thaiviet family

สะพานใหม่ก็จุดครับ

จุดเทียนชัยถวายพระพรที่สนามหลวงไม่มีพลุขึ้นฟ้าครับ แต่มีพลุตัวหนังสือรูปพระปรมาภิไธย ภปร.

สวนหลวง ร.9 จุดตอนประมาณ 19.30 ครับ
รอบๆ ท้องสนามหลวงก็มีให้เห็น ตอนถ่ายทอดสดครับ

น่าจะช่วยกันจำว่า....
ดนหน้านี้พูดอย่างนี้เหมือนกัน.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

หนองคาย จุดเสียงดังสนั่น...

ลาดพร้าวสนั่นเมืองครับ

สถานตากอากาศบางปู สมุทรปราการ
เพิ่งจบไปครับ ใกล้ๆบ้านผมเอง ดังสนั่นหวั่นไหว

บางกระบือ ศรีย่าน. จุดพลุสว่างไสวมาก

วันนี้วันนี้มหามงคล ที่หน้า ม.เกษตร มีเสื้อแดง เอาของ เช่นพวกตีนตบ และของสัญญลักษณ์เสื้อแดงไปขาย หวิดโดนตี้บ

ผมขอไม่พูดออะไร..เพราะผมก็เป็นผู้หนึ่งที่อยู่ในที่นั้นค้วย..ผมวิ่งเข้าวิ่งออกทั้งสองฝั่ง..เพื่อเอาน้องๆอาสาพยาบาล.ออกไปช่วย..ผมขอเก็บมันไว้ในใจ..ในทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมเห็น.และรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น.....แต่มันได้สอนให้เรารู้ได้ว่า..คนดีๆที่รักชาติหวังผลประโยชน์ของชาติมากกว่าส่วนตนนั้นเหลือน้อยเต็มที...แต่ผมก็ได้เห็นนํ้าใจพี่น้องคนไทย.ที่เงินไม่สามารถซื้อได้.ที่ออกมาร่วมกัน...

จากเพจของปู จิตกร บุษบา



สมจิตต์ นวเครือสุนทร เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงไอ้เป็ดเหลิม!

จดหมายเปิดผนึกถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี

ก่อนอื่นคงต้องขอโทษเพื่อนสื่อมวลชนทุกสังกัดด้วยนะคะ ที่ตัวเองกลายเป็นเงื่อนไขทำให้การทำหน้าที่สื่อมวลชนอาจปฏิบัติได้ไม่เต็มที่ เมื่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ประกาศว่าจะไม่ให้สัมภาษณ์ในวงที่มีสมจิตต์ รวมอยู่ด้วย ซึ่งจะทำให้เพื่อนสื่อพลาดโอกาสในการทำข่าวอย่างที่ไม่ควรจะเป็น


มีประเด็นที่อยากกราบเรียนถึง ร.ต.อ.เฉลิม ดังนี้ ค่ะ
...
1 ท่านรู้จักหนูมานานถึงขนาดบางครั้งก็หยอกว่าเป็นแฟนกัน และะทักทายอย่างเอ็นดูทุกครั้ง(ในอดีต) ท่านเคยแก้ต่างให้หนูใน ครม.ว่านักข่าวคนนี้ตรงไปตรงมา ไม่มีนอกมีใน หนูยังรู้สึกขอบคุณท่านที่เข้าใจการทำหน้าที่ของสื่อ และอยากบอกว่านักข่าวที่ท่านเชื่อว่า เป็นคนตรงไปตรงมา ยังคงทำหน้าที่เหมือนเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าท่านจะกรุณามองย้อนกลับไป หนูเชื่อว่าท่านจะเข้าใจเหมือนที่ท่านเคยเข้าใจ เพราะเราไม่ใช่ศัตรูกัน เพียงแต่มีหน้าที่ต่างกันเท่านั้นเอง

2 แม้ว่าหนูจะเป็นสื่อมวลชนแต่อีกสถานะหนึ่งหนูก็คือประชาชนที่อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลที่มีท่านเป็นรองนายกรัฐมนตรี และเป็นรัฐบาลที่ประกาศว่าจะบริหารงานให้กับคนทั้งประเทศอย่างเท่าเทียมกัน การที่ท่านแบ่งแยกหนูจนไม่สามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้ และยังกระทบไปถึงสื่ออื่นด้วยนั้น ไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง

3 นักการเมืองกับนักข่าวก็เหมือนน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า พวกเราหาข่าวจากท่าน ส่วนท่านก็ใช้สื่อมวลชนในการสื่อสารกับประชาชน สิ่งที่ท่านทำจะทำให้รัฐบาลเสียโอกาสในการสื่อสารกับคนไทย ยกเว้นแต่ว่ารัฐบาลของท่านต้องการสื่อสารด้านเดียวโดยไม่พร้อมที่จะให้มีคำถามตรวจสอบ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นเราจะเรียกรัฐบาลที่มีแนวคิดเช่นนี้ว่าเป็น "รัฐบาลประชาธิปไตยได้หรือไม่"

4 ท่านทำงานการเมืองมานานย่อมทราบดีว่าสถานการณ์ของบ้านเมืองอยู่ในสภาวะเช่นไร หากท่านมีหัวใจรักประชาชนจริง หนูเชื่อว่าท่านตอบได้ทุกคำคำถามเกี่ยวกับการดูแลความปลอดภัยให้กับคนไทยไม่ว่าจะออกจากปากนักข่าวคนไหนก็ตาม เว้นแต่ว่าท่านจะกลัวความจริง

5 สิ่งที่อยากเรียนให้ท่านรับทราบคือ คนเป็นสื่อมวลชนเมื่อเห็นแหล่งข่าวอยู่ตรงหน้า เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่เข้าไปทำหน้าที่ตั้งคำถามเพื่อหาความจริงให้กับประชาชน ถ้าหนูพบท่านก็ต้องทำหน้าที่ แล้วท่านจะไม่ทำหน้าที่ของตัวเองหรือคะ

ท้ายนี้หนูกราบขอบพระคุณที่ครั้งหนึ่งท่านเคยเข้าใจการทำหน้าที่สื่อมวลชนของหนู แม้ว่าในวันนี้ความคิดท่าจะเปลี่ยนแปลงไปแล้วก็ตาม และขอย้ำอีกครั้งนะคะว่า เราไม่ใช่ศัตรูกัน อย่าผลักหนูไปอยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเลยนะคะ บ้านเมืองเราแตกแยกมามากพอแล้ว ประชาชน 15 ล้านเสียงที่เลือกพรรคเพื่อไทยเข้ามา ก็หวังที่จะให้พวกท่านช่วยสมานบาดแผลแผ่นดิน สร้างสุข สบายทุกข์ ไม่ใช่แบ่งแยกคนไทย

ไอ้นี่ท่าจะบ้า

ไม่ได้ชอบแต่แรก หมั่นไส้นิดหน่อยด้วยซ้ำ เพราะดูเป็น "พรรคเศรษฐี" เหลือเกิน
มาเลือกพรรคปชป.ครั้งแรกจริงๆตอนแคมเปญ "ไม่เลือกเราเขามาแน่" ครับ
แล้วเลือกมาตลอด เพื่อจะไล่ทักษิณ
แต่สารภาพว่าไม่เคยแน่ใจเลยว่าปชป.จะบริหารประเทศได้ดี ที่ไม่มั่นใจเพราะ
1. ผมไม่ทันยุคคุณชวนแก้หนี้ไอเอ็มเอฟ ผมเข้าใจผิดมาตลอดว่าเพราะทักษิณ
2. ผมเป็นคนหนึ่งที่ถูกล้างสมองให้เื่ชื่อว่า "ชวนเชื่องช้า"
ปชป.=คนรุ่นศักดินา ทำงานช้าไม่ทันกิน

ผมมารักปชป.จริงๆตอนเป็นรัฐบาลแล้วครับ
"เด็กสองคน" ทำให้ผมเปลี่ยนความคิดและหันมานับถือพวกเขาอย่างหมดใจ
ต่อมาผมนับถือใจคุณสุเทพด้วย ไม่ว่าเขาจะมีชนักติดหลังเรื่องสปก.ยังไง หรือใครจะปั่นกระแสว่าเขาเกลียดคุณอภิสิทธิ์
แต่ภาพที่ผมเห็นตั้งแต่ต้นจนถึงวันนี้ คุณสุเทพไม่เคยทิ้งคุณอภิสิทธิ์เลย และ "ยอมตายแทน"(ทางการเมือง)ได้ขนาดนี้
ใจไม่ธรรมดาครับ

ผมเลยเทียบพรรคปชป.ที่ผมได้ยินมาตลอดว่า "เชื่องช้า ทำงานไม่เป็น ลุกคุณหนู"
กับพรรคที่ยกยอปอปั้นตัวเองว่า "ตาดูดาว เท้าติดดิน" "อัศวินคลื่นลูกที่สาม" "คิดใหม่ทำใหม่" "เก่งทุกเรื่อง"
ผมกลับเห็นภาพตรงข้าม
ภาพปชป.ที่ผมเห็นคือลูกผู้ชายมากๆ กล้าทำกล้ารับ ทำทุกอย่างโปร่งใส ใจเย็น อดทน
และตัีดสินใจทุกประการเพื่อแผ่นดินสงบสุข ไม่ใช่เพื่อตัวเอง
ต่างจากอีกพรรคทีขี้ขลาดตาขาว ต้องใช้กลโกงทุกอย่างถึงจะเอาตัวรอดได้ในงานทุกงาน
และทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง แม้ทำลายชาติทำลายประชาชนก็เอา

ด้วยเหตุนี้ผมเลยเริ่มเป็นแฟนปชป.ตั้งแต่นั้น ไม่นานมานี้เองครับ คือช่วงเผาบ้านเผาเมืองนี้เอง

จากกรณีที่เกิดขึ้น
กับการที่ FIFA ยกเลิกการใช้ ประเทศไทย เป็นที่จัดงาน ฟุตซอลโลก
เป็นการเสียหน้าในระดับประเทศ และ นานาชาติ อย่างยิ่ง
เพราะ งาน ฟุตซอลโลก เป็นการจัดในระดับนานาชาติ มีการติดต่อโดยผ่านทางรัฐบาล
นั่นคือ นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรี กระทรวงกีฬาต้องรับผิดชอบโดยตรง
รัฐมนตรีคลัง จะมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณ เพราะคุม สำนักงบประมาณอยู่
นี่คือโฉมหน้า ของ 3 ตัวหลัก ที่รับผิดชอบโครงการระดับนานาชาตินี้
ส่วนกทม. จะต้องรับผิดชอบ เพราะเป็นเหมือน โฟร์แมนคุมงาน

การบริหารประเทศชาติ จะต้องมีการควบคุมดูแลและติดตาม
การอนุมัติโครงการ ก็จะต้องมีการ ควบคุมและติดตาม ความคืบหน้าของโครงการ
ไปถึงไหนแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ทราบวา นาย มะกุดี วรวีร์ ผู้เกี่ยวข้องโดยตรงกับสมาคมฟุตบอล และ ฟุตซอล
ก็ได้เข้าไปนั่งหน้าแป้นแล้นอยู่ในพรรคเพื่อไทยด้วย
นายวรวีร์จะไม่รู้เลยหรือว่า โปรเจคท์สำคัญนี้ มันไปถึงไหน และ ติดปัญหาอะไรบ้าง
นายมะกุดี สามารถใช้ คอนเนคชั่น กับพรรคเพื่อไทย เพื่อติดตามเร่งรัด ให้โครงการมีความพร้อมสมบูรณ์
จนถึงวันที่ฟีฟ่าเข้ามาตรวจ

อ้อ
แล้วนาย มะกุดี ก็เป็น ตัวหนึ่งใน ฟีฟ่า ด้วย
รู้เต็มอกว่า ฟีฟ่าต้องการอย่างไร ทำไมถึงไม่มีการประสานกันก่อน ฟีฟ่าเข้าตรวจ
นี่คือ การทำงานของ พรรคเพื่อไทย พรรครัฐบาล ที่มีนายกยิ่งลักษณ์เป็นประธานบริหาร

แถมความจริงที่น่าอับอายมากที่สุด
ก็คือ
สนามมันสร้างได้ล่าช้า เพราะมีน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 54 ด้วย
ซึ่งมันเป็นความรับผิดชอบของ รัฐมนตรีเกษตร และ ครม.ทั้งคณะ ที่บริหารจัดการน้ำได้ห่วยแตก
จนน้ำท่วมทั่วไปหมด วัสดุก่อสร้างและคนงานก็ขาดแคลนในช่วงน้ำท่วม
ตั้งแต่ก่อนน้ำเข้ากทม.แล้ว
ตรงนี้ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันมีส่วนทำให้โครงการล่าช้า

ความอับอายแห่งชาติ นี้ ไม่อาจจะปฏิเสธความรับผิดชอบโดยตำแหน่งได้
ผมจึงขอเรียกร้องให้
นายกรัฐมนตรี
รัฐมนตรีกีฬา
และ รมช. ทุกตัว
และรัฐมนตรีคลัง
และ รมช. ทุกตัว
รัฐมนตรีเกษตร
และ รมช. ทุกตัว
ลาออก
เพื่อแสดงความรับผิดชอบ ต่อความอับอาย "ระดับชาติ" เช่นนี้
และเมื่อ นายก และ รัฐมนตรี เหล่านั้นลาออกแล้ว
ผู้ว่ากทม. ก็ควรจะลาออก "ตาม" ไปด้วย

คำถามก็คือ
นายกและรัฐมนตรีทุกตัว
ที่ยอมให้ความขายหน้าระดับชาติแบบนี้เกิดขึ้นได้
เพราะมันเป็น กทม.ใช่ไหม
มันไม่ใช่คนของพรรคเพื่อไทย ใช่ไหม
มันเป็นแมงสาปที่คอยกัดกินปลวก อย่างพวกคุณใช่ไหม
คุณก็เลย ยอม ทำลายเกียรติยศของชาติ ให้ขายขี้หน้าเขาไปทั่วโลก
ด้วยการ ไม่สนใจ ไม่ติดตามเร่งรัด ไม่ควบคุม ไม่ประสานงาน ใดๆทั้งสิ้น
พวกคุณ รักชาติบ้านเมือง กันจน "เกียร์ว่าง" กับเรื่องของความภูมิใจของชาติบ้านเมืองนี้ใช่ไหม

ลาออกซะเถอะ
ก่อนที่เสธ.อ้าย จะพากลุ่มมหาประชาชนทนไม่ไหว มากระทืบขับไล่พวกคุณออกไป

10 พ.ย. นี้ จับตาดูให้ดีพี่น้อง
มันเกินไปแล้ว!!!

ตอนรับปากมันรัฐบาลพรรคอะไร
แล้วตอนสร้าง ใครจะไปคาดคิดว่ารัฐบาลอีกพรรคจะไม่ให้เงิน ทั้งที่งบเบิกมาแล้ว???


คิดดูดีๆ ตอนไม่ได้เงินมาสร้าง คุณจะกล้าประกาศไหมว่า "เลิก เลิกแล้วนะ เพราะรัฐบาลไม่ให้เงิน"
ความเสียหายจะเกิดแค่ไหน

คนใจสู้ ปกติจะต้องสู้ขาดใจอยู่แล้ว ไม่มีทางล้มเลิกกลางคัน
ผลออกมาจะล้มเหลวหรือสำเร็จ ก็ขอให้ได้สู้ ไม่ใช่ "ยกผ้าขาวกลางคัน"


อันนี้ผมตอบกลางมากเลยนะครับ ตอบกันด้วยเหตุผลจริงๆ ไม่เกี่ยวกับปชป.