สีโลเก

แค่กระเทยควายตัวนึง

จากข่าวว่า...

แดงลำปางตั้งรางวัลนำจับสุเทพ 1 ล้านบาท.

http://www.posttoday...ับสุเทพ1ล้านบาท

สงกะสัย กลัวไม่เข้าตานาย...

แต่จะจ่ายทั้งที เสรือกมีข้อแม้เยอะฉิป...   

อย่างงี้ เขาก็รู้ไต๋หมดดิ...

ลิ่วล้อ ขี้ข้า ลูกจ้างไอ้แม้วนี่ ชอบทำอะไร

เหมือนนายมันเป๊ะ... อย่างไอ้นพเหล่นั่นก็ออกมาแนวนี้บ่อยๆ

อวดร่ำ อวดรวยกันจัง...เสร็จแล้วสตังค์ก็มักจะอยู่ครบ...  

ในขณะที่มีประชาชนตำหนิทหารอย่างเมามัน ในเหตุร้ายเมื่อคืน ไปทั่วเพจต่างๆ ทางโซเชียลเน็ตเวอร์คอยู่ในขณะนี้ ให้ข้อคิดว่า
1. มีทหารอีกหลายพันคน ต้องเสี่ยงภัยจากอาวุธของผู้ร้ายเพื่อปกป้องประชาชนผู้ชุมนุมทางการเมืองหลายล้านคน ตลอด 6 เดือนอย่างปลอดภัย
2. ทุกคืนทหารเหล่านั้นต้องเผชิญการก่อกวน ปะทะ กับผู้ร้าย ตลอดเวลา ปิดทองหลังพระให้ทุกคนปลอดภัยโดยไม่ได้แถลงข่าวบอกผลงานทุกวัน
3. เมื่อคืนนี้พวกเขาต้องต่อเสี่ยงชีวิตต่อสู้ ปะทะกับผู้ร้าย ยาวนานราว 30 นาที และมีประปรายอีกหลายจุดจนถึงเช้า
4. แต่รถยนต์กะบะสีขาวที่เสื้อแดงมากราดยิง กลับถูกชายชุดดำฝ่ายชั่ว เปิดด่านทางสะดวกให้หนีไปได้..เป็นอุปสรรคการปฏิการงานทหารอย่างมาก
5. หลายคนที่ใช้ถ้อยคำรุนแรงตำหนิน้องๆ ทหารที่เขาเสี่ยงตาย ทำหน้าที่ของเขาดีที่สุดแล้ว..ท่านได้ร่วมต่อสู้ในพื้นที่จริงกับน้องทหารเหล่านั้น หรือท่านอยู่ในสถานที่ห่างออกไปจากสมรภูมิปะทะจริง
6. เปรียบเหมือนทหารเขาเสี่ยงภัยสู้รบใน 3 จังหวัดชายแดนไต้ แล้วคนจังหวัดอื่นไม่อยู่ในพื้นที่จริง แล้วตำหนิ เสียดสี น้องๆ กำลังพลเหล่านั้น
7ุ. น้องๆ ทหารเข้าทำหน้าที่ของเขาดีที่สุดแล้ว คนที่ไม่ร่วมรบจริงและยังตำหนิ ด้วยถ้อยคำพูด เสียดสีผู้บังคับบัญชาของเขา และเหยียดหยามต่างๆ นาๆ ไปตามเพจต่างๆ ..หากน้องๆ ทหารมาเห็นข้อความนั้น ท่านคือผู้กำลังบั่นทอนกำลังใจกำลังพลทุกคน ที่เขาเสียสละเสี่ยงภัยอยู่ และทำให้เขาเสียกำลังใจ ที่จะต้องปกป้องมวลชนที่เหลืออยู่ โปรดใคร่ครวญอย่างมีสติ ก่อนที่ท่านกำลังหลงกลตกเป็นกองกำลังทางสื่อสังคมออนไลน์ ให้กับผู้ร้ายไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการ
..ทหารอาจสงสัยในมวลมหารประชาชน ว่าจะตำหนิเสียดสีเขาที่ทำหน้าที่ช่วยปกป้องมาตลอดทำไม?..เขาอาจสงสัยว่าทำไมไม่ตำหนิฝ่ายผู้ร้ายกระทำ?

ที่มาเพจ :  แฉ..ความลับ

นพดล'แถลง'ทักษิณ-ครอบครัว'พร้อมเสียสละ ยุติบทบาทการเมือง

นายนพดล ยอมรับว่า พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัว พร้อมเสียสละยุติบทบาททางการเมือง เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ แต่ขณะเดียวกัน ทุกฝ่ายต้องเสียสละ และยึดมั่นในกติกาเช่นกัน นักการเมืองที่ออกไปตั้งม็อบต้องยุติ ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่การตั้งเงื่อนไข และไม่จำเป็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะต้องลงเลือกตั้ง หรือไม่ แต่เห็นว่า ปัญหาต่างๆ จะยุติลงได้ต้องเกิดจากความร่วมมือของสองฝ่าย ซึ่งขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้แสดงความจริงใจฝ่ายเดียวว่า พร้อมจะเสียสละ ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไม่มีผลประโยชน์ใดๆ พร้อมยืนยันว่า การเลือกตั้งเป็นทางออกทางเดียวที่สันติ และยุติธรรมที่สุด อย่างไรก็ตาม นายนพดล เห็นว่า ปัญหาการเมืองต้องแก้ไขกันในสภา ไม่ใช่หน้าที่ขององค์กรอิสระ...

ถึงเสียสละ ยุติบทบาท ...
ก็ไม่ทำให้ ไม่ต้องติดคุกนะครับ ...

ถ้าบริสุทธิ์ ทำถูกต้องแล้ว จะกลัวอะไรกับการตรวจสอบครับ พวกควายแดง

ต่างอะไรกับเห็นตำรวจแล้ววิ่งหนีครับ ทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด

ขอบคุณข้อมูล

http://www.posttoday...-ทุจริตระดับโลก

โดย...ไพบูลย์ กระจ่างวุฒิชัย, ชัยฤทธิ์ ยนเปี่ยม.... อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/1jmpLkF

ไม่มีครั้งไหนที่การทำงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถูกกดดัน

เนื่องจาก ป.ป.ช.มีงานใหญ่ที่อยู่ระหว่างการลงมือ

คือ การไต่สวนคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งเป็นนโยบายประชานิยมสำคัญที่ทำให้พรรคเพื่อไทยก้าวขึ้นเป็นรัฐบาลด้วยคะแนนเสียงล้นหลาม

ทันทีที่.ป.ช.เริ่มเข้ามาตรวจสอบโครงการนี้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา

ก็ได้ทำให้สังคมเห็นอีกด้านหนึ่งของนโยบายรับจำนำข้าว

ที่มีหลักฐานปรากฏชัดว่ามีการทุจริตอย่างเป็นรูปธรรม

โดยเฉพาะการสร้างผลเสียหายต่อโครงสร้างเศรษฐกิจของทั้งประเทศ

ต้นเดือน พ.ค.นี้ ป.ป.ช.จะชี้มูลคดีนี้ซึ่งเกี่ยวพันไปถึงอนาคตทางการเมืองของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ถูกฟ้องข้อหาปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว.... 

โพสต์ทูเดย์ สนทนากับ วิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. และหนึ่งในผู้ไต่สวนคดี ถึงปัญหาโครงการรับจำนำข้าว

และบทสรุปที่กำลังจะตามมาอย่างน่าสนใจ

“ไม่ได้หนักใจอะไรเลย ผมพูดแบบตรงไปตรงมา ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ยุ่งยากพียงแต่ว่ามีคนมาสร้างความรำคาญให้แก่เราเท่านั้น แต่ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ เราเองก็ไม่ได้ไปสู้รบปรบมือด้วย เราไม่ใช่คู่ปรปักษ์ ไม่ใช่เป็นคู่กรณี แต่เป็นผู้ไต่สวน ใครมาร้องเย้วๆ อย่างไรเราก็ต้องเฉย เหมือนกับท่านเปาบุ้นจิ้นที่ต้องนิ่ง”

วิชา เปิดอกถึงคำถามเกี่ยวกับความหนักใจในการทำคดีนี้.... 

วิชา ระบุว่า การทำคดีนี้ ป.ป.ช.เริ่มต้นจากการแสวงข้อเท็จจริงจากคดีที่มีการกล่าวหา บุญทรง เตริยาภิรมย์ เมื่อครั้งเป็น รมว.พาณิชย์ จากนั้นเราก็ติดตามข้อมูลมาเรื่อยจนมาถึงการไต่สวนในปัจจุบัน

ที่ผ่านมามีคนเอาข้อมูลมาให้ป.ป.ช.ด้วยความเป็นห่วงประเทศ

ประกอบกับกฎหมาย ป.ป.ช.ฉบับใหม่ได้เอื้อให้เข้าถึงข้อมูลมากขึ้น

ทำให้การทำงานง่าย โดยเฉพาะการวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ

การจับสัญญาณต่างๆ กฎหมายบอกว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะผู้ไต่สวนสามารถที่จะเข้าถึงข้อมูลได้ทั้งหมดเหมือนกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) และคณะกรรมการธุรกรรมทางด้านการเงินของ ป.ป.ง..

จากการตรวจสอบของ ป.ป.ช. พบว่า โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์มีการทุจริตหนัก วิชาบอกว่า เป็นการคอร์รัปชั่นในระดับโลกเลยทีเดียว

“มันไม่ใช่คอร์รัปชันแบบไทยๆ แต่เป็นคอร์รัปชันระดับโลก

คุณสามารถเจรจาขายข้าวกับต่างชาติได้

แต่ถามว่าคุณได้ขายข้าวจริงหรือเปล่า ขายเมื่อไร ขายอย่างไร

เพราะข้าวที่อยู่ในมือคุณมันต้องส่งออก

จะขายเฉพาะในประเทศไม่ได้

เพราะข้าวมันอยู่ในมือคุณทั้งหมด คุณเข้าใจมั้ย

แล้วบริษัทที่ส่งออกข้าวได้เอาข้าวล็อตไหนไปขาย

ข้าวล่องหนอย่างไรก็ไม่มีทางรู้ ที่เขาบอกว่าขายข้าวให้ประเทศโน้นประเทศนี้ได้แล้ว

ถามว่าคุณได้ขายจริงหรือเปล่า” 

“ผมพูดมาเสมอว่าคดีข้าวเป็นคดีหัวใจสำคัญ

เป็นคดีที่ชี้ความคงอยู่ของการบริหารราชการแผ่นดิน

ถ้าหากแก้ไขไม่ได้ประเทศไทยไม่เหลือแน่

พูดกันตรงๆ ตั้งแต่อดีตข้าวเป็นสิ่งหล่อเลี้ยงคนไทยมาตลอด

การทุจริตข้าว ซึ่งผมไม่ได้พูดถึงว่าใครทุจริตนะ

แต่การทุจริตเรื่องข้าวเป็นเรื่องใหญ่หลวงมาก

คนที่รู้ว่าเราสอบและกำลังจะถึงตัวเขากำลังเดือดร้อนมาก

ตั้งแต่ต้นเรารู้ว่าเมื่อเราจับเรื่องข้าวรับรองว่าจะเหมือนผึ้งแตกรัง”

นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.
อ่านฉบับเต็ม โพสต์ทูเดย์ http://bit.ly/1pk36xO

แก้ไขปรับปรุงขนาด สี ของตัวหนังสือให้อ่านชัดขึ้น

 

 

หนุ่ม เรดนนท์

22 ธันวาคม 2013 เวลา 16:00 น. · แก้ไขแล้ว

19.49 - ผมกลับถึงห้องเรียบร้อยแล้ว ด้วยความปลอดภัย และตลอดเวลาที่ท่องไปในม็อบนกหวีด ก็ไม่เคยคิดว่าจะไม่ปลอดภัย คือไม่คิด ไม่ใช่ไม่กลัว ดังนั้น.. สิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากภาพผม ที่ถ่ายในม็อบนกหวีด โพสต์ขึ้นไป มันกลับทำให้ผมเริ่มกลัว และไม่เคยคิดมาก่อนว่่า ผมอาจจะตกอยู่ในอันตราย

ผมคุยกับพี่สาวผม พี่เจี๊ยบ Pimkamol Prasertwongse และเพื่อนต่างสีอีกท่านหนึ่งคือคุณดา Chida Soda ถึงเรื่องที่เราจะไปเยี่ยมม็อบของแต่ละม็อบ คือเราไปม็อบเขา เขาไปม็อบเรา อยู่บ่อยครั้ง ที่คุยนี่ ไม่ได้คุยเล่นๆ นะ แต่ผมทำจริง

และยังมีน้องๆ กลุ่มนักศึกษาที่เคยเข้าค่ายรูดซิป(เ)ปิดปาก อีกจำนวนหนึ่ง ที่เราสัญญากันเอาไว้ว่า จะต้องไปร่วมกับม็อบนกหวีดดูสักครั้ง (คือถ้าตอนนี้มีม็อบเสื้อแดง ผมก็จะชวนไปเช่นกัน)

แต่เรื่องนี้ คงจะไม่ง่ายเสียแล้ว เพราะจากสิ่งที่เกิดขึ้น (ดูจากภาพ) ผมน่าจะเสี่ยงพอสมควร และไม่คิดว่า พี่สาวผม และเพื่อนต่างสีท่านนี้ จะสามารถปกป้องผมได้หรือเปล่า หากผมตัดสินใจไป

ถามว่า ผมไปม็อบนกหวีดทำไม คำตอบคือ ผมไปเพื่อต้องการจะรู้ว่า ความจริงแล้ว อารมณ์ ความรู้สึก สภาพของผู้คน และหลายสิ่งหลายอย่างตรงนั้น มันเป็นอย่างไร 

คนตัวเล็กๆ อย่างผม มันไม่สามารถทำอะไรไปได้มากกว่าเป็นแค่ ผู้ร่วมชุมนุม ที่ถือกล้องมือถือตัวเล็กๆ เดินถ่ายภาพเท่านั้น

ม็อบนกหวีดเอง น่าจะเปิดใจยอมรับคนเสื้อแดง หรือความจริงน่าจะเชิญคนเสื้อแดงเลยด้วยซ้ำ ให้เข้าไปรับฟังแนวคิด ความคิดของตัวเอง ไม่ควรมีอคติต่อคนที่คิดต่าง เช่นกัน คนเสื้อแดงเอง ก็ควรเปิดใจรับคนที่คิดต่างสี ให้มาร่วมม็อบของพวกเราด้วย

ที่ต้องเข้มงวด ไม่ใช่เรื่องคนต่างสี แต่เป็นเรื่องความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมชุมนุมต่างหาก ถ้าเขาไม่มีอาวุธ ไม่มีสิ่งอันตราย เขามีแค่สมอง ประโยชน์อะไรที่จะไปปิดกั้นเขา

เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ผมคงต้องคิดหนัก แม้ผมจะรู้ว่าพี่สาวผม เพื่อนของผม จะปกป้องผมได้ แต่พวกที่คลั่ง ที่โกรธแค้นคนเสื้อแดง โดยเฉพาะคนที่โดนคดี 112 อย่างผม พวกเขาคงไม่เว้นแน่ๆ พวกเขาคงไม่ให้โอกาสผม แบบพี่ และเพื่อนของผมแน่ๆ

อ้อ.. สำหรับคนที่คิดว่่าผมอยากจะดังอะนะ ผมคงไปห้ามไม่ได้หรอก เรื่องที่ลุงยิ้มโดนจับในม็อบนกหวีดนะ ผมก็เพิ่งมาทราบตอนอยู่ในม็อบแล้ว อีกอย่าง ผมไม่ได้มีชื่อเสียงเทียบเท่ากับลุงยิ้มหรอก คุกก็ติดมาแล้วสามปี โดนกระทืบมาแล้วหลายตีนด้วยในคุกยังกลัวไม่หาย

ถ้าไม่มองโลกในแง่ดี ผมคงไม่กล้าเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงหาตีนเล่นๆ อีกแน่นอน

หากพี่สาวผม และเพื่อนผม สามารถจะบอกเพื่อนๆ ม็อบนกหวีดได้ ช่วยฝากผ่านข้อความนี้ไปยังพวกเขาด้วยนะครับ 

นี่คือความในใจของผมจริงๆ ผมเชื่อว่าพี่เจี๊ยบเอง ที่รู้จักผมมานาน คงจะเข้าใจผมได้มากที่สุดคนหนึ่ง..

ขณะที่ฝ่ายนกหวีด เอาคลิปที่ผมวิพากษ์วิจารณ์แกนนำ ไปขยายผลเพื่อฝ่ายตนเอง จนแชร์กันไปสองแสนกว่าวิว น่าจะเข้าใจว่าผมเป็น "แดง" แบบไหน?

ยังไม่สายเกินไปใช่มั้ยครับ ที่เราทั้งสองฝ่าย จะเปิดใจรับฟังกันให้มากกว่านี้...

#ผมต้องการเท่านี้จริงๆ

 — รู้สึกสดใสกับ Chida Soda ที่ TERMINAL 21 Shopping Mall

2597320

 

 

 

จากเพจ หนุ่มเรดนนท์ครับ แต่เวลาเราพูดถึงความจงรักต่อในหลวงจะมีอาการเหมือนกัน ก็หวังว่าจะเข้าใจกันมากขึ้น 

 

ผมว่าที่คนต้องระวังแดงควายมากๆ ก็เพราะไอ่ยิ้ม กับอีนะโม แดงควายจะเข้ามาร่วมกับการชุมนุม ถ้ามาอย่างดีๆ ก็คงไม่มีใครว่าหรอก เวที กปปส เปิดรับแดงควายอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่เข้ามาชี้เป้า หรือมาถ่ายรูปแล้วแกล้งคนอื่นที่ไม่รู้จักมัน ใครรู้จักก็ให้ระวังก็ถูกแล้ว เพราะไม่รู้ว่ามาไม้ไหน 

 

จริง   ที่คนระแวงเสื้อแดง  ก็เพราะ แดงเลวอย่างนังชั่วนะโม ตดใส่  กับไอ้ยิ้ม ตาบอดใจบอด  

และเสื้อแดงชั่ว  ที่มีเป้าทำร้ายการ์ดหรอกหรือ  ยังรวมไปถึงพวกมากินฟรี  แล้วด่าเจ้าของข้าว  

เจ้าของน้ำที่กลืนลงท้องไป  คนพวกนี้ใช่ไหม  ที่เริ่มทำร้ายผู้อื่นก่อน

แดงสารเลวเหล่านี้แหละ  ที่ทำให้คนเสื้อแดงเข้าหา  กปปส  ได้ยากขึ้น  รับรู้ความจริงช้าไป

และไว้ใจ  กปปส  ได้ลำบากเช่นกัน  เรดนนท์จะไม่มองจุดบอดนี้บ้างหรือ  เตือนกันบ้างมั้ย  

ถามพวกแดงชั่วเหล่านั้นของคุณก่อนดีกว่า  ว่าใครที่ทำให้ใจมันเปิดยากขึ้น

แพ้ชวนตี 'เก่ง-การุณ'ด่าแม่'ศิริโชค' ทนไม่ได้เสื้อแดงถูกน๊อคออกทีวี

http://www.naewna.com/politic/96840

---------------------------------------------------------------------------

https://www.facebook...&type=1

ประเด็นต่อเนื่อง ไอ้เก่งยังคงรักษามาตรฐานความ h้ere ได้อย่างคงเส้นคงวา...

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คุณศิริโชค สวนเข้าให้ 55+

จริงๆผมไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับคนแบบนี้ แต่การโพสต์ข้อความใน เฟ๊ซบุ๊คแสดงให้เห็นถึงความปัญญาทึบของนายการุณ ที่ไม่สามารถแยกแยะความผิดส่วนตัวกับความผิดต่อรัฐ คดีฉ้อโกงของแม่ผมเป็นความผิดส่วนตัว และเนื่องจากเป็นการเข้าใจผิดในข้อเท็จจริง เมื่อญาติทั้งสองฝ่ายมาตกลงคุยกัน ก็ตกลงกันได้ และโจทก์ก็ได้ถอนเรื่องและศาลอุทธรณ์ได้จำหน่ายออกจากสารบบตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม ๒๕๕๖แล้ว

แต่ผมก็เข้าใจสันดานนายการุณ เพราะเป็นแบบนี้นานแล้ว คือประมาณโง่แล้วอวดฉลาด และเป็นเด็กที่มีปัญหาเพราะชอบด่าพ่อล่อแม่คนอื่นเขา โดยปราศจากข้อเท็จจริง เช่น กรณีที่นายการุณโดนใบแดง และต้องเสียค่าปรับให้ กกต. อีก 5 ล้านบาท

"ข้อความที่สอง กล่าวหาว่า "เปลี่ยนแซ่ เปลี่ยนนามสกุล จนพ่อตรอมใจตายและแก้ผ้าถ่ายรูปลงหนังสือเกย์ ขายตัว"

"ไอ้หมอนี่ ไอ้ผู้สมัครพรรคนี้ มันไม่รู้มาจากภูเขาลูกไหน มันแซ่อะไร มันเปลี่ยนแซ่ เปลี่ยนนามสกุลแล้วเนี่ย ทำให้คุณพ่อเขาตรอมใจตาย เพราะลูกรังเกียจแซ่พ่อตัวเองใช่ไหมและไอ้หมอนี่ ถ่ายหนังสือลงในนิตยสารเกย์ใช่ไหม..อ่อ ที่เขาว่ามาว่า เอ็งต้องไปเปลี่ยนชื่อแซ่ เอ็งเป็นคนภูเขา เกิดมาแล้วเป็นแซ่ แล้วก็เปลี่ยนนามสกุล และพ่อตรอมใจตายและเอ็งมาถ่ายหนังสือเกย์ แก้ผ้าถ่ายรูป ขายตัว นั้นนะ ความจริงเป็นเอ็งใช่ไหม.. " 

ซึ่งต่อมาศาลก็ได้พิพากษาว่าเป็นการใส่ร้าย

และยังมีวีรกรรมที่นายการุณได้ทำไว้อีกเยอะ ลองดูตามลิงค์นี้ครับ
http://www.oknation....t.php?id=605904

มึงอยู่กันต่อไปนานๆ เลย คนจะได้ตายเยอะๆ อยู่ไปเลยนายกฯ" 
แน่นอนว่า ประโยคนี้คุณคงคิดไม่ถึงว่าคนพูดจะเป็น ส.ส. ที่มาจากคำว่า "สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร" อันเป็นตำแหน่งของ"ผู้ทรงเกียรติ"ในฐานะ"ผู้แทนปวงชนชาวไทย" ที่มีหน้าที่ด้าน"นิติบัญญัติ"
แต่คุณก็คงไม่แปลกใจ หากทราบว่าคนพูดคือ การุณ โหสกุล
ไม่แปลกใจเพราะกับ"ไอ้ถ่อยจอมถีบ"คนนี้ มัน"เลว"จนคนไม่แปลกใจกับการกระทำหรือคำพูดที่มีวลีไทยๆสั้นๆว่า "สันดอนนั้นขุดได้ แต่สันดานยากที่จะจะขุดรากถอนโคน" เพราะไอ้คนๆนี้ ไม่ว่าจะสนทนากับใคร จะติดปากคำว่า"*** ..***.." เสมอ
แม้กระทั่งกับผู้ใหญ่ !!!
ที่สำคัญ ถ้าดู"ประวัติ"คุณก็จะยิ่งไม่แปลกใจ เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมาหลายครั้งของ"ไอ้ถ่อยจอมถีบ"คนนี้ ล้วนแต่"ถ่อย+เถื่อน" จนนึกไม่ถึงว่า"พรรคการเมือง"ไฉนจึงกล้าส่งคนเช่นนี้ลงสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทน
เพราะมันโกงแม้กระทั่ง...ประวัติการศึกษา
การุณ"แจ้งหลักฐาน"ว่าจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และปริญญาโทมหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่เมื่อปี 2548 ศาลฎีกามีคำสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของการุณ โหสกุล ในฐานะผู้สมัครพรรคไทยรักไทย เพราะมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ประกาศยกเลิกใบปริญญาบัตรของผู้สมัครฯ 
เหตุการณ์ครั้งนั้น เกิดขึ้นจาก ชัยณรงค์ เทียนมงคล ผอ.กกต.กรุงเทพมหานคร ได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีการะบุว่า กกต.เขต 14 ได้ตรวจพบว่าคุณสมบัติของการุณไม่ต้องด้วย พ.ร.บ.เลือกตั้ง ประกอบรัฐธรรมนูญ ม.107 กล่าวคือ เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2548 กกต.เปิดรับสมัครรับเลือกตั้งที่อาคารกีฬาเวสน์ กทม. ซึ่ง"ไอ้ถ่อยจอมถีบ"ใช้วุฒิการศึกษาระดับปริญญาโทมหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่เมื่อมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ประกาศยกเลิกใบปริญญาบัตรของการุณ ก็แปลว่า"ไม่จบปนิญญาตรี" จึงไม่มีสิทธิ์จบปริญญาโท
จำได้ไหมเอ่ย...วุฒิการศึกษาระดับมัธยมของการุณ ก็มาจากที่เดียวกับเยาวเรศ ชินวัตร น้องสาวของทักษิณ ชินวัตร คนที่ถูกเพิกถอนปริญญาตรีมสธ.เหมือนกัน เพราะ"ข้ออ้าง"เรื่องจบม.ปลายไม่มีหลักฐาน เนื่องจากวุฒิ ม.ปลายนั้น การุณเป็นคนจัดการให้ จึงน่าสงสัยว่าเยาวเรศเกิดภาคเหนือ ไป จบม.ปลายที่จ.นครศรีธรรมราชได้ไง 
นอกจาก"ประวัติเถื่อน"แล้ว การุณยังมี"ประวัติถ่อย"เยอะมาก....
เอาตั้งแต่ เมื่อปี 2548 การุณเคยสร้าง"วีรกรรม"ด้วยการตบ ถีบ รัชดาวรรณ เกตุสะอาด ส.ก.เขตดอนเมือง อดีตภรรยาของเขาที่สนามบิน เพราะไม่พอใจที่นางรัชดาวรรณไม่กลับบ้าน แต่นางรัชดาวรรณไม่กลับ เพราะศาลมีคำสั่งให้ทั้งคู่หย่าขาดกันตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.2548 ที่ผ่านมา นางรัชดาวรรณจึงทำท่านิ่งเฉยไม่สนใจ 
ก่อนหน้านั้น การุณก็โดนศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ปรับเงินในความผิด ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2496 ม.27 ฐานลักลอบนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลบเลี่ยงภาษีศุลกากร จำนวน 30,254,052 บาท และถูกออกหมายจับเมื่อวันที่ 8 ก.พ. เนื่องจากหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และถูกนำตัวไปควบคุมที่ห้องขังใต้ถุนศาลอาญา จนญาติ"สงสาร"ได้มายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินย่านดอนเมือง 2 แปลงเนื่อที่ 1 ไร่ 84 ตารางวา ราคาประเมิน 4,800,000 บาทมาประกันตัวออกไป
ต้นเดือนสิงหาคม 2549 เจริญ สารไทสง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริษัท อุดมสุข จำกัด แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ว่าถูกการุณ โหสกุล ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ขณะทำหน้าที่ดูแลโรงภาพยนตร์แอร์พอร์ตราม่า เลขที่ 16/137 หมู่ 1 ถนนสรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. ซึ่งปิดกิจการแล้ว และไม่ยอมให้การุณและพวกเข้าไปดูด้านใน จึงถูกการุณเตะเข้าที่กกหูข้างซ้าย 2 ครั้ง 
ล่าสุดก็คือการกระโดดถีบสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กลางสภา ตามมาด้วยการตกเป็นผู้ต้องหาทำร้าย พ.ต.ท.บัญชา คล้ายน้อย รอง ผกก. 2 บก.ป. ขณะเข้าไปสืบสวนหาข่าวการเล่นพนันไก่ชน ในสนามชนไก่คลอง 5 หมู่ 14 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จนใต้ตาแตก 
เห็นประวัติ"คร่าวๆ"จึงไม่แปลกใจใช่ไหม....
ที่สำคัญก็คือ เพราะถูกเลี้ยงมาโดยไม่มีพ่อ ...เนื่องจากสมพรรษา โหสกุล ผู้เป็นพ่อได้เสียชีวิตไปนานแล้ว การุณจึงถูกเลี้ยงมาโดยมารดา คือสุบรรณ ถนัดทาง ทำให้เขาเป็นคนที่กล้าประกาศต่อหน้าสาธารณะชนว่า"ผมรักแม่มาก" ด้วยการ"แช่ง"ให้"แม่ตาย"หากเขาพูดโกหก
"***"ของการุณ จึงอย่าแปลกใจที่ระบายออกมาด้วยวาจาพล่อยแบบไพร่ไม่มีการศึกษา
เพราะจนวันนี้ ...มันยังไม่รู้ว่ามันเรียนจบอะไร วุฒิปริญญาตรีมสธ.ก็ถูกเพิกถอน วุฒิปริญญาโทรามคำแหงก็เลยชวด เหลือแต่วุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.=ห้ามแปลว่าประวัติเสีย) โรงเรียนเทคนิคธุรกิจบัณฑิต

นี่แหละเก่ง การุณ...ที่คุณรู้จักแล้วจะอึ้ง !!!

น่าหัวร่อ นะครับ

เรียนมาขนาดนี้ แต่ตกเป็นเครื่องมือ ของบางคน บางกลุ่ม(เช่นกลุ่มจุดเทียน)

ถ้าเป็นสมัยโบราณ ตอนรบกับพม่า แล้วคนในชาติร้องขอสันติ ทั้งที่พม่า มันมายึดและเผา แบบนี้ ต้องโดนเอาไปจองจำขื่อคา

สมอง น่าจะพัฒนา เนื่องด้วยการศึกษา แต่นี่เปล่า

เหมือนควายโดนจูงจมูก

พูดได้คำเดียว น่าสมเพช

เอาแค่เรื่องเบื้องต้น จำนำข้าวคืออะไร   หนูไม่รู้หรือ???

สร้างความเสียหาย ใหญ่หลวงขนาดใหน ทั้งต่อชีวิต ทรัพย์สิน ต่อเศรษฐกิจ หนูไม่รู้หรือ ???

เรียนหนังสืออะไร จากคน กลายเป็นควาย

ถ้ากลับกัน อีเจีี๊ยบ มันไปม๊อบควายแดง จะเหลือรอดออกมาแบบปกติมั้ย 

คำก็ประชาธิปไตย สองคำก็ประชาธิปไตย เอะอะก็ประชาธิปไตย ๆๆๆๆ

โดนสะกดจิตกันเป็นล้านคน กรอกหูไปกรอกหูมา จนเชื่อจริง ๆ  ว่าตนคือนักประชาธิปไตย

ต้นเหตุจริง ๆ มีแค่ทักษิณคอรัปชั่น แต่ไม่ยอมรับผิด เอาคำว่าประชาธิปไตย

และอำนาจเงินที่มีมาปลุกระดมให้คนออกมาสู้มาตายเพื่อผลประโยชน์ของตัวมันเอง

ในประวัติศาสตร์คล้ายกับเรื่องนี้ก็มีสงครามครูเสด ฝรั่งกับแขกรบกัน แย่งชิงพื้นที่ แต่รบแบบธรรมดาคงไม่มันส์ 

ต้องเอาศาสนามาบังหน้า ปลุกระดมพอ ๆ กันทั้งสองฝ่าย นี่คือสงครามศักดิ์สิทธิ์ พวกเจ้าจงยอมตายเพื่อพระเจ้า

โอ้วตายแล้วได้บุญโขไปสู่สรวงสวรรค์ สุดท้ายโลกนี้ได้อะไรนอกจากโครงกระดูกนับล้าน

มันก็มีแค่นั้น ..   

ผมสรุป  เลยละกัน    ..เพราะมันชั่ว  โดยสันดาน..  ครัช