Jump to content


ADMIN 9GAG การเมือง

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 4 พฤศจิกายน 2555
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 3 กุมภาพันธ์ 2556 01:37
-----

Posts I've Made

In Topic: ตำนานการค้าแบบทุนนิยม...เป๊บซี่ vs เสริมสุข...

15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 11:47

โค้ก เป๊ปซี่ รสชาติต่างกันแน่นอน ผมว่าแยกไม่ยากหรอก

ส่วน เอส รสชาติจะไม่เหมือนเป๊ปซี่ หวานแบบแปลกๆ บอกไม่ถูก

ถ้าจะไปชนกับโค้กก็อย่าหวัง ถ้า อาเจบิ๊ก อ่ะพอได้

ส่วนตัวเป็นสาวกของโค้กครับ 5555+

In Topic: ฆ่า "อภิสิทธิ์" ชุบชีวิต "ทักษิณ"

14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 10:18

น่าสนใจนะครับ... ว่าสังคมเราคิดอะไรกัน...

ขณะที่สังคมไทย ขับเคลื่อนโดย พลังที่ โซเชียลมีเดีย โลกสวย... พา กัน ดาหน้า ด่า ไร่ส้ม สรยุทธ.. ควรแสดง สปิริต.... ลาออก...
ทั้งๆที่ ศาลยังไม่ตัดสิน... เป็นแค่ ข้อกล่าวหา.... จากองกร์อิสระ...

แต่...

กับอีกนายหนึ่ง... ถูกถอดยศ จาก ราชการ... ผิดถูก... ก็ต้องว่ากันในศาลเหมือนกัน.... แต่ สลิ่ม โลกสวย... เงียบกริบ...
ให้กำลังใจ.... ไม่เห็นมีใครใช้มาตรฐานเดียวกันว่า...... ควรลาออก
แปลกดี...


สำหรับผมมี มาตรฐานเดียว... ถ้าคิดว่าตัวเองถูก... ไม่ควรลาออกทั้งสองท่านละครับ.... :D


แล้วคำสั่งถอดยศมันถูกต้องดีแล้วหรอ.....ถึงเอาไปเทียบ

ตั้งคณะกรรมการเอง สอบเอง สรุปเ้อง หลักฐานห่าอะไรก็ไม่้ต้อง พอใจจะถอด ใครจะทำไม

เรื่องแบบนี้ใครมันก็ทำได้......อีกอย่างนึงที่เรื่องถึงศาลก็เพราะคำัสั่งมันไม่ชอบด้วยกฎหมาย เค้าก็ต้องยื่น ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกันเลย


สมมุติผมตั้งคณะกรรมการคนกลางที่สุดในสามโลก สอบ Hentai

ขอถอดคุณออกจากการเป็นคนกลางที่สุดในสามโลก เพราะคุณแมร่งกลางไม่จริง อย่ามาถามหาหลักฐาน พอใจอ่ะ ใครจะทำไม

เห็นป่ะตั้งกรรมการสอบเรียบร้อยด้วยนะ :D

ไปไป๊ ไปเ่ล่นก่อทรายตรงนู้นไป :P

In Topic: 'สุกำพล'ฟน'มาร์ค'ปลดจากอ.จปร.แล้วมีผลย้อนหลังอาจพ้น สส.

9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 13:33

ที่ผมห่วงอย่างนึงก็คือ หากมีการไปนำเรื่องนี้ไปยื่นต่อศาลแล้วศาลเกิดตัดสินไม่ถูกใจพี่เสื้่อแดง

อาจถูกนำมาขยายผลว่าศาล 2 มาตรฐานอีกก็เป็นได้ ดังที่หลายๆคดีที่เราเห็นกันมา

เช่น"ผัวเซ็นเมียซื๊อ" ซึ่งเป็นวาทกรรมที่ไม่ได้แึคร์ว่ากฎหมายจะว่าไง ขอแค่ถูกใจ ก็พร้อมนำขี้ปากมากเห่าหอน :P

In Topic: 'สุกำพล'ฟน'มาร์ค'ปลดจากอ.จปร.แล้วมีผลย้อนหลังอาจพ้น สส.

9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 09:38

ลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (มาตรา 102)
2.1 ติดยาเสพติดให้โทษ
2.2 เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
2.3 เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามมาตรา 100 (1) (2) หรือ (4)
2.4 ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โยหมายของศาล
2.5 เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงห้าปีในวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

2.6 เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ
2.7 เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เพราะร่ำรวยผิดปกติหรือมีทัรพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ
2.8 เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำนอกจากข้าราชการการเมือง
2.9 เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
2.10 เป็นสมาชิกวุฒิสภาหรือเคยเป็นสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกภาพสิ้นสุดลงแล้วยังไม่เกินสองปี
2.11 เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ
2.12 เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน หรือกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
2.13 อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามมาตรา 263
2.14 เคยถูกวุฒิสภามีมติตามมาตรา 274 ให้ถอดถอนออกจากตำแหน่ง


ต้องตีความตาม 2.6 ด้วยครับ "เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ"

การให้ออกจากราชการเพราะว่าทุจริตต่อหน้าที่ บุคคลนั้นจะ้ต้องถูกศาลพิพากษาคดีตามกฎหมายอาญาไล่ตั้งแต่มาตรา 147 - 166 หรือจะต้องถูกพิพากษาตามกฎหมายพรบ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ หรือกฎหมายอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับทุจริตต่อหน้าที่

ดังนั้นเมื่อยื่นตีความต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้คุณอภิสิทธิ์หลุดจากการเป็น สส. ศาลก็ต้องพิจารณาว่าการให้ออกจากราชการนั้นเป็นการออกจากราชการโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ มีสถานะัทางกฎหมายรองรับหรือไม่ ถ้าเป็นการกล่าวอ้างลอยๆ ไม่เคยมีการต้องโทษเกี่ยวกับเรื่องการทุจริตต่อราชการตามคำพิพากษาของศาลก็ไม่ถือว่าเป็นการออกจากราชการเพราะทุจริตแต่อย่างใด

ดังนั้นผมไม่คิดว่าคุณอภิสิทธิ์จะหลุดจากตำแหน่ง สส. ครับ ^^

In Topic: อ่านสามก๊ก อ่านสังคมไทย ในตอบโจทย์

4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 14:10

หลายท่านชอบคิดว่าเล่าปี่หักหลังคนเก่ง จริงๆถ้านับเอาแล้วจะเห็นว่าไม่ใ่ช่เลย
เล่าปี่เคยชิงบ้านเมืองคนอื่นแค่ครั้งเดียวคือตอนที่อยู่กับเล่าเจียงเท่านั้น

ตอนที่อยู่กับโตเกี๋ยม --- โตเกี๋ยมยกเมืองให้เล่าปี่เอง ผู้คนทราบทั้งแผ่นดิน
ตอนที่อยู่กับลิโป้ ---- ข้อนี้หลายคนท้วงว่าเล่าปี่เนรคุณลิโป้ แต่อันที่จริงเรื่องลิโป้เสี่ยงเกาทัณต์เป็นผลต่างตอบแทน ทำไมเมื่อครั้งเล่าปี่ให้ความช่วยเหลือลิโป้ทำจึงไม่ยกมาพูดบ้าง ว่าเล่าปี่มีบุญคุณต่ิอลิโป้ ในเวลาที่คนอยากฆ่าลิโป้ทั้งแผ่นดิน
ตอนที่อยู่กัีบโจโฉ --- โจโฉหวาดระแวงเล่าปี่ แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้เพราะเป็นพระเจ้าอาและชื่อเสียงเล่าปี่มีมากจนทำอะไรไม่สะดวก ครั้นจะฆ่าเสียก็กลัวคนทั้งแผ่นดินจะหาว่าไม่มีคุณธรรม อีกทั้งยังหาเหตุเพื่อสังหารเล่าปี่ไม่ได้
ตอนอยู่กับอ้วนเสี้ยว ---- ถูกอ้วนเสี้ยวระแวงจนเกือบถูกประหารหลายครั้งและเห็นว่าคนอย่างอ้วนเสี้ยวไม่ได้ความจึงหนีไปอยู่กับเล่าเปียว
ตอนอยู่กับเล่าเปียว ---- เล่าปี่ถูกลูกน้องเล่าเปียววางแผนฆ่าหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยคิดชิงเกงจิ๋วแ้ม้แต่ครั้งเดียว แม้ขงเบ้งจะเสนอให้เล่าปี่ชิงเกงจิ๋วจากเล่าจ๋องและซัวมอ แต่เล่าปี่ก็หาได้ชิงเมืองไม่ ตรงนี้ผมว่าในตอนที่อยู่กับเล่าเปียวเล่าปี่ถือว่ามีคุณธรรมมากเป็นที่สุดแล้ว ยอมไม่ีมีแผ่นดินดีกว่าทำเรื่องไร้คุณธรรม ถือว่าจุดนี้น่ายกย่อง
ตอนอยู่กับเล่าเจียง ---- แม้เล่าเจียงจะขอให้เล่าปี่มาช่วยเหลือตนเองจากเีตียวฬ่่อ แต่ก็ยังคงมีความระแวงต่อเล่าปี่ไม่น้อย เมื่อครั้นเล่าปี่่มาถึงเสฉวนผู้คนในเสฉวนและขุนนางต่างก็นิยมชมชอบเล่าปี่จนเล่าเจียงไม่พอใจ จึงประกาศรบกัีบเล่าปี่ เมื่อบอลตกมาถึงเท้า มีหรือที่จะไม่ยิง เล่าปี่ก็เลยสามารถอ้างความชอบธรรมในการบุกเสฉวนได้อย่างเต็มที่ ซึ่งตรงนี้เป็นแผนของขงเบ้งในการให้เล่าเจียงประกาศรบก่อน นับว่าเป็นผลสำเร็จสุุดท้ายเล่าปี่ก็ได้เสฉวน