aya

จะได้ดูสดๆเหมือนชาวบ้านเค้าซะที.......

แต่ท่าใครมีคลิปหรือข้อมูลที่ดารุณี.หมิ่น.จริงๆช่วยกันส่งไปให้น้องเค้าหน่อยครับ..น้องเค้าจะได้ใช้เป็นหลักฐานเอาไว้สู้ถ้าถูกฟ้องจริงๆ.ต้องช่วยกันครับ.ปกป้องคนดี.เชิดชูพระเจ้าอยู่หัว...เป็นหน้าที่ของชาวเสรีไทยใช่หรือเปล่าครับ.

ดารุณีร้อน!!!วิ่งเต้น “ห้างพาราก้อน” ขอวงจรปิดใบหน้าของผู้หญิงใจกล้า
ดารุณี กฤตบุญญาลัย ดิ้น!! เข้าพบ เจ้าของ “ห้างพาราก้อน” ขอภาพวงจรปิดใบหน้าของผู้หญิงใจกล้า จะฟ้องหมิ่นประมาท กับกองปรอบปรามชัดเจนย้ำ จะเอาผิดกับบุคคลที่คุกคามตน จนถึงที่สุด!
หลังจากที่ นาง ดารุณี กฤตบุญญาลัย ถูก สาวปริศนา ด่าจนจุกกลางห้าง สยามพาราก้อน ล่าสุด facebook “คนละหมัด เดอะซีรี่ย์” เผย วานนี้ ดารุณี กฤตบุญญาลัย วิ่งเต้นเส้นสายเจ้าของ “ห้างพาราก้อน” ขอภาพวงจรปิดใบหน้าของผู้หญิงใจกล้า หวังใช้เป็นหลักฐาน ฟ้องร้องฐานคุกคามตน
ต่อมา ดารุณี กฤตบุญญาลัย รุกต่อ ประกาศในที่ชุมนุม อนุสาวรีย์เจ้าตากสิน วงเวียนใหญ่ ลั่น ไม่เคยหมิ่นในหลวง พร้อม เอาผิดกับคนที่คุกคามตนโดยอ้างว่ารักสถาบัน ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างอีก พร้อมลั่น ชุมนุมหน้ากองปราบ วันที่ 2 กันยายน 2555 กดดันให้เอาผิดกับ สาวใจเด็ดปริศนาต่อไป

...
ไทยทีวีดี รายงาน

http://www.thaitvd.tv/home/?p=3310

คุณอภิสิทธิ์ควรใช้คุณป้าวัยกลับคนนี้เป็นตัวอย่างนะ ต่อไปนี้ใครมาชูป้าย ใครมาคุกคามว่าสั่งฆ่าใคร
ถ่ายภาพ ถ่ายคลิปไว้ แล้วฟ้องดำเนินคดีเลย

ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือคุณป้าวัยกลับนางนี้ด้วย ที่กล่าวหาเท็จคุณอภิสิทธิ์ต่างๆนา มีคลิปเป็นหลักฐานเพียบ ล่าสุดก็ไปสตอฯรายการจอม(ปลอม) เพชรประดับกล่าวหาคุณอภิสิทธิ์แบบลอยๆ "ใครๆก็รู้"

แอบขำคุณป้าแอ๊บเด็กท่านนี้นะ เป็นฝ่ายคุกคามคนอื่นมานาน ตอนนี้โดนเข้าบ้าง ถึงกันพล่าน ...

สรุปแล้วแดงผูกขาดความถ่อยนะคะ คนอื่นห้ามทำค่าาา

รณรงค์ไม่อ่าน + ไม่ตอบกระทู้ใจดี

เมื่อ ปธน. "ขอโทษ" กรณี "ญาติ" คอร์รัปชั่น "ตัวอย่างที่ดี" จากเกาหลีใต้


กรณี นายลี เมียง บัก (ออกเสียงให้ถูกต้องตามภาษาเกาหลีว่า อี มยอง บัก) ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้ออกมากล่าวขอโทษ (ซา-กวา) ต่อประชาชนเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม เรื่องที่พี่ชายของเขาคือ นายอี ซาง ดุ๊ก ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเมืองของเขาถูกจับกุมข้อหารับสินบนจากธนาคารออมสินซึ่งกำลังมีปัญหาและถูกระงับกิจการอยู่ในขณะนี้

"ผมขอโทษอย่างจริงใจที่ทำให้ประชาชนเกิดความไม่สบายใจ ตอนแรกผมจะรอให้ผลการสอบสวนออกมาก่อนจึงจะพูดเรื่องนี้ แต่ผมเปลี่ยนใจและสรุปว่าผมควรจะได้แสดงความรู้สึกอย่างจริงใจก่อนเป็นอันดับแรก เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ผมควรจะทำในฐานะผู้นำ ทั้งนี้ ตั้งแต่ตอนแรกที่เข้ารับตำแหน่ง ผมก็ยึดมั่นในการเมืองที่สะอาดและใช้ความพยายามของผมที่จะบรรลุเป้าหมายนี้ด้วยการบริจาคทรัพย์สินและแม้แต่เงินเดือนของผมให้กับชุมชน มีบางช่วงที่ผมรู้สึกว่าความพยายามของผมได้ผลบ้าง แต่โชคไม่ดีที่คนใกล้ชิดของผมได้กระทำสิ่งต่างๆ ขึ้นและนั่นทำให้ผมเจ็บปวด ผมจะไม่โทษคนอื่นสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ผมจะรับผิดชอบต่อสิ่งที่พวกเขาก่อขึ้น" นี่คือคำขอโทษของประธานาธิบดีเกาหลีใต้

นับจากปีที่แล้ว ญาติและผู้ช่วยของผู้นำเกาหลีใต้หลายคนถูกกล่าวหาว่ารับสินบนจากนักธุรกิจและเกี่ยวพันกับการคอร์รัปชั่นซึ่งในจำนวนนี้มีหลายคนถูกส่งเข้าคุกแล้ว ถัดมาในวันที่ 25 กรกฎาคม อัยการได้จับกุมอดีตผู้ช่วยของนายลีอีก 2 คน ในข้อหารับสินบนจากธนาคารออมสินเช่นกัน

สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เพียงสะท้อนว่าผู้นำเกาหลีใต้ที่เป็นเสาหลักของบ้านเมือง มีความจริงใจในการปราบปรามคอร์รัปชั่น ด้วยการไม่ใช้อิทธิพลเพื่อช่วยเหลือญาติและคนใกล้ชิดให้พ้นจากเงื้อมมือกฎหมาย ประกอบกับประชาชนมีจิตสำนึกสาธารณะสูง

ผมว่าใครบางท่าน ควรจะเอาเยี่ยางอย่างนะครับ กับกรณีที่คล้ายๆกันเช่นนี้


การแสดงความเห็นในเชิงการเมืองนั้น ย่อมมีทั้งฝ่ายที่เห็นพ้อ และฝ่ายที่เห็นต่าง เป็นเรื่องปกติธรรมดา มันเป็นสีสันการแสดงออกทางความคิด ในระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย

แต่กับ อโฆษบุรุษ ตนหนึ่งในบอร์ด ที่ก่อวีรกรรมไว้มากมาย ผมขอเรียนย้ำว่า ในเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับเขานั้น " ไม่มีส่วนใดเกี่ยวกับการเมือง " เลยแม้แต่สักนิด มีแต่ " เรืองส่วนตัว " ของเขาทั้งสิ้น เกิดจากความโอ้อวด พอเข้าตาจนก็หนี หลบลี้ ไม่เคลีย และสร้างประเด็นมดเท็จ อยู่ร่ำไป โดยอาศัยฉากหน้าเรื่องการเมืองนิดหน่อยพอเป็นน้ำจิ้ม แต่ประเด็นหลัก ก็แค่เรื่องส่วนตัว อวดโอ่ไป ดังที่เพื่อนสมาชิกพบประสบมาตลอดในบอร์ดนี้

และในปัจจุบันนี้ เมื่อมีเสียงโห่ร้อง ไล่บี้ ก็ออกตัว ขอนับหนึ่งใหม่ โดยไม่เหลียวแลกองอุจาระมหึมา ที่ถ่ายทิ้งไว้ ผู้ไม่แสดงความรับผิดชอบ ต่อสิ่งที่ตนเองทำไว้ ในความเห็นส่วนตัวผม ไม่เห็นด้วยครับ การกลับตัวกลัวใจเริ่มใหม่นั่น สามารถทำได้ แต่ทว่า ต้อง

" เคลียเรื่องเก่าๆ ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน "

ผมว่า White Lies ไม่ผิด... ผิดตรงไป ยอมรับว่าได้ทำ White Lies....
อีกอย่าง การคาดการณ์ก็ไม่เข้าข่าย โกหก อยู่ดี...
ไม่รู้คุณแม้วจะเก็บ ท่านนี้ไว้ทำไม...
ประโยชน์อย่างเดียวที่นึกออกคือ... เอาไว้เป็นตัวล่อ..

มันผิดตั้งแต่คิดว่าเป็น white lies แล้ว เพราะมันไม่ใช่
White lies มันต้องไม่มีผลเสียหรือกระทบกับคนอื่น เช่น เพื่อนใส่เสื้อใหม่มาถามว่าสวยมั้ย เราตอบเพื่อถนอมน้ำใจเพื่อนว่า โอเค แบบนี้เรียก white lies
ไม่ใชไว้หลอกนักลงทุนให้คิดว่ามีทีเด็ดจะพยุงเศรษฐกิจให้พุ่งได้ แต่จริงๆ บ่มิไก๊ แล้วออกมาบอกว่า white lies เพราะไม่อยากเสียหน้าแบบนี้

เห็นไตนี่กลางได้เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ

ก็ทำเท่าที่ให้กลับคืนสังคมได้เท่านั้นแหละ
เห็นแล้วมันไม่ไหวจริงๆ ความขัดแย้งมันทำให้คนไม่เคารพกฎ
จะมาอ้างกฎกันพอผมกลับไปคิด เอาเข้าจริงๆ กรณีนี้โดนกันเพียบ
ก็พยายามลดใช้คำ พยายามให้มันเสียดน้อยที่สุด มันก็ยังโดนอยู่ดี
เข้าใจถึงปัญหาชีวิตจริงเลยว่ามันเป็นยังไงบ้าง

ภาพคนดีคนไม่ดีผมไม่ได้คิดมากกับตัวเองหรอก ตอนนี้ก็พยายามระวังตัวเองมากขึ้น
ไม่ใช่กลัวคนอื่นจะคิดไม่ดีด้วยนะ แต่กลัวคนมันจะเอาไปเป็นข้อปฎิบัติและทำตาม

อยากจะเขี่ยอยากจะกำจัดใช่มั๊ย เชิญทำไปเข้าเค้ามีจุดไหนบกพร้องก็จัดการ
ผมไม่ยุ่ง แต่อะไรที่ผมมองว่าเป็นการเอาเปรียบจนเกินไป ผมก็ขออนุญาตเช่นกัน
ตอนนี้เค้าอยากเเปลี่ยนแปลงให้ทำยังไงอะ ก็ต้องช่วย

วันไหนอยากกลับไปเป็นเหมือนเดิมก็ไม่ได้ห้ามอะไร เอาแค่ตอนนี้ก่อนให้รอดจากตอนนี้ก่อนเถอะ
ไม่ต้องห่วงว่าผมจะหลงไปกับมันหรอก เห็นว่าไม่มีใครจ้องจะอะไรกับเค้าผมก็เงียบไปเอง

ลองเงียบดูกันหรือยังหล่ะ?

ขออภัยครับ ถ้าทำให้คิดแตกไปถึงขนาดนั้น
ผมคงต้องรบกวนไปอ่านการตอบกระทู้ทั้งหมดอีกสักรอบ
โดยเฉพาะ ในคำความเห็นของผม

ใจดีกลับมาในวันนี้
ผมไม่รู้เจตนาที่แท้จริงเท่าไหร่
แต่วันวาน เขาคือเด็กเลี้ยงแกะคนนึง ที่ไม่สามารถพูดอะไรให้คนอื่นเชื่อได้
วันนี้ หากเขาอยากมีที่ยืนบนบอร์ด เขาเลือกได้ ด้วยตัวเขาเองครับ
เหมือนหลายสิบกระทู้ที่ผ่านมา นั่นก็คือจุดยืนที่เขาเลือก
ไม่ได้มีใครบังคับ เพราะบังคับกันไม่ได้

ดังนั้น ใจดีเลือกได้ครับ ว่าจะทำตามใจตนเองต่อไป
หรือจะอยากได้จุดยืนในบอร์ด แบบที่ได้รับการยอมรับ
(เช่นที่คุณ TFEX เคยได้รับมา <ขออภัยครับ ที่ต้องอ้างเพื่อเป็นตัวอย่าง>)
หากจะตามใจไม่สนใจความคิดเห็นความรู้สึกที่มีต่่อตนของคนในบอร์ด
ใจดีก็สามารถเป็นอะไรก็ได้ จนกว่าจะทำผิดกฏและโดนแบน
หรือใจดีจะกลับตัวจริงๆ และอยากให้ทุกคนยอมรับในตัวตนใหม่
นั่นก็ย่อมต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเอง เพื่อให้คนอื่นยอมรับ

ทีนี้ ทั้งหมดทั้งสิ่้น อยู่ที่การตัดสินใจของใจดีครับ
ว่าเขาอยากยืนอยู่ ในลอคอินนี้แบบไหน
ไม่ใช่การตัดสินใจของผม หรือของคุณ
ผมเคยพูดกับใจดีเรื่องนี้ก่อนคุณด้วยซ้ำ ให้เขาปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
แต่ผมก็คือคำพูดนั้ันโดนมองข้ามไป และเกิดกระทู้ใจดีอีกมากมายหลังจากนั้น

โอกาสที่เป็นไปได้มากที่สุด เหมือนอย่างที่ผมเคยพูดถึงความเป็นคนเสื้อแดงในมุมมองผม
คือการรับรู้ พบเจอปัญหา และพบเจอความเป็นจริง จึงจะเข้าใจ
ว่ารัฐบาลเพื่อไทย หรือนายกยิ่งลักษณ์ ตัวตนจริงๆ เป็นเช่นไร
และเขาจะได้อะไรจากการเป็นคนเสื้อแดง และจะสูญเสียอะไร
เราบอกเขาไม่ได้ เขาไม่เชื่อเราหรอกครับ

ใจดีก็เช่นกัน
การกลับมายืนในจุดยืนใหม่ ย่อมต้องผ่านการพิสูจน์ตัวเอง
เพื่อให้ตนเองและคนอื่นยอมรับ

ก็เท่านั้น

ถ้าใจดีเป็นคนพิการ ง่อยเปลี้ย
และมีสมาชิกท่านใดไปล้อเลียน ในเรื่องความง่อยเปลี้ยนั้น
ผมเองก็คงจะไม่พอใจ เพราะเรื่องแบบนั้น เขาเลือกไม่ได้ครับ
แต่การมาแสดงตัวตนในบอร์ดนี้ การโกหก การสร้างเรื่องจนใหญ่โต
นั่นคือการเลือกปฏิบัติของเขาเองทั้งสิ้นครับ

ดังนั้น เรื่องนี้ ผมยืนยันความคิดผมว่า ไม่ใช่ข้อบกพร่องของใจดี
แต่เป็นความตั้งใจเท่านั้น

การชี้จุด การต่อต้าน การไม่ยอมรับ มันก็ย่อมเป็นเรื่องปกติที่จะได้พบเจอ

ผมคงต้องถาม ว่าทำไมต้องเงียบ
เงียบเพื่อสร้างอะไร เงียบเพื่อหวังผลอะไร
สมมุติว่า ใจดีกลับมา โดยมีเจตนาเช่นเดิม
ความน่าเชื่อถือของบอร์ดนี้ ก็ยิ่งลดน้อยถอยลงไป ตามกระทู้ขยะที่เกิดขึ้นเรื่อยๆ
เหมือนดังเช่นหลายๆ กระทู้ที่เกิดขึ้นแทบทุกวัน จากสมาชิกส่วนหนึ่ง
ดังนั้น ผมคงไม่คิดเงียบ
หรือถ้าจะให้ผมเงียบ ก็คือไล่ผมออกไปจากบอร์ดเสีย

อย่างน้อย ผมก็ทำเพื่อปกป้องพื้นที่ที่ผมยืนอยู่ด้วย
นี่คือชุมชนที่ผมกับคุณก็มีส่วนอยู่ร่วมกันด้วย
ผมว่า ผมมีสิทธิ์นะครับ

ย้ำอีกครั้ง ว่าการตอบโต้กับใจดี ไม่ว่าในลักษณะใด
ไม่ใช่การทำร้ายร่างกาย ไม่ใช่เรื่องต้องเจ็บตัว
เรากำลังถกเถียงกันด้วยความคิด ความเชื่อที่แตกต่างกัน
ดังนั้น จึงต้องเอาหลักฐาน เอาเหตุผลเข้าถกกัน

ไม่ใช่เอาเรื่องโกหกมาเอาชนะกัน

นี่คือสิ่งที่ใจดีต้องพิสูจน์ครับ

ถ้าใจดี นึกอยากพิสูจน์ตามคำพูดของผม
ผมขออนุญาตแนะนำให้คุยกับคุณ TFEX ดูก็ได้นะครับ
ถามดู ว่าเขาเจออะไร และเขาทำอย่างไร ใช้เวลา ใช้ปัจจัยอะไรบ้าง

ผมมองว่า คำพูดที่ว่า

“แม้จะเคยถูกกระทำจากแฟนคลับพรรคปชป.หรือไม่ก็ตาม’


เป็นคำพูดที่ทำให้คิดได้ ว่าฝั่ง ปชป ก็เคยทำนะครับ

ผมขอเล่าเหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงที่เกิดจราจลปี 53

ผมเคยเล่าเรื่องนี้ส่งไปทางข้อความให้กับสมาชิกอาวุโสท่านหนึ่งของเว็บคู่ขนานของที่นี่ตั้งแต่ตอนนั้น
แต่ผมไม่เคยเปิดเผยข้อมูลตรงนี้ออกสู่สาธารณะ เพราะมีพาดพิงถึงบุคคลอื่น
จนเมื่อราว 2-3 เดือนก่อนถึงได้นำมาเปิดเผยในกระทู้หนึ่งของเว็บบอร์ดแห่งนี้
เพราะคิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับความเข้าใจในบางส่วนของกรณีจราจล

เมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งตรงกับช่วงจราจลปี 53 ผมได้รับรู้ข้อมูลหนึ่งโดยบังเอิญ อยู่แค่ที่ว่าคนที่บอกกับผม จะโกหกผมหรือไม่เท่านั้น
ถ้าไม่โกหก ก็เท่ากับผมได้นั่งกินข้าวร่วมโต๊ะกับคนที่ยิง M-79 ใส่ราบ 11 โดยไม่รู้ตัวมาแล้ว

คนรู้จักผมคนหนึ่ง รู้จักกันมานานร่วม 10 กว่าปี สมมุติว่าชื่อ ท.
ท. เป็นลูกน้องคนสนิทของ เสธ.อ.คนดัง เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารกับทักษิณ
บ้าน ท. อยู่ในจังหวัดหนึ่งของภาคกลางที่อยู่ติดกับกรุงเทพฯ
ตัว ท. เองวันธรรมดาก็จะอยู่กรุงเทพฯ และจะลงไปที่บ้านทุกเสาร์ - อาทิตย์

ตอนนั้นเพื่อนสนิทผม 2 คน ที่อยู่จังหวัดหนึ่งทางภาคตะวันออก และคนหนึ่งเป็นญาติกับ ท. ได้ขึ้นมาทำงานต่อเติมออฟฟิตที่บ้าน ท.
เพื่อนก็โทรหาผมซึ่งตอนนั้นทำงานอยู่กรุงเทพฯ ให้ขึ้นมาที่บ้าน ท. เพื่อพบปะกัน
ผมเองก็เคยมาเที่ยวที่นี่ตั้งแต่ 10 กว่าปีที่แล้ว และมาแทบทุปี

จำได้ว่าผมเลิกงานในเย็นวันศุกร์ก็ขับรถไปถึงที่บ้าน ท. ประมาณหัวค่ำ
ครั้งนั้นที่เจอกัน ผมกับ ท. และเพื่อนสนิทผม 2 คน ได้นั่งกิน ดื่ม พูดคุยกัน
โดยมีเพื่อนของ ท. และลูกน้องของ ท. ซึ่งรู้จากการพูดคุยตอนนั้นว่า เป็นลูกน้องของ เสธ.ด.ซึ่งมากัน 2 คน
( เสธ ด.คือบุคคลที่เราๆท่านๆทั้งหลายมองว่าอยู่เบื้องหลังกองกำลังชุดดำ และการยิง M-79 )

ลูกน้องเสธ ด. มาแทนลูกน้องตัวจริงของ ท. ที่ลา แต่ไม่รู้ว่าลาเพราะสาเหตุอะไร เพราะไม่ได้ถามหรือพูดคุยในส่วนนี้
โดยลูกน้องของเสธ.ด.ที่มาแทน เป็นคนขับรถ 1 คน และเป็นการ์ด 1 คน

ท.และ เสธ.ด. ไม่ได้รู้จักการเป็นส่วนตัว แต่สามารถยืมตัวลูกน้อง เสธ.ด. มาใช้งานแทนได้
ตรงนี้น่าจะมาจากการที่ ท. เป็นลูกน้องของ เสธ.อ.
เสธ.อ.กับ เสธ.ด.จึงน่าจะมีสายสัมพันธ์กัน เพราะสามารถยืมตัวลูกน้องมาใช้งานได้

บริเวณบ้าน ท. มีบ้านอยู่ 3 หลัง บ้าน ท.จะอยู่หลังในสุด แล้วก็มีบ้านรับรองแขก 1 หลังอยู่ตรงกลาง
และบ้านที่ให้ลูกน้อง ให้คนงานบ้านอยู่ 1 หลังอยู่ปากทางเข้าบริเวณบ้าน

ผมกับเพื่อนนอนหลังกลาง พอตอนกลางวันก็ไปกินข้าวที่บ้านของลูกน้อง โดยมีแม่ครัวทำกับข้าวไว้ให้
ตอนไปกินก็มีลูกน้องเสธ ด. 2 คนนั่งกินอยู่ ก็ยังได้พูดคุยกันแต่จำไม่ได้ว่าคุยอะไรบ้าง

จนตอนเย็นๆผมกับเพื่อนอีก 2 คนก็จะออกไปเที่ยวกินดื่มกัน
ผมอาบน้ำเสร็จก็เดินออกจากบ้านหลังกลางเพื่อจะไปรอเพื่อนที่รถ ซึ่งจอดอยู่ด้านนอกบริเวณบ้าน

ตอนเดินผ่านบ้านหลังที่ลูกน้อง ท. อยู่ ก็เห็นลูกน้องของ เสธ.ด. ที่เป็นคนขับรถกำลังนั่งดูทีวีอยู่
เป็นข่าวเกี่ยวกับจจราจลนี่แหละ ผมก็เลยแวะนั่งดูเพื่อรอเพื่อนด้วย และด้วยความอยากรู้ด้วย
ดูอยู่ไม่นานเพื่อนอีกคนก็เดินมาหยุดดูด้วย ก็ยังเหลือเพื่อนอาบน้ำแต่งตัวอยู่อีกคน

ตอนที่นั่งดูข่าวด้วยกันเขาก็เล่าให้ฟังว่า เขามีเพื่อนเป็นการ์ดเสื้อแดง
รู้ข้อมูลว่า คนเป็นการ์ดรอบนอกค่าตัว 300 หรือ 500 ผมก็จำไม่ได้ ส่วนการ์ดด้านในจำได้ว่าเขาบอกว่า 1,000 บาท

และตอนนั้นจำได้ว่าขณะที่ข่าวทางทีวีกำลังรายงานการยิง M-79 ตกแถวสวนลุมแล้วมีตำรวจตาย
ผมก็พูดกับลูกน้องเสธ ด.ว่า น่าแปลกนะทำไม M-79 ไม่เคยตกใส่เสื้อแดงเลย

พอพูดจบปุ๊บ ลูกน้องเสธ.ด.ก็ชี้ไปที่ลูกน้องของเสธ ด.อีกคนที่เป็นการ์ด ที่นอนอยู่บนโต๊ะหินอ่อนใต้ต้นไม้ในบริเวณบ้านทันที แล้วบอกว่า

" ไอ้นั่นแหละที่ยิง M-79 ใส่ราบ 11 "

ลูกน้องเสธ ด.คนที่เป็นการ์ดที่นอนอยู่ อายุน่าจะ 20 ต้นๆ รูปร่างสูงเท่าๆกับผมประมาณ 180 แต่ตัวใหญ่กว่ามาก
ตอนนั้นผมก็บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง ไม่ได้ตกใจหรือคิดว่าลูกน้องเสธ ด. ที่เป็นคนขับรถเขาจะโกหกหรือพูดจริงอะไร ยังไง

แต่หลังจากนั้นผมก็มาพิจารณาดูว่า การที่ผมพูดถึงเรื่อง M-79 แล้วคนขับรถเขาก็ชี้ไปที่ลูกน้องของเสธ ด.อีกคนทันที
มันเหมือนเป็นสัญชาตญาณ คือเหมือนรู้ว่าอะไรเป็นอะไรอยู่ แล้วพอมีใครมาทักตรงนั้น มันก็ตอบโดยสัญชาตญาณ
และผมเองก็หาเหตุผลไม่ได้ว่าเขาจะโกหกผมเพื่ออะไร และจะได้ประโยชน์อะไร ?
และจากความเข้าใจของผมที่คิดว่า เบื้องหลังกองกำลังชุดดำ หรือมือ M-79 มาจากเสธ.ด. ผมจึงค่อนข้างเชื่อว่าเขาพูดจริง

ล่าสุดเมื่อต้นๆรัฐบาลนี้ ท. ได้เป็นที่เป็นที่ปรึกษาของ รมต.ว่าการกระทรวงหนึ่ง แต่ตอนนี้เปลี่ยน รมต.แล้ว
และการที่ ท. สามารถก้าวไปเป็นที่ปรึกษา รมต.กระทรวงนั้นได้ แสดงว่า เสธ.อ.และ รมต.คนนั้น ย่อมมีสายสัมพันธ์กัน
เสธ อ. จึงผลักดันให้ ท. ไปเป็นที่ปรึกษา รมต.คนนั้นได้
รมต.คนนั้นเป็นนายทหาร และมีพี่ชายเป็นนายทหารผู้ทรงอิทธิพลของเมืองไทย ที่มีลูกสะใภ้เป็นอดีตดาราดังเมื่อสัก 10 ปีก่อน

เมื่อปลายปีที่แล้ว พ่อของ ท.ได้เสียชีวิตลง และพอดีผมกับเพื่อนๆหลายคนกำลังกลับจากเที่ยวเหนือ
จึงได้แวะไปที่งานศพ ก็เห็นมีพวงหรีดจาก เสธ อ. , พล.อ. ย , พล.อ. อ
และประธานในพิธีศพคือ ร.อ. ม คนดังอีกคน ที่มีฉายาเป็นพระเอกหนังจีนสมัยก่อน
และมีตำแหน่งในคณะกรรมการโอลิมปิคอะไรสักอย่างนี่แหละ

และเพื่อยืนยันว่าสิ่งที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้คือความจริง ไม่ได้ต้องการใส่ร้ายใคร ผมก็ขอสาบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายว่า

ถ้าผมโกหกเรื่องที่เล่าทั้งหมดนี้แม้เพียงนิดเดียวขอให้ตัวเองฉิบหาย มีอันเป็นไป
แต่ถ้าผมไม่ได้โกหกขอก็ให้นักการเมืองเลวๆ หรือแกนนำ หรือคนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ ที่มีเจตนาร้าย
ให้ฉิบหายมีอันเป็นไป ได้รับผลกรรมที่ก่อขึ้น

คนเขียนโกหกเป็นซีรี่ย์เชียว

อ่านหัวกระทู้ยังแปลกใจว่าเป็นไปได้เหรอ พออ่านเนื้อความปุ๊บ ก็ อ๋อ มันมาตอแหลหลอกด่า ปชป แค่นั้นแหละ
ว่าแต่ อยู่ในทีมเขียนบทเฟซบุ๊คให้โอ๊คหรือเปล่า เนื้อความบางตอนเหมือนกันยังกับแกะ

หรือสมองเสื้อแดงมีแพทเทิร์นเดียวก็ไม่รู้

อ่านดูแล้ว พยายามจะเสียดสีฝั่ง ปชป ซะมากกว่า ทั้งโพสต์เขียนด่า ปชป โดยยกไอ้โต้งมาเป็นตัวเสริมเท่านั้น

ผม งง ว่า เสื้อแดงที่ชื่อล็อคอินว่า ทวดเอง ยังโกหกในเรื่องที่ตัวเองเขียนอยู่เลย แต่ถามหาสปิริตจากไอ้โต้ง

เหอ เหอ เหอ ก็ไอ้คนที่เขียนขอให้เขาลาออก มันก็ยังพูด โกหก ซะตั้งหลายเรื่อง
แล้วใครจะไปเชื่อมันที่บอกให้ลาออก ว้า 55555555555555555555555

ในความคิดเรา มันไม่เสียหายนะ ถ้าจะฟังเรื่องดีๆและถูกต้องที่เคยได้ฟังแล้วอีกครั้ง (หลายๆคนเองก็เพิ่งจะเปิดใจ เลิกปิดหูปิดตาตัวเอง เลิกอุดปากอุดจมูกประเทศชาติ และยอมออกมารับฟังความจริงเช่นกัน) บ้านเมืองเป็นแบบนี้ ยิ่งต้องอดทน เพราะไม่เช่นนั้น บรรดาพวกที่คอยจ้องอยู่แล้ว เขาก็ชนะเอาประเทศไปยำเละเทะ ได้ง่ายๆอย่างแน่นอน ก็เพราะว่าคนดีเบื่อที่จะ ฟังดี คิดดี และทำดีนั่นแหละ

วิมล ไทรนิ่มนวล
ถูกใจแล้ว · ประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว

แด่..
รัฐบาลไทย
............................................

"ข้าพเจ้าสุดความสามารถที่ให้ความเคารพนับถือ หรือชอบพอแก่รัฐบาล ซึ่งเคลื่อนจากความผิดประการหนึ่ง ไปสู่ความผิดอีกประการหนึ่ง เพื่อปกป้องความมั่นคงทรงอยู่ของตนเอง.."


รพินทรนาถ ฐากูร
๑ สิงหาคม ค.ศ.๑๙๒๐







วิมล ไทรนิ่มนวล
ถูกใจแล้ว · 3 นาทีที่แล้ว

แด่...
รัฐบาลไทย(๒)
........................................

"ข้าพเจ้าเห็นว่ารัฐโง่เง่า...ไม่มีปัญญาแยกได้ว่า ใครเป็นมิตร ใครเป็นศัตรู ข้าพเจ้าหมดความเคารพในรัฐ และซ้ำรู้สึกสงสารมันด้วย"


เฮนรี เดวิด ธอโร
กวีและนักเขียนความเรียง
ชาวอเมริกัน เกิด ค.ศ.๑๘๑๗