมดสิ้น จะสิบ อะพิสิด สิบ กอน ก็ยากที่จะเยียวยาประเทศเราให้กลับเป็นเหมือนเดิมได้ครับ เท่าที่ฟังเขาเล่ามาปากต่อปาก อย่าได้ถามหาหลักฐานเลยนะครับ ผอ โรงพยาบาลชุมชนของรัฐแห่งหนึ่งใน จ ฐานเสียงของพรรคผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาลได้เล่าให้ฟังว่า ตอนนี้ รัฐได้หยุดจ่ายเบี้ยเลี้ยงแพทย์แล้ว ส่วนเงินเดือนพยาบาลที่ไม่ได้บรรจุ ให้ รพ หามาจ่ายเองครับ เนื่องมาจากรัฐกำลังประสบปัญหาทางการเงิน แล้ว รพ จะหาที่ไหนมาจ่ายครับ ลำพัง ระบบสามสิบบาท ก็ทำ รพ เป็นหนี้ท่วมหัวต้องรับงานนอกหาเงินกันตัวเป็นเกลียวอยู่แล้ว แพทย์ พยาบาล เขาก็ต้องกินต้องใช้ครับ เมื่อรายได้ไม่เพียงพอ เขาก็ต้องลาออกจากโรงพยาบาลรัฐไปทำงานเอกชน เราก็ต้องยอมรับให้ได้ครับ แล้วเมื่อคนจนๆเจ็บไข้ได้ป่วยจะไปรับการรักษาจากใครเล่าครับ โดยเฉพาะชาวนาที่ยังต้องพึ่งพาการรักษาในราคาเอื้ออาทรจาก รพ ชุมชนอยู่ โครงการจำนำข้าวที่ชาวนาอย่างท่านได้ประโยชน์ทั่วถึงบ้างไม่ทั่วถึงบ้างกำลังจะพ่นพิษใส่ท่านแล้วนะครับ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม เพราะอย่างน้อยที่สุดมันทำให้ รพ ชุมชนแห่งหนึ่งที่ดูแลพวกท่านยามเจ็บป่วยกำลังจะเจ๊งครับ

ท้ายสุดของกระทู้นี้ ขอรื้อฟื้นอดีตนิดนึงนะครับ พวกเสื้อแดงกรุณาอย่าได้ถามอีกเลยครับว่าถ้าแช่แข็งนักการเมืองล็อตนี้แล้วจะเอาคนดีจากที่ใดมาเป็นนายก เพราะทีพวกเอ็งไม่เอา ท่าน พวกข้ายังไม่ถามเลยครับว่า พวกเอ็งจะเอาใครมาแทน ท่าน จะเอาไอ้เหลี่ยมรึ!!!

ขออภัยพี่น้องเสรีไทยด้วยนะครับที่ตั้งกระทู้เสียยาวยืด และก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาอ่านจนจบ แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้ประเทืองปัญญาท่านซักเท่าไหร่ก็ตาม

ถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ขอให้เราชนะประชาธิปไตยปลอมๆในเร็ววันนี้ด้วยเถอะครับ

ขอบคุณ เสธ อ้าย ขอบคุณ พี่น้องที่ไปร่วมชุมนุม และขอบคุณพี่น้องเสรีไทยทุกคนครับ


#319727 วาทะกรรมกลวงๆ "เผาบ้านเผาเมือง" ที่ใช้ไว้หลอกเมามอม "กระบือบื้อ...

โดย onegaishimasu on 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 21:28

นพละครลิง นี่ไม่ต้องพูดถึงเรื่องความฉลาดน้อยของเธอครับ
เธอเคยเถียงกะผมซึ่งเป็นแค่บัตรผ่านในโต๊ะข่าวพันทิป แต่ด้วยอะไรก็แล้วแต่ เธอสู้ไม่ได้ครับ ถึงกับไปตั้งกระทู้ในราชดำเนินถึงสองกระทู้ เพื่อให้ควายราชดำเนินออกมารุมกินโต๊ะครับ
แถมไอ้บักโกรกโบกกรักอีกตัว ไปตั้งอีกหนึ่งกระทู้ เพื่อลากควายมารุมผม
สุดท้ายโดนไปสามกระทู้ แต่ก็พอเอาตัวรอดครับ

ผมแอบอ่านมานาน เกลียดพวกนี้ไม่รู้จะเกลียดยังไงครับ