PriFa

ดร. บอกว่า เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง  แล้วก็บอกว่า สัจธรรมยืนอยู่ข้างคนส่วนใหญ่ 

 

ส่วนผมเห็นว่า  สัจธรรมคือความถูกต้อง และเป็นความถูกต้องที่คนส่วนใหญ่ (หรือทั้งหมด) จะเห็นด้วย (โดยไม่นับเงื่อนเวลา) 

แต่ความถูกต้อง (ทุกอัน)  ไม่ใช่สัจธรรม  

 

เช่น สัจธรรมที่ว่า "คนเราทุกคน เกิดมาแล้วต้องตาย"  ซึ่งเป็นความถูกต้อง

คนตกจากที่เครื่องบินที่บินอยู่ในระดับสูงตาย ก็เป็นความถูกต้อง แต่ไม่ใช่สัจธรรม เพราะอาจมีบางคนไม่ตาย

 

ดังนั้น คนส่วนใหญ่ (ในที่สุดแล้ว) จะกลับมายืนอยู่ข้างสัจธรรม (เมื่อรู้ และเข้าใจ) ต่างหาก

อืมมม

มีคนบอกว่า

อเมริกา ไฟฟ้าดับ ไม่เห็นต้องมีใครลาออกเลย

 

แต่ผมเคยเห็นข่าว

ญี่ปุ่น เกิดอุบัติเหตุรถไฟตกราง  รมต. ลาออก

ญี่ปุ่น เกิดเหตุคนร้าย ปล่อยแก๊สพิษ ในสถานีรถไฟ  รมต. ลาออก

 

ทั้งสองประเทศนี้  เห็นคนที่บอกว่าเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ  ย้ำนักย้ำหนา เป็นประเทศประชาธิปไตย ทั้งสองประเทศ

ถ้างั้น ผมว่า มันคงไม่ใช่เรื่องประชาธิปไตยแล้วมั้งครับ  มันคงเป็นเรื่องของความรับผิดชอบซะมากกว่า

เขาตั้งใจทำนะ

 

เพราะหมอดูบอกว่า  หาก r อยู่ทางด้านซ้ายของ n แล้ว ห้ามให้ a เข้าใกล้ทางด้านขวา  

ไม่งั้น ม๊อบจะมาประท้วงได้สำเร็จ   กลุ่มเสื้อแดง51 จะยันกลุ่มประท้วงไม่สำเร็จ ทำให้ "ปลอด" เสียขวัญกำลังใจ

 

แถแบบนี้  พอไหวไหมครับ     

กรณีชัย ราชวัตร ก็ไม่ได้เอ่ยชื่อใคร เสื้อแดงยังเป็นเดือดเป็นแค้นเลยครับ

 

ก็เสื้อแดงเป็นคนฉลาด ไม่ต้องเอ่ยชื่อ พวกเขาก็เข้าใจและรู้ในทันที  

บางเรื่องแค่ แกนนำเอ่ยอะไรนิดหน่อย แล้วตามด้วย "ใคร ๆ ก็รู้" เท่านั้นแหละ  เหล่าเสื้อแดงจะรู้ในทันใดเลย     

ไม่ทราบว่าใครเป็นอย่างผมมั้ง มีบางคนผมย้ำว่าบางคนนะ ผมไม่ตอบกระทู้เขาเลย อาจแวะไปอ่านแล้วเลยไม่ตอบปล่อยผ่าน

 

ไม่ขอยกว่าใคร แต่บางคนไม่ตอบไม่ยุ่งจริงๆ

 

ท่านเป็นแบบผมไหม?

 

สำหรับผมแล้ว ชอบอ่าน เพราะเป็นการเพิ่มทักษะ  จะได้อ่านคล่อง ๆ (ตอนวัยเรียน ดันไม่ขยันเรียน เลยอ่านไม่ค่อยเก่ง)

อย่างตัวแดงข้างต้น กว่าผมจะอ่านได้เข้าใจ  ก็ต้องแยกคำอยู่หลายวิ  

ซึ่งก็เป็นอีกสาเหตุที่ผม ไม่ค่อยตอบเท่าไหร่ เพราะกลัวเขียน (พิมพ์) ผิด แล้วจะกลายเป็นคนละความหมาย     

การที่ห้องทำงานของใครบางคน...  ไม่ได้เอารูปพ่อรูปแม่ หรือคนที่เค้าเคารพรักมาติดเค้ามาติด แต่เอารูปอื่นมาติด...  

แสดงว่า เค้าไม่รักพ่อรักแม่..    เหรอ... 

 

คิดไปได้...    

 

การเอาจารีตของตัวเองไปวัดอื่น...    ซึ่งไม่แปลกครับ... ใครๆก็ทำ...

แต่ที่แปลกคือ..  พอผลไม่เหมือนกัน...  เค้าไม่เหมือนเรา.. แล้วไปด่าเค้า...    ไปทาสีเค้า... 

 

แบบนี้ คนสติดีเค้าไม่ทำกัน...   

เชคดีหรือยัง ว่า ห้องทำงาน ของ สส พรรคท่าน ทุกห้องมีรูปครบ..    ระวังจะเข้าตัว...  

 

2 คนนั้นจะยังไงผมไม่ทราบ...  แต่ เอาเรื่องนี้ไปใส่ความเค้า...   เพื่อไปเลี้ยงจริตและอคติของตัวเอง..

 อนาถทั้งคนคิด และคน Like คน แชร์.. 

 

ไม่ทราบว่าคุณ Hentai จะทราบธรรมเนียมปฎิบัติของหน่วยราชการหรือไม่

แต่เท่าที่ผมทราบ ทั้งจากการค้นคว้า และรับฟัง จากผู้อาวุโส ครูบาอาจารย์ นั้น พอสรุปได้ดังนี้

 

การที่สถานที่ราชการ และ ห้องของหัวหน้าหน่วยราชการ จะมีรูปพระบรมฉายาลักษณ์ นั้น

เพราะการรับราชการ และ/หรือ ทำหน้าที่ในฐานะ รมต.

เป็นเสมือนหนึ่งการทำงานต่างพระเนตร พระกรรณ์ ของพระองค์  

เป็นการปลุกสำนึกของเหล่าข้าราชการว่า ให้รับใช้ บริการประชาชน โดยสุจริต เป็นธรรม 

อีกทั้งยามใดที่เกิดท้อแท้ หรือ เหน็ดเหนื่อยจากการปฎิบัติหน้าที่  แล้วมองดูพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์

ก็จะคิดถึงความตรากตรำ บากบั่น และวิริยะอุตสาหะ ของพระองค์ ซึ่งเป็นกำลังใจให้ปฎิบัติหน้าที่ต่อไป

มีคนเคยบอกว่า  "เกินสามบรรทัด  เสื้อแดงอ่านไม่เข้าใจ"

 

นี่แค่บรรทัดเดียว  คนระดับเลขาธิการ  อ่านไม่เข้าใจด้วยหรือ?

 

"คนเร่ขายตัวไม่ใช่คนชั่ว   แต่คนชั่วเร่ขายชาติ"

“โปรดเข้าใจ กะหรี่ไม่ใช่หญิงคนชั่ว กะหรี่แค่เร่ขายตัว แต่หญิงคนชั่วเที่ยวเร่ขายชาติ”

 

ผมอ่านแล้ว ก็เข้าใจว่า

คุณชัย ราชวัตร เขาบอกว่า คนเร่ขายตัว ไม่ใช่คนชั่ว   (ไม่เห็นว่ามีการตำหนิตรงไหนซักหน่อย)

และคุณชัย ราชวัตร ยังบอกว่า  คนชั่วเร่ขายชาติ  (ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับคุณชัย ในส่วนนี้)

“โปรดเข้าใจ กะหรี่ไม่ใช่หญิงคนชั่ว กะหรี่แค่เร่ขายตัว แต่หญิงคนชั่วเที่ยวเร่ขายชาติ”

 

ผมอ่านแล้ว ก็เข้าใจว่า

คุณชัย ราชวัตร เขาบอกว่า คนเร่ขายตัว ไม่ใช่คนชั่ว   (ไม่เห็นว่ามีการตำหนิตรงไหนซักหน่อย)

หากแต่คุณชัย ราชวัตร ต่อว่า คนขายชาติว่าเป็นคนชั่ว  (ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับคุณชัย ในส่วนนี้)

เพิ่มเหมือนกันครับ  เปิดปกติ เหมือนเดิมทุกอย่าง  

แต่สังเกตุได้ว่า แอร์ไม่ตัดเลย (ตั้ง 26 องศา) คอมฯแอร์ทำงานตลอด (เวลากลางวัน) คงเพราะอากาศร้อนจัด

เลยยอมรับสภาพครับ 

อย่าลืมจดเบอร์ไว้ด้วยนะครับ

หลายคน จำเบอร์มือถือตัวเองไม่ค่อยได้ (คงเปลี่ยนซิมบ่อย ตามโปรฯ)     

ก่อนที่ไทยจะใช้ระบบ VAT ซึ่งจัดเก็บจากผู้บริโภค  ผ่านผู้ประกอบการ

ก็เคยใช้ระบบ "ภาษีการค้า" ซึ่งจัดเก็บจากผู้ประกอบการ  โดยภาษีการค้า มีหลายอัตรา ตามประเภทการค้า

เช่น

1 .ภัตตาคาร ร้านอาหาร จะอัตราหนึ่ง (ไม่แน่ใจว่า ใช่ 3% ไหม)  ส่วนโรงแรม ก็อีกอัตราหนึ่ง คราวนี้มันก็ยุ่งตรงที่ แล้วร้านอาหารในโรงแรม

หรือ ค่าอาหารที่โรงแรมจัดส่งไปห้องพัก แล้วคิดเงิน จะต้องเสียอัตราไหน

2. ผุ้ผลิต เสียภาษีการค้าอัตรา (น่าจะ 7%)  แล้วร้านเบเกอรี่ที่ทำขนมนี่ ถือเป็นผุ้ผลิต หรือ จำหน่ายอาหาร  อีกทั้งยังมีโรงงานเบเกอรี่ที่ผลิตส่งและขายเองหน้าร้าน ต้องเสียภาษีอย่างไร  

3. เคยอ่านเจอฏีกาว่า ร้านขายใบชา สั่งใบชาจากต่างประเทศ มาเป็นลังขนาดใหญ่ ๆ แล้วมาแบ่งจุขายโดยการชั่ง และใส่หีบห่อ ติดตราของร้าน

เพื่อจะได้ทราบว่า ร้านไหนเป็นคนขาย  สรรพากร ถือว่า "เป็นผู้ผลิต"  ร้านบอกไม่ได้ผลิต เพียงแค่แบ่งขาย โดยบรรจุเพื่อรักษาคุณภาพ เท่านั้น

คดีฟ้องกันหลายปี  สุดท้าย ศาลฎีกา พิพากษาว่า "ไม่ถือเป็นผู้ผลิต"  แต่ที่ทราบจากอาจารย์ผู้สอนว่า ก่อนหน้านั้น ธุรกิจแบบนี้ ถูกสรรพากรเรียกให้เสียภาษีการค้าไปมากรายเลย เพราะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก  ไม่มีความสามารถในการต่อสู้คดีได้

 

โดยส่วนตัว เห็นว่า VAT อัตราเดียว จัดเก็บง่าย เข้าใจง่าย ผู้เสียภาษีก็ปฎิบัติได้ง่าย 

สำหรับสินค้าฟุ่มเฟือย เก็บด้วยภาษีสรรพสามิต ก็ดีอยู่แล้ว

แต่ต้องหาทางป้องกันการแก้ไขกฎหมายภาษีสรรพสามิต เพื่อเอื้อประโยชน์แก่นายทุน และธุรกิจ ได้โดยง่าย (มักอ้างเหตุว่า เมื่อก่อนถือเป็น

สินค้าฟุ่มเฟือย ปัจจุบันกลายเป็นสินค้าจำเป็น) 

เช่น เมื่อก่อนนี้ เครื่องปรับอากาศ ต้องเสียภาษีสรรพสามิต  ปัจจุบัน ไม่ต้องเสียแล้ว (อาจมีเสียในบางรุ่น ที่เป็นขนาดใหญ่ หรือเปล่าไม่แน่ใจ)

เหตุผล  เพราะปัจจุบัน เครื่องปรับอากาศเป็นสินค้าในชีวิตประจำวันแล้ว ฯลฯ

อากาศมันร้อน

ข้าวในหม้อ เลยคิดว่า มันกำลังถูกอุ่นอยู่ เลยไม่กล้าบูด     

6. ศาลไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง

 

WOH สุดยอดครับ

อีกหน่อย ก็จะมี

อัยการไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะไม่ได้มาจาการเลือกตั้ง

ทนายไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะไม่ได้มาจาการเลือกตั้ง

วิศวกรไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะไม่ได้มาจาการเลือกตั้ง

หมอไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะไม่ได้มาจาการเลือกตั้ง

อาจารย์ไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะไม่ได้มาจาการเลือกตั้ง

.................

และสุดท้ายคงจะเป็น  

สลิ่มไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะไม่ได้มาจาการเลือกตั้ง      

ใครบางคนหนอที่เหมือนจ่าประสิทธิ์ (กะจะว่ากระทบคนอื่น และดันพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา)
“ผมเป็นสมาชิก ผมก็ไม่เคยทำถ่อย เถื่อน สถุน เหมือนสมาชิกพรรคเพื่อไทยบางคน”