Jump to content


Siren

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 6 มิถุนายน 2555
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2557 08:28
*****

#348411 สองเพื่อชีวิต.. ระหว่าง หงา คาราวาน. และ วิสา คัญทัพ.

โดย metaleka on 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 09:19

Posted Image


#346355 หลังจากพบประธานาธิบดี, นายกฯ และรมต.ต่างประเทศฝรั่งเศสในกรุงปารีส สื่อฝรั่งเศ...

โดย missing_u on 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 12:48

จากข่าวนี้ครับ http://www.worldcrun...year-later/5904


In Paris, after meeting with President François Hollande, Prime Minister Jean-Marc Ayrault and Foreign Minister Laurent Fabius to extol Thailand’s virtues, what will she do? With one last, big smile, she says: “Shopping!”



ให้ตายเถอะ ตั้งแต่เธอเป็นนายกมา ข่าวนี้ทำให้ผมฮามากที่สุดแล้ว :lol:


#341404 กัปตัน TG-491 คุณสุดยอดครับ ได้ใจผม

โดย เด็กปากดี on 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 19:14

Posted Image


เลขาเครือข่ายต้านการทุจริตคอรัปชั่น ระบุ ตม. อำนวยความสะดวกให้ หญิงแก่ เตะ พระบรมฉายาลักษณ์ ขึ้นเครืองเผ่นนิวซีแลนด์ แต่กัปตันปฏิเสธไล่ลงจากเครื่อง

นายมงคลกิตติ์ สุขสิตธารานนท์ เลขาธิการภาคเครือข่ายต้านการ ทุจริตคอร์รัปชั่นแห่งชาติ เปิดเผยกับ รายการร้อยข่าวยามเย็น ทางบลูสกายแชนนอล ระบุว่านางฐิตินันท์ แก้วจันทรานนท์ ผู้กระทำการมิบังควรต่อพระบรมฉายาลักษณ์ ได้เดินทางขึ้นเครื่องบิน TG491 เพื่อเดินทางไปนิวซีแลนด์แล้ว โดยตม.เป็นผู้อารักขาให้ขึ้นเครื่องโดยใช้ช่องทางพิเศษ ขณะที่กัปตันปฏิเสธการบิน และไล่นางฐิตินันท์ ลงจากเครื่องแล้ว

https://www.facebook...hakSanam?ref=ts


#341158 สำนักข่าวอิศราทำงานดีกว่าประชาธิปัตย์เสียอีก

โดย amplepoor on 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 16:08

พรรคฝ่ายค้าน ต้องตรวจสอบรัฐบาล

ในแง่นี้ผมค่อนข้างผิดหวังปชป.
รัฐบาลยิ่งลักษณ์ทำประเทศล่มจมไปไม่รู้เท่าไรแล้ว
ทำไม ปชป. ไม่สามารถแสดงข้อมูลชี้ชัดออกมาได้เลย
วอร์รูมที่มีควรยุบทิ้งได้แล้ว

สำนักข่าวเล็กๆ อย่าง
สำนักข่าวอิศรา
http://www.isranews.org/
http://www.isranews....y-analysis.html
http://www.facebook....146799708705878

ยังทำงานตรวจสอบได้ดีเสียกว่า


#334616 ทางรร.ไม่มีนโยบายให้เด็กใช้แทบเลตในการเรียนการสอน จึงขอไม่รับแทบเลตฟรี ???

โดย redfrog53 on 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 09:18

Alongod Uabhaibool @bookbig
ที่ รร.วัฒนาวิทยาลัย ผอ.ออกจดหมายแจ้งเลยว่า ทางรร.ไม่มีนโยบายให้เด็กใช้แทบเลตในการเรียนการสอนจึงขอไม่รับแทบเลตฟรี #ถูกใจ


No Comment.


#330026 เหตุผลที่คุณสนับสนุนพรรคการเมืองนั้นๆ คืออะไร ?

โดย จูกัดขงเบ้ง on 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 18:52

สำหรับผม
พรรคการเมืองที่ผมเลือก ต้องรู้จักที่จะทำเพื่อประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง
คืออย่างน้อยต้องมั่นใจว่า มือสะอาด และ เป็นมืออาชีพ
อีกอย่างหนึ่งที่ตอนนี้ ผมต้องการมากๆ คือ เป็นตัวแทนของเราจริงๆ ไปสู้ไปรบให้เราได้

ผมเลือก ปชป. มาตลอด

แต่สุดท้ายผิดหวัง มากที่สุด ก็ตอนที่เผาบ้านเผาเมืองนั่นแหละ
ปี 52 พวกเสื้อแดงออกมาแล้วรอบนึง ตอนนั้นไม่มีชุดดำ ผมไม่รู้ว่าตายกี่คน
ทหารสลายได้สวยมาก ยิงปืนขึ้นฟ้า บีบพื้นทีจนถึง จุดเวทีชุมนุม แล้ว ล้อมไว้เฉยๆ
เกลี้ยกล่อมจนเวทีต้องประกาศยุติการชุมนุมเอง
ปี 53 ก็อย่างที่เห็น
สิ่งทีปชป.สู้ไม่ได้เลย คือ การสื่อสาร
แถมบางที ก็สะดุดเท้าตัวเองด้วยซ้ำ

ผมถามง่ายๆ
เสื้อแดง น่ะ ทั้งเผาบ้านเผาเมือง ทั้งยิงทหารตาย ทั้งไล่ยิงไล่ทำร้ายคนบริสุทธิ์ สารพัดจะชั่วในปี 53
พวกเราเห็นแล้วยังเกลียดมันเข้าไส้
แปลกไหมล่ะ ที่พรรคเพื่อไทยยังชนะการเลือกตั้ง เข้ามาได้อีก ตั้ง 15 ล้านเสียงสนับสนุน
ปชป. วิเคราะห์ว่า สาเหตุที่ตัวเองแพ้ เพราะ แป๊ะแก่ๆไปกล่อมชาวบ้านให้ "โวตโน"

แต่ผมเองยังเชื่อมั่นว่า
เพราะ ปชป. กลัวมากเกินไป
กลัวคนด่า กลัวคนติ กลัวถูกฟ้องร้อง ก็เลยไม่กล้าทำอะไร
มีอำนาจ แต่ดันปล่อยให้มีวิทยุชุมชน ด่าสถาบัน ออกกันอยู่ตลอด
สมัยทักษิณ เขาจะมีปล่อยสัญญาณรบกวน หรือ ปล่อยสัญญาณที่เป็นคลื่นความถี่เดียวกัน
อัดสัญญาณให้แรงกว่า เพื่อบี้สัญญาณของฝ่าย ปชป
มีอำนาจ แต่ ปล่อยให้เวปเสื้อแดงบานเป็นดอกเห็ด
สมัยทักษิณ ก็เหมือนเวปประชาไทสมัยนี้
เขาเรียก ยิงนุก ยิงให้เวปล่มเป็นระยระยะ เท่านี้คนก็เบื่อเข้าเวปแล้ว
หลายๆอย่าง ที่ต้องรบนอกแบบ
ปชป. ไปไม่เป็น ปชป.ต้องไม่มีใครมาด่าได้ ไม่มีใครมาฟ้องทีหลังได้
ผมเห็น ตอนชูวิทย์เปิดเผยเรื่องบ่อน
มันต่อเนื่องมาจาก ปชป. แต่ปชป. กลับไปบอกว่า เป็นเรื่องของตำรวจ คือมันไม่พ้นคอ
ที่จริงแล้ว ถ้าปชป.เล่นว่า นักการเมืองฝ่ายเพื่อไทยหรือฝ่ายรัฐบาลนั่นแหละที่หากินกับบ่อน
ก็ช่วยรักษาภาพลักษณ์ ปชป.ได้มากแล้ว แต่ไม่ทำ ปล่อยให้คนรู้สึกกันไปว่า ปชป.ปล่อยให้มีบ่อน
จะไปยากอะไร แค่ขุดคุ้ยเรื่องราวขึ้นมาฟ้องศาล หรือ อภิปรายในสภาก็ได้
นี่ก็ไม่ทำอะไร

หลายๆเรื่อง โดยเฉพาะน้ำมัน กับ แก๊ส ที่เป็นจุดตายเลย แต่ก็เงียบ
เรื่อง รันเวย์สุวรรณภูมิ ก็เงียบ
เรื่องน้ำท่วม เพราะ กั้นไม่ให้น้ำไปทางฟลัดเวย์ ก็เงียบ
ก็ไม่ทำอะไรอย่างนี้
แล้วก็ไปโทษว่า "โวตโน"
ถามจริงๆเถอะว่า จะพัฒนาอะไรขึ้นมาได้บ้าง

เอาง่ายๆ
แค่ประชาธิปัตย์ เปิดเผยชื่อย่อคนสั่งฆ่าสนธิออกมา พร้อมกระพือข่าวตอนนั้น
เสื้อเหลืองส่วนใหญ่ก็เทคะแนนมาตรึมแล้ว
ไม่ต้องไปทะเลาะเบาะแว้งกับฐานเสียงเลย
คือ
เล่นไม่เป็นน่ะ คิดแต่จะเถียง จะใช้โวหารด่าทอกันเพื่อให้ตัวเองชนะ
แล้วเป็นไง
ไอ้โอ๊คมันดังไปเลย


#333021 ทักษิณพลาดครั้งใหญ่ ....คดีเล็กๆ ที่จะล้มอนาคตตัวเอง

โดย ศรอรชุน on 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 23:40


ถ้าศาลตัดสินให้อภิสิทธิ์ชนะ ไม่ได้สั่งฆ่าประชาชน ไอ้ตู่เป็นคนตอแหล
แกนนำเสื้อแดงพูดกล่าวหาอภิสิทธิ์ว่าฆ่าประชาชนไม่ได้
เหมือนแกนนำเสื้อแดงโดนอภิสิทธิ์ เอาตรีนยัดปากไว้ยังไงก็ไม่รู้น่ะ


แย้งท่านนิดนึง

เรื่องนี้ เขาไปฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศแล้วมิใช่รึ

ผมก็ยังคิดไม่ออกว่า ถ้าศาลในประเทศตัดสินอย่างที่ท่านว่านี้จริง

แต่ศาลอาญาฯ ตัดสินอีกอย่างหนึ่ง..อะไรจะเกิดขึ้น

ใครจะเชือใคร ใครจะเชื่อศาลใด..

จะต้องมาเถียงกันอีกหรือไม่ ว่าศาลใดน่าเชื่อถือกว่ากัน !


555++

มาพนันกันพอขำๆไหมครับคุณปลายอ้อ

จะเอาตั้งกระทู้ด่าตัวเอง หรือเลิกเล่นบอร์ดซักเดือน
หรือทิ้งล็อคอิน กันไปเลยก็ได้

ผมว่านางยกปู ไม่รับรองเขตอำนาจศาลหรอก
หรือศาลอาญาระหว่างประเทศไม่ได้ตัดสินหรอกคดีนี้น่ะ

เหตุผลคือทักษิณกลัวความจริง ทั้งคดีก่อการร้าย
ฆ่าตัดตอน และอีกหลายคดี คนตายไปไม่ใช่น้อย 555++
ฝีมือแม้วล้วนๆ
ลองเอาไปคิดดูครับ แค่ฆ่าตัดตอน เฉพาะผู้ว่า กับตำรวจที่รับงานไปยิงคนทิ้ง
มีเป็นร้อย จะรู้ได้ไงว่าใครจะปากโป้งบ้าง... 555++



#332760 ทักษิณพลาดครั้งใหญ่ ....คดีเล็กๆ ที่จะล้มอนาคตตัวเอง

โดย amplepoor on 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 20:01

ผมฉุกคิดประเด็นนี้เมื่ออ่านข่าวสุเทพให้การเป็นพยาน
สุเทพให้การค่อนข้างหนักหน่วง เพื่อจะชี้ว่า จตุพรใส่ความ
คำให้การนั้น ทำให้ทนายจตุพร ต้องร้องว่า

นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของ นายจตุพร จำเลย กล่าวว่า ประเด็นที่นายสุเทพ เบิกความนั้น ยอมรับว่าเป็นข้อมูลที่ขัดแย้งกับฝั่งคนเสื้อแดง ซึ่งยังไม่มีข้อยุติที่ยังต้องต่อสู้กันด้วยข้อเท็จจริง ส่วนนายจตุพร ที่จะต้องมาเบิกความเป็นพยานจำเลยนั้น ยังไม่ได้กำหนดวันว่าจะเดินทางมาขึ้นศาลเมื่อใด เนื่องจากอยู่ระหว่างการจัดเตรียมเอกสารราชการที่จะใช้สู้คดี ที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ โดยฝ่ายจำเลยได้เตรียมพยานบุคคลที่จะเบิกความประมาณ 10-15 ปาก

ประโยคทองคืออันนี้ครับ
ยอมรับว่าเป็นข้อมูลที่ขัดแย้งกับฝั่งคนเสื้อแดง ซึ่งยังไม่มีข้อยุติที่ยังต้องต่อสู้กันด้วยข้อเท็จจริง
ถ้าสู้ในแนวนี้ ก็ปิดบัญชีล่วงหน้าได้ เพราะสุเทพเป็นผู้อำนวยการศอฉ. เอกสารครบมืออยู่แล้ว
ในขณะที่จตุพรเป็นพวกข้างถนน ใช้ปากพาคนไปตาย......การเข้าถึงหลักฐานที่จะชนะคดี เท่ากับศูนย์
แต่เจือกจะสู้คดี มิ หนำซ้ำพาเพื่อนมาอีก 15 คน ต่อให้พามาอีก 500 คน ก็เป็นพยานบอกเล่า
ไม่สามารถพิสูจน์ว่า อภิสิทธิ์สั่งฆ่ามวลชนได้แน่นอน

เมื่อศาลมีคำพิพากษา สมมติว่าจตุพรผิด ก็แปลว่าหลักฐานทางสุเทพ ผ่านการรับรองของศาลโดยปริยาย
จคุพรจะต้องไปหาคำสั่งที่เป็นลายลักษณ์อักษรออกมาให้ได้ว่า

นายกรัฐมนตรีที่ชื่ออภิสิทธิ์ ออกคำสั่งให้ฆ่าผู้ชุมนุม
หลักฐานดีสุดของงจตุพร คือเทปเสียง ก็เพิ่งโดนประกาศไปแล้วว่าตัดต่อ
กระดาษใบคำสั่งต่างๆ ที่เสื้อแดงภูมิใจนัก
เราก็เห็นแล้วว่า มันเสริมให้แน่ชัดว่ารัฐบาลเดินไปตามหลักการอย่างถูกต้อง

วันนี้ สุเทพยังให้ตัวเลขล่าสุดว่า ทหารตายไป 9 นาย

ผมจึงชวนพวกเรามาจับตาคดีนี้
คดีเล็กๆ ที่จตุพรใช้ทนายจากใหนก็ไม่รู้ นายวิญญัติ ชาติมนตรี
เริ่มต้นก็ขอเลื่อนศาล บอกว่าจตุพรปากเน่า...ฮา นี่มันอาการของคนประมาทโดยแท้

Posted Image


#331577 ถลกหนัง HERE

โดย amplepoor on 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 23:20

ประเด็นที่ส. จะด่าร.5 เรื่องปราบปรามประชาชนนั้น
ถ้าท่านแม่นข้อมูลจริง เที่ยงธรรมจริง ท่านควรจะยกตัวอย่างมาเลย ตรงๆ
เช่น เรื่องที่รัชกาลที่สามให้เจ้าพระยาบดินทร์ เผาเมืองเวียงจันทร์ เอาเกลือต้มน้ำร้อนราดทั้งเมืองไม่ให้เพาะปลูกได้ นี่เป็นเรื่องที่มีบันทึกไว้ และเป็นเรื่องที่ทำกันเกินไป แม้แต่พม่าก็ยังไม่ทำกับเราถึงเพียงนี้ เสียดายที่เป็นเรื่องในรัชกาลที่ไม่ใช่ 5 ท่านก็เลยเอามาโจมตีไม่ได้

ทีนี้มาที่การทหารในรัชกาลที่ 5 ถ้าท่านจะตำหนิ จะวิจารณ์เพื่อสร้างคำวินิจฉัยทางจริยธรรมแก่เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ว่าชาติเรา เคยกระทำกับพลเมืองของตัวเองไว้อย่างน่าละอายเพียงใด ท่านต้องเอา"ความจริง"มาเล่า
ไม่ใช่เอาคำเล่าลือมาเสี้ยม

ท่านสุลักษณ์นี่ถือว่าเป็นผู้ใหญ่ที่ใช้ไม่ได้จริงๆในเรื่องคุณธรรมของผู้ใหญ่
วันก่อนท่านบอกว่าเป็นผู้ใหญ่ เป็นรัฐบาลควรจะอ่อนน้อมถ่อมตน แต่ตัวท่านกลับทำในสิ่งที่ย้ำลายตัวเองพ่นออกมาไม่ได้
ไม่ใช่ถ้อยคำรุนแรงดอก ที่ผมหมายถึง ภาษาส่อชาติตระกูล ท่านเป็นลูกเจ๊กกระดุมพี จะหวังภาษาสวยงามจากท่านั้น ผมไม่หวัง แม้ว่าท่านพยายามดัดจริตใช้มาตั้งห้าสิบปี น้ำคำของท่านก็ยังเป็นของปลอม เป็นคำที่เสแสร้งจะให้ลุ่มลึกอยู่ดี
ความเป็นผู้ใหญ่ที่ใช้ไม่ได้ของท่านสุลักษณ์นั้น อยู่ที่กมลสันดานอันเป็นคนโฉด คือโฉดในการสร้างความเท็จ แพร่ความเท็จ และซ้ำความเท็จลงไปในความเท็จของตนเอง

กองกำลังของรัชกาลที่ 5 นั้น ถ้าท่านศึกษาประวัติศาสตร์จริง ท่านจะต้องรู้สึกทึ่ง
เพราะมีแต่ผู้นำอัจฉริยะเท่านั้น ที่สามารถแปลงไพร่ในสังกัดมูลนายให้กลายเป็นพลเมืองของชาติได้ด้วยวิธีเกณฑ์ทหาร
แล้วอัจฉริยะอย่างนี้หรือ จะต้องเข่นฆ่าพลเมืองตัวเอง เพื่อดำรงอำนาจไว้ ถ้าจะมีก็มีแต่อัจฉริยะสุลักษณ์แหละ ที่ใช้ความถ่อยเถื่อนเอาใจสาวกให้คิดว่าตัวเองหาญกล้า

เป็นการเอาหนังลามาหุ้มให้ไก่มันกลัวนึกว่าหมา....เอ ผมใช้คำพังเพยถูกป่าวหว่า.....

การสร้างกองกำลังของรัชกาลที่ 5 นั้น เป็นตัวอย่างที่น่ายกย่องที่สุดของประวัติศาสตร์โลกสมัยใหม่
เป็นการกระทำที่อาจจะเรียกเป็นภาษาฝรั้งว่า from servdom to citizenship หึหึ อันนี้อวดใช้ภาษาต่างดาวสักหน่อย เท่ดี
อเมริกาใช้วิธีเอาทาสมาเป็นทหาร สู้รบเพื่อรอดออกมาเป็นไท แต่เราไม่ต้องสู้รบ เราก็เปลี่ยนไพร่เป็นพลเมืองได้

ที่จริงกองกำลังชนิดนี้ เป็นของใหม่เอี่ยมที่กำเนิดจากรัชกาลที่ 4 ไม่ใช่ว่าพระราชาหนุ่มจะต้องไปดูแบบอย่างที่อินเดียเลย แต่เพราะสุลักษณ์โง่ประวัติศาสตร์ ทะนงตนว่าเหนือกว่าผู้อื่น ซึ่งอาจจะจริงเพราะรอบตัวสุลักษณ์มีแต่คนโง่ทั้งนั้น
คนฉลาดที่ใหนจะไปสมสู่กับปราชญ์ปลอมๆ อย่างสุลักษณ์ล่ะ

สุลักษณ์คิดว่าตัวเองเฉลียวฉลาดที่ยกเรื่องประพาสอินเดียมาใช้ประโยชน์ได้ แต่สุลักษณ์คงลืมไปว่า เอาคนอย่างบุรุษแซ่เซียวไปเทียบกับพระจอมเกล้า
ก็เหมือนเอาหิ่งห้อยเพิ่งหัดเบ่งก้นไปเทียบกับแสงสุรีย์ยามเที่ยงวัน

ร. 4 ท่านอ่านหนังสือพิมพ์ฝรั่งมาตั้งแต่เป็นเจ้าอาวาสวัดบวร เป็นที่ปรึกษาด้านการต่างประเทศตั้งแต่หม่อมไกรสรถูกสำเร็จโทษ ท่านจึงรู้ว่าเอาทหารพม่าชั้นยอด ไปรำดาบรำทวนให้ทหารอังกฤษมันยิงทิ้งน่ะ ไปหมื่นก็ตายหมื่น พม่าถูกทหารอังกฤษแค่หยิบมือบนเรือรบ แล่นทวนน้ำไปปิดล้อมพระาชวังโดยไพร่พลนับหมื่นนับแสนไม่อาจทำอะไรได้

พม่าเสียเมืองทำให้สยามได้สติ ร. 4 จึงทรงสร้างกองกำลังสมัยใหม่ขึ้นมา จนแม้แต่ลูกท่านสิบกว่าขวบ ท่านยังเอามาหัดทหาร ท่านสั่งนายร้อยอังกฤษเข้ามา ให้น้องชายท่านสร้างกองกำลังขึ้น และเริ่มดึงอำนาจในการควบคุมกลับมาจากตระกูลบุนนาค เอามาให้ลูกเลี้ยงท่านดูแล เป็นทหารประจำการสมัยใหม่ และได้นำออกใช้งานครั้งแรก ทันต้อนรับเซอร์จอนเบาริ่งเสียด้วย

ทั้งหมดนี้ เกิดเมื่อร. 5 ท่านพระชนม์ยังไม่ถึง 10 ขวบ......ไม่เห็นต้องไปเรียนรู้จากอังกฤษอะไรอย่างที่อวดฉลาดสอนสาวกเลย

(เดี๋ยวมาต่อ เม้นท์ชุดนี้ยาว และผมจะไม่่พูดเลยรัชกาลที่ 5 อีกด้วย
ต้องค้นเรื่องแยะหน่อย ทำงัยได้ HERE มันตัวใหญ่เหลือเกิน)


#329767 ถลกหนัง HERE

โดย amplepoor on 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 14:40

2 เรื่องเอาที่ดินทำวนา(ส. คงจะใช้คำนี้นะ วนา แปลว่าสวน วันนาข้าพเจ้าแปลไม่ออก) ผมว่าที่ฝ่ายคริสต์จะทำโรงพยาบาลนั้น เหมาะสมกว่าทำสวนมากมายนัก
แถวนั้นไกล้แม่น้ำ ถือว่าเป็นพื้นที่สีเขียวที่ดีพอสมควร แล้วโดยมาตรฐานคริสต์เตียน เขารักษาสิ่งแวดล้อมดีกว่าวัดพุทธในเขตเมืองเสียอีก
เชื่อว่าโรงพบาบาลที่สร้าง จะเขียวพอสำหรับเมืองตามอัตภาพ ท่านควรจะเรียกร้องให้รื้อวัดพุทธคอนกรีตทำเป็นสวนจะดีกว่า จริงใหม

3 เรื่องทวงสิทธิตั้งแต่สมัยล่าอาณานิคม อันนี้ผมว่าท่านเลอะแล้วละ เรื่องผ่านมาจนปราศจากผลกระทบต่อปัจจุบัน ท่านยังจะเสี้ยมให้เกิดความร้าวฉาน นี่มันสันดานบ่างแท้ๆ
อีกอย่าง ท่านเองก็คุ้นเคยกับฝ่ายคริสเตียนดี น่าจะรู้ว่า นอกจากพวกที่หากินกับผรั่งแบบโคตรเง่าของท่าน ที่ขูดรีดสยาม คริสต์ทั่วไปนั้นไม่ได้เลวเหมือนท่าน
ไม่ได้อวดชุบตัวว่ามาจากนอกแล้วมาดูถูกคนไร้โอกาส คริสต์ที่สีลม บางรัก ยานนาวาไปถึงบางคอแหลม กลมกลืนสนิทสนมกับไทยและชาติอื่นๆ
ไม่เคยเกิดเหตุกระทบกระทั่งกันเลย ทั้งๆ ที่แถบนั้นมีกันอยู่เป็นสิบเชื้อชาติ ไม่เหมือนเจ๊กที่เป็นโคตรเง่าของท่าน ที่ก่อความไม่สงบเป็นนิจ
ไม่พอใจอะไรก็ระดมอั้งยี่ ไม่พอใจก็เลี๊ยะพะ ดูเหมือนท่านเองจะสืบสันดานถ่อยๆ เหล่านี้มาได้หมดจดทีเดียว


#329766 ถลกหนัง HERE

โดย amplepoor on 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 14:39

ต่อไปนี้คือข้อความที่ผมโต้แย้ง

เรียนตามตรงว่าท่านสุลักษณ์นี่ ยิ่งแก่ยิ่งโง่ อวดทะนงในความรอบรู้ แต่ดันรู้ผิดๆ
เท่านั้นยังไม่พอ ยังเอาความรู้ผิดๆ มาบอกต่อ ทำให้สังคมที่ควรอุดมปัญญา กลายเป็นอับจนปัญญาไปเสียนี่

1 เรื่องสีลมที่ท่านบอกว่า "เป็นเมืองสุดแดนของกรุงเทพเลย เลยทำที่ฝังศพเอาไว้" ทำให้รู้ว่าท่านนี่โง่ประวัติศาสตร์เกินจะเยียวยา
ท่านไม่รู้ประวัติศาสตร์ผังเมืองก็น่าจะเงียบ ท่านไม่รู้มานุษยวิทยาชุมชนก็น่าจะเล่าแค่โคตรตระกูลของท่าน อย่าสะเออะสู่รู้เรื่องที่เกินปัญญา
สีลมมิใช่เมืองสุดแดนอะไรเลย แล้วการเป็นสุดแดนก็ไม่ได้กำหนดมาเพราะว่าเพราะมีป่าช้า
ตอนนั้นสีลมเป็นเหมือนเมืองบริวารย่อยๆ ของพระนครด้วยซ้ำ หมายความว่าเป็นศูนย์กลางในตัวเอง เหมือนบางกอกใหญ่ หรือสามเสน...พวกนี้เป็นเมืองย่อยในเมืองหลวง

ที่เป็นอย่างนั้นเพราะผังเมืองของเราใช้ชุมชนเป็นหัวใจ ไม่ได้ใช้ภูมิประเทศ วิธีคิดอย่างนี้ พวกเห่อฝรั่งอย่างท่านคงไม่เข้าใจเพราะไม่ตรงกับตำราฝรั่ง อันนี้ก็ต้องโทษว่าท่านรู้น้อยเอง

เราเองเป็นผู้กำหนดให้ชาติตะวันตกต้องตั้งรกรากอยู่ใต้แม่น้ำ หรือใต้ป้อมป้อมป้องปัจจามิตร/ปิดปัจจานึกลงไป นี่คือตามสนธิสัญญาบาวริ่งที่บอกว่าห้ามกำปั่นขึ้นมาเกินสองป้อมนี้

หลังจากนั้น บริเวณนี้ก็คับคั่งด้วยผู้คนลามมาตั้งแต่ปากคลองผดุงกรุงเกษม กระจายไปทั้งทางตะวันออกและทางใต้ จนรัชกาลที่ 4 ต้องตัดถนนไปหา คือถนนเจริญกรุง

โถเสียทีที่เป็นคนตรอกสันติภาพ แต่ความรู้เกี่ยวกับถิ่นนี่ บ้าบอมืดมัวเสียจริงๆ

เมื่อมีคนอยู่กันมาก ก็ต้องมีคนตาย เขาก็ต้องตั้งป่าช้า ป่าช้าก็ต้องอยู่ไกล้ตัว ไปดูชุมชนเข้ารีตที่อยุธยาก็จะเห็นว่าเป็นรูปแบบที่เดินตามมาไม่ได้ผิดประหลาดอะไร

แต่ท่านส. คงจะนึกว่า ธรรมเนียมเรา เมืองมีประตูผี เป็นทางให้เอาศพออกไปทิ้งนอกเมือง ป่าช้าก็เลยต้องเป็นที่ห่างไกลกระมัง น่าขัน
นี่แหละผมจึงบอกว่าไม่รู้เรื่องมานุษยวิทยาเอาเสียเลย ดังนั้น มีป่าช้านานาชาติตรงนี้ ไม่ได้แปลว่าเป็นเมืองสุดแดน แต่แปลว่า เป็นชุมชนนานาชาติขนาดใหญ่ มีกิจกรรมทางวัฒนธรรมอันพลุกพล่าน ถ้าจะใช้คำว่าสุดแดนกรุงเทพในยุคปลายรัชกาลที่ 4 จนตลอดรัชกาลที่ 5 ต้องชี้ไปที่บางคอแหลม ถนนตก สำเหร่ ต่อไปบางปะกอกโน่น

ที่โต้แย้งมานี้ ไม่ได้หวังให้ท่านส. เข้าใจนะ เพราะท่านเป็นชาล้นแก้วมาแต่เด็ก แต่อยากให้ผู้อ่านคนอื่นๆ เห็นว่า คนที่ถูกยกย่องอะไรกันนี้น่ะ ที่จริงไม่ได้ดีกว่าเราเลย เพียงแต่เขามีความหน้าด้านที่จะเผยแพร่สิ่งผิดๆ ออกมาตลอดเวลา เปรียบเหมือนคนท้องร่วงที่รักษาไม่หาย ขี้เรี่ยราดไม่เคยเกรงใจใคร


#328221 ใครดูถ่ายทอด ในหลวงเสด็จฯเปิด5โครงการชลประทานบ้าง

โดย โคนัน on 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 19:54

ไม่มีอะไรมากครับ ปลาบปลื้มครับ ดีใจ ได้เห็นในหลวง แม้จะผ่านทีวีก็ตาม

แต่มีเรื่องน่าประหลาดใจในสิ่งดีๆ มิช่ายน้อย

ตลอดระยะเวลาถ่ายทอดสด ผมได้แต่ยินเสียงผู้บรรยาย และเสียงประชาชนชาวไทย เปล่งเสียง ทรงพระเจริญอยู่ตลอดเวลา

แต่เมื่อมีเพลงสรรเสริญพระบารมีดังขึ้น

น่าประหลาดใจ โดยมิได้นัดหมาย เสียง ทรงพระเจริญหายไปทีวี มีเสียงประชาชน ร้องเพลง สรรเสริญพร้อมกับวงโยธวา ที่บรรเลงขึ้นมา




มันเป็นอะไรที่ชนชาวไทยรู้กัน เมื่อมีเสียงเพลงนี้ แม้คุณจะทำอะไรอยู่ คุณจะหยุด และยืนร้องเพลงนี้ เพราะคุณรู้ว่า ณ เวลานี้ ในหลวงทรงเสด็จมาถึงแล้ว



ทรงพระเจริญ

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อีกเรื่องสำหรับผมเอง วันนี้ปวดเมื่อยเล็กน้อย ว่าจะไปนวดแผนโบราณที่ร้านนวดประจำ แถวบ้าน ไปถึงร้านก็ประมาณ เกือบ ห้าโมง เย็น พอเข้าไป ก็เหมือนเดิม

ผม : เหมือนเดิม นวดตัว 1 ชั่วโมง

พนักงานต้อนรับ : (สายหน้านิดๆ) แล้วบอก ไม่มีคนนวดแล้วค่ะ

ผม : อ่าว แล้วรอนานไหม

พนักงานต้อนรับ : คือ จะปิดร้านแล้วค่ะ

ผม : อ่าว ปกติ ปิด 4 ทุ่มนิ ทำไม วันนี้ปิดเร็ว

พนักงานต้อนรับ : จะไปรับเสด็จ

ผม : ไปกันทั้งร้านเลยเหรอ

พนักงานต้อนรับ : ใช่ค่ะ

ผม : (ได้แต่ยิ้มในใจ คิดในใจ ร้านนี้จะมาอุดหนุดบ่อย คิดไม่ผิดจริงๆ ที่เป็นลูกค้าร้านนี้)


#320916 เสื้อแดงเอ้ย ตามข่าวสื่อ นอกบ้างไหม ว่าดูซิเค้าว่าอะไรพวก ลื้ออ่ะ

โดย เด็กปากดี on 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 22:00

หนังสือ พิมพ์ The Epoch Times ของจีน นำเสนอบทความเรื่อง Thai Democracy Threatened by Organized Subversion (ประชาธิปไตยของไทยถูกคุกคามกลุ่มคนที่ต้องการลบล้างระบอบการปกครอง) ซึ่งตั้งข้อสงสัยว่ากำลังมีกลุ่มแอบแฝงประชาธิปไตยเพื่อล้มล้างระบอบการปกครองประชาธิปไตยในไทย


Posted Image


สื่อมวลชนของจีนฉบันนี้ ระบุว่า จากรายงานข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ เกี่ยวกับความรุนแรงทางอาวุธ ชวนให้คิดว่า การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ อาจเกี่ยวข้องกับการก่อก่อกบฏในราชอาณาจักร ไม่ใช่การประท้วงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย

เมื่อวันเสาร์ (10) รัฐบาลประกาศผลักดันกลุ่มผู้ประท้วงเสื้อแดงหนึ่งในสองของพื้นที่ชุมนุมในกรุงเทพฯ แต่เกิดเหตุปะทะตามมาจนมีผู้เสียชีวิต 11 ราย และบาดเจ็บราว 500 คน ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานข่าวว่า ผู้ประท้วงต้านทานทหารของรัฐบาลด้วยการประทุษร้าย ในกรณีนี้ที่บ่งชี้ได้อย่างชัดเจน คือ การตายของ พันเอก ร่มเกล้า ธุวธรรม

The Epoch Times ระบุว่า พันเอก ร่มเกล้า รู้จักกันดีในฐานะนายทหารผู้ซื่อสัตย์ที่เคยนำทหารเข้าปราบปรามเหตุจลาจลและคืนกฎระเบียบแก่สังคมในช่วงเวลาเดียวกันนี้เมื่อปีก่อน และเวลานี้ปรากฏอย่างชัดเจนว่าเขาถูกฆาตกรรม หนังสือพิมพ์ของจีนฉบับนี้ อ้างรายงานของเดอะเนชั่น ระบุคำกล่าวของโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่่นคงภายในราชอาณาจักร บอกเมื่อวันจันทร์ (12) ว่า “มีความเป็นไปได้ที่นายทหารในประจำการ หรือนายทหารปลดเกษียณจะเป็นคนชี้เป้า พันเอก ร่มเกล้า ก่อนมือมืดจะสังหารเขาด้วยระเบิดเอ็ม79”

ขณะที่สื่อมวลชนท้องถิ่นอื่นๆ รายงานว่า พยานเห็นลูกไฟถูกยิงขึ้นฟ้าก่อนมือปืนจะลั่นไกใส่พันเอก ร่มเกล้า โดยตรง จนทำให้เขาเสียชีวิต ขณะที่นายทหารคนอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ เขาได้รับบาดเจ็บ

กลุ่มชายชุดดำ

ในวันที่ 10 เมษายน กลุ่มชายติดอาวุธในชุดดำปรากฏอยู่ในฉากการประท้วงของคนเสื้อแดง หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับวันที่ 12 เมษายน เป็นภาพของชายชุดดำถือปืน เอเค-47 และปืนยาวทาเวอร์ ทาร์ 21 ซึ่งเคยถูกใช้ในเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาในปี 2008

หน้า 3 ของคมชัดลึก เป็นภาพนิ่งจากคลิปวิดีโอช่อง 11 ของชายชุดดำซุ่มอยู่ในตึกและหลบอยู่หลังเสาเปิดฉากยิงเข้าใส่ทหาร

สื่อมวลชนท้องถิ่นยังอ้างพยานที่อยู่ใกล้คนเสื้อแดง ระบุว่า เห็นรถตู้คันหนึ่งขับมาจอดก่อนหน้าเหตุปะทะ และมีชายชุดดำจำนวนหนึ่งลงมาจากรถตู้คันดังกล่าว ทั้งนี้ เมื่อเสื้อแดงเห็นคนเหล่านั้นลงมา ก็ต่างพากันร้องตะโกนส่งเสียงเชียร์ ไม่มีรายงานใดเลยที่ระบุว่า กองกำลังของรัฐบาลใช้อาวุธที่อาจนำไปสู่การตาย โดยผู้สื่อข่าวหลายสำนักในที่เกิดเหตุ บอกว่า ทหารส่วนใหญ่มีแต่กระะบอง และถือเพียงโล่ ขณะเดียวกันปฏิบัติการสลายการชุมนุมครั้งนี้ก็ใช้เพียงกระสุนยางและแก๊สน้ำตาเท่านั้น

ยั่วยุให้เกิดความรุนแรงมากขึ้นอีก

The Epoch Times ระบุว่า “คนเสื้อแดง” ผู้ประท้วงที่มักอ้างว่าต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ถูกจัดตั้งขึ้นมาผ่านการจ่ายเงินตอบแทนและโฆษณาชวนเชื่อ มีข่าวลือต่างๆ นานา ว่า ผู้ประท้วงได้รับค่าจ้างสำหรับร่วมชุมนุมและทางแกนนำก็ได้ค่าตอบแทนจาก ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจำนวนหลายล้านบาท อ้างจากข่าวลือ บทความนี้ของ The Epoch Times ตั้งข้อสังเกตว่า หากลองดูสถานะทางการเงินของ นปช.หลายคน จะพบว่าคนเหล่านั้นมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจากการสนับสนุนทักษิณ โดยบางคนจากที่เคยเป็นหนี้ก็สามารถปลดหนี้ได้อย่างง่ายดาย

ในที่ชุมนุมของ นปช.มักมีการโฆษณาชวนเชื่อยั่วยุความรุนแรงอยู่เสมอ โดยนับตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน บรรดาแกนนำบอกกับผู้เข้าร่วมประท้วง ว่า นายกรัฐมนตรีเป็นฆาตกร และบังคับนำศพผู้เสียชีวิต 2 รายออกจากโรงพยาบาล และเอาไปวางไว้บนเวที จากนั้นก็แบกหีบศพเคลื่อนขบวนไปทั่วกรุงเทพฯ ในความพยายามยั่วยุประชาชนให้เกิดความเกลียดชังต่อรัฐบาล

การชุมนุมที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมากนี้ เตรียมการโดยสถานีดาวเทียมพีเพิลชาแนล และสถานีวิทยุชุมชน ซึ่งออกอากาศยุยงความเกลียดชังของชาวชนบทต่อรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง และสำหรับคนที่มีการศึกษาน้อย ก็เป็นเรื่องง่ายที่พวกเขาจะเชื่อในสิ่งที่ได้ฟังโดยปราศจากการตั้งคำถามใดๆ ผู้สื่อข่าวเคเบิลทีวีขอให้คนเสื้อแดงเดินทางจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อมาร่วมชุมนุม มีชายคนหนึ่งถูกถามว่า มาร่วมประท้วงทำไม เขาตอบว่า ต้องการประชาธิปไตย แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอะไรคือประชาธิปไตย ชายผู้นี้กลับตอบไม่ได้ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรคือประชาธิปไตยหรือมันมีเงื่อนไขอย่างไร

ถามว่า ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยหรือไม่? คำตอบคือใช่ แต่เมื่อผู้คนไม่มีการศึกษา หัวใจและคะแนนเสียงของพวกเขาจึงถูกซื้ออย่างง่ายดาย เมื่อเป็นดังนั้นประชาธิปไตยก็ไม่สามารถบรรลุได้

ให้โอกาสประชาธิปไตย

นับตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เมษายน คณาจารย์และสถาบันการศึกษาต่างๆ ได้ก้าวออกมาเพื่อชี้ว่าพฤติกรรมของผู้ประท้วงของกลุ่มคนเสื้อแดงไม่แนวทางของคนที่กำลังเรียกหาประชาธิปไตย ยิ่งกว่านั้นพฤติกรรมของพวกเขายังเกี่ยวข้องกับการก่อกบฏ


Is a movement that wraps itself in the cause of democracy seeking to subvert democracy in Thailand? Recent reports of armed violence suggest the National United Front for Democracy Against Dictatorship (UDD)—the party supported by the red-shirted rioters in Bangkok—may be involved in rebellion, not democratic protest.

On Saturday, April 10, the government vowed it would push the red-shirt protesters out of one of their two bases in Bangkok. In the clash that followed, 11 died and 500 were wounded. The protesters are reported to have resisted the government troops with deadly force.
A case in point is the death of Col. Romklao Thuwatham.
Deputy chief of staff of Thailand’s 2nd Infantry Division, Romklao was known to be an honest officer who had successfully led troops in putting down riots and restoring order this same time one year ago. It now appears he was assassinated.

According to the Bangkok-based newspaper The Nation, Pol. Maj. Gen. Disthaporn Sasamit, the spokesman for the Internal Security Operations Commanded (ISOC), said on Monday, “Either an active or a retired military officer identified Col. Romklao Thuwatham for a gunman to take him out with a M79 grenade.”

Disthaporn further stated that this attack was “planned by the other side”—meaning the rioters—and part of a “revenge.”
Other local media report that witnesses saw a light flare shoot up into the sky before the shot was fired at Romklao directly, killing him and injuring the other officers around him.


Gunmen in Black

On April 10, armed men in black appeared on the scene of the red-shirt protests.


The front page of the April 12 edition of the Kom Chud Leuk newspaper has photos of men dressed in black carrying AK-47s and Tavor TAR-21s—a rifle that was used during the Cambodian-Thai standoff in 2008.

Inside on page 3, stills from a Channel 11 video clip of men dressed in all black are seen situated up in a building and behind poles firing at soldiers.

Local media report that witnesses near the red shirts saw a van pull up prior to the clash. A number of men dressed in all black came out of the van carrying weapons. When red-shirt protesters saw them, they are said to have cheered.

There are no reports of the government forces having used any weapons that could cause death. Reporters at the scene said a majority of the soldiers did not even have batons and were only armed with shields. Soldiers were reported to have used rubber bullets and tear gas on the protesters.



Inciting Further Violence

The red shirts, these protesters who claim to be fighting for democracy, appear to have been created through cash payments and propaganda.

Rumors abound of protesters being paid to attend demonstrations. And the UDD leaders are said to have been paid millions and millions of baht by former Prime Minister Thaksin Shinawatra.

According to the rumors, if you look into the financials of the UDD leaders, an increase in wealth seems to go along with their support of Thaksin. People who once were in debt are no longer in debt.

Once people appear at UDD rallies, they are exposed to violent propaganda. Since April 10, UDD leaders tell those attending that the prime minister has murdered people. Two bodies were forcefully taken from a hospital and placed on stage as a prop and then the coffins paraded around Bangkok in an attempt to incite hatred toward the government.

The ground for this popular movement has been prepared by the People’s Channel TV station and community radio stations, which are constantly broadcasting to the rural people messages of hate toward the government.

For people who are uneducated, who are from the rural areas and live a simple life farming, it is easy for them to believe what is being said without questioning it.

A cable TV reporter asked a red-shirt protester who came from the northeast of Thailand why he was attending the rallies. The man answered because he wanted democracy. When the reporter asked what democracy is, the man couldn’t answer. He didn’t know what democracy is or what it entails.

Does Thailand have democracy? It does. But when people are not educated, and their hearts and votes are easily bought, then democracy itself is not being attained.


Giving Democracy a Chance

Since the events of April 10, top Thai scholars and academics have come forward to point out that the actions by the red-shirt protesters are not aligned with people seeking democracy. Rather, they are the actions of those involved in rebellion.

Prime Minister Abhisit is a man well-suited to function within a Western-style democracy. Unfortunately, his character and education have so far not suited him to deal with the reality of Thailand today.

Thailand is still a developing country, and corruption permeates all levels of society. For the past year, media controlled by the UDD have filled the people’s minds with propaganda that teaches them to hate Abhisit and the government.

Abhisit has been too slow to respond, and now there has been a deadly battle on the streets of Bangkok.

Abhisit has clearly been restrained precisely because he believes in democracy. Perhaps he has sought to govern a country too prone to corruption as though it already had the levels of education and the moral constitution of the successful Western democracies.

The pity is that the red shirts, deluded by their UDD leaders, cannot recognize that the key to the democracy in Thailand that they say they want stands before them in the person of the peaceful and honorable Abhisit.

Puan Khon Thai is a writer living in Thailand who wishes to remain anonymous for security reasons.


http://www.theepocht...ksin-33372.html


#317170 สู่ห้องเรียน..ประวัติศาสตร์ชาติไทย

โดย amplepoor on 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 23:22


จากนั้น คอมมิวนิสต์ก็ฉวยคำว่าชาติไปใช้เป็นอาวุธทิ่มแทงความเป็นหนึ่งเดียวของไทย
แล้วนายปรีดีจึงนำคำว่าชาติ - ราษฎร มาทำลายสถาบันอีกที


อยากทราบว่านายปรีดีใช้สองคำนี้ทำลายชาติยังไงครับ



ตามคตินิยมเดิม เรานับถือพระเจ้าแผ่นดินในหลายสถานะ
ทำให้เรามีคำเรียกประชาชนหลายคำ ล้วนแต่สะท้อนรากเง่าทางวัฒนธรรม
ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน อาณาประชาราษฎร์ หรือข้าราชบริพาร....เป็นต้น
ปรีดีตั้งใจใช้คำที่ตัดสัมพันธภาพทางวัฒนธรรมอย่างคำว่า ราษฎร มาใช้
เพื่อแยก "เจ้า" ออกจาก "ข้า" เพื่อตอกลิ่มเข้าไปว่า ฝ่ายหนึ่งกดขี่ ฝ่ายหนึ่งถูกกดขี่

จริงอยู่ที่การกดขี่นั้น มีจริง มีหลักฐานตำตาชนิดไม่ต้องเสียเวลาค้น
แต่นั่นเป็นการกระทำของระบบ หรือเป็นความผิดของเอกชน ปรีดีไม่ยอมบอก
ปรีดีใช้การกดขี่ส่วนตัวไปอ้างว่าเป็นการกระทำโดยระบบ
ใช้ความผิดของเอกชนอ้างเป็นความผิดของรัฐ

แล้วในที่สุด ปรีดีก็กดขี่ราษฎรเสียเอง....เริ่มตั้งแต่การรัฐประหารพระยามโนฯ จนไม่ได้ตายในแผ่นดินไทย
ยึดอำนาจจากเจ้า โดยอ้างประชาชน แต่ไม่ส่งอำนาจนั้นให้ประชาชน

เราจะเห็นว่า ปรีดีไม่กล้าใช้ถ้อยคำที่รุนแรงกว่า"ทำนาบนหลังราษฎร"
เพราะที่จริงแล้วเจ้านั่นแหละ ปลดปล่อยประชาชน ยิ่งกว่าที่ปรีดีทำ
ปรีดีไม่กล้าใช้คำว่าทาส เพราะคำนี้คือการยกย่องเจ้า
ปรีดีไม่พูดถึงการเล่าเรียน เพราะเจ้านั่นเองที่ให้โอกาสไพร่อย่างปรีดี ได้เรียนถึงเมืองนอก
ระบบยุติธรรมในขณะนั้น ก็เต็มไปด้วยสามัญชน ...ฯลฯ

ปรีดีใช้คำว่า "ราษฎร" เพื่อให้ผู้ฟังรู้สึกว่าตัวเองเป็นชนชั้นใหม่
คล้ายกับที่พวกแกนนำใช้คำว่า "ไพร่" เพื่อตอกลิ่มอันใหม่ให้ประเทศแตกแยก

ประวัติศาสตร์มักจะซ้ำรอย


#316797 สู่ห้องเรียน..ประวัติศาสตร์ชาติไทย

โดย bird on 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 17:38

ด้วยความเคารพ ท่าน จขกท

สมสาก คนทรง เจ้า "ไม่ได้" เต็มใจสละอำนาจให้กับราษฏร
โดย BlueArmy, 26 มิถุนายน 2555

กระทู้แตกประเด็นครับ
โดย ตะนิ่นตาญี, 26 มิถุนายน 2555

สถานการณ์ในปัจจุบัน พฤติกรรมของคนบางกลุ่มที่อ้างเสียงส่วนใหญ่ในการกระทำการใด ๆ
ผนวกกับกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่อาศัยดีกรีนำหน้า พร้อมเอกสารที่ใช้รับรองความรู้อีกไม่กี่แผ่น
เรียกตัวเองว่า " นักวิชาเกิน " เสนอบทวิเคราะห์ ด้วยจิดใจที่สับสน วิปริต ฝักใฝ่ความเชื่อ
ซ้ายสุดโต่ง อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ขาดสำนึกในบุญคุณของแผ่นดิน...

หลงลืมไปว่า...แผ่นดินพื้นนี้ ด้วยพระบารมีแห่งองค์พระมหากษัตริย์ทุก ๆ พระองค์ อีกทั้ง
บรรพบุรุษทุก ๆ ท่าน ที่ยอมหลั่งเลือด เสียสละ เพื่อปกป้องรักษาไว้ให้ชนรุ่นหลังได้มีที่ไว้
ซุกหัวนอน โดยไม่ต้องตกเป็นทาสอยู่ภายใต้อานัติของชาติใด...ท่านเหล่านั้นยอมสละสิ้น
แม้กระทั่งลมหายใจ เพียงเพื่อรักษาไว้ซึ่งเอกราช...

แต่..กลุ่ม่บุคคลเพียงไม่กี่คน กลับอ้างสิทธิความเท่าเทียม ความเสมอภาค ภายใต้หน้ากาก
ประชาธิปไตยอันบิดเบี้ยว กระทำการหักหาญฉุดรั้ง เพื่อหวังอำนาจและวาสนา อวดอ้าง
ความรู้ความสามารถ ว่าตัวเองนั้นหนา คือผู้ที่เหมาะสม แปรเปลี่ยนความเท็จ ว่านั้นคือ
ความถูำกต้อง อ้างนั้นอ้างนี่ ให้ดูยุ่งเหยิง แล้วสรุปว่า นั้นคือข้อเท็จจริงที่ซ่อนเร้นไว้

กล่าวคำเท็จได้อย่างไม่สะทกสะท้าน ปั้นน้ำเป็นตัวอยู่เป็นนิจ เสมือนหนึ่งว่า นั้นคือเรื่องจริง
หลงไหลทรัพย์สิน ฝักใฝ่ในลัทธิ มัวเมาในอำนาจ ประกาศตัวว่า เป็นผู้รอบรู้ ที่ชาญฉลาด
แอบอ้างสรรพคุณ อวดอ้างความสามารถ...สุดท้าย...ผลประโยชน์และการหลอกลวง

ในทุกยุคทุกสมัย บรรพบุรุษของเราต้องรับศึกทั้งภายในและภายนอก ใหญ่บ้างเล็กบ้าง
แต่ไม่มีครั้งใดที่ ผุ้กระทำการจะคิดการใหญ่ได้มากเท่าที่่เรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้
ในอดีตผู้ก่อการเป็นนักสู้ รู้แพ้ รู้ชนะ ต่อสู้กันซึ่ง ๆ หน้าด้วยความกล้าหาญ แต่ในปัจจุบัน
ผู้ก่อการกลับหลบอยู่ในเงามืด...เพราะไม่ใช่นักสู้ แต่เป็นเพียงนักฉวยโอกาส...

ประวัติศาสตร์ชาติ กำลังเลือนหาย. วาทกรรม "คิดนอกกรอบ" เมื่อแม้วครองเมือง ลดทอน
ความสำคัญของประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อรักษาไว้ซึ่งแผ่นดินและเอกราชของบรรพบุรุษ
ได้อย่างไม่น่าเป็นไปได้ กลับปลูกฝังประชาธิปไตยที่บิดเบี้ยว การเอาตัวรอดอย่างเห็นแก่ตัว
ขาดจิตสำนึกความเสียสละเพื่อบ้านเมือง...เมื่่อต่างแก่งแย่งเพื่อตัวเอง...

แล้วประเทศหล่ะ...จะก้าวไปได้อย่างไร....

มิใช่ผู้รอบรู้ในทุกเรื่อง มิใช่ผู้ชำนาญในทุกด้าน...แต่เป็นคนไทยที่ไม่ยอมเป็นทาสใครบางคน
ขออนุญาติเรียบเรียงประวัติศาสตร์ชาตินับจากกรุงสุโขทัย ถึง ปัจจุบัน เท่าที่ความสามารถ
จะทำได้..เรียนเชิญทุกท่านร่วมกันเผยแพร่ความรู้ได้ตามวิสัยทัศน์...