Jump to content


Lelouch Vi Britannia

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 25 กรกฎาคม 2555
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2555 21:11
-----

Topics I've Started

นี่คงจะเป็นกระทู้สุดท้ายในวัยเด็กนี้ มีหลายอย่างที่ต้องสะสาง

11 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 19:10

ถ้าจะเอาแต่เนื้อก็ขอให้ดูที่ส่วนสีน้ำเงินอย่างเดียวพอนะครับ ส่วนใครจะฟังผมบ่นเป็นกระทู้สุดท้ายก็ไม่เป็นไร :P
.
.
.
ทุกท่านในนี้ส่วนใหญ่อาจทราบดีว่าผมเป็นเพียงเด็กเนิร์ดธรรมดาซึ่งสนใจเรื่องของผู้ใหญ๋เป็นพิเศษ แน่นอนสาเหตุที่ทำไมผมถึงมีความสนใจอันผิดแปลกจากคนทั่วไป ก็เพราะผมนั้นอยากที่จะได้เข้ามาทำงานการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่ถนัดที่สุดของผม แม้ทุกอย่างมันอาจจะเป็นแค่เรื่องเพ้อฝัน แต่ผมก็เชื่ออย่างนึงว่า ทุกสิ่งทุกอย่างจะยังไม่เห็นผลหากยังไม่ได้กระทำลงไป ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ ก็ขอแค่ทำลงไปก่อน แน่นอนมันก็ยังดีกว่ามาเสียใจภายหลังทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรเลย มันอาจจะเป็นความดื้อรั้นของผมเอง ยอมรับว่าผมเองก็ไม่ได้เพิ่งศึกษาแบบเอามันเสียกระไร เมื่อย้อนไปแล้วทุกอย่างนั้นมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อตอน 19 กันยา 49 ในขณะนั้นผมเป็นเพียงเด็กแปดขวบที่มองโลกในแง่ร้าย ขี้อาย ไม่รู้จักซึ่งสังคม สงวนท่าทีตลอดเวลา ทำให้ดูเหมือนว่าผมเป็นคนขี้เก๊กซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ใช่ มีสิ่งนึงที่มันแปรเปลี่ยนความคิดผมได้ คือการได้เปิดปากพูด ซึ่งการพูดมันก็ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายอะไร ผมจึงได้ทำในสิ่งที่คิดว่าถูกต้อง แม้จะยังกลัวว่า จะโดนด่าโดนชม ถูกซุบซิบนินทา และผมก็ไม่เสียใจเลยจริงๆ ที่ยอมเปิดปากพูดออกมา ยอมรับตัวเองว่าตัวเองเป็นคนแบบนี้ ซึ่งย่อมทำให้หลายๆอย่างรอบๆตัวผม เปิดกว้างขึ้น มันทำให้ผมได้อ่านความคิด ความเห็นคนอื่นแบบตั้งแง่ ผมเองคนนึงที่มีความอยากรู้อยากเห็นสูง ทำไมคนๆนั้นถึงทำอย่างนี้ ทำไมถึงมีการรังเกียจ ทำไมถึงเศร้า ทำไมถึงสนุกบลาๆๆๆ ในหัวเต็มไปด้วยคำถามเพราะก่อนหน้านั้นผมมันเป็นคนขี้อาย จะถามอะไรต่อมิอะไรก็ไม่กล้าซึ่งมันทำให้ผมเรียนรู้ถึงชีวิตมนุษย์นอกจากตัวเองและครอบครัว แล้ววันนั้นมันก็เริ่มต้นขึ้น ผมตื่นมาพร้อมกับอาการตกใจบนนาฬิกาซึ่งเวลานั้นผมควรจะอยู่ที่โรงเรียนแล้ว พอเดินออกจากเตียงเพื่อไปดูทีวีผมเห็นพ่อกับแม่กำลังดูทีวี แน่นอนตอนนั้นเองคือคำประกาศของคมช. ซึ่งหนังสือพิมพ์ฺบนพื้นเขียนชัดเจนเลยว่า ปฏิวัติ (ตอนนั้นผมยังงงเลยว่าไอ้คำว่าปฏิวัตนี้ิมันคืออะไรแน่ ก็ได้ท่านพ่อนี่แหละชี้แจงให้กระจ่างว่าจริงแล้วความเป็นมามันคืออะไร) พอผมถามพ่อว่า ทำไมวันนี้ไม่ไปทำงาน แล้วไม่ปลุกหนูไปโรงเรียนหรือ ทั้งๆที่ก็ไม่ใช่วันหยุึด มันเป็นวันอังคารซึ่งผมจำได้แม่นก็เพราะว่า โรงเรียนมีชั่วโมงว่ายน้ำ ความรู้สึกแรกเริ่มเลยคือ เหมือนกับตัวผมเองได้ตายไปแล้วเพราะทุกๆอย่างที่เกี่ยวดองกับเราถูกปิดกั้นหมด ออกมาร้านค้า ก็พร้อมใจกันปิดพรึบ ความรู้สึกที่ว่าไม่มีอะไรทำจริงๆนั้นมันเป็นอย่างงี้นี่เอง เืมื่อผ่านวันนั้นมา ผมก็เริ่มมองการเมืองในเชิงลึกมากขึ้นโดยตามความคิดอ่านของพ่อ ไม่ว่าใครจะทำอะไร ผมจะถามพ่อท่านตลอดว่า ทำไมเขาถึงทำ ทำไปได้อะไร ซึ่งมันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลย ผมมองคนที่ชื่อว่าทักษิณ เป็นคนที่มีอิทธิพลมาก ถึงขนาดทุกๆอย่างเกิดขึ้นได้เพียงเพราะคนๆเดียว และก็เพราะคนๆนี้ที่ทำให้ผมได้อ่านรัฐธรรมนูญครั้งแรก ก่อนลงประชามติ ถ้าทุกคนจำได้ เล่มสีเหลืองๆที่ผ่านการเห็นชอบนั่นหล่ะมันคงเป็นจุดเริ่มต้นจริงๆ แม้บางอย่างหรือหลายๆอย่างของหนังสือทั้งเล่มจะมีสิ่งที่ผมไม่เข้าใจอยู่บ้าง แต่มันก็เป็นจุดเริ่มต้นของความคิดอันเป็นเหตุเป็นผลของผมในบางครั้งเป็นลางๆแล้วละนะ ผมเริ่มเข้าใจว่า บางสิ่งที่เรากลัวและไม่กล้าทำนั้นมันสามารถทำได้ โดยไม่ต้องมีอะไรให้ต้องวิตก เพราะกฎถูกกำหนดจากตรงนั้น นั่นคือสิ่งที่พ่อผมได้บอกไว้ การศึกษาต่อมาคือการดูสมุดพก จริงๆครับ มันเริ่มด้วยสมุดพกเมื่อตอนจบ ป.4 เพียงเล่มเดียวในด้านหลังนั้นจะมีวงกลมที่แสดงวิสัยทัศน์อยู่ผมเริ่มศึกษาสังคมจากเพียงแค่จุดเล็กตรงนั้นเพียงแค่นั้นจริงๆ จุดเริ่มต้นคือตัวเอง ซึ่งเป็นวงกลมที่เล็กที่สุด ต่อมาก็คือบ้านหลังจากนั้นก็เป็นโรงเรียน โรงเรียนเป็นชุมชน ชุมชุนเป็นสังคม สังคมเป็นประเทศ ประเทศเป็นโลกซึ่งเป็นวงกลมที่อยู่นอกสุดแต่ใหญ่ที่สุดผมมองว่าทำไมเราเองยังอยู่ที่ตรงนี้เองน้า... ซึ่งแนวคิดตรงนี้ทำให้ผมเคยบอกกับพ่ออย่างนึงว่า อยากออกไปข้างนอก ไปดูโลกกว้าง จนบางครั้งผมเคยคิดว่า อยากจะเที่ยวรอบโลกให้ได้ซักรอบ ซึ่งมันทำไม่ได้่ แต่ใจจริงก็ยังหวังอย่างงั้นอยู่
แต่เมื่อเริ่มโตขึ้นผมมองว่าบางสิ่งที่อยากรู้ บางสิ่งที่อยากเห็น มันไม่เป็นความสุขอีกต่อไป แรกๆก็ทำใจไม่ได้อยู่หรอก แต่เวลามันผ่านเลยไป ทำให้ชาชินไปเอง แม้วันนี้ผมจะยอมรับได้ แต่ก็ไม่ได้ตอบรับโดยดุษฎี หากเรารับไม่ได้ก็มีเพียง 2 วิธี คือ หลีกหนี กับ เปลี่ยนแปลงมัน ซึ่งผมยึดเอาเป็นบรรทัดฐาน ในการแสวงหาความรู้ตอนนี้ สิ่งที่เราทำได้ สิ่งที่เราอยากทำ สิ่งที่เราปราถนา สิ่งที่เราภาวนาและคิดถึง หากสิ่งเหล่านี้มีความเกี่ยวดองกันในเรื่องเดียวละก็ ผมก็จะทำ พร่ามมามากละ
แม้รู้ว่าเพียงลำพังนั้นไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ผมถึงใฝ่หาใครซักคน ใครซักคนที่เติมเต็มคำภาวนา ใครซักคนที่เติมเต็มความปราถนา หากว่าผมจะขอเพียงสิ่งเดียว เส้นทาง มันคงเป็นสิ่งสุดท้ายที่อาจได้จากบอร์ดนี้ เพราะอีก 7ปีข้างหน้า ผมไม่รู้ว่าจะได้กลับมาเห็นอีกหรือเปล่า สำหรับผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองทั้งหลาย จริงๆแล้วก็คงเป็นพรรคเดียว พรรคนี้ที่บอร์ดเราเอาใจช่วย พูดตรงๆแล้ว ผมอาจจะขอแค่คุณผึ้งน้อยคนเดียวก็ได้ เอาเหอะ เส้นทางสู่วงการเมืองนี้ จริงๆแล้วผมอยากถามหาประตูขึ้นเวทีหน่อยน่ะครับ พอจะมีบ้างไหม ถึงจะรู้ว่าเข้ายาก แต่ประตูไหนก็ได้ ผมเข้าได้ทุกวิธีอยู่แล้ว แต่ขอไอ้ที่มันง่ายที่สุดก็พอ เพราะผมเองก็ไม่ได้มีเส้นสายอะไรกะเค้ามากนัก ครอบครัวผมมีแต่เส้นสายฝั่งศัตรูคือ รองฯเป็ด ณ บางบอน คนเดียวถึงฝากได้ก็ไม่ได้ดีใจอะไรเลยกับคนฝั่งนี้ ยังไงก็ ขอความกรุณาด้วยครับ ถ้าพูดสาธารณะไม่ได้่ก็ PM มาเหอะ เพราะเมื่อได้ข้อสรุปเมื่อไหร่ ผมก็จะจากบอร์ดนี้รวมทั้งสังคมออนไลน์ เพื่อไปศึกษาอย่างเต็มตัว มีเพียงเท่านี้จริงๆ

สาเหตุของความโง่เขลา"การบิดเบือนข้อมูล ข้อเท็จจริง" โดยใช้จิตวิทยา

8 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 16:07

ขอยกตัวอย่างง่ายๆแค่เว็บ วิกิ ก่อนนะ http://th.wikipedia....าภูมิพลอดุลยเดช
ซึ่งการตั้งกระทู้ครั้งนี้ ก็เพราะจากนิสัยเสียที่ชอบฟังหูไว้หูนั่นละ ซึ่งมันนำมาสู่ความโลเล
เพราะด้วยผมเองก็เป็นคนรุ่นใหม่ ซึ่งไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จริงแต่อย่างใด บางครั้งก็มีการกล่าวหาในทางเสียหายๆ กับสถาับัน โดยวิธีง่ายๆครับ จิตวิทยา ลองไปดูคอลัมพ์บทบาททางการเมืองดูครับ หากมีความจริงมาเสนออย่างไร ก็ช่วยแจงให้กระจ่างด้วยครับ เพราะส่วนใหญ่ประวัติศาสตร์จะบิดเบือนไปทางใดก็ได้ ซึ่งแล้วแต่คนจะเขียน โดยวิธีนี้เป็นการชี้แจงความจริงเพื่อไม่ให้ถูกโน้มน้าวโดยเพจล้มเจ้าครับ
ปล. ถ้าวิเคราะห์ตามความเชื่อของผมแล้วนะ ผมว่ามันมีหลักง่ายๆให้คำลวงกลายเป็นคำพูดจริงอยู่นะ วิธีนี้เพจล้มเจ้าหลายเพจที่นำข้อมูลมาเสนอจักเสมือนการโน้มน้าวโดยใช้คำพูดที่เป็นภาษาบ้านๆชัดๆ แล้วให้ไปดูเหตุการณ์ที่เขียนด้วยภาษาสองแง่สองง่าม เสมือนให้คำพูดก่อนหน้ากลายเป็นความจริงไปในที่สุด ส่วนตัวอย่างให้ไปดูที่ลิงค์นะ ไม่อยากจะเอามาลงให้เสียพระเกรียติ หากไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด และหากไปอ่านดูขอความกรุณาพกสติไปด้วยนะครับ เพราะช่วงแรกผมเข้าไป ออกมาก็เซเหมือนกัน หากไม่หนักแน่นจริงๆ ก็ลำบากครับ

อยากให้ล่ารายชื่ิอในการแก้ไขป.อาญามาตรา 112ด้วยครับ

5 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 21:55

โดยเพิ่มโทษจาก จำคุก 3-15 ปี เป็นประหารชีวิต :lol: :lol: :lol:
เพราะดูแล้วขนาดวันนี้พวกมันยังโชว์สันดานที่ดี๊ดี มาให้เราชม :angry: :angry: :angry: ตีความกันให้ดีๆนะครับจะบอกได้เลยว่าระยำมากกับมติชิน
Attached File  478243_472505946126288_1333428431_o.jpg   116.61K   76 downloads
ป.ล.คหสต. ล่ารายชื่ิิอไอ้พวกนี้ไว้ด้วยก็จักขอบคุณมากๆนะ นี่อาจเป็นการคาดการของผมก็ได้ แค่วันนี้มันยังทำได้ขนาดนี้ แล้ววันอื่นมันจะขนาดไหน
ดูแล้วสถิติการแสดงออกของพวกมันค่อยๆเพิ่มขึ้นทุกวันๆ ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป อีก 8 ปีคงได้เห็นม็อบประท้วงพระเจ้าอยู่หัวแน่ เพราะทุกวันนี้รัฐบาลคุมสื่อได้อย่างอยู่หมัดประชาชนส่วนใหญ่ยังต้องรับข่าวสารจากทางทีวีอยู่ ซึ่งสภาวะเช่นนี้อาจเกิดสภาวะเกาหลีเหนือ 2 ก็เป็นได้ อย่าลืมนะครับว่า ถ้าถูกเป่าหูจากสื่อทุกวันๆ มันจะคล้อยตามไปเองแม้สื่อฟรีทีวีจะไม่แสดงให้เห็นแต่ต้องยอมรับว่าหนังสือพิมพ์พวกนี้ ประชาชนจะรับข้อมูลได้ดีกว่าสื่ออื่นๆรองจากทีวีเลย ฉะนั้นในเวลานี้ วงการหนังสือพิมพ์ได้ถูกครอบงำเกือบสมบูรณ์แล้ว เหลือแค่เดลินิวส์ กับคมชัดลึกเท่านั้นประชาชนก็เหมือนบอดข้างเห็นข้างแหละครับ เพราะฟรีทีวีก็ถูกดักไว้แล้ว

มหากาพย์ดราม่า ตอนสุดท้าย ข้อคิดที่คนไทยต้องจดจำไปอีกนาน

18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 22:14

วันนี้เป็นการแข่งขันฟุตซอลโลก ชิงชนะเลิศ ซึ่งผมเองก็เพิ่งรู้ และอีกอย่างที่รู้เพิ่มขึ้นมาก็คือ เค้าใช้สนามหนองจอกที่ทุกคนบ่นกันไป บ่นกันมา สิ่งที่ได้จากเรื่องนี้ผมว่า มันทำให้ผมรู้ มีัคนที่เอาแต่ด่า มีคนที่เอาแต่โบ้ย มีคนที่เอาแต่ผลประโยชน์เข้าตัว มีคนที่อุตสาหะ มีคนที่พยายาม มีคนที่รับผิดชอบ
แน่นอนมันเป็นสัจธรรม เพราะโลกนี้ ความหวังดีและหวังร้าย ก็แค่หน้าหลังไพ่ใบนึง ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เราก้าวต่อไปข้างหน้า ไม่ว่าจะเจอกับความกดดันแค่ไหนก็ตาม ผมว่าทุกคนยังจำได้อยู่ คงไม่มีใครที่ขี้หลงลืมง่ายถึงขนาดวันสองวันลืมไปหมดแล้ว ในตอนที่เราได้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตซอลโลก ทุกคนดีอกดีใจกันใหญ่ พอมาถึงการสร้างสนามฟุตซอล เริ่มแรกก็ยังไม่มีอะไร แต่พอเริ่มมีปัญหา เหลือบไรเริ่มเอาหน้าทันที บางคนก็ด่าฉอดๆๆๆ บางคนก็ด่าฟีฟ่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้ ลืมอะไรไปหรือเปล่า สติ บางที ในหนังสือพิมพ์ก็ตีข่าวโคมลอย บางทีก็ตีความจริง คนที่ปักใจเชื่ออย่างไม่ได้คิดอะไร ผมไม่อยากจะบอกว่า พวกเสียงส่วนใหญ่ึคงเป็นอย่างงี้กันทุกคน บ่นโดยไม่คิดหรอกว่าข่าวนั้นจริงหรือเปล่า ขอแค่ได้บ่นไว้ก่อนเป็นพอ

ผมขอนำเหตุการณ์ในบอร์ดเป็นหลักแล้วกันนะ เพราะผมว่าในบอร์ดนี้ คงเป็นกระบอกเสียงจากประชาชนส่วนใหญ่ที่มีวุฒิภาวะได้เป็นอย่างดี และมีหลากเสื้อหลากสี หลากลัทธิ หลากศาสนา จะเห็นได้ว่า ในบอร์ดนั้น มีคนที่เหยียดหยามคนไทยกันเอง หลายคนก็อยากให้ไทยทำอะไรก็ล้มเหลว เหลือบไร เกาะกิน สูบแผ่นดินประเทศไทยให้ต่ำลงพวกนี้ คำถามแรกที่ออกมาในหัวก็คือ ไอ้พวกนี้คนเขมรป่าวว๊ะ อะไรฟระเนี่ย ตัวเองไม่ทำ ห่-าอะไร ดีแต่ไปว่าเขา คนแบบเนี้ย ถ้าอยากให้ประเทศเดินไปข้างหน้าก็ต้องกำจัดพวกนี้ออกไปก่อน เพราะคนพวกนี้คือตัวถ่วงความเจริญอย่างยิ่งยวด ข้อคิดที่สองเลยก็คือ มันสะท้อนครับ ว่าสันดา-นคนจริงๆนั้นเป็นอย่างไร ใครเห็นแก่ตัว ใครเห็นแก่ได้ ในที่ปรากฎเป็นข่าวแล้วทีนี้ก็เอามาลงกัน
หลายท่านก็ได้วิจารย์คนเหล่านี้ไป ในทางที่ดีและในทางเสียๆหายๆ ตอนนี้ก็มีการโบ้ยกันแล้ว ผมว่าเราไม่ควรถามหาว่าใครผิด แต่สิ่งที่ควรจะคิดต่อก็คือ เมื่อเกิดปัญหาจะแก้อย่างไร เรื่องพวกนี้เราไม่จำต้องหาใครมารับผิดชอบหรอกครับ เพราะที่ต้องรับผิดชอบมันก็คือพวกเราทุกคนที่เป็นคนไทยอยู่แล้ว อย่างน้อยเราก็ได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้มา ผมว่าสังคมไทยมันควรจะไปไกลกว่านี้เยอะนะ ถ้าเราเอาอดีตนี้เป็นบทเรียน
และส่งท้าย ไม่ว่าเราจะเจอกับสถานการณ์ ย่ำแย่แค่ไหน ก็ขอให้เรามีสติไว้ก่อน ปัญหามีทางแก้เสมออยู่ที่ว่าจะเจอหนทางรึเปล่า พวกเราคนไทยก็ควรให้กำลังใจคนไทยด้วยกันนะ ผมว่้ามันคงเป็นสิ่งที่ดีทีเดียว ใครทำผิดพลาดอะไรหรือเกิดอะไรขึ้นผมขอแค่ให้เตือนสติเค้า หรือหากว่าเรามีทางแก้ไขก็ควรบอกไปตรงๆ ด่าคนอื่นหน่ะด่าได้ แต่มันก็ควรด่าอย่างมีเหตุผลนะ ผมว่าในนี้ก็โตๆกันแล้ว คงไม่แคล้วดื้อรั้นไม่ฟังเด็กอีก

ขอถามคนที่อยู่3จว.ชายแดนภาคใต้หน่อยครับ

2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 19:58

เคยเห็นอยู่บ้างในเสรีไทย คนอยู่ 3 จว.
พอดี ไปเข้าค่ายตั้งแต่วันศุกร์ ค่ายทหารนาวิกโยธิน เพิ่งกลับมา 6 โมงวันนี้เอง

เข้าค่ายวันแรก ตอนกลางคืนทหารเขาทดสอบความกล้าก่อนหน้านั้นเค้าเล่าว่า
3 จว. มีพวกพี่น้องทหารเขาตายที่นั่นก็พอสมควร เค้าเล่าว่าัมันเป็นกระบวนการ
แบ่งแยกดินแดน แล้วเค้าก็เล่าสัพเพเหระอะไรไป แต่ที่ผมสนใจก็คือ
เค้าบอกว่ามี สส.พื้นที่อยู่เบื้องหลัง แล้วเค้าก็ไม่บอกว่าเป็นใคร เรื่องนี้คาใจมาก อยากจะถามแต่ก็ไม่กล้าถาม
พอมีใครจะรู้บ้างไหม ถ้านั่นตอบหลังไมค์ก็ได้ อยากรู้จิงๆ :blink: :blink: :blink: