Jump to content


ขออภัยในความไม่เหมาะสม

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2555
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2557 21:34
-----

#740028 ถึง "hentai" ในฐานะ "เพื่อนสมาชิกร่วมบอร์ด" (ขอกระทู้นี้งดแดง...

โดย Gop on 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:54

โดยส่วนตัวผมคิดว่าคุณ hentai ชอบออกความเห็นแบบแย้งคนส่วนใหญ่ บางครั้งก็ถูก บางครั้งก็เล่นคำ หรือจี้จุดเล็กๆน้อยๆ ก็ถือว่าเป็น style ของเค้า ถึงแม้พักหลังผมจะไม่ค่อยได้คุยกับเค้าแล้ว แต่ผมก็ดีใจ และยินดี ที่มีคนที่เห็นต่างอยู่ในบอร์ดนี้ โดยส่วนตัวผมมองว่าความขัดแย้งทางความคิดคือสิ่งที่ช่วยพัฒนาเรา คอยตรวจสอบเรา ว่าที่เราคิดว่าถูกนั้นมันถูกจริงหรือไม่ ที่เค้าแย้งมามันผิดตรงไหน? ความเห็นต่างนี่แหละครับ ที่ทำให้บอร์ดนี้มีเสน่ห์

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมเข้าใจดีว่า เรื่องสถาบันนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนสำหรับคนส่วนใหญ่ที่นี่ ( ความจริงแล้วเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดบอร์ดนี้ขึ้นมาด้วยซ้ำ ) เรื่องนี้มีจุดที่เป็นปัญหาสำคัญคือ เราพูดตรงๆกันไม่ได้ ทำให้ต้องใช้การตีความกันเอาเอง และแน่นอน เป็นเรื่องยากที่จะพิสูจน์ว่าสิ่งที่เราคิด และสิ่งที่เค้าพูดออกมานั้นมันสื่อความหมายตรงกันหรือเปล่า? ถึ่งแม้ผมไม่ได้ติดตามกระทู้ต้นเรื่อง แต่จากที่ฟังท่านอื่นพูดถึง ก็พอจะทราบเลาๆว่า คล้ายกับเหตุการณ์ของคุณเคนอิจิ ( แต่กรณีนี้ถือว่าเบากว่ามาก ) โดยส่วนตัวผมมมองว่าเป็นเพราะการสื่อสารด้วยตัวอักษร ที่หลายครั้ง ทำให้การตีความนั้นไขว้เขวได้ ขอเทียบกับกรณีคุณเคนอิจิก็แล้วกัน ผมแทบไม่เชื่อสายตาว่าเค้าจะเอาข้อความที่เป็นปัญหามาลงอย่างไม่แคร์สายตาใครๆ ด้วยอะไรก็แล้วแต่ ผมมองว่าเป็นเรื่องประสบการณ์ ทัศนคติ และความคิดของแต่ละคน ที่คิดว่าอะไรควรหรือไม่ควร คนที่นี่ส่วนใหญ่ ( รวมทั้งผม ) เห็นว่ามันไม่ควร แต่ผู้เขียนซึ่งอาจประสบพบเจอสิ่งต่างๆในชีวิตไม่เหมือนเรา เลยคิดว่าไม่เป็นไร

 

ที่ผมอยากฝากให้คิดคือ พวกเราใจร้อนเกินไปหรือไม่??

 

เร็วไปไหมที่สรุปว่าสิ่งที่เค้าเขียนออกมานั้น ผู้เขียนเจตนาสื่อไปอย่างที่เราคิด??

 

ผมเชื่อว่ามีวิธีที่จะพูดดีๆ เพื่อสื่่อให้เข้าใจตรงกันได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือท่าทีของผู้สนทนา หลายครั้งการตั้งคำถามกับเรื่องทำนองนี้ มีลักษณะแข็งกร้าว ( ผมเองก็เคยทำ ) ทำให้คนที่ตอบรู้สึกว่าโดนตัดสินไปแล้ว และทำให้ตอบกลับมาแบบกวนประสาท ( กรณีคุณเคนอิจิ ) ถ้าเราเปลี่ยนท่าทีเสียใหม่ในการใต่ถาม ผมคิดว่าอย่างน้อยถ้าเราเริ่มจากการคุยกันอย่างมิตร การชี้แจงจะผ่อนคลายและเปิดอกมากกว่านี้ ถ้าในที่สุดแล้ว เค้าเป็นพวกล้มจริงๆ เจอคำถามเน้นย้ำบางจุดเข้าไป เดี๋ยวมันก็โผล่หางออกมาแล้วก็อยู่ไม่รอดเองแหละครับ

 

อีกเรื่องที่อยากฝากให้คิดคือ ที่ผ่านมา หลายคนพูดแรงๆกับคุณ hentai ผมเองก็เคยว่าเค้าตรงๆ ว่าเค้าเป็นคนเห็นแก่ตัว แต่ทำไมเค้าทนกับคำพูดเหล่านี้ได้ แต่กลับทนกับเหตุการณ์นี้ไม่ได้?

 

มีเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันก่อนหน้านี้ หลายท่านอาจมองต่างจากผม แต่ผมเห็นว่ากรณีนี้คล้ายกับกรณีคุณ PookLook ที่ไม่เคยยี่หระกับคำด่าทอมากมายที่กระหน่ำแทบทุกกระทู้ที่เค้าตั้ง แต่กลับทนไม่ได้ที่โดน edit ข้อความของกระทู้ตัวเอง และเลิกเล่นไปในที่สุด

 

ทุกท่านมองเห็นมั้ยครับว่ามีบางอย่างเหมือนกัน ผมเชื่อว่าทั้งสองกรณี ทั้งคุณ hentai และคุณ PookLook รู้สึกว่าโดนละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของเค้า คุณ PookLook ถูกละเมิดสิทธิในการแสดงความคิดเห็น เพราะโดนแก้ไขข้อความของตนเองโดยที่ตนเองไม่ต้องการเช่นนั้น( จะถูกจะผิดก็ว่ากันอีกเรื่อง ) คุณ hentai รับไม่ได้กับข้อความ "ดังนั้นคุณไม่ต้องชี้แจงอะไรทั้งสิ้น มันชัดในตัวอยู่แล้วว่าพยายามพูดถึงใคร" เพราะเค้าควรจะได้รับสิทธิในการชี้แจงข้อกล่าวหา แต่กลับถูกตัดสินไปเรียบร้อยแล้ว เรื่องนี้ทำให้ผมเชื่อว่า ความรู้สึกไม่ยุติธรรมแค่ครั้งเดียวนั้นมันเจ็บกว่าการถูกด่าทอนานนับปีเสียอีก

 

เขียนไปเขียนมา ก็คงมาลงที่ MOD อีกแล้วล่ะครับ ผมทราบว่าหน้าที่ของท่านนั้นหนักหน่วง และสำคัญกับบอร์ดมาก แต่อยากฝากให้ท่านได้ลองคิดอีกด้านหนึ่งด้วยครับ ลองพิจารณาดูว่า เวลาท่านได้ตัดสินอะไรลงไป จำเลยรู้สึกอย่างไร? เค้าคอตก ก้มหน้ารับกรรม หรือ เค้าร้องโหยหวน ไม่ยอมรับสิ่งที่ท่านตัดสิน แล้ววนเวียนดุจวิญญาณ ไม่ยอมไปผุดไปเกิดจนทุกวันนี้




#739989 ถึง "hentai" ในฐานะ "เพื่อนสมาชิกร่วมบอร์ด" (ขอกระทู้นี้งดแดง...

โดย tonythebest on 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:04

ออกจะใจหายครับ

ถ้ามองข้ามการเพิ่มเนื้อหาเสียดสี แดร กดัน

ผมเชื่อว่า คุณเฮนเป็นคนที่ควบคุมการกระทำและความคิดของตนเองได้ดี

การแสดงออกใดๆ จึงไม่เห็นการหลุด

ยอมรับครับ ว่าบางครั้ง ผมก็หมั่นไส้แก บางครั้งก็อาจถึงกับโมโหหรือรำคาญ

แต่ทุกการกระทำ อยู่บนสิทธิ์พึงกระทำ

 

ผมเชื่อของผมว่า

ถ้าแกก้าวข้ามความเป็นคนช่างเสียดสี แด รกดัน

แกจะเป็นคนที่น่าคุยด้วยคนนึง ในมุมที่เห็นต่าง

เพราะผมรู้สึกว่า แกไม่เคยเอาใครให้ตาย

 

ผมไม่ขอเทียบไปกับสมาชิกอื่นที่ลาโลกไป

เพราะหลายคนที่สมควร หรือควรมากกว่าที่โดนหรือเร็วกว่าที่โดน

 

เมื่อได้อ่านความเห็นของคุณโจโฉ และเพื่อนอีกหลายท่าน

ผมอยากให้คุณเฮนได้ทบทวนครับ

 

 

ขอบคุณด้วยครับ ที่แม้ประโยคกล่าวลา 

คุณยังเหน็บผมได้อยู่ดี

ต้องยอมรับครับ ผมไม่ใคร่จะมีสาระมากพอจะสามารถถกกับใครได้ทุกเรื่อง

 

:) 




#739886 ถึง "hentai" ในฐานะ "เพื่อนสมาชิกร่วมบอร์ด" (ขอกระทู้นี้งดแดง...

โดย redfrog53 on 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:16

ปล่อยขี้ข้าเต็มขั้น เดินตามทางของเขาไปเถิดครับ...จะไปลงนรกตามพ่อทักสินที่ไหนก็ไป...ตรรกะไม่น่านับถือ...แอบอ้างกลางสามโลก  แต่เป็นกลางไข่แม้ว...บายๆๆ

โทษที ขอค้านนะ เห็นไตไม่ใช่กลางไข่แม้ว เพียงมุมมองเขากว้างเท่านั้นเอง ขอย้ำไม่ใช่แน่นอนครับ




#739237 อำลาครับ... ขออภัยที่ รบกวน...

โดย hentai on 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 11:08

เรื่องของเรื่อง ก็น่าจะ เป็น ตรรก ของเจิม... 

 

ผมเสี่ยงเตือนทั้งๆที่รู้ว่า มีคนจ้องจะเล่นผม...    

ผมก็ตัดสินใจเตือน.. เพราะ... ตรรกแบบนี้ สามารถไปใช้ที่อื่นได้..    

 

ด้วย อคติ หรือ อะไรไม่ทราบได้... กลายเป็น ผมพยายาม ล้มเจ้าไป..

ในเมื่อคนเตือน คนหวังดี กลายเป็น คนชั่วไป...   กลายเป็นคนล้มเจ้าไป...    อีกหน่อย ก็ไม่ต้องเตือนอะไรกัน...     

ดีครับท่าน..  สวยครับนาย... 

 

ผมเคยสาบานไว้ใน กระทู้,..  ไ้ว้ว่า..

 

ผมเล่นบ้าง...    เพราะ เวปแบบนี้ไม่สามารถกันการกล่าวหาพล่อยๆ  ได้...  

ผมไม่เคยมีความคิดล้มเจ้า หรือ สนับสนุนพวกล้มเจ้า   ถ้าผมโกหก ขอให้ พ่อแม่ผมโดนเ หี้ย กัดตาย

แต่ ถ้าผมพูดความจริง  แล้วยังมี ไอ้อี คนใด มากล่าวหาว่าผมล้มเจ้า ในที่สาธารณะ..

 

ขอให้ มันผู้นั้น ไม่เจริญในหน้าที่การงาน  ทั้งในชาตินี้และขาติหน้า และ ทุกๆชาติ

ขอให้ มันผู้นั้น ลูกออกมา ปัญญาทึบ แบบที่ ดูถูกคนอื่นไว้...   

ขอให้ มันผู้นั้น ถูกกล่าวหาว่า ทุจริตในหน้าที่การงาน อย่างไม่เป็นธรรม..

ขอให้ มันผู้นั้น ถูกเพื่อน หรือ คู่แข่ง แซงหน้าในทางธุรกิจ...

 

 

ไม่เป็นไรครับ...  คนสมัยนี้ เค้าไม่เชื่อคำสาบาน...  

 

ผมเคารพในการตัดสินของกรรมการ...  และ กติกา   แต่ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย.. 

 

กรรมการเมื่อก่อน... "คนกวาดขยะ"  ให้ความยุติธรรมได้....   ผมก็อยู่..  เราพูดกันด้วยเหตุผล...   เค้าฟังคำแก้ต่างของจำเลย... 

กรรมการปัจจุบัน...  ผมคิดว่าไม่ได้รับความยุติธรรม   จากคำว่า 

"ดังนั้นคุณไม่ต้องชี้แจงอะไรทั้งสิ้น มันชัดในตัวอยู่แล้วว่าพยายามพูดถึงใคร

 

 

ผมก็มีสิทธิที่จะเลือกไม่เล่น...   เพราะ กรรมการ ที่ รู้เองเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ไปเรียบร้อยแล้ว...  

ผมคงอยู่เล่นไม่ไหวครับ.. ..ท่านไม่ผิด...  ผมผิดเองที่ รับไม่ได้...   

 

เคยคิดไหม  สมาชิกกี่คนแล้วที่ต้องไป เพราะ ข้อหา ล่าแม่มดแบบนี้...    

สรท ถูกตั้งเพราะ  ไม่ได้รับความยุติธรรม...     ทำไปทำมา..   มันก็ไม่พ้นหลูปเดิมๆ  

 

ก่อนอำลา..  

การแสดงของ Hentai ผมเป็น บทบาทที่ผม สมมุติขึ้น..    เพราะที่นี่แม้จะมีคนมีความรู้อยู่มาก.

แต่ เป็นไปในทิศทางเดียว...    เหมือน อาหารมันเค็มอยู่แล้ว... ผมเลือกที่จะ ไม่ใส่เกลือเพิ่ม..

 

กระทู้มีสาระอันไหน ผมเห็นแล้ว ไม่เข้า..  แสดงว่า..   ผมไม่คิดว่า ฝ่ายโน้นจะแก้ตัวได้... เช่น จำนำข้าว เพราะผมยังทำไม่ได้..

กระทู้มีสาระอันไหน ผมเข้า..  แสดงว่า... ยังมี เหตุผล หรือ ข้อเท็จจริง บางประเด็น ที่ ท่านควรพิจารณา...  เช่น รถคันแรก หรือ ยุบ รร. 

ส่วน ไอ้ที่ หยอกๆๆ เป็น สีสรร ไม่นับนับครับ... 

 

 

ขออภัยทุกท่านที่เคยล่วงเกินจากใจจริงนะครับ...      ผมไม่มีอะไรเป็นการส่วนตัวกับทุกท่าน..

ผมอยากรู้จักพวกท่านตัวเป็นๆ...    แต่ คงเป็นไปไม่ได้แล้ว... 

 

ไม่ว่าจะเป็น 

 

ท่าน อำมาตย์น้อย เช:   จำได้ว่าเป็นคนที่ผมปะทะด้วยคนแรกๆ...  สอนผมเรื่อง กองทุนน้ำมัน...  เป็นคนที่ต้องยอมรับว่า คุยด้วยสนุกที่สุด

ท่าน โทนี่เขียว:   จำได้ว่า มีสาระที่สุดที่ คุยกับท่านคือ เรื่อง..   การขับรถ... ไม่ใช่เรื่องการเมือง..

ท่าน แมงวันน้อย:   ผมชื่นชมใน ศรัทธาของท่าน...   แค่อยากจะบอกว่า.. โลกเรามีหลายสี.. 

ท่าน โจโฉ:   ท่านวางตัวดีครับ.. เป็น idol ผมเลย...     ความรู้จาก สนาม กอฟล์ หาที่อื่นไม่ได้... 

ท่านกรรมการ:  ขอบคุณที่ให้ความรู้หลาย อย่าง..  ผมเสียใจที่ไม่ได้คุยกันมากกว่านี้... 

ท่าน นักวาดการ์ตูน:   ผมชื่นชมฝีมือท่าน..  

ท่าน นักทำโพล์:   ท่านน้องต้องขอ อำลา ท่านพี่..    อย่าไปอ้างอีกนะว่า สามารถสร้างโพล์การเมือง แก้คนโกหกได้..

ท่าน กบแดง:    ขอบคุณ สำหรับ ข่าว ประชาสัมพันธ์ พรรค ปชป... 

ท่าน ทรงธรรม:  มีปัญหา PM หาผมได้ครับ... ผมไม่ได้โดนแบน..  ไว้ผมจะให้ email ไว้..

ท่าน fan club ผม:   เห็น ลีลาการ copy ท่านผมยิ่มออกทุกครั้ง.. 

ท่าน พระจัน:  เสียใจกับท่านด้วย.. ผมเป็น คู่ชกกับ คุณเช ให้ท่านไม่ได้แล้ว... 

ท่าน ตะหณิน:  ขออภัยเป็นพิเศษที่เคยล่วงเกิน..   ไว้จะไปแจม ห้องชายคา..  

 

ถ้าท่านใด เคย ปะ ฉะ ดะ กับผม แล้ว ผมตกหล่นหรือลืมไป...    กรุณาให้อภัยด้วย..     

โจทก์มันเยอะจริงๆๆ

 

สุดท้าย

 

คำถามที่หลายคนถาม...     แล้วผมไม่ตอบเพราะไร้สาระ...  ผมตอบให้ก็ได้..

ผมรักพ่อหลวงไม่น้อยกว่าพวกท่าน..  

ผมเชื่อว่า ผมมีได้รับใช้เจ้า เข้าเฝ้าเจ้า มากกว่าพวกท่าน.. ส่วนใหญ่

 

จากใจ

Hentai..     

6 MAY 2013

 

 

PS: ถ้า MOD_01 ยังมีความยุติธรรมหลงเหลือ กรุณา ให้ลงด้วย..    ผมอยากจะลาเพื่อนเก่าๆ

ไม่ต้องห่วงครับ ผมไปแล้ว ไปเลย...       (ถ้าใจดีให้ลง... ตัด PS ออกไปด้วยครับ..)

 

 

=====================================================

 

ปล่อยผ่านให้แล้วครับและขอล็อคไว้ เพื่อป้องกันการกล่าวหาแต่ท่านอาจไม่มาตอบเพราะเลือกที่จะอำลาไปแล้ว

 

ปล.เจ้าของกระทู้ยังไม่ถูกแบนแต่ผู้ดูแลเลือกใช้วิธีตรวจสอบก่อนปล่อยชั่วคราว

 

ขอบคุณที่พยายามให้ความร่วมมือมาตลอด

 

MOD_01




#707422 ขอเชิญร่วมยืนไว้อาลัยกับกึ้น เจ้ากระทรวง ศธ. "ศึกษาฯ สั่งยุบร.ร.ขนาดเล็ก...

โดย lazylemon on 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:09

ขอบคุณ Hentai ค่ะที่อุตส่าห์อธิบาย ให้ฟัง ก็คงจบไว้ตรงนี้ เพราะกระทู้ไม่เกี่ยวกับ Home School แต่อย่างใด เมื่อสักครู่ดิฉันก็ได้ไปขอความรู้จากอาจารย์ บ้านใกล้ๆ ที่สอนมาร่วม 30 ปีแล้ว ที่ ร.ร. ดังแห่งนึง(สมพรบอกว่าเคยเรียน)

Home School ก็ไม่ได้ทำง่ายๆ ผู้ปกครองต้องทำ Outline ที่ลูกหลานจะเรียน ไปแสดง ที่ สพฐ ที่เด็กต้องไปสอบวัดผล  และต้องนำหลักสูตรที่ทางกระทรวงกำหนดมาศึกษาด้วย เพี่อใช้เป็นกรอบ มีวิชาพื้นฐาน ตามที่กระทรวงกำหนด

และจะมีเจ้าหน้าที่มาประเมินที่บ้านด้วย  อ.นั่งอธิบายเสียยืดยาว เลยได้ความรู้ มาด้วย มีอีกเยอะ แต่เข้าใจคุณก็คงพอทราบ 

 

วันอัฏฐมีบูชา คือวันอะไรคะ  

 

วันสำคัญทางศาสนา ต้องเรียนรู้ค่ะ เพราะเราไม่ได้แค่ถือบัตรประชาชน ที่บอกว่านับถือ ศาสนาพุทธ  มีไม่กี่วันเองค่ะ เด็กๆจำได้ง่ายอยู่แล้ว ตอนโตก็ยังจำได้ เพื่อที่เราจะได้ไปปฏิบัติธรรมเพื่อสืบทอดต่อพระพุทธศาสนา

ประวัติศาสตร์ ก็เป็นสิ่งที่ควรรู้ค่ะ ทุกประเทศเขาก็สอนกันทั้งนั้น  ดิฉันว่าคงไม่ถึงกับต้องจำให้ได้ ว่าเสียกรุงวันไหน  แต่ควรต้องจำให้ได้ว่า ใครกอบกู้บ้านเมืองเราค่ะ

ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นค่ะ




#707375 ขอเชิญร่วมยืนไว้อาลัยกับกึ้น เจ้ากระทรวง ศธ. "ศึกษาฯ สั่งยุบร.ร.ขนาดเล็ก...

โดย sigree on 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:27

บ้านผมเพิ่งเปิด รร ของครอบครัว

 

เปิดปีแรกมีเด็กเข้าเรียนสูงที่สุดในอำเภอ  สูงชนิดที่ รร รัฐบาลบางโรงเหลือเด็กไปสมัครเพียง 10 คน

 

ชายแดนใต้นั้น รร เอกชนดึงคนจาก รร รัฐมหาศาล เพราะตอบสนองความต้องการผูปกครองได้ดีกว่า เช่นอาหารกลางวันฮาลาล ชุดที่ปกปิดตามหลักศาสนา ฯลฯ

 

เอาตามจริงบางโรงเหมือน รร ร้าง

 

ผมเห็นด้วยในแง่การปรับเพื่อให้งบไม่กระจายเพิ่มคุณภาพการศึกษา

 

แต่

 

หากผมต้องให้ลูกนั่งรถไป รร ครึ่ง ชม ไปกลับ 1 ชม ผมว่ามากไปสำหรับเด็กประถม

 

คำถามคือ คุณมีแนวทางแก้ปัญหาจากการยุบเลิกหรือยัง?




#707231 ขอเชิญร่วมยืนไว้อาลัยกับกึ้น เจ้ากระทรวง ศธ. "ศึกษาฯ สั่งยุบร.ร.ขนาดเล็ก...

โดย hentai on 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 16:36

คุณHentai ดิฉันขอตอบคุณใน Rep. 10  แล้วกัน อันอื่นอ่านไม่ทันเพราะพิมม์ช้าค่ะ ดิฉันฟังคุณพูดดูเหมือนมีเหตุผลนะ ก็เฉพาะตรงที่คุณขยายใหญ่แล้วใช้สีแดงๆ นั่นแหละ ดูคุณก็เป็นคนมีความคิดความอ่านนะ จากสิ่งที่คุณยกมา  Home School  
 
Home School มันดูดีมากๆเลยที่เมืองไทยจะมีการศึกษาเช่นนี้ ดิฉันเห็นด้วยค่ะ เพราะจะเป็นการลดการแย่งเข้าโรงเรียนดังๆ ลดภาระการที่ผู้ปกครองต้องจ่ายเงินนอกระบบการศึกษา (แป๊ะเจี๊ยะ)
แต่ ??สงสัยนิดเดียวจริงๆ  วิธีการเรียนแบบนี้ พ่อแม่ต้องเป็นคนมีความรู้มากนะคะ ถึงจะสอนลูกตัวเองได้ ดิฉันเห็นครอบครัวนึงมีความรู้ความสามารถจริง จบจากคอร์แนล ทั้งพ่อแม่ ยังส่งลูกไปเรียนโรงเรียนรัฐบาลเลยค่ะ (เรียนโรงเรียนเดียวกับลูกดิฉัน)
ทั้งทีความรู้ขนาดนั้น Home School สบายๆ ความรู้อาจมีมากกว่าอาจารย์ที่สอนด้วยซ้ำ
 
จัดให้มีรถรับส่ง ดีค่ะ ฟรีด้วยยิ่งดีลดภาระผู้ปกครอง ถามนิด รถมาจากไหนคะ  การเดินทางในต่างจังหวัดน่ะ ถึงรถไม่ติด (เพราะนโยบายรถคันแรก)ทางไม่ใช่ลาดคอนกรีต 4 เลนนะคะ
คุณเองก็บอกว่า อยู่ในที่กันดาร แนะนำว่าเอาซาเล้งน่าจะเหมาะกว่า หากเกิดติดหล่มไป ยังช่วยกันลงมาเข็นได้ เพราะน้ำหนักไม่มาก แถมประหยัดน้ำมัน พลังงานของชาติ ที่มีค่า(สูง) เพื่อเป็นการ แก้ปัญหาความบิดเบือนของราคาพลังงาน ดังที่คุณกล่าวมา
 
มันต้องกลับมาคิดครับว่า..   ทำไม โรงเรียนถึงมีคนน้อย...   
คนแถวนั้นเค้าเอาเด็กๆไปเรียนที่ไหน... 
 
ปัญหานี้ต้องมองให้ดี..  คุณนี่เป็นนักคิดจริงๆ
 
ทำไมมีโรงเรียนน้อย  นั่นซิ ต้องคิดค่ะ งบไปไม่ถึงเพราะโดนงาบกลางทาง  หรืออีกทีบ้านที่อยู่ตามชนบท  มันอยู่ห่างกัน ถึงจะใช้ชื่อ หมู่บ้าน แต่ไม่ใช่หมู่บ้านตาม กทม. นะคะ 
คนแถวนั้นเอาเด็กไปเรียนที่ไหน ก็อยู่ตามโรงเรียนเล็กๆที่คิดจะปิดไง เพราะเมื่อบ้านอยู่ห่าง การเดิน(จริง)ก็ต้องใช้เวลา อย่าเปรียบกับเด็ก กททม. ที่กินข้าวในรถ
 
แบบนี้ควรยุบ แล้วให้ อบต จัดการแทน... เป็น ลักษณะ Home school...    เพราะ หาครูไปลงก็ยาก ปัญหาเยอะ.. 
อันนี้งงค่ะ รีบเขียนไปป่าว คุณว่า หาครูลงไปยาก แล้วจะเอาใครไปสอนที่ Home คะ
 
แต่ บางโรงเรียน คนน้อย เพราะ เมื่อความเจริญไปถึง  คนในหมู่บ้าน ส่งลูกไปเรียนใหญ่ๆ ในอำเภอแทน..
ก็ถูกแต่ไม่หมด บางแห่งก็ยังไม่เจริญ และมีมากด้วย
 
ไม่อย่างนั้นคงไม่เกิดวาทกรรม คนรากหญ้า พวกอำมาตย์ ไพร่ ทั้งหลายหรอกนะคะ

 

Home school..   อย่ายึดติดแค่ว่า... พ่อแม่เป็น คนสอนครับ..   home school จำนวนมาก อยู่ในลักษณะ.. "กลุ่มเรียนรู้" 

โดย เอาเด็กมารวมกัน.   ใช่ชื่อพ่อแม่เป็นคนสอน... เพื่อกันปัญหาทางกฏหมาย... แล้ว จ้าง ครูที่เหมาะสม  มาสอนเองครับ..

ถ้าเข้ามาอยู่ใน วงนี้ แล้ว จะรู้ว่า... มีเยอะครับ..   

 

จริงๆแล้ว พ่อแม่สอนเองได้ครับ. มีความรู้ดีกว่าจริง แต่ ยังต้องทำงานอยู่ .  แต่ถึงกระนั้นจะปล่อยให้ลูก เข้าระบบ พ่อแม่พวกนี้ ไม่ชอบครับ..

เพราะ ระบบตอบสนองความต้องการเค้าไม่ได้...   ดังนั้น ก็เลยออกมาแบบ กึ่งๆ..  คือ   ใช้ชื่อ home school..   แต่จ้างครูสอน เหมือน

เสื้อผ้าจ้างตัด.. 

 

เรื่องรถรับส่ง รัฐบาล บอกว่า เตรียมไว้แล้ว...    ถ้ากันดารมาก.. แล้วรับส่งไกลมาก.  เค้าไม่ยุบหรอกครับ..  ไม่เข้าเงื่อนไข 

ไม่มีใครอยากโดนด่า...

 

การที่โรงเรียนมีคนน้อย... แล้วเข้าเงื่อนไขที่จะโดนยุบ (ย้ำ.. มีโรงเรียนที่ดีกว่าอยู่ใกล้เคียง)..   มันสะท้อนอะไรบางอย่างออกมาแล้วครับ...    

มองไม่ออกหรือครับว่า สังคมแถวนั้นเปลี่ยนไป...    คนที่ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เหลือน้อยลง   คนที่มีอันจะกินหน่อย ส่งลูกไปที่อื่นหมด... 

ถ้าเค้า ส่งลูกไม่ได้ หรือ เห็นว่า โรงเรียนนั้นดีอยู่แล้ว...   คนมันจะน้อยได้ไหม...    

 

ไอ้ที่ว่า ควรยุบแล้วให้ อบต จัดการเนี่ย...   ความคิดผมเอง ครับ.. ไม่ใช่ของ รมต...  ถ้าเป็นของ รมต สงสัย

โดนหนักกว่านี้...    ถ้าทำให้เข้าใจผิด ขออภัย.. 

 

:D




#705982 รมตวย สั่งยุบโรงเรียน อ้าง รัฐฯ ไม่มีเงิน...

โดย gears on 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:25

กลับถึงบ้านละ มาต่อกัน

เรื่องรถตู้กินกันเท่าไร ไปด่ากันเองนะครับ

ขออธิบายที่มาของการยุบโรงเรียน ซึ่งผมก็มองเป็นดาบสองคม

 

ขอแบ่งเป็นข้อๆ ไปครับ

 

.    เนื่องจาก รัฐบาลได้ให้ สพฐ. รับหน้าที่ดูแลมาตรฐานโรงเรียนทั่วประเทศ

เพราะบางโรงเรียนอาจจะไม่ได้มาตรฐาน ไม่ถูกสุขลักษณะ ไม่มีมาตรฐานการศึกษาตามที่เด็กควรได้รับ

ในอนาคตโตไป ถ้าเด็กไม่ได้รับสิ่งที่ดี อาจจะทำให้มีปัญหากับชีวิตได้  ผู้ใหญ่เค้ามองไว้แบบนั้นซึ่งมันก็จริง

.    เช่นพวก ตำราเรียน-การศึกษา กิจกรรม อาหารการกิน ความสะอาด มารยาท บลาๆ (เยอะ ตามมาตรฐาน สพฐ.)

 

.    แล้วทุกๆปี จะมีคณะกรรมการ สพฐ. เป็นองค์กรอิสระเอกชน มาทำหน้าที่ตรวจแทน สพฐ.ทั่วประเทศซึ่งไม่มีการตีกินง่ายๆ (อันนี้ที่อื่นไม่รู้แต่โรงเรียนผมจัดหนักทีเดียวว)

ผมได้ใกล้ชิดกับคุณครูหัวหน้าฝ่ายวิชาการโรงเรียนใกล้บ้าน เลยมีหน้าที่พิมพ์งาน บลาๆ  จัดการเอกสารเกือบทุกอย่าง

.    ซึ่งทุกอย่างต้องมีมาตรฐานตามที่กำหนดไว้ ห้ามผิดเพี้ยนน

การตรวจสอบ ต้องมุ่งเน้นทุกสิ่ง ทุกอย่าง ตั้งแต่ สถานที่ โรงอาหาร ถังน้ำดื่ม ห้องน้ำ ลานกิจกรรม ห้องเรียน บลาๆ เยอะมากก

ส่วนที่สำคัญคือที่เด็กครับ  เด็กต้องตอบคำถามให้ถูกใจ คณะกรรมการ สพฐ. แน่นอน สุ่มเด็กจากที่เดินๆ อยู่

 

.    ส่วนเอกสารก็มีรายละเอียดพวกกิจกรรมที่ดำเนินการที่ผ่านมาต้องมีทั้งรูปภาพ

รายละเอียด ชื่อผู้สอน เพื่ออะไร มุ่งเน้นด้านไหน งบประมาณใช้ไปเท่าไร***  (ดอกจันไว้ไปอ่านท้ายบทความ)

หากครั้งแรกไม่ผ่าน  จะมีการให้แก้ตัว  มีการให้คะแนน  อีกสองอาทิตย์มาตรวจใหม่ต้องให้ได้ตามมาตรฐานที่วางไว้

ไม่งั้นจะไม่ได้เงินอุดหนุนจาก สพฐ. และถ้าร้ายแรงจริงๆ ก็จะโดนสั่งปิด

 

.    จากที่มาของโรงเรียนมาตรฐานแล้ว

หากเด็กยากจนไม่มีเงินไปเรียนโรงเรียนพวกนี้ละ โรงเรียนเทศบาลเต็ม เหลือเอกชน เงินไม่มี พ่อแม่มีปัญหา อยู่กับลุง ป้า น้า อา

ใส่เสื้อผ้าขาดๆ ไปโรงเรียน ไม่มีเสื้อผ้า อุปกรณ์การเรียน

โอ้ยยย สารพัดปัญหาครับ

 

ไม่ง่ายเลย  ที่จะให้เด็กได้เรียนพร้อมเพื่อนๆ อย่างเท่าเทียมกัน คราวนี้หากโรงเรียนวัดโดนปิด เด็กพวกนี้ก็ไม่มีที่ไปครับ จบ

 

ปัญหามันเยอะครับการศึกษาต้องควบคู่ไปพร้อมกันกับการพัฒนาท้องถิ่น  คราวนี้ก็หน้าที่ สส. สว. นายกเทศมนตรี ผู้ใหญ่ พ่อแม่ พี่น้อง

ที่จะจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อพัฒนาสังคมของ อำเภอตัวเองครับ 

 

.    เนื่องจากเขียนสด บางอย่างอาจจะลืมไปบ้าง แต่ประมาณนี้ครับ

 

*** จากดอกจันข้างบน เรื่องงบประมาณ ขอบอกว่า เจ้าของโรงเรียนกำไร 6-7 หลักครับ  เหอ ๆ ๆ ขึ้นอยู่กับขนาดของโรงเรียน จำนวน ท้องถิ่น

.    ถ้ามีแต่จัดกิจกรรมเดินทาง ทัวร์ ประชาธิปไตย ก็จบครับ จบ ไม่รู้เด็กมันจะไปเรียนรู้แล้วได้อะไร เหอๆ




#699840 Flipped Classroom : การเรียนรู้แนวใหม่สำหรับศตวรรษที่ 21

โดย CanisLupus on 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:09

ปัญหาการศึกษาคือการไม่ยอมรับว่าเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน

เด็กคนนึงชอบการเรียนรู้โดยการฟัง

เด็กอีกคนชอบการเรียนรู้โดยการดูครูสอนผ่าน Youtube

เด็กอีกคนชอบการเรียนรู้โดยการดูครูสอนบนกระดานดำกับเพื่อนร่วมชั้น

เด็กอีกคนชอบการเรียนรู้โดยการลองทำ

เด็กอีกคนชอบการเรียนรู้โดยการท่องจำ หรือนั่งอ่านหนังสือเอง

ฯลฯ

 

แต่เราพยายามหา silver bullet ที่มันเหมาะกับเด็กทุกคน

ลองวิธีโน้นบ้าง วิธีนี้บ้าง มันก็ดีกับเด็กกลุ่มนี้บ้างกลุ่มโน้นบ้าง

เด็กที่หัวไวหน่อยก็สามารถปรับตัวกับวิธีต่างๆ ที่ไม่เหมาะกับตัวเองได้ ก็เอาตัวรอดได้ แต่ไม่สามารถใช้ศักยภาพของตัวเองได้เต็มที่

เด็กที่ปรับตัวไม่ได้ ก็จะมีปัญหาในการเรียน เพราะระบบการสอนขณะนั้นไม่สอดคล้องกับวิธีการเรียนรู้ของเขา

 

ไอ้ flipped นี่ก็เหมือนกัน มันไม่ได้มีอะไรใหม่เลย แค่การลองผิดลองถูกอีกครั้งหนึ่ง

แบบว่าของเดิมไม่เวิรก์ ก็ลองกลับหัวกลับหางมันดูซิ

สุดท้ายมันก็ออกมาอาจจะแย่กว่าเดิมอีก เพราะเด็กชินกับการเรียนแบบเดิมมาพักหนึ่งแล้ว

 

เราควรจัดการศึกษาโดยแยกประเภทของเด็กตามลักษณะความถนัดในการเรียนรู้

ใครถนัดแบบไหนก็ให้เรียนรู้แบบนั้น

ทุกระบบที่เราลองมามันดีหมดแหล่ะ แต่มันไม่ได้เหมาะสำหรับเด็กทุกคน

เราต้องคัดกรองแยกประเภทเด็กให้ได้ก่อน

แล้วจัดชั้นเรียนแยกตามประเภทลักษณะการเรียนรู้ของเด็ก




#699789 ผมละห่วงน้าชัย ที่มีชื่อเสียง จากการด่าเพศแม่จริงๆ

โดย tonythebest on 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:43

ผมก็ห่วงจิ้งเหลน
ที่คอยด่าอภิสิทธิ์

ทั้งทีา ภิสิทธิ์ ก็เป็น "เพศพ่อ" ของจิ้งเหลนเช่นกัน

ปล. อภิสิทธิ์ก็มีลูกนะครับ


#699752 ผมละห่วงน้าชัย ที่มีชื่อเสียง จากการด่าเพศแม่จริงๆ

โดย อู๋ ฮานามิ on 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:16

รังสิมา มัลลิกา นี่ไม่ใช่เพศแม่รึ แดงถึงด่าเอาๆ 

รังสมา มัลลิกา ไม่มีลูก เป็นแค่เพศหญิง ไม่ใช่เพศแม่ 

 

A10488587-19-1.jpg




#699063 Flipped Classroom : การเรียนรู้แนวใหม่สำหรับศตวรรษที่ 21

โดย hinotori on 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 10:50

มันไม่ใช่วิธีการ หรือ อะไร.. มันเป็น ตัวครู...  ที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้...  

 

 

อัตราการสอบตกของครู ที่ทำการทดสอบในกลุ่มวิชาที่พวกเขาสอนคือ 88% สำหรับวิชาคอมพิวเตอร์ 84% สำหรับวิชาการคำนวนและคณิตศาสตร์ 86% สำหรับวิชาชีววิทยา 71% สำหรับวิชาฟิสิกส์ และเกือบกว่าอีก 95% ของผู้อำนวยการโรงเรียน ในระดับมัธยมศึกษาไม่สามารถทำคะแนนผ่านเกณฑ์ ในวิชาภาษาอังกฤษ และวิชาด้านเทคโนโลยี ผลของการสอบที่แย่ได้จุดประกาย การวิพากษ์วิจารณ์ มาตราฐานระบบการศึกษาของประเทศไทย

 

 

http://www.ungkrit.c...ail.php?talk=19

 

 

นี่คือเหตุผล ของการ Home school สำหรับพ่อแม่ที่มี ฐานะและคิดว่าตัวเองสอนได้ดีกว่าครู... 

:D

 

เจ๋งเลยว่ะ เฮน ที่เปิดประเด็นด้าน ครู

 

สมัยที่ผมเรียน ครู ของผมคนหนึ่ง ท่านเป็นด้อกเตอร์บ้านนอก แต่ทำตัวติดดิน ท่านเป็นที่รักของทุกคน ได้กล่าวไว้ว่า

 

"ครูที่ดี ต้องทำให้ได้ 3 ข้อ คือ รอบรู้ สอนดี มีคุณธรรม"

 

นักเรียนคนนึงถามท่านว่า ทำไมครูถึงได้มีศักดิ์ศรีด้อยกว่าวิศวะ ท่านตอบว่า

 

"ครุศาสตร์สร้างคน คนสร้างชาติ  วิศวะสร้างนวัตกรรม นวัตกรรมพัฒนาชาติ"

 

ท่านเคยเล่าเรื่องราวชีวิตสมัยเด็กๆให้ฟัง

 

ท่านเป็นเด็กวัด เรียนกับหลวงพ่อ หลวงพ่อท่านไม่ได้เรียนหนังสือ แต่สั่งสอนท่านให้รู้หนังสือได้ จนสอบเทียบ ป7 และมัธยม สุดท้ายท่านสำเร็จด้อกเตอร์

 

ท่านบอกว่า ที่ท่านจบการศึกษาขั้นสูงสุดมาได้ ไม่ใช่เพราะหลวงพ่อท่านเก่งวิชาฟิสิกส์ ชีวะ แคลคูลัส อังกฤษ แต่เพราะการเอาใจใส่ไม่ทอดทิ้ง การช่วยเหลือผลักดัน ทำให้ท่านมีวันนี้

 

 

       ที่ผมว่ามานั้นคืออะไร สรุปให้ฟังง่ายๆว่า "ครู" ต้องรอบรู้ รู้ให้กว้าง ไม่จำเป็นต้องรู้ให้ลึก เพราะครูต้องเป็นคนวางพื้นฐานให้มั่นคง ผู้เรียนจะเป็นคนต่อยอดขึ้นไปเอง

 

เช่นหลวงพ่อที่วางรากฐานให้เด็กวัดคนหนึ่งศึกษาจนจบด้อกเตอร์ ถามว่าด้อกเตอร์คนนั้นมีความรู้มากกว่าหลวงพ่อไหม มี แต่ถ้าไม่มีหลวงพ่อก็ไม่มีเขาคนนี้

 

   ประเด็นต่อไป คือการจับครูมาสอบ แล้วเอาผลมาวิพากษ์ เพื่อโยนความผิดไปให้ครู

 

    ก็คงต้องถามกันว่า  บ้ากันไปใหญ่แล้วหรือ ครูที่มีหน้าที่สอบเด็ก วัดผลเด็ก กลับต้องโดนจับมานั่งสอบซะเอง เพื่ออะไร 

 

   เข้าใจผิด เบี่ยงเบนประเด็นกันไปใหญ่  กว่าครูทุกท่านจะเป็นครูได้ ต้องจบปริญญาตรี ต้องศึกษาวิชาชีพครู นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่า

 

  เมื่อมาเป็นครูจริงๆแล้ว จะสอนเด็กให้มีความรู้ตามที่ตั้งประสงค์ไว้ได้หรือไม่

 

                  ครูที่เก่งจริง คือครูที่สอนให้เด็กเข้าใจในเนื้อหาวิชา และเด็กทำสอบได้ผ่านเกณฑ์การประเมิน

 

                  ไม่ใช่ว่าครูต้องมาสอบผ่านวิชาอะไรพวกนั้นว๊อย (โอ้พระเจ้า)

 

แล้วพอมีอิแบบนี้ขึ้นมา เกิดอะไรขึ้น มันก็เท่ากับเอาครูไปประจาน ครูหลายคนเป็นคนเก่งสอนดีเด็กๆก็รัก  แต่สอบตกคอมฯ ตกอังกฤษ กลายเป็นว่าครูคนนั้นไม่ได้คุณภาพ

 

เพราะการทดสอบ(เฮงซวย)อะไรก็ไม่รู้ สื่อก็เอาไปตีข่าวกันใหญ่ ว่าครูไทยมันแย่ไม่ผ่านประเมิน การเชื่อถือนับถือในตัวครูก็ตกต่ำลง ผู้ปกครองก็เชิดหน้าใส่ครู

 

หาว่าลูกตัวเรียนแย่เพราะครู (ก็จะให้ไม่แย่ได้ยังไง เอ็ดมันก็ไปฟ้องแม่ ตีมันก็เอาแม่มาฟ้องผอ. ลูกเทวดาชัดๆ) 

 

               แล้วอยากจะบอกไว้นะครับ ท่านผู้ปกครองที่คิดว่าตัวเองสอนได้ดีกว่าครู แล้วจะ Home School สอนลูกท่านเองที่บ้าน อันนี้ ครูทั้งหลาย ยินดีมากๆเลยครับ

 

เพราะครูที่แท้จริงคนแรกของลูก ก็คือพ่อแม่นั่นเองครับ ลูกๆของท่านจะรู้สึกอบอุ่นเมื่อท่านได้ถ่ายทอดความรู้ให้เขาโดยตรง ถือเป็นก้าวกระโดดของการศึกษาไทย

 

เลยทีเดียว เรียนที่บ้านแล้วถึงเวลามาสอบเทียบเพื่อรับใบประกาศนียบัตร ปัญหาครูขาดแคลนก็จะหมดไป ปัญหาเด็กขาดความอบอุ่นก็จะหมดไปอีก แต่ถามหน่อยเถิด

 

มันจะดำเนินการได้ทุกครัวเรือนเลยหรือ แล้วถ้าบ้านไหนพ่อแม่ขายยาบ้า ติดการพนัน เขาจะสอนอะไรให้ลูก คุณจะ Home School ได้ก็ต่อเมื่ออยู่ในสังคมอุดมคติ

 

ซึ่งมันไม่มีจริง การพาลูกมาโรงเรียน ไม่ใช่แค่มาเรียนอย่างเดียว แต่เพื่อปรับตัวให้อยู่ในสังคม เคารพในกฏระเบียบของสังคมส่วนใหญ่ สอนให้รู้จักมารยาท

 

การอยู่ร่วมกัน และอื่นๆอีกมากมาย การที่ผู้ปกครองจำนวนหนึ่ง เห็นว่า ครู แย่ ไม่น่าเชื่อถือ โรงเรียนไม่สามารถตอบสนองความทะเยอทะยานของตัวเองและลูกได้

 

จนอยากจะสอนเองนั้น ก็อยากให้ท่านได้ลองดูเลยว่า การสอนลูกของท่านแค่ คนสองคน มันจะไปยากกว่าการสอนลูกใครก็ไม่รู้ทั้งชั้นเรียนเป็น สิบๆคนได้อย่างไร

 

ถึงจุดนั้นต่อให้ครูคนนั้นจะเทพจนทำข้อสอบวัดมาตรฐานครูได้เต็มทุกวิชา แต่ไม่รู้วิธีการถ่ายทอดไปสู่เด็ก บกพร่องในการกระตุ้นเด็กให้อยากเรียรู้ เด็กก็ไม่ได้อะไร

 

เลยเช่นกัน

 

แต่ก็นั่นแหละนะ เห็นโควทด้านบนนั่นแล้ว ทำให้ผมรู้เลยว่า การศึกษาไทยมันเดินมาผิดทางจริงๆ

 

                   




#698096 Flipped Classroom : การเรียนรู้แนวใหม่สำหรับศตวรรษที่ 21

โดย hinotori on 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:16

สพฐ.จัดทำแผนพัฒนาเด็กปี 2556

 

 

อันนี้ผมไม่ได้ตอบโต้หนูอ้อยนะ แต่ขอบ่นหน่อยเถอะ

 

ท่านทั้งหลาย ที่นั่งอยู่บนหอคอยงาช้าง

 

ตอนที่ท่านจะออกนโยบาย 5 เหว ทั้งหลายแหล่น่ะ ได้ประเมินสภาพการเรียนรู้ในประเทศไทยหมดสิ้นแล้วหรือ

 

หรือดันทุรังออกนโยบายไปงั้นๆ ให้มันมีผลงาน (เฮงซวย) ขึ้นมาบ้าง

 

ขอถามคำถามง่ายๆ ตั้งแต่มีสถาบันทดสอบทางการศึกษา (สทศ.) และ สำนักงานรับรองมาตรฐานการศึกษา (สมศ.) มาเนี่ย

 

การศึกษาไทยมันดีขึ้นหรือแย่ลงขอรับ  แล้วมันเกิดจากอะไร

 

รวบอำนาจทั้งหมดไปไว้ส่วนกลาง เต็มไปหมดเลย ด้อกเตอร์ นักวิชาการห้องแอร์ นักการศึกษาผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย

 

แล้วก็สุมหัว เอารูปแบบการศึกษาต่างชาติมาใช้  Backward design เอย Flipped อะไรนี่อีก

 

มาบังคับให้ครูนำไปใช้เว้ยเฮ้ย เขาคงคิดว่า โรงเรียนทั้งหมดในประเทศไทย เป็นโรงเรียนสาธิตกระมัง

 

แล้วเขาคงคิดว่า พ่อแม่ วัฒนธรรม ของไทย เหมือนของต่างประเทศด้วยซะล่ะมั๊ง

 

บ้าไปแล้ว กระทรวงศึกษา ท่านทั้งหลายต้องการอะไรกันแน่

 

 

ผมจะบอกให้นะ ท่านที่มีลูกหลาน มาดูกันว่าผมพูดจริงหรือไม่

 

1. โรงเรียนดีๆที่ท่านพยายามแก่งแย่งแข่งขันให้ลูกท่านเข้าไปเรียนน่ะ เพราะเขาสอนแบบ Flipped ใช่หรือไม่ หรือว่าสอนแบบ Backward ใช่หรือไม่

 

  เฮ้ย ท่านไม่รู้ อะไรคือ ฟลิป อะไร คือ แบ็ควาร์ด ที่ท่านอยากให้ลูกไปเข้าเพราะโรงเรียนเขาดัง โรงเรียนเขามีเด็กเก่ง ขึ้นป้ายตัวบะเร่อ ว่าสอบชิงทุนได้

 

  ได้โควต้าต่อมหาลัย  ท่านอยากเห็นลูกท่านเป็นแบบนั้นบ้าง คิดว่าลูกท่านเข้าไปอยู่ในโรงเรียนดีๆแล้ว ลูกท่านมันจะดีตามเขาไปได้

 

  แต่ในความเป็นจริง สอบชิงทุนได้กี่คนครับ ได้โควต้า นักเรียนดีเด่นกันกี่คน เขากวดกันเฉพาะ ห้อง 1 ห้อง 2 เป็นห้องพิเศษ ลูกท่านเข้าไปได้อยู่

 

  ห้องไหน ห้องหลังๆเขาก็สอนตามมีตามเกิดไปงั้นๆ แล้วท่านทำไง ก็จับลูกท่านไปเรียนพิเศษ นี่ไง ค่านิยมมันเป็นแบบนี้ ถามว่า ทำไมกลับบ้านท่านไม่

 

  สอนพิเศษลูกท่านเอง ท่านก็จะบอกว่า เหนื่อย ไม่มีเวลา เป็นงั้นไป 

 

2. โอเค  ในเมื่อโรงเรียน(ที่พวกท่านผู้ปกครองคิดว่าดีๆ) เต็ม  แล้วเด็กที่เหลือล่ะ จะไปเรียนที่ไหน แน่นอน ท่านก็ต้องกัดฟัน

 

    พาลูกท่านไปเข้าโรงเรียน(ที่พวกท่านคิดไปเองว่า)ที่มีคุณภาพรองลงมาหรือไม่ดัง กลายเป็นว่า ลูกๆของคนที่ผู้ปกครองระดับบนๆ

 

    หรือกลางๆได้เข้าไปอยู่โรงเรียนดังๆ ลูกๆของพ่อค้าแม่ค้า คนงานรับจ้าง หาเช้ากินค่ำ ต้องเข้าไปอยู่ในโรงเรียนระดับรอง ซึ่งเด็กเหล่านี้

 

    มีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดี ย้ำ ไม่ดี และเด็กพวกนี้ในประเทศไทย มีจำนวนมากมายมหาศาล มีปมด้อย ขาดความอบอุ่น พ่อตาย แม่ทิ้ง

 

   ผู้ปกครองติดคุก กินเหล้า สารพัดปัญหาทางบ้าน อย่าไปคาดหวังความพร้อมในการเรียนของเด็กเหล่านี้เลย ความพร้อมในการดำรงชีวิต

 

   ยังขาดแคลนด้วยซ้ำ  แล้วยังไง  กระทรวงศึกษาเคยเล็งเห็นปัญหาเหล่านี้บางหรือไม่

 

3.  เอาล่ะ ผมยกตัวอย่างมา 2 ข้อ เพื่อให้เห็นว่า นี่คือความต่างในสังคมการศึกษาไทย ที่ไม่มีใครพูดถึงเลย  สักแต่ว่าพยายามจะดึงเอา

 

    ทฤษฏีการศึกษาของคนโน้นคนนี้มาใช้ เอาแผนการศึกษาของประเทศนั้นประเทศนี้มาใช้ สั่งให้ครูทำโน่นทำนี่เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา

 

   ในโรงเรียนสาธิตที่ผู้ปกครองมีอันจะกิน มีฐานะ สามารถผลักดันบุตรหลานตนเองได้ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง ยังพอสามารถยัดเยียดการสอนแบบนี้ลงไป

 

   ได้(แบบทุลักทุเล คนไหนรับได้ก็ดีไป รับไม่ได้ก็ช่างมัน)

 

              แต่ในโรงเรียนบ้านนอก โรงเรียนชายขอบ เลิกหวังไปได้เลย เด็กๆมาโรงเรียนด้วยสภาพมอมแมม ผอม น้ำหนักไม่ถึงเกณฑ์ เป็นพยาธิ

 

  มีเหา  ไม่ได้กินข้าวเช้ามา สภาพจิตใจไม่ปกติ แค่นี้ครูก็ไม่ต้องทำอะไรแล้วครับ วันๆมานั่งเจียดยาในห้องพยาบาลให้เด็ก พาเด็กไปหาหมอ

 

 สอนเด็กด้วยแผนการสอนหุ้มทอง(ที่เต็มไปด้วยทฤษฏีเพ้อฝัน) เด็กก็รับไม่ไหว ป2 ป3 ต้องจับมานั่งสอน ก ไก่ กันใหม่ เพราะเด็กเขามีปัญหาจริงๆ

 

 ผมเรียกการสอนแบบนี้ว่า happening Teaching คือ สอนแบบตามมีตามเกิด สอนแบบครูต้องเสียสละจริงๆ เลิกเรียนจับมาหัดอ่านต่ออีกชั่วโมง

 

จับเขียนต่ออีก แค่หวังให้เด็กมันอ่านออกเขียนได้ ขึ้น ป4 ไปจะได้ไม่ลำบาก

 

            เนี่ย การศึกษาไทย จริงๆมันเป็นแบบนี้  ถามว่าไอ้พวกตัวใหญ่ๆบนหอคอยงาช้างมันได้รับรู้บ้างไหม ครูและเด็กในโรงเรียนบ้าน

 

นอกที่ขาดแคลน แทบทุกอย่าง ไม่ได้รับการเหลียวแลใดๆ แล้วต้องมาต่อสู้กับภาระงานซ้ำซ้อนที่โถมเข้ามาเรื่อยๆ แถมเป็นงานที่ทำแล้วไม่เกิดผลอันใด

 

นอกเสียจากเป็นเอกสารอ้างอิงให้เขามาตรวจ ประมาณว่า โรงเรียนฉันทำแล้วจริงๆนะ แต่ความจริงคือ ทำไม่ได้ เหมือนเอากุ้งมังกรไปป้อนเด็กทารก

 

มันจะกินเข้าไปได้ยังไง   ดันไปเดินโต๋เต๋อยู่โรงเรียนใหญ่ๆแล้วพาลคิดว่าโรงเรียนในประเทศไทยเป็นเหมือนกันหมด ช่องว่างระหว่างเด็กพร้อมกับเด็ก

 

ไม่พร้อมก็ห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ นี่ยังไม่นับหลักสูตรเฮงซวยที่พยายามให้สอนกันตอนนี้อีกนะ  บ้านบางหลังไฟยังไม่เข้า(ยังต้องแอบเกี่ยวสายไฟการไฟฟ้า

 

อยู่เลย) แล้วจะหวังให้ทุกบ้านมีอินเตอร์เน็ท ฝันกลางวันชัดๆ

 

 

ผมไม่ใช่ผู้วิเศษ ผมไม่ใช่ผู้หยั่งรู้ แต่ขอทำนายไว้เลยว่า การศึกษาไทยถ้ายังงมโข่งกันแบบนี้ อนาคตวิบัติแน่นอน ถ้าอยากให้มันพัฒนา ต้องให้ครูทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในนโยบาย เข้าใจและรับฟังปัญหาของแต่ละพื้นที่ ถ้าไม่เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ ก็ตัวใครตัวมันเถิดครับ ครูเขาพยายามกันเต็มที่แล้ว

 

จริงอยากบอกอะไรอีกเยอะนะ แต่แค่นี้เหอะ ขอบคุณที่อ่าน




#698327 หิวกันไหมฮะเพื่อนๆ

โดย notcomeng on 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:40

หิวไหม 

 

1367490351-4-o.jpg

อ่อ... หมูน้อยกินถุงยางเป็นอาหารนี่เอง มิน่าถึงได้เพี้ยนปานนี้  :lol:  :lol:  :lol:




#505311 เรื่องเล่าจากก๊วนกอล์ฟ : ตีกอล์ฟกับบุตรชาย "มหาศาสดา" จริงหรือไม่ ที่...

โดย redfrog53 on 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 16:19

เดี๋ยวดิ 2499 อะไรพักไว้ก่อน
ข้องใจตรงนี้ ปฏิทินแม่โขงน่ะใคร
ตอบไม่ได้ก็นอนไม่หลับแล้วนะ
:angry:









อ๊า..ล้อเล่นค้าบบบ
ผมชอบอ่านนิยายบู๊แนวนักเลงนี้มากๆ เป็นแฟนหนังสือคุณสุริยัน ศักดิ์ไธสงด้วย
ยุคนั้นจะเสพติดงานท่านวสิษฐ เดชกุญชร กับสุริยัน ศักดิ์ไธสงนี่แหละครับ

อยากลุยให้ได้เหมือนในนิยาย


คงไม่น่าถึงยุค .."ไก่แดง" นะ
Spoiler