Jump to content


เพื่อไทยทำได้ทุกอย่าง

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 13 กรกฎาคม 2555
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: ส่วนตัว
*****

Topics I've Started

ปลายอ้อกอแขม ตอแหลสุดซอย

10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 13:02

...หากเราต้องเสียพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ให้กัมพูชาไปคราวนี้ ต้นตอก็คือพรรคประชาธิปัตย์ !.
Today, 07:30 AM (This post was last modified: Today 07:53 AM by ปลายอ้อกอแขม.)
posted_.png Post: #1
  ปลายอ้อกอแขม buddy_online.gif 
Senior Member

 

...หากเราต้องเสียพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ให้กัมพูชาไปคราวนี้ ต้นตอก็คือพรรคประชาธิปัตย์ !.

ผมเชื่อโดยสุจริตใจว่า ณ บัดนี้ (10 พย.56) ก่อนวันตัดสินของศาลโลก กรณีคดีเขาพระวิหาร นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพรวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ กำลังคิดหา “ชุดคำพูด”แก้ต่างให้กับตัวเอง และขณะเดียวกันก็กำลังคิดหา “ชุดคำพูด”ใส่ร้าย เพื่อโยนกลับให้กับรัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นฝ่ายผิดเสียเอง หากศาลโลกตัดสินเป็น “ผลลบ”กับไทยในวันที่ 11 พย.56 นี้ จากนั้นก็จะพามวลชนขับไล่รัฐบาล..ผมเชื่ออย่างนั้น !


แต่หากศาลโลกตัดสินให้เป็น “ผลบวก”กับไทย ก็เชื่ออีกเช่นกันว่า คนทั้งพรรคประชาธิปัตย์ได้เตรียม “ชุดคำพูด”หรูๆเอาไว้ เพื่อยกยอปอปั้นตัวเอง เก่งกล้า สามารถ ฉลาดล้ำเหนือมนุษย์ จนชาวบ้านที่ฟังอยู่อาจอ้วกแตกเป็นลมคาม็อบ จากนั้นก็ชวนมวลชนขับไล่รัฐบาล..เหมือนเดิม


ผมยังเชื่อโดยสุจริตใจอีกว่า 2 คนนี้ คือนายอภิสิทธิ์กับนายสุเทพนั้น สามารถทำอะไรก็ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นตรงกันข้ามกับสิ่งที่ตัวเองเคยพูดไว้เสมอโดยไม่มีอาการเคอะเขินแ​ม้แต่น้อย เพราะทั้ง 2 คนนี้ ได้บรรลุแล้วซึ่งความ “ไร้ยางอาย”ทุกอย่าง และเข้าถึงแล้วซึ่ง “ความหน้าด้าน”ทุกชนิด อย่างที่ไม่เคยมีใครๆเคยได้สัมผัส ..เลวแบบไร้สารตะกั่ว !


เขาพระวิหาร ถูกศาลโลกตัดสินให้เป็นของกัมพูชาไปแล้วเมื่อปี 2505 ในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยสมัยนั้นรัฐบาลแต่งตั้งให้ มรว.เสนีย์ ปราโมทย์ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นทนายแก้ต่างฝ่ายไทย เพราะถือว่าเป็นนักกฎหมายที่เก่งที่สุดในขณะนั้น สุดท้ายก็เสียท่าแพ้คดีหลุดลุ่ย เสียเขาพระวิหาร..เพราะพรรคประชาธิปัตย์


ในปี 2543 สมัยนายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ลงนามใน MOU43 กับกัมพูชา ยอมรับพื้นที่มาตราส่วน 1:200,000 เป็นเหตุทำให้ไทยเสียดินแดนในทางนิตินัยอย่างสมบูรณ์แบบ แม้โดยพฤตินัยไทยจะยังครอบครองอยู่ก็ตาม แต่ต่อมา เขมรก็ค่อยๆลำเลียงชาวบ้านรุกเข้ามาอาศัยอยู่ในเขตของ MOU43 รอบๆเขาพระวิหาร (พท.4.6 ตร.กม.) โดยที่รัฐบาลนายชวน ก็ไม่ได้ตอบโต้แต่อย่างใด จึงเป็นเหตุให้ไทยเสียดินแดนไปโดยปริยายอีก..เพราะพรรคประชาธิปัตย์


ในปี 2550 สมัยรัฐบาลพรรคพลังประชาชนโดยนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี เขมรจะเอาเขาพระวิหารไปขึ้นทะเบียนมรดกโลกพร้อมพื้นที่รอบๆ แต่นายนภดล ปัมทะ รมต.ต่างประเทศ ได้เจรจาขอให้เขมรนำไปขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทเท่านั้น แต่พื้นทีโดยรอบนั้นถือว่ายังเป็นพื้นที่ทับซ้อน จึงตกลงจะทำเป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์ร่วมกัน เป็นข้อตกลงเรียกว่า “แถลงการณ์ร่วม(JOINT COMMUNIQUE)” ซึ่งถือว่าเขมรตกหลุมพรางไทย เพราะยอมรับว่าพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรนั้น เป็น “พื้นที่ทับซ้อน”อยู่ ทำให้ MOU43 ที่นายชวนลงนามไว้มีน้ำหนักน้อยลง เพราะขณะนั้นเขมรไม่เอามาเป็นข้ออ้าง..เป็นคุณกับฝ่ายไทย



ต่อมา ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินว่า แถลงการณ์ร่วมของนายนพดล ปัมทะ ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 190 เพราะไม่ผ่านสภาฯ จึงถือเป็นโมฆะ มีผลทำให้นายนภดลพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีไป ฝ่ายกัมพูชาจึงกลับมายึดถือเอา MOU43 ของนายชวนเป็นหลัก..เหมือนเดิม


ในปี 2551 สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องการจะ “เช็คบิล” พรรคพลังประชาชนและอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร และพยายามจะสร้างกระแสชาตินิยมให้กับตนเอง จนเกิดข้อพิพาทครั้งใหม่ มีการยั่วยุ มีคนไทยถูกจับ และมีการปะทะระหว่างทหารตามแนวชายแดน..อุตลุด


นี่เอง จึงเป็นเหตุให้กัมพูชานำคดีเมื่อ 50 ปีที่แล้วขึ้นสู่ศาลโลกอีกครั้ง เพื่อให้ตีความ “พื้นที่รอบเขาพระวิหาร” ให้ชัดเจนว่าควรจะเป็นของใคร และในวันแถลงต่อศาลโลกนั้น กัมพูชาได้กล่าวต่อศาลว่า รัฐบาลอภิสิทธิ์คืนต้นเหตุที่ทำให้กัมพูชาต้องนำคดีขึ้นสู่ศาลโลก ในคำบรรยายแถลงศาล กัมพูชาอ้างถึง MOU43 พื้นที่ 1:200,000 ที่เคยลงนามร่วมกับรัฐบาลนายชวน หลีกภัยเป็นหลัก..นี่คือข้อเท็จจริง


เริ่มต้นเมื่อกัมพูชานำคดีขึ้นสู่ศาลโลกใหม่ๆ มีกระแสให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก แต่นายอภิสิทธิ์ก็ได้แต่งตั้งทนายไปยื่นคำให้การต่อศาล ก็เท่ากับว่ายอมรับอำนาจศาลไปอีก ส่วนอีกทางหนึ่ง ก็ทำเป็นส่งคนไปกดดันคณะกรรมการภาคีมรดกโลก จะให้ถอนการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารออก แต่เมื่อไม่สำเร็จ ถึงขนาดนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนการเจรจามรดกโลกฝ่ายไทย ประกาศกร้าวด้วยการยื่นจดหมายถอนตัวออกจากภาคีมรดกโลก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ถอนจริง..แค่คำโกหก


เมื่อต่อมาถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตรแห่งพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี ก็เดินตามแนวที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ได้วางไว้ทุกประการ แม้ทีมทนายที่นายอภิสิทธิ์แต่งตั้งไว้ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ แต่ต่างกันที่ความสัมพันธ์ของไทยกับกัมพูชาเป็นไปฉันท์มิตร ไม่มีการสู้รบ ปราสาทเขาพระวิหารก็เปิดให้คนขึ้นไปชมได้ตามปกติ ชาวบ้านตามแนวชายแดนก็อยู่กันอย่างสุขสงบ..รอคำพิพากษา


ศาลโลกนัดตัดสินในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 โดยสามัญสำนึกธรรมดาๆ หลายๆฝ่ายเชื่อกันว่า 90 % ศาลโลกจะตัดสินมีผลเป็น “ลบ”กับฝ่ายไทย เพราะ MOU43 ที่กัมพูชาถือไว้เป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งสัมพันธภาพที่ดีของศาลโลกกับฝ่ายกัมพูชา รวมทั้งเหตุการณ์และสภาพแวดล้อมต่างๆที่ปรากฏทางกายภาพ..ไทยไม่น่าจะรอด !


หากโชคดี ศาลโลกอาจเห็นว่าจะเกิดความขัดแย้งถึงขั้นมีสงครามระหว่างประเทศ ศาลอาจบอกว่า ไม่รับตีความ เพราะไม่มีอำนาจ ให้คงอยู่ในสภาพเดิม และให้ไทยกับกัมพูชาไปตกลงกันเอง จะเอาอย่างไร แล้วค่อยมาบอกศาล อย่างนี้ถือว่าเจ๊ากันไป ..ไทยรอดตัว!

1461752_352155551595461_448182935_n.jpg
ขอบคุณเจ้าของภาพ (ใครก็ไม่รู้)

แต่หากโชคร้ายขีดสุด ถ้าไทยต้องเสียพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ให้กัมพูชาในครั้งนี้ไปอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว ก็ขอให้รู้ไว้ด้วยว่า “พรรคประชาธิปัตย์นั่นแหละ คือต้นตอแห่งการเสียดินแดนของไทยในปี 2556” โดยนายชวน หลีกภัย เป็นคนเปิดประตู MOU43 ให้กัมพูชาก่อน ส่วนนายอภิสิทธิ์ เป็นคนจูงมือกัมพูชาเข้ามาในบ้าน โปรดดูหน้ากันไว้ให้ชัดๆ ทั้ง 2 คนนี้ยังมีชีวิตอยู่ ทั้ง 2 คนนี้ยังเป็นนักการเมืองอยู่.. และทั้ง 2 คนนี้ก็อยู่พรรคประชาธิปัตย์ !!!
 

การอัพเกรดครั้งใหญ่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา

9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 18:59

เหล่าบรรดาแกนนำกำลังประกาศว่า ควายขี้ข้าพวกนี้มีเจ้าของนะโว้ย   :angry:

 ไม่ใช่ควายหลง ห้ามใครนำไปใช้งานโดยเด็ดขาด   :lol:

 

1457724_761918663834061_1592747504_n.jpg

 

 

 

 


สองวันมานี้บนเวทีมันอะไรกันคะ

9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 12:48

ไม่ทราบว่ามีใครสังเกตรึเปล่า ครั้งแรกได้ยินจากไตรรงค์ เรื่อง ปฏิรูป  สักครู่หมาดๆจากพี่ปองก็เน้นย้ำกันเรื่องปฏิรูป ใครพอจะให้ความกระจ่างได้บ้างคะ พวกเขากำลังพยายามส่งสัญญาณอะไรกับคำนี้ 


เจอแล้วหลักฐานความชั่วของอภิสิทธิ์

25 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 18:26

สามปีหาได้เท่านี้แหละ :D  :lol:  :P

 

 

 

464857-01.jpg

 

 

 

 

 

13273038611327303921l.jpg


ปชป สู้โว้ย !!

19 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 19:07

เป็นอันว่าการเจรจาระหว่าง ปชป กับ พธม บนเงื่อนไขของ สนธิ ลิ้มทองกุล ที่ว่า ปชป ต้องลาออกจาก สส มาสู้ข้างถนนนั้นได้ข้อสรุปลงแล้วอย่างเงียบเชียบท่ามกลางความผิดหวังของใครหลายๆคนที่อยากให้ทั้งสองฝ่ายมาร่วมกันตี คือ ทั้งสองฝ่ายจะแยกกันเดินยังไงช่าง  แต่มาร่วมกันตีแล้วกันเพราะมีเป้าหมายเดียวกัน หรืออะไรทำนองนี้ แต่ส่วนตัวแล้วต้องบอกว่าดีใจจริงๆที่บทสรุปมันออกมาตามที่ตัวเองคาด

 

ไม่ได้ตั้งแง่อะไรหรอกค่ะ  ไม่ได้รังเกียจรังงอน พธม แม้จนป่านนี้พวกเขาบางคน  เน้นนะคะ บางคน ยังขึ้นเวทีด่าประณามคนที่จะร่วมตีกับเขาอย่างเมามันอยู่ที่สวนลุมฯโดยที่แทบจะไม่แตะคนหนีคุกเลยเพราะมันเลวน้อยกว่าอภิสิทธิ์ตั้งสามเท่า !! แต่ที่บอกว่าดีใจนั้นก็เพราะเงื่อนไขของ สนธิ ลิ้มทองกุล เป็นสิ่งที่คนที่กาเลือก ปชป มาตลอดอย่างฉันไม่อาจรับได้ต่างหาก

 

ฉันเลือก สส มาด้วยความหวังให้เขาไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรเต็มกำลังความสามารถ สู้ตามที่กฎหมายได้เปิดช่องทางเอาไว้ ไม่ได้เลือกให้เขาเดินลงถนนทันทีที่รู้ตัวว่าสู้ในสภายังไงก็แพ้

หลายคนอาจสงสัย ทั้งยังฮึดฮัดขัดใจฉันเหลือเกินว่า รู้ว่าแพ้แล้วจะสู้ไปทำไม  ฉันก็ขอตอบไปตามประสาของฉันว่า  อย่างน้อยการยืนหยัดสู้สิ่งผิดด้วยหลักการที่ถูกต้องสังคมต้องได้รับรู้รับเห็น แล้วจะช่วยกันตอบสนองให้ความถูกต้องนั้นคงอยู่ในสังคมของส่วนรวมต่อไป ดีกว่าเห็นลางแพ้ก็รีบยกธงขาวหันหลังให้หลักการเดินลงถนนไปเสียดื้อๆ

 

ที่สำคัญมันไม่ใช่มีแต่ พรบ นิรโทษกรรมอย่างเดียวเท่านั้นไม่ใช่หรือคะที่ ปชป ต้องยืนหยัดสู้ให้ถึงที่สุด แต่มันยังมี พรบ เงินกู้อีกมหาศาล  ยังมีอะไรอีกก็ไม่รู้ที่รัฐบาลนี้หมกเม็ดเอาไว้รอที่จะงุบงิบผ่านเอาเงียบๆโดยไม่ให้ประชาชนรับรู้  ซึ่งเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านอย่าง ปชป ที่จะเปิดเผยมันออกมาให้สังคมได้เห็นถึงพฤติกรรมของรัฐบาลแล้ววินิจฉัยด้วยกำลังความสามารถแห่งสติปัญญาของตนเองว่าเป็นยังไง เหนืออื่นใดช่องทางตามกฎหมายก็ยังมีให้เดินจะรีบร้อนเรียกร้องให้ ปชป ลาออกจาก สส ทั้งคณะมาทำไมกันป่านนี้

 

ฉันเลือก ปชป สนับสนุน ปชป ให้เดินตามระบบรัฐสภา แม้จะรู้ว่าแพ้เสียงฝั่งรัฐบาลที่มีมากกว่า เพราะฉันเลือกพรรคนี้ ไว้วางใจพรรคนี้ให้มาทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงแทนไม่ว่าจะอยู่ในฐานะรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน  ที่สำคัญฉันยังไม่เคยเห็นการชุมนุมครั้งไหนที่สามารถล้มรัฐบาลได้เลยสักครั้ง แม้กระทั่งการชุมนุมของ พธม ที่ว่ายิ่งใหญ่เกรียงไกรก็ย้อนไปดูเอาเถอะว่ารัฐบาลของทักษิณพ้นจากอำนาจอันฉ้อฉลของพวกมันด้วยเหตุผลกลใดกันแน่

 

สู้ต่อไปค่ะ ปชป  ต่อสู้ด้วยหลักการที่ถูกต้องแล้วคุณจะชนะ อย่างน้อยก็ชนะหัวใจของคนที่เลือกพวกคุณมาด้วยความศรัทธาและภาคภูมิใจว่าพวกเขาเลือกไม่ผิด  ส่วนคนที่เรียกร้องให้ สส ลาออกมาสู้ข้างถนนโดยเปิดโล่งสภาฯให้รัฐบาลข่มขืนปู้ยี่ปู้ยำเอาตามใจชอบลองหยุดถามตัวเองสักนิด พวกคุณรักชาติ รักความถูกต้องยังไงจึงตั้งเงื่อนไขไม่เป็นสัปรดหมาแบบนี้ขึ้นมาได้ ?

 

 

news_img_522042_1.jpg

 

 

http://www.oknation....3/08/19/entry-1